ห้างสรรพสินค้า...
หญิงสาวมาซื้อของที่ห้างตามที่เขาบอกอยู่เมื่อวาน แต่มากับคนขับรถของที่บ้านและบอดี้การ์ดที่มาคอยถือของให้กับเธออีกหนึ่งคนตามคำสั่งของเขา เพราะตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นเขาอยู่ที่บ้านแล้วไม่รู้ว่าออกไปทำงานตั้งแต่เช้าหรือออกไปตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับก็ไม่รู้
"ผมขอเอาของกลับไปไว้ที่รถให้ก่อนนะครับแล้วจะรีบกลับมา"
"ค่ะ"
ในขณะที่คนที่มาช่วยถือของกำลังเอาของกลับไปเก็บที่รถหญิงสาวก็เดินเลือกซื้อของที่ยังซื้อไม่เสร็จไปด้วยเพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาก
ตึก!
"อ๊ะ! ขอโทษค่ะ"
"เฮ้ย...ตาไม่มีดูหรือไงวะถึงได้มาชนคนอื่นแบบนี้"
"ขอโทษจริงๆค่ะฉันไม่ทันมองคุณเองก็มัวแต่ก้มเล่นโทรศัพท์นี่คะ"
"นี่เธอโทษฉันหรอ?"
"เปล่าค่ะก็แค่พูดในสิ่งที่ตาเห็น ฉันผิดที่ฉันไม่ทันได้ระวังส่วนคุณก็ผิดที่เอาแต่ก้มเล่นโทรศัพท์จนไม่มองทาง" เห็นเธอเงียบๆ แบบนี้แต่เธอก็เป็นคนที่พูดอะไรตรงไปตรงมาและไม่ยอมเสียเปรียบให้ใครเด็ดขาด และเธอก็ไม่ชอบคนที่ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แล้วยังมาหาเรื่องอีกต่างหาก
"ฉันเดินของฉันดีๆ เล่นโทรศัพท์แล้วไงวะ โทรศัพท์ฉันไหม เธอนั่นแหละที่ไม่ดู"
"ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยค่ะ"
"หน้าตาก็ดีแต่เสียดายปากเสีย"
"คุณเองก็หน้าตาดีนะคะแต่ทำไมดูไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย" เธอเองก็ตอบกลับเขาไปเช่นกัน เรื่องอะไรจะยอมโดนดูถูกได้ง่ายๆ ล่ะ
"นี่!"
"อ๊ะ!? เจ็บนะคะ!"
"เจ็บสิดีจะได้จำ เธอจะได้รู้ว่าฉันเนี่ยรู้จักกับเจ้าของห้างนี้นะ และพ่อของฉันก็รู้จักตำรวจยศใหญ่ๆ หลายคนเลยด้วย"
"คุณจะมาขู่ฉันทำไมคะ ขู่ไปฉันก็ไม่กลัวหรอกค่ะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด!"
"ผิดที่เธอมาปากเสียใส่คนอย่างฉันไง!"
"แต่คุณก็มาว่าฉันก่อนนี่คะ ลองคิดกลับกันถ้าคุณมาเป็นฉันคุณจะยอมหรือเปล่าล่ะ อีกอย่างคุณเป็นผู้ชายแทนที่จะขอโทษกันสักหน่อย ไม่ใช่มาบังคับให้ฉันขอโทษ"
"....."
"อะ โอ๊ยยย...!!" ผู้ชายตรงหน้าจับแขนของเธอแรงขึ้นอีกทำเอาเธอเจ็บจนหน้าเสียไปหมดแล้ว
หมับ! พลั่ก!
ทันใดนั้นมือของผู้ชายที่จับเธอเอาไว้แน่นก็ถูกดึงออกไปพร้อมกับโดนผลักออกไปจนแทบล้มต่อหน้าเธอ
"คุณน้ำตาลเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?"
