หลังจากกลับมาดังแล้ว ด้วยบุคลิกที่สนุกสนานและตลกขบขันของสวี่จือเชียน จึงดึงดูดแฟนคลับนับสิบล้านคนตอนนี้ ตั๋วคอนเสิร์ตของเขาหนึ่งใบ นักเก็งกำไรสามารถขายได้หลายหมื่นบาท!แขกรับเชิญพิเศษทั้งสี่ท่าน ล้วนเป็นซูเปอร์สตาร์ทั้งหมดทันใดนั้น ความนิยมของรายการแพทย์ดีเด่นแห่งหัวเซี่ย ก็พุ่งกระฉูดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยพุ่งทะยานสู่สามอันดับแรกของหัวข้อที่มีผู้ค้นหามากที่สุด!นอกจากนี้ ประเด็นหัวข้อยอดนิยมมากมาย ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่จำนวนผู้ชมในห้องไลฟ์สด จากไม่กี่แสนคน ก็เพิ่มขึ้นเป็นหลักล้านคนในทันที!และกำลังพุ่งทะยานขึ้นสู่หลักสิบล้านคน!“ว้าว! สวี่จือเชียน สวี่จือเชียน!”“โอ้สวรรค์ เดิมคิดว่าเป็นรายการที่น่าเบื่อ แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมและแขกรับเชิญที่โด่งดังขนาดนี้ รายการนี้คงจะทุ่มเงิน ไปเยอะมากๆเลย!”“ก็ใช่น่ะสิ ฉันได้ยินมาว่า ค่าตัวของหยางต้ามี่แค่ตอนเดียว หลายสิบล้านบาทเชียวนะ!”“โอ้โห! โฉมหน้าอาจารย์ที่ปรึกษาและคณะกรรมการคนดังที่ได้รับเชิญมาเป็นพิเศษ ล้วนเป็นตัวแทนของกลุ่มที่มีความสามารถและเป็นที่นิยมชมชอบ รายการในคืนนี้ จะต้องดังเป็นพลุแตกแน
ผู้กำกับจางนั่งอยู่หลังกล้องแถวแรกในกลุ่มผู้ชม นั่งประจำการหลักโซนวีไอพีพิเศษที่อยู่ถัดไป มีฟางจั๋วและผู้นำคนอื่นๆในเมืองอีกหลายคนนั่งอยู่การแข่งขันและรายการนี้ เมืองเจียงจงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งนี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะโปรโมตเมืองเจียงจง และเป็นโอกาสที่ดีที่แก้ไขความเข้าใจผิดที่มีต่อการแพทย์แผนจีน และเป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างเมืองเจียงจงให้เป็นสวนอุตสาหกรรมทางการแพทย์แผนจีนในอนาคตดังนั้น ฟางจั๋วในฐานะผู้อำนวยการสำนักการแพทย์แผนจีน จึงต้องแบกความรับผิดชอบหนักมาก“เลขาหวัง ผู้เข้าแข่งขันคนแรกที่กำลังจะขึ้นเวที ชื่อเซียวเป่ย เขามีศาสตร์ทางการแพทย์ที่ดีมาก ผมให้เขารักษาให้ครั้งหนึ่ง ก็สามารถรักษาโรคที่ผมเป็นมาหลายปีให้หายขาดได้”“ยิ่งกว่านั้น เซียวเป่ยคนนี้ ยังรักษาโรคเรื้อรังของคุณเว่ยเหล่าและโรคเรื้อรังของนายท่านของตระกูลกู้ให้หายได้ ศาสตร์ทางการแพทย์ยอดเยี่ยมมาก!”“คุณรู้สึกจุกเสียดหน้าอกมาเป็นเวลานานแล้วไม่ใช่เหรอ อีกเดี๋ยวพอเขาลงเวทีแล้ว ผมจะจัดการให้คุณ ให้แพทย์เซียนเซียวมาช่วยตรวจดูให้คุณหน่อย”ฟางจั๋วพูดกับหวังจื้อเสียนที่สวมชุดสูทสีดำอยู่ข้างๆ พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้
