ช่วงหัวค่ำอาจารย์ปินปินเรียกทุกคนมารวมตัวกันเพื่อกำชับว่าห้ามทำอะไรและไม่ควรทำอะไร"เดี๋ยวผมจะออกไปตรวจดูจุดเกิดเหตุกับแซมมี่นะครับ ผมขอฝากมะแป่มไว้ด้วย""มะอาวแป่มปายกะจันพิน ปายกะแชม" หนูน้อยเหนี่ยวขาพ่อไว้ด้วยการใช้แขนขารัดแข้งพ่อให้แน่นที่สุด"ไม่ได้ครับ มันอันตรายนะ พ่อสัญญาว่าถ้าเสร็จงานแล้วพ่อจะซื้อขนมให้แป่มกินเยอะ ๆ เลย" อาจารย์ปินคุกเข่าลงกับพื้นกอบกุมวงหน้าเล็กเท่าฝ่ามือของเขา"ฉันยา" นิ้วก้อยเล็กคล้องเกี่ยวกับนิ้วก้อยใหญ่ของพ่อ ถึงแม้มะแป่มจะเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ตาสีตาสีแต่หนูน้อยจำได้แม่นยำว่าเคยเห็นพ่อกับแม่มีเลือดท่วมตัว"เด็กดีของพ่อกับแม่" เจ้าของฝ่ามือใหญ่วางลงบนหัวเล็ก ก่อนจะอุ้มลูกสาวฝากไว้กับเหนือฟ้าและภาคี"งั้นให้นิ่งไปโตยนะค้าอาพิน นิ่งจะไปจ่วยปับปี๋" นิ่มฟ้าผู้ไม่กลัวผีสางนางไม้ใด ๆ เสนอตัวไปเป็นผู้ช่วย"ปี้นิ่งไปน่านก็ต้องไป หมู่เหาไม่ทิ้งกัน" น่านฟ้าจับมือพี่สาว ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ถูกมือเล็กของมะแป่มกุมแน่น"ห้ำปายนะแควน คิก ๆ" มะแป่มหัวเราะคิกคักมโนเป็นตุเป็นตะหาว่าน่านฟ้าเป็นแฟน"ไผเป๋นแควนตั๋ว" เด็กชายดึงมือออก"ก็กุนปี้ไง กุนปี้เพงแควนแป่ม" หนูน้อยดึง
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจส่งวิญญาณปินปินก็จัดการไปคุยกับเปรตอีกตนที่อดีตเคยเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ แล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลของตนให้ เปรตที่ได้รับบุญจากผู้มีอภิญญาบารมีรู้สึกยินดีปรีดา แม้จะยังไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้แต่กองบุญนี้ก็ช่วยลดทอนเวรกรรมที่เคยทำมาในอดีตชาติได้บ้าง"เดี๋ยวก็ต้องเดินทางกลับกันแล้วใช่ไหมจ๊ะแซม" เหนือฟ้าดันจานสลัดให้แซมมี่ตัก"ค่ะ กินมื้อเช้าเสร็จเราก็ต้องเดินทางกลับทันที ปินเขามีภารกิจต้องเตรียมงานในเทศกาลดิวาลีที่เทวาลัยอัญฎรญามีค่ะ""แป่มม่ายกับบั้น" มะแป่มที่กำลังกินไข่ดาวจนปากเลอะเหลือบดวงตากลมไปหาเป้าหมายเล็กน้อย"แล้วตั๋วจะอยู่ตำไม" น่านฟ้าถามแล้วกระเถิบเก้าอี้ไปชิดกับเหนือฟ้า"ยู่กะแควน" หนูน้อยยิ้มหวานโชว์คราบไข่แดงที่เปื้อนเป็นวงทั่วริมฝีปาก"อี๋ ชาหยองก่าปี๋อีก" เด็กชายตัวเล็กทำหน้าเหวอ ทำไมเด็กคนนี้กินเลอะเทอะขนาดนี้"แป่มคะ หนูยังเด็กมากเลยนะแม่กับพ่อต้องการหนูนะ แม่ว่าหนูอย่าเพิ่งมีแฟนเลย" แซมมี่กระซิบใบหูเล็กแล้วหยิบทิชชูเปียกในกระเป๋ามาซับคราบอาหารบนปากลูกสาว"แย้วตะไมจันพินมีแควนเพงแม่แชม" คำถามนี้ทำเอาแซมมี่ถึงกับชะงัก"เก๊าโทแล้วไง เก๊าเป็นปู้หย่าย
