ชีวาพรไม่อาจปฏิเสธความหวังดีของธีทัต เธอปล่อยให้เขานั่งรออยู่ภายในห้องพัก ในขณะที่เธอจัดการให้ลูกกินข้าวตุ๋นจนหมดถ้วย ต่อด้วยให้เจ้าตัวป้อมเล่นอยู่ในคอกกั้นอีกพักใหญ่ เพราะเห็นลูกกำลังเพลิน จนได้เวลาที่นัดกับผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กไว้ว่าจะพาน้องพร้อมไปคุยเรื่องลาออก
เก้านาฬิกาเศษ รถสปอร์ตคันสีดำจึงแล่นออกจากคอนโดมิเนียม โดยชายหนุ่มร่างสูงใหญ่นั่งประจำเก้าอี้คนขับ ส่วนเก้าอี้โดยสารนั้นมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยและเด็กน้อยตัวกลมนั่งมาด้วย“เมื่อกี้คนงานมาเคลียร์บ้านให้เรียบร้อยแล้ว กวางกับลูกย้ายข้าวของไปอยู่ได้เลย ปกติคนงานเข้ามาทำความสะอาดทุกสัปดาห์ ส่วนคนสวนก็มาดูแลต้นไม้และตัดหญ้าอยู่เป็นประจำ พี่กำชับไว้ว่าอย่าปล่อยให้บ้านทรุดโทรม ต้องดูแลบ้านบ้านให้มีสภาพเหมือนตอนที่กวางกับคุณอายังอาศัยอยู่”“สิ่งไหนที่เป็นของคุณ คุณมีสิทธิ์ที่จะทำหรือไม่ทำอยู่แล้ว กวางไม่อยากให้คุณดึงกวางกับคุณพ่อเข้าไปเกี่ยวข้องค่ะ”ชีวาพรบอกปัด เพราะต้องการปกป้องความรู้สึกตัวเอง เธอไม่อยากได้ยินคำพูดที่ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญของเขาบ่อยเกินไป เพราะมันจะทำใหธีทัตยกมือไหว้คุณเขม ท่าทางสุภาพและนอบน้อมของเขาทำให้คนที่นั่งอุ้มลูกตัวเกร็งแทบผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เธอกำลังนึกหวั่นว่าเขาจะวางมาดบอสใหญ่แห่งราชเวคิน กรุ๊ปในที่แห่งนี้...เพราะเธอเกรงใจคุณเขม“คุณแม่บอกว่าจะมีพี่เลี้ยงมาดูแลน้องพร้อมที่บ้าน ฉันเลยอยากถามให้มั่นใจว่าน้องพร้อมจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี อันที่จริงมันเป็นสิทธิ์ของคุณพ่อและคุณแม่ในการดูแลน้องพร้อม แต่เมื่อคุณแม่พาน้องพร้อมมาฝากเลี้ยงไว้ที่นี่และมันยังไม่ครบกำหนดเวลา ฉันก็อยากให้มั่นใจว่าไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของเด็ก”“พี่เลี้ยงที่จะมาดูแลน้องพร้อมเป็นพี่เลี้ยงเก่าของหลานผมเองครับ ช่วงแรกๆ ผมจะอยู่ดูแลลูกด้วย”“คุณเคยเลี้ยงน้องพร้อมหรือเปล่าคะ น้องพร้อมคุ้นเคยกับคุณแค่ไหน”คำถามนั้นทำให้คนตัวโตรู้สึกอึดอัดใจ ชีวาพรคิดจะช่วยเขา แต่ไม่ทันแล้วแหละ เพราะเมื่อเขาขยับตัวมาใกล้เธอ ลำแขนล่ำสันจึงสัมผัสกับเรียวแขนเสลา พลันมือป้อมก็ยื่นไปปัดออกโดยไว พร้อมกับเสียงขู่คำรามอย่างแสนน่ารัก“ง้อออ!”ธีทัตอยากคิดว่ามันเป็นเหตุบังเอิญ ลูกไม่ตั้งใจทำ แต่เมื่อเขา
