สวีเจียวเจียวทำให้เรื่องราวถึงจุดสุดขีด เหมือนจะจับทั้งครอบครัวของจางหยวนเผาอยู่บนไฟ!ถ้าไม่ใช่เพราะจางหยวนนำเงินหนึ่งล้านบาทออกมาได้ทันเวลา ยืนยันกับทุกคนในเหตุการณ์ว่าครอบครัวของเขามีเงิน ไม่มีทางวางแผนต่อฟาร์มเลี้ยงไก่ของตระกูลสวีไม่อย่างนั้นความผิดที่ว่าวางแผนครอบครองทรัพย์สินของคนอื่น จางหยวนจะต้องรับผิดไป!แม้แต่ชื่อเสียงของทั้งครอบครัวเขา ก็จะเสียหายอย่างมาก!ความแค้นที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ถ้าหากเป็นสวีฉางชุน ก็ไม่กล้ารับรองว่าภายใต้ความโมโหตัวเองจะทำเรื่องที่วู่วามอะไรออกมาไหมจางหยวนเพียงแค่เหน็บแนมสวีเจียวเจียวว่าเป็นไม้กระดานต่อหน้าทุกคน พูดว่าเธอเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์ วิธีการแก้แค้นแบบนี้ถือว่าอ่อนโยนมาแล้ว!อีกอย่าง จางหยวนก็พูดได้ถูกต้อง สวีเจียวเจียวไม่อุดมสมบูรณ์อวบอิ่มจริง ๆ นั่นแหละ อีกทั้งยังวางแผนเก่งอย่างมากถึงขั้นที่แม้แต่สวีฉางชุนที่เป็นพ่อ ก็ยังไม่ได้สังเกตเห็นเจตนาของลูกสาวสำหรับพวกอู๋ปินที่ถูกกระทืบ สวีฉางชุนก็ถือว่ามองไม่เห็นจากที่เขาดู ถ้าหากไม่ใช่พวกวัยรุ่นกลุ่มนี้เข้ามายุ่งวุ่นวาย เรื่องในวันนี้ก็ไม่มีทางที่จะบาดหมางกันจนไม่สามารถจัดการได้!สวีฉางชุ
เดิมทีจางหยวนคิดจะจ่ายเงินตามราคาที่ตั้งไว้ แต่เหล่าเฟิงโถวทำอย่างไรก็ไม่ยอมรับเงินแถมยังพูดว่า รอให้เงินหนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยบาทที่จางหยวนฝากเอาไว้ใช้หมดแล้ว ค่อยเอาเงินจากจางหยวนอีกเมื่อหมดหนทาง จางหยวนก็ทำได้เพียงนำน้ำผึ้งกลับมาก่อนเพียงแต่เขาก็สามารถมองออกได้ ชีวิตของเหล่าเฟิงโถวในตอนนี้ค่อนข้างขัดสนตอนที่จางหยวนไปเอาน้ำผึ้ง เหล่าเฟิงโถวกำลังกินข้าวอยู่อาหารเย็นของเขาเรียบง่ายมาก มีแค่แป้งข้าวโพดเปียกกับผักดอกชามหนึ่งต้องรู้ไว้ว่า เหล่าเฟิงโถวไม่ใช่เจ้าหน้าที่เกษียณเหมือนในเมือง ที่ทานอาหารรสชาติจืดเพื่อรักษาสุขภาพเขาไม่เพียงแต่ต้องทำงานในทุ่งนาเท่านั้น แถมยังต้องดูแลฟาร์มผึ้งด้วยแต่ละวันทำงานเยอะ ก็ต้องกินเยอะอยู่แล้วหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ตามหลักแล้วกลางคืนก็ต้องกินของแห้งหน่อยแต่อาหารที่เหล่าเฟิงโถวปะทังความหิว กลับเป็นแป้งข้าวโพดเปียกชามหนึ่ง แม้แต่หมั่นโถวก็ทำใจกินไม่ลงจางหยวนเดาว่า เงินที่อยู่ในมือของเหล่าเฟิงโถวต่อให้ยังใช้ไม่หมด เดาว่าก็เหลือไม่เยอะแล้วถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วเขาดื่มยาฆ่าหญ้า และออกจากโรงพยาบาลในวันนั้นแต่ภายหลังให้ยาทางน้ำเก