ภาคีหอบลูกเต้าตามเหนือฟ้ามาถึงโซนของรีสอร์ต ทันทีที่ศัจกรเห็นหน้าเขาอีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วสูงมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า"ผมมีธุระคุยกับคุณเหนือคนเดียวนะครับ ไม่ได้จะคุยกับคนอื่น""ประทานโทษนะครับ พอดีผมไม่ไช่คนอื่นคนไกล ผมเป็นผัวของเหนือฟ้า" ปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยหึงหวงเมียเท่าไร แต่กับไอ้หมอนี่มันมีประกายของความปรารถนาที่แผ่ซ่านออกมาอย่างเห็นได้ชัดแค่มันอ้าปากเขาก็เห็นลิ้นไก่ของคนตรงหน้าว่าศัจกร ชายที่เคยตื๊อจีบภรรยาของเขานึกคิดสิ่งใดอยู่"ตานโต้ดนะก๋า" นิ่มฟ้าพูดเลียนแบบพ่อบะแต๋งชำเลืองมองกำปั้นพ่อที่กำลังกำแน่นจนเห็นเส้นเลือด เด็กชายจึงยื่นมือไปกุมไว้ "ป้อเป็นหยัง ป้อโอเคก่อ""ป้อโอเคครับ แต่ไม่โอเคกับไอ้หมอนี่"เหนือฟ้าที่กำลังไปคุยกับเดือนเพ็ญเรื่องกิจกรรมของคณะทัวร์จากบริษัทแมลงทอดรีบเดินกลับมา หญิงสาวชะงักงันเมื่อพบว่าสามีกำลังโมโหจนหน้าขาว ๆ ของเขาแดงซ่าน"พี่คีคะ พี่คี มาหาเหนือก่อน" สาวอวบรั้งเอวสามีให้มาคุยส่วนตัว"หนุนฟ้าฉานิ่งไปกิ๋นฉ้นตันได้ก่อ ป้าเพงชวนกิ๋น" นิ่มฟ้ากระตุกเสื้อแม่ขณะที่บะแต๋งกับน่านฟ้าไปนั่งล้อมวงกินส้มตำถาดใหญ่กับหมูปิ้งของโปรดอยู่กับเดือนเพ็ญและอินเหลาก่อนแล้
เวลาล่วงถึงสี่โมงเย็นเหนือฟ้าส่งกรุ๊ปทัวร์ที่ภัตตาคารของรีสอร์ต แต่ลืมว่าทิ้งแฟ้มเอกสารสำคัญเอาไว้ที่โรงตากเกรสบัวหลวงจึงรีบร้อนขับรถกระบะกลับไปเอาทว่าหลังจากถึงโรงเรือนแปรรูปได้ไม่นาน ฝนฟ้ากลับเทกระหน่ำลงมาจนมองไม่เห็นภาพเบื้องหน้าให้ขับรถสัญจรผ่านไปได้ แต่เธอก็คิดจะฝืนขับกลับบ้านไปหาครอบครัวโชคร้ายต่อเนื่องจู่ ๆ ยางรถก็แบนแต๊ดแต๋"อ้าวยางรั่วเหรอ"เหนือฟ้ารีบเปิดประตูลงมาดูล้อรถ แต่สายฟ้าที่ฟาดลงมากลางไร่เป็นแสงวาบคาดท้องดำทมิฬเปรี้ยง!"ขืนอยู่ตรงนี้ฟ้าผ่าตายก่อน" หญิงสาวรีบมองหาที่หลบฝน สายตาประหวั่นพรั่นพรึงสะดุดกึกที่โรงเก็บฟืนที่สามีสั่งให้สร้างไว้รอบไร่ เพื่อบรรจุเศษไม้แห้งเก็บไว้เผาถ่านสาวอวบวิ่งฝ่าพายุไปยังโรงเก็บฟืนทีี่มีเตาถ่านอยู่ข้างใน ล้วงหาโทรศัพท์ในเสื้อร่มกดโทรหาบะแต๋งฟากเดียวกันภาคีที่ยังนอนซมพยายามงัดตัวขึ้นมามองหาภรรยา เพราะนี่ก็เกือบห้าโมงเย็นแล้วแต่เหนือฟ้ายังไม่ถึงบ้านสักที"ฮัลโหลหนุนน้อย หนุนน้อยโอเคก่อ""เกิดอะไรลูก แม่ล่ะ" ภาคีรีบพุ่งตัวเข้ามากุมไหล่ลูกชาย"หนุนน้อยบอกว่ารถยางแตก ตอนนี้หลบฝนอยู่โรงเก็บฟืนแถวบึงบัวหลวงครับป้อ""งั้นป้อจะให้เดือนเพ็ญกับอิ
