ณ บริษัท HIGH CAR
“รายงานการประชุมของวันนี้” สายน้ำเอ่ยขึ้นพร้อมเดินเอาแฟ้มเอกสารที่เธอจดสรุปการประชุมของวันนี้มาวางไว้ให้ที่โต๊ะของแอสตัน “อืมขอบใจมาก” ก๊อกๆ “เข้ามา” แอสตันเอ่ยก่อนจะเงยหน้ามองยังคนที่เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง “อ้าวพี่มีอะไร” “พูดกับพี่ให้มันมีหางเสียงหน่อยสิวะ โปรเจ็คไปถึงไหนแล้วทันการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่จะเข้าไทยที่เราจะไปจัดในงานมอเตอร์โชว์ที่จะถึงนี้ไหม” “ผมว่าทันนะผมดำเนินงานไปจะหมดแล้วดาราก็เชิญแล้วเหลือติดต่อพวกอินฟลูเอนเซอร์” “ดีแล้วอย่าให้พลาดถ้าพลาดไอพิศุมันซ้ำเราแน่” “แล้วทางพี่ไปดูที่ ที่จะขยายสาขารึยัง” “ไปดูมาแล้วกำลังต่อลองราคาอยู่ทำเลใช่ได้เลย นี้พี่หาผู้ช่วยคนใหม่มาให้เราด้วยนะเดียวพรุ่งนี้คงจะมาละ จะได้มาทำแทนสายน้ำเดียวอาทิตย์หน้าก็เปิดเทอมแล้วใช่ไหม” พอร์ชเอ่ยหันไปถามสายน้ำอย่างเป็นมิตร “ใช่ค่ะ” สายน้ำยิ้มเอ่ยตอบพอร์ชถึงแม้ว่าพอร์ชจะอายุมากกว่ามากและเป็นพี่ของแอสตันแต่เธอกับไม่รู้กดดันเมื่อเวลาอยู่กับเขาน่าจะเป็นเพราะว่าพอร์ชเอ็นดูแล้วปฏิบัติกับเธอเหมือนน้องสาว “ไม่เห็นจำเป็นเลยยัยนี่ทำก็ดีอยู่แล้ว” “เอ๊ะ ไอนี่แกใช้งานน้องเขาจนผอมไปหมดแล้วทั้งทำบัญชีที่คลับทั้งเป็นผู้ช่วยแกที่บริษัทอีก” “เรื่องของผมหน่า ถ้าพี่ไม่มีอะไรแล้วตอนบ่ายผมไม่เข้าบริษัทนะ” “จะไปไหน” “คลับตรวจงานสักหน่อย” “เออๆ แล้วกลางวันนี้ไปกินข้าวไหนพี่ไปด้วยได้ไหม” “ไม่ได้” แอสตันรีบเอ่ยปฏิเสธพี่ชายของเขาทันที “ทำไมหละพี่เลี้ยงก็ได้ ตั้งแต่กลับไทยมาพี่ยังไม่ได้นั่งกินข้าวกับแกเลยนะนอกจากที่บ้าน” “เบื่อพี่วะ ไปดีกว่า” แอสตันเอ่ยจบพร้อมปิดฝาปากกาและลุกขึ้นเดินไปดึงแขนสายน้ำให้ออกไปกับเขาปล่อยพี่ชายเขาไว้ในห้องคนเดียวอย่างไม่ใยดี “เอ้า ไอน้องเวรกูเลี้ยงมึงมานะเว้ย” พอร์ชเอ่ยตะโกนไล่หลังแอสตันพลางส่ายหัวกับอาการติดสาวของน้องชายเขาถึงแม้ว่าเขาจะกลับมาได้เพียงไม่น่าแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าน้องชายเขาคิดยังไงกับผู้หญิงที่ชื่อสายน้ำ ณ คลับAS กร๊อบ~ ขณะที่แอสตันเปิดประตูเข้ามายังในคลับก็รู้สึกได้ว่าเข้าเหยียบเข้ากับอะไรบางอย่างหักคาเท้าของเขา “แง่ๆๆๆ ” เด็กน้อยวัยสามขวบร้องไห้โฮ “เด็กนี้มาจากไหน” แอสตันเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยว่าคลับเขามีเด็กเข้ามาได้เช่นไร “หนูจ๊ะร้องไห้ทำไมจ๊ะ” สายน้ำย่อตัวนั่งลงตัวเสมอเด็กแล้วเอ่ยถามขึ้น “พี่เขาเหยียบไดโนซอรัสขอผม ฮื่ออๆๆ ” เด็กน้อยยังคงร้องไห้พร้อมชี้นิ้วมือเล็กไปยังทางแอสตัน “ไอของเล่นราคาถูกนี้น่ะหรอ? ” แอสตันเอ่ยพร้อมใช้สายตามองไปยังไดโนเสาร์ที่ถูกเขาเหยียบจนหัวหักไปเมื่อกี้ที่พื้น “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะเดียวพี่ซ่อมให้หรือจะเอาตัวใหม่ดีจ๊ะ” สายน้ำเอ่ยโอ๋เด็กน้อยอย่างใจเย็น “มันไม่เหมือนกัน ตัวนี้ปะป๊าซื้อให้ผม ฮื่อๆ ” เด็กน้อยร้องไห้กะจองอแงไปพลางสะอื้นไปด้วย “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะพวกพี่ไม่ได้ตั้งใจเดียวพี่หาตัวที่คล้ายตัวนี้มาคืนให้” สายน้ำที่เห็นเด็กน้อยร้องไห้ไม่ยอมหยุดเลยโผเข้าไปกอดปลอบเด็กน้อยพลางใช้มือบางลูบหัวเจ้าตัวเล็กเบาๆ “มันจะมากไปแล้วนะก็บอกว่าเดียวซื้อใหม่ให้ก็จบ สายน้ำลุกขึ้นเดียวนี้” แอสตันที่เห็นสายน้ำกอดปลอบเด็กชายตัวน้อยก็เริ่มหัวเสียแล้วดึงแขนสายน้ำให้ลุกขึ้นห่างจากเด็กชายทันที “ว้ายยย มีอะไรกันรึป่าวคะคุณแอสตัน” ป้าแม่บ้านเอ่ยขึ้นพร้อมรีบวิ่งเข้ามา “คุณย่าพี่ชายใจร้ายคนนี้ทำของเล่นผมพัง ฮือๆ” เด็กน้อยที่ยังคงยื่นร้องไห้อยู่เอ่ยพร้อมชี้มือไปยังแอสตัน “พี่ชายใจร้าย? ” แอสตันเอ่ยพร้อมใช้นิ้วเรียวชี้มาที่ตัวเองโดยมีสายน้ำแอบยืนขำอยู่ข้างๆ “คุณแอสตันป้าขอโทษด้วยนะคะหลานป้าเองลูกชายป้าไปทำงานที่เกาหลีแม่มันก็ทิ้งเลยฝากลูกไว้กลับป้าที่บ้านไม่มีใครอยู่ป้าเลยพามาด้วย” ป้าแม่บ้านเอ่ยขึ้นพร้อมยกมือขอโทษแอสตันเป็นการใหญ่อย่างกลัวโดนไล่ออก “ไม่เป็นไรถ้าเอาเด็กมาก็ให้ไปเล่นข้างหลังอย่าพามาโจ่งแจ้งแบบนี้มันดูไม่ดี” “ค่ะๆ ไปร์ทมาขอโทษคุณเขาเดียวนี้” คุณป้ารีบก้มหัวให้แอสตันพร้อมทั้งเอ่ยบอกหลานชายให้ขอโทษแอสตันด้วย “ทำไมผมต้องขอโทษด้วยละครับคุณย่าเขาทำของผมพังนะครับ” เด็กชายที่ตอนนี้เริ่มหยุดร้องแล้วเอ่ยถามขึ้น “ขอโทษคุณเขาไปก่อนลูกเดียวย่าซื้อใหม่ให้” “แต่ตัวนี้ปะป๊ะซื้อให้ผมพี่เขาทำของผมพังพี่เขาต้องเป็นคนขอโทษไม่ใช่หรอคับ” เด็กน้อยเอ่ยถามย่าด้วยความไร้เดียงสา “ใช่ค่ะ งั้นเอางี้ไหมมาผลัดกันขอโทษเดียวให้พี่เขาขอโทษหนูที่ทำของเล่นหนูพังแล้วหนูต้องขอโทษพี่เขาที่ว่าพี่เขาใจร้ายตกลงไหมจ๊ะ” สายน้ำเอ่ยพร้อมยิ้มอย่างเอ็นดูเด็กน้อยไร้เดียงสาคนนี้ที่พูดออกมาโดยไม่รู้ว่าแอสตันเป็นใคร “ได้ครับพี่สาวคนสวย” เด็กน้อยเอ่ยพร้อมยิ้มให้สายน้ำ “เหอะ ใครบอกจะขอโทษ” แอสตันเอ่ยเสียงอู้อี้และหันไปมองสายน้ำอย่างไม่ยอม “ขอโทษไปสะอย่าให้เด็กต้องจำอะไรที่ผิดๆ ” สายน้ำหันมาเอ่ยกระซิบแอสตันอย่างบังคับ “ก็ได้แต่คืนนี้เธอต้องขึ้นให้ฉันทั้งคืน” แอสตันเอ่ยพลางทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่สายน้ำ “อืม ก็ได้” สายน้ำกัดฟันเอ่ยตอบแอสตันไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ “ขอโทษ!!” แอสตันเอ่ยขอโทษเด็กน้อยด้วยเสียงแข็งกระด้างอย่างไม่เต็มใจและหันหน้าไปทางอื่น “ตาหนูแล้วจ้ะ” สายน้ำเอ่ยพร้อมย่อตัวลงบอกเด็กน้อยอีกครั้ง “ผมก็ขอโทษที่เรียกพี่ว่าคนใจร้ายครับ” “เก่งมากจ้ะ” สายน้ำเอ่ยพร้อมลูบหัวเด็กน้อยอย่างเอ็นดู “ไปร์ทไปข้างหลังกับย่าเร็วอย่าขวางทางคุณเขา ป้าขอโทษอีกรอบแทนหลานนะคะคุณแอสตัน” ป้าแม่บ้านเอ่ยพร้อมกับก้มหัวให้แอสตันอีกครั้ง “ครับย่า จุ๊บ>3<” เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาเอ่ยตอบย่าก่อนจะหันมาจุ๊บแก้มสายน้ำและวิ่งไปจุงมือย่าของเขา “เห้ยย ไอเด็กบ้านี้” แอสตันเอ่ยขึ้นทันทีที่เด็กน้อยจุ๊บแก้มของสายน้ำแล้วรีบจูงมือย่าเขาวิ่งหนีไป “เอาหน่าเด็กยังไม่รู้เรื่อง” “ไม่รู้เรื่องห่าอะไร เห็นก็รู้แล้วว่ามันแสบแก้มเธอฉันหอมได้คนเดียว” แอสตันเอ่ยตอบสายน้ำอย่างหัวเสียก่อนจะเอามือถูแก้มสายน้ำข้างที่โดนเด็กแสบขโมยหอมแก้มไป “นี่นายคงไม่หึงเด็กหรอกนะ” สายน้ำเอ่ยขึ้นอย่างนึกขำ “หึงบ้าหึงบออะไร เธออีกมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ฉันไปขอโทษเด็กนั้น” “ก็นายทำของรักเด็กคนนั้นพังก็ต้องขอโทษสิ” “ก็แค่ซื้อให้ใหม่ก็จบแล้วไหมไม่เห็นต้องขอโทษเลยฉันซื้อให้ใหม่ได้แพงกว่าของเล่นกระจอกๆ นั้นอีก” “นี่นายทุกอย่างมันไม่ได้ซื้อมาได้ด้วยเงินหรอกนะ” "แล้วอะไรล่ะที้เงินมันซื้อไม่ได้? " "....." “แล้วเธอฉันไม่ได้ซื้อมาด้วยเงินหรอ? ” แอสตันเอ่ยถามสายน้ำพร้อมกับจ้องมาที่ดวงตาของเธอ “ก็ถูกของนายขนาดฉันยังถูกนายซื้อด้วยเงินเลย” สายน้ำชะงักไปกับสิ่งที่แอสตันเอ่ยถามก่อนจะตอบแอสตัสกลับไปด้วยเสียงแผ่วอย่างเถียงไม่ได้ก่อนจะเดินนำแอสตันไปยังห้องทำงานของเขา ณ ห้องทำงานของแอสตัน “นี้ครับรายงานระหว่างที่คุณแอสตันไม่อยู่แล้วก็เอกสารอนุมัติการเบิกของที่ต้องให้คุณแอสตันเซ็นครับ” ธนินเอ่ยพร้อมส่งแฟ้มที่เขาทำไว้ระหว่างดูแลคลับแทนให้แอสตันพร้อมกับแฟ้มเอกสารที่ต้องการให้เขาเซ็น “แล้วเป็นไงบ้างเรื่องนั้น” แอสตันเอ่ยพลางเปิดแฟ้มเอกสารดู “ผมเจอโกดังที่เก็บของใหม่มันแล้วครับกำลังให้ลูกน้องแฝงตัวเข้าไปเก็บหลักฐานอยู่” “ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกฉัน เอกสารที่ให้ฉันเซ็นมีแค่นี้ใช่ไหม” “ครับ” “อะ เสร็จแล้ว” แอสตันเอ่ยแล้วยื่นเเฟ้มเอกสารให้กับธนิน “ครับ” คลื่น คลืนน~ (เสียงโทรศัพท์แอสตัน) “มีอะไรวะไอโรม” “ที่ไหน!!! เดียวกูไปเดียวนี้” แอสตันเอ่ยขึ้นเสียงดังก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องทำงานโดยมีสายน้ำวิ่งตามไปด้วยบรื้นนนนน~แอสตันเหยียบแป้นคันเร่งจะมิดไมล์อย่างใจร้อนหลังรับสายของโรมที่โทรมาบอกว่าคนที่ค่ายมวยบอกว่าดีเดย์โดนเอาพวกมารุมตีที่ค่าย“นี้แอสตันนายขับช้ากว่านี้หน่อยได้ไหม” สายน้ำเอ่ยพร้อมกำสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่นด้วยความกลัวเพราะตอนนี้แอสตันเหยียบแซงรถทุกคันมาพร้อมกับบีบแตรสนั่นท่องถนนเพื่อให้รถคันอื่นหลบทางให้เขา“หุบปาก! ใครใช้ให้เธอตามมาด้วย” แอสตันเอ่ยตวาดใส่สายน้ำอย่างหัวเสียที่เจ้าหล่อนวิ่งกระโดนขึ้นรถมาด้วยทั้งที่เข้าบอกไม่ให้มาณ ค่ายมวย ROME BOXINGไม่นานรถยนต์คันหรูของแอสตันก็มาจอดที่ค่ายมวยของโรมและตามมาด้วยรถของธาม โรม และคลาร์กที่ตามมาจอดในเวลาไล่เลี่ยกัน“ห้ามลงจาดรถเด็ดขาดล็อครถด้วย” แอสตันเอ่ยก่อนจะรีบลงจากรถไป“คุณโรมมาแล้วหรอครับ คุณดีเดย์โดนรุมอยู่ข้างใน” ชายสูงวัยรีบวิ่งหน้าตาตื่นมาทักโรมทั้งที่เอามือกุมหัวที่มีเลือดไหลอยู่“นี้พวกเวรนั้นทำลุงแดงใช่ไหม” โรมเอ่ยขึ้นอย่างเดือดจัดที่เห็นชายสูงวัยที่เฝ้าที่นี้โดนทำร้ายถ้าในเวลาปกติที่นี้จะมีนักมวยและลูกค้ามากมายมาใช่บริการแต่เพราะว่าอาทิตย์นี้โรมให้ปิดค่ายมวยไปก่อนเพื่อให้ผู้จัดการค่ายและครูฝึกพาพวกนักมวยไปพักผ่อนที่ทะ
สายน้ำที่เห็นชายผมแดงเล็งปืนมาทางแอสตันจึงตกใจรีบผลักชายหนุ่มให้พ้นจากวิถีกระสุนแต่ตัวเธอกับโดนลูกหลงของกระสุนปืนยิงเข้าที่แขนแทนสะเองร่างบางที่ตื่นตกใจค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น ก่อนที่สติจะดับวูบลง สิ่งสุดท้ายที่ได้เห็นคือ ร่างสูงของแอสตันที่รีบวิ่งเข้ามารับเธอด้วยสีหน้าตื่นตระหนก"สายน้ำ!!" แอสตันตะโกนเรียกสายน้ำดังลั่นก่อนที่จะรีบเข้าไปรับร่างบางที่ตอนนี้หมดสติไปแล้วร่างสูงก้มมองร่างบางในอ้อมกอดที่ตอนนี้ที่ใบหน้าซี๊ดเซียวและเลือดที่แขนของเธอไหลรินออกมาไม่หยุดจนเปื้อนเสื้อเชิตสีขาวของเขา แอสตันมองชายผมแดงตรงหน้าด้วยความโกรธแค้นจนเส้นเลือดมือที่เขากำหมัดอยู่ขึ้นชัดเจน"กูไม่ได้ตั้งใจจะยิงยัยนี้นะ มันโง่เข้ามารับกระสุนเอง" ชายผมแดงเอ่ยพร้อมถือปืนในมือชี้มาด้วยความสั่นเทาพลัก!!คลาร์กที่ได้จังหวะตอนชายผมแดงเผลอเดินอ้อมไปด้านหลังแล้วล็อคตัวเขาเอาไว้จากข้างหลังพร้อมทั้งกดชายผมแดงลงไปนอนแนบกับพื้นและใช้เท้าเตะปืนออกจากมือ"โอ้ย กูยอมแล้วปล่อยกูไปเถอะ" ชายผมแดงยกมือยอมแพ้และร้องโอดครววญให้คลาร์กปล่อยเขาไปวี๊วอวี๊วออ“เชี้ย ตำรวจมา” หนึ่งในชายชกรรจ์ที่นอนกองกับพื้นที่ยังพอมีสติเอ่ยขึ้น และพยา
“ตื่นแล้วหรอ” แอสตันเอ่ยถามร่างบางทันทีที่เห็นเธอขยับตัวตื่น“เจ็บแขน นี่ฉันยังไม่ตายใช่ไหม” สายน้ำเอ่ยขึ้นพลางมองไปทั่วห้องที่ตอนนี้เห็นเพียงแค่แอสตันที่นั่งเฝ้าเธออยู่ข้างเตียง“แค่เฉียดแขนอย่าสำอ่อย”“แล้วคนอื่นล่ะเป็นไงบ้าง”“เหอะตื่นมาก็ถามหาคนอื่นไม่ถามผัวตัวเองบางรึไงว่าเป็นไงบ้าง” แอสตันเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดที่คนตัวเล็กตื่นมาก็ถามถึงคนอื่นไม่เอ่ยถามถึงเขาก่อน“ก็เห็นนายนั่งอยู่นี่ยังไม่ตายสักหน่อยจะให้ถามอะไร”“ปากดีแบบนี้คงจะหายดีแล้วสินะคืนนี้อย่าลืมสัญญาล่ะ” แอสตันเอ่ยอย่างยิ้มเจ้าเล่ห์“สัญญาอะไร? ”“ที่เธอบอกว่าถ้าฉันขอโทษไอเด็กแสบนั้นจะขึ้นให้ฉันทั้งคืน”“ไอบ้าไอโรคจิตเวลาแบบนี้ยังคิดอะไรแบบนี้อยู่อีก”“สัญญาแล้วก็ต้องทำตามสัญญา” แอสตันเอ่ยออกมาพร้อมกับมองหน้าสายน้ำ“แต่ฉันเจ็บแขนอยู่” สายน้ำเอ่ยพร้อมทั้งยกแขนข้างที่โดนพันแผลไว้ให้แอสตันดู“ฉันให้เธอใช้ช่วงล่างไม่ได้ให้เธอใช้แขนสักหน่อย” แอสตันเอ่ยพร้อมทั้งใช้สายตามองไล่ตั้งแต่หน้าอกเลื่อนลงไปที่จุดสงวนของร่างบาง“เจ็บขนาดนี้ นายช่วยคิดเรื่องอะไรที่มันพ้นใต้สะดือมาหน่อยได้ไหม” สายน้ำเอ่ยพร้อมทั้งมองไปยังหน้าและลำตัวของแ