ที่แท้ เหตุที่จางหลินเย็นชากับจางหยวนขนาดนั้น ไม่ใช่เพราะได้รับคำสั่งจากจางเว่ยหมินแน่นอนว่า จางเว่ยหมินก็เคยพูดกับจางหลินจริง ๆ บอกให้เธอต่อไปติดต่อกับจางหยวนให้น้อยลงแต่เหตุผลที่ทำให้จางหลินเย็นชาต่อจางหยวน นั่นก็เป็นเพราะตอนเที่ยงจางหยวนพูดแบบนั้นต่อหน้าคนในชุมชนตอนนั้นจางหยวนถูกสวีเจียวเจียวทำให้โมโหอย่างมาก พูดจาจึงเจ็บแสบใจดำไปเยอะมาก และบ่งชี้ว่าสวีเจียวเจียวแบนราบเป็นไม้กระดานต่อหน้าทุกคนแต่เขากลับลืมไปว่า ไม่เพียงหมู่บ้านซ่างวานมีไม้กระดาน จางหลินสาวสวยประจำหมู่บ้านของหมู่บ้านเซี่ยวาน ทุนเดิมทางด้านนั้นก็ไม่มากมายเท่าไหร่นัก!เมื่อเทียบกันแล้ว หุ่นของจางหลินดีกว่าสวีเจียวเจียวหน่อย แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเท่าไหร่นักผู้หญิงสองคนเป็นประเภทที่รูปร่างผมสูง แต่กลับผอมบางเล็กน้อยในตอนที่จางหลินรับรู้ว่า จางหยวนพูดต่อหน้าทุกคนว่าไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงที่รูปร่างผอมบาง เหตุเพราะกลัวว่าลูกชายของเขาจะอดอยากจางหลินโมโหจนหน้าซีดขาว!นี่มันเป็นการพูดจาโจมตีโดยรวมไม่ใช่เหรอ?อีกทั้งจุดที่ทำให้จางหลินไม่พอใจก็คือ ตอนนั้นที่เธอโป๊ต่อหน้าจางหยวนโดยไม่ระวัง จางหยวนกลับไม่มองเธอ แต
ยิ่งไปกว่านั้น มีคนกล่าวว่า จางหยวนเกาะติดผู้หญิงรวย นอนกับผู้หญิงร่ำรวยหนึ่งครั้งได้เงินห้าพันบาท!สรุปคือข่าวมากมายหลายหลากถึงขั้นที่มีชายหนุ่มสองคนที่คิดว่าตัวเองหน้าตาหล่อรูปร่างดี เป็นฝ่ายมาหาจางหยวนเอง และพูดเปรย ๆ ให้จางหยวนแนะนำผู้หญิงรวยให้รู้จักหน่อยสำหรับข่าวลือเหล่านี้ที่แพร่ขยายในหมู่บ้าน จางหยวนจะหัวเราะก็ไม่ได้จะร้องไห้ก็ใช่ที่โดยเฉพาะคนเหล่านั้นที่พูดว่าจางหยวนพึ่งพาการหาเงินจากการนอนกับผู้หญิงรวยหนึ่งครั้งห้าพันบาท ถ้าหากเงินได้หนึ่งล้านบาทนั่นก็แสดงว่าต้องนอนด้วยกันสองร้อยครั้ง!แต่ว่ามีคำพูดบางวิธีที่เข้าใกล้ความเป็นจริงแล้ว ตัวอย่างเช่นที่พูดว่าจางหยวนเก็บเห็ดหลินจือพันปีได้ที่บนเขาความจริงแล้ว จางหยวนก็ใช้การเก็บยาสมุนไพรบนเขาเพื่อหาเงินจริง ๆ นั่นแหละเพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาเก็บไม่ใช่เห็นหลินจือพันปี แต่เป็นโสมป่านอกจากนี้ ก็เป็นหลี่ชิวจวี๋วันนั้นที่สวีเจียวเจียวมาก่อเรื่องที่บ้าน หลี่ชิวจวี๋ไปทำธุระที่ในเมืองพอดีหลังจากที่เธอได้รับรู้ว่า จางหยวนพูดต่อหน้าทุกคนว่าไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงที่รูปร่างผอมบาง ไม่ต้องพูดเลยว่าในใจดีใจมากแค่ไหนด้วยเหตุน
หลังเข้าห้อง!ต่อให้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นเรือนร่างนวลผ่องของหลิวรั่วหลันเป็นครั้งแรกแต่จางหยวนก็ยังอดทอดถอนใจไม่ได้ว่ารูปร่างของเธอนั้นเซ็กซี่จริง ๆ!ร่างกายตั้งแต่บนลงล่างไม่มีไขมันสักนิด จุดที่ควรอวบอิ่มก็อวบอิ่ม จุดที่ควรเล็กบางก็เล็กบางโดยเฉพาะบั้นท้ายงอนเด้งที่น่าภาคภูมิใจไม่แพ้ให้กับนางแบบเพาะกาย ยิ่งทำให้ผู้ชายหักห้ามใจไม่ได้!เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาร้อนลุ่มที่เห็นได้ชัดของจางหยวน หลิวรั่วหลันรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวขณะเดียวกัน หลิวรั่วหลันก็พูดในใจว่าเป็นอย่างที่คิด ข่าวที่ลือกันในหมู่บ้านเป็นความจริง!