เซียวจ้านไม่พูดอะไร ส่ายหัวเล็กน้อย เพื่อแสดงท่าทีของตนเองและภาพเหตุการณ์นี้ ก็ได้ถูกไลฟ์สดออกไปทันใดนั้น ก็มีการแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนอินเทอร์เน็ต“ฮ่าฮ่าฮ่า! จางต้าต้าปากคอเราะรายเกินไปแล้ว ถ้าพูดได้ก็พูดให้มากกว่านี้หน่อย”“ก็ธรรมดามากจริงๆ ถ้าคนไม่รู้ อาจจะคิดว่าเป็นแรงงานเกษตรกรขึ้นเวทีเสียอีก”“คงจะไม่ใช่กลุ่มตัวประกอบค่าตัวพันบาท ที่ขึ้นเวทีมาเพื่อสร้างประเด็นขบขันหรอกนะ?”“นี่คือการแข่งขันการแพทย์แผนจีนเหรอ? รู้สึกเหมือนมาเพื่อเป็นตัวตลกเฉยๆ คนแบบนี้ก็สามารถขึ้นเวทีได้ ถ้าอย่างนั้นสัตวแพทย์ที่อยู่ข้างบ้านฉันก็จะขึ้นไปโชว์ฝีมือได้เหมือนกันน่ะสิ?”ภายในสถานที่จัดการแข่งขันหลังจากที่พิธีกรแนะนำรายการและขั้นตอนของการแข่งขันในครั้งนี้แล้ว ท่านผู้ชมที่อยู่ในสถานที่จัดการแข่งขันทั้งหมดและท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องไลฟ์สด ต่างก็เข้าใจเช่นกันสกัดยา!สกัดยาตามใบสั่งยาที่ทีมอาจารย์ที่ปรึกษากำหนดให้ จากนั้นอาจารย์ที่ปรึกษาทั้งสี่ท่านก็จะทำการประเมินและให้คะแนนกฎกติกาง่ายมาก“เริ่มกันเลย”อาจารย์ที่ปรึกษาทั้งสี่ที่อยู่ด้านล่างเวที ต่างก็รู้จักเซียวเป่ยหลี่ชิงซานพูดอย
เป็นคนแรกที่ปิดไฟ!ทั่วทั้งสถานที่จัดงานเกิดความฮือฮาทีมผู้กำกับ และท่านผู้ชมที่อยู่ในสถานที่จัดการแข่งขัน รวมถึงทั้งท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องไลฟ์สด ต่างก็พากันตกตะลึง!“โอ้สวรรค์! ปิดไฟเหรอแล้ว? มันเร็วเกินไปไหม”“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉวยโอกาสไม่สำเร็จยังขาดทุนอีกต่างหาก เด็กคนนั้นอยากจะเอาใจมวลชน คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้คณะอาจารย์โกรธ”“ถือถุงพลาสติกขึ้นบนเวที ช่างเป็นเรื่องที่แปลกจริงๆ ตลกเกินไปแล้ว”“นี่เป็นรายการตลกเหรอ? ผู้ชายคนนี้ตลกเกินไปแล้ว แบบนี้แล้วยังจะกล้าขึ้นเวทีอีก อยากจะถูกคัดออกหรือยังไง?”ในขณะที่ท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องไลฟ์สดต่างกำลังพากันถกเถียงอย่างดุเดือด บนที่นั่งโซนVIP ซูหว่านมองไปที่เซียวเป่ยที่ถือถุงพลาสติกบนเวที ก็เอามือปิดหน้าเอาไว้ เธอรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ ลูกดูสิ ลูกดูไว้ ไอ้สารเลวเซียวเป่ยนั่น ไม่รู้สึกอับอายแม้แต่น้อยจริงๆ โชคดีที่ลูกหย่ากับเขาแล้ว ไม่อย่างนั้นลูกคงจะถูกหัวเราะเยาะไปด้วย!”สีหน้าของหยางเหม่ยหลันเต็มไปด้วยการตำหนิติเตียน และก็ด่าสาดเสียใส่เซียวเป่ยไม่หยุดหลี่เซียวลี่ก็กล่าวเยาะเย้ยตามว่า: “ช่างน่าขันจริงๆ เป็นแบบนี้ ยังคิดอยาก
ในขณะที่ชาวเน็ตกำลังด่าทออยู่นั้น เซียวเป่ยได้นำเตายาของตนเอง ไปถึงพื้นที่สกัดยาแล้วเขาเหลือบมองสมุนไพรที่อยู่ตรงนั้นก่อน จากนั้นจึงเริ่มเลือกสมุนไพร ตามใบสั่งยาที่อยู่ในใจของตนเองทุกขั้นตอน ทุกการเคลื่อนไหว ดูไปแล้ว สบายๆมากในที่สุด เซียวเป่ยก็เลือกสมุนไพรที่ตนเองต้องการเสร็จ จากนั้นก็เริ่มสกัดยาในเวลานี้ ซ่งเหวินซงที่อดทนไม่ไหวแล้ว ก็กดปุ่มปิดไฟเลื่อนขั้น!ทั่วทั้งสถานที่จัดงานแข่งขัน ต่างก็ฮือฮา!