สถานที่: สวนสาธารณะในเมืองเกียวโตท่ามกลางสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟที่พวกเขาเพิ่งไปเยือน บรรยากาศในตอนนี้เต็มไปด้วยความเงียบสงบ เสียงใบไม้ไหวตามลมและเสียงนกร้องเป็นจังหวะระฆังที่ทำให้ทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะหยุดหมุนไปชั่วขณะหนึ่ง ทั้งสองเดินไปในทางเดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้ฤดูใบไม้ผลิที่กำลังบานอยู่ ทำให้พื้นที่นี้เต็มไปด้วยความสดชื่นและอากาศบริสุทธิ์มิเอโกะเดินเคียงข้างเคนชิโร่ สายตาของเธอมองไปยังท้องฟ้าที่มีเมฆบางๆ ลอยอยู่ สีฟ้าครามของท้องฟ้าทำให้เธอรู้สึกถึงความสงบในใจ“คุณเคนชิโร่...” มิเอโกะพูดขึ้นเสียงเบา แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก “วันนี้อากาศดีจังเลยนะคะ”เคนชิโร่หันไปมองเธอ แล้วยิ้มให้เล็กน้อย “ใช่ครับ... อากาศแบบนี้ทำให้รู้สึกเหมือนเราสามารถใช้เวลานี้ให้เต็มที่ได้”มิเอโกะหันมามองเขา ขณะที่ความรู้สึกในใจของเธอเริ่มท่วมท้นขึ้นอีกครั้ง เธอไม่เคยรู้สึกถึงความสงบและความสุขแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกที่เคนชิโร่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอทำให้ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายมากขึ้น“คุณเคนชิโร่... ฉันคิดว่า ฉันคงไม่สามารถกลับไปเหมือนเดิมได้แล้ว” มิเอโกะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบา แต่มัน
สถานที่: มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan – ห้องประชุมใหญ่เช้าวันใหม่ที่สดใส พนักงานในมูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan กำลังยุ่งเหยิงเตรียมตัวสำหรับการประชุมที่สำคัญ วันนี้พวกเขามีผู้สมัครงานหลายคนที่จะมารายงานตัว และในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความหวัง เคนชิโร่และมิเอโกะมาถึงมูลนิธิที่ตั้งอยู่ในตึกเก่าแก่ที่ยังคงมีเสน่ห์ในย่านชานเมืองของเกียวโตเคนชิโร่เดินนำหน้าไปที่ห้องประชุมใหญ่ที่มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง ด้านข้างมีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงแดดยามเช้าให้ไหลเข้ามา ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลายมิเอโกะเดินตามเขามาอย่างเงียบๆ สายตาของเธอไม่ละจากการเดินของเคนชิโร่ แต่ในใจของเธอมีความรู้สึกที่ผสมผสานกัน ทั้งความตื่นเต้นและความหวัง"วันนี้เป็นวันสำคัญใช่ไหมคะ?" มิเอโกะถามเบาๆ ขณะที่เธอเดินไปเคียงข้างเคนชิโร่เคนชิโร่ยิ้มให้กับคำถามของเธอ และตอบกลับด้วยเสียงที่มั่นใจ "ใช่ครับ การประชุมครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับมูลนิธิของเราและผู้ที่เราจะช่วยเหลือในอนาคต"ทั้งสองเดินมาถึงห้องประชุม ซึ่งกำลังมีผู้สมัครงาน 10 คนรออยู่ที่นั่งในห้อง ทุกคนต่างดูเป็นมืออาชี