เทียบกับหน้าตาแล้ว จางหยวนใส่ใจกับรูปร่างของผู้หญิงมากกว่า!สวีเจียวเจียวของหมู่บ้านซ่างวานหน้าตาสวยดี แต่จางหยวนกลับเหยียดหยามเธอจนหมดค่า แถมยังพูดว่าเธอเป็นไม้กระดานแต่ทุกครั้งในตอนที่จางหยวนเห็นรูปร่างที่อุดมสมบูรณ์น่าภาคภูมิใจของเธอนั้น ในดวงตากลับมีแสงสว่างของความกระหาย!หลิวรั่วหลันยังสังเกตเห็นอีกว่า แม้แต่ในตอนที่จางหยวนมองดูจางหลินสาวสวยประจำหมู่บ้าน ก็ไม่ได้เผยสายตาแบบนั้นออกมา!การค้นพบนี้ก็ทำให้หลิวรั่วหลันรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจเล็กน้อยในเมื่อผู้หญิงคนไห
คลินิกมีเพียงประตูเดียวถึงแม้ในห้องจะมีหน้าต่างบานหนึ่ง แต่หน้าต่างมีรั้วเหล็กกั้น ไม่สามารถมุดออกไปได้ด้วยซ้ำ!ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้หลิวรั่วหลันสวมแค่ชุดชั้นในเท่านั้นถ้าหากคนข้างนอกฝืนบุกเข้ามา นั่นก็จะกลายเป็นการจับชู้แล้วจริง ๆ ไม่ใช่เหรอ?ชั่วขณะ จางหยวนกับหลิวรั่วหลันทั้งสองคนรู้สึกร้อนใจอย่างมากคิดไม่ถึงว่าตอนนี้ด้านนอกกลับมีเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้น"พี่หลิว รีบเปิดประตูสิ! ฉันเอง เสี่ยวเยี่ยน! ฉันลืมกุญแจไว้ที่บนเคาน์เตอร์!"จางหยวนมองไปที่บนเคาน์เตอร์ และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ที่มุมเคาน์เตอร์กระจกมีกุญแจพวงหนึ่งวางไว้อยู่!เขารีบเดินเข้าไปในห้องและพูดกับหลิวรั่วหลันเสียงเบา: "โชคดีที่ไม่ได้มาจับชู้! เป็นจ้าวเยี่ยนที่มาเอากุญแจ!"เมื่อได้ยินจางหยวนพูดว่าไม่ได้มาจับชู้ หลิวรั่วหลันก็โล่งอกอย่างอดไม่ได้แต่หลังจากนั้นใบหน้าสวยก็หน้าแดงและถลึงตาใส่จางหยวนอะไรที่เรียกว่าโชคดีที่ไม่ได้มาจับชู้?ก่อนหน้านี้พวกเขาสองคนไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย จับชู้อะไรล่ะ?อย่าดูว่าเมื่อครู่หลิวรั่วหลันแอบหยอกล้อจางหยวนไปยกหนึ่ง แต่นั่นก็เป็นแค่คึกคนองชั่วขณะของเธอก็เท่านั้นถ
ในคลินิกมีกระทะไฟฟ้าแค่อันเดียว ถ้าหากหลิวรั่วหลันจะทำอาหาร ก็ต้องใช้กระทะไฟฟ้าแน่นอน"พี่หลิว พี่เหมือนจะไม่ได้ใช้กระทะไฟฟ้านะ? งั้นพี่ทำอาหารยังไง?" จ้าวเยี่ยนหันไปถามหลิวรั่วหลันด้วยความกลัดกลุ้มใจหลิวรั่วหลันรู้สึกตกตะลึง เธอลืมเรื่องนี้ไปเลย!“ฉัน...ฉันต้มน้ำร้อนใช้แช่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้ว! การทำอาหารวุ่นวายเกิน!” หลิวรั่วหลันฝืนยิ้มและพูดอธิบายจ้าวเยี่ยนย่นจมูกของเธอ กลิ่นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นแรงมาก แต่ทำไมเธอถึงไม่ได้กลิ่นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปล่ะ?