บ่ากว้างร้อนระอุในชุดเสื้อกล้ามสีดำถูกกดให้พิงลงกับผนังโรงเก็บฟืน "ไม่ไหวก็หลับตาสิคะ มองเหนืออยู่ได้""สวย" เขาพูดเสียงแห้งพึมพำแต่กระนั้นคำที่เปล่งออกมาก็สะท้อนดังออกมาจนถึงหัวใจเธออยู่ดี"สวยมากด้วย" เธอยิ้มแล้วรื้อผ้าห่มออกมา "อุ้ยมียาน้ำแก้ไข้ของลูกด้วยค่ะ โชคดีจังที่เหนือลืมกระเป๋าทิ้งไว้ในรถ""งั้นเอามาให้พี่กิน" คนป่วยไม่ยึกยักรีบแย่งยาแล้วบิดฝาขวดกระแทกลงคอด้วยความร้อนใจ"ปากเปื้อนแล้วค่ะ" นิ้วมือนุ่มปาดเช็ดคราบยาที่เลอะอยู่บนขอบปาก"พี่อยากหายไว ๆ จะได้กอดเหนือให้แน่นที่สุด" เขาส่งขวดยาคืนเธอ เหนือฟ้าหยิบขวดน้ำเปล่าแล้วส่งให้เขาดื่ม"ไม่หายก็กอดได้ค่ะ" พูดปุ๊ปก็ทำทันที ร่างนุ่มนิ่มนั่งลงบนตักคล้องมือโอบรอบลำคอ"แล้วทำอย่างอื่นเพิ่มได้ก่อ" เจ้าของเสียงแห้งกวาดตามองเปี่ยมด้วยความหวัง เวลาแบบนี้เขาต้องการแค่จูบปลอบใจเท่านั้นก็แค่จูบของเมียสุดที่รัก แค่นี้ก็น่าจะเยียวยาอาการป่วยให้ทุเลาลง"ได้สิคะ เราทำได้มากกว่าแค่กอดหรือว่าจูบ" มือไม้ซุกซนเริ่มเลื่อนชายเสื้อของคนตัวร้อนเหมือนไฟออกจากร่างกายแถมเขาก็แสนว่าง่ายช่วยยกแขนขึ้นให้เธอถอดทึ้งอาภรณ์พ้นจากท่อนบน"ตอนนี้พี่หนาวมากเลย หน
แม้กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศทางโซเชียลว่าเข้าสู่ฤดูหนาว แต่เห็น ๆ กันอยู่ว่านี่ไม่ใช่หน้าหนาวแต่คือหน้าร้อนอวบอ้าวผนวกฝนหลงฤดู และบรรยากาศที่พิสดารนี้ก็บงการให้เขาเกิดความรู้สึกกระหายอยากผิดที่ ผิดเวลา"อึ้ม พี่คี เหนือกลัวโต๊ะไม้นี่จะพังซะก่อน"ร่างอวบอั๋นนั่งอยู่บนโต๊ะไม้ทรุดโทรมโดยที่ขาสองข้างพาดอยู่บนหัวไหล่หนาที่กำลังสวาปามน้ำมธุรสใจกลางลำตัวโดยไม่สนใจว่าเธอจะเสียวเกร็งทรมานยังไงทุกครั้งที่ชิวหาแดงนั่นกวัดแกว่งไปบนปุ่มกระสัน ประสาทการรับรู้ทั้งหมดก็โดนสูบกลืนไปจนหมดทุกสิ่งทุกอย่างมันสูญสลายไปพร้อม ๆ กับอาการเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่า"อ๊า อ๊ะ พี่คี" มือน้อยขยุ้มทึ้งเส้นผมสีดำขลับ ยามที่ชิวหาพิโรธนั่นดุนดันเข้ามาแล้วกวาดต้อนน้ำเหนียวใสออกมาจนหมด ไม่มีวินาทีไหนที่เธอจะปฏิเสธมันด้วยการผลักเขาออกไป มีแต่จะเหนี่ยวรั้งให้เขาลงน้ำหนักกับดอกไม้ประจำตัวเธอมากขึ้นครั้นลีลาละเลงของปลายลิ้นเร่งจังหวะ เร็วขึ้น แรงขึ้น ไร้ความนุ่มนวล มีเพียงความกระเหี้ยนกระหือรือที่ถูกถักทอก่อตัว เนินขาอวบค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจนกว้างพอให้ใบหน้าคมขาวสำรวจทุกตารางนิ้วได้ถนัด ขณะที่สะโพกผายเริ่ม
