หน้ามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง…
หญิงสาวร่างเล็กกำลังยืนรอคนขับรถของที่บ้านที่จะมารับในทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียน ทว่าวันนี้คนขับรถกลับไม่มาตามเวลาเหมือนอย่างเคยอีกทั้งยังเลทเวลาไปเกือบชั่วโมงแล้วด้วย เธอเองก็ได้แต่ยืนรอ สายตาก็จับจ้องไปที่หน้าถนนหวังว่าจะได้เห็นรถที่จะมารับเธอเร็วๆ นี้
ตู๊ด~
( ฮัลโหล )
"ป้าคะพ่อกับแม่ไปไหน"
( คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายยังไม่กลับมาเลยนะคะ ว่าแต่คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ )
"ลูกตาลยืนรอคนขับรถมาพักใหญ่ๆ แล้วค่ะแต่ไม่เห็นคนขับรถมาเลย"
( ตายจริง ป้าลืมบอกเลยค่ะคนขับรถลาออกไปแล้วค่ะ )
"อ้าว...ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวลูกตาลนั่งรถแท็กซี่กลับก็ได้"
( ได้ค่ะคุณหนู )
หญิงสาวเดินออกไปโบกรถแท็กซี่จากนั้นก็นั่งรถแท็กซี่กลับบ้านของตัวเอง ถ้ารู้ว่าไม่มีใครมารับเธอก็คงจะกลับบ้านไปตั้งแต่ทีแรกแล้วแต่นี่เธอไม่รู้ว่าคนขับรถนั้นลาออกไปแล้ว
**********
"ให้ขับรถตามไปไหมครับนาย?" ลูกน้องเอ่ยถามขึ้น
"ไม่ต้อง กลับได้เลย"
"ครับนาย"
ลูกน้องเลี้ยวรถกลับในทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านาย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าบ้านของเธออยู่ที่ไหนจึงไม่จำเป็นต้องตามไปให้มันเสียเวลา
บ้านลูกตาล...
"คุณหนู..."
"พ่อกับแม่ยังไม่กลับมาอีกหรอคะ?" เธอเอ่ยถามแม่บ้านที่เดินมาหาเธอ เพราะระหว่างทางเธอเองก็คิดว่าพ่อกับแม่คงจะกลับมาแล้ว แต่พอมาถึงเธอยังไม่เห็นพ่อกับแม่เลยแม้กระทั่งรถที่พ่อกับแม่ใช้ประจำก็ไม่เห็น
"ยังเลยค่ะคุณหนู"
"ทำไมคนขับรถที่บ้านของเราถึงลาออกล่ะคะ?"
"อย่าว่าแต่คนขับรถเลยค่ะคุณหนู ตอนนี้แม่บ้านก็จะลาออกกันอยู่แล้ว"
"กะ เกิดอะไรขึ้นคะ?"
"คุณหนูคงยังไม่ทราบสินะคะ ทั้งคนขับรถทั้งแม่บ้านไม่ได้รับเงินเดือนมาจะเป็นสามเดือนแล้วค่ะ พอไม่ได้เงินเดือนทุกคนก็เลยขัดสนเรื่องเงินน่ะค่ะ จะอยู่แบบนี้ต่อไปก็ไม่มีเงินส่งกลับทางบ้าน ทุกคนก็เลยต้องลาออกไปหางานอื่นทำ"
"ทำไมลูกตาลถึงไม่รู้เรื่องนี้เลยคะ"
"คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายคงกำลังหาทางออกเรื่องนี้กันอยู่และก็คงไม่อยากให้คุณหนูคิดมากเรื่องนี้ด้วยล่ะมั้งคะ"
"....." เพราะเธอไม่รู้เรื่องนี้เลยจึงทำให้เธอตกใจมาก ทั้งที่เธอก็ยังได้เรียนได้เงินจากพ่อกับแม่ตามปกติโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ทางบ้านกำลังขัดสนเรื่องเงินกันอยู่
"คุณหนูหิวหรือเปล่าคะเดี๋ยวป้าไปทำกับข้าวให้"
"ไม่เป็นไรค่ะ ลูกตาลยังไม่หิว ขอขึ้นไปทำงานของอาจารย์ก่อนนะคะ"
"ค่ะ"
..............