"ไม่ค่ะ"
"กล้าดียังไงมาทำคนของคุณภวินทร์"
"....." พอได้ยินอย่างนั้นผู้ชายที่ทำท่าทางอวดดีใส่เธอก่อนหน้านี้ก็ถึงกับหน้าเสียไปเลย ราวกับว่าชื่อนี้ทำให้ผู้ชายคนนี้กลัวมากๆ ทั้งที่ได้ยินแค่ชื่อเอง
"ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูคุณภวินทร์เมื่อไหร่ เป็นเรื่องใหญ่แน่"
"พอเถอะค่ะกลับกันเถอะคนมองหมดแล้ว" น้ำตาลรีบเข้าไปห้ามเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันเริ่มมีการมุงเกิดขึ้น เธอทั้งรู้สึกกลัวรู้สึกอาย เพราะบางคนมองเธอด้วยสายตาที่ไม่ค่อยดีด้วย เหมือนกับว่าผู้ชายสองคนมาทะเลาะกันเพียงเพราะเธอ
"รู้เอาไว้ซะว่านี่คือว่าที่เจ้าสาวของคุณภวินทร์ ใครที่คิดจะทำให้เจ้าสาวของคุณภวินทร์เจ็บมันต้องเจ็บยิ่งกว่า"
"กลับกันเถอะค่ะฉันซื้อของเสร็จแล้ว"
"ครับ"
พอกลับไปถึงรถเธอก็เอาแต่นั่งนิ่งแต่ตัวยังสั่นไม่หาย มือก็จับแขนที่โดนผู้ชายคนนั้นบีบเอาไว้ มันเจ็บหนักขนาดนี้อีกไม่นานคงได้มีรอยเขียวขึ้นมาแน่ๆ
"คุณน้ำตาลไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ"
"ค่ะ เรื่องนี้ไม่ต้องบอกกับคุณวินได้หรือเปล่าคะ"
"ไม่ได้หรอกครับ หน้าที่ของผมคือดูแลคุณและรายงานสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมไม่สามารถปกปิดได้ ถึงผมไม่บอกยังไงคุณภวินทร์ก็ต้องรู้อยู่ดี"
"ฉันไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องร้ายแรง"
"ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกครับ คนบางคนมันก็ควรได้รับการสั่งสอนบ้างถึงจะหลาบจำและไม่มาทำแบบนี้กับใครอีก"
"....."
"คุณไม่ต้องกลัวหรอกครับคุณภวินทร์ไม่ว่าอะไรคุณหรอก"
"ค่ะ"
พอกลับถึงบ้านน้ำตาลก็รีบขึ้นห้องนอนของตัวเองในทันที ส่วนของที่เธอซื้อมาแม่บ้านก็ทยอยขนขึ้นมาให้ เพราะเธอกลัวว่าจะมีคนเห็นรอยที่แขนของเธอซึ่งตอนนี้มันเป็นรอยแดงมากๆ อีกไม่นานก็คงจะเป็นรอยช้ำสีเขียวๆ แน่
"พี่คะมียาทาแก้ฟกช้ำไหมคะ"
"มีนะคะเดี๋ยวลงไปหยิบให้ค่ะ"
หญิงสาวนั่งรอจนกระทั่งแม่บ้านเดินขึ้นมาพร้อมกับยาที่เธอขอไปก่อนหน้านี้
"ให้ช่วยทาให้ไหมคะ"
"ค่ะ"
"ตายจริงเกิดอะไรขึ้นคะทำไมถึงเป็นรอยมือแดงขนาดนี้" เพราะรอยช้ำมันชัดเจนมากทำให้แม่บ้านที่ได้เห็นถึงกับตกใจเลยเช่นกัน แดงช้ำขนาดนี้เธอต้องเจ็บมากแน่ๆ
"เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ"
"ทายาแบบนี้คงไม่หายแค่วันสองวันหรอกนะคะ หายแดงแล้วเดี๋ยวมันก็จะกลายเป็นสีเขียวแล้วก็จะค่อยๆ จางไปเองแต่ก็ต้องใช้เวลา"
"ขอบคุณนะคะ"
"ถ้าคุณน้ำตาลอยากให้ทายาให้ก็เรียกได้เลยนะคะ"
"ค่ะ"
พอแม่บ้านเดินออกไปเธอก็เอาแต่นั่งคิด ว่าจะทำยังไงไม่ให้ภวินทร์ได้มาเห็นรอยบนแขนของเธอ ผิวขาวๆ ของเธอพอมีรอยแดงนิดเดียวก็มองออกแล้ว แต่นี่มันรอยแดงช้ำใหญ่มากๆ เลยด้วยไม่ต้องสังเกตก็มองออก
แกร๊ก~
"คะ คุณวิน..."