เว้นแต่ หลิวรั่วหลันจะทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ห้องด้านหลังจ้าวเยี่ยนเหลือบมองไปทางห้องด้านหลังด้วยสัญชาตญาณเมื่อเห็นเธอมองไปทางห้องด้านหลัง หลิวรั่วหลันก็สะดุ้งทันที กลัวว่าเธอจะเห็นจางหยวนที่อยู่ข้างใน จึงรีบเรียกเธอเอาไว้"เสี่ยวเยี่ยน เธอมาคนเดียวเหรอ? เสี่ยวจูแฟนของเธอทำไมถึงไม่มาส่งเธอล่ะ?" หลิวรั่วหลันถามขึ้นถูกหลิวรั่วหลันขัดจังหวะแบบนี้ จ้าวเยี่ยนโยนเรื่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทิ้งไปไกลโพ้น"โอ๊ย! อย่าพูดถึงเลย! ผู้ชายต่างก็พูดไม่เป็นคำพูด! เดิมทีบอกว่าจะมารับฉันไปเที่ยวในเมือง ผลปรากฏว่ามีคนเรียกเขาไปดื่มเห
ทุกครั้งที่ได้เห็นหลิวรั่วหลัน จูอู่ลี่ก็อดนึกถึงบทพูดคลาสสิคประโยคนั้นไม่ได้ผู้บังคับกองพันที่ 2 ปืนใหญ่อิตาลีล่ะ! (เป็นคำล้อเลียนมีความหมายแฝง แสดงถึงความอยากมีเพศสัมพันธ์กับอีกฝ่าย)"หือ? คุณบอกว่าหลิวรั่วหลันผิดปกติงั้นเหรอ? ผิดปกติตรงไหน?" จูอู่ลี่ถามด้วยสีหน้านิ่งเฉยจ้าวเยี่ยนกลอกตาใส่เขา: "คุณต้องเรียกพี่หลิวเหมือนกับฉันถึงจะถูกต้อง! ทำไมถึงเรียกชื่อของพี่หลิวตรง ๆ แบบนั้นล่ะ?""หลังจากหยุดชะงักครู่หนึ่งเธอก็พูดอีก: "พี่หลิวผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เธอบอกว่าเธอกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้วเข้านอนไป แต่ฉันไม่ได้กลิ่นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในคลินิก""อีกทั้งตอนที่ฉันออกมา เห็นว่าพี่หลิวมือกุมท้องน้อยตัวสั่นเทาไปหมด เหมือนกับท้องเสีย แต่เธอกลับไม่ได้ไปห้องน้ำสาธารณะ แถมยังดึงประตูม้วนลงมา!"ได้ยินถึงตรงนี้ จูอู่ลี่ดวงตาสว่างไสว และถามขึ้นอย่างอดไม่ได้"ตอนนั้นหลิวรั่ว...อ่อไม่ พี่หลิว ผมของเธอยุ่งเหยิงมากใช่ไหม?"เดิมทีจูอู่ลี่อยากจะเรียกชื่อของหลิวรั่วหลันโดยตรง แต่หลงจากที่เขาสังเกตเห็นสายตาที่ไม่พึงพอใจของจ้าวเยี่ยน จึงได้เปลี่ยนไปเรียกพี่หลิวจ้าวเยี่ยนนึกย้อนกลับไป และพยักหน
เพราะเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่มูลค่าหลายแสน มากกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของจางหยวนตอนนี้เสียอีก! คิดไปคิดมา จางหยวนก็ยิ่งรู้สึกสับสน สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วเพราะอย่างไรเสียเขาได้บอกไปกับฉู่เสวี่ยเยี่ยนแล้วว่าขอเวลาคิดสองวัน ก็ใช้เวลาคิดสองวันแล้วค่อยว่ากันทว่าตอนนี้จางหยวนมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือการไปซื้อลูกไก่! เดิมทีจางหยวนตั้งใจว่า ตอนเช้าจะไปช่วยจ้าวเจียซินรักษาเป็ดที่ฟาร์มเลี้ยงเป็ด แล้วตอนบ่ายจะไปซื้อลูกไก่เนื้อที่บ้านของหยวนเต๋อหวัง อารองของหยวนเสวี่ยไก่ฟีนิกซ์ได้ผลตอบรับดีมาก ถึงเวลาที่จะเลี้ยงไก่ฟีนิกซ์รุ่นใหม่เพิ่มแล้วแต่เนื่องจากเมาตั้งแต่เที่ยง เขาจึงกลับบ้านในช่วงบ่าย แล้วเตรียมที่จะไปซื้อลูกไก่ที่บ้านของหยวนเต๋อหวังอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แต่บางครั้งแผนการก็มักจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฟ้ายังมืดครึ้ม ฝนก็ตกหนัก จะไปซื้อลูกไก่ในเมืองด้วยการสวมเสื้อกันฝนแบบนี้ จางหยวนทำไม่ได้ รถสามล้อไฟฟ้าของเขาเป็นแบบเปิดโล่ง ไม่มีหลังคาบังฝน จึงกันฝนไม่ได้ เมื่อมองไปที่เกาเสี่ยวอวี๋ นักข่าวสาวที่กำลังรายงานพยากรณ์อากาศทางโทรทัศน์