หญิงสาวขังตัวเองอยู่ในห้องจนกระทั่งได้ยินเสียงรถดังเข้ามาในบ้าน เธอรีบลงไปหาพ่อกับแม่ในทันที สิ่งแรกที่เธอได้เห็นคือพ่อกับแม่ของเธอลงมาจากรถแท็กซี่ ไม่ใช่รถที่ทั้งสองใช้ขับออกไปไหนมาไหนเป็นประจำ
"พ่อคะแม่คะ รถไปไหนคะทำไมถึงนั่งแท็กซี่มา?"
"....." ไม่มีใครตอบอะไรเธอเลยแม้แต่คำเดียว ทั้งสองเดินผ่านเธอไปราวกับว่าเธอนั้นเป็นเพียงอากาศและคำพูดก็เหมือนลมที่พัดผ่านหู เธอไม่เคยถูกเมินแบบนี้มาก่อนเลย
"พ่อคะแม่คะ..."
"มีอะไร?"
"มันเกิดอะไรขึ้นคะที่บ้านของเรา"
"ที่บ้านของเรากำลังจะล้มละลาย บ้านก็กำลังจะโดนธนาคารยึด ของมีค่าทั้งหมดก็เอาไปขายมาใช้หนี้หมดแล้ว เงินก้อนนี้ที่เหลือฉันจะเอาไปจ่ายให้กับพวกแม่บ้านที่เขายังไม่ได้เงินเดือน"
"....."
"ลูกตาลแม่ขอร้องอะไรสักอย่างได้ไหมลูก"
"อะไรคะ?"
"เลิกเรียนก่อนได้ไหม พ่อกับแม่ไม่มีกำลังจะส่งให้เราเรียนแล้ว ถ้าพ่อกับแม่ไม่ล้มละลายก็คงจะส่งเราเรียนได้อยู่ แต่ตอนนี้แม้แต่เงินจะกินยังไม่มีเลย"
"ทะ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะคะ มันเกิดอะไรขึ้น?"
"บริษัทมีปัญหาน่ะ ก็เลยต้องเอาของมีค่าในบ้านไปใช้หนี้บ้านก็เอาไปฝากขายกับธนาคารเอาไว้แล้วด้วยอีกไม่นานก็ครบกำหนดที่จะต้องหาเงินไปคืนธนาคารแล้วถ้าไม่มีเงินก็ต้องย้ายออก"
"....." พอตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้วเธอถึงกับจุกจนพูดไม่ออกเลย เธอสงสารพ่อกับแม่และอยากเรียนต่อเหมือนกันเพราะเธอนั้นเป็นคนที่รักกันเรียนมาโดยตลอด พอรู้ว่าตัวเองจะต้องออกจากมหาวิทยาลัยแบบนี้ก็รู้สึกเสียดายขึ้นมาในทันที
"พรุ่งนี้ไปลาออกซะนะ"
"ค-ค่ะ..." เธอตอบเสียงแผ่ว อีกทั้งยังเสียงสั่นเหมือนคนจะร้องไห้อีกต่างหาก เธอกลับขึ้นไปด้านบนก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะทำงานที่ตรงหน้ามีงานของมหาวิทยาลัยอยู่
พอตอนเช้าเธอก็ใส่ชุดปกติธรรมดาที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษาไปที่มหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่
"ทำไมจู่ๆ ถึงอยากจะมาลาออกล่ะ?"
"เอ่อ...พอดีว่าที่บ้านมีปัญหานิดหน่อยค่ะ"
"มีอะไรให้อาจารย์ช่วยไหม นักศึกษาที่เรียนเก่งๆ ฝีมือดีๆ แบบนี้อาจารย์ก็อยากให้เรียนต่อนะไม่อยากให้เราเสียอนาคต"
"อาจารย์ช่วยไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงหนูก็ต้องลาออก ช่วยเซ็นให้หน่อยนะคะ"
"....."
"หนูไม่มีทางเลือกค่ะ นี่ก็เป็นทางเดียวที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้านให้พ่อกับแม่ด้วย"
"ได้สิ..."