สถานที่: ห้องทำงานของเคนชิโร่ – มูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidanในห้องทำงานที่ตกแต่งด้วยสไตล์ทันสมัยและอบอุ่น มีแสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ลงมาถึงพื้นไม้สีอ่อน เสียงของนาฬิกาผนังที่เดินไปอย่างมั่นคงเป็นเสียงเดียวที่ดังในห้องนี้ ขณะที่มิเอโกะและเคนชิโร่ยืนอยู่เงียบๆ ใกล้ๆ กัน ทั้งสองยืนหันหน้าเข้าหากัน ความรู้สึกของการเริ่มต้นใหม่ลอยอยู่ในอากาศ พร้อมกับความเชื่อมโยงที่ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นระหว่างพวกเขา“นี่คือการเริ่มต้นใหม่ของเรา...” เคนชิโร่พูดเสียงเบา ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่มิเอโกะอย่างมั่นใจ ท่าทีของเขาแสดงถึงความมั่นใจในอนาคตที่พวกเขากำลังจะร่วมสร้างขึ้นมิเอโกะมองเขา และยิ้มให้กับคำพูดนั้น มือของเธอคลี่ยิ้มบางๆ ท่ามกลางความเงียบ “ใช่ค่ะ การเริ่มต้นที่สำคัญ... ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นของมูลนิธิเท่านั้น แต่เป็นการเริ่มต้นของการเดินทางที่ใหม่สำหรับเราทั้งคู่” เสียงของเธออ่อนโยน แต่ก็เต็มไปด้วยความมั่นใจเหมือนกันเคนชิโร่ยิ้มตอบกลับ แต่ความรู้สึกในใจของเขาไม่สามารถปิดบังได้ เขารู้สึกถึงการเชื่อมโยงระหว่างเขากับมิเอโกะที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่แค่การทำงานร่วมกัน แต่เป็นการ
ในเช้าวันที่อากาศอบอ้าว แต่เต็มไปด้วยพลังชีวิต ภายในมูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan ณ กรุงโตเกียว เจ้าหน้าที่ในแผนกประชาสัมพันธ์กำลังต้อนรับผู้คนที่เดินทางมาจากหลากหลายที่ด้วยรอยยิ้ม สองร่างเดินเข้ามาในมูลนิธิ หนึ่งในนั้นคือหญิงสาววัยกลางคน สวมเสื้อผ้าธรรมดาแต่เรียบร้อย ใบหน้าแสดงความกังวลอย่างชัดเจน ข้างกายเธอคือชายหนุ่มที่ดูอ่อนล้า ราวกับผ่านการเดินทางที่ยากลำบากมา“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อมิโฮะ นี่น้องชายของฉันชื่อยูตะ พวกเรามาจากเกียวโตค่ะ” หญิงสาวกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดเจ้าหน้าที่ในแผนกประชาสัมพันธ์รับฟังด้วยความตั้งใจ ก่อนจะพยักหน้าและตอบด้วยความสุภาพ “ดิฉันจะประสานงานกับท่านเคนชิโร่และคุณมิเอโกะให้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูดังขึ้นในห้องทำงานของเคนชิโร่ เจ้าหน้าที่ผู้หญิงเข้ามาและกล่าวอย่างรวดเร็ว “ท่านเคนชิโร่คะ มีชาวบ้านสองคนจากเกียวโตมาขอพบคุณกับคุณมิเอโกะด่วนค่ะ พวกเขามีเรื่องสำคัญที่อยากขอความช่วยเหลือ”เคนชิโร่วางปากกาลง พลันหันมามองมิเอโกะที่กำลังจัดเอกสารอยู่ เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “เราคงต้องไปดูว่าพวกเขาต้องการอะไรค่ะ”“ครับ ผมจะให้
ที่ห้องประชุมของมูลนิธิ Mamori no Te Shien Zaidan เคนชิโร่และมิเอโกะยังคงนั่งอยู่ในบรรยากาศที่เคร่งเครียดหลังจากรับฟังเรื่องราวของพี่น้องจากเกียวโตที่ขอความช่วยเหลือ ทั้งสองมีสีหน้าแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างชัดเจนเคนชิโร่กดปุ่มเรียกบอดี้การ์ดทั้งห้าคนเข้ามาที่ห้องประชุม เมื่อพวกเขาเดินเข้ามา เคนชิโร่เงยหน้าขึ้นจากเอกสารในมือ พลางมองหน้าทีมงานของเขาด้วยสายตาจริงจัง“พวกคุณทุกคน ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องการความร่วมมือจากพวกคุณทุกคน” เคนชิโร่กล่าวเสียงหนักแน่น “เราจะเริ่มปฏิบัติการเพื่อล้มอิทธิพลของนักการเมืองชื่อยามาโตะ เคนอิจิในเกียวโต เราต้องรวบรวมหลักฐานทุกอย่างที่จะนำไปสู่การดำเนินคดีกับเขาและพรรคพวกได้สำเร็จ”มิเอโกะพยักหน้าเบา ๆ เสริมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่เด็ดเดี่ยว “ฉันเชื่อว่าพวกคุณทุกคนรู้ดีว่าภารกิจนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความยุติธรรม แต่เป็นเรื่องของชีวิตและอนาคตของชาวบ้านที่ต้องการความช่วยเหลือจากเรา”บอดี้การ์ดทั้งห้าคนรับฟังอย่างตั้งใจ คนหนึ่งพูดขึ้น “นายครับ บอกมาได้เลยครับว่าอยากให้พวกเราทำอะไรบ้าง”เคนชิโร่หยิบแผนที่เมืองเกียวโตที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาชี้ไปยังตำแหน่งที่เป็นบ้านพัก