บ่ากว้างร้อนระอุในชุดเสื้อกล้ามสีดำถูกกดให้พิงลงกับผนังโรงเก็บฟืน "ไม่ไหวก็หลับตาสิคะ มองเหนืออยู่ได้""สวย" เขาพูดเสียงแห้งพึมพำแต่กระนั้นคำที่เปล่งออกมาก็สะท้อนดังออกมาจนถึงหัวใจเธออยู่ดี"สวยมากด้วย" เธอยิ้มแล้วรื้อผ้าห่มออกมา "อุ้ยมียาน้ำแก้ไข้ของลูกด้วยค่ะ โชคดีจังที่เหนือลืมกระเป๋าทิ้งไว้ในรถ""งั้นเอามาให้พี่กิน" คนป่วยไม่ยึกยักรีบแย่งยาแล้วบิดฝาขวดกระแทกลงคอด้วยความร้อนใจ"ปากเปื้อนแล้วค่ะ" นิ้วมือนุ่มปาดเช็ดคราบยาที่เลอะอยู่บนขอบปาก"พี่อยากหายไว ๆ จะได้กอดเหนือให้แน่นที่สุด" เขาส่งขวดยาคืนเธอ เหนือฟ้าหยิบขวดน้ำเปล่าแล้วส่งให้เขาดื่ม"ไม่หายก็กอดได้ค่ะ" พูดปุ๊ปก็ทำทันที ร่างนุ่มนิ่มนั่งลงบนตักคล้องมือโอบรอบลำคอ"แล้วทำอย่างอื่นเพิ่มได้ก่อ" เจ้าของเสียงแห้งกวาดตามองเปี่ยมด้วยความหวัง เวลาแบบนี้เขาต้องการแค่จูบปลอบใจเท่านั้นก็แค่จูบของเมียสุดที่รัก แค่นี้ก็น่าจะเยียวยาอาการป่วยให้ทุเลาลง"ได้สิคะ เราทำได้มากกว่าแค่กอดหรือว่าจูบ" มือไม้ซุกซนเริ่มเลื่อนชายเสื้อของคนตัวร้อนเหมือนไฟออกจากร่างกายแถมเขาก็แสนว่าง่ายช่วยยกแขนขึ้นให้เธอถอดทึ้งอาภรณ์พ้นจากท่อนบน"ตอนนี้พี่หนาวมากเลย หน
แม้กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศทางโซเชียลว่าเข้าสู่ฤดูหนาว แต่เห็น ๆ กันอยู่ว่านี่ไม่ใช่หน้าหนาวแต่คือหน้าร้อนอวบอ้าวผนวกฝนหลงฤดู และบรรยากาศที่พิสดารนี้ก็บงการให้เขาเกิดความรู้สึกกระหายอยากผิดที่ ผิดเวลา"อึ้ม พี่คี เหนือกลัวโต๊ะไม้นี่จะพังซะก่อน"ร่างอวบอั๋นนั่งอยู่บนโต๊ะไม้ทรุดโทรมโดยที่ขาสองข้างพาดอยู่บนหัวไหล่หนาที่กำลังสวาปามน้ำมธุรสใจกลางลำตัวโดยไม่สนใจว่าเธอจะเสียวเกร็งทรมานยังไงทุกครั้งที่ชิวหาแดงนั่นกวัดแกว่งไปบนปุ่มกระสัน ประสาทการรับรู้ทั้งหมดก็โดนสูบกลืนไปจนหมดทุกสิ่งทุกอย่างมันสูญสลายไปพร้อม ๆ กับอาการเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่า"อ๊า อ๊ะ พี่คี" มือน้อยขยุ้มทึ้งเส้นผมสีดำขลับ ยามที่ชิวหาพิโรธนั่นดุนดันเข้ามาแล้วกวาดต้อนน้ำเหนียวใสออกมาจนหมด ไม่มีวินาทีไหนที่เธอจะปฏิเสธมันด้วยการผลักเขาออกไป มีแต่จะเหนี่ยวรั้งให้เขาลงน้ำหนักกับดอกไม้ประจำตัวเธอมากขึ้นครั้นลีลาละเลงของปลายลิ้นเร่งจังหวะ เร็วขึ้น แรงขึ้น ไร้ความนุ่มนวล มีเพียงความกระเหี้ยนกระหือรือที่ถูกถักทอก่อตัว เนินขาอวบค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจนกว้างพอให้ใบหน้าคมขาวสำรวจทุกตารางนิ้วได้ถนัด ขณะที่สะโพกผายเริ่ม