"ฮัลโหล เสี่ยวอวี้? ผมนัดเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนพรุ่งนี้ เธอยืนยันแล้วใช่หรือไม่?” ตู้เหิงเซิงงถามคนในสาย “สบายใจได้ประธานตู้ ประเดี๋ยวฉันจะไปลางานกับหัวหน้าสถานี แล้วคุณว่าคืนพรุ่งนี้ฉันควรใส่ชุดสไตล์ไหนดี?” เกาเสี่ยวอวี้ยิ้มเสียงออดอ้อน ตู้เหิงเซิงงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบ้ากาม “แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่คุณใส่เวลาเป็นพิธีกรรายการ! เชื่อฉันสิ ชุดนั้นจะทำให้ผู้ชายเกิดความอยากจะพิชิตใจคุณอย่างแน่นอน! อยากจะฉีกชุดของคุณทิ้งให้หมดในทันทีเลย......” “บ้าน่ะ ประธานตู้พูดตรงเหลือเกิน! งั้นตกลงตามนี้แล้วกัน คืนพรุ่งนี้เจอกัน!” เกาเสี่ยวอวี้พูดจบแล้วก็วางสายทันที ตู้เหิงเซิงยังรู้สึกไม่สะใจเท่าไหร่ “จางหยวนเอ๋ยจางหยวน โชคดีเสียจริงๆ! คืนพรุ่งนี้ต้องโดนจิ้กจอกสาวดูดเอาพลังงานหมดเป็นแน่!” ตอนนี้จางหยวนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย มื้ออาหารที่ตู้เหิงเซิงงชวนเขาไปกินนั้น แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการ “เลี้ยงต้อนรับ” ที่เต็มไปด้วยอันตราย! และอาจจะพลาดท่าเสียตัวได้ง่ายๆ! แต่แม้รู้ว่าเป็นกับดัก จางหยวนก็ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นเพราะเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำรออยู่!เพิ่งวางสายจากตู้เหิงเซิงไปไม่
หากเขาไม่มีความสามารถอะไรเลยเหมือนจินฟานที่สนใจแต่ประชาสัมพันธ์ยาสุดพิเศษ เช่นนั้น แม้จ้าวลี่ซานจะแนะนำเขาให้เพื่อนร่วมอาชีพมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์! หลังจากได้ยินเช่นนั้น จางหยวนพยักหน้าอย่างแรง “อาจ้าว ผมเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! ขอบคุณที่ช่วยแนะนำคนรู้จักให้ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!" ขณะพูดประโยคนี้ จางหยวนรู้สึกหงุดหงิดอยู่บ้าง งานหลักของเขาควรเป็นแพทย์แผนจีนชัดๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึงโด่งดังเพราะเป็นสัตวแพทย์ไปได้? หรือว่า......ต่อไปทุกคนจะคิดว่าเขาเป็นสัตวแพทย์ชื่อดัง ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นแพทย์แผนจีน?พอคิดว่าอนาคตข้างหน้าเวลาเดินไปบนถนน เจอใครก็ทักมายและเรียกเขาว่าหมอจางอย่างสนิทสนม จางหยวนก็อดขนลุกไม่ได้ ทว่าตามคำกล่าวที่ว่าของผู้ใหญ่ให้ก็ต้องรับ ความหวังดีของจ้าวลี่ซาน จางหยวนก็ย่อมปฏิเสธไม่ได้เมื่อจางหยวนกลับไปที่ฟาร์มเลี้ยงผึ้ง ปัญหาอีกอย่างก็ตามมา! ตู้เหิงเซิงโทรมา “รบกวน” อีกครั้ง! พอเห็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา จางหยวนแทบอยากโยนโทรศัพท์ทิ้งเมื่อคืนเขาบอกตู้เหิงเซิงชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่ผิดสัญญา ตู้เหิงเซิงคนนี้ทำไมถึงตื้อไม่เลิกเช่นนี้?จางหยวนรับสายทันท
