ทันทีที่เข้าไปในลานบ้าน ผู้หญิงคนนั้นก็ตะโกนไปทางห้องโถงของบ้าน“พ่อของหงเหมย ออกมาเร็วเข้า! พ่อหนุ่มจางหยวนคนนั้นมาถึงแล้ว!”ในไม่ช้า ชายวัยกลางคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อของเขาจางต้าซานก็เดินออกมาจากห้องโถง น่าจะเป็นหลิวเซียนไห่เมื่อหลิวเซียนไห่เห็นจางหยวน ก็ยิ้มเหอะๆแล้วเดินขึ้นไปจับมือกับเขา"เสี่ยวจาง! ขอบคุณนายมากที่สามารถมาได้! หมูที่บ้านฉันเลี้ยงเอาไว้มีปัญหานิดหน่อย ช่วงนี้ความอยากอาหารน้อยลงมาก!รบกวนนายช่วยตรวจให้หน่อยนะ"จางหยวนพยักหน้า และกำลังจะขอให้หลิวเซียนไห่พาตนเองไปดูหมูคิดไม่ถึงว่าในขณะนี้ ก็มีเสียงผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความประชดประชันดังขึ้น“เขาเหรอ? คู่ควรที่จะรักษาโรคให้หมูบ้านพวกเราหรือเปล่า?”จางหยวนหันกลับไป และเห็นว่าคนที่พูดเป็นหญิงสาวที่แต่งตัวทันสมัย สวมเสื้อยืดอินเทรนด์และกางเกงยีนส์ขาสั้นคนหนึ่งขาเรียวยาวอันขาวผ่องที่อยู่ใต้กางเกงขาสั้นนั้น สะดุดตาเป็นอย่างมากผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างสวย แต่แต่งหน้าเข้มไปหน่อยในขณะนี้เธอกำลังยืนกอดอกอยู่ที่ประตูห้องโถง แล้วมองจางหยวนด้วยใบหน้าที่ประชดประชันจางหยวนขมวดคิ้ว นี่มันเรื่องอะไรกัน?ทันใดนั้นสีหน้า
เมื่อได้ยินข้อเสนอนี้นี้ จางหยวนก็ปฏิเสธไปตามสัญชาตญาณในเมื่อหลิวเซียนไห่หาคนอื่นแล้ว เขาก็จะไม่ต้องยุ่งวุ่นวาย!คิดไม่ถึงว่าเจิ้งปินที่อยู่ด้านข้างกลับพูดเยาะเย้ยขึ้นมาว่า: "ในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าเพิ่งไปเลย! ฉันจะให้คนป่าเถื่อนอย่างนายเปิดหูเปิดตาสักหน่อย จะได้รู้ว่าหมอสัตว์เลี้ยงมืออาชีพมันเป็นยังไง!"คำพูดของเจิ้งปิน กระตุ้นความโกรธของจางหยวนแม้ว่าจางหยวนจะไม่เคยอ้างว่าตนเป็นสัตวแพทย์แต่อีกฝ่ายเหยียดหยามกันซึ่งๆหน้าแบบนี้ ทำให้จางหยวนรู้สึกเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมากเขาเหลือบมองเจิ้งปิน: "เอาล่ะ! ถ้าอย่างนั้นฉันก็อยากจะดูว่า คุณมีความสามารถมากแค่ไหน!"เมื่อหลิวเซียนไห่เห็นดังนี้ หลิวเซียนไห่ก็รีบเรียกพาทุกคนไปที่ลานหมูด้านหลังระหว่างทางไปลานหลังบ้าน หลิวหงเหมยก็เดินขึ้นไปที่ข้างๆเจิ้งปิน ขมวดคิ้วแล้วถามว่า“เจิ้งปิน ทำไมคุณต้องให้นายคนนี้อยู่ต่อด้วย? ให้เขาไปเลยไม่ได้เหรอ?”เจิ้งปินกหลับยิ้ม: "หงเหมย ถ้าไม่ให้เขาอยู่ต่อ แล้วความสามารถของฉันจะโดดเด่นขึ้นมาได้ยังไง?"เมื่อพูดถึงจุดนี้ จู่ๆเจิ้งปินก็ลดเสียงให้ต่ำลง น้ำเสียงของเขาก็ดูเลวร้ายขึ้นมาทันที“หงเหมย พวกเราสองคนตกลง