- เช้าวันต่อมา - "เดียวทำแผลเสร็จก็กลับบ้านได้แล้วครับ แต่ต้องมาทำแผลที่โรงพยาบาลทุกวันจนกว่าแผลจะแห้งสนิท" คุณหมอเอ่ยบอกขณะที่เปิดดูแฟ้มการรักษาของสายน้ำอยู่ "ขอบคุณค่ะ" "คุณแอสตันจะทำแผลใหม่เลยไหมคะ" พยาบาลสาวเอ่ยถามแอสตันเสียงหวาน "ไม่ต้องเดียวฉันกลับไปทำเอง" "แต่ว่าแผลคุณ" "ฉันบอกว่าไม่ไง" "ค่ะ" พยาบาลสาวเอ่ยอย่างหน้าเสียงเล็กน้อยก่อนจะเดินหน้าบึ้งตึงออกจากห้องไป ณ คอนโดหรูของแอสตัน “จะทำอะไร” แอสตันเอ่ยถามเมื่อสายน้ำดึงข้อมือของเขาให้นั่งลงบนโซฟาก่อนที่มือบางจะมาจับที่ผ้าก๊อซปิดแผลบริเวณที่หางคิ้วของเขา “ก็ทำแผลให้นายใหม่ไง จะปล่อยให้เลือดซึมจนทะลักออกมาเลยไหม” สายน้ำเอ่ยพร้อมมองไปยังใบหน้าของแอสตันที่มีผ้าก๊อซปิดแผลอยู่หลายที่และเริ่มมีเลือดซึมออกมาแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาของแอสตันที่ตอนนี้มีแต่ลอยฟกช้ำเต็มไปหมดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรความหล่อของเขาได้เลยแล้วยิ่งใบหน้าหล่อของเขาที่ตอนนี้มีรอยแผลมันกับทำให้เขาดูเท่ขึ้นมาก SAYNAM PART “โอ๊ยย ซี๊ดด” เสียงร้องโอดครวญของแอสตันดังขึ้นเมื่อฉันเริ่มค่อยๆ แตะสำลีที่ใส่แอลกอฮอลล้างแผลไปยังบาดแผลของเขา “นี่นายจะร้องอะไรนั
- เปิดเทอมวันแรก -“มึงแม่กูจะให้กูหมั้นกับพี่ธาม” ยัยเมลเบิร์นเอ่ยขึ้นมาคำแรกหลังเดินลงจากรถคันหรูแล้วเดินมาหาฉันกับเอลลี่ที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะหินอ่อนล่างตึกเรียน“หะ!!” ฉันและยัยเอลลี่เอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจพร้อมกันเปิดเทอมวันแรกมายัยเมลเบิร์นก็เริ่มประโยคแรกให้พวกฉันเซอร์ไพร์เลย“กูจะทำยังไงดีกูไม่อยากหมั้นกับพี่ธาม”“เกิดอะไรขึ้นวะ”“ก็วันนั้นที่กูรถชนแล้วพี่ธามช่วยไว้แม่กูจากรักพี่ธามมากกว่าลูกในไส้อยู่เเล้วตอนนี้ซาบซึงพี่ธามจัดเลย และบอกว่าพี่ธามนี้แหละที่จะเป็นคนดูแลกูได้”“เอ่ยถ้าเรื่องนั้นกูก็เข้าใจแม่มึงวันที่มึงรถชนกูรู้สึกผิดมากเลยที่ไม่ได้ไปส่ง”“โอ้ยยย มึงอย่าคิดมากอีเอลลี่ดวงคนมันจะชน”“แล้วพี่ธามว่าไง”“ก็ทำตัวเป็นคนดีตอบตกลงแม่กูน่ะสิตอนนี้เลื่อนสถานะจากหลานรักมาเป็นว่าที่ลูกเขยสุดที่รักละ”“แล้วมีกำหนดการยัง”“วันที่ 1 เดือนหน้า”“หะ!!” ฉันกับยันเอลลี่อุทานขึ้นมาพร้อมกันอีกครั้งอย่างตกใจเพราะนี้ก็กลางเดือนแล้ว“ทำไมมันเร็วจังวะนี้ก็วันที่ 16 แล้วนะมึง”“กูก็ไม่รู้เลยมาให้พวกมึงช่วยคิดนี่ไง”“ระดับแม่มึงใครจะกล้าขัดใจ” ยัยเอลลี่เอ่ยขึ้นอย่ารู้กันดีว่าแม่ของยัยเมลเบิร์นเ
“เลวชิปหายทำไมมึงไม่บอกพวกกู” ยัยเอลลี่เอ่ยขึ้นอย่างโมโหแทนฉันฉันที่ไม่อยากจะเสียเพื่อนรักไปเลยไม่มีทางเลือกเลยจำใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ยัยเพื่อนรักทั้งสองฟัง“ก็กูไม่กล้า ขนาดกูจะไปแจ้งความแอสตันยังบอกว่าตำรวจก็ทำอะไรเขาไม่ได้”“กูก็พอรู้ว่าพี่แอสตันเลวแต่กูไม่คิดว่าจะเลวขนาดอัดคลิปแบล็คเมล์มึงขนาดนี้”“มึงจะเอายังไงกูช่วยไหมเดียวกูให้แม่กูไปคุยกะพ่อแม่พี่แอสตันให้” เมลเบิร์นเอ่ยขึ้นอย่างพยายามหาทางช่วยฉัน“ไม่ต้องหรอกเดียวหมดเทอมนี้กูก็เป็นอิสระแล้วคิดสะว่ามีเสี่ยเลี้ยง”“กูขอโทษนะที่ช่วยอะไรมึงไม่ได้” ยังเอลลี่เอ่ยขึ้นน้ำตาคลอแล้วเอื้อมมือมาโอบกอดฉันอย่างรู้สึกผิดถ้าพูดถึงเรื่องความเซนซิทีฟยัยเอลลี่เซนซิทีฟและบ่อน้ำตาตื้นและขี้น้อยใจที่สุดในกลุ่มแล้วตอนนี้คงรู้สึกผิดทั้งเรื่องที่ยัยเมลเบิร์นรถชนและเรื่องฉันอยู่แน่ๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นความผิดของยัยนี่เลย“กูด้วยขอโทษนะ” ยัยเมลเบิร์นเเบะปากทำหน้าจะร้องไห้เพราะสงสารฉันเข้ามาสวมกอดฉันด้วยอีกคน“พวกมึงกูไม่เป็นอะไรอยู่กับแอสตันก็สบายดีกูไม่ต้องไปวิ่งทำงานหนักด้วยมึงไม่ดีใจหรอ”“จริงนะ” ยัยเอลลี่เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง“ก็จริงนะสิกูมีเงินพอ