ครอบครัวคนเลี้ยงควายยืนรอปู่ย่าตายายที่นัดแนะกันมาพักผ่อนที่ไร่พิทักษ์มหิงสาเป็นเวลาหนึ่งเดือน เด็ก ๆ ทั้งสามดีใจและตื่นเต้นมากที่จะได้เจอป้ออุ้ยแม่อุ้ยซึ่งไม่ได้พบหน้ากันเกือบครึ่งปีแล้วทันทีที่รถแวนหรูสีดำขาวสองข้างจอดเทียบท่าหน้าบ้าน ประตูรถก็เคลื่อนตัวออกช้า ๆ โชว์ตัวผู้ใหญ่วัยเก๋าที่นั่งอยู่ด้านใน"ฮัลโหลลลล หลานยาย เซอร์ไพรส์" ครูนับเก้าในชุดไทยสไบแดงถักเปียสองข้างถือพัดจีนก้าวส้นสูงลงมาจากรถแวนหรู"กรี๊ดดด ง่ามปาย้ำปาเหยือ" นิ่มฟ้ากรีดร้องพุ่งตัวไปคล้องพวงมาลัยมะลิให้ยายคนสวย"ต๊าย หลานยายปากดีมากแบบนี้ต้องตบรางวัล ผอ.คะเปย์ให้หลานหนึ่งพันบาทด่วน" คุณยายสวยแซ่บใช้พัดสะกิดไปที่หัวไหล่สามีที่ถูกบังคับให้แต่งชุดไทยนุ่งโจงกระเบนแดงเข้าคู่ที่กำลังก้าวขาลงมาจากรถ"พี่เปย์ให้หลานคืนนี้นับตบรางวัลให้พี่ด้วยนะ หึหึ" ผอ.ทัพฟ้าคิดแผนร้ายหมายแอ้มเมีย เหนือฟ้าที่กำลังยืนมองบุพการีสายเปรี้ยวของตนเองก็ทำให้นึกย้อนไปถึงครั้งที่แม่กับพ่อจัดศึกร้อนเอ้าท์ดอร์ซี้ดซ้าดกันนอกบ้าน เธอจะไม่ยอมให้เหตุการณ์อัศจรรย์พันลึกนั่นอุบัติขึ้นอีกรอบเด็ดขาด"พ่อคิดจะจับแม่กินอีกแล้วเหรอคะ" สาวอวบเข้าประกบตัวพ่ออ
ทั้งอาทิตย์นี้ไร่พิทักษ์มหิงสากลายเป็นสถานที่จัดงานลอยกระทงประจำปีของตำบล หน่วยงานท้องถิ่นจึงลงมติให้ไร่แห่งนี้เป็นเวทีจัดประกวดนางนพมาศรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่รวมทั้งมีการประกวดธิดาทุยปีแรกที่พ่อเลี้ยงหนุ่นได้ลองเสนอไอเดียเข้าไป"พี่ว่าจะให้เหนือไปประกวดธิดาทุยครับ คุณนายของไร่ประเดิมเป็นคนแรก" เขาสะกิดแขนเธอขณะที่กำลังย่างกุ้งแม่น้ำตัวโตที่แม่สามีแบกมาจำนวนยี่สิบตัวกับหอยปูปลาอีกจำนวนหนึ่ง"หุ่นแบบเหนือจะไปแข่งขันอะไรกับเขาได้คะ ถ้าประกวดธิดาช้างก็ว่าไป" เหนือฟ้ามุ่ยหน้าแล้วคีบกุ้งตัวโตขึ้นมาใส่จาน"แต่นี่ธิดาทุยเลยนะ นางฟ้าของเหล่าควาย อีกอย่างพี่ตั้งกติกาไว้ว่าต้องเป็นสาวพลัสไซซ์เท่านั้น" ผู้ช่วยย่างกุ้งเดินอ้อมมาด้านหลังวางมือลงบนสะโพกผายในชุดกระโปรงลายดอกไม้ "โดยเฉพาะถ้าหุ่นจ้ำม่ำเต็มไม้เต็มมือแบบนี้ ต้องชนะเลิศแน่นอนครับ""พี่คีเป็นกรรมการด้วยหรือเปล่าคะ" เหนือฟ้าหรี่ตามองอย่างไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ"เป็นแค่สปอนเซอร์ไม่ได้เป็นกรรมการ พี่ไม่ใช้เส้นหรอกน่า" ภาคีส่ายหน้าหวือ"รีบร้อนตัวเลยนะคะ เหนือไม่เชื่อหรอก" สาวอวบค้อนแล้วใช้ที่คีบกุ้งชี้ไปที่หน้าสามีเจ้าแผนการ"เชื่อพี่เถอะครับ พี่จัดงา
