เวลาล่วงถึงสี่โมงเย็นเหนือฟ้าส่งกรุ๊ปทัวร์ที่ภัตตาคารของรีสอร์ต แต่ลืมว่าทิ้งแฟ้มเอกสารสำคัญเอาไว้ที่โรงตากเกรสบัวหลวงจึงรีบร้อนขับรถกระบะกลับไปเอาทว่าหลังจากถึงโรงเรือนแปรรูปได้ไม่นาน ฝนฟ้ากลับเทกระหน่ำลงมาจนมองไม่เห็นภาพเบื้องหน้าให้ขับรถสัญจรผ่านไปได้ แต่เธอก็คิดจะฝืนขับกลับบ้านไปหาครอบครัวโชคร้ายต่อเนื่องจู่ ๆ ยางรถก็แบนแต๊ดแต๋"อ้าวยางรั่วเหรอ"เหนือฟ้ารีบเปิดประตูลงมาดูล้อรถ แต่สายฟ้าที่ฟาดลงมากลางไร่เป็นแสงวาบคาดท้องดำทมิฬเปรี้ยง!"ขืนอยู่ตรงนี้ฟ้าผ่าตายก่อน" หญิงสาวรีบมองหาที่หลบฝน สายตาประหวั่นพรั่นพรึงสะดุดกึกที่โรงเก็บฟืนที่สามีสั่งให้สร้างไว้รอบไร่ เพื่อบรรจุเศษไม้แห้งเก็บไว้เผาถ่านสาวอวบวิ่งฝ่าพายุไปยังโรงเก็บฟืนทีี่มีเตาถ่านอยู่ข้างใน ล้วงหาโทรศัพท์ในเสื้อร่มกดโทรหาบะแต๋งฟากเดียวกันภาคีที่ยังนอนซมพยายามงัดตัวขึ้นมามองหาภรรยา เพราะนี่ก็เกือบห้าโมงเย็นแล้วแต่เหนือฟ้ายังไม่ถึงบ้านสักที"ฮัลโหลหนุนน้อย หนุนน้อยโอเคก่อ""เกิดอะไรลูก แม่ล่ะ" ภาคีรีบพุ่งตัวเข้ามากุมไหล่ลูกชาย"หนุนน้อยบอกว่ารถยางแตก ตอนนี้หลบฝนอยู่โรงเก็บฟืนแถวบึงบัวหลวงครับป้อ""งั้นป้อจะให้เดือนเพ็ญกับอิ
ผู้อำนวยการทัพฟ้าและครูนับเก้าพาลูก ๆ ของตนมาเที่ยวบนดอย ณ ไร่กฤตกล้าธนาดรของหม่อมเจ้าภูวสินที่แม่ฮ่องสอน เนื่องจากลูกสาวคนโตกำลังจะไปหาประสบการณ์ทำงานที่ต่างประเทศและเรียนต่อปริญญาโทที่นั่น ส่วนคนเล็กก็เพิ่งอยู่มหาลัยปีสอง แถมเพิ่งสอบปลายภาคเสร็จ พ่อแม่จึงหวังให้ลูก ๆ มีโอกาสได้คลายเครียดบ้าง "เฮ้ยไอ้ฟ้า มึงมาถึงเร็วจังวะ" เจ้าของไร่ชาบนดอยตะโกนเรียกเพื่อนสนิทที่เพิ่งลงมาจากรถกอล์ฟของรีสอร์ต "มาถึงช้าก็อดดื่มด่ำบรรยากาศสิวะ เออไนท์ เหนือ หวัดดีอาภูสิลูก" ทัพฟ้าบอกลูกสาวทั้งสองคน "สวัสดีค่ะอาภู" หลานสาวสองคนยกมือไหว้ด้วยกิริยาท่าทางอ่อนหวาน "หวัดดีลูกมาถึงเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ" "แล้วภาคีละวะ เห็นเพิ่งประกวดหนุ่มหล่อแห่งชาติอะไรมา ลูกมึงนี่ฮ็อตจริง ๆ จริงไหมยัยเหนือ" "ค...คะ พ่อถามเหนือทำไม เหนือไม่รู้" เหนือฟ้าสาวอวบผิวขาวอมชมพูถักเปียข้าง รีบปฏิเสธทันควัน "ทีตอนอยู่บ้านยังรู้เรื่องอยู่เลยนะ" ราตรีพี่สาวบีบแกมจ้ำม่ำของน้อง "เด็ก ๆ นี่กุญแจห้องพักจ้ะ" นับเก้าส่งคีย์การ์ดห้องพักให้ลูกสาวคนละอัน "พี่ไนท์น่าจะให้เหนือนอนด้วย ทำไมต้องนอนคนละหลังกัน เปลือ
เหนือฟ้าเดินสะบัดสะบิ้งเตรียมเรียกรถกอล์ฟของรีสอร์ตตรงกลับห้องพัก แต่ภาคีเร็วกว่าเพียงแค่ฝ่ามือใหญ่หนายึดข้อมือเธอไว้ กระชากให้หันกลับไปด้วยกำลังเล็กน้อย ตัวของเธอก็ปะทะกับกล้ามอกแน่นเข้าอย่างจัง "จะไปไหน" "จะกลับห้องพักค่ะ เหนือไม่หิวแล้ว" โครก!!! คราก!!! อยู่ดี ๆ ไอ้ท้องบ้าก็เกิดทรยศขึ้นมา มิหนำซ้ำยังร้องซะเสียงดังน่าเกลียด ภาคีเม้มปากแน่นพยายามกลั้นขำ "อยากขำก็ขำเถอะค่ะ" เหนือฟ้าสะบัดหน้าโกรธแล้วก้มลงมองวงแขนบึกบึนที่รวบเอวเธอไม่ยอมปล่อย เหนือฟ้ายืนตัวเกร็ง "ตอนเด็ก ๆ เหนือคงจำไม่ได้ว่าขี่หลังพี่ประจำ อ้อนให้พี่อุ้มอยู่บ่อย ๆ" ภาคีรำลึกความหลังสมัยเหนือฟ้ามาวิ่งเล่นอยู่บนไร่ชาบนดอยของเขานานร่วมเดือนช่วงที่พ่อแม่ของเธอแวะมาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ "เด็กขนาดนั้นใครจะจำได้ ยังไงเหนือขอร่างกายคืนด้วยค่ะ" สาวอวบจิกตาขวาง "ทำไมรู้สึกไม่ค่อยอยากคืนซะแล้ว" หน้าขาวโน้มต่ำลงมาให้ริมฝีปากคลอเคลียอยู่แถวหน้าผาก เหนือฟ้ารีบดึงตัวออก แต่วงแขนแกร่งก็ผลักเข้ามาอีก "พี่ภาคี!" "น่ากลัวจัง ปล่อยก็ได้" เขายกแขนแต่เปลี่ยนเป็นรวบตัวเธอขึ้นสูงแทน "นี่....พี่คีปล่อย อุ้มเหนือทำไม
ภาคีขับรถกอล์ฟมาส่งเหนือฟ้าลงหน้าบ้านพัก เขาจอดรถและเดินตามหลังมา "เหนือ" "คะ...พี่คีมีอะไรเหรอ" "ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับเหนือฟ้า พี่ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ พี่ภาคี กฤตกล้าธนาดร อายุยี่สิบห้าปี สถานะโสด" "รู้มาตั้งนานแล้ว" สาวแก้มยุ้ยพูดพึมพำ "ว่าไงนะ" "เปล่าค่ะไม่มีอะไร งั้นราตรีสวัสดิ์ค่ะ" "ฝันดี" แผ่นหลังสูงขับรถกอล์ฟไปจอดที่มุมมืดเพื่อลอบมองดูสาวอวบที่กำลังแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง พอมั่นใจว่าเธอปลอดภัยเขาถึงขับรถออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่เหนือฟ้านอนคนเดียวในที่ต่างถิ่น หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เปิดไฟสว่างไปทั่วห้อง ตั๊บแก!! ตั๊บตั๊บตั๊บแก" "ตุ๊กแกที่นี่ก้างติดคอหรือไง แต่บรรยากาศที่นี่วังเวงจัง ป่านนี้พี่ไนท์หลับหรือยังนะ" เหนือฟ้าแชตไปหาพี่สาว แต่ราตรีไม่อ่านข้อความของเธอ หญิงสาวจึงพยายามสวดมนต์เพื่อผ่อนคลายตัวเองก่อนนอนและฝืนข่มตา แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีอาการกลัวผียิ่งทำให้เธอกระสับกระส่าย จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่ม "ฮือตายแน่นอนไม่หลับ" แฟ่ก! แฟ่ก! เหนือฟ้าสะดุ้งลุกดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดหัว "เสียงอะไรอ่ะ" ด้านนอกระเบียงมีแมวประจำรีสอร์ตแวะมา