ห้องที่กว้างที่สุดของพื้นที่ชั้นล่างถูกดัดแปลงใหม่ เดิมห้องนี้เป็นห้องพักผ่อนของครอบครัว เรียกว่าเป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้เช่นกัน เพราะมันเป็นห้องที่ทุกคนในบ้านสามารถเข้ามาใช้งานได้สารพัดอย่างหากตอนนี้กลับไม่เหลือเฟอร์นิเจอร์เดิมสักชิ้น ข้าวของเก่าก่อนก็หายไปหมด เพราะมันถูกดัดแปลงเป็นห้องสำหรับเด็กเรียบร้อยแล้วกลางห้องมีคอกกั้นเด็กขนาดใหญ่ คันไม้คันมืออยากพาลูกเข้าไปอยู่ในนั้นนัก อยากรู้ว่าน้องพร้อมชอบหรือเปล่า พอกวาดสายตาไปตรงมุมห้อง ชีวาพรก็เห็นของเล่นเด็กหลายชิ้น หากสำหรับบางชิ้นเธอคิดว่ามันเหมาะสำหรับเด็กที่มีวัยโตกว่าน้องพร้อม“แม่บ้านโทร.ไปสั่งคอกกั้นเด็กตั้งแต่เช้า ทางร้านก็เอามาส่งให้เลย เพราะรู้จักกันดี เมื่อก่อนบ้านราชเวคินเคยสั่งของใช้ให้ฟ้าใสกับตะวันจากร้านนี้อยู่บ่อยๆ ส่วนของเล่นพวกนี้เคยเป็นของตะวันกับฟ้าใส แม่บ้านให้คนงานขนมาให้น้องพร้อมด้วย กวางเลือกดูนะ ของชิ้นไหนที่ไม่เอา ก็แยกออกไป พี่จะให้คนงานเอากลับไปเก็บไว้ที่บ้านโน้น”บ้านโน้นก็คือบ้านราชเวคิน...ในทีแรกที่เห็นกองของเล่นเป็นพะเนินอยู่ตรงมุมห้อง ชีวาพรก็คิดจะตำหนิเขา เพราะมันมาก
พี่เลี้ยงของน้องพร้อมมาถึงบ้านในเวลาเที่ยงวันพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ เธอเป็นผู้หญิงวัยสามสิบปลาย ชีวาพรคุ้นหน้าพี่เลี้ยงคนนี้ดีอยู่แล้ว เพราะเคยเห็นเธอทำงานอยู่ที่บ้านราชเวคิน หากในตอนนั้นชีวาพรไม่รู้ว่าเธอทำหน้าที่อะไร“พี่กบเคยเป็นพี่เลี้ยงของสองแสบ พี่กบทำงานดี คุณแม่เลยขอให้อยู่กับเราต่อเพื่อจะได้เลี้ยงเด็กๆ ที่บ้านราชเวคินคนต่อไป”เด็กคนต่อไปที่พูดถึงก็คือน้องพร้อม ในเวลานั้นธีทัตกลับนึกไปถึงหลานที่เกิดจากน้องชายอีกสองคน เขาไม่เคยคิดว่าเด็กคนนั้นจะเป็นลูกของตัวเอง“น้องพร้อมน่ารักมากค่ะ พี่ดีใจที่ได้ดูแลน้องพร้อม แค่เห็นหน้าน้องพร้อม พี่ก็หลงรักแล้วค่ะ ทำไมถึงน่ารักอย่างนี้ ดูสิคะ ตาจมูกปากลงตัวไปหมด ผมดกดำ ดูรวมๆ เหมือนตุ๊กตาเด็กผู้ชายเลย”พี่เลี้ยงบรรยายไม่เกินจริง ธีทัตได้ฟังก็ยิ้มปลื้ม ใครเห็นน้องพร้อมก็หลงรักไม่ยาก เพราะลูกของเขาน่ารักจริงๆในขณะที่สายตาของผู้ใหญ่ทั้งสามคู่มองไปที่ทารกน้อย เจ้าตัวกลมก็มองคนมาใหม่อย่างสนใจ จู่ๆ ก็ยิ้มแป้นอย่างน่ารัก“อุ๊ย! น้องพร้อมยิ้มให้พี่ด้วย ดูท่าทางน้องเป็นเด็กอารมณ์ดีนะคะ&rdqu
“คนพาล”“กวางว่าพี่ทำไม”“รู้นะ คุณธีร์กำลังคิดจะทำอะไร”“กวางรู้ใจพี่”เมื่อพยายามเข้าหาลูก แต่ลูกกลับเมินหนี ดังนั้นธีทัตจึงเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ เขายิ้มกรุ้มกริ่มแล้วบอกเสียงเบา“พี่บอกกวางหรือยังว่ากวางสวยขึ้นมาก”มันเป็นคำชมที่ออกมาจากใจ...