ไฟดับไปอีกหนึ่งดวงแล้วหากไฟดับไปอีกหนึ่งดวง เซียวเป่ยก็จะหมดสิทธิ์ในการเลื่อนขึ้นในเวลานี้ ฉินเฟิงที่นั่งอยู่ในโซนวีไอพี ยิ้มอย่างเบิกบานใจ แล้วกล่าวว่า: “หว่านเอ๋อร์ คุณดูสิ ไฟดับไปอีกดวงแล้ว”“การแข่งขันแบบนี้ นึกไม่ถึงว่าเขาจะทำเล่นเหมือนเด็กขายของ ถ้าให้คนพรรค์นี้อยู่ข้างกาย ไม่รู้เลยว่าเขาจะทำเรื่องน่าอับอายอะไรออกมาอีกบ้าง”หยางเหม่ยหลันกล่าวเสริมว่า: “ใช่แล้ว เสี่ยวฉินพูดถูก หว่านเอ๋อร์ อย่าหาว่าแม่ว่าลูกเลยนะ จากนี้ไป ลูกอย่าไปมาหาสู่กับคนน่าอายอย่างไอ้เซียวเป่ยคนนี้อีกเด็ดขาด! น่าอับอาย น่าอับอายจริงๆ!”“พอเถอะค่ะแม่ หยุดพูดได้แล้ว”ซูหว่านกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว มองเซ
เซียวเป่ยที่อยู่บนเวที ย่อมได้ยินคำถามของพิธีกรอย่างแน่นอน มือที่กำลังสกัดยาหยุดเคลื่อนไหวเล็กน้อย แต่ก็ดำเนินการต่อไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ซูหว่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆนัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชา แล้วพูดว่า: “ในฐานะอดีตภรรยา ฉันหวังว่าเขาจะสามารถเลื่อนขั้นได้ แต่ในฐานะท่านผู้ชม ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำได้”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกไป ทั่วทั้งสถานที่จัดงานก็เกิดความฮือฮาท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องไลฟ์สด ก็เริ่มถกเถียงพูดคุยกันอย่างดุเดือด“ฉันก็คิดว่าเขาทำไม่ได้เช่นกัน!”“แม้แต่อดีตภรรยาก็ไม่คิดว่าจะทำได้ ทำไมเซียวเป่ยคนนี้ถึงได้กล้าที่จะขึ้นไปแข่งขันบนเวทีล่ะ?”“ฉันกล้าพนันได้เลยว่า เซียวเป่ยจะต้องถูกคัดออกอย่างแน่นอน!”ในขณะเดียวกัน ในห้องพักผ่อน เฉียวฮุ่ยมองไปที่เซียวเป่ยที่กำลังสกัดยาอยู่บนเวทีผ่านหน้าจอ คิ้วที่สวยงามของเธอก็ขมวดลงเล็กน้อยวิธีการสกัดยาของเซียวเป่ยนั้นพิเศษมาก เป็นวิธีที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน“เขารู้วิธีการสกัดยาจริงๆเหรอ?” เฉียวฮุ่ยเกิดความสงสัยอยู่ในใจในสถานที่จัดงานแข่งขัน ในโซนที่นั่งพิเศษ หวังจื้อเซียนมองไปที่เซียวเป่ยที่กำลังสกัดยาอยู่บนเวที
เพราะว่า คำพูดของเขาเต็มไปด้วยคำโกหก!ในที่สุด ซูหว่านก็ถอนสายตาออกไปจากเซียวเป่ย แล้วเหลือบมองกู้โย่เสวี่ยที่อยู่อีกฝั่งนึงแน่นอนว่ากู้โย่เสวี่ยก็สังเกตเห็นสายตาของซูหว่านเหมือนกัน เธอจึงยิ้มเบาๆในเวลานี้ กล้องบังเอิญแพนไปที่กู้โย่เสวี่ยทั่วทั้งสถานที่จัดการแข่งขันก็ฮือฮาอีกครั้ง“ว้าว!สาวงามผู้เลอโฉมอีกคนหนึ่ง!”“นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นคุณหนูของตระกูลกู้ เธอช่างสวยอย่างไม่บันยะบันยังจริงๆ”“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า สายตาที่คุณหนูตระกูลกู้คนนั้นมองเซียวเป่ยที่อยู่บนเวที ไม่ธรรมดาเลย”ในขณะนี้พิธีกรก็ถามด้วยรอยยิ้มว่า: “คุณหนูกู้ ฉันได้ยินมาว่า เซียวเป่ยที่อยู่บนเวทีคนนี้ คือเพื่อนของคุณ คุณคิดว่า เขายังมีโอกาสที่จะได้เลื่อนขั้นอยู่ไหม?”กู้โย่เสวี่ยยิ้ม มองที่เซียวเป่ยและไฟดวงสุดท้ายที่เหลืออยู่ แล้วพูดว่า “แม้ว่าไฟทั้งหมดจะดับลง ฉันก็เชื่อว่า เขาจะสามารถเลื่อนขั้นได้”พูดจบ กู้โย่เสวี่ยก็เสยคางขึ้น แล้วมองซูหว่านด้วยสายตาที่เย่อหยิ่งซูหว่านขมวดคิ้วชั่วครู่เดียว ผู้หญิงทั้งสองมองหน้ากันผ่านทางอากาศ ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมแพ้ในสถานที่จัดงาน ทันทีที่กู้โย่เสวี่ยพูดจบ ก็เกิดความฮ
ผู้ชมทั้งหมดต่างก็พากันทอดถอนใจไฟทั้งสี่ดวงดับลงหมดแล้ว ยังมีอะไรที่ควรค่าแก่การดูอีก?อาจารย์ที่ปรึกษาทั้งสี่ท่านก็ขมวดคิ้ว และเริ่มถกเถียงคุยกันขึ้นมาในโซนที่นั่งวีไอพี หยางเหม่ยหลันกล่าวเยาะเย้ยอย่างเหยียดหยามว่า: “เด็กคนนี้ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ? นี่ยังอับอายไม่พอหรือไง!”“คุณป้าหยางคะ ยิ่งน่าอายเท่าไร ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อพวกเรามากขึ้นเท่านั้น?” หลี่เซียวลี่พูดด้วยรอยยิ้มที่ประชดประชันเมื่อหยางเหม่ยหลันได้ยินดังนี้ ก็พยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยเย้าแหย่ในเวลานี้ ซูหว่านทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอลุกขึ้น รีบไปด้านข้าง หยิบไมโครโฟนสำรองขึ้นมา แล้วบอกเซียวเป่ยที่อยู่บนเวทีว่า: “เซียวเป่ย! คุณจะก่อความวุ่นวายไปถึงเมื่อไหร่กัน?”“คุณไม่คิดว่าการที่ตนเองทำแบบนี้ มันน่าอายมากเหรอ?”“ทำไมคุณถึงไม่ยอมที่จะเผชิญหน้ากับตนเองล่ะ?”เซียวเป่ยที่อยู่บนเวที ขมวดคิ้ว มองซูหว่านที่อยู่ในที่นั่งวีไอพีด้านล่างเวที แล้วถามกลับไปว่า: “คุณคิดว่าผมกำลังก่อความวุ่นวาย?”“แล้วมันไม่ใช่เหรอ? ไฟทั้งสี่ดวงได้ดับลงไปแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณอยากจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น?”“คุณมันก็เป็นแค่คนต่ำช้าเต็มประดา แ
ซูเทียนห้าวตอบว่า: “ฉันรู้แล้ว! พี่สาวของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เสียงเย้าแหย่ดังมาจากอีกด้านของโทรศัพท์: “คุณวางใจได้ ไม่ตายหรอก พอคุณควบคุมบริษัทได้สำเร็จ และได้รับเงินสองร้อยห้าสิบล้านบาทมาเมื่อไหร่ พี่สาวของคุณก็จะกลับไปได้แล้ว”“ได้! แต่ฉันขอเตือนพวกแกนะ อย่าแตะต้องพี่สาวของฉัน!”ซูเทียนห้าวกล่าวอย่างเย็นชาชายฉกรรจ์ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล พวกเราทำงาน เชื่อถือได้แน่นอน”พูดจบ อีกฝ่ายก็วางสายโทรศัพท์ทันทีซูเทียนห้าวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่กลับไม่ได้ผ่อนคลายเลย“พี่ครับ ผมขอโทษ... แต่ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้! ผมอยากจะพิสูจน์ตนเองว่า ผมไม่ใช่เศษสวะ! ผมมีความสามารถ!” ซูเทียนห้าวกล่าวเบาๆ ความเย็นชาแวบขึ้นมาในนัยน์ตา............ตัดภาพมาที่เซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานอยู่ในร้าน พอมองดูเวลา ก็พบว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้วเห็นได้ชัดว่าเขากังวลมาก จึงถามว่า: “ปรมาจารย์เซียวเป่ย ไป๋อู๋ฉางนั่นจะกลับมาจริงๆเหรอ?”“ถ้าเธอยังไม่อยากตาย เธอก็จะมา ” เซียวเป่ยพูดอย่างสงบนิ่งทันทีที่พูดจบ ที่ประตูร้านขายของชำ ก็มีร่างลับๆล่อๆร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ร่างนั้นเดินโซเซเล็