ภาคีผลักประตูแล้วรีบกดล็อกสาวเท้าเข้ามาจนเหนือฟ้าวิ่งหนีไปอยู่มุมห้อง "พี่คีจะทำอะไร หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ต้องเข้ามา" หนุ่มมาดเซอร์ท่าทางยียวนกวนประสาทเลิกคิ้วสูงแล้วพุ่งตัวเข้าใส่สาวอวบหลับตาปี๋ยกแขนป้องตัวเอง สองแขนเต็มด้วยมัดกล้ามคร่อมแนบหัวไหล่เปลือยขาว "ขี้แย ขี้ตกใจ ขี้ขางด้วย น่าฮักขนาด" "ขี้ขางอะไรเหนือไม่เข้าใจค่ะ" เหนือฟ้าหลุบตามองพื้นพยายามทำตัวลีบแบน "ฮ่าฮ่าบ่ะหนุนน้อย จะย่อขนาดเหรอครับ ตัวเท่านี้แหละพี่ชอบ" "ฮะ...ชอบ ชอบอะไร" หญิงสาวพยายามจะมุดออกจากวงแขนกว้าง แต่ภาคีก็ขยับตามตลอด "ชอบบ่ะหนุนไง อร่อยดี" "เหนือไม่ใช่ขนุน....เฮ้ยพี่คีนั่นจิ้งเหลนนี่คะ มันเข้ามาในห้องได้ยังไง" เหนือฟ้าแสร้งหลอกให้เขาตายใจ "ฮะไหน" เขาก็ช่างหลอกง่าย สาวอวบจึงได้โอกาสมุดตัวหนีออกจากวงแขนที่คร่อมยันผนังอยู่ "จะหนีไปไหน" ถึงจะหลงกลแต่ระดับความเร็วของเขาก็ต่างกันอยู่ดี เรียวแขนแกร่งรวบเอวเหนือฟ้าแล้วรั้งให้หันกลับมาปะทะกับตัวของเขา คราวนี้ภาคีใช้แขนสองข้างรัดตัวเธอไม่ต่างกับงูเหลือมเพศผู้ "พี่คีชอบใช้กำลัง" บ่นอุบอิบทำแก้มป่องจนอยากก้มลงฟัดให้ช้ำกันไปข้างนึง "เปล่านะ พี่ไม่ได้ชอบใ
อีกวันเดียวครอบครัวเวหะชลการก็จะเดินทางกลับกรุงเทพ ภาคีจึงมายืนดักรอเหนือฟ้าหลังเธอกินมื้อเช้ากับครอบครัวเสร็จ วันนี้เหนือฟ้าใส่ชุดเอี๊ยมกางเกงขายาวสวมหมวกปีกกว้าง มองเผิน ๆ ดูน่ารักเหมือนสาวชาวไร่ ขณะที่เธอกำลังเดินมาถึงตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ หนุ่มผมยาวตัดสินใจคุกเข่าลงตรงหน้า "เหนือเป็นแฟนกับพี่นะ" ทั้งพ่อแม่พี่สาว ทุกคนมองเธอเป็นตาเดียวกันแล้วรีบซอยเท้าเดินหนีไปจากตรงนั้นเพื่อให้เธออยู่กับเขาสองคน "พี่คีอ่ะ...ลุกเถอะค่ะเหนืออาย" "ไม่ลุก จนกว่าเหนือจะตกลง" "ก็ได้ค่ะ เหนือจะเป็นแฟนกับพี่คี" สาวอวบอมยิ้มแล้วฉุดแขนภาคีขึ้นมา "นี่ดอกไม้ที่พี่ปลูกเอง" ดอกไม้สารพัดสายพันธุ์ช่อใหญ่อยู่ในมือของเขา เหนือฟ้ารีบดึงช่อดอกไม้ดังกล่าวมาอย่างว่องไว พราะไม่อยากยืนเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร "ขอบคุณค่ะ" "พรุ่งนี้จะกลับกรุงเทพแล้วใช่ไหม พี่แวะไปหาได้เปล่า" "เหนือปิดเทอมแค่สองอาทิตย์ก็ต้องกลับไปเรียนต่อแล้วค่ะ พี่คีจะไปหาก็ไปหาที่บ้านแทนได้ไหม คือเหนือไม่อยากให้คนอื่น ๆ นินทาพี่คี" "ใครเขาจะพูดอะไรก็ปล่อยให้พูดไปสิ พี่ไม่แคร์" ความจริงแล้วเธอหวงเขาต่างหากไม่อยากให้ใครเ