เสียงของนาฬิกาปลุกร้องเตือนตั้งแต่ตีห้าภาคีรีบเด้งตัวลุกแล้วกดปิดให้เร็วที่สุด เพราะเห็นว่าภรรยากำลังนอนหลับสบาย ภาคีบิดขี้เกียจไปมาแล้วก้มลงฟัดเจ้าของแก้มนุ่มที่กำลังนอนกรนเสียงเบาจังหวะที่เขาตื่นหอมเตียวกับลูกชุบที่นอนอยู่บนเบาะปลายเตียงวิ่งตามเจ้านายลงไปชั้นล่างพ่อครัวหนุ่มคว้าผ้ากันเปื้อนมาพันรอบเอวแล้วเริ่มทำมื้อเช้าสำหรับแม่และลูกเตรียมให้ไว้ในสำรับ แต่บังเอิญว่าแม่ยายและแม่ของเขาก็ตื่นเช้าเหมือนกัน"พวกแม่รีบตื่นทำไมกันครับ น่าจะนอนหลับพักผ่อนอีกหน่อย""แม่ไม่ชินน่ะลูก ปกติอยู่ร้านปลาเผาแม่ตื่นตั้งแต่ตีสี่ พวกแม่ก็เลยจะมาช่วยคีทำกับข้าวจ้ะ" เจ้กระต่ายตบหลังลูกชายสองสามที"ขอบคุณนะครับ""ยัยเหนือนี่โชคดีจริง ๆ ที่ได้คีเป็นสามี แม่ขอบคุณนะจ๊ะที่คีดูแลเหนือดีขนาดนี้" ครูนับเก้าชงกาแฟส่งให้เจ๊กระต่ายกับลูกเขย"คีต่างหากที่โชคดีที่ได้น้องเป็นภรรยา" ชายหนุ่มผู้ถ่อมตนฉีกยิ้มปลื้มใจแล้วซอยผักบนเขียงอย่างชำนาญมื้อเช้าของวันนี้จึงมีเมนูหลากหลายน่ากินบนโต๊ะ ทว่าภาคีกลับไม่สามารถอยู่รับประทานร่วมกับครอบครัวได้ เนื่องจากต้องรีบไปควบคุมดูแลการเตรียมงานเทศกาลลอยกระทงที่จัดขึ้นเป็นวันแรก เข
ช่วงบ่ายเหนือฟ้ากับลูกทั้งสามหอบหิ้วกับข้าวไปหาภาคีที่หน้าเวทีจัดแสดงสำหรับงานลอยกระทง ตอนไปถึงเธอเห็นสามีกำลังยืนคุยกับกลุ่มสาวน้อยสาวใหญ่ที่เป็นแม่ค้าร้านอาหารต่าง ๆ เธอเห็นแต่ละคนหอบหิ้วเอาของกินมาให้เขามากมาย สาวอวบจึงก้มมองปิ่นโตในมือของตัวเองอย่างลังเล"อี่แม่ไม่ไปหาป้อล่ะ เดี๋ยวผู้หญิงพวกนั้นก็ฉกป้อไปแซ่บหรอก" บะแต๋งเห็นแม่ยืนอ้ำอึ้ง"คือว่าป้อคงจะกินข้าวแล้วล่ะมั้ง ดูสิมีแต่คนเอาของมาให้กิน" เหนือฟ้าตัดพ้อสายตาละห้อย"บะหนุนน้อยไม่ต้องเป็นห่วงนะ แต๋งจะไปตามป้อให้เองครับ" เด็กชายจับมือแม่แล้วหันไปกระซิบกระซาบน้องสาวน้องชาย"คิก ๆ เดี๋ยวนิ่งฉัดการปาขี้เอง" นิ่มฟ้ายิ้มกว้าง"หนุนฟ้าฉาเดี๋ยวน่านไปตำป้อขี้เองเน้อ นั่งเจ๋ย ๆ ตรงนี้" น่านฟ้าจับมือแม่แล้วพาไปนั่งรอแถวเก้าอี้หน้าเวที"พวกลูกคิดจะทำอะไรกัน" พอเธอรู้ว่าท้องปุ๊ปก็ยิ่งไม่อยากจะไปเหวี่ยงวีนใส่ใคร เพราะกลัวจะเป็นเวรกรรมติดตัวลูก จึงทำได้แค่ยืนมอง"ทำดีเพื่ออี่แม่ไงล่ะ" บะแต๋งยิ้มตาปิด"อย่าทำให้มันวุ่นวายนะลูก แม่ว่าจะไปเดินหาผลไม้กินซะหน่อย ขี้เกียจรอป้อแล้ว ลูกก็คอยดูแลน้องด้วยล่ะ" เธอบอกแล้วหยิบปิ่นโตติดมือไปด้วย"บ่าเอา