หลังจากการประชุมเครียดตลอดวัน ณ มูลนิธิ รถลีมูซีนสีดำแล่นออกจากอาคารอย่างช้าๆ โดยมีเคนชิโร่นั่งอยู่เบาะหลังเคียงข้างมิเอโกะ บอดี้การ์ดทั้งห้าคนนั่งกระจายตัวในรถคันติดกันเพื่อเตรียมพร้อมรับคำสั่งเมื่อถึงบ้านพักของเคนชิโร่“วันนี้เหนื่อยมากเลยนะคะ” มิเอโกะพูดพร้อมถอนหายใจเบาๆ ดวงตาคล้ายมองออกไปยังแสงไฟที่ส่องเป็นเส้นตรงตามถนนเคนชิโร่เหลือบมองเธอ สีหน้าของเขายังคงแฝงความมุ่งมั่น “ครับ แต่ผมคิดว่าวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี คุณคิดว่ายังไง?”“ฉันก็หวังแบบนั้นค่ะ” มิเอโกะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “แต่เราต้องระวังทุกอย่าง… ยามาโตะ เคนอิจิเป็นคนมีอำนาจ และเขาอาจจะมีวิธีจัดการกับเราได้ถ้าเราพลาด”เคนชิโร่ยิ้มบางๆ และเอ่ยเสียงเบา “คุณพูดถูก… แต่ผมเชื่อว่าทีมเราจะแข็งแกร่งพอ”เมื่อรถมาถึงบ้านพักของเคนชิโร่ บ้านสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานสมัยใหม่ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยต้นสนและทางเดินหิน เสียงน้ำไหลเบาๆ จากบ่อปลาคาร์ปช่วยเพิ่มบรรยากาศสงบในยามค่ำคืนเคนชิโร่เปิดประตูรถและเดินนำทุกคนเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้ม โคมไฟสีอบอุ่นช่วยให้ห้องดูสงบเหมาะแก่กา
แสงอาทิตย์อ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องผ่านม่านโปร่งในห้องทำงานของเคนชิโร่ กลิ่นหอมของกาแฟจากห้องครัวลอยมาตามอากาศ เงียบสงบของเช้าวันใหม่ไม่ได้บ่งบอกถึงความเข้มข้นของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตรงข้ามเคนชิโร่ สวมชุดสูทสีเบจเรียบง่าย แต่ดูภูมิฐาน ดวงตาของเธอจับจ้องแผนงานบนหน้าจอแล็ปท็อป ขณะที่เคนชิโร่นั่งทบทวนเอกสารรายชื่อบุคคลเป้าหมาย“คุณแน่ใจนะคะว่าพวกเขาจะไม่ทันไหวตัว?” มิเอโกะเงยหน้าขึ้นจากจอและถาม น้ำเสียงของเธอแม้จะดูจริงจังแต่ก็แฝงไปด้วยความห่วงใย“ผมมั่นใจครับ” เคนชิโร่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่ในดวงตาของเขาก็แฝงความกังวล “ทีมของเราทำงานกันอย่างรอบคอบ ไม่มีเหตุผลที่แผนจะล้มเหลว… แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาด คุณต้องอยู่ในที่ปลอดภัยที่สุด”“ฉันไม่อยากแค่รออยู่เฉยๆ” มิเอโกะพูดพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย “ฉันอยากช่วยคุณอย่างเต็มที่”เคนชิโร่หัวเราะเบาๆ และมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ผมรู้ครับ แต่ผมไม่อยากให้คุณเสี่ยงเกินไป”เสียงเคาะประตูดังขึ้น บอดี้การ์ดทั้งห้าคนเดินเข้ามาในห้องพร้อมรายงานความพร้อมของแต่ละทีม“ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ คุณเคนชิโร่” หัวหน้าทีมรายงาน“ดีมาก” เคนชิโ