นิสิตสาวเดินลงมาจากตึกคณะโบกมือลาเพื่อน ๆ ในกลุ่มจากนั้นตรงไปที่ร้านน้ำปั่นเจ้าโปรดเพื่อสั่งข้าวโพดนมสดปั่น แต่ขาเจ้ากรรมกลับสะดุดกึก เพราะห่างจากเธอไม่กี่เมตรคือ สารถีรูปหล่อสุดฮ็อตที่กำลังยืนกินหม่าล่าอยู่ข้าง ๆ ร้านน้ำปั่น โดยที่รอบตัวเขามีแต่นักศึกษาชายหญิงที่กำลังยืนห้อมล้อมราวกับพบดาราดัง "ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ ผมขอแสกนจ่ายนะ" ภาคีล้วงหาโทรศัพท์เพื่อแสกนจ่าย แต่ทันใดนั้นดาวมหาลัยอย่างลินินก็เสนอตัวด้วยการยื่นแบงค์พันส่งให้ชายหนุ่ม"หนึ่งร้อยบาทจ้ะพ่อหนุ่ม นี่จ้ะ" ป้าแม่ค้าบอกพลางหยิบคิวอาร์โค้ดให้ลูกค้าหนุ่มแสกนจ่าย"เดี๋ยวลิเลี้ยงมื้อนี้เองค่ะ" นิสิตคนสวยกล่าวด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ เหนือฟ้าที่ยืนมองดูอยู่นั้นได้แต่ลอบถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ แล้วรีบยกกระเป๋าปิดหน้าเดินไปสั่งน้ำข้าวโพดแก้วโปรดโดยไม่สนใจภาคี"ไม่เป็นไรครับ ผมมีเงิน" ภาคีตัดบทแล้วหยิบโทรศัพท์มาแสกนจ่าย สายตาที่เขาตวัดมองลินินนั้นดูเย็นชาและแฝงด้วยความน่ากลัว โชคดีที่เธอแชตมาสั่งมาน้ำปั่นกับแม่ค้าก่อน พอไปถึงก็ได้รับน้ำข้าวโพดปั่นกลิ่นหอมพอดี ทำให้เธอสามารถหลบหลีกการปะทะกับผู้ห
เหนือฟ้านั่งบิดขี้เกียจอยู่ใต้โคมไฟสีส้มสลัว ดวงตากลมเริ่มพร่าเลือนจนภาคีที่กำลังจัดวางกับข้าวถึงต้องชะเง้อคอมองดูด้วยความกังวล "เสร็จแล้วครับ มากินได้เลย" หนุ่มมาดเซอร์ในชุดผ้ากันเปื้อนมัดจุกรวบเก็บผมไว้ครึ่งหัวเดินมาตามนิสิตแสนขยันในห้อง สาวอวบกลั้นยิ้มเพราะเธอโคตรโชคดีที่ได้เห็นหนุ่มฮ็อตขวัญใจสาวค่อนประเทศในสภาพพ่อบ้านกล้ามโต "รับทราบค่ะ" เหนือฟ้าเดินตรงไปที่โต๊ะกินข้าว มองข้าวซอยไก่ชามใหญ่และน้ำข้าวโพดปั่นนมสดฮอกไกโดกลิ่นหอมสองชุด ภาคีนั่งลงฝั่งตรงข้าม แล้วรินน้ำเปล่าเพิ่มให้เธออีกหนึ่งแก้ว ทำไมเขาช่างดีกับเธอมากมายขนาดนี้ ทั้งที่เธอทำตัวเย็นชากับเขาสารพัด แต่เขาก็ไม่โกรธเลยสักครั้ง "พี่คีทำอาหารน่ากินจัง" เหนือฟ้าบอกแล้วตักข้าวซอยไก่ร้อน ๆ คำแรกใส่ปาก ดวงตากลมถลึงมองเมนูดังกล่าวในชามตัวเอง แล้วเริ่มจ้วงกินคำใหญ่อย่างลืมตัว จนพ่อครัวหัวเราะร่วน "อร่อยใช่ไหม กินเยอะ ๆ นะเดี๋ยวจะผอมไป" เขาแซว "อร่อยมากค่ะ ไก่ก็เปื่อยมาก น้ำซุปก็จัดจ้าน กดไลก์ให้เลย" เหนือฟ้าฉีกยิ้มเคี้ยวแก้มตุ่ย ภาคีรู้สึกภูมิใจที่ทำให้สาวที่เขาลงท
เวลาล่วงถึงสี่โมงเย็นเหนือฟ้าส่งกรุ๊ปทัวร์ที่ภัตตาคารของรีสอร์ต แต่ลืมว่าทิ้งแฟ้มเอกสารสำคัญเอาไว้ที่โรงตากเกรสบัวหลวงจึงรีบร้อนขับรถกระบะกลับไปเอาทว่าหลังจากถึงโรงเรือนแปรรูปได้ไม่นาน ฝนฟ้ากลับเทกระหน่ำลงมาจนมองไม่เห็นภาพเบื้องหน้าให้ขับรถสัญจรผ่านไปได้ แต่เธอก็คิดจะฝืนขับกลับบ้านไปหาครอบครัวโชคร้ายต่อเนื่องจู่ ๆ ยางรถก็แบนแต๊ดแต๋"อ้าวยางรั่วเหรอ"เหนือฟ้ารีบเปิดประตูลงมาดูล้อรถ แต่สายฟ้าที่ฟาดลงมากลางไร่เป็นแสงวาบคาดท้องดำทมิฬเปรี้ยง!"