ครอบครัวคนเลี้ยงควายยืนรอปู่ย่าตายายที่นัดแนะกันมาพักผ่อนที่ไร่พิทักษ์มหิงสาเป็นเวลาหนึ่งเดือน เด็ก ๆ ทั้งสามดีใจและตื่นเต้นมากที่จะได้เจอป้ออุ้ยแม่อุ้ยซึ่งไม่ได้พบหน้ากันเกือบครึ่งปีแล้วทันทีที่รถแวนหรูสีดำขาวสองข้างจอดเทียบท่าหน้าบ้าน ประตูรถก็เคลื่อนตัวออกช้า ๆ โชว์ตัวผู้ใหญ่วัยเก๋าที่นั่งอยู่ด้านใน"ฮัลโหลลลล หลานยาย เซอร์ไพรส์" ครูนับเก้าในชุดไทยสไบแดงถักเปียสองข้างถือพัดจีนก้าวส้นสูงลงมาจากรถแวนหรู"กรี๊ดดด ง่ามปาย้ำปาเหยือ" นิ่มฟ้ากรีดร้องพุ่งตัวไปคล้องพวงมาลัยมะลิให้ยายคนสวย"ต๊าย หลานยายปากดีมากแบบนี้ต้องตบรางวัล ผอ.คะเปย์ให้หลานหนึ่งพันบาทด่วน" คุณยายสวยแซ่บใช้พัดสะกิดไปที่หัวไหล่สามีที่ถูกบังคับให้แต่งชุดไทยนุ่งโจงกระเบนแดงเข้าคู่ที่กำลังก้าวขาลงมาจากรถ"พี่เปย์ให้หลานคืนนี้นับตบรางวัลให้พี่ด้วยนะ หึหึ" ผอ.ทัพฟ้าคิดแผนร้ายหมายแอ้มเมีย เหนือฟ้าที่กำลังยืนมองบุพการีสายเปรี้ยวของตนเองก็ทำให้นึกย้อนไปถึงครั้งที่แม่กับพ่อจัดศึกร้อนเอ้าท์ดอร์ซี้ดซ้าดกันนอกบ้าน เธอจะไม่ยอมให้เหตุการณ์อัศจรรย์พันลึกนั่นอุบัติขึ้นอีกรอบเด็ดขาด"พ่อคิดจะจับแม่กินอีกแล้วเหรอคะ" สาวอวบเข้าประกบตัวพ่ออ
ทั้งอาทิตย์นี้ไร่พิทักษ์มหิงสากลายเป็นสถานที่จัดงานลอยกระทงประจำปีของตำบล หน่วยงานท้องถิ่นจึงลงมติให้ไร่แห่งนี้เป็นเวทีจัดประกวดนางนพมาศรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่รวมทั้งมีการประกวดธิดาทุยปีแรกที่พ่อเลี้ยงหนุ่นได้ลองเสนอไอเดียเข้าไป"พี่ว่าจะให้เหนือไปประกวดธิดาทุยครับ คุณนายของไร่ประเดิมเป็นคนแรก" เขาสะกิดแขนเธอขณะที่กำลังย่างกุ้งแม่น้ำตัวโตที่แม่สามีแบกมาจำนวนยี่สิบตัวกับหอยปูปลาอีกจำนวนหนึ่ง"หุ่นแบบเหนือจะไปแข่งขันอะไรกับเขาได้คะ ถ้าประกวดธิดาช้างก็ว่าไป" เหนือฟ้ามุ่ยหน้าแล้วคีบกุ้งตัวโตขึ้นมาใส่จาน"แต่นี่ธิดาทุยเลยนะ นางฟ้าของเหล่าควาย อีกอย่างพี่ตั้งกติกาไว้ว่าต้องเป็นสาวพลัสไซซ์เท่านั้น" ผู้ช่วยย่างกุ้งเดินอ้อมมาด้านหลังวางมือลงบนสะโพกผายในชุดกระโปรงลายดอกไม้ "โดยเฉพาะถ้าหุ่นจ้ำม่ำเต็มไม้เต็มมือแบบนี้ ต้องชนะเลิศแน่นอนครับ""พี่คีเป็นกรรมการด้วยหรือเปล่าคะ" เหนือฟ้าหรี่ตามองอย่างไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ"เป็นแค่สปอนเซอร์ไม่ได้เป็นกรรมการ พี่ไม่ใช้เส้นหรอกน่า" ภาคีส่ายหน้าหวือ"รีบร้อนตัวเลยนะคะ เหนือไม่เชื่อหรอก" สาวอวบค้อนแล้วใช้ที่คีบกุ้งชี้ไปที่หน้าสามีเจ้าแผนการ"เชื่อพี่เถอะครับ พี่จัดงา
ทั้งที่ตอนแรกภาคีกะว่าจะชวนอินเหลากับเดือนเพ็ญมาช่วยดูแลเด็ก ๆ เพราะเขาห่วงว่าเหนือฟ้าจะดูลูกไม่ไหว แต่สุดท้ายทั้งสองก็อดมาเพราะมีนักท่องเที่ยวเข้าพักจำนวนมากเนื่องจากเป็นช่วงไฮน์ซีซั่น เขาจึงตัดสินใจโทรไปยืมตัวแม่ทั้งสองมา ทว่าพวกพ่อขี้หวงก็ห่างเมียไม่ได้ ดังนั้นทุกคนจึงพากันยกโขยงกันมาทั้งหมด"ลูกบ่ชอบรึที่ป้อมาโตย" หม่อมเจ้าภูวสินที่กำลังนั่งโซ้ยอูด้งควันโขมง"เปล่านี่ครับ แค่สงสัยว่าป้อตามมาหวงแม่หรือตัวติดหลานกันแน่" ภาคีหรี่ตามองพ่อที่เอาแต่ลอยหน้าลอยตากินอยู่ข้างแม่"ป้อขี้นิ่งชาผ้อนก้าวเน๋วปาฉ้มให้กิ๋นเน้อ" นิ่มฟ้าหยิบทิชชู่เช็ดมือไม้จนสะอาดแล้วหยิบซูชิที่มีแต่ขาวล้วนจุ่มลงบนโชยุ"ฮ่าฮ่า เขาเรียกว่าซูชิหน้าปลาแซลมอนลูก บ่าใจ้ข้าวเหนียวปลาส้ม แล้วทำไมซูชิชิ้นนี้ถึงไม่เห็นมีเนื้อปลาเลยครับ" พ่อชี้ไปที่ซูชิชิ้นพอดีคำในมือเล็ก"นิ่งเป็นกนกิ๋นปาฉ้มเอง เพราะว่าป้อจาหลาดแล้ว นิ่งก็เลยอยากจาหลาดเหมือนป้อ" ด้วยคำพูดที่น่ารักเกินจะโกรธลง ทำให้ภาคียอมกินแต่ข้าวเปล่า ๆ โดยปราศจากเนื้อปลาแซลมอน"ยี่ปุ่งมีปิ้งฉิ่บก่อ อี่แม่น่านอยากกิ๋นปิ้งฉิ่บ" น่านฟ้าติดเรียกปิ้งสิบตามพี่ชาย"มาญี่ปุ่นไม่ม
การเดินทางกลับบ้านที่แม่ฮ่องสอนครั้งนี้เสมือนเป็นการพบปะสังสรรค์ระหว่างครอบครัวเพื่อฉลองข่าวดีที่สารคดีรายการเชฟสองสัญชาติได้รับการต่อสัญญาให้ถ่ายทำถึงต่ออีกหลายซีซั่น"วันนี้จะทำอะไรกินเหรอเตียว" ภาคีจูงมือนิ่มฟ้าออกมาจากบ้านตรงเข้ามาถามน้องชายที่กำลังก่อไฟอยู่หน้าเตาก่ออิฐแดง"ซุปกระดูกหมูบัวหิมะกับไก่ผัดมู่กวาครับ" เชฟหนุ่มเผยเมนูมื้อเช้าที่เขาจะทำให้ทุกคนกิน"มู่คะวากืออะหยังอาเตี๋ยว" นิ่มฟ้าช่างซักเริ่มสงสัย"หน้าตามันคล้ายมะละกอผลเป็นสีเหลืองมีรสเปรี้ยว เอามาทำอาหารอร่อยมากครับ" เตียวหุยพยายามย่อยสาระให้หลานสาวเข้าใจ"ว้าวแซ่บซี้ดแน่ นิ่งอยากกิ๋นแล้ว" เด็กหญิงกลืนน้ำลาย“อ้อแล้วให้พี่ช่วยอะไรไหม เตียวมีบัวหิมะหรือยัง” เขามองหาบัวหิมะรอบตัวน้องชาย“เฮ้อลืมซะสนิท งั้นพี่คีไปขุดให้ได้ก่อ” เตียวหุยโบ้ยหน้าที่ให้พี่ชาย“นิ่งชาไปขุดให้อาเตี๋ยวเองจ้าว” นิ่มฟ้ารับอาสาแล้วพุ่งตัวไปยังเนินเขาโดยไม่รอพ่อ“เดี๋ยว ๆ ก่อนลูก โอ้ยแม่คนนี้” ภาคีซอยเท้าตามลูกสาวจอมซนลงไปถึงตีนเขาแล้วรีบช้อนตัวลูกขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน“ฮ่า ๆ ป้อขี้ไม่ทันนิ่ง แล้วหมู่เหาชาไปเข็บงัวหิมะตี้ไหน ต้องเลิ้วซ้ายหรือว่าเลิ้ว
ที่โรงพยาบาลในตัวเมืองเด็ก ๆ ทุกคนนั่งกินไอศกรีมรอพ่อกับแม่ในห้องอัลตราซาวด์โดยมีบะแต๋งเป็นหัวหน้าแก็งคอยดูแลน้อง ในห้องตรวจเหนือฟ้านอนอยู่บนเตียงขณะที่หมอเจ้าของครรภ์กำลังใช้เจลเย็นทาท้องเพื่อทำให้คลื่นความถี่สูงถูกส่งผ่านได้ดียิ่งขึ้นเมื่อหมอรุ่นป้าแตะหัวตรวจอัลตราซาวน์บนหน้าท้องนูนใหญ่ แล้วเคลื่อนไปตามตำแหน่ง ครู่หนึ่งคลื่นเสียงสะท้อนกลับมายังตัวรับสัญญาณภาพและปรากฏเป็นภาพขาวดำบนหน้าจอ"ท้องรอบนี้ของคุณแม่ใหญ่กว่ารอบก่อนอีกนะคะ" หมอรุ่นแม่สงสัย"นี่ก็เข้าห้าเดือนแล้วใช่ไหมคะคุณหมอ" เหนือฟ้ารู้สึกไม่สบายใจกลัวว่าลูกในท้องจะเกิดความผิดปกติอะไร ภาคีที่นั่งอยู่ข้างเตียงจึงกุมมือภรรยาแน่น"ใช่ค่ะคุณแม่ โอ๊ะ อุ้ย ๆ ว้าว" จู่ ๆ หมอสาวรุ่นใหญ่วัยห้าสิบต้นรีบเคลื่อนหัวจับไปรอบบริเวณท้อง