ณ คอนโดหรูของแอสตัน ทันทีที่เลิกเรียนคาบสุดท้ายเสร็จฉันก็รีบปลีกตัวกลับทันทีเพราะกลัวจะโดนถามเรื่องที่มาอยู่กับแอสตันอีกโดยอ้างยัยสองเพื่อนรักว่าจะมาทำเรื่องเสนอหัวข้อโปรเจ็คที่ฉันต้องทำในเทอมหน้า เพราะด้วยที่ว่าฉันเป็นเด็กทุนเลยมีข้อตกลงกับทางมหาวิทยาลัยว่าให้เรียนให้จบใน 2 ปีครึ่งฉันเลยต้องอัดวิชาเรียนและตั้งใจมากกว่าคนอื่น ติ๊ด แกร็ก~ ทันทีที่ฉันแสกนคีย์การ์ดเข้าห้องเสร็จก็หอบร่างไร้วิญญานของตัวเองเข้ามายังห้องนอนชั้นบนของแอสตันก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้อง ฉันจ้องตัวเองในกระจกอยู่นานและมองรอยแดงที่แก้มของฉันที่มันจางลงไปเยอะแล้วแต่ก็ยังคงทิ้งลอยแดงหลงเหลือไว้อยู่บ้าง "ฉันเต็มใจเลือกทางนี้เอง" ฉันเอ่ยพร้อมปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา แต่ยังคงมองตัวเองในกระจกอยู่แบบนั้นก่อนจะค่อยๆ เอามือลูบแก้มข้างที่โดนตบมาอย่างแผ่วเบา ตอนนี้ฉันมาไกลมากๆ แล้วตั้งแต่ฉันมาอยู่กับแอสตันคุณภาพชีวิตฉันก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดได้กินอิ่มนอนอุ่นทุกมื้อได้กินแต่ของดีๆ ราคาแพงๆ ที่ไม่รู้ว่าถ้าฉันไม่ขายตัวให้แอสตันชาตินี้ฉันจะมีโอกาสได้กินไหมพอไม่สบายก็ได้เข้าโรงพยาบาลเอกชนดีๆ พักห้องพั
- หลายวันผ่านไป -ณ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง Lรถสปอร์ตคันหรูของแอสตันขับแล่นเข้ามาภายในมหาวิทยาลัยในเวลาเช้าตรู่กว่าปกติกำลังมุ่งหน้าไปยังตึกคณะบริหารเพื่อที่จะไปส่งหญิงสาว"จอดตรงนี้แหละเดียวฉันเดินต่อเอง" สายน้ำเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงตึกคณะของเธอแล้ว ถึงตอนนี้จะเป็นเวลาเช้ากว่าปกติแต่ก็เริ่มที่จะมีนักศึกษาทยอยกันมาบ้างแล้วและเธอก็ไม่อยากจะเป็นจุดสังเกต“เรื่องมากเดียวฉันไปส่งหน้าตึก”“ไม่ต้อง แล้ววันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่หรอจะลากฉันออกมาด้วยทำไมแต่เช้า”“ต้องเข้าบริษัทมีเอกสารที่ต้องจัดการให้เสร็จก่อนเข้าประชุมสายนี้”“จอดได้แล้วแอสตัน!” สายน้ำเอ่ยย้ำกับแอสตันอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้นเพราะคนเอาแต่ใจยังไม่ยอมหยุดรถให้เธอสักที"เหอะ กลัวคนรู้รึไงว่าเธอเป็นคนของฉัน""ฉันไม่อยากเจอใครมาดักตบอีก""เลิกเรียนก็ทักมาเดียวฉันมารับ" แอสตันที่ได้ยินร่างบางพูดแบบนั้นก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพร้อมจอดรถข้างฟุตบาทใกล้ๆ กับร้านถ่ายเอกสารของคณะบริหารให้สายน้ำก่อนจะขับรถออกไป"ไง สายน้ำ" นิวตันที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากเดินตรงเข้ามาทักทายสายน้ำแล้วมองไปยังรถของแอสตันที่พึ่งขับออกไป“รู้จักกันน่ะเขาเห็น
"ออกไป!!"ร่างสูงของแอสตันเอ่ยไล่สาวสวยที่เขาจ้างมาก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับดึงกางเกงของตนมาใส่ให้เรียบร้อย"ทำไมล่ะคะ แตงโมทำอะไรให้พี่แอสตันไม่พอใจรึป่าว" สาวสวยเอ่ยออกมาก่อนจะลุกขึ้นมาเกาะแขนแอสตันด้วยท่าทางออดอ้อน"ฉันหมดอารมณ์" เขาเอ่ยพร้อมสะบัดแขนที่ถูกเกาะกุมด้วยสาวสวยออกอย่างไม่ใยดี"แต่เรายังไม่ได้เริ่มเลยนะคะ" เธอเอ่ยขึ้นพร้อมจับมือแอสตันมาวางไว้ที่หน้าอกของเธอ"ฉันไม่มีอารมณ์กับใครทั้งนั้นแหละปล่อย" เขาเอ่ยเสียงดังลั่นจนทำให้เธอต้องปล่อยมือออกจากข้อมือเขาที่เธอจับเขาไว้อยู่ร่างสูงของแอสตันล้วงไปหยิบกระเป๋าตังที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาก่อนจะหยิบเงินขึ้นมาปึกนึงแล้วยัดใส่มือของเธอ"นี้เงินแล้วก็รีบไสหัวไปสะก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!! " เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตวาดลั่นจนทำให้สาวสวยที่เขาเรียกว่ากลัวจนตัวสั่นก็จะรีบหยิบเสื้อผ้าของเธอที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้นมาใส่โดยไว"ถ้าพี่แอสตันมีอา...""