ขืนอยู่ตรงนี้ฟ้าผ่าตายก่อน" หญิงสาวรีบมองหาที่หลบฝน สายตาประหวั่นพรั่นพรึงสะดุดกึกที่โรงเก็บฟืนที่สามีสั่งให้สร้างไว้รอบไร่ เพื่อบรรจุเศษไม้แห้งเก็บไว้เผาถ่านสาวอวบวิ่งฝ่าพายุไปยังโรงเก็บฟืนทีี่มีเตาถ่านอยู่ข้างใน ล้วงหาโทรศัพท์ในเสื้อร่มกดโทรหาบะแต๋งฟากเดียวกันภาคีที่ยังนอนซมพยายามงัดตัวขึ้นมามองหาภรรยา เพราะนี่ก็เกือบห้าโมงเย็นแล้วแต่เหนือฟ้ายังไม่ถึงบ้านสักที"ฮัลโหลหนุนน้อย หนุนน้อยโอเคก่อ""เกิดอะไรลูก แม่ล่ะ" ภาคีรีบพุ่งตัวเข้ามากุมไหล่ลูกชาย"หนุนน้อยบอกว่ารถยางแตก ตอนนี้หลบฝนอยู่โรงเก็บฟืนแถวบึงบัวหลวงครับป้อ""งั้นป้อจะให้เดือนเพ็ญกับอิ
ภาคีหอบลูกเต้าตามเหนือฟ้ามาถึงโซนของรีสอร์ต ทันทีที่ศัจกรเห็นหน้าเขาอีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วสูงมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า"ผมมีธุระคุยกับคุณเหนือคนเดียวนะครับ ไม่ได้จะคุยกับคนอื่น""ประทานโทษนะครับ พอดีผมไม่ไช่คนอื่นคนไกล ผมเป็นผัวของเหนือฟ้า" ปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยหึงหวงเมียเท่าไร แต่กับไอ้หมอนี่มันมีประกายของความปรารถนาที่แผ่ซ่านออกมาอย่างเห็นได้ชัดแค่มันอ้าปากเขาก็เห็นลิ้นไก่ของคนตรงหน้าว่าศัจกร ชายที่เคยตื๊อจีบภรรยาของเขานึกคิดสิ่งใดอยู่"ตานโต้ดนะก๋า" นิ่มฟ้าพูดเลียนแบบพ่อบะแต๋งชำเลืองมองกำปั้นพ่อที่กำลังกำแน่นจนเห็นเส้นเลือด เด็กชายจึงยื่นมือไปกุมไว้ "ป้อเป็นหยัง ป้อโอเคก่อ""ป้อโอเคครับ แต่ไม่โอเคกับไอ้หมอนี่"เหนือฟ้าที่กำลังไปคุยกับเดือนเพ็ญเรื่องกิจกรรมของคณะทัวร์จากบริษัทแมลงทอดรีบเดินกลับมา หญิงสาวชะงักงันเมื่อพบว่าสามีกำลังโมโหจนหน้าขาว ๆ ของเขาแดงซ่าน"พี่คีคะ พี่คี มาหาเหนือก่อน" สาวอวบรั้งเอวสามีให้มาคุยส่วนตัว"หนุนฟ้าฉานิ่งไปกิ๋นฉ้นตันได้ก่อ ป้าเพงชวนกิ๋น" นิ่มฟ้ากระตุกเสื้อแม่ขณะที่บะแต๋งกับน่านฟ้าไปนั่งล้อมวงกินส้มตำถาดใหญ่กับหมูปิ้งของโปรดอยู่กับเดือนเพ็ญและอินเหลาก่อนแล้
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจส่งวิญญาณปินปินก็จัดการไปคุยกับเปรตอีกตนที่อดีตเคยเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ แล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลของตนให้ เปรตที่ได้รับบุญจากผู้มีอภิญญาบารมีรู้สึกยินดีปรีดา แม้จะยังไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้แต่กองบุญนี้ก็ช่วยลดทอนเวรกรรมที่เคยทำมาในอดีตชาติได้บ้าง"เดี๋ยวก็ต้องเดินทางกลับกันแล้วใช่ไหมจ๊ะแซม" เหนือฟ้าดันจานสลัดให้แซมมี่ตัก"ค่ะ กินมื้อเช้าเสร็จเราก็ต้องเดินทางกลับทันที