ช่วงถึงเวลาแข่งเหนือฟ้าสั่งให้อินเหลาหาหมวกกับเสื้อแขนยาวมาให้สามีใส่กันแดด ส่วนลูกสมุนตัวน้อยยืนคอยอยู่ริมทะเลสาบเพื่อให้กำลังใจพ่อที่ยืนอยู่บนโฟมแพลอยน้ำถือแหพาดไว้กับบ่ากว้าง"ปาขี้ ปาขี้กรี๊ดดด ชาวป๋ามุงฉุดหย่อของลวกฉาวแฉนฉวย" นิ่มฟ้ายืนกรี๊ดกร๊าดเชียร์พ่ออยู่ข้างแม่"ป้อขี้ ป้อขี้จับป๋าฉะหยากให้ได้เน้อ" น่านฟ้าตะโกนเชียร์พ่อพร้อมป้ายที่ขีดเขียนด้วยลายมือยึกยือที่มีข้อความว่า 'ป้อขี้ฉับปลาเก่ง แต่ฉับอี่แม่เก่งกว่า' ซึ่งคนที่ช่วยเขียนก็คือบะแต๋งพี่ชายนั่นเอง"นั่นมันป้ายเชียร์จับปลารึป้ายเชียร์จับเมียหวาาา เอิ๊กก" หม่อมเจ้าภูวสินเริ่มเมาสาโทหมักผลไม้ที่อินเหลาแบกมาให้พ่อเจ้านายชิม"คุณภูคะกลับบ้านไปพักไหม สภาพคนเชียร์ลูกดูไม่ได้เลย" เจ๊กระต่ายส่ายหน้าแล้วพยุงสามีไปที่รถ "เหนือลูกแม่พาพ่อกลับบ้านก่อนนะจ๊ะ ฝากเชียร์ลูกชายแม่ด้วยล่ะ""โอเคค่ะ คุณแม่พาคุณพ่อกลับไปนอนพักเถอะค่ะ" เหนือฟ้ารีบเดินมาช่วยประคองพ่อสามีหลังจากพ่อแม่สามีกลับไปที่บ้านกลางไร่ พ่อแม่ของเธอก็กลับมาพร้อมกับของกินมากมาย "หลาน ๆ ยายกับตาซื้อของกินมาเพียบเลย""เย้ ๆ มีฉ้นตีนก่อ" น่านฟ้าพุ่งไปกอดขายาย"ฉ้นตีนใครที่ไหน"
ระหว่างรอสามีอาบน้ำเหนือฟ้ารู้สึกหิวจนคลื่นไส้จึงตัดสินใจสั่งอาหารจากภัตตาคารชุดใหญ่ให้มาเสริฟ์ยังวิลล่าของไร่ ภาคีที่ผิวปากอารมณ์ดีออกมาในสภาพผ้าขนหนูพันรอบเอวผืนสั้นจนเห็นขาอ่อนขาวจั๊วะชะงักงันเล็กน้อย เพราะกลัวพวกพนักงานเห็นตนอยู่ในชุดเกือบเปลือยหลังจากคนที่ภัตตาคารทยอยออกไปจากวิลล่า พ่อเลี้ยงหนุ่มจึงย่องออกไปหาภรรยาช้า ๆ ที่ระเบียงห้องริมสระว่ายน้ำ"หนุนน้อยสั่งอะไรมาเยอะแยะเลย หิวมากเลยเหรอ" เขายืนพิงต้นกล้วยไม้ทั้งที่ทั้งเนื้อตัวมีเพียงผ้าขนหนู"หิวขนาดค่ะ ก็พี่คีมัวแต่ขัดอะไรอยู่ในห้องน้ำตั้งนาน เหนือรอไม่ไหวก็เลยโทรสั่ง แต่เหนือสั่งของโปรดพี่คีมาด้วย""ไหนบอกมาสิว่าพี่ชอบอะไร" เขาสาวเท้าเข้ามาแล้วกอดไหล่เธอจากด้านหลังเกยคางแนบบ่า"พี่คีควรไปใส่เสื้อผ้าก่อนนะคะ ถึงนี่จะเป็นวิลล่าส่วนตัวแต่พี่คีก็ไม่ควรมาเดินนุ่งผ้าขนหนูโชว์ตัวแบบนี้" เหนือฟ้าบ่นอุบอิบแล้วตักแกงคั่วเห็ดถอบใส่ปาก"คืนนี้กะว่าจะไม่ใส่" เขายังคงหยอกย้อนกวนประสาท"ถ้างั้นเหนือจะเดินแก้ผ้าบ้างดีไหมคะ" นัยน์ตากลมมองขวางอย่างเอาเรื่อง"โอเคครับ อย่าแก้นะคนดี เดี๋ยวพี่จะขับรถกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อนเอาชุดนอนมาเผื่อเหนือด้
ปิดเทอมหน้าร้อนเทอมสุดท้ายบะแต๋งจะเรียนจบประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าจะขึ้นปอ.2 ครอบครัวคนเลี้ยงควายจึงคุยกันว่าจะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวมหาจันทร์ของปินปินและพบปะสังสรรค์สักหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ภาคีจอดรถจี๊ปในอาณาจักรอัญฎรญามีอันยิ่งใหญ่ที่มีเทวสถานพระศิวะขนาดความสูง 35 เมตร