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พิษศพที่อยู่บนมือของชายชราในชุดดำ ในเวลานี้ได้ย้อนกลับ กระจายไปตามแขนของชายชรา และบุกเข้าไปจนถึงหน้าอก!เนื่องจากมีพิษศพอยู่บนร่างกายของเขามากเกินไป ในชั่วพริบตาเดียว ชายชราในชุดดำก็ล้มลงกับพื้น คร่ำครวญไม่สายขาด ผิวหนังทั้งตัวเปลี่ยนไปเป็นสีดำ และเริ่มเปื่อยเน่าทางด้านฝั่งนี้ เมื่อหญิงชราในชุดขาวเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจจนมีสีหน้าที่ซีดเผือด ยังไม่ทันได้ครุ่นคิดอะไร ก็หันหลังกลับและวิ่งหนี!เธอรู้ดีว่า คืนนี้ได้พบกับยอดฝีมือแล้ว“คิดจะหนี มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”เมื่อเซียวเป่ยเห็นหญิงชราในชุดขาวคิดจะวิ่งหนี ก็ยกมือขึ้นแล้วยิงเข็มเงินออกไปอีกสองสามเล่มหญิงชราในชุดขาวตอบสนองกลับแบบมีเงื่อนไข เธอเหวี่ยงไม้อาดูรที่อยู่ในมือ จากนั้นก็เกิดเสียงดังตึกตึกตึก และมีประกายไฟขึ้นมาเล็กน้อยทันทีแม้ว่าเข็มเงินส่วนใหญ่จะถูกสกัดกั้น แต่ก็มีเข็มเงินสองสามเล่มที่เจาะเข้าไปที่หน้าของหญิงชราชุดขาว และมีอีกเข็มหนึ่งในนั้นเจาะไปที่ตาของเธอ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทันทีแต่หญิงชราชุดขาวกลับไม่คิดที่จะต่อสู้กลับเลยแม้แต่น้อย หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป พร้อมกับเสียงดังฟรึ่บ
เซียวเป่ยพยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “มาเร็วดีนี่”“แกจะตายเอง หรือว่าให้ฉันลงมือ?” ชายชราในชุดดำ ถามด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดุร้ายในสายตาของเขา จัดการกับเด็กหนุ่มอย่างเซียวเป่ยนั้น เป็นอะไรที่ง่ายมากเดิมคิดว่าจะเป็นยอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งอะไร คิดไม่ถึงว่า จะเป็นเด็กเหลือขอที่อ่อนหัดคนหนึ่งสิ่งนี้ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางที่อยากจะต่อสู้อย่างจริงจัง รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากเซียวเป่ยยิ้มด้วยสีหน้าที่สงบนิ่งรอยยิ้มนี้ ทำให้เฮยไป๋อู๋ฉางขมวดคิ้วแน่นเด็กคนนี้ กำลังยิ้มเยาะเย้ยอยู่เหรอ?“ดูเหมือนว่า แกจะเลือกให้พวกเราลงมือ” เฮยอู๋ฉางกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เผยให้เห็นฟันเหลืองของเขาและในเวลานี้ กู้โย่เสวี่ยที่นั่งคว่ำหน้านอนอยู่บนโต๊ะก็ตื่นขึ้นมา ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปที่ร่างของทั้งสองคนที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นในร้าน และถามอย่างงุนงงว่า: “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”ในเวลานี้ เฮยอู๋ฉางก็ลงมือทันที เขาใช้ฝ่ามือ โจมตีเซียวเป่ยผ่านทางอากาศ!ฝ่ามือนี้ ลมที่อยู่ตรงฝ่ามือแฝงไปด้วยหมอกควันสีดำ และมีกลิ่นเหม็นมากระทบมาที่ใบหน้า!กู้โย่เสวี่ยตกใจมากจนร้องเสียงดัง และลืมที่จะหลบหลีกเซียวเป่ย