ก็เห็นว่าจางหยวนมีสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกในเวลานี้ เขาได้หมุนเวียนแก่นพลังลมปราณปิดกั้นการรับกลิ่นในจมูกของเขาแล้วหลิวเซียนไห่ที่ไม่รู้เรื่อง เห็นจางหยวนไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย กลับไม่ได้รับผลกระทบจากกลิ่นสาปหมูเลยแม้แต่น้อย ก็อดไม่ได้ที่จะตาเป็นประกายในความคิดของเขา ในฐานะสัตวแพทย์ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จะต้องเป็นเหมือนจางหยวนถึงจะถูก!แพทย์สัตว์เลี้ยงที่สําอางค์อย่างเจิ้งปิน เข้ามาในฟาร์มหมูก็ต้องสวมหน้ากากอนามัย ดูไม่เหมือนสัตวแพทย์เลยแม้แต่น้อยหลังจากได้ตัดสินจางหยวนและเจิ้งปินอย่างเงียบๆในใจแล้ว หลิวเซียนไห่ก็กล่าวว่า:“นี่ก็คือหมูที่ฉันเลี้ยง! ดูสิพวกมันสิ ผอมลงกว่าเดิมมาก! อีกอย่างพวกมันยังอารมณ์ไม่ดีเป็นพิเศษ! ครั้งที่แล้วตอนที่ให้อาหารหมู เกือบจะโดนพวกมันกัด!”เมื่อได้ยินดังนี้ เจิ้งปินก็เหลือบมองจางหยวน: "เฮ้ นายก่อนหรือฉันก่อนดีล่ะ? ถ้าฉันลงมือก่อน นายก็ไม่มีความหมายแล้ว!"“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เชิญนายก่อนเลย! ถ้านายรักษาหมูให้หายได้ ฉันจะรีบหันหลังกลับแล้วจากไปทันที!” จางหยวนพูดอย่างสงบนิ่ง“นาย ฮึ่ม!” เจิ้งปินทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา แล้วก็ยิ้มกับหลิวหงเหมยอย่า
"เดี๋ยวก่อน ผมเหมือนเคยได้ยินโรคพลาสเทอร์โรซีสในหมู เหมือนว่าหมูที่เป็นโรคพลาสเทอร์โรซีส จะเปลี่ยนไปฉุนเฉียวและโมโหง่าย อีกทั้งมักจะต่อสู้กัน ปริมาณอาหารก็ลดลง!"“อาการเหล่านี้ เหมือนกับหมูที่ครอบครัวของพวกผมเลี้ยงเอาไว้เป๊ะ ๆ เลย!” หลิวเซียนไห่พูดกับตัวเองจางหยวนพยักหน้า: "ไม่ผิด! คุณหลิว คุณใช้ลานบ้านเลี้ยงหมู เป็นวิธีการที่ดีที่แปลกใหม่แหวกแนวกว่าผู้อื่นจริง ๆ นั่นแหละครับ แต่สภาพแวดล้อมของที่นี่แย่เกินไป!""สภาพแวดล้อมในการเลี้ยงหมูนั้นแย่เกินไป ประกอบกับการจัดการที่ไม่เหมาะสม ก็ทำให้หมูเป็นโรคพลาสเทอร์โรซีสได้ง่าย!"หลิวเซียนไห่เข้าใจในทันทีถึงแม้ตอนนี้เขาจะเลี้ยงหมูเป็นสิบกว่าตัว แต่ยังใช้วิธีการแบบเก่าที่เลี้ยงหมูแบบขังในคอกหนึ่งถึงสองตัวเหมือนเมื่อก่อนวิธีการแบบเก่าเลี้ยงหมูหลายตัวขนาดนี้ ต้องมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่แล้ว!เขาตบท้ายทอยตัวเองอย่างแรง: "ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง! ผมผิดเองครับ ตอนที่เลี้ยงหมูไม่ได้ใช้สมอง! ผลปรากฏว่าเกิดปัญหาขึ้นมา!"ครู่หนึ่ง หลิวเซียนไห่ก็มองไปทางจางหยวนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง"เสี่ยวจาง ในเมื่อคุณรู้แล้วว่าหมูของครอบครัวผมเป็นโรคพล