พ่อลูกตระกูลจ้าวพยายามโน้มน้าวจางหยวนให้รับซองแดง แต่จางหยวนยืนกรานไม่รับสุดท้ายเมื่อไม่มีทางอื่น ทั้งสองจึงต้องยอมแพ้ แต่ไม่นานดวงตาของจ้าวลี่ซานก็เป็นประกาย เขาคิดหาวิธีตอบแทนจางหยวนได้แล้ว! “พี่หยวน ไม่รับซองแดงก็ไม่เป็นไร แต่อาจ้าวขอเชิญเอ็งไปกินข้าว เอ็งต้องห้ามปฏิเสธนะ!” จ้าวลี่ซานพูดพร้อมรอยยิ้ม จางหยวนพยักหน้ายิ้ม “กินข้าวได้อยู่แล้ว ต้องสั่งอาหารเพิ่มสักสองอย่างนะ ผมกินเยอะ! ฮ่าๆ” คำพูดที่ตรงไปตรงมาทำให้คนทั้งสามถึงกับหัวเราะลั่น เมื่อถึงเวลามื้ออาหารกลางวัน จางหยวนก็รู้ว่าทำไมจ้าวลี่ซานถึงเชิญเขาไปกินข้าว ถึงจะบอกว่าเชิญไปกินข้าว แต่เป้าหมายที่แท้จริงของจ้าวลี่ซานคือการแนะนำคนรู้จักให้จางหยวน! เขาเชิญเจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์หลายรายในเมืองมาด้วยกัน และแนะนำให้รู้จักกับจางหยวน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่จางหยวนเอาชนะจินฟานเมื่อเช้าให้ฟัง เมื่อเหล่าเจ้าของฟาร์มได้ยินว่าจางหยวนสามารถรักษาสัตว์ป่วยที่แม้แต่ช่างเทคนิคจากโรงงานผลิตยาสัตว์ก็รักษาไม่ได้ พวกเขาจึงรู้สึกอยากรู้จักจางหยวนกันมากขึ้นทันทีที่จางหยวนเข้าใจเจตนาของจ้าวลี่ซาน เขาก็เล่าเรื่องที่เคยรักษาโรคอหิวาต
ยิ่งสองพ่อลูกตระกูลโจวชมเชยจางหยวนมากใด สีหน้าของจินฟานก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้นเป็ดสองตัวที่เดินเล่นอยู่บนพื้น ราวกับฝ่ามือที่ตบหน้าจินฟานอย่างแรงไม่เพียงเสียงดังฟังชัด และยังเจ็บปวดมาก!ยาของจางหยวนรักษาเป็ดให้หายดี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า กาฬโรคเป็ดที่จินฟานพูดถึงก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องโกหกหมด!เมื่อจ้าวลี่ซานลุกขึ้นยืน เขามองจินฟานด้วยสายตาที่ไม่พอใจ“ช่างเทคนิคจิน ผมต้องการคำอธิบายจากคุณ! ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเป็ดของผมเป็นกาฬโรคเป็ด แล้วให้ผมซื้อยาจากต่างประเทศ ตอนนี้เป็นเช่นนี้ คุณจะอธิบายอย่างไร”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังฝืนยิ้มออกมา“เถ้าแก่จ้าว คนเราย่อมผิดพลาดกันได้ ครั้งนี้ถือว่าผมดูผิดไป!”“จริงหรือ? อย่าคิดว่าคนอื่นโง่กันหมดนะ ช่างเทคนิคจิน ผมว่าต่อไปนี้คุณไม่จำเป็นต้องมาขายยาในเมืองของเราอีกแล้ว! ให้บริษัทของคุณส่งช่างเทคนิคคนอื่นมาแทนเถอะ ผมจะบอกกับคนอื่นๆ ในเมืองด้วย!” จ้าวลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหตุผลที่เขาเชื่อฟังจินฟาน เพราะเขามีความเชื่อมั่นในช่างเทคนิคของโรงงานผลิตยาเกินไปแต่จินฟานกลับใช้ความไว้วางใจของเขา พูดจาหลอกลวงจ้าวลี่ซาน จ้าวลี่ซาน