ฉันบอกให้ออกไปไงหรือเธออยากตาย!!!" ยังไม่ทันที่สาวสวยจะเอ่ยจบแอสตันก็ตวาดขึ้นเสียงดังลั่นก่อนจะชี้ไปที่ประตู"ค่ะๆๆ แตงโมงไปแล้วค่ะ" สาวสวยเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องไปด้วยความกลัว"เป็
ก๊อกๆแกร็ก~ยังไม่ทันที่ลูกค้าที่นั่งอยู่ภายในห้อง VVIP ของคลับจะเอ่ยอนุญาติประตูบานหรูก็ถูกเปิดออกด้วยสาวๆ สวยๆ มากมายที่แต่งหน้าจัดจ้านแต่งตัวกันน้อยชิ้นจนแทบจะเห็นได้ทุกสัดส่วน"สวัสดีค๊า พี่ดีเดย์เรียกพวกหนูมาคิดถึงพวกหนูหรอคะ" เสียงแหลมของสาวสวยนมโตที่ใส่เสื้อเกาะอกสีส้มและกระโปรงสั้นจนแทบจะเห็นแพตตี้เอ่ยขึ้นแล้วรีบตรงมาหาดีเดย์ทันที"คิดถึงสิคะ มาๆ ให้พี่หอมหน่อยเพื่อนน้องส้มจี๊ดชื่ออะไรกันบ้างคะ" ดีเดย์เอ่ยด้วยสายตาลุกวาวพร้อมอ้าแขนรับสาวๆ ทั้งหลายที่เดินมารุมนั่งตักเขาอย่างเอาใจ"แนะนำตัวสิพวกเธอ" สาวที่ชื่อส้มจี๊ดที่นั่งตักและเอามือคล้องคอดีเดย์ไว้อยู่หันไปเอ่ยบอกพวกเพื่อนๆ ของเธอ"หนูชื่อเมล่อนค่ะ" สาวสวยที่นั่งถัดไปจากสาวสวยที่ชื่อส้มจี๊ดเอ่ยขึ้น"หนูแตงโมค่ะ" สาวที่ชื่อแตงโมเอ่ยพร้อมเอานมโตๆ ของเธอถูไถที่แขนของดีเดย์อย่างยั่วยวนพร้อมกับเอาหน้าซบอกของเขา"หนูส้มโอค่ะ""แพรรี่ค่ะ""โห นี้มันผลไม้รวมชัดๆ" ธามเอ่ยขึ้นเมื่อสาวๆ แต่ละคนบอกชื่อของตัวเอง"เป็นไงกูเลือกมาแต่ละคนดีกรีนางแบบดาวยั่วทั้งนั้น" ดีเดย์เอ่ยขึ้นอย่างภูมิใจ"กูละเชื่อมึงจริงๆ เลย" โรมที่เล่นโทรศัพท์อยู่เอ่ย
"อิ่มชะมัดเลย" เอลลี่เอ่ยพร้อมกับตีพุงตังเองเบาๆ"ก็ควรอิ่มไหมอีผี กินไปสะขนาดนั้น" เมลเบิร์นเอ่ยก่อนจะยกมือส่งสัญญาณเรียกพนักงานมาเก็บเงิน"ก็นานๆ จะได้กินสักทีอยู่บ้านแม่ให้กูกินแต่อาหารคลีนหน้ากูจะเป็นเต่าอยู่แล้ว" เอลลี่เอ่ยพร้อมชี้นิ้วไปที่หน้าตัวเอง"อีน้ำไม่อร่อยหรอวะกูเห็นมึงกินไปนิดเดียวเองมัวนั่งมองแต่โทรศัพท์" เมลเบิร์นเอ่ยกับสายน้ำที่วันนี้เธอสังเกตได้ว่าเพื่อนรักของเธอดูซึมๆ ไปนั่งจ้องแต่โทรศัพท์"อร่อย แต่กูไม่ค่อยหิวก็บอกแล้วว่าวันนี้กูนอนไม่พอ""ทั้งหมด 1250 บาทค่ะ""เดียวกูเลี้ยงเองวันนี้ถือว่ากินสละโสดปลอมใจยัยเมลเบิร์น" เอลลี่เอ่ยพร้อมหยิบบิลที่พนักงานมาตรวจดู"แต๊งกิ๊วนะจ๊ะเพื่อนรัก" เมลเบิร์นเอ่ยพร้อมทำตาปริบๆ ใส่เพื่อนรัก"งั้นเราไปช็อปปิ้งกันก่อนไหมแล้วค่อยกลับ เดียวกูไปส่งมึงเอง" เอลลี่เอ่ยก่อนจะหันไปบอกสายน้ำณ คอนโดแอสตันเวลา 17.00 น.รถหรูแบรนด์ยุโรปของเอลลี่แล่นมาจอดบริเวณหน้าคอนโดหรูของแอสตันในเวลายามเย็น"มึงมีปัญหาอะไรกับพี่เขาป่าววะ" เอลลี่เอ่ยถามที่กำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัย"ป่าว กูแค่นอนไม่พอ""อย่ามาโกหกกู กูดูออกว่าวันนี้มึงดูซึมๆ บอกกูมาสะดีๆ ทะเลาะ
เช้าวันต่อมาคลืด คลืดๆ ~ร่างบางค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นเพราะเสียงปลุกของโทรศัพท์แต่ก็พบกับเตียงที่ว่างเปล่าไร้วี่แววของร่างสูงนอนอยู่เช่นทุกวัน มือบางเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์บนหัวนอนที่ยังดังอยู่ไม่ยอมหยุดก่อนจะกดรับสาย"ว่าไงยัยฝน"(หนูจะโทรมาบอกพี่ว่าพรุ่งนี้แม่ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วจ๊ะ)"ทำไมไวจัง หมอตรวจแน่แล้วใช่ไหมว่าแม่แข็งแรงดีแล้ว"(ตรวจแล้วจ๊ะพี่แข็งแรงดีไม่มีปัญหาอะไรหมอพึ่งมาบอกเมื่อกี้นี่เองหนูเลยรีบโทรมาบอกพี่)(แล้วเงินพอใช่ไหม ถ้าไม่พอบอกนะเดียวพี่โอนไปให้เพิ่ม)(พอจ้าพี่ พี่แอสตันเขาทำเรื่องรับผิดชอบค่ารักษาแล้วก็ค่าห้องพิเศษไว้หมดแล้วไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มแล้ว)"แล้ว..."