"....." ชายหนุ่มเดินเข้ามาประคองแขนของเธอขึ้นแล้วมองดูรอยบนแขนของเธอ ถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดอะไรแต่แววตาและการถอนหายใจหนักๆ ของเขามันทำให้เธอรู้ว่าเขากำลังโกรธมาก
"อยะ อย่าให้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยนะคะ น้ำตาลไม่เป็นอะไรจริงๆ เดี๋ยวมันก็หายแล้วค่ะ"
"ถ้าคนของฉันเข้าไปช่วยเธอไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นเธอรู้หรือเปล่า?!"
"ที่นั่นคนเยอะเขาไม่กล้าทำอะไรหรอกค่ะ"
"....."
"นะคะคุณวิน อย่าทำอะไรที่มันเป็นเรื่องใหญ่เลยนะคะ"
"ฉันคงปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เพราะแบบนี้มันหยามหน้ากันเกินไป หมอนั่นเป็นลูกหนี้ของฉันอยู่แล้วด้วย ถึงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นฉันก็ต้องจัดการอะไรสักอย่างอยู่แล้ว"
"ลูกหนี้?"
"ก็พวกผีพนันที่เข้ามาเล่นในคาสิโนของฉันแล้วดันหมดตัว สุดท้ายก็ต้องมากู้ยืมเงินฉันเพื่อไปเล่นต่อแต่ก็ไม่มีมาคืน"
"คะ คุณจะทำเขาถึงตายไหมคะ..." เธอถามเสียงสั่นเครือ
"เธอกลัวหรอ?" น้ำเสียงของเขาดูอ่อนโยนขึ้น เหมือนกับว่าเขาเห็นเธอกำลังกลัวเลยไม่อยากใช้เสียงที่มันทำให้เธอกลัวมากขึ้นไปอีก
"ค่ะ"
"บางอย่างเธอก็ต้องรู้ว่าโลกภายนอกมันไม่ได้สวยงามอย่างที่เธอคิด"
"....."
"กลับกันมันโหดร้ายจนบางครั้งคนบางคนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อเลยด้วยซ้ำ"
"....."
"เหมือนกับที่ฉันต้องเผชิญมา"
เขา เป็นคนที่เข้ามาทำให้ฉันหวั่นไหว ทำให้ฉันหลงรัก เขาบอกว่าฉันไม่เหมือนใคร ฉันไม่ได้ซื่อบื้อฉันไม่ได้ใสซื่อฉันแค่อ่อนโยนกับคนอื่นมากก็เท่านั้นเองเพราะเป็นรักแรกจึงทำให้ฉันหลงรักผู้ชายคนนี้ได้อย่างง่ายดาย เราตกลงคบกันโดยที่ครอบครัวก็รู้ เพราะงั้นฉันจึงไว้ใจเขามาก จนกระทั่งเราสองคนได้แต่งงานกัน นิสัยของเขาก็เปลี่ยนไปทุกอย่าง ทั้งคำพูดสายตาการกระทำ มันไม่ใช่เขาคนเดิมที่ฉันเคยรู้จักเลย และสิ่งที่ทำให้ฉันช็อคมากกว่าเดิมคือเขาพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านกอดจูบลูบคลำต่อหน้าฉัน โดยที่ไม่ได้นึกถึงจิตใจของคนที่เป็นเมียตีทะเบียนอย่างฉันเลยหลังจากนั้นเราก็มีการทะเลาะกันบ้างส่วนมากเขาจะไม่สนใจฉันมากกว่าจะทำเป็นเหมือนว่าฉันเป็นอากาศในสายตาของเขาซะมากกว่าฉันเองก็ได้แต่คิดว่าฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าหน้าที่ของภรรยาบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า แต่ฉันก็คิดว่าฉันทำหน้าที่นี้ได้อย่างดี แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงเป็นแบบนั้น**************************ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งหญิงสาวก้าวขาเดินเข้าไปอย่างเงอะๆ งะๆ จากทางด้านหลังประตูซึ่งไม่ต้องผ่านการตรวจใดๆ ทั้งสิ้น ในมือของเธอมีเอกสารอยู่ ซึ่งเพื่อนของเธอไหว้วานให้เธ