แกร๊ก~
"อ้าว มีแขกหรอกเหรอ?" มีคนเปิดประตูเข้ามาที่ห้องผอ.ซึ่งทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ต้องหันกลับไปมองเช่นกัน และเธอก็จำได้ว่าเป็นผู้ชายที่เคยเข้ามาช่วยเธอในตอนนั้น
"เปล่าๆ นักศึกษามาลาออกน่ะแกมีอะไร"
"มีเรื่องงานจะคุยด้วยน่ะ"
"อ๋อ..."
"ถ้างั้นฉันไปรออยู่ข้างนอกก็แล้วกันนะ"
"เออๆ"
.............
แกร๊ก~
"เธอ..."
"คะ?"
"เธอมาลาออกหรอ?"
"ค่ะ"
"ทำไมถึงลาออกล่ะเพิ่งเข้าเรียนเองไม่ใช่หรอ?"
"ค่ะ แต่พอดีมีปัญหานิดหน่อยก็เลยต้องลาออกค่ะ"
"ถึงขั้นลาออกจากมหาวิทยาลัยคงไม่ใช่นิดหน่อยแล้วมั้ง"
"....."
"มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?"
"ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ ขอบคุณนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ"
"เดี๋ยวก่อนสิ..."
"....."
"ฉันเห็นใจเธอนะ ถ้าอยากให้ฉันช่วยก็มาหาฉันตามนามบัตรนี้"
"....."
"หรือถ้าเธอไม่กล้า ก็ให้พ่อกับแม่เธอมาหาฉันเองก็ได้"
"ขอบคุณมากค่ะ"
เธอรับนามบัตรที่เขายื่นให้ใส่กระเป๋าจากนั้นก็เดินออกมาในทันที
"มึงคิดจะทำอะไรไอ้วิน?"
"เปล่าก็แค่อยากช่วย"
"คนอย่างมึงคงไม่คิดช่วยใครฟรีๆ ใช่ไหม"
"ฮึ!" เขาเค้นหัวเราะ เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทนั้นจับได้ว่าเขาไม่ได้บริสุทธิ์ใจจริงๆ ที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเด็กสาว
"ไอ้วิน.."
พอเขียนใบลาออกเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็กลับบ้านในทันทีโดยที่ไม่ได้แวะไปที่ไหนต่อ ถึงแม้จะเสียดายเรื่องการเรียนของตัวเองมากแค่ไหนแต่เธอก็ขัดคำสั่งของพ่อกับแม่ไม่ได้"กลับมาแล้วค่ะ..." เธอพูดขึ้นเมื่อก้าวขาเดินเข้าไปในบ้าน ทว่าภายในบ้านกลับเงียบกริบราวกับว่าบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียวเธอเดินเข้าไปดูในครัวก็ไม่เจอใครเลยบนห้องนอนที่พ่อกับแม่ของเธอควรจะอยู่ก็ไม่มีตู๊ด~ ตู๊ด~ ตู๊ด~เธอหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วกดโทรออกไปหาผู้เป็นแม่ ทว่าไม่มีใครรับสายเลยแม้แต่คนเดียว ก่อนที่เธอจะเหลือบไปเห็นบางอย่าง เป็นซองจดหมายสีขาวถูกทับไว้ด้วยแจกันถึงลูกตาล... ถ้าหนูกลับมาได้เห็นจดหมายนี้แล้ว แม่อยากจะให้หนูเอาเงินในซองนี้ไปเช่าห้องอยู่ก่อนนะ พ่อกับแม่ต้องออกไปหางานทำหาเงินมาใช้หนี้เขา ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก พออ่านจดหมายจบมือของเธอทั้งสองข้างมันก็สั่นไปหมดเลย เพราะเธอไม่คิดว่าเธอจะมาถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่ลำพังเพียงคนเดียว ถึงพ่อกับแม่ของเธอจะบอกว่าต้องออกไปหางานทำ แต่เธอก็ไม่คิดว่าตัวเธอจะถูกทิ้งเอาไว้ตามลำพังแบบนี้ตึก ตึก ตึก"ฮึก...พวกคุณเป็นใครหรอคะ" ลูกตาลรีบเช็ดน้ำตาแล้วหันกลับไปพูดกับคน