เมื่อก่อนชีวาพรสวยและน่ารัก แต่ตอนนี้เธอสวยซึ้งตรึงใจ เธอมีเสน่ห์ บางสิ่งบางอย่างในตัวเธอทำให้เขาอยากอยู่ใกล้ตลอดเวลา ซึ่งเขาไม่รู้มันคืออะไรชีวาพรมองเขาอย่างระมัดระวัง ธีทัตยังเป็นผู้ชายที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงเพียงแค่เขาอยู่ใกล้ๆ นับประสาอะไรกับเวลานี้ที่เขากำลังทอดสายตาล้ำลึกมาหา หญิงสาวขยับตัวด้วยไม่รู้จะทำตัวอย่างไร สุดท้ายเธอจึงลุกขึ้นไปนั่งตรงมุมของเล่น หวังจะจัดของเล่นที่กองพะเนินให้เป็นระเบียบ อย่างน้อยเธอจะได้ดึงความสนใจออกมาจากพ่อของลูกด้วยทว่าธีทัตยังตามไปนั่งใกล้ๆ แถมเขายังโน้มตัวไปหา ชีวาพรกลั้นลมหายใจเมื่อกลิ่นกายชายที่ผสมกับกลิ่นน้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาโชยมาเตะจมูก เพราะมันทำให้ช่องท้องของเธอปั่นป่วน“คุณธ
มันเป็นปัญหาใหญ่...ธีทัตอยากทำความรู้จักลูกชาย เขาอยากนั่งคุยกับจิตแพทย์เด็กหรือใครสักคนที่สามารถอธิบายพฤติกรรมของเด็กสิบเดือนให้เขาเข้าใจ คิดจะถามแม่ของลูก แต่เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เขาก็ตัดสินใจว่าไม่กวนอารมณ์ของเธอคงเป็นเรื่องที่ดีกว่า...สุดท้ายจึงเหลืออยู่คนเดียวที่เขาพอจะหารือได้ นั่นก็คือน้องชายฝาแฝดของเขา“กูไม่รู้หรอก เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน มึงต้องทำความเข้าใจลูกของมึงเอง ลูกของมึงกับลูกของกูเป็นคนละคนกัน มึงถามกู กูจะไปรู้เรื่องลูกของมึงได้ยังไง”“กูพยายามทำความเข้าใจลูกของกูอยู่นี่ยังไงล่ะ แต่มันกลายเป็นกูทำให้ลูกเกลียดกู”“มึงพลาดตรงไหน”“กูไม่รู้ เมื่อวานลูกยังหัวเราะลั่นห้องกับกูอยู่เลย กูก็ดีใจ คิดว่าลูกคงชอบกู แต่ที่ไหนได้ พอมาวันนี้ มันพลิกกลายเป็นคนละเรื่อง”“มึงทำอะไรขัดใจลูกหรือเปล่า”“มันก็มีบ้าง”“ว่ามา มีอะไร”“ลูกกูจะแทะขวดน้ำ กูก็ห้าม ลูกก็เมินกู พอพาลูกมาที่บ้านหลังเดิมของกวาง คนงานเอาของเล่นของฟ้าใสมาให้ ลูกกูก็จะเล่นลูกบอล
แค่หันหลังกลับไป ธีทัตก็ยืนนิ่ง เรียกว่าตัวแข็งไปเลย ในมือยังถือโทรศัพท์มือถือไว้ เขาก้มลงมองมัน ไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่ชีวาพรได้ยินที่เขาคุยกับก่อฤกษ์หรือเปล่า“กวางมีอะไรกับพี่หรือเปล่า”“กวางอยากคุยเรื่องย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ค่ะ”ท่าทางของเธอเหมือนไม่มั่นใจ แต่คนฟังกลับยิ้มกว้าง ออกอาการตื่นเต้นอย่างไม่ปิดบังความรู้สึก แต่พอได้ยินเงื่อนไข แววตาของเขาก็จุดประกายความสงสัยขึ้นมาแทน“ถ้ากวางย้ายมาอยู่ที่นี่ กวางต้องมีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ แต่กวางเข้าใจว่าคุณซื้อบ้านไปแล้ว”“พี่บอกแล้วว่ามันเป็นบ้านของกวาง”อยากย้ำเหลือเกินว่าเขาและเธอเป็นผัวเมียกัน เมื่อบ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา นั่นหมายถึงมันเป็นบ้านของเธอด้วย แต่เพราะก่อฤกษ์เพิ่งสั่งไว้ว่าเมื่ออยู่ที่บ้าน เขาจะต้องใช้ความรู้สึกกับลูกเมียให้มากๆ ธีทัตจึงรอฟังเหตุผลของเธอ“กวางจะขอเช่าบ้านกับคุณ”“เช่าบ้าน? ยังไง?”“ถ้ากวางเช่าบ้านหลังนี้ กวางจะมีสิทธิ์ในฐานะผู้เช่า”อ๋อ! เข้าใจแล้ว...ธีทัตคร