หน้ามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง…หญิงสาวร่างเล็กกำลังยืนรอคนขับรถของที่บ้านที่จะมารับในทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียน ทว่าวันนี้คนขับรถกลับไม่มาตามเวลาเหมือนอย่างเคยอีกทั้งยังเลทเวลาไปเกือบชั่วโมงแล้วด้วย เธอเองก็ได้แต่ยืนรอ สายตาก็จับจ้องไปที่หน้าถนนหวังว่าจะได้เห็นรถที่จะมารับเธอเร็วๆ นี้ตู๊ด~( ฮัลโหล )"ป้าคะพ่อกับแม่ไปไหน"( คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายยังไม่กลับมาเลยนะคะ ว่าแต่คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ )"ลูกตาลยืนรอคนขับรถมาพักใหญ่ๆ แล้วค่ะแต่ไม่เห็นคนขับรถมาเลย"( ตายจริง ป้าลืมบอกเลยค่ะคนขับรถลาออกไปแล้วค่ะ )"อ้าว...ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวลูกตาลนั่งรถแท็กซี่กลับก็ได้"( ได้ค่ะคุณหนู )หญิงสาวเดินออกไปโบกรถแท็กซี่จากนั้นก็นั่งรถแท็กซี่กลับบ้านของตัวเอง ถ้ารู้ว่าไม่มีใครมารับเธอก็คงจะกลับบ้านไปตั้งแต่ทีแรกแล้วแต่นี่เธอไม่รู้ว่าคนขับรถนั้นลาออกไปแล้ว**********"ให้ขับรถตามไปไหมครับนาย?" ลูกน้องเอ่ยถามขึ้น"ไม่ต้อง กลับได้เลย""ครับนาย"ลูกน้องเลี้ยวรถกลับในทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านาย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าบ้านของเธออยู่ที่ไหนจึงไม่จำเป็นต้องตามไปให้มันเสียเวลาบ้านลูกตาล..."คุณหนู...""พ่อกับ
พอเขียนใบลาออกเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็กลับบ้านในทันทีโดยที่ไม่ได้แวะไปที่ไหนต่อ ถึงแม้จะเสียดายเรื่องการเรียนของตัวเองมากแค่ไหนแต่เธอก็ขัดคำสั่งของพ่อกับแม่ไม่ได้"กลับมาแล้วค่ะ..." เธอพูดขึ้นเมื่อก้าวขาเดินเข้าไปในบ้าน ทว่าภายในบ้านกลับเงียบกริบราวกับว่าบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียวเธอเดินเข้าไปดูในครัวก็ไม่เจอใครเลยบนห้องนอนที่พ่อกับแม่ของเธอควรจะอยู่ก็ไม่มีตู๊ด~ ตู๊ด~ ตู๊ด~เธอหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วกดโทรออกไปหาผู้เป็นแม่ ทว่าไม่มีใครรับสายเลยแม้แต่คนเดียว ก่อนที่เธอจะเหลือบไปเห็นบางอย่าง เป็นซองจดหมายสีขาวถูกทับไว้ด้วยแจกันถึงลูกตาล... ถ้าหนูกลับมาได้เห็นจดหมายนี้แล้ว แม่อยากจะให้หนูเอาเงินในซองนี้ไปเช่าห้องอยู่ก่อนนะ พ่อกับแม่ต้องออกไปหางานทำหาเงินมาใช้หนี้เขา ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก พออ่านจดหมายจบมือของเธอทั้งสองข้างมันก็สั่นไปหมดเลย เพราะเธอไม่คิดว่าเธอจะมาถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่ลำพังเพียงคนเดียว ถึงพ่อกับแม่ของเธอจะบอกว่าต้องออกไปหางานทำ แต่เธอก็ไม่คิดว่าตัวเธอจะถูกทิ้งเอาไว้ตามลำพังแบบนี้ตึก ตึก ตึก"ฮึก...พวกคุณเป็นใครหรอคะ" ลูกตาลรีบเช็ดน้ำตาแล้วหันกลับไปพูดกับคน