น้ำตาลถูกพามายังบ้านของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งจะขึ้นรถมาด้วยก่อนหน้านี้ บ้านของเขาอยู่ในซอยถัดจากบ้านของเธอไปไม่ไกลสักเท่าไร แต่เธอกลับไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้ง"เสื้อผ้าค่ะคุณหนู""ขอบคุณค่ะ""เดี๋ยวช่วยเตรียมห้องว่างให้ผมด้วยนะครับ""ได้ค่ะคุณวิน""คุณจะให้หนูนอนที่นี่หรอคะ?""แล้วเธอจะไปนอนที่ไหนได้ นี่มันก็เย็นแล้วนะ"".....""นอนที่นี่ไปก่อนฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอด้วย แต่เอาไว้ค่อยคุยกันหลังกินข้าวเสร็จก็แล้วกัน""ค่ะ"เธอไม่มีทางเลือก ถึงแม้จะมีเงินติดตัวอยู่มากพอที่จะไปเช่าห้องอยู่ได้หลายวันแต่เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปทางไหนต่อ เงินที่มีหากเอาจับจ่ายใช้สอยไปมันก็หมดได้อยู่ดีน้ำตาลเปลี่ยนเสื้อผ้าที่แม่บ้านนำมาให้เธอเปลี่ยน จากนั้นก็ไปกินข้าวพร้อมกับเขา ด้วยท่าทีที่สุขุมทำให้เธอรู้สึกเกร็งเวลาได้เผชิญหน้ากับเขา แต่คงเป็นเพราะเขาอายุมากกว่าเธอหลายปีมากกว่า"คุณ...มีอะไรจะพูดกับหนูหรอคะ?""บอกแล้วไงว่าเอาไว้พูดหลังกินข้าว""หนูอิ่มแล้วค่ะ...""กินอย่างกับแมวดมตัวถึงได้เล็กแบบนี้"".....""ขึ้นไปอาบน้ำแล้วก็รออยู่ในห้อง เดี๋ยวฉันจะตามขึ้นไป""เอ่อ..." พอได้ยินแบบนั้นแล้วก็รู้สึกเกร็ง คำพูด
ห้างสรรพสินค้า...หญิงสาวมาซื้อของที่ห้างตามที่เขาบอกอยู่เมื่อวาน แต่มากับคนขับรถของที่บ้านและบอดี้การ์ดที่มาคอยถือของให้กับเธออีกหนึ่งคนตามคำสั่งของเขา เพราะตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นเขาอยู่ที่บ้านแล้วไม่รู้ว่าออกไปทำงานตั้งแต่เช้าหรือออกไปตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับก็ไม่รู้"ผมขอเอาของกลับไปไว้ที่รถให้ก่อนนะครับแล้วจะรีบกลับมา""ค่ะ"ในขณะที่คนที่มาช่วยถือของกำลังเอาของกลับไปเก็บที่รถหญิงสาวก็เดินเลือกซื้อของที่ยังซื้อไม่เสร็จไปด้วยเพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลามากตึก!"อ๊ะ! ขอโทษค่ะ""เฮ้ย...ตาไม่มีดูหรือไงวะถึงได้มาชนคนอื่นแบบนี้""ขอโทษจริงๆค่ะฉันไม่ทันมองคุณเองก็มัวแต่ก้มเล่นโทรศัพท์นี่คะ""นี่เธอโทษฉันหรอ?""เปล่าค่ะก็แค่พูดในสิ่งที่ตาเห็น ฉันผิดที่ฉันไม่ทันได้ระวังส่วนคุณก็ผิดที่เอาแต่ก้มเล่นโทรศัพท์จนไม่มองทาง" เห็นเธอเงียบๆ แบบนี้แต่เธอก็เป็นคนที่พูดอะไรตรงไปตรงมาและไม่ยอมเสียเปรียบให้ใครเด็ดขาด และเธอก็ไม่ชอบคนที่ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แล้วยังมาหาเรื่องอีกต่างหาก"ฉันเดินของฉันดีๆ เล่นโทรศัพท์แล้วไงวะ โทรศัพท์ฉันไหม เธอนั่นแหละที่ไม่ดู""ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยค่ะ""หน้าตาก็ดีแต่เสียดายปาก