ก่อนหน้านี้หลิวหงเหมยบอกว่า ไม่ให่เขาเอาเรื่องอาชีพของหลิวหงเหมยบอกหลิวเซียนไห่และภรรยาถ้าเขาเอาเรื่องนี้มาข่มขู่หลิวหงเหมยล่ะ?ดูเหมือนว่าจะตระหนักได้ถึงความคิดของเจิ้งปิน จู่ๆหลิวหงเหมยก็เยาะเย้ยขึ้นมาทันทีว่า“เจิ้งปิน ถ้าคุณไม่กลัวตาย คุณก็ลองดูสิ! แม้ว่าฉันจะไม่ใช่ที่หนึ่งในคลับของพวกเรา แต่ฉันก็เป็นหนึ่งในเจ้าหญิงในคลับ ที่มีผลงานที่ดีเช่นกัน!”“ถ้าเป็นเพราะคุณเอาเรื่องอาชีพของฉันบอกพ่อแม่ของฉัน แล้วทำให้ฉันต้องลาออก พอถึงเวลานั้นคลับก็จะสูญเสียบ่อเงินบ่อทองอย่างฉันไป คุณคิดว่าเถ้าแก่ของพวกเราจะส่งคนมาจัดการกับคุณหรือเปล่า?” หลิวหงเหมยกล่าวอย่างเยาะเย้ยรูม่านตาของเจิ้งปินหดตัวลง คลับที่หลิวหงเหมยอยู่ ภูมิหลังของเถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังน่ากลัวมากอาจกล่าวได้ว่า ถ้าอีกฝ่ายยินยอม เจิ้งปินก็สามารถหายตัวไปจากโลกนี้ได้ตลอดเวลา!จู่ๆเจิ้งปินก็มีเหงื่อเย็นไหลออกมา เสื้อที่อยู่ด้านหลังบนหลังก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อเพื่อเล่นสนุกกับผู้หญิง จะต้องเอาชีวิตน้อยๆของตนเข้าไปเสี่ยง ไม่คุ้ม ไม่คุ้มเลยจริงๆ!เจิ้งปินฝืนยิ้มออกมา: "หงเหมย คุณกำลังพูดอะไรอยู่? รอให้ผมได้รับโบนัสในช่วงสิ้นปี
ไม่แน่ อาจจะมีชาวบ้านมากมายที่เกิดความคิดที่อยากจะเป็นสัตวแพทย์ขึ้นมา!ระหว่างทางที่เดินทางกลับ จางหยวนก็แวะซื้อไข่ไก่ห้ากิโลกรัมพอดีสองสามีภรรยาลำบากมาทั้งชีวิต ชีวิตที่เหลืออยู่ก็ควรจะให้พวกเขาได้สุขสบายได้แล้วไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ทางด้านโภชนาการจะต้องตามให้ทันจางหยวนได้ตั้งกฎสั้น ๆ ง่าย ๆ กับหวังฮุ่ยแม่ของเขาเอาไว้แล้ว ทุกเช้าให้ต้มไข่ไก่หกฟองครอบครัวสามคน คนละสองฟอง ใครก็ห้ามกินไม่ครบปกติตอนที่ผัดอาหาร จะมากจะน้อยแค่ไหนก็จะต้องใส่เนื้อลงไปด้วยเว้นเวลาห่างกันไม่กี่วัน ก็ให้ผัดไก่หรือตุ๋นซี่โครงพูดได้ว่า มาตรฐานอาหารของครอบครัวของพวกเขาในตอนนี้ เกือบจะเทียบเท่ากับผู้ที่มีอันจะกินแล้ว!เขารฮัมเพลงกลับมาถึงที่หมู่บ้าน ตอนที่ผ่านคลินิกหมู่บ้าน จางหยวนก็มองเข้าไปในคลินิกด้วยสัญชาตญาณไม่คิดเลยว่าจะสบตาเข้ากับสายตาของหลิวรั่วหลันพอดี!ในตอนนี้หลิวรั่วหลันก็มองมาที่ข้างนอก และก็สบตาเข้ากับจางหยวนพอดีเช่นกัน!จางหยวนตะลึงงันครู่หนึ่ง หลิวรั่วหลันที่อยู่ภายในคลินิกก็ตะลึงงันเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นจางหยวนหลังจากตกตะลึง จางหยวนก็รีบเบือนหน้าหนี เตรียม