พอรับสาย เสียงซักถามด้วยความเกรี้ยวโกรธของซูหว่านก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: “เซียวเป่ย คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”เซียวเป่ยชะงักไป รู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า: “ประธานซู ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่?”“ยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกเหรอ?เป่ยเสวี่ยมาส์ก คุณจะอธิบายยังไง!” ซูหว่านซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดว่า “เป่ยเสวี่ยมาส์ก? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”“เซียวเป่ย! คุณไม่คิดว่าตนเองในตอนนี้ ไร้ยางอายมากเหรอ?” ซูหว่านโกรธมากตอนนี้การที่เซียวเป่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ มันเหมือนกับว่าเขาจงใจโอ้อวด“ผมไร้ยางอาย?”เซียวเป่ยขมวดคิ้ว และรู้สึกโกรธขึ้นมามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยซูหว่านกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ยังจำสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม?คุณบอกว่าตนเองจะไม่พึ่งพาใคร เพื่อจะพิสูจน์ให้ฉันเห็น! แล้วตอนนี้ล่ะ? สุดท้ายคุณก็พึ่งพาคุณหนูตระกูลกู้คนนั้น แล้วแอบทำอะไรกับมาส์กหน้านั่น!”“ไม่อย่างนั้น อาศัยแค่ตัวคุณเอง จะมีคุณสมบัติไปถึงอันดับที่สี่ของรายการยอดขายระดับประเทศเหรอ?”หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซียวเป่ยก็เพิ่งตอบ
“หัวหน้าตระกูลฮั่ว คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า? เศษสวะอย่างไอ้เซียวเป่ยเนี่ยนะ ช่วยชีวิตคุณ?”ฉินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจทันใดนั้นสีหน้าของฮั่วเจิ้งซานก็เปลี่ยนไปเป็นแย่มากทันที และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ประธานฉินใช่ไหม ผมจะเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะ ได้โปรดให้เกียรติปรมาจารย์เซียวด้วย!”พูดจบ ฮั่วเจิ้งซานก็เฉยเมยต่อสีหน้าที่ประหลาดใจของฉินเฟิง และกล่าวกับเซียวเป่ยว่า: “ปรมาจารย์เซียว พวกเราไปกันเถอะ”เซียวเป่ยพยักหน้า เดินตามฮั่วเจิ้งซานไปขึ้นรถแล้วจากไปซูหว่านกับฉินเฟิงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยงุนงงสงสัย“แม่งเอ๊ย! ทำเป็นวางมาด? ไม่รู้ว่าใช้วิธีการสกปรกอะไรในการหลอกลวงหัวหน้าตระกูลฮั่ว!” ฉินเฟิงบ่นอย่างไม่พอใจสายตาของซูหว่าน มองดูรถที่กำลังจากไปอยู่ตลอดเวลา และรู้สึกอึดอัดอยู่ใจเป็นอย่างมากไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอเห็นท่าทีที่ฮั่วเจิ้งซานมีต่อเซียวเป่ย ทำให้ซูหว่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากตนเองเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?ตนรู้สึกเกรงใจและชื่มชมฮั่วเจิ้งซาน แต่เขากลับเคารพนบนอบต่อเซียวเป่ยเป็นอย่างมาก“หว่านเอ๋อร์ เป็นอะไรไปเหรอ?”เมื่อฉินเฟิงเห็นซูหว่านจ้องมองรถที