พลันนั้นภาพของสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ทั้งสามก็โชว์เด่นหราบนจอแสดงผล"นั่นทารกใช่ไหมคะ เหมือนว่าจะมากกว่าสองเลยค่ะคุณหมอ" เหนือฟ้าตื่นเต้น สงสัยวันนั้นที่เธอหลุดพูดว่าแฝดสามคนจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาซะแล้ว"ไม่ผิดค่ะ จำนวนน้องในท้องคุณแม่มีถึงสามคนด้วยกัน เคสคุณเหนือถือว่าหาได้ยากมากเลยนะคะ ยังไงหมอดีใจด้วยนะคะรอ
วันนี้มะแป่มต้องเดินทางกลับบ้านกับครอบครัว น่านฟ้าจึงตื่นแต่เช้ามาช่วยแม่เตรียมอาหารเช้า เด็กชายตัวน้อยเลือกที่จะทำแพนเค้กราดน้ำผึ้งแต่งด้วยวิปครีมและมีองุ่นไซมัสคัสกับองุ่นแดงฝานบาง ๆ ตกแต่งเป็นพร๊อพเสริมข้างจาน"เอาส้มกับพวกราสเบอร์รี่ไหมครับ แม่ซื้อผลไม้มาตุนไว้เต็มตู้เย็นเลย" เหนือฟ้ายื่นกล่องผลไม้นอกที่สั่งเดลิเวอรี่มา"น่านไม่เอาคร้าบ น้องซอบกิ๋นหงุ่น" น่านฟ้ารู้ดีว่าน้องชอบกินอะไร เพราะน้าแซมมี่แอบกระซิบบอกว่าองุ่นคือผลไม้โปรดของมะแป่ม"รู้ใจน้องด้วยเหรอเรา" เหนือฟ้าหยิบจานแพนเค้กจิ๋วที่ตกแต่งกับลูกชายจนเสร็จเรียบร้อยไปวางที่โต๊ะอาหาร ส่วนบะแต๋งอาสาปั่นจักรยานไปเด็ดยอดใบมันมังกรหยกให้แม่กับอินเหลาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดีฟากเดียวกันภายในห้องของเด็กหญิงที่ตกแต่งสไตล์ป่าดงดิบ นิ่มฟ้าค่อย ๆ ลุกขึ้นพิงกับพนักเตียงไม้หมุนสวิตซ์เปิดโคมไฟดอกไม้ที่หัวเตียง เนื่องด้วยบรรยากาศด้านนอกยังมืดครึ้มเต็มด้วยไอหมอกสีขาว บรรยากาศในห้องจึงมืดสลัวดูวังเวงจนหนูน้อยรู้สึกหวาดระแวง"ตื่นแล้วเหรอ" เสียงเย็นวาบกระซิบผ่านใบหูเล็ก"ไผ๋น่ะ ปี๋ ปี๋แน่ ๆ" นิ่มฟ้ามุดกลับเข้าไปในผ้าห่ม ตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว
เนื่องจากเหนือฟ้าต้องไปเตรียมตัวซักซ้อมกับตาสำรวยเรื่องการจูงแม่บะผางเข้าลานการประกวดรวมทั้งยังต้องแต่งหน้าแต่งตัวด้วยชุดสไตล์ไทยตามกติกาของการประกวดธิดาทุย ช่วงบนสวมคอกระเช้าสีชมพู ช่วงล่างสวมใส่กระโปรงผ้าฝ้ายพื้นเมืองสีชมพูแดง เกล้าผมสูงประดับด้วยปิ่นปักผมชุบทองแบบระย้า"โชคดีนะเหนือกับบะผาง" ภาคีลูบหัวของควายเพศเมียก่อนจะจุมพิตริมฝีปากนุ่มให้กำลังใจภรรยาต่อหน้าครอบครัว"เกิ๋นฉะบัด กู้จิ้มก๋องนิ่ง" พ่อกับแม่คือคู่จิ้นของเธอ คู่หวานแหววที่เด็กหญิงทั้งรักทั้งหลง"เขาเรียกว่าคู่จิ้นไม่ใช่เหรอ" บะแต๋งทาบมือบนหัวน้องสาว พี่ชายคนโตกังวลเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนหลังจากที่ตนเข้าห้องน้ำเสร็จก็ได้ยินเสียงน้องร้องไห้ จึงแง้มประตูออกมาดูและพบว่าพ่อกำลังปลอบใจน้องสาวอยู่จนถึงตอนนี้เด็กชายก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับนิ่มฟ้า แต่ถ้าน้องพร้อมเดี๋ยวก็คงจะเล่าให้ฟังเองบริเวณข้างสนามภาคี บะแต๋ง นิ่มฟ้า น่านฟ้า มะแป่มและอีกสามครอบครัวช่วยกันถือป้ายเชียร์ที่ติดชื่อ FC บะหนุนน้อย แล้วคอยกรี๊ดกร๊าดส่งเสียงเชียร์ไม่ขาดปากยิ่งทำให้เหนือฟ้าที่ยืนใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นอยู่นั้นรู้สึกถึงพลังงานบวกอันม