น้ำตาลถูกพามายังบ้านของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งจะขึ้นรถมาด้วยก่อนหน้านี้ บ้านของเขาอยู่ในซอยถัดจากบ้านของเธอไปไม่ไกลสักเท่าไร แต่เธอกลับไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้ง"เสื้อผ้าค่ะคุณหนู""ขอบคุณค่ะ""เดี๋ยวช่วยเตรียมห้องว่างให้ผมด้วยนะครับ""ได้ค่ะคุณวิน""คุณจะให้หนูนอนที่นี่หรอคะ?""แล้วเธอจะไปนอนที่ไหนได้ นี่มันก็เย็นแล้วนะ"".....""นอนที่นี่ไปก่อนฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอด้วย แต่เอาไว้ค่อยคุยกันหลังกินข้าวเสร็จก็แล้วกัน""ค่ะ"เธอไม่มีทางเลือก ถึงแม้จะมีเงินติดตัวอยู่มากพอที่จะไปเช่าห้องอยู่ได้หลายวันแต่เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปทางไหนต่อ เงินที่มีหากเอาจับจ่ายใช้สอยไปมันก็หมดได้อยู่ดีน้ำตาลเปลี่ยนเสื้อผ้าที่แม่บ้านนำมาให้เธอเปลี่ยน จากนั้นก็ไปกินข้าวพร้อมกับเขา ด้วยท่าทีที่สุขุมทำให้เธอรู้สึกเกร็งเวลาได้เผชิญหน้ากับเขา แต่คงเป็นเพราะเขาอายุมากกว่าเธอหลายปีมากกว่า"คุณ...มีอะไรจะพูดกับหนูหรอคะ?""บอกแล้วไงว่าเอาไว้พูดหลังกินข้าว""หนูอิ่มแล้วค่ะ...""กินอย่างกับแมวดมตัวถึงได้เล็กแบบนี้"".....""ขึ้นไปอาบน้ำแล้วก็รออยู่ในห้อง เดี๋ยวฉันจะตามขึ้นไป""เอ่อ..." พอได้ยินแบบนั้นแล้วก็รู้สึกเกร็ง คำพูด
ห้างสรรพสินค้า...หญิงสาวมาซื้อของที่ห้างตามที่เขาบอกอยู่เมื่อวาน แต่มากับคนขับรถของที่บ้านและบอดี้การ์ดที่มาคอยถือของให้กับเธออีกหนึ่งคนตามคำสั่งของเขา เพราะตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นเขาอยู่ที่บ้านแล้วไม่รู้ว่าออกไปทำงานตั้งแต่เช้าหรือออกไปตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่กลับก็ไม่รู้"ผมขอเอาของกลับไปไว้ที่รถให้ก่อนนะครับแล้วจะรีบกลับมา""ค่ะ"ในขณะที่คนที่มาช่วยถือของกำลังเอาของกลับไปเก็บที่รถหญิงสาวก็เดินเลือกซื้อของที่ยังซื้อไม่เสร็จไปด้วยเพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลามากตึก!"อ๊ะ! ขอโทษค่ะ""เฮ้ย...ตาไม่มีดูหรือไงวะถึงได้มาชนคนอื่นแบบนี้""ขอโทษจริงๆค่ะฉันไม่ทันมองคุณเองก็มัวแต่ก้มเล่นโทรศัพท์นี่คะ""นี่เธอโทษฉันหรอ?""เปล่าค่ะก็แค่พูดในสิ่งที่ตาเห็น ฉันผิดที่ฉันไม่ทันได้ระวังส่วนคุณก็ผิดที่เอาแต่ก้มเล่นโทรศัพท์จนไม่มองทาง" เห็นเธอเงียบๆ แบบนี้แต่เธอก็เป็นคนที่พูดอะไรตรงไปตรงมาและไม่ยอมเสียเปรียบให้ใครเด็ดขาด และเธอก็ไม่ชอบคนที่ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แล้วยังมาหาเรื่องอีกต่างหาก"ฉันเดินของฉันดีๆ เล่นโทรศัพท์แล้วไงวะ โทรศัพท์ฉันไหม เธอนั่นแหละที่ไม่ดู""ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษด้วยค่ะ""หน้าตาก็ดีแต่เสียดายปาก