ผู้บริหารหนุ่มหล่อแห่งราชเวคิน กรุ๊ปที่เพิ่งรับหน้าที่แทนพี่ชายคนโตถึงกับขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นเพื่อนของเจ้าตัวโทร.มา เขารับสายอย่างงงๆ และยิ่งงงหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำถาม“เด็กคนนั้นเป็นใคร? ใช่หลานของกันต์หรือเปล่า เมื่อกี้พี่โทร.ไปหาธีร์ แต่ธีร์ไม่รับสายของพี่เลย”“พี่แพทถามถึงเด็กที่ไหนครับ”“รูปถ่ายของเด็กที่ธีร์โพสต์ลงในไอจีไง”ชนกันต์วางมือจากงาน แล้วเปิดเข้าไปในแอปพลิเคชันอินสตาแกรม เมื่อเห็นรูปที่พี่ชายโพสต์ลงไป เขาก็แทบหงายหลังตกเก้าอี้“เฮ้ย!”“มีอะไรหรือกันต์ ทำไมร้องเสียงดัง กันต์ตกใจอะไร สรุปว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของธีร์ใช่ไหม”“พี่แพทรู้เรื่องหลานแล้วใช่ไหม”“พี่พอจะรู้มาบ้าง แต่พี่ไม่เคยเห็นหลานว่าหน้าตาเป็นยังไง สรุปว่าเด็กคนนี้ก็คือหลานชายของกันต์ใช่ไหม หน้าคล้ายธีร์มาก คิ้วเข้ม ผมดกดำ จมูกโด่ง หางตาเรียวรี ไม่รู้ว่าถ้าลืมตาตื่นมาแล้วจะเหมือนธีร์มากแค่ไหน”“ใช่ครับ เด็กคนนี้เป็นหลานของผม แต่ผมว่าหน้าตาคล้ายแม่ของแกมากกว่า”
รูปถ่ายของเด็กชายตัวกลมที่ถูกโพสต์ขึ้นบนไอจีของธีทัตทำให้เพื่อนของเขาฟันธงไปในทางเดียวกันว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขาเอง แทบไม่มีใครสงสัยว่าเด็กชายอาจเป็นใครอื่น พวกเขาแค่ประหลาดใจว่าทำไมธีทัตถึงปิดเรื่องนี้ไว้เงียบกริบจนไม่มีใครรู้เลยคงมีเพียงแพทริเซียที่พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ซึ่งเธอไม่ได้บอกให้ใครรู้เกี่ยวกับครอบครัวนี้ เธอสมัครใจที่จะปิดปากเงียบเอาไว้“แพทว่าการที่ธีร์โพสต์รูปถ่ายของลูกลงไอจี เขาคงต้องการประกาศว่าเขาพร้อมจะเอาลูกและเมียคืน...แพทไม่ยุ่งเรื่องนี้ดีกว่า แพทกลัวจะทำให้ธีร์เสียเรื่อง”แพทริเซียเปรยขึ้นมาขณะนั่งอยู่ในห้องพักผ่อนกับสามี ซึ่งคนที่กำลังจดจ่ออยู่กับซีรีส์จีนบนหน้าจอโทรทัศน์ถึงกับหันมามองภรรยาคนสวย“ไม่มีใครแย่งลูกเมียของเขาไปเลยนะ มีแต่เขาที่ทิ้งเมียไปโดยไม่รู้ว่าเธอกำลังท้อง วันดีคืนดีพอได้เจอหน้าเมียกับลูก เขาก็แสดงความเป็นเจ้าของว่าตัวเองเป็นพ่อของเด็กคนนี้...เพื่อนของคุณเอาแต่ใจตัวเองจริงๆ”“แหม! คุณป๊อบคะ คนเราทำผิดพลาดกันได้นะ”“ไม่รู้ละ ถ้าใครมาทำกับลูกสาวของผมเหม