เขา เป็นคนที่เข้ามาทำให้ฉันหวั่นไหว ทำให้ฉันหลงรัก เขาบอกว่าฉันไม่เหมือนใคร ฉันไม่ได้ซื่อบื้อฉันไม่ได้ใสซื่อฉันแค่อ่อนโยนกับคนอื่นมากก็เท่านั้นเองเพราะเป็นรักแรกจึงทำให้ฉันหลงรักผู้ชายคนนี้ได้อย่างง่ายดาย เราตกลงคบกันโดยที่ครอบครัวก็รู้ เพราะงั้นฉันจึงไว้ใจเขามาก จนกระทั่งเราสองคนได้แต่งงานกัน นิสัยของเขาก็เปลี่ยนไปทุกอย่าง ทั้งคำพูดสายตาการกระทำ มันไม่ใช่เขาคนเดิมที่ฉันเคยรู้จักเลย และสิ่งที่ทำให้ฉันช็อคมากกว่าเดิมคือเขาพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านกอดจูบลูบคลำต่อหน้าฉัน โดยที่ไม่ได้นึกถึงจิตใจของคนที่เป็นเมียตีทะเบียนอย่างฉันเลยหลังจากนั้นเราก็มีการทะเลาะกันบ้างส่วนมากเขาจะไม่สนใจฉันมากกว่าจะทำเป็นเหมือนว่าฉันเป็นอากาศในสายตาของเขาซะมากกว่าฉันเองก็ได้แต่คิดว่าฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าหน้าที่ของภรรยาบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า แต่ฉันก็คิดว่าฉันทำหน้าที่นี้ได้อย่างดี แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงเป็นแบบนั้น**************************ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งหญิงสาวก้าวขาเดินเข้าไปอย่างเงอะๆ งะๆ จากทางด้านหลังประตูซึ่งไม่ต้องผ่านการตรวจใดๆ ทั้งสิ้น ในมือของเธอมีเอกสารอยู่ ซึ่งเพื่อนของเธอไหว้วานให้เธ
ห้างสรรพสินค้า...หญิงสาวมาซื้อของที่ห้างตามที่เขาบอกอยู่เมื่อวาน แต่มากับคนขับรถของที่บ้านและบอดี้การ์ดที่มาคอยถือของให้กับเธออีกหนึ่งคนตามคำสั่งของเขา เพราะตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นเขาอยู่ที่บ้านแล้วไม่รู้ว่าออกไปทำงานตั้งแต่เช้าหรือออกไปตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับก็ไม่รู้"ผมขอเอาของกลับไปไว้ที่รถให้ก่อนนะครับแล้วจะรีบกลับมา""ค่ะ"ในขณะที่คนที่มาช่วยถือของกำลังเอาของกลับไปเก็บที่รถหญิงสาวก็เดินเลือกซื้อของที่ยังซื้อไม่เสร็จไปด้วยเพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลามากตึก!"อ๊ะ! ขอโทษค่ะ""เฮ้ย...ตาไม่มีดูหรือไงวะถึงได้มาชนคนอื่นแบบนี้""ขอโทษจริงๆค่ะฉันไม่ทันมองคุณเองก็มัวแต่ก้มเล่นโทรศัพท์นี่คะ""นี่เธอโทษฉันหรอ?""เปล่าค่ะก็แค่พูดในสิ่งที่ตาเห็น ฉันผิดที่ฉันไม่ทันได้ระวังส่วนคุณก็ผิดที่เอาแต่ก้มเล่นโทรศัพท์จนไม่มองทาง" เห็นเธอเงียบๆ แบบนี้แต่เธอก็เป็นคนที่พูดอะไรตรงไปตรงมาและไม่ยอมเสียเปรียบให้ใครเด็ดขาด และเธอก็ไม่ชอบคนที่ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แล้วยังมาหาเรื่องอีกต่างหาก"ฉันเดินของฉันดีๆ เล่นโทรศัพท์แล้วไงวะ โทรศัพท์ฉันไหม เธอนั่นแหละที่ไม่ดู""ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยค่ะ""หน้าตาก็ดีแต่เสียดายปาก