หลังจากคืนที่เต็มไปด้วยแผนการและบทสนทนา เคนชิโร่และมิเอโกะตื่นขึ้นในยามเช้าของวันที่สองของปฏิบัติการ แสงอาทิตย์อ่อนๆ สาดส่องผ่านผ้าม่านสีครีมในห้องนั่งเล่นของบ้านพัก กลิ่นกาแฟที่หอมกรุ่นลอยอบอวลอยู่ในอากาศมิเอโกะกำลังยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัวในเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่เธอหยิบจากตู้เสื้อผ้าของเคนชิโร่ เธอคนกาแฟในถ้วยด้วยท่าทางเงียบสงบ แต่ในใจเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับแผนการที่กำลังดำเนินอยู่เสียงฝีเท้าของเคนชิโร่ดังขึ้นจากทางเดินด้านหลัง เธอหันไปเห็นเขาในชุดสูทเรียบหรูที่ทำให้เขาดูสง่างาม“คุณตื่นเช้าเหมือนกันนะครับ” เคนชิโร่กล่าวขณะเดินเข้ามาหยิบถ้วยกาแฟอีกใบจากเคาน์เตอร์“ฉันนอนไม่หลับค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงความกังวลเคนชิโร่มองเธอด้วยสายตาที่แสดงถึงความเข้าใจ “ผมเองก็เหมือนกัน แต่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย คุณไม่ต้องกังวลเกินไป”มิเอโกะยิ้มบางๆ “ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันอดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีอะไรผิดพลาด...”“คุณไม่จำเป็นต้องแบกทุกอย่างไว้คนเดียว” เคนชิโร่พูดพลางยื่นมือไปแตะไหล่เธอเบาๆ “ผมอยู่ตรงนี้ เราอยู่ตรงนี้ด้วยกัน”เธอเงยหน้ามองเขา ดวงตาเธอสบกับสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความอ่อนโย
สถานที่: สวนสาธารณะสวนเคียวอิชิวันที่แห่งความหวังได้มาถึงแล้ว สวนสาธารณะเคียวอิชิเต็มไปด้วยดอกไม้ที่เบ่งบานและต้นไม้เขียวขจี ไกลออกไปจากเมืองที่เงียบสงบ มันเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นใหม่ และวันนี้มันจะกลายเป็นที่ที่ชีวิตของมิเอโกะจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เคนชิโรเดินจับมือมิเอโกะออกจากร้านคาเฟ่ ก็ชวนมิเอโกะมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ร้านคาเฟ่กันต่อ มิเอโกะนั่งอยู่บนม้านั่งไม้ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ เคนชิโร่เดินเข้ามาหาเธอและยิ้มอย่างอบอุ่น เขามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความมั่นคง"มิเอโกะ" เคนชิโร่เรียกชื่อเธอเบาๆ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ "ฉันคิดมานานแล้วเกี่ยวกับเส้นทางของเรา และมันเป็นสิ่งที่ฉันมั่นใจที่สุดในชีวิต"มิเอโกะหันไปมองเขาและยิ้ม "อะไรคะ เคนชิโร่?"เคนชิโร่สูดลมหายใจเข้าลึกและหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋า เขาหยุดสักครู่ก่อนที่จะเปิดกล่องออกเผยแหวนเพชรที่สวยงาม "มิเอโกะ... ฉันไม่สามารถจินตนาการชีวิตของตัวเองหากไม่มีคุณ คุณทำให้ทุกอย่างมีความหมายมากขึ้น คุณพร้อมที่จะเดินทางไปกับฉันตลอดไปไหม?"มิเอโกะตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยน้
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่นแสงแดดยามบ่ายทาบทับแม่น้ำโคะระ และท้องฟ้าโปร่งใสทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกดูสดใสและเงียบสงบ มิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะในคาเฟ่ริมแม่น้ำ ซากุระสเตชั่น พร้อมกับดื่มกาแฟดำที่เธอชื่นชอบ เธอกำลังคิดถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญที่เธอทำเมื่อไม่นานมานี้ การเลือกที่จะไม่เพียงแต่เลือกเส้นทางเดียวในชีวิต แต่เลือกที่จะเดินไปข้างหน้าพร้อมกับทั้งสองทางในมือ—งานและความรักเคนชิโร่เดินเข้ามาในร้