(พี่แค่นี้ก่อนนะจ๊ะหนูต้องรีบแต่งตัวไปเรียนจากโรงพยาบาลไปโรงเรียนไกลมากพี่ บ๊ายบายจ๊ะ)ยังไม่ทันที่สายน้ำจะเอ่ยถามจบสายฝนก็เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อนที่จะวางสายไป"พึ่งจะ 7 โมงเองไปไหนของเขา" สายน้ำเอ่ยขึ้นพร้อมมองไปยังนาฬิกาที่ตอนนี้พึ่งจะแค่ 7 โมงเช้าแล้วช่วงนี้แอสตันก็ไม่ค่อยมีเรียนด้วยนอกจะทำโปรเจ็คอยู่ห้องไม่ก็มหาวิทยาลัยเธอมองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นมีสิ่งใดผิดปกติก่อนจะมองไปยังห้องน้ำภายในห้องนอนแต่ก็ไม่เห็น
หลายชั่วโมงต่อมาเวลา 17.00 น.แกร็ก~ร่างบางของสายน้ำเปิดประตูเข้ามาภายในคอนโดหรูของแอสตันแต่กลับพบความว่างเปล่าไร้วี่แววของคนตัวสูงที่ปกติแล้วเวลาเธอกลับมาจากมหาวิทยาลัยร่างสูงของแอสตันจะชอบนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟาตัวยาวกลางห้องรับแขก"ไปไหน หรือว่ายังไม่ตื่น"สายน้ำบ่นพึมพัมกับตัวเองพร้อมทั้งย่ำเท้าเดินขึ้นไปยังชั้นสองของคอนโดหรูก่อนจะเปิดดูที่ห้องนอนดูว่ามีเจ้าของร่างสูงไหม"แอสตัน~ อ่าวไม่อยู่" มือเล็กของสายน้ำที่เปิดประตูเข้าไปยังห้องนอนพร้อมเอ่ยเรียกเจ้าของชื่อแต่ก็พบความว่างเปล่าเช่นเดิม..Line แอสตันสายน้ำ: ไปข้างนอกหรอแอสตัน : ใช่ กินข้าวก่อนเลยนะไม่ต้องรอสายน้ำ : อืมร่างบางกดไลน์หาแอสตันด้วยความแปลกใจปกติแล้วแอสตันแทบจะไม่ห่างจากเธอเลยเขามักจะคอยไปรับไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยตลอดถ้าไม่ได้ไปรับก็จะรออยู่ที่ห้องหรือถ้าไปไหนเขามักจะพาเธอไปด้วยเสมอ"หรือมันใกล้หมดเวลาของฉันแล้ว" สายน้ำเอ่ยพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินไปนั่งลงอยู่ปลายเตียงแล้วมองไปรอบๆ ห้องนอนหรูของแอสตันที่ตอนนี้มีเพียงแค่เธอกับความเงียบสนิท"นายเริ่มเบื่อฉันแล้วสินะ"เธอเอ่ยเบาๆ กับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนที่นอน
"เออกูมีเรื่องจะบอกพวกมึงด้วยเสาร์นี้กูจะหมั้นกับเมลเบิร์น" ธามเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ราบเรียบต่างจากพวกเพื่อนของเขาที่หันมามองเข้ากันอย่างตกใจ"หะ!!! " ชายหนุ่มทั้ง 4 เอ่ยอุทานขึ้นมาพร้อมกันอย่างตกใจกับสิ่งที่ธามได้พึ่งเอ่ยออกมา"อีก 2 วันเนี้ยนะมึงไม่บอกพวกกูวันงานเลยล่ะ" แอสตันเอ่ยขึ้น"มึงกะมัดมือชกยัยน้องคนสวยเขาเลยหรอวะ" ดีเดย์เอ่ยพลางมองหน้าธามอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนเขาจะทำแบบนั้น"น่าสงสารน้องเขาชิปหาย" คลาร์กที่กำลังกระดกเหล้าเข้าปากเอ่ยออกมาพลางส่ายหัวเบาๆ"พวกกูดูออกนะว่ามึงคิดยังไงกับน้องเขาแต่แบบนี้มันจะไม่มัดมือชกน้องเขาไปหรอวะ" โรมเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับมองไปยังธามที่กระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร"แม่ยัยเมลนู้นที่เป็นคนอยากจับให้กูกับเมลหมั้นกัน" ธามเอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดี"พวกกูรู้นะว่าต้องเป็นฝีมือมึงไม่งั้นอยู่ดีๆ จะมาจับหมั่นกันได้อย่างไงแต่ก็เอาเถอะจัดที่ไหน" แอสตันเอ่ยก่อนจะเหลือบสายตาไปมองธามที่นั่งกินเหล้าอย่างหน้าระรื่น"โรมแรม MB ของที่บ้านเมลนั้นแหละแต่ว่าจัดภายในมีแค่ครอบครัวกูกับเมล""เออ มาๆ กินเหล้าต่อ" เเอสตันเอ่ยก่อนจะยกแก้วข