นาตาลีรู้สึกคาใจกับเด็กหน้ากลมผมดกดำคนนั้นมาทั้งวัน ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงที่พักในตอนค่ำ หญิงสาวจึงติดต่อไปหาเพื่อนที่อยู่เมืองไทยซึ่งเคยส่งรูปถ่ายของเด็กคนนั้นมาให้เธอ“มีอะไรเหรอแพม”“เด็กคนนั้นเป็นใคร”“เด็กคนไหน?”“คนที่เธอเอารูปจากไอจีของคุณธีร์ส่งมาให้ฉันดูไง”“ไหนเธอบอกว่าไม่สนใจไง แล้วมาถามอะไรอีก”“อย่าเรื่องมากนะจูลี่”อารมณ์ของนาตาลีเริ่มขุ่นมัว แต่เพื่อนไม่ได้ถือสาหาความเธอ ได้แต่ตอบเธอไปตามความรู้สึกแท้จริง“ฉันมั่นใจว่าเด็กเป็นลูกของคุณธีร์ ฉันไม่ได้มีข้อมูลลับอะไรหรอก ฉันแค่ประมวลจากคอมเมนต์จากเพื่อนและคนใกล้ชิดของเขาตอนที่เห็นรูปถ่ายบนไอจี รวมถึงข่าวเมื่อวานที่บอกว่าเด็กเป็นทายาทราชเวคิน อ้อ! เขามีรูปถ่ายของเด็กอีกชุดหนึ่ง คราวนี้ลงในข่าวออนไลน์เลย ฉันไม่รู้ว่าเธอเห็นหรือยัง”“เห็นแล้ว”เพราะเห็นว่ารูปถ่ายของเด็กคนนั้นถูกนำไปลงเป็นข่าวบนสื่อออนไลน์ เธอจึงไม่อาจวางเฉย อีกทั้งฉากหลังของรูปถ่ายยังเป็นบ้านที่เธอเคยอยู่มาตั้งแต่เ
ธีทัตเปิดประตูรั้วด้วยกุญแจที่ตนถือไว้ จากนั้นจึงนำรถไปจอดในโรงจอดรถ แล้วเข้าไปในบ้านโดยใช้รหัสเปิดประตูบ้านทั้งหลังเงียบกริบ เขาเดินเข้าไปในห้องเด็กที่อยู่ชั้นล่าง แต่ลูกไม่อยู่ในนี้ ชะรอยว่าลูกยังอยู่ในห้องนอนชั้นบน เมื่อคิดจะตามขึ้นไป หากต้องชะงักเท้า เพราะฉุกคิดได้ว่าชีวาพรได้สั่งห้ามเขาไม่ให้ล่วงล้ำเข้าไปก่อนที่จะได้รับอนุญาตธีทัตจำใจถอยออกมา หากเมื่อกลิ่นอาหารลอยมาเตะจมูก เขาจึงเบนทิศทางไปยังห้องครัวชีวาพรยืนอยู่หน้าเตา เธอกำลังทำอาหาร เขาได้กลิ่นขิงจากอาหาร มันชวนให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยอยู่ด้วยกัน แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เขากลับติดรสมือของเธอ อาหารธรรมดาแต่เธอมักคิดไว้แล้วว่าแต่ละเมนูนั้นทำเพื่ออะไร‘กวางทำไก่ผัดขิงให้พี่ธีร์ค่ะ ช่วงนี้เริ่มหนาว เมื่อวานพี่ธีร์จามตั้งหลายหน เสียงขึ้นจมูกเหมือนคนเป็นหวัดด้วย เช้านี้กวางเลยทำไก่ผัดขิงให้กินไล่หวัด ไม่รู้ว่าพี่ธีร์กินเป็นมื้อเช้าได้หรือเปล่า ตอนแรกจะทำโจ๊กใส่ขิงเยอะๆ แต่แม่บ้านบอกว่าพี่ธีร์ไม่ชอบกินโจ๊ก’อยากได้ความใส่ใจนี้คืนมา ตลอดหนึ่งปีกว่าที่เธอหายไป เขาได้รู้ว่าบางอย่างในชีวิตข
ร่างสูงใหญ่ของคนที่นั่งบนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำอยู่ในสายตาของน้องชายทั้งสองคนที่เดินมาหยุดยืนฟังการพูดคุยทางโทรศัพท์ของเขาสักพักใหญ่ ทั้งสองคนหันไปสบตากัน ก่อนจะตัดสินใจเดินไปหาเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวมีท่าทางแปลกไปธีทัตนิ่งเงียบ ท่าทางเหมือนคนกำลังเศร้า...มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ในเมื่อเมื่อกี้พี่ชายใหญ่เพิ่งเล่านิทานให้ลูกฟัง เขาควรมีความสุขมากกว่านั่งคอตกเช่นนี้“กลับมานานแล้วหรือเฮีย แล้วเป็นอะไรหรือเปล่า”ชนกันต์ถาม...คนถูกถามสะดุ้ง เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่ายังมีคนอื่นอยู่แถวนี้ แต่เขายังไม่เงยหน้าขึ้นมา ภพธรจึงถามซ้ำไปด้วย เพราะเห็นท่าทางของพี่ชายชักน่าเป็นห่วง“เมื่อกี้เฮียคุยกับลูกไม่ใช่เหรอ แล้วนั่งคอตกทำไม ผมไม่ได้แอบฟังนะ แค่จะมาชวนเฮียให้ไปกินเบียร์ด้วยกัน แต่เห็นเฮียติดสายก็เลยรอ แล้วมันก็ได้ยินเอง”“น้องพร้อมไม่ยอมนอน กูเลยเล่านิทานให้ลูกฟัง”ธีทัตเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้มาจากก่อฤกษ์ แต่เขาจำเนื้อหานิทานไม่ได้หรอก เพราะเขาได้แต่ฟังผ่านๆ ในตอนที่น้องชายเล่านิทานให้หลานๆ ฟัง อาศัยการฟังหลายครั้งก็เลยปะติดปะต่อเข้าด้
ค่ำนั้นชีวาพรคุยผ่านวิดีโอคอลกับนิสา เธอตั้งใจจะให้น้องพร้อมทักทายแม่ทูนหัว แต่น้องพร้อมไม่ร่าเริงเท่าที่ควร เธอรู้ดีว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร เธอจึงต้องวางสายจากเพื่อนเร็วกว่าปกติ ทั้งที่ยังไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟังอย่างครบครัน“หนูเล่นลูกบอลกับแม่นะครับ แม่โยนลูกบอลให้หนูนะ หนูส่งกลับมาให้แม่เร็ว”ลูกบอลสีชมพูกลิ้งไปหาเจ้าตัวกลมที่ชะเง้อมองไปทางประตูห้องนอน น้องพร้อมเป็นอย่างนี้ตั้งแต่อาบน้ำเสร็จ เจ้าตัวน้อยคอยแต่ชี้นิ้วให้เธอพาลงไปชั้นล่าง ในทีแรกชีวาพรคิดว่าน้องพร้อมคงอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่ เธอจึงพาลูกลงไปเลือกของเล่นด้วยตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่าลูกชี้ไปทางประตูหน้าบ้านเหมือนอยากออกไปข้างนอก‘น้องพร้อมคงอยากไปหาคุณพ่อค่ะ วันนี้น้องพร้อมเล่นกับคุณพ่อทั้งวัน คงคิดถึงกันค่ะ’มันเป็นข้อสันนิษฐานของพี่เลี้ยง...ชีวาพรไม่อาจมองข้ามความรู้สึกของลูก เมื่อเธอวางลูกให้นั่งบนพื้นบ้าน เจ้าตัวกลมก็คลานไปทางประตูหน้าบ้านในทันที จนเธอต้องดึงความสนใจของลูกกลับมาที่ของเล่นสารพัดชิ้นที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบในห้องเด็กที่อยู่ชั้นล่า
ธีทัตกลับมาถึงบ้านราชเวคินในเวลาหกโมงเย็นสี่สิบนาที บ้านเงียบกริบ น้องชายทั้งสองคนคงยังไม่กลับมา เขาเดินไปนอนทอดกายบนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำ เมื่อหลับตาลง ภาพของลูกน้อยก็ลอยเข้ามาในหัว“ลูก...”เสียงแผ่วเบาหลุดออกมาจากเรียวปากหยัก...ธีทัตขับรถออกมาจากบ้านของชีวาพรยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง แต่เขากลับคิดถึงลูกเหลือเกิน จนต้องหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูรูปถ่ายของลูก...