นิ่มฟ้าที่กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์สังเกตเห็นว่ารอบบริเวณเทวาลัยถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้พลันนั้นเด็กหญิงกลับสะดุดตาเข้ากับไม้ยืนต้นสูงที่มีลักษณะใบคล้ายกับต้นมณฑารพที่เทพมาสมักจะนัดพบเจอเธอที่นั่น เพียงแต่ดอกไม้ตนนั้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าและผลิดอกสีเหลืองนวลเต็มต้น"พี่คีพี่เหนือเชิญทางนี้ค่ะ" แซมมี่ในชุดสาหรี่แต้มผงกุมสีแดงกลางหน้าผากเดินออกมาพร้อมกับมะแป่มตัวน้อยที่ตอนนี้ขึ้นอนุบาลสองเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่มะแป่มเห็นน่านฟ้า หนูน้อยก็ทำตัวอ่อนเดินเซไปหาคนพี่"ปี้น่านขา" มะแป่มคว้าหมับที่แขนของเด็กชายจนผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองต่างพากันหัวเราะขบขัน"เอ่อ...เป๋นหยังครับ" น่านฟ้าขานรับแต่กลับยืนตัวเกร็งหน้าแดงซ่าน"อุ๊ย..." มะแป่มทำท่าสะดุดขาแล้วรีบสวมกอดเอวพี่พลางเอาหน้าซบแผ่นอก"เกินไปแล้วจ้ะแม่ลูกสาว" แ
ภายในอ่างอาบน้ำทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องน้ำ มีร่างตุ้ยนุ้ยสองแม่ลูกกำลังแช่น้ำนมอุ่น ๆ ที่ภาคีเป็นคนเตรียมให้ ระหว่างที่เหนือฟ้ากำลังหยิบฟองน้ำเตรียมยกขึ้นมาขัดแผ่นหลังให้ลูกสาว พลันนั้นบาดแผลที่มีร่องรอยของการถูกกัดก็ปรากฏอยู่บนหัวไหล่เล็ก นัยน์ตาของเธอสั่นระริกวูบไหวอย่างฉับพลัน หัวใจของคนเป็นแม่แทบแหลกสลายในทันที เมื่อเห็นว่าลูกสาวยังมีบาดแผลภายในร่มผ้าที่เธอหรือหมอก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน"นิ่มฟ้าคะ หนู หนูเจ็บไหมลูก" ฟองน้ำรูปสัปปะรดหลุดลอยจากฝ่ามือไหลผ่านไปยังเบื้องหน้าของเด็กหญิงที่กำลังนั่งหันหลัง นิ่มฟ้าย่นคิ้วชิดกันแล้วรีบหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"เป็นอะหยังก๊ะหนุนน้อย" มือเล็กยื่นไปจับแก้มขาวอมชมพูของแม่ ผิวพรรณของแม่ทำให้เธอรู้สึกหลงรัก"หัวไหล่หนูไงคะ โดนยัยเด็กกระถินนั่นกัดมาเหรอ ทำไมหนูไม่บอกแม่ว่ามีแผลตรงนี้ด้วย"เจ้าของบาดแผลกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว แต่แม่ของเธอกลับน้ำตาไหลอาบนองหน้า "เจ้า นิ่งโดนขบมาแต่นิ่งบ่เจ๋บแล้ว อี่แม่บ่ต้องร้อง เดี๋ยวนิ่งร้องตามเน้อ"เด็กหญิงโผเข้าซุกอกของแม่ที่ล้นหลามเหนือผิวน้ำ เหนือฟ้าสวมกอดกลับจูบซับศีระษะเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อเส