น้ำตาลถูกพามายังบ้านของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งจะขึ้นรถมาด้วยก่อนหน้านี้ บ้านของเขาอยู่ในซอยถัดจากบ้านของเธอไปไม่ไกลสักเท่าไร แต่เธอกลับไม่เคยเจอเขาเลยสักครั้ง"เสื้อผ้าค่ะคุณหนู""ขอบคุณค่ะ""เดี๋ยวช่วยเตรียมห้องว่างให้ผมด้วยนะครับ""ได้ค่ะคุณวิน""คุณจะให้หนูนอนที่นี่หรอคะ?""แล้วเธอจะไปนอนที่ไหนได้ นี่มันก็เย็นแล้วนะ"".....""นอนที่นี่ไปก่อนฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอด้วย แต่เอาไว้ค่อยคุยกันหลังกินข้าวเสร็จก็แล้วกัน""ค่ะ"เธอไม่มีทางเลือก ถึงแม้จะมีเงินติดตัวอยู่มากพอที่จะไปเช่าห้องอยู่ได้หลายวันแต่เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปทางไหนต่อ เงินที่มีหากเอาจับจ่ายใช้สอยไปมันก็หมดได้อยู่ดีน้ำตาลเปลี่ยนเสื้อผ้าที่แม่บ้านนำมาให้เธอเปลี่ยน จากนั้นก็ไปกินข้าวพร้อมกับเขา ด้วยท่าทีที่สุขุมทำให้เธอรู้สึกเกร็งเวลาได้เผชิญหน้ากับเขา แต่คงเป็นเพราะเขาอายุมากกว่าเธอหลายปีมากกว่า"คุณ...มีอะไรจะพูดกับหนูหรอคะ?""บอกแล้วไงว่าเอาไว้พูดหลังกินข้าว""หนูอิ่มแล้วค่ะ...""กินอย่างกับแมวดมตัวถึงได้เล็กแบบนี้"".....""ขึ้นไปอาบน้ำแล้วก็รออยู่ในห้อง เดี๋ยวฉันจะตามขึ้นไป""เอ่อ..." พอได้ยินแบบนั้นแล้วก็รู้สึกเกร็ง คำพูด
พอเขียนใบลาออกเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็กลับบ้านในทันทีโดยที่ไม่ได้แวะไปที่ไหนต่อ ถึงแม้จะเสียดายเรื่องการเรียนของตัวเองมากแค่ไหนแต่เธอก็ขัดคำสั่งของพ่อกับแม่ไม่ได้"กลับมาแล้วค่ะ..." เธอพูดขึ้นเมื่อก้าวขาเดินเข้าไปในบ้าน ทว่าภายในบ้านกลับเงียบกริบราวกับว่าบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียวเธอเดินเข้าไปดูในครัวก็ไม่เจอใครเลยบนห้องนอนที่พ่อกับแม่ของเธอควรจะอยู่ก็ไม่มีตู๊ด~ ตู๊ด~ ตู๊ด~เธอหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วกดโทรออกไปหาผู้เป็นแม่ ทว่าไม่มีใครรับสายเลยแม้แต่คนเดียว ก่อนที่เธอจะเหลือบไปเห็นบางอย่าง เป็นซองจดหมายสีขาวถูกทับไว้ด้วยแจกันถึงลูกตาล... ถ้าหนูกลับมาได้เห็นจดหมายนี้แล้ว แม่อยากจะให้หนูเอาเงินในซองนี้ไปเช่าห้องอยู่ก่อนนะ พ่อกับแม่ต้องออกไปหางานทำหาเงินมาใช้หนี้เขา ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก พออ่านจดหมายจบมือของเธอทั้งสองข้างมันก็สั่นไปหมดเลย เพราะเธอไม่คิดว่าเธอจะมาถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่ลำพังเพียงคนเดียว ถึงพ่อกับแม่ของเธอจะบอกว่าต้องออกไปหางานทำ แต่เธอก็ไม่คิดว่าตัวเธอจะถูกทิ้งเอาไว้ตามลำพังแบบนี้ตึก ตึก ตึก"ฮึก...พวกคุณเป็นใครหรอคะ" ลูกตาลรีบเช็ดน้ำตาแล้วหันกลับไปพูดกับคน