“พ่อหนุ่มคิดว่า ยาอายุวัฒนะแค่เม็ดเดียว สามารถพูดคำเหล่านี้ต่อหน้าฉันฉินเทียนหู่ได้อย่างนั้นเหรอ?”ในขณะนี้พอหลิวเซียนเหนียงได้ยินคำพูดของเซียวเป่ย ก็ขมวดคิ้วอันสวยงาม และรู้สึกว่าเซียวเป่ยใจกล้าเกินไปแล้วสีหน้าของเซียวเป่ยไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วกล่าวว่า: “พักนี้ท่านฉินรู้สึกแน่นหน้าอกตลอดเวลาใช่ไหม ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเป็นเวลานาน?”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า: “ช่างนี้ฉันนอนไม่หลับ มีปัญหาอะไรไหม?”เซียวเป่ยส่ายหัวแล้วกล่าวว่า: “ท่านฉิน นี่ไม่ใช่อาการนอนไม่หลับ แต่เป็นเพราะพลังงานรั่วไหล และสูญเสียพลังชีวิต ถ้าผมดูไม่ผิด ท่านฉินไม่เพียงแต่นอนไม่หลับเท่านั้น แต่ยังรู้สึกชาที่แขนขาด้วย บางครั้งอาจจะเป็นลมหมดสติไปชั่วขณะ”ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกมา สายตาของฉินเทียนหู่ก็เปลี่ยนไปทันทีทำไมเด็กคนนี้ ถึงได้พูดได้แม่นยำขนาดนี้?แต่ว่า แพทย์ที่อยู่ข้างกายตนบอกว่าตนเองไม่เป็นไร แค่ทำงานหนักจนเกินไป พักผ่อนให้เยอะๆก็พอแล้วดังนั้น ฉินเทียนหู่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เอาล่ะ ฉันมีหมอประจำตัวอยู่ข้างกาย ถ้ามีปัญหา ไม่จำเป็นต้องให้พ่อหนุ่มมาเตือนฉั
หลิวเซียนเหนียงหันกลับมา จ้องมองเซียวเป่ยด้วยสีหน้าท่าทางที่สงสัยและประหลาดใจแล้วถามว่า “นี่คือยาที่คุณทำเหรอ?”“ใช่” เซียวเป่ยตอบอย่างเรียบง่ายบนใบหน้าที่สวยงามของหลิวเซียนเหนียงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณหลิวเห็นอะไรไหม?มันเป็นของจริงหรือของปลอม?”ผู้มีอิทธิพลคนอื่นๆ ต่างก็พากันเอ่ยปากสอบถามกันเป็นแถว“หลิวเซียนเหนียง คุณพูดมาตามตรงเถอะ”“ตามความคิดของผม ยาอายุวัฒนะบ้าอะไรเนี่ย เป็นของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์!”“ท่านฉิน ท่านสามารถดำเนินการได้เลย”เมื่อได้ยินเสียงเย้าแหย่ของคนที่อยู่รอบข้าง สีหน้าของเซียวเป่ยก็ยังคงเต็มไปด้วยความเฉยเมยสีหน้าของฉินเทียนหู่ก็เคร่งขรึมสุดขีดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลิวเซียนเหนียงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน ตัดสินด้วยตนเองในใจ เขามองไปที่เซียวเป่ยด้วยสีหน้าที่แย่มาก โบกมือแล้วพูดว่า: “ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวเด็กคนนี้เอาไว้เดี๋ยวนี้!”ทันทีที่พูดจบ บอดี้การ์ดสองก็กำลังจะลงมือ“เดี๋ยวก่อน”ทันใดนั้น หลิวเซียนเหนียงก็เอ่ยปากพูด“คุณหลิว?” ฉินเทียนหู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยหลิวเซียนเหนียงมองไปที่เซียวเป่ยอีกครั้ง ดูเหมือนจ