น้ำตาลถูกพามายังบ้านของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งจะขึ้นรถมาด้วยก่อนหน้านี้ บ้านของเขาอยู่ในซอยถัดจากบ้านของเธอไปไม่ไกลสักเท่าไร แต่เธอกลับไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้ง"เสื้อผ้าค่ะคุณหนู""ขอบคุณค่ะ""เดี๋ยวช่วยเตรียมห้องว่างให้ผมด้วยนะครับ""ได้ค่ะคุณวิน""คุณจะให้หนูนอนที่นี่หรอคะ?""แล้วเธอจะไปนอนที่ไหนได้ นี่มันก็เย็นแล้วนะ"".....""นอนที่นี่ไปก่อนฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอด้วย แต่เอาไว้ค่อยคุยกันหลังกินข้าวเสร็จก็แล้วกัน""ค่ะ"เธอไม่มีทางเลือก ถึงแม้จะมีเงินติดตัวอยู่มากพอที่จะไปเช่าห้องอยู่ได้หลายวันแต่เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปทางไหนต่อ เงินที่มีหากเอาจับจ่ายใช้สอยไปมันก็หมดได้อยู่ดีน้ำตาลเปลี่ยนเสื้อผ้าที่แม่บ้านนำมาให้เธอเปลี่ยน จากนั้นก็ไปกินข้าวพร้อมกับเขา ด้วยท่าทีที่สุขุมทำให้เธอรู้สึกเกร็งเวลาได้เผชิญหน้ากับเขา แต่คงเป็นเพราะเขาอายุมากกว่าเธอหลายปีมากกว่า"คุณ...มีอะไรจะพูดกับหนูหรอคะ?""บอกแล้วไงว่าเอาไว้พูดหลังกินข้าว""หนูอิ่มแล้วค่ะ...""กินอย่างกับแมวดมตัวถึงได้เล็กแบบนี้"".....""ขึ้นไปอาบน้ำแล้วก็รออยู่ในห้อง เดี๋ยวฉันจะตามขึ้นไป""เอ่อ..." พอได้ยินแบบนั้นแล้วก็รู้สึกเกร็ง คำพูด
พอเขียนใบลาออกเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็กลับบ้านในทันทีโดยที่ไม่ได้แวะไปที่ไหนต่อ ถึงแม้จะเสียดายเรื่องการเรียนของตัวเองมากแค่ไหนแต่เธอก็ขัดคำสั่งของพ่อกับแม่ไม่ได้"กลับมาแล้วค่ะ..." เธอพูดขึ้นเมื่อก้าวขาเดินเข้าไปในบ้าน ทว่าภายในบ้านกลับเงียบกริบราวกับว่าบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียวเธอเดินเข้าไปดูในครัวก็ไม่เจอใครเลยบนห้องนอนที่พ่อกับแม่ของเธอควรจะอยู่ก็ไม่มีตู๊ด~ ตู๊ด~ ตู๊ด~เธอหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วกดโทรออกไปหาผู้เป็นแม่ ทว่าไม่มีใครรับสายเลยแม้แต่คนเดียว ก่อนที่เธอจะเหลือบไปเห็นบางอย่าง เป็นซองจดหมายสีขาวถูกทับไว้ด้วยแจกันถึงลูกตาล... ถ้าหนูกลับมาได้เห็นจดหมายนี้แล้ว แม่อยากจะให้หนูเอาเงินในซองนี้ไปเช่าห้องอยู่ก่อนนะ พ่อกับแม่ต้องออกไปหางานทำหาเงินมาใช้หนี้เขา ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก พออ่านจดหมายจบมือของเธอทั้งสองข้างมันก็สั่นไปหมดเลย เพราะเธอไม่คิดว่าเธอจะมาถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่ลำพังเพียงคนเดียว ถึงพ่อกับแม่ของเธอจะบอกว่าต้องออกไปหางานทำ แต่เธอก็ไม่คิดว่าตัวเธอจะถูกทิ้งเอาไว้ตามลำพังแบบนี้ตึก ตึก ตึก"ฮึก...พวกคุณเป็นใครหรอคะ" ลูกตาลรีบเช็ดน้ำตาแล้วหันกลับไปพูดกับคน