เขาดูรูปถ่ายของลูกซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่รู้เบื่อ กระทั่งเห็นข้อความจากน้องชายฝาแฝดปรากฎขึ้นมาก่อฤกษ์ : คิดจะทำยังไงต่อธีทัต : อะไร?ก่อฤกษ์ : เปิดตัวลูกออกสื่อ...มั่นใจแล้วใช่ไหมมั่นใจอะไรวะ?คำถามผุดขึ้นมา ธีทัตจึงโทร.ไปหาน้องชายเสียเลย เพราะถ้าขืนส่งข้อความโต้ตอบกันอยู่อย่างนี้ คืนนี้ทั้งคืนเขาคงไม่รู้เรื่องกันพอดี“อะไรของมึง”“มึงคืนดีกับกวางหรือยัง”“กูกำลังง้อเมีย กวางคงไม่ใจอ่อนง่ายๆ กูเตรียมใจไว้แล้ว แต่ช่วงสองวันมานี้กูหยุดทำงาน แล้วไปอยู่ช่วยกวางที่บ้านโน้น...กวางยอมให้กูอยู่ด้วย แต่อยู่นานไม่ได้ เขาเพิ่งไล่กูกลับมา ส่วน
เมื่อเมียไม่ให้เข้าใกล้ ธีทัตก็ไหวไหล่ เขายอมตามใจเธอ ดังนั้นจึงเหลือแต่ลูกชายตัวกลม วันนี้ทั้งวันน้องพร้อมให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี ลูกเปิดใจรับเขา ลูกไม่ต่อต้านและไม่เมินหนี ลูกยอมให้เขาอุ้ม แถมลูกยังสนุกกับการพาเล่นของเขา...เพียงแค่นี้ธีทัตก็เห็นช่องทางสะดวกสำหรับตัวเองแล้วชายหนุ่มหันไปทางลูกชายที่นั่งเล่นลูกบอลสีฟ้าและสีชมพูอย่างเพลิดเพลิน แล้วบอกเสียงอ่อนโยน“ไปครับน้องพร้อม ไปกินข้าวกัน เดี๋ยวพ่อจะป้อนข้าวให้หนูเองนะครับ”ข้าวตุ๋นฝีมือแม่อร่อยจริงๆ เรียกได้ว่าตักเข้าปากน้อยๆ ช้อนแล้วช้อนเล่า เจ้าตัวป้อมก็กลืนหายทุกคำ คนป้อนได้แต่ยิ้มปลื้ม...ลูกกินง่ายอย่างนี้สิเล่า ท่อนแขนท่อนขาถึงได้อวบอ้วนเป็นมัดๆ“อื้อ...หม่ำๆ”คนที่อ้าปากรอแล้วไม่มีข้าวตุ๋นป้อนเข้าปากส่งเสียงประท้วง เพราะคนป้อนเผลอใจลอยปล่อยความคิดไปไกล กำปั้นน้อยๆ ตีลงไปบนโต๊ะกินข้าวอย่างเร่งเร้า จนแม่ต้องรีบจับเอาไว้ เพราะกลัวลูกเจ็บมือ“คุณป้อนข้าวให้ลูกสิ”"ครับๆ พ่อป้อนแล้วครับ"เมื่อข้าวตุ๋นเข้าปาก เจ้าตัวกลมจึงกลับมาเป็นเด็กอา
“พี่แพมรู้เรื่องของนายธีร์หรือยัง”เจ้าของสายเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือถามทันทีหลังจากที่นาตาลีตื่นขึ้นมารับสาย แม้ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าอยู่มาก หากเธอรู้สึกตาสว่างโดยพลันแค่เพียงได้ยินชื่อของคนคนนั้น“ไม่อยากรู้”“ไม่อยากรู้...แสดงว่าพี่แพมรู้แล้ว”เสียงหัวเราะของน้องชายเรียกอารมณ์หงุดหงิดของสาวสวยที่เพิ่งตื่นนอนได้ดีนักเชียว แม้ข้างนอกจะมีหิมะโปรยปราย แต่หัวใจของเธอร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างยากที่จะระงับ“เธอมีอะไร”“ไอ้นั่นย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของเราแล้ว”“เรียกเขาดีๆ หน่อย ถ้าเธอจะโทร.มาจิกด่าเขาเพื่อระบายความเกลียดก็ไปหาคนระบายเอาข้างหน้า หรือไม่ก็โทร.ไปด่าเขาเองเลย”“คร้าบ! ต่อไปผมจะเรียกไอ้นั่นว่าคุณธีร์...ว่าแต่พี่รู้หรือยังว่าเขาเปิดตัวลูกชายออกสื่อว่าเป็นทายาทราชเวคิน และเขาก็อยู่ที่บ้านของเราด้วยนะ”“เธอรู้ได้ยังไง”“ผมเห็นข่าว ผมจำฉากหลังในรูปถ่ายของเด็กคนนั้นได้”“เด็กหรือ?”“พี่เคยเห็นเด็กหรือย