ได้ยินแบบนี้ สีหน้าของจางหยวนก็เคร่งขรึมลงทันทีเดิมทีเขายังคิดว่า หลิวรั่วหลันรู้เรื่องที่หลินจงเฟยอยากให้หลี่ชิวจวี๋ช่วยเกิดลูกให้เขาแล้ว ดังนั้นถึงได้เรียกหาเขาเพราะอยากให้เกลี้ยกล่อมหลี่ชิวจวี๋ไม่ให้แย่งสามีกับเธอแต่คิดไม่ถึง หลิวรั่วหลันจะพูดเรื่องที่หลินจงเฟยจะแก้แค้นหลี่ชิวจวี๋!เห็นได้ชัดเจนว่า หลังจากที่หลี่ชิวจวี๋ปฏิเสธข้อเสนอของหลินจงเฟย ทำให้อันธพาลหมู่บ้านคนนี้โมโหหลินจงเฟยรู้สึกโกรธแค้น ถึงได้อยากจะหาคนมาจัดการหลี่ชิวจวี๋!เมื่อเข้าใจได้ถึงเหตุผลในนั้น จางหยวนมองดูหลิวรั่วหลันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงโมโห:"เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมคุณไม่บอกให้เร็วหน่อย?"เขาในตอนนี้ สามารถพูดได้ว่าเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ เป็นเหมือนกับสิงโตตัวผู้ที่คลุ้มคลั่งหลิวรั่วหลันตกใจกับท่าทางที่เดือดดาลของเขา และถอยหลังไปสองก้าวด้วยความหวาดกลัวอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางของหลิวรั่วหลันที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จางหยวนถึงได้รู้ตักว่าน้ำเสียงของเขาดุดันเกินไปหน่อยหลิวรั่วหลันสามารถนำข่าวนี้มาบอกเขาได้ ได้รวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากแล้วถ้าหากให้หลินจงเฟยรับรู้ หลิวรั่วหลันเป็นคนบอกข่าวให
พูดถึงตอนสุดท้าย หลินจงเฟยหัวเราะขึ้นมาด้วยความกำเริบเสิบสานพวกอันธพาลที่อยู่รอบ ๆ ก็ยิ้มอย่างชั่วร้ายหลินจงเฟยเคยรับปากเอาไว้ อีกเดี๋ยวหลังจากที่เขาเล่นกับผู้หญิงคนนี้เสร็จแล้ว ก็จะให้พวกเขาเหล่านี้เล่น!หญิงสาวที่ขาวสวย แถมรูปร่างยังเซ็กซี่อย่างหลี่ชิวจวี๋แบบนี้ ที่บ้านนอกมีไม่เยอะ!เพียงแค่ผิวพรรณที่บอบบาง แถมยังมีเรือนร่างที่อวบอิ่มหยิ่งทะนงตัว ก็เพียงพอที่จะทำให้คนอยากเข้าไปครอบครองเพียงแค่ได้จับต้อง สัมผัสแบบนั้น จะไม่ทำให้คนตกภวังค์จนบ้าคลั่งไปเลยเหรอ!น่าเสียดาย หลินจงเฟยได้พูดเอาไว้ก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะได้เพลิดเพลินกับหลี่ชิวจวี๋ ใครก็ห้ามแต๊ะอั๋งหลี่ชิวจวี๋ทั้งนั้นอันธพาลพวกนี้อันที่จริงแล้วเป็นยามในโรงงานของหลินจงเฟย พวกเขาไม่กล้าที่จะขัดใจเจ้านาย!ในตอนนี้ หลี่ชิวจวี๋มองหลินจงเฟยด้วยความเดือดดาล: "หลินจงเฟย แกมันไอ้สารเลว! ถ้าพี่หยวนรู้ว่าแกกล้ารังแกฉัน เขาไม่มีทางปล่อยแกไปแน่นอน!"“ฮ่าฮ่าฮ่า! น่าขำชะมัดเลย! ก็แค่คนปัญญาอ่อน! ต่อให้ฟื้นคืนสติปัญญามาแล้วจะทำอะไรได้? เขากล้าต่อสู้กับฉันหลินจงเฟยไหมล่ะ?” หลินจงเฟยเยาะเย้ยขณะที่เขาพูด เขาก็แกว่งโทรศัพท์มือถือของห
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