ปินเขามีภารกิจต้องเตรียมงานในเทศกาลดิวาลีที่เทวาลัยอัญฎรญามีค่ะ""แป่มม่ายกับบั้น" มะแป่มที่กำลังกินไข่ดาวจนปากเลอะเหลือบดวงตากลมไปหาเป้าหมายเล็กน้อย"แล้วตั๋วจะอยู่ตำไม" น่านฟ้าถามแล้วกระเถิบเก้าอี้ไปชิดกับเหนือฟ้า"ยู่กะแควน" หนูน้อยยิ้มหวานโชว์คราบไข่แดงที่เปื้อนเป็นวงทั่วริมฝีปาก"อี๋ ชาหยองก่าปี๋อีก" เด็กชายตัวเล็กทำหน้าเหวอ ทำไมเด็กคนนี้กินเลอะเทอะขนาดนี้"แป่มคะ หนูยังเด็กมากเลยนะแม่กับพ่อต้องการหนูนะ แม่ว่าหนูอย่าเพิ่งมีแฟนเลย" แซมมี่กระซิบใบหูเล็กแล้วหยิบทิชชูเปียกในกระเป๋ามาซับคราบอาหารบนปากลูกสาว"แย้วตะไมจันพินมีแควนเพงแม่แชม" คำถามนี้ทำเอาแซมมี่ถึงกับชะงัก"เก๊าโทแล้วไง เก๊าเป็นปู้หย่าย
ช่วงหัวค่ำอาจารย์ปินปินเรียกทุกคนมารวมตัวกันเพื่อกำชับว่าห้ามทำอะไรและไม่ควรทำอะไร"เดี๋ยวผมจะออกไปตรวจดูจุดเกิดเหตุกับแซมมี่นะครับ ผมขอฝากมะแป่มไว้ด้วย""มะอาวแป่มปายกะจันพิน ปายกะแชม" หนูน้อยเหนี่ยวขาพ่อไว้ด้วยการใช้แขนขารัดแข้งพ่อให้แน่นที่สุด"ไม่ได้ครับ มันอันตรายนะ พ่อสัญญาว่าถ้าเสร็จงานแล้วพ่อจะซื้อขนมให้แป่มกินเยอะ ๆ เลย" อาจารย์ปินคุกเข่าลงกับพื้นกอบกุมวงหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของเขา"ฉันยา" นิ้วก้อยเล็กคล้องเกี่ยวกับนิ้วก้อยใหญ่ของพ่อ ถึงแม้มะแป่มจะเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ตาสีตาสีแต่หนูน้อยจำได้แม่นยำว่าเคยเห็นพ่อกับแม่มีเลือดท่วมตัว"เด็กดีของพ่อกับแม่" เจ้าของฝ่ามือใหญ่วางลงบนหัวเล็ก ก่อนจะอุ้มลูกสาวฝากไว้กับเหนือฟ้าและภาคี"งั้นให้นิ่งไปโตยนะค้าอาพิน นิ่งจะไปจ่วยปับปี๋" นิ่มฟ้าผู้ไม่กลัวผีสางนางไม้ใด ๆ เสนอตัวไปเป็นผู้ช่วย"ปี้นิ่งไปน่านก็ต้องไป หมู่เหาไม่ทิ้งกัน" น่านฟ้าจับมือพี่สาว ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ถูกมือเล็กของมะแป่มกุมแน่น"ห้ำปายนะแควน คิก ๆ" มะแป่มหัวเราะคิกคักมโนเป็นตุเป็นตะหาว่าน่านฟ้าเป็นแฟน"ไผเป๋นแควนตั๋ว" เด็กชายดึงมือออก"ก็กุนปี้ไง กุนปี้เพงแควนแป่ม" หนูน้อยดึง
ภาคียิ้มเจื่อนส่งให้ลูกสาว นิ่มฟ้ายื่นมือเล็กไปกุมหน้าพ่อตบเบา ๆ สองสามที"ป้อสะเบ๊อะสะเจ๊อะ ทีหลังป้อท่องยะวังเน้อ นิ่งไม่ฉามาสดูแยป้อได้ตาหลอด" นิ่มฟ้ากำชับให้พ่อหัดดูแลตนเอง"อะหยังหนูถึงไม่สามารถดูแลป้อได้ตลอดล่ะครับ" ฝ่ามือใหญ่ประคองพวงแก้มอูม"นิ่งต้องไปยะก๋านในไร่ป้อขี้ไง อี่แม่บอกว่าถ้านิ่งอยากได้ทุ๊กทาปาปี้นิ่งต้องยะก๋าน" นิ่มฟ้าบอกพลางกอดอกทำหน้าขึงขังจริงจัง"ฮ่าฮ่าลูกเป็นละอ่อนตี้น่าฮักจริง ๆ" คุณพ่อหัวเราะคิกคักเอ็นดูความตรงไปตรงมาของลูกสาวหลังจากที่ภาคีขนกับข้าวลงมาจากรถ ขณะที่เขากำลังเตรียมนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเหนือฟ้าที่กำลังแกะถุงโจ๊กใส่ชาม"กลิ่นอะไรเหมือนขี้เลยค่ะ กลิ่นตุ ๆ" สาวอวบทำจมูกฟุตฟิตใส่สามี"พี่อาบน้ำแล้วนะครับ""เหนือรู้ค่ะ แต่เหนือได้กลิ่นเหม็นเน่ามาก เหม็นสาบเหมือนกับกลิ่นขี้แพะเลย" ยิ่งยื่นหน้าไปดมใกล้ ๆ กลิ่นก็ยิ่งแรง"ป้อ ๆ ฉาน่านอยากกินน้ำฉ้วม" น่านฟ้ากระตุกแขนพ่อเพื่อไปเอาน้ำส้มสายน้ำผึ้งที่แม่คั้นแช่ตู้เย็นในบ้าน"ได้ครับ เดี๋ยวป้อไปหยิบให้นะ" พอคนตัวสูงลุกเท่านั้นกลิ่นขี้ก็แรงสะพัดประจวบเหมาะกับช่วงที่สายลมพัดผ่านกลิ่นขี้แพะใกล้ปลายจมูกก็ยิ่งแรงข
ช่วงสายของวันรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวของอาจารย์ปินปินขับเข้ามาถึงไร่พิทักษ์มหิงสาพร้อมกับลูกและภรรยาและหลานสาวคนเล็ก โดยมีเหนือฟ้ายืนต้อนรับอยู่หน้าบ้านพร้อมกับน่านฟ้าปินปิน อาจารย์หนุ่มมาดสุขุมสวมแว่นกรอบเงินกระเตงมะแป่มหนูน้อยอายุสองขวบลงมาจากรถ"ก้างหย่าย" มะแป่มกางแขนออก กระตุกขาพ่อให้ดูอาณาจักรควายอันยิ่งใหญ่ตรงหน้า"ครับ กว้างใหญ่มาก""ปี๋เปียบ ปี๋เต็มโหมะเลย" มะแป่มหนูน้อยที่เห็นภูติผีปีศาจตั้งแต่เกิดชี้ให้พ่อดูพลังงานลึุกลับที่สิงสถิตย์อยู่ในไร่แห่งนี้"แล้วหนูกลัวไหมลูก" เจ้าสำนักอันตรยามีชันเข่าหนึ่งข้างพลางช้อนตัวลูกสาวขึ้น"มะกัว" มะแป่มส่ายหน้า"สองพ่อลูกทำอะไรกันอยู่" แซมมี่กวักมือเรียกสองพ่อลูก"อาปินคะเดี๋ยวปั้นดูแลมะแป่มให้เองค่ะ" ปั้นหยาอายุสิบสองปีอาสาดูแลมะแป่มน่านฟ้ายืนหน้าซีดรับแขกพร้อมแม่ ถึงหนูน้อยจะปวดท้องแต่ก็ยืนอดทนไม่แสดงอาการงอแงใด ๆ ปินปินเห็นเด็กชายมีอาการไม่สู้ดีจึงหยิบสร้อยรุทรักษะที่เตรียมมาให้คล้องลงไปที่คอของเด็กชาย"ใส่ไว้นะครับ สิ่งนี้จะช่วยคุ้มครองหนู แล้วก็อย่าไปเล่นซนไกลบ้านล่ะ แม่ซื้อเขาตามดูแลไม่ทัน" ปินปินเหลือบมองแม่ซื้อสไบชมพูที่นั่งห้อยขาอยู
เอ้ก! อี้! เอ้กเอ้ก!นาฬิกาปลุกเสียงไก่ร้องของเหนือฟ้าปลุกเรียกภาคีให้ตื่นขึ้นก่อน เขาหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมาปิดเสียงแล้วลุกขึ้นช้า ๆ นวดขมับเล็กน้อยเพื่อปรับจูนสายตา"พี่คีคะ เหนืออยากกินโจ๊กจัง" เหนือฟ้าบิดขี้เกียจ ยกหน้าขึ้นวางบนตักของภาคี ใช้สองมือโอบกอดรอบเอวสามี"เอาปาท่องโก๋ไหมครับ""เอาค่า เอาพี่คีด้วยได้ก่อจ้าว" เหนือฟ้าคลานสี่ขาเข้าไปหาภาคีที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดอยู่บนเตียง สองมืออวบคล้องลงบนหลังคอ"เด็กลามก เดี๋ยวนี้ร้องขอเองแล้วเหรอ""ใช่ค่ะ เดี๋ยวนี้เหนือหน้าด้านเป็นแล้วนะ" บอกเสียงเล็กเสียงน้อยภาคีเขยิบตัวหันหลังรั้งหัวไหล่เปลือยขาวในชุดนอนวาบหวิวเข้ามาหา "เปลี่ยนบรรยากาศบ้างไหม""เปลี่ยนยังไงคะ""ย้อนความหลังกันเล็กน้อย" เขาโน้มต่ำลงมาแล้วงับก้านหูของเธอเบา ๆ"อึ๋ย ขนลุก" สาวอวบสะท้าน ตอนแรกก็อยากโจ๊กอยู่หรอก แต่ตอนนี้อยากกินสามีมากกว่าก๊อก! ก๊อก!