พี่เลี้ยงของน้องพร้อมออกไปตามคำสั่ง ชีวาพรจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วโทร.ไปหาเจ้าของสายมิสคอล“เธอมีอะไรจะบอกฉันไหม”นิสาถามทันทีที่รับสาย...ชีวาพรเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เธอมองเพื่อนผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถืออย่างค้นหา“นิสารู้เรื่องอะไรมา”“ยังจะถามฉันอีก ตอนนี้ไม่ใช่แค่ฉันที่รู้เรื่องนี้ แต่คนรู้ทั้งประเทศแล้วมั้ง...ไม่ใช่สิ ป่านนี้คงรู้กันทั้งโลกแล้วว่าบูบุ๊ยเป็นทายาทรุ่นที่สามของราชเวคิน มันเกิดอะไรขึ้นหรือกวาง ทำไมแค่ไม่กี่วันที่ฉันกลับเชียงราย ถึงได้มีข่าวเปิดตัวบูบุ๊ยออกสื่อ เธอคืนดีกับคุณธีร์แล้วหรือ เธอเจอกับเขาได้ยังไง เธอติดต่อไปหาเขาหรือ”“นิสาพูดอะไร? เปิดตัวอะไรกัน? ฉันงงไปหมดแล้ว”“ฉันเจอข่าวของบูบุ๊ยในเว็บไซต์ของข่าวสังคม ฉันไม่ได้เจอเองนะ แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่จำบูบุ๊ยได้บังเอิญเห็นข่าว เขาเลยถามฉัน ข่าวไม่ได้บอกรายละเอียดอะไร เขาเรียกเจ้าอ้วนของเราว่า ‘น้องพร้อม’ แล้วบอกว่าเด็กคนนี้เป็นทายาทของราชเวคิน”“ฉันยังไม่รู้เรื่องเลย”“เธ
เงินสองแสนบาทถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมกับบัตรเครดิตถูกยื่นมาให้ ชีวาพรยื่นมือไปรับอย่างงงๆ หากพอรู้ตัว เธอก็หดมือกลับเสีย“รับไปสิ บัตรเครดิตวงเงินหนึ่งล้านบาท กวางเอาไว้ใช้จ่ายให้น้องพร้อม ค่าใช้จ่ายจากบัตรใบนี้ พี่จะรับผิดชอบเอง”“พอแล้วค่ะ เงินรายเดือนเดือนละสองแสนบาท มันมากพอแล้ว กวางไม่กล้ารับอะไรจากคุณอีก”“พี่เป็นทายาทคนโตของราชเวคิน กรุ๊ป ส่วนน้องพร้อมก็เป็นลูกชายของพี่ ไม่มีอะไรที่มากเกินไปสำหรับลูกชายคนเดียวของพี่”เธอเข้าใจเขา แต่พอหันไปมองลูกชายตัวป้อมที่นั่งไถขวดน้ำพลาสติกไปมาบนพื้น เธอก็ตัดสินใจอย่างไม่ลังเลว่าต้องการให้ลูกเติบโตขึ้นมาอย่างเด็กธรรมดาคนหนึ่ง...ไม่ใช่เด็กที่มีทุกอย่างเหนือกว่าใคร“กวางไม่รับบัตรเครดิตของคุณ กวางมีบัตรเครดิตเองแล้ว วงเงินมีมากพอ กวางไม่เคยรูดซื้อของถึงครึ่งของวงเงินสักที”วงเงินบัตรเครดิตจำนวนหนึ่งแสนบาท...ชีวาพรเคยใช้ซื้อของมากที่สุดก็คือสองหมื่นกว่าบาท เธอมีบัตรไว้เพื่อให้อุ่นใจเท่านั้น สำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เธอไม่ได้ต้องการวงเงินเพิ่มอีก“ได้สิ...