ช่วงหัวค่ำเหนือฟ้านั่งเป่าผมอยู่บนเตียงนอนภาคีที่เพิ่งกลับมาจากตรวจความเรียบร้อยภายในงานลอยกระทงจึงโผเข้าสวมกอดจากด้านหลัง เนื้อตัวของเขาหอมกลิ่นหอมนุ่มผสมผสานกับกลิ่นความสดชื่นของผลไม้ เดาได้เลยว่านี่เป็นแป้งของนิ่มฟ้า เพราะถ้ากลิ่นของบะแต๋งกับน่านฟ้าจะเป็นกลิ่นนมน้ำผึ้ง"ไปอาบน้ำที่ไหนมาคะ แถมยังไปเอาแป้งของลูกมาใช้อีก" เหนือฟ้าถามแต่ไม่ได้หมุนตัวกลับไปหาคนด้านหลัง"อาบข้างล่างครับ พี่เห็นแป้งลูกตั้งอยู่ในห้องน้ำก็เลยโรยมาเต็มตัวเลย เผื่อจะปลุกอารมณ์เหนือได้บ้าง" เขาว่าแล้วถอดกางเกงผ้าฝ้ายของตัวเอง ถอดทุกอย่างจนเหลือเพียงผิวกายขาวเหลืองเกรียมแดด"ปลุกอารมณ์อะ...โอ้ว" ดวงตากลมลุกวาวเมื่อภาพสะท้อนในกระจกข้างเตียงโชว์เรือนร่างกำยำตั้งแต่หัวถึงกลางลำตัวที่ปูดบวม"พี่กะว่าจะเติมพลังให้ ถ้าเหนือได้พลังจากพี่ต้องชนะขาดลอยแน่นอน" เขาบอกแล้วทรุดตัวนั่งประกบอยู่ด้านหลัง กางขาออกกว้างแล้วขนาบช่วงสะโพกของเธอ"พี่คีหลงตัวเองเกินไปแล้ว" เจ้าของพวงแก้มขาวเอนหลังลงไปซบกับแผ่นอก ยินยอมพร้อมให้เติมด้วยความเต็มใจ"ใช่ พี่หลงตัวเองแล้วก็หลงเหนือด้วย" สิ้นคำหวานริมฝีปากหยักคมก็ระดมจูบไปตามลำคอ มือไม้เคล
ภาคีเห็นเหนือฟ้ายังไม่ลงมาเขาจึงบอกให้ลูกสาวขึ้นไปตามแม่ นิ่มฟ้าจึงชวนส้มปู๋ สุนัขโกลเด้นตัวโปรดของเธอขึ้นไปเป็นเพื่อน"โฮ่ง!" ส้มปู๋เห็นเหนือฟ้านั่งแกว่งยาดมอยู่บนเตียงมันจึงเดินไปเช็ดเท้าที่พรม บรรจงเขี่ยเท้าหน้าเท้าหลังสองสามทีด้วยความแสนรู้ แล้วกระโดดขึ้นไปหาเจ้านายสาวเอาคางเกยแนบขาอย่างห่วงใย"เกิดอะหยังขึ้นอี่แม่" เด็กหญิงรีบเดินไว ๆ เข้ามาดูแม่ด้วยความเป็นห่วง มือเล็กกอบกุมหน้าแม่ "หนุนเหนือเป็นอารัย หมู่เหาไปโฮงยากั๋นก่อ""แม่เครียดเรื่องงานประกวดพรุ่งนี้ค่ะ ก็เลยรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย แต่ถ้าหนูหอมแก้มแม่สองที แม่จะรีบหายเลยค่ะ" คุณแม่อ้อนลูกสาวจุ๊บ! จุ๊บ!นิ่มฟ้าจุ๊บแก้มแม่ข้างซ้ายข้างขวาอย่างรวดเร็ว "หายแล้วใจ้ก่อ" เด็กหญิงฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันหลอจนอาการมึนหัวเมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง"ดีขึ้นแล้วค่ะ แล้วนี่ฟันหักเหรอลูก หักเมื่อตอนไหนเนี่ย" แม่แหกปากลูกสาวดูว่ามีตรงไหนแตกหักเพิ่มเติม"หักตอนกิ๋นฉะเต๊ะก๋องปาขี้ เต๊ะหมูปาขี้ตำฟันนิ่งตายกาตี้" นิ่มฟ้าตั้งใจเล่าด้วยสีหน้าจริงจัง"ฟันตายคาที่มันเป็นยังไงคะ""ฟันนิ่งติดกับตัวหมูจ้าว น่าฉงฉานป่านนี้ชาไปเกิดตี้ไหนก็บ่าฮู้""เขาเรียกว่