หน้ามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง…หญิงสาวร่างเล็กกำลังยืนรอคนขับรถของที่บ้านที่จะมารับในทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียน ทว่าวันนี้คนขับรถกลับไม่มาตามเวลาเหมือนอย่างเคยอีกทั้งยังเลทเวลาไปเกือบชั่วโมงแล้วด้วย เธอเองก็ได้แต่ยืนรอ สายตาก็จับจ้องไปที่หน้าถนนหวังว่าจะได้เห็นรถที่จะมารับเธอเร็วๆ นี้ตู๊ด~( ฮัลโหล )"ป้าคะพ่อกับแม่ไปไหน"( คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายยังไม่กลับมาเลยนะคะ ว่าแต่คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ )"ลูกตาลยืนรอคนขับรถมาพักใหญ่ๆ แล้วค่ะแต่ไม่เห็นคนขับรถมาเลย"( ตายจริง ป้าลืมบอกเลยค่ะคนขับรถลาออกไปแล้วค่ะ )"อ้าว...ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวลูกตาลนั่งรถแท็กซี่กลับก็ได้"( ได้ค่ะคุณหนู )หญิงสาวเดินออกไปโบกรถแท็กซี่จากนั้นก็นั่งรถแท็กซี่กลับบ้านของตัวเอง ถ้ารู้ว่าไม่มีใครมารับเธอก็คงจะกลับบ้านไปตั้งแต่ทีแรกแล้วแต่นี่เธอไม่รู้ว่าคนขับรถนั้นลาออกไปแล้ว**********"ให้ขับรถตามไปไหมครับนาย?" ลูกน้องเอ่ยถามขึ้น"ไม่ต้อง กลับได้เลย""ครับนาย"ลูกน้องเลี้ยวรถกลับในทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านาย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าบ้านของเธออยู่ที่ไหนจึงไม่จำเป็นต้องตามไปให้มันเสียเวลาบ้านลูกตาล..."คุณหนู...""พ่อกับ
เขา เป็นคนที่เข้ามาทำให้ฉันหวั่นไหว ทำให้ฉันหลงรัก เขาบอกว่าฉันไม่เหมือนใคร ฉันไม่ได้ซื่อบื้อฉันไม่ได้ใสซื่อฉันแค่อ่อนโยนกับคนอื่นมากก็เท่านั้นเองเพราะเป็นรักแรกจึงทำให้ฉันหลงรักผู้ชายคนนี้ได้อย่างง่ายดาย เราตกลงคบกันโดยที่ครอบครัวก็รู้ เพราะงั้นฉันจึงไว้ใจเขามาก จนกระทั่งเราสองคนได้แต่งงานกัน นิสัยของเขาก็เปลี่ยนไปทุกอย่าง ทั้งคำพูดสายตาการกระทำ มันไม่ใช่เขาคนเดิมที่ฉันเคยรู้จักเลย และสิ่งที่ทำให้ฉันช็อคมากกว่าเดิมคือเขาพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านกอดจูบลูบคลำต่อหน้าฉัน โดยที่ไม่ได้นึกถึงจิตใจของคนที่เป็นเมียตีทะเบียนอย่างฉันเลยหลังจากนั้นเราก็มีการทะเลาะกันบ้างส่วนมากเขาจะไม่สนใจฉันมากกว่าจะทำเป็นเหมือนว่าฉันเป็นอากาศในสายตาของเขาซะมากกว่าฉันเองก็ได้แต่คิดว่าฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าหน้าที่ของภรรยาบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า แต่ฉันก็คิดว่าฉันทำหน้าที่นี้ได้อย่างดี แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงเป็นแบบนั้น**************************ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งหญิงสาวก้าวขาเดินเข้าไปอย่างเงอะๆ งะๆ จากทางด้านหลังประตูซึ่งไม่ต้องผ่านการตรวจใดๆ ทั้งสิ้น ในมือของเธอมีเอกสารอยู่ ซึ่งเพื่อนของเธอไหว้วานให้เธ