นิ่มฟ้าแสดงสีหน้าและแววตาโกรธสุดขีด เด็กหญิงตอบโต้กลับไปหาอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง กำหมัดสองข้างแน่นพยายามนึกถึงหน้าครอบครัวที่เธอรัก นึกถึงเทวดาคนโปรด"กรี๊ดด ติ๋นไม่ได้โง่นะ ไม่ได้โง่" กระถินกระทืบเท้าปึ้กปั้กแล้วพุ่งเข้ามากระชากศีระษะของนิ่มฟ้าและใช้กรงเล็บครูดข่วนใบหน้าของเธอไปทั่วโดยมีเพื่อน ๆ พยายามช่วยกันดึงตัวกระถินสายวีนออกจากการทึ้งหัวของหัวหน้าห้อง"ปล่อยเปิ้นเน้อ ปล่อยสิ" นิ่มฟ้าพยายามแกะมือเหนียวของกระถินออก พอเห็นว่าไม่เป็นผลเธอจึงใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงตัวของเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่าจนเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น"โอ้ย ยัยหัวหน้าเผ่าฟาย" กระถินโกรธหน้าดำหน้าแดง"บ่าใจ้ฟายตำมะดาโตย แต่เป๋นฟายเจ๋ดทัวย่ะ" เด็กหญิงเถียงกลับแล้วรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ เตรียมที่จะเดินหนียัยกระถินปากจัดที่พูดจาไม่รู้เรื่อง"ไม่ให้ปายยย" กระถินวิ่งกลับเข้ามากระโดดตะครุบกลางหลังนิ่มฟ้า เนื่องจากเธอตัวเล็กกว่าทำให้ปีนขึ้นไปอยู่หลังเด็กหญิงหุ่นจ้ำม่ำได้ง่ายขึ้นงั่บ!"โอ๊ยยย" นิ่มฟ้าร้องเพราะถูกคมเขี้ยวของกระถินงับลงมาบนหัวไหล่ แม้จะมีเนื้อผ้าของชุดนักเรียนขวางกั้นแต่ฟันคม ๆ ก็กัดจมลงมาจนเด็กหญิงถึงกับน้ำตาเล็ด
หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภาคีอาสาดูแลหมูยอแทนเหนือฟ้า ระหว่างนั้นเขาจึงปรึกษากับภรรยาเรื่องลูกสาวเพราะเกรงว่าอาจมีการกลั่นแกล้งและบูลลี่กันที่โรงเรียนโดยที่เขาและเธอไม่เคยรับรู้มาก่อน"เหนือว่าเราควรไปสอบถามคุณครูโดยตรงเลยดีไหม พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย" เขาบ่นพึมพำท่ามกลางไฟสีส้มที่ส่องจากโคมรูปเห็ด ขณะที่ตนเองกำลังนอนตะแคงตบ ๆ ก้นให้หมูยอที่เพิ่งจะนอนหลับสนิท เนื่องจากหนูน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายท้อง แค้พอได้รับประทานยากับเกลือแร่เข้าไปอาการท้องเสียของเจ้าตัวเล็กก็ดูทุเลาลงสาวอวบที่เพิ่งอาบน้ำและไดร์ผมเสร็จก้าวขาเข้ามาในคอกกั้น วันนี้เธอกับสามีตัดสินใจนอนที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูแลหมูยอ"ดีค่ะ เพราะสมัยที่เหนือโดนเพื่อนแกล้งและถูกล้อเลียนเรื่องรูปร่างเหนือก็มีความรู้สึกเดียวกับลูก เหนือไม่เข้าใจเลยว่าตอนนั้นทำอะไรผิดเพื่อน ๆ ถึงไม่อยากคบเหนือ ตอนนั้นคนเดียวที่ให้คำปรึกษาได้คือพี่ไนท์ค่ะ แต่ตอนนี้เราคือครอบครัว เราทุกคนจะช่วยกันให้คำปรึกษานิ่มฟ้า เหนือจะไม่ปล่อยให้ลูกเผชิญความเจ็บปวดคนเดียวเด็ดขาด" หญิงสาวเล่าเท้าความในอดีตที่เจ็บช้ำ คำพูดถากถากทับถมของเพื่อน ๆ กลายเป็นปมในใจของเธอที่อยาก
ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดังขึ้นทำให้พ่อครัวใหญ่รีบดีดตัวขึ้นมาคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาชะล้างร่างกายเพียงสิบห้านาทีจึงรีบวิ่งซอยเท้าลงไปแล้วเริ่มปรุงอาหารด้วยความรักก่อนที่ลูกและภรรยาจะตื่นนอน"ป้อขี้!""เฮ่ย" หัวมันฝรั่งในมือเขาร่วงตุ้บลงกระแทกพื้น นิ่มฟ้าที่อยู่ชุดเสื้อคอกระเช้าเด็กประแปรงหน้าขาววอกสะกิดเรียกเขาท่ามกลางความมืดสลัวของห้องครัวในเวลาตีห้า"นิ่งบ่าใจ้ปี๋เน้อ ป้อต๋กใจนิ่งก๊ะ" นิ่มฟ้าลากเก้าอี้แล้วก้าวขึ้นไปยืนข้างพ่อชะโงกดูวัถตถุดิบที่พ่อเตรียมทำมื้อเช้า "ป้อทำก้าวผัดแฮ่มก๊ะ"เด็กหญิงสังเกตเห็นว่ามีเครื่องเคียงเป็นผัก หมูสับ และแฮมอีกอย่างพ่อก็วางกระทะตั้งไว้กับเตาแก๊สจึงมั่นใจว่าพ่อกำลังจะทำข้าวผัดแฮม"ฉลาดนะเนี่ยเรา ถูกต้องครับป้อกำลังทำข้าวผัดแฮมแล้วก็มีน้ำซุปมันฝรั่งซดแก้ฝืดคอ" เขาว่าแล้ววางหัวมันลง"โอ้โหดีเลยนิ่งกำลังอยากกิ๋น" นิ่มฟ้าคว้าหัวมันฝรั่งที่พ่อวางไว้บนเขียงมาถือแล้วหาที่ปอกเปลือกมัน"นี่ครับ" ผู้เป็นพ่อหยิบที่ปอกให้ลูกสาว มือเล็กรับไว้แล้วเริ่มปอกมันฝรั่งอย่าทะมัดทะแมง"ค่อย ๆ ปอกนะครับ แล้วนี่หนูตื่นมาทำอะไรแต่เช้า วันนี้วันเสาร์ไม่
โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย
ล่วงเลยมาจวบจนแฝดสามตัวป่วนอายุย่างเข้าวัยหัดอ้อแอ้ ความโกลาหลก็เพิ่มระดับขึ้นทำให้ในแต่ละวันพ่อแม่ต้องสลับกันควักยาดมตอนนี้บะแต๋งขึ้นประถมศึกษาชั้นปีที่หกส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าขึ้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง“เย้นิ่งเป็นฉาวแล้ว” นิ่มฟ้าสะบัดผมเปียของตัวเองขณะสวมชุดกระโปรงแบบไม่มีเอี๊ยม เด็กหญิงชะม้อยชะม้ายชายตามองกระจกขณะที่แม่ทำหน้าที่จัดทรงผมตามระเบียบของโรงเรียนที่กำหนดว่าต้องมัดผมให้เรียบร้อย“แก่แดดแก่ลมเกินไปแล้วนะแม่คนนี้” เหนือฟ้ายื่นมือมาบีบแก้มอูมของลูกสาว“ที่รักอาหารเช้าเสร็จแล้ว” ภาคีตะโกนเสียงดังขึ้นมาบนห้องนอนชั้นสาม สองแม่ลูกจึงพากันลงไปลิ้มรสมื้อเช้าขณะที่แฝดสาม บะแต๋งและน่านฟ้านั่งประจำตำแหน่งที่โต๊ะอาหารของใครของมันเรียบร้อย ที่คอของหมูยอ แป้งจี่และน้ำเงี้ยวมีผ้ากันเปื้อนลายลายการ์ตูนคนละสี ผมของทารกวัยหนึ่งขวบกว่าเริ่มดกดำคลุมทั้งหัว“หม่ำ ๆ” หมูยอกระแทกช้อนส้อมกับเก้าอี้กินข้าวที่มีกระบะสำหรับใส่ภาชนะอย่างร้อนใจ“ครับเสร็จแล้วลูก” ภาคีวางถ้วยบะหมี่ผักหมูน้ำลงบนกระบะกินข้าวของแฝดสาม แล้วยกจานข้าวผัดปลาแซลมอนจานใหญ่มาตั้งตรงกลางให้บะแต๋ง นิ่มฟ้าและน่านฟ้าบริการตัวเองทว่า