หน้ามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง…หญิงสาวร่างเล็กกำลังยืนรอคนขับรถของที่บ้านที่จะมารับในทุกๆ เย็นหลังเลิกเรียน ทว่าวันนี้คนขับรถกลับไม่มาตามเวลาเหมือนอย่างเคยอีกทั้งยังเลทเวลาไปเกือบชั่วโมงแล้วด้วย เธอเองก็ได้แต่ยืนรอ สายตาก็จับจ้องไปที่หน้าถนนหวังว่าจะได้เห็นรถที่จะมารับเธอเร็วๆ นี้ตู๊ด~( ฮัลโหล )"ป้าคะพ่อกับแม่ไปไหน"( คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายยังไม่กลับมาเลยนะคะ ว่าแต่คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ )"ลูกตาลยืนรอคนขับรถมาพักใหญ่ๆ แล้วค่ะแต่ไม่เห็นคนขับรถมาเลย"( ตายจริง ป้าลืมบอกเลยค่ะคนขับรถลาออกไปแล้วค่ะ )"อ้าว...ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวลูกตาลนั่งรถแท็กซี่กลับก็ได้"( ได้ค่ะคุณหนู )หญิงสาวเดินออกไปโบกรถแท็กซี่จากนั้นก็นั่งรถแท็กซี่กลับบ้านของตัวเอง ถ้ารู้ว่าไม่มีใครมารับเธอก็คงจะกลับบ้านไปตั้งแต่ทีแรกแล้วแต่นี่เธอไม่รู้ว่าคนขับรถนั้นลาออกไปแล้ว**********"ให้ขับรถตามไปไหมครับนาย?" ลูกน้องเอ่ยถามขึ้น"ไม่ต้อง กลับได้เลย""ครับนาย"ลูกน้องเลี้ยวรถกลับในทันทีเมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านาย เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าบ้านของเธออยู่ที่ไหนจึงไม่จำเป็นต้องตามไปให้มันเสียเวลาบ้านลูกตาล..."คุณหนู...""พ่อกับ
เขา เป็นคนที่เข้ามาทำให้ฉันหวั่นไหว ทำให้ฉันหลงรัก เขาบอกว่าฉันไม่เหมือนใคร ฉันไม่ได้ซื่อบื้อฉันไม่ได้ใสซื่อฉันแค่อ่อนโยนกับคนอื่นมากก็เท่านั้นเองเพราะเป็นรักแรกจึงทำให้ฉันหลงรักผู้ชายคนนี้ได้อย่างง่ายดาย เราตกลงคบกันโดยที่ครอบครัวก็รู้ เพราะงั้นฉันจึงไว้ใจเขามาก จนกระทั่งเราสองคนได้แต่งงานกัน นิสัยของเขาก็เปลี่ยนไปทุกอย่าง ทั้งคำพูดสายตาการกระทำ มันไม่ใช่เขาคนเดิมที่ฉันเคยรู้จักเลย และสิ่งที่ทำให้ฉันช็อคมากกว่าเดิมคือเขาพาผู้หญิงเข้ามาในบ้านกอดจูบลูบคลำต่อหน้าฉัน โดยที่ไม่ได้นึกถึงจิตใจของคนที่เป็นเมียตีทะเบียนอย่างฉันเลยหลังจากนั้นเราก็มีการทะเลาะกันบ้างส่วนมากเขาจะไม่สนใจฉันมากกว่าจะทำเป็นเหมือนว่าฉันเป็นอากาศในสายตาของเขาซะมากกว่าฉันเองก็ได้แต่คิดว่าฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าหน้าที่ของภรรยาบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า แต่ฉันก็คิดว่าฉันทำหน้าที่นี้ได้อย่างดี แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงเป็นแบบนั้น**************************ณ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งหญิงสาวก้าวขาเดินเข้าไปอย่างเงอะๆ งะๆ จากทางด้านหลังประตูซึ่งไม่ต้องผ่านการตรวจใดๆ ทั้งสิ้น ในมือของเธอมีเอกสารอยู่ ซึ่งเพื่อนของเธอไหว้วานให้เธ