เสียงแก็งสุนัขเห่าหอนเคล้าดังมาพร้อมกับเสียงเด็ก ๆ สามสี่คน ทำให้คนที่นอนมุดอยู่ใต้ผ้าห่มพยายามดึงตัวขึ้นแล้วเดินไปดูต้นเสียงที่นอกระเบียงห้อง เหนือฟ้าชะโงกหน้าลงไปดูที่สนามหญ้าเห็นครอบครัวของเธอ ครอบครัวสามีและครอบครัวของมะแป่มกำลังจัดโต๊ะอาหารเช้า ส่วนพวกตัวแสบทั้งหลายกำลังวิ่งเล่นอยู่กับสุนัขโกลเด้นทั้งสี่ตัว ขณะที่หอมบั่วกับลูกชุบที่เริ่มอายุมากขึ้นทำเพียงเฝ้ามองดูอยู่ใกล้กับแปลงดอกดาวกระจาย"ไม่นอนต่ออีกหน่อยเหรอ" เสียงเข้มกระซิบแว่วดังมาจากประตูห้อง สาวอวบหมุนกายกลับแล้วตรงเข้าไปสวมกอดพ่อครัวผ้ากันเปื้อนสีหวาน เดี๋ยวนี้เขาไม่เข้าไปคุมงานในไร่เสียแล้วแต่กลับมาคุมครัวที่บ้านแทน"พี่คีคะพรุ่งนี้เหนือก็ประกวดแล้ว ซ้อมแค่วันเดียวจะพอเหรอคะ เหนือไม่ค่อยมั่นใจเลย" เจ้าของวงแขนเจ้าเนื้อโอบรัดรอบแผ่นหลังกว้าง ภาคีโอบกอดกลับซุกใบหน้าลงข้างซอกคอกลิ่นหอม"แต่พี่มั่นใจในตัวเหนือนะ อีกอย่างเรื่องแพ้ชนะพี่ไม่ได้กังวลเลย พี่ก็แค่อยากอวดเมียให้ทุกคนเห็น" เขาชมแล้วเคลื่อนริมฝีปากมาตามขมับแล้วขยับต่ำลงมาถึงสันจมูก"พี่คีปากหวานอีกแล้ว เดี๋ยวเหนือไม่กินมื้อเช้านะคะ เพราะเหนือจะกินพี่คีแทน" เธอบอกแล
เช้าวันต่อมาหลังจบงานประกวดนางนพมาศ"เย้เย้ ชาหลองกั๋นตกกันเต๊อะ" นิ่มฟ้ากระโดดโลดเต้นวิ่งวนไปรอบตัวมะแป่มกับยายนับเก้าหลังจากที่กรรมการประกาศว่าผู้ชนะการประกวดนางนพมาศรุ่นน้อยและรุ่นใหญ่ปีนี้ได้แก่ตัวแทนจากไร่พิทักษ์มหิงสา เด็กหญิงก็ดีใจออกนอกหน้าประหนึ่งว่าตัวเองเป็นผู้เข้าแข่งขัน"จะกิ๋นหยั่งอีก" หม่อมเจ้าภูวสินทักหลานสาวขณะที่กำลังช่วยลูกชายจัดโต๊ะเพื่อฉลองให้กับชัยชนะของนพมาศสองรุ่น"กิ๋นกั๋นตกไงจ้าว ป้ออุ้ยบ่เคยกิ๋นก่อ" เด็กหญิงเดินไปถามปู่ใกล้ ๆ"ปู่กินขันโตกประจำ ปู่เป็นหนุ่มเหนือเน้อ" คุณปู่ยังหนุ่มอุ้มหลานสาวขึ้นมานั่งในวงแขนแกร่ง"นิ่มฟ้าคะมาอาบน้ำได้แล้วค่ะ น้ำกำลังอุ่นเลย" เหนือฟ้าทำน้ำสมุนไพรด้วยการต้มใบมะขามและหอมแดงบุบซึ่งเธอมักจะใช้วิธีนี้เป็นประจำทุกครั้งที่ลูก ๆ เป็นไข้หวัดมะแป่มอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดเอี๊ยมประโปรงสีฟ้าออกมานั่งแกว่งขารออยู่บนเก้าอี้ตัวยาว ส่วนน่านฟ้ากับบะแต๋งกำลังช่วยปู่ย่าตายายหิ้วตะกร้าผักและเครื่องเคียงออกมาจากในครัวของบ้านแฝดหญิงที่เพิ่งอาบน้ำอาบท่าเสร็จจึงเดินกระโดดดึ๋ง ๆ ออกมาพร้อมกับแพะใส่เสื้อผ้าสองตัว บะแปปกับบะแว้งวิ่งไปทั่วรอบรั้วหน้าบ้าน