ทันใดนั้น จ้าวลี่ซานรีบวิ่งไปหาเป็ด แล้วนั่งยองตรวจสอบอ้วกของเป็ด ไม่นาน เขาก็เห็นพยาธิเม็ดเลือดสีแดงอยู่ด้านใน พยาธิตัวนั้นยาวประมาณเล็บนิ้วก้อย แต่บางมาก บางราวกับเชือก “นี่......นี่คือพยาธิเม็ดเลือดหรือ? หรือว่าเป็ดในฟาร์มของฉันจะติดโรคพยาธิเม็ดเลือดในเป็ดจริงๆ?” จ้าวลี่ซานพูดด้วยความตกตะลึง ทันทีที่จ้าวลี่ซานพูดจบ จินฟานก็เดินตรงเข้ามา มองจ้าวลี่ซานด้วยสายตาเย้ยหยัน “เถ้าแก่จ้าว คุณเป็นคนมากประสบการณ์ ทำไมถึงโดนหลอกด้วยเล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ได้!”จ้าวลี่ซานเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจ “เล่ห์เหลี่ยม? เล่ห์เหลี่ยมอะไร?” “คำตอบง่ายมาก! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ถูกเป็ดอาเจียนออกมาจริง! แต่คุณอย่าลืมว่าเมื่อครู่เป็ดดื่มอะไรเข้าไป! พยาธิสีแดงตัวเล็กๆ เหล่านี้ที่อาจถูกป้อนเข้าไปตอนนั้นก็เป็นได้!” จินฟานพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่เคยเชื่อว่าจางหยวนจะสามารถระบุอาการป่วยของเป็ดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อในสิ่งที่จางหยวนพูด เมื่อได้ยินเช่นนั้น จ้าวเจียซินก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า “เมื่อครู่ฉันยังคิดว่าคุณไม่ใช่คนโง่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด!” จินฟานขมวดคิ้วมองเขา “ค
จินฟานฮึดฮัดออกมา โดยไม่ได้พูดอะไรต่อแผนการรักษาของเขาก็เป็นแบบนี้แม้ว่าจะมียาสำหรับสัตว์ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม เป็ดที่รอดชีวิตได้ก็เป็นเพียงเป็ดที่ร่างกายแข็งแรงที่สุดเท่านั้นส่วนพวกเป็ดที่ป่วยหนัก ก็ต้องปล่อยให้รอความตายไปจ้าวลี่ซานคิดครุ่นดูแล้วก็เห็นด้วย จึงให้จ้าวเจียซินไปจับเป็ดป่วยมาแต่จินเฟินกลับอาสาเสียเอง เดินไปที่โรงเลี้ยงเป็ด แล้วจับเป็ดป่วยหนักที่สุดมาสองตัวสิ่งที่จินเฟินอยากเห็นที่สุดก็คือ จางหยวนฆ่าเป็ดทั้งสองตัวตายคาที่เช่นนั้น เขาก็จะใช้โอกาสนี้ให้จ้าวลี่ซานสั่งซื้อยาสำหรับสัตว์เพิ่มอีกสองกล่องได้เมื่อเห็นเป็ดทั้งสองตัวที่ป่วยจนแทบไม่มีแรงดิ้น จ้าวลี่ซานก็ทำหน้าแปลกๆจ้าวเจียซินกลับยิ้มเย้ยหยัน “จับเป็ดป่วยที่ใกล้ตายมาใช่หรือไม่ แต่ไม่เป็นไรหรอก! พี่หยวนจะรักษาเป็ดทั้งสองตัวให้หายได้......ใช่หรือไม่”พูดถึงตรงนี้ จ้าวเจียซินก็รู้ตัวว่าพูดออกไปเช่นนี้อาจไม่เหมาะ จึงรีบหันไปถามความเห็นของจางหยวนจางหยวนพยักหน้ายิ้ม “ไม่เป็นไร ตราบใดที่เป็ดทั้งสองตัวยังไม่ตาย ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาให้หายได้!”จากนั้นเขาใช้ช้อนเล็กตักยาจากอ่างลายครามหน