“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรู้ไหมว่า คนที่หลอกลวงฉันฉินเทียนหู่จะต้องมีจุดจบอย่างไร!”ฉินเทียนหู่โกรธ!เห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยมีใครกล้าเย้าแหย่ตนเอง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ยาอายุวัฒนะ?ยืดอายุขัยได้อีกห้าปี?ยาล้ำค่าเช่นนี้ จะใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อได้อย่างไร?เซียวเป่ยกลับยิ้มเบาๆแล้วกล่าวว่า “ตอนที่ออกมาผมรีบมาก ผมหากล่องไม่เจอ ก็เลยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อ”ฉินเทียนหู่ขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด ราวกับว่าเป็นเสือร้ายที่กำลังจะบ้าคลั่ง!ใครก็ได้มานี่ที! จับตัวไอ้หนุ่มที่มาก่อความวุ่นวายคนนี้ให้ฉันหน่อย!”ฉินเทียนหู่ตะคอกด้วยความโกรธทันใดนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ด้านหลังฉินเทียนหู่ก็แสดงตัวออกมา เอามือจับตรงสะเอว และจ้องมองเซียวเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาเซียวเป่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ท่านฉิน ดูยาอายุวัฒนะของผมก่อนค่อยว่ากัน?”“ยังต้องดูอีกเหรอ?”ฉินเทียนหู่พูดอย่างย็นชาฮั่วเจิ้งซานรีบเกลี้ยกล่อมว่า: “ท่านฉิน ท่านอย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย ปรมาจารย์เซียวไม่มีเจตนาอื่น ถ้าคุณยอมที่จะเชื่อผม โปรดให้โอกาสปรมาจารย์สักครั้ง ดูยาอายุวัฒนะนี้หน่อย
ทันทีที่เซียวเป่ยพูดคำเหล่านี้ออกมา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นทันที“ยาอายุวัฒนะ?”“ยาอายุวัฒนะอะไร? ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”“พ่อหนุ่ม รู้ไหมว่านี่เป็นวาระโอกาสแบบไหน? ถ้ายังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ก็ไสหัวออกไปซะ!”ทุกคนดูไม่เป็นมิตรมาก และพากันตำหนิเซียวเป่ยฮั่วเจิ้งซานก็ตกตะลึง และตื่นตระหนกเล็กน้อย จากนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้วอธิบายว่า: “ทุกท่าน ต้องขออภัยด้วย ยาอายุวัฒนะที่ปรมาจารย์เซียวกล่าวถึง... เป็นยาที่เขาเพิ่งจะกลั่นทำด้วยตนเองเมื่อสักครู่นี้”หลังจากพูดประโยคนี้จบ สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็เปลี่ยนไป ตอนแรกรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็รู้สึกสงสัย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกโกรธ!เพียะ!ซุนฝูลู่วางถ้วยชาลงบนโต๊ะน้ำชาที่อยู่ด้านขวามืออย่างแรง และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า: “ท่านหัวหน้าตระกูลฮั่ว ผมให้คุณพาไอ้หนุ่มคนนี้เข้ามา ก็ถือว่าแหกกฎแล้ว ตอนนี้ไอ้หนุ่มคนนี้ยังกล้ามาพูดจาไร้สาระ และจะใช้ยาอายุวัฒนะที่พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อนอะไรนั่นแลกกับหินจิตวิญญาณ แถมยังเป็นของที่เขาทำขึ้นมาด้วยตนเองอีกด้วย”“ปรมาจารย์ฮั่ว คุณคิดว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ โง่เขลาเบาปัญญามากหรือยังไง?