สองผัวเมียรีบแยกตัวออกจากกันเพราะเสียงเคาะประตู ภาคีรีบเดินไปส่องตาแมวเห็นลูกชายตัวเล็กกำลังยืนทำหน้าซึมเป็นหมาจ๋อยอยู่ข้างนอก หน้าตาซีดเซียวเหมือนคนไม่สบาย"น่านฟ้าหนูเป็นอะไรครับ" คุณพ่อย่อตัวลง"น่านเจ๋บต๋อง ฮือออ"
ล่วงเข้าสี่ทุ่มทั้งปูเป้และพิมุกต์เริ่มเมามายรวมทั้งอินเหลาพี่เลี้ยงเด็กแฝดชาวดอย"โว้ย ป้อเลี้ยงหำโผล่ ไอ้ยมมึงขวิดเลยสิวะ" หนุ่มชาวดอยที่ถูกชวนมาแจมมื้อค่ำด้วยเริ่มมีอาการเมา พอเมาทีไรเริ่มด่าทุกทีภาคีหันขวับ ไอ้นี่มันเมาแล้วหลอกด่าเหรอวะ "ไอ้อิน! มึงได้สติบ่าไดกูจะไม่จ่ายเงินเดือนให้มึงจักบาท""ยู๊ดดดน้าปาขี้" นิ่มฟ้าไม่ชอบให้พ่อพูดคำหยาบคาย ฟังแล้วมันระคายเคืองหู หนูน้อยเดินตรงไปหาพ่อแล้วยื่นมือเล็กไปตีปากเบา ๆ"อะหยังป้อถึงอู้บ่าได้ ป้อขออู้นิดเดียวเอง" ภาคีอ้อนลูกสาว"เดี๋ยวตกรกเวจี นิ่งกั๋วป้อเจ๋บปวดตอระมาน" นิ่มฟ้าเบะปากแล้วซุกใบหน้าเล็กแนบคอพ่อ"โอ๋ ๆ บ่าต้องร้อง ป้อจะบ่าพูดคำหยาบอีกแล้ว" พ่อเลี้ยงหนุ่มอุ้มกระเต็งลูกสาวไว้ในอ้อมแขน"คุณพิขาพาเป้กลับห้องทีนะค้า แล้วเราก็แอ้มกันสักสี่ห้ายก ดีไหมค้า"
บริเวณหน้าบ้านพักสองหลังมีเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวของปูเป้กับทนายพิมุกต์ ทั้งสองทะเลาะกันมาตั้งแต่บึงบัวจนถึงบนบก"นี่คุณจะตามฉันไปถึงไหนคุณพิ เมื่อไหร่จะเลิกตามสักที""ผมก็กลัวว่าคุณจะมาทำให้ครอบครัวคนอื่นเขาแตกแยกน่ะสิ" พิมุกต์เดินเร็ว ๆ ขึ้นไปดักหน้าไม่ให้อดีตพิธีกรคนดังกลับเข้าไปในบ้านพักของตน"ถ้าฉันจะทำให้คุณภาคีกับคุณเหนือฟ้าเขาแตกคอ ฉันทำไปตั้งนานแล้วย่ะ และที่ฉันมาพักที่นี่ก็เพราะว่าต้องตระเวนเที่ยวนครนายกเพื่อทำคอนเทนต์ส่งบริษัท" ปูเป้บอกแล้วผลักตัวคนพูดจาไม่รู้เรื่องให้พ้นทาง"ไหนล่ะหลักฐาน ผมต้องการข้อพิสูจน์" ทนายหนุ่มเลิกคิ้วสูง"คุณมันบ้า" ปูเป้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดแชตบริษัทให้ดู "ไง จะเชื่อได้ยัง""เชื่อก็ได้ มั้ง" พิมุกต์ทำหน้ายียวน"สุมาเต๊อะคุณทนายปิ๊ ปอดีว่าป้อเลี้ยงให้เปิ้นชวนคุณปิ๊กับคุณปุ๊ไปกินปิ้งย่างที่บ้านเย็นวันนี้จ้าว""ประทานโทษนะคะ เป้ชื่อปูเป้ไม่ใช่ปุ๊ งั้นฝากบอกคุณคีกับคุณเหนือด้วยนะว่าเป้ตกลง" ปูเป้ไม่ปฏิเสธเพราะเธอเองบริสุทธิ์ใจ"ผมเองก็ตกลงครับ" ทนายพิมุกต์รับคำชวนเช่นกัน ที่เขารับเพราะต้องการไปเฝ้าระวังพฤติกรรมปูเป้ อนึ่งเขาต้องการหาทางจีบเธออีกครั้ง