ณ คลับ ASทันทีที่ขับรถออกมาจากบ้านอัครกิจภูริสกุล แอสตันก็ขับรถสปอร์ตสุดหรูวิ่งตรงมาที่คลับ AS ทันที ร่างสูงของแอสตันก้าวเท้าลงจากรถพร้อมกับสายตาของนักท่องราตรีทั้งหลายที่จับจ้องมายังเขาเป็นทางเดียวกัน“ธนินหละ” แอสตันเอ่ยถามพนักงานที่รีบเดินมารับกุญแจรถจากเขาเพื่อนำไปจอด“คุณธนินติดต้อนรับลูกค้า VIP อยู่ชั้นบนครับ”“พวก ส.ส สินะ บอกธนินว่าเสร็จแล้วให้ขึ้นไปหาฉันที่ห้องทำงาน” แอสตันเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะย่างเท้าตรงไปยังห้องทำงานของตน“ครับ” พนักงานชายเอ่ยตามหลังแอสตันพร้อมโค้งให้เขาอย่างเคารพก่อนจะเดินไปยังด้านประตูคนขับเพื่อนำรถของเขาไปจอดก๊อก ก๊อกๆ"เข้ามา"แกร็ก~"นายเรียกผมหรอครับ" ธนินเปิดเข้ามาภายในห้องทำงานของแอสตันพร้อมโค้งตัวให้เขาก่อนเอ่ยถามเจ้านายของตน"ใช่ ฉันมีเรื่องให้นายไปสืบหน่อย" แอสตันเอ่ยพลางเคาะนิ้วชี้กับโต๊ะทำงานตามจังหวะแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ไอแพดของตนเองโดยไม่ได้หันไปมองยังธนินที่พึ่งเข้ามา"เรื่องอะไรครับ? ""คนนี้" แอสตันเอ่ยก่อนจะวางไอแพคแล้วกลับหัวไปทางธนินพลางเคาะนิ้วชี้ไปที่รูปของซีเรียพร้อมกับเอ่ยต่อ"ลูกของนายอธิวัฒน์ ประธานบริษัทXXX แล้วก็สืบมาด้วย
ณ บ้านอัครกิจภูริสกุลเวลา 22:00 น.“ลูกแม่ ลมอะไรหอบมาเนี้ย” เสียงของหญิงสาววัยกลางคนที่ดูสง่านั่งอยู่ในห้องรับแขกเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงของแอสตันเดินเข้ามาภายในบ้าน“ก็คิดถึงแม่ไงครับเลยมาหา” แอสตันเอ่ยคำหวานพร้อมทำเสียงออดอ้อนพร้อมเดินเข้าไปสวมกอดเเม่ของตนราวกับเด็กน้อย“ขี้โม้ ได้ข่าวว่าติดสาวหรอลูกที่ชื่ออะไรน้า อ่อสายน้ำลูกเต้าใครที่ไหนแม่รู้จักไหม” หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยพร้อมหยิกจมูกลูกชายคนเล็กของเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู“พี่มันเอาเรื่องไร้สาระแบบนี้มาฟ้องแม่หรอครับ”“ไม่ต้องไปว่าพี่เลยนะ แล้วเมื่อไหร่จะพามาให้แม่รู้จัก”“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่อย่าไปเชื่อพี่มัน”“ก็ได้ๆ กินอะไรรึยังแม่ให้ป้าศรีไปเตรียมให้ไหม” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามลูกชายพลางทำท่าจะเรียกแม่บ้านคนสนิทที่อยู่ในห้องรับแขกด้วยกันให้ไปเตรียมอาหารให้แอสตัน“กินแล้วครับ แล้วพี่อยู่ไหนหรอครับ”“บนห้องจ๊ะ มีอะไรรึป่าวมาหาพี่เขาดึกๆ ดื่นๆ”“ไม่มีอะไรหรอกครับแค่จะมาถามถึงเรื่องจัดงานมอเตอร์โชว์”“จ๊ะ ขึ้นไปอย่างดังนะลูกคุณพ่อหลับแล้ว”“ครับแม่”ฟอดดด~แอสตันเอ่ยก่อนจะหอมแม่ที่เป็นที่รักของเขาฟอดใหญ่ก่อนจะรีบขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านอ
ณ คลับ ASเวลา 18.00 น.รถสปอร์ตหรูของแอสตันแล่นเข้ามาจอดเทียบยังบันไดประตูทางขึ้นของคลับหรูในเวลายามเย็นซึ่งตอนนี้เริ่มมีนักท่องราตรีบางส่วนทยอยกันเข้ามาแล้ว"สวัสดีครับนายให้เอารถไปเก็บเลยไหมคับ" บริกรของคลับเดินมาโค้งให้แอสตันก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเห็นเขาและสายน้ำเดินลงจากประตูรถ"อืม" ร่างสูงตอบเพียงประโยคสั้นๆ ก่อนจะยื่นกุญแจรถให้ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในคลับโดยมีสายน้ำเดินตามไม่ห่างณ ห้องทำงานแอสตันก๊อก ก๊อก ๆๆ"เข้ามา" ร่างสูงของแอสตันที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเอ่ยขึ้น"นี้เป็นไฟล์กล้องวงจรปิดที่เรากู้มาได้ครับในคลิปมีชายอีกคนที่มากับนายพิศุด้วยแต่ไม่ได้ลงมาจากรถเราเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร" ธนินเอ่ยพร้อมยื่นไอแพดเปิดคลิปให้แอสตันดูจากกล้องวงจรปิดที่พึ่งกู้มาได้"กูว่าแล้วว่ามันต้องมีคนคอยหนุนหลังอยู่" แอสตันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าในคลิปมีชายที่อายุน่าจะอยู่ในวัยกลางคนเปิดประตูรถตูแค่ครึ่งเดียวทำให้เห็นได้แค่มือเอ่ยคุยกับนายพิศุอยู่"ตอนนี้ผมกำลังตามสืบว่าอีกคนเป็นใครอยู่ ส่วนนี้เป็นเลขทะเบียนรถผมไปสืบมาแล้วเป็นทะเบียนรถปลอมครับหลังจากผ่านด่านทางแยกจากคลับเราก็หายไปเลยผมคิดว่าน่าจะเปลี่ยนรถ""โก