หนึ่งสัปดาห์ของการปิดเทอมที่เงียบเหงาทำให้นิ่มฟ้าที่ใจจดจ่อรอคอยต้องออกไปหากิจกรรมทำพร้อมกับพี่น้อง ช่วงเช้าเด็กหญิงนั่งรถซาเล้งออกมากับภาคีที่กระเต็งน้ำเงี้ยวไว้ในเป้อุ้มทารก ในรถพ่วงข้างยังมีส้มปู๋กับบะแว้งและบะแปปเจ้าแพะแคระติดสอยห้อยตามมาด้วย ส่วนบะแต๋งกับน่านฟ้านั้นไปทำงานกับแม่ที่โรงเลี้ยงวนิลา"เทพมาสไม่มาหาหนูแล้วเหรอ" จู่ ๆ พ่อก็ตัดสินใจถามเด็กหญิงที่กำลังใช้คราดขุดมันม่วงโอกินาว่า นิ่มฟ้าผงะเล็กน้อยกับคำถามที่เธอไม่อยากตอบเท่าไหร่"ดะดะ" แต่เพราะน้ำเงี้ยวเอียงคอมองพี่สาวที่กำลังทำหน้าจ๋อย พี่จึงยิ้มกว้างเพื่อให้น้องสบายใจ"บ่มาแล้ว จะไปตี้ไหนก็ไปเต๊อะนิ่งมุดออนแล้วเจ้า" หนูน้อยวัยอนุบาลที่มีวาจาฉะฉานประหนึ่งคนโตตอบพ่อด้วยความมั่นใจ แล้วกลับไปใช้คราดถากหญ้าถอนมันต่อ"เขาเรียกว่ามูฟออนจ้ะ ทำใจ๋เต๊อะความรักก็แบบนี้แหละน้า" ภาคีอุ้มน้ำเงี้ยวออกมาแล้วจับใส่สนับเข่าให้เจ้าตัวเล็กหัดคลานไปบนพื้นดินและได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่"ตะตะ" น้ำเงี้ยวเห็นใครบางคนกำลังกวักมือเรียก หนูน้อยสวมหมวกลายดอกไม้กับชุดผ้าหม้อฮ่อมสไตล์ล้านนารีบเร่งคลานแบบติดเทอร์โบไปหาเป้าหมายที่กำลังเปล่งแสงเร
ผ่านมาแล้วเกือบเจ็ดเดือนแล้วที่เหนือฟ้ากับภาคีได้กลายเป็นพ่อแม่ลูกหก แม้ในแต่ละวันทั้งคู่จะวุ่นวายกับการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กต่างวัยทั้งหลาย แต่กลับไม่รู้เลยว่าการมีเด็กน้อยเหล่านี้เป็นภาระเพราะพวกเขามีพร้อมทุกอย่าง ทั้งเวลาอาชีพ เงินทองและความรักทว่ากลับมีเด็กหญิงเพียงคนเดียวที่กลายเป็นเด็กไม่สดใสร่าเริง เนื่องจากเธอเฝ้ารอคอยใครคนนั้นให้แวะเวียนมาหา โชคร้ายที่คำสวดอ้อนวอนและภาวนารวมทั้งการทำความดีของเธอไม่ได้ช่วยให้เทวดาคนโปรดปรากฏกายถึงแม้นี่จะเป็นวันปิดเทอมวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่ง แทนที่นิ่มฟ้าจะดีใจแต่เธอกลับรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปโรงเรียน เพราะการไปเจอเพื่อน ๆ นั้นทำให้เธอได้พบกับความสนุกสนาน เสียงหัวเราะและพูดคุยของเพื่อนสนิทนั้นช่วยคลายความเหงาและความคิดถึงที่มีต่อเทพมาส“นิ่มฟ้าหนูมีการบ้านปิดเทอมหรือเปล่าคะ” เหนือฟ้าที่กำลังทำงุ่มง่ามวุ่นวายกับการเตรียมมื้อเช้าให้ทารกแฝดสามวัยอายุเจ็ดเดือนเศษอยู่หน้าเตาชะเง้อคอมองลูกสาวที่กำลังนั่งเฝ้าน้องในคอกกั้นโดยไม่พูดไม่จา “นิ่มฟ้าแม่ถามว่ามีการบ้านหรือเปล่าลูก” สาวอวบปิดเตาแก๊สแล้วล้างมือเดินไปดูอาการของลูกสาวที่ซึมเศร้าเหงาหงอยมาพักใ