ประโยคง่ายๆนี้ ทำให้สีหน้าของเจียงคุน หวงเทาและต่งชิงหนิงเปลี่ยนไปเล็กน้อยเจียงคุนยิ้มเยาะเย้ยอย่างประชดประชัน เดินไปที่สนามก่อน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “ถ้าอย่างนั้นก็มาแข่งขันกันหน่อย”หวงเทาและต่งชิงหนิง ก็เหลือบมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ และตามเจียงคุนไปเซียวเป่ยก็ตามไปด้วยท่าทางที่สงบนิ่งกู้โย่เสวี่ยกระทืบเท้า ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องเดินตามไปเมื่อมาถึงสนาม เจียงคุนก็เอาไม้กอล์ฟวางไว้บนไหล่ ชี้ไปที่ธงหลุมที่อยู่ตรงหน้า แล้วพูดอย่างมั่นใจมากว่า: “ตีลูกกอล์ฟให้เข้าไปในหลุมนั้น ภายในห้า สโตรก ว่ายังไง?”ขณะที่พูด เจียงคุนก็เหลือบมองเซียวเป่ยที่อยู่ข้างๆ ก็พบว่าเขายังคงเล่นกับไม้กอล์ฟของตนเองอยู่ จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วเยาะเย้ยออกมาทันทีชายคนนี้ เหมือนคนที่เป็นตรงไหน“ดูท่าทางของคุณแล้ว เหมือนว่าจะเล่นไม่เป็น เอาอย่างนี้ไหม เอาสิบสโตรกก็แล้วกัน ”เจียงคุนผ่อนปรนเงื่อนไข และหยิ่งยโสเป็นอย่างมากเซียวเป่ยเหวี่ยงไม้กอล์ฟ แล้วเหลือบมองหลุมที่ห่างออกไปหนึ่งพันเมตร ยิ้มอย่างสงบนิ่งแล้วพูดว่า “โฮลอินวันดีกว่า”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา เจียงคุนและคนอื่น ก
สีหน้าของหวงเทา เปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียดมากทันทีกินลูกกอล์ฟ?ไม่มีทาง!เมื่อเห็นความลังเลใจของหวงเทา เซียวเป่ยก็เยาะเย้ยแล้วพูดว่า “ทำไม นายน้อยหวงคิดที่จะบิดพลิ้วอย่างนั้นเหรอ?”“ผม...”สีหน้าของหวงเทาเปลี่ยนไป และลังเลใจเล็กน้อยกู้โย่เสวี่ยทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา แล้วพูดอย่างแข็งขันว่า: “หวงเทา ถ้าคุณยังเป็นผู้ชายอยู่ จะต้องรักษาคำพูด อย่าทำให้ฉันต้องดูถูกคุณ”“กินเชี่ยอะไร!”หวงเทารีบตะโกนด้วยความไม่พอใจไปในทันที“ผู้ชายคนนี้ ผมสงสัยว่าเขากำลังโกง แสร้งทำเป็นตีไม่เป็นเพื่อทำให้คู่ต่อสู้เมินเฉยแล้วรังแกผม!”หวงเทาตะโกนนั่นเป็นลูกกอล์ฟนะ ใครจะกล้ากินล่ะ?ถ้ากินเข้าไป ก็จะต้องนอนโรงพยาบาล!“โกงเหรอ? นายน้อยหวงไม่ยอมรับอย่างนั้นเหรอ?” เซียวเป่ยหัวเราะเยาะเย้ยรอยยิ้มนี้ ทำให้หวงเทารู้สึกอึดอัดมาก!เดิมทีเขาอยากจะเห็นเซียวเป่ยอับอายขายขี้หน้า คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายแล้วคนที่อับอายขายขี้หน้าจะเป็นตนเอง ในเวลานี้เจียงคุนก็พูดออกมาดังๆว่า: “เอาล่ะ! ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนกัน ออกมาเล่นสนุกกัน ไม่จำเป็นต้องทำให้อับอายขนาดนี้”“ใช่ ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนกัน ก็แค่พูดล้อเล่น แต่คุณกลับจริงจ
จากนั้น หลายคนก็เดินมาที่บริเวณพักผ่อนอย่างไม่เบิกบานใจเจียงคุน หวงเทา และต่งชิงหนิงนั่งด้วยกัน แล้วดื่มไวน์อย่างไม่มีความสุขกู้โย่เสวี่ยนั่งเป็นเพื่อนเซียวเป่ยอยู่อีกด้านหนึ่งต่งชิงหนิงเลื่อนดูโทรศัพท์ จู่ๆก็นึกอะไรบางอย่างได้ และพูดกับเจียงคุนว่า:“ใช่แล้วนายน้อยเจียง บ้านคุณทำธุรกิจด้านความสวยความงามไม่ใช่เหรอช่วงนี้คุณเคยได้ยินเรื่องมาส์กหน้ายี่ห้อหนึ่งที่ได้รับความนิยมในตลาดเป็นอย่างมากหรือเปล่า ที่ชื่อเป่ยเสวี่ยมาส์กอะไรนั่นน่ะ ได้ยินมาว่าใช้ได้ผลดีมากเลย!”“เพื่อนวงในของฉันหลายคนต่างก็กำลังใช้มันอยู่ และแนะนำให้ฉันอยู่ตลอดเวลา”เจียงคุนพยักหน้า และกล่าวว่า: “เคยได้ยิน ครั้งนี้ที่ฉันมาเมืองเจียงจง ประการแรกมาเพื่อโย่เสวี่ย ประการที่สองมาเพื่อมาส์กหน้ายี่ห้อนี้ นักวิเคราะห์ที่บ้านได้ทำการวิเคราะห์มาส์กหน้ายี่ห้อนี้แล้ว ใช้ได้ผลดีกว่าผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าต่างๆในท้องตลาดร้อยเปอร์เซ็นต์”หวงเทากล่าวว่า:“ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับมาส์กยี่ห้อนี้ด้วย แม่ของผมก็กำลังใช้มันอยู่ ได้ยินมาว่า ไม่ได้มีการโปรโมทประชาสัมพันธ์อะไรเลย แค่อาศัยการบอกเล่าแบบปากต่อปากเท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะติดอั
ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกไป สีหน้าของทุกคนก็ดูตกใจมากสีหน้าของเจียงคุนและคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียดมากยิ่งขึ้นหมายความว่ายังไง?ซื้อเป่ยเสวี่ยมาส์ก จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเขา?เขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?เขาเป็นบอสใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเป่ยเสวี่ยมาส์กเหรอ?เจียงคุนขมวดคิ้ว มองไปที่เซียวเป่ยอย่างไม่พอใจเป็นอย่างมาก“คนแซ่เซียว!คุณหมายความว่ายังไง? คุณคือบอสที่อยู่เบื้องหลังเป่ยเสวี่ยมาส์กเหรอ?”เจียงคุณถามด้วยความเย็นชาเซียวเป่ยพูดอย่างใจเย็นว่า: “ถูกต้อง”ฮือฮา!หวงเทาและต่งชิงหนิงต่างก็พากันหัวเราะเยาะเย้ยออกมาทันที“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันได้ยินถูกต้องใช่ไหม?แกเป็นบอสของบริษัทเป่ยเสวี่ยมาส์ก?”หวงเทาหัวเราะโอเวอร์มากราวกับว่าได้ยินเรื่องตลกที่ตลกขบขันที่สุดต่งชิงหนิงก็มีสีหน้าท่าทางที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม แล้วบ่นว่า:“โย่เสวี่ย เพื่อนคนนี้ของคุณช่างดีจริงๆ แม้แต่คำโกหกแบบนี้ยังกล้าพูดออกมา? ถ้าคุณเป็นบอสของบริษัทที่พัฒนาเป่ยเสวี่ยมาส์กจริงๆ จะแต่งตัวแบบนี้เหรอ?”เมื่อต้องเผชิญกับการเยาะเย้ยของหลายๆคน สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังเต็มไปด้วยความเฉยเมยเดิมทีกู้โย่เส
เพื่อจะแสดงความสามารถต่อหน้ากู้โย่เสวี่ย เจียงคุนจึงท้าทายชายสักแมงป่องพิษว่า: “มาเลย!”ชายสักแมงป่องพิษขมวดคิ้ว ทำเสียงฮึดฮัดด้วยความโกรธ แล้วตะคอกอย่างเย็นชาว่า: “ไอ้เด็กเวร เดิมทีก็พอมีความสามารถ แต่ว่า ความสามารถของแกมีพอที่จะใช้ต่อสู้กับลูกน้องของฉันก็เท่านั้น คิดที่จะท้าทายฉัน รนหาที่ตาย!”ชายสักแมงป่องพิษคำรามด้วยความโกรธ ยกเท้าขึ้นแล้วกระทืบเท้า พลังงานที่อยู่บนร่างกายก็ระเบิดออกมา!จากนั้น เขาก็ปล่อยหมัด ที่เร็วปานสายฟ้าแลบ ชกที่ไปแก้มของเจียงคุนทันทีปัง!เจียงคุนยังไม่ทันได้ตั้งตัว ลอยกระเด็นออกไปด้านหลัง ล้มลงไปกับพื้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด“ไอ้เวรเอ๊ย! ไม่มีจรรยาบรรณในการต่อสู้เอาซะเลย!”เจียงคุนเอามือปิดจมูกแล้วลุกขึ้นมา จ้องมองชายสักแมงป่องพิษด้วยสายตาที่ชั่วร้ายแต่ว่า เขารู้อยู่แก่ใจว่า ชายสักแมงป่องพิษที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ธรรมดา“ฮึ่ม! มาเลย!”ชายสักแมงป่องพิษทำท่านิ้วตะขอเหมือนกัน แล้วกล่าวคำยั่วยุเจียงคุนเจียงคุนเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมาก แล้วตะโกนว่า: “ไอ้สารเลว! แกกล้ายั่วยุฉันเหรอ ช่างรนหาที่ตายจริงๆ!ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสแก คุกเข่าลงและขอความเมตตาจ
ชายทั้งสามคนเดินเข้ามา พร้อมเจตนาฆ่าอันดุร้ายต่างจากแก๊งแมงป่องพิษก่อนหน้านี้ คนที่มีสายตาที่เฉียบแหลมก็จะมองออกว่า สามคนนี้ถึงจะเป็นฆาตกรตัวจริง!กลิ่นอายแห่งความเลือดเย็นบนร่างกาย และกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรง ทำให้หวงเทาและต่งชิงหนิงหวาดกลัวเป็นอย่างมากพวกเขาทั้งสองคนรีบหลบอยู่ที่ด้านหลังของเจียงคุนสีหน้าของเจียงคุนเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “มีสามคนที่ไม่กลัวความตายมาอีกแล้ว!”ชายในชุดดำในบรรดาคนทั้งสามคน กวาดสายตามองไปที่ชายสักแมงป่องพิษและคนอื่นๆที่นอนอยู่บนพื้น ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “แกเป็นทำเหรอ?”“ฉันเอง! แล้วจะทำไม!”เจียงคุนแสดงตัวออกมา แล้วยืนอยู่แนวหน้า และพูดอย่างโอหังว่า: “ทำไม พวกนายทั้งสามอยากถูกทุบตีเหมือนกันเหรอ?”“เหอะๆ...ช่างจองหองจริงๆ!ฉันกลัวว่าอีกสักพักแกจะต้องคุกเข่าขอความเมตตา”ชายในชุดดำหัวเราะเยาะเย้ย“ไอ้เวร!แกต่างหากที่จะต้องคุกเข่าลงร้องขอความเมตตา!”“คิดว่าคนเยอะแล้วฉันจะกลัวพวกแกเหรอ? ฉันจบจากสถาบันศิลปะการต่อสู้เมืองหลวงแห่งมณฑลเชียวนะ และก็ติดหนึ่งในห้าอันดับแรกด้วย!”เจียงคุนโกรธจัด ขณะที่เขาพูด ก็เข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว กระ
เมื่อเจียงคุนได้ยินดังนี้ ก็ตกตะลึง!โดยเฉพาะตอนที่เขาเห็นคู่ต่อสู้ดึงมีดยาวออกมา ก็หวาดกลัวจนสั่นสะท้านไปทั้งตัวคนนอกกฎหมายนึกไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะเป็นพวกนอกกฎหมาย!ถ้าอย่างนั้นก็แย่แล้วแต่ทว่า กู้โย่เสวี่ยอยู่ข้างหลังเขา เจียงคุนจะยอมแพ้ไม่ได้ เขากัดฟัน และตะโกนว่า: “ถ้าแกเก่งจริง ก็บอกชื่อของพวกแกมา!”ชายชุดดำหัวเราะเยาะ: “ไอ้หนู ฟังให้ดีๆนะ พวกเราคือสามผีแห่งพายัพ!”“อะไรนะ? สามผีแห่งพายัพ?”เมื่อเจียงคุนได้ยินดังนี้ ม่านตาของเขาก็หดลง เหงื่อไหลราวกับว่าเป็นสายฝน“แย่แล้ว! จบแล้ว พวกเขาคือสามผีแห่งพายัพ…”เมื่อหวงเทาและต่งชิงถิงได้ยินดังนี้ ก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวสามผีแห่งพายัพ มีชื่อเสียงด้านความดุร้ายโหดเหี้ยม!ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมด แม้แต่เทพแห่งวิญญาณก็ยังหวาดกลัวบุคคลเหล่านี้พี่น้องทั้งสามคนนี้ ได้สังหารคนไปหลายร้อยคน และเป็นคนที่ดุร้ายเลวทรามเป็นอย่างยิ่ง!แม้แต่สุนัขที่อยู่ริมถนน แค่ถูกพวกเขาชายตามอง ก็หวาดกลัวแทบตายในขณะนี้ หลังจากที่รู้ชื่อของทั้งสามคนนี้แล้ว เจียงคุน หวงเทา และต่งชิงหนิงก็ตกใจกลัวจนพูดอะไรไม่ออก“แย่แล้วแย่แล้ว ม
เซียวเป่ยเขม่นตา ยกมือขึ้น และคว้าหมัดของชายชุดเขียวเอาไว้ทันที!กรอบ!วินาทีต่อมา เซียวเป่ยใช้กำลัง หักแขนชายชุดสีเขียว!ทันใดนั้น ชายชุดสีเขียวก็กรีดร้องออกมาราวกับว่าเป็นหมูที่กำลังถูกเชือดทั้งแขนขวาของเขา หักงอเป็นมุมเก้าสิบองศา!ตรงที่กระดูกหักมีเนื้อเลือดไหลออกมาชายชุดสีเขียวยังไม่ทันจะได้โต้ตอบ เซียวเป่ยก็ยกมือขึ้น แล้วบีบคอของอีกฝ่ายเอาไว้ จากนั้นก็บิดมันอย่างแรง จนคอหักทันที!ชายชุดสีเขียวตาย โดยที่ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตนเองตายยังไงใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ก็ตายเสียแล้วจนกระทั่งร่างของชายชุดเขียว ตกลงไปพื้นอย่างอ่อนปวกเปียก เจียงคุนและคนอื่นๆต่างก็พากันตกใจกลัวจนใบหน้าซีดเผือด!น่ากลัวเหลือเกิน!ฆ่าตายในไม่กี่วินาทีอีกแล้ว...เซียวเป่ยคนนี้ เป็นปีศาจเหรอ?สายตาที่หวงเทาและต่งชิงหนิงมองไปที่เซียวเป่ย เปลี่ยนไปทันทีกลายเป็นความหวาดกลัว กลายเป็นความสงสัย กลายเป็นความเกรงกลัว“น้องสอง!”ชายชุดเทาที่เหลือ คำรามอย่างควบคุมตนเองไม่ได้“ไอ้สารเลว! แกกล้าดียังไงมาฆ่าน้องสามและน้องสองของฉัน!”“ฉันจะสับแกให้เป็นชิ้นๆ!”ชายชุดเทาโมโหสุดขีด จากนั้นบนตัวก็เกิดเสียงดังป
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?