เห็นเช่นนั้น จางหยวนก็ยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่! อาจ้าวและผู้เชี่ยวชาญจินท่านนี้ อย่ารีบร้อนไปเลย การสั่งซื้อก็ไม่ต้องรีบร้อนหรอก! จะลองดูหรือไม่ว่าผมจะรักษาเป็ดพวกนี้อย่างไร?”“หึ! ไม่สนใจ! ผมไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว!” จินฟานพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกจางหยวนจ้องมองจินฟาน “อาจ้าวตัดสินใจจะสั่งซื้อยาของคุณแล้ว อย่างไรเสียผู้เชี่ยวชาญจินจะไม่ให้เกียรติแม้แต่น้อยเลยหรือ?” จ้าวเจียซินเข้าใจและพูดต่อ “ใช่! ซื้อยาของคุณ แล้วคุณยังไม่ให้เกียรติขนาดนี้ ประเดี๋ยวผมจะลองติดต่อบริษัทยายี่ห้ออื่นทางออนไลน์ พวกเขาคงจะนำเข้ายาจากต่างประเทศได้เช่นกัน!”สีหน้าของจินฟานเปลี่ยนไปเล็กน้อยหากเป็นอย่างที่จ้าวเจียซินพูดจริงๆ และไปหาบริษัทยายี่ห้ออื่น วันนี้เขาคงจะมาเสียเที่ยว “เอาล่ะ! ถ้าเช่นนั้น ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่จ้าว!” จินฟานพูดด้วยท่าทางใจกว้างจากนั้น ทุกคนก็เดินไปยังอ่างที่จางหยวนเตรียมไว้ เมื่อเห็นยาสมุนไพรในอ่าง และปูนขาวที่โรยอยู่ด้านบน จ้าวลี่ซานอดถามไม่ได้ว่า “พี่หยวน ข้างในนี้คืออะไรหรือ?”จางหยวนตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อันนี้คือยาสมุนไพรบดเป็นผง ประกอบด้วยไฉหู เทียนหมา
แม้ว่าเขาจะพยายามกระซิบเสียงเบา แต่ทั้งจางหยวนและจ้าวเจียซินก็ยังได้ยินสิ่งที่เขาพูดอยู่ดี ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างก็เห็นรอยยิ้มในสายตาของกันและกัน ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ที่แท้จินฟานก็เป็นแค่คนเขลาแต่จ้าวลี่ซานกลับตกใจกับคำพูดของจินฟาน รีบถามเขาเหมือนจะคว้าเอาหญ้าแพรกมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว “ผู้เชี่ยวชาญจิน คุณมีวิธีรักษาโรคระบาดในเป็ดได้หรือไม่ หากเป็ดของผมตายหมด ผมคงขาดทุนมากแน่!” เมื่อเห็นว่าหลอกล่อจ้าวลี่ซานได้ จินฟานก็ยิ้มออกมา “จริงๆ แล้ว การรักษาโรคระบาดในเป็ดก็ไม่ยาก! บริษัทของเรานำเข้ายาสำหรับสัตว์ชนิดหนึ่งมาจากต่างประเทศ! สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดได้มากเลย!” “ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่หากเป็ดได้รับยานี้ เชื่อว่าน่าจะมีเป็ดรอดชีวิตจำนวนมาก!” จ้าวลี่ซานรีบถามว่า “แล้วตอนนี้มียาหรือไม่” “ตอนนี้ยังไม่มี! แต่หากคุณจ้าวลี่ซานโอนเงินเข้าบริษัทวันนี้ ผมสามารถให้บริษัทเร่งจัดส่งได้ภายในวันเดียวกัน!” จินฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม แผนของเขาเรียบง่ายมากคือต้องการให้จ้าวลี่ซานซื้อยาที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดชุดนั้น จินฟานไม่ได้โอ้อวด ยานั้นสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันของเป็ดไ