ชายทั้งสามคนเดินเข้ามา พร้อมเจตนาฆ่าอันดุร้ายต่างจากแก๊งแมงป่องพิษก่อนหน้านี้ คนที่มีสายตาที่เฉียบแหลมก็จะมองออกว่า สามคนนี้ถึงจะเป็นฆาตกรตัวจริง!กลิ่นอายแห่งความเลือดเย็นบนร่างกาย และกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรง ทำให้หวงเทาและต่งชิงหนิงหวาดกลัวเป็นอย่างมากพวกเขาทั้งสองคนรีบหลบอยู่ที่ด้านหลังของเจียงคุนสีหน้าของเจียงคุนเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “มีสามคนที่ไม่กลัวความตายมาอีกแล้ว!”ชายในชุดดำในบรรดาคนทั้งสามคน กวาดสายตามองไปที่ชายสักแมงป่องพิษและคนอื่นๆที่นอนอยู่บนพื้น ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “แกเป็นทำเหรอ?”“ฉันเอง! แล้วจะทำไม!”เจียงคุนแสดงตัวออกมา แล้วยืนอยู่แนวหน้า และพูดอย่างโอหังว่า: “ทำไม พวกนายทั้งสามอยากถูกทุบตีเหมือนกันเหรอ?”“เหอะๆ...ช่างจองหองจริงๆ!ฉันกลัวว่าอีกสักพักแกจะต้องคุกเข่าขอความเมตตา”ชายในชุดดำหัวเราะเยาะเย้ย“ไอ้เวร!แกต่างหากที่จะต้องคุกเข่าลงร้องขอความเมตตา!”“คิดว่าคนเยอะแล้วฉันจะกลัวพวกแกเหรอ? ฉันจบจากสถาบันศิลปะการต่อสู้เมืองหลวงแห่งมณฑลเชียวนะ และก็ติดหนึ่งในห้าอันดับแรกด้วย!”เจียงคุนโกรธจัด ขณะที่เขาพูด ก็เข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว กระ
เมื่อเจียงคุนได้ยินดังนี้ ก็ตกตะลึง!โดยเฉพาะตอนที่เขาเห็นคู่ต่อสู้ดึงมีดยาวออกมา ก็หวาดกลัวจนสั่นสะท้านไปทั้งตัวคนนอกกฎหมายนึกไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะเป็นพวกนอกกฎหมาย!ถ้าอย่างนั้นก็แย่แล้วแต่ทว่า กู้โย่เสวี่ยอยู่ข้างหลังเขา เจียงคุนจะยอมแพ้ไม่ได้ เขากัดฟัน และตะโกนว่า: “ถ้าแกเก่งจริง ก็บอกชื่อของพวกแกมา!”ชายชุดดำหัวเราะเยาะ: “ไอ้หนู ฟังให้ดีๆนะ พวกเราคือสามผีแห่งพายัพ!”“อะไรนะ? สามผีแห่งพายัพ?”เมื่อเจียงคุนได้ยินดังนี้ ม่านตาของเขาก็หดลง เหงื่อไหลราวกับว่าเป็นสายฝน“แย่แล้ว! จบแล้ว พวกเขาคือสามผีแห่งพายัพ…”เมื่อหวงเทาและต่งชิงถิงได้ยินดังนี้ ก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวสามผีแห่งพายัพ มีชื่อเสียงด้านความดุร้ายโหดเหี้ยม!ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือทั้งหมด แม้แต่เทพแห่งวิญญาณก็ยังหวาดกลัวบุคคลเหล่านี้พี่น้องทั้งสามคนนี้ ได้สังหารคนไปหลายร้อยคน และเป็นคนที่ดุร้ายเลวทรามเป็นอย่างยิ่ง!แม้แต่สุนัขที่อยู่ริมถนน แค่ถูกพวกเขาชายตามอง ก็หวาดกลัวแทบตายในขณะนี้ หลังจากที่รู้ชื่อของทั้งสามคนนี้แล้ว เจียงคุน หวงเทา และต่งชิงหนิงก็ตกใจกลัวจนพูดอะไรไม่ออก“แย่แล้วแย่แล้ว ม
เซียวเป่ยเขม่นตา ยกมือขึ้น และคว้าหมัดของชายชุดเขียวเอาไว้ทันที!กรอบ!วินาทีต่อมา เซียวเป่ยใช้กำลัง หักแขนชายชุดสีเขียว!ทันใดนั้น ชายชุดสีเขียวก็กรีดร้องออกมาราวกับว่าเป็นหมูที่กำลังถูกเชือดทั้งแขนขวาของเขา หักงอเป็นมุมเก้าสิบองศา!ตรงที่กระดูกหักมีเนื้อเลือดไหลออกมาชายชุดสีเขียวยังไม่ทันจะได้โต้ตอบ เซียวเป่ยก็ยกมือขึ้น แล้วบีบคอของอีกฝ่ายเอาไว้ จากนั้นก็บิดมันอย่างแรง จนคอหักทันที!ชายชุดสีเขียวตาย โดยที่ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตนเองตายยังไงใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ก็ตายเสียแล้วจนกระทั่งร่างของชายชุดเขียว ตกลงไปพื้นอย่างอ่อนปวกเปียก เจียงคุนและคนอื่นๆต่างก็พากันตกใจกลัวจนใบหน้าซีดเผือด!น่ากลัวเหลือเกิน!ฆ่าตายในไม่กี่วินาทีอีกแล้ว...เซียวเป่ยคนนี้ เป็นปีศาจเหรอ?สายตาที่หวงเทาและต่งชิงหนิงมองไปที่เซียวเป่ย เปลี่ยนไปทันทีกลายเป็นความหวาดกลัว กลายเป็นความสงสัย กลายเป็นความเกรงกลัว“น้องสอง!”ชายชุดเทาที่เหลือ คำรามอย่างควบคุมตนเองไม่ได้“ไอ้สารเลว! แกกล้าดียังไงมาฆ่าน้องสามและน้องสองของฉัน!”“ฉันจะสับแกให้เป็นชิ้นๆ!”ชายชุดเทาโมโหสุดขีด จากนั้นบนตัวก็เกิดเสียงดังป
“พัฟ!”ชายชุดเทาอาเจียนเป็นเลือด และจ้องมองที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่หวาดกลัว“แก แกเป็นใคร?”“ทำไมแกถึงได้มีพลังที่น่ากลัวขนาดนี้...”ชายชุดเทากำลังหวาดกลัวเป็นอย่างมาก“ความแข็งแกร่งเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ยังกล้าเรียกตนเองว่าสามผีแห่งพายัพ?”เซียวเป่ยกล่าวอย่างสงบนิ่ง“........”ทั้งสถานที่แห่งนั้น ตายเรียบ!หวงเทาตกใจมาก!ต่งชิงหนิงตกตะลึงจนต้าค้าง!เจียงคุนก็ตะลึงเช่นกัน!“เป็นไปได้ยังไง? ผู้ชายคนนี้ เป็นสัตว์ประหลาดเหรอ?”หวงเทาพูดตะกุกตะกัก และกลืนน้ำลายลงไปสามผีแห่งพายัพ ฉาวโฉ่เรื่องความชั่วร้ายคนรวยรุ่นที่สองอย่างพวกเขาใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนนัยน์ตาของต่งชิงหนิงเบิกกว้าง และรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก“นึกไม่ถึงว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้?”ตอนแรก เธอไม่ชอบเซียวเป่ย และคิดว่าเขาเป็นแค่ผู้ชายหน้ามนคนหนึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่า เธอจะดูผิดไปทักษะฝีมือระดับนี้ จะเป็นหนุ่มหน้ามนได้อย่างไร?แข็งแกร่งยิ่งกว่าเจียงคุนเสียอีก!ในแวดวงศิลปะการต่อสู้ในเมืองหลวงแห่งมณฑล เจียงคุณค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียงเจียงคุนที่นอนอยู่บนพื้น ในเวลานี้แทบจะอยากให้ตนเองหมดส
ไป๋วั่งชวนทำเสียงฮึดฮัดด้วยความโกรธ กลอกตา แล้วต่อว่าทันทีว่า: “เซียวเป่ย การที่โย่เสวี่ยโดนโจมตี เกี่ยวข้องกับนายหรือเปล่า?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และไม่พอใจเป็นอย่างมาก“คุณหมายความว่ายังไง?”เซียวเป่ยพูดเสียงเข้มไป๋วั่งชวนหัวเราะ และกล่าวเยาะเย้ยว่า: “จะหมายความว่าอะไรอีกล่ะ ?ตอนนี้ฉันสงสัยว่า นายเป็นคนดึงดูดคนเหล่านี้มา! แล้วฉวยโอกาสนี้เป็นฮีโร่ช่วยสาวงาม เพื่อจงใจทำให้โย่เสวี่ยพอใจ!”“นายน้อยรองไป๋ จินตนาการของคุณช่างล้ำเลิศจริงๆ ไม่ไปเขียนนิยาย คงจะน่าเสียดายแย่เลย” เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วพูดประชดประชันไปหนึ่งประโยคไป๋วั่งชวนทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา แล้วพูดด้วยความโกรธว่า: “เลิกทำเป็นเสแสร้งได้แล้ว! ใครก็ได้มานี่หน่อย! มาจับตัวผู้ชายคนนี้เอาไว้ที!”คำสั่งนี้ ทำให้บอดี้การ์ดหลายคนที่อยู่ข้างหลังที่ไป๋วั่งชวนพามา ก็ลงมืออย่างรวดเร็ว หมายจะควบคุมตัวเซียวเป่ยเอาไว้“หยุดนะ!”กู้โย่เสวี่ยแสดงตัวออกมา สีหน้าบูดบึ้งสุดขีด และพูดอย่างเย็นชา: “ไป๋วั่งชวน! คุณคิดที่จะทำอะไร?เซียวเป่ยเพิ่งช่วยพวกเราเอาไว้นะ คุณมีสิทธิ์อะไรมาสงสัยเขา?”“โย่เสวี่ย คุณกำลังถูกผู้ชายคนนี้หลอกอยู่นะ! คุณลองคิ
สีหน้าของไป๋วั่งชวนดูตกใจเป็นอย่างมาก!“เป็นไปได้ยังไง?”ไป๋วั่งชวนถามด้วยความประหลาดใจอู๋อิ่งเป็นยอดฝีมือที่เขาเพิ่งย้ายมาจากเมืองหลวงแห่งมณฑล เพื่อจัดการกับเซียวเป่ยโดยเฉพาะคิดไม่ถึงว่า เพิ่งจะได้ปะหน้ากัน ก็พ่ายแพ้ให้กับเซียวเป่ย ด้วยกระบวนท่าเดียวไอ้เซียวเป่ย แข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่?ในขณะนี้ อู๋อิ่งล้มลงกับพื้น กุมหน้าอกเอาไว้แล้วอาเจียนเป็นเลือด มองที่เซียวเป่ยด้วยดวงตาที่ทั้งตกใจและหวาดกลัว“ทำไม ทำไมแกถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้? แกมาจากสำนักไหน?”อู๋อิ่งถามเซียวเป่ยมองลงมาจากมุมสูง พูดด้วยสีหน้าเฉยเมยว่า: “ผมมาจากสำนักไหน คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้”“แต่ สำนักธนูสายฟ้าของพวกคุณ ยังคงอ่อนแอมากเหมือนเดิม”“นอกจากความสามารถในการใช้ธนูแล้ว ความสามารถอื่นๆ ไม่ได้เรื่องเลย”ทันทีที่พูดจบ ราวกับว่ามีสายฟ้าฟาดลงมาบนพื้น!ทันใดนั้นสีหน้สของอู๋อิ่งก็ดูตกใจ มองไปที่เซียวเป่ยด้วยความหวาดกลัว และพูดว่า:“แก แกรู้ว่าฉันเป็นคนสำนักธนูสายฟ้า?”“มีปัญหาอะไรเหรอ?”เซียวเป่ยยิ้มเยาะเย้ยจากนั้น เขาก็ไม่ได้สนใจอู๋อิ่งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสบนพื้น แล้วมองไปที่ไป๋วั่งชวนที่มีสีหน้าที่ซีดเซียวด้วยส
ซูหว่านที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมาก!“เซียวเป่ย! คุณหมายความว่ายังไง? คุณพูดเหน็บแนมแบบนี้ คุณต้องการจะพูดอะไรกันแน่?!”สีหน้าของซูหว่านซีดลงด้วยความโกรธอีตาบ้าเซียวเป่ย เขาทำอย่างนี้ได้ยังไง!เซียวเป่ยหัวเราะเหอะๆ และพูดว่า “ประธานซู สิ่งที่ผมพูดยังไม่ชัดเจนพอเหรอ? คุณอยากให้ผมพูดตรงกว่านี้ไหม?”ซู่วานขมวดคิ้วที่สวยงาม และพูดอย่างเย็นชาว่า: “คุณพูดมา!ฉันก็อยากจะได้ยินเหมือนกันว่า ฉันยังจะสามารถพูดอะไรออกมาได้อีก!”“ประธานซู พวกเราอย่าได้พบกันอีกต่อไปเลย คุณเตรียมงานแต่งงานของคุณกับฉินเฟิงให้ดีๆเถอะ”เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่ง และไม่อยากพูดอะไรกับซูหว่านอีกต่อไปขณะที่กำลังจะวางสาย ฝั่งของซูหว่านก็ตะโกนว่า: “เซียวเป่ย!”“ทำไม ประธานซูยังมีธุระอะไรอีกเหรอ?”เซียวเป่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้วซูหว่านโกรธมาก และพูดด้วยความโกรธ: “ฉันแต่งงานกับฉินเฟิง ก็เพราะว่าคุณบีบบังคับฉัน!”“ผมบังคับคุณเหรอ? ผมบังคับคุณยังไง?”เซียวเป่ยเลิกคิ้วอย่างไม่พอใจซูหว่านเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและต้องการที่ระบายความโกรธ
.......ทางด้านไป๋วั่งชวน หลังจากที่กลับมาจากโรงแรมที่ตนเองพักแล้ว ก็รู้สึกเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมาก“เศษสวะ!เศษสวะ!”ไป๋วั่งชวนเตะอู๋อิ่ง ที่ได้รับบาดเจ็บจนล้มกลิ้งลงกับพื้นอู๋อิ่งล้มลงกับพื้น แล้วคร่ำครวญว่า: “นายน้อยรองไป๋ ผมมีความแข็งแกร่งไม่พอ”สีหน้าของไป๋วั่งชวนเต็มไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ แล้วตำหนิว่า:“สำนักธนูสายฟ้าหนอสำนักธนูสายฟ้า พวกนายไม่ได้พูดจาโอ้อวดไว้ว่า ในโลกใบนี้ไม่มีศัตรูใดสามารถต่อกรกับตนเองได้ไม่ใช่เหรอ?”“ผลสุดท้ายเป็นยังไง?”“แต่กลับต้องมาพ่ายแพ้ให้กับไอ้เศษสวะคนหนึ่ง! มันช่างน่าอับอายมากจริงๆ!”อู๋อิ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ไป๋วั่งชวนนั่งบนโซฟาด้วยความโกรธ หลังจากความโกรธทุเลาลงแล้ว สีหน้าก็เคร่งขรึม แล้วถามว่า: “บอกมา ว่าฉันควรจะทำยังไงดี? ไอ้หนุ่มคนนั้นโอหังอวดดีขนาดนั้น ถ้าไม่สั่งสอนเขา ฉันทนยอมรับไม่ได้หรอกนะ!”อู่อิ่งรีบลุกขึ้นยืน ยืนอยู่ข้างๆ โค้งคำนับแล้วพูดด้วยความเคารพว่า: “นายน้อยรองไป๋ ผมยังมีศิษย์พี่อีกคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในนักธนูที่เก่งที่สุดในสำนักธนูสายฟ้าของพวกเรา ถ้าเชิญเขาออกมาจากเขา ไม่จำเป็นต้องต่อสู้ในระยะใกล้ แค่ต่อสู้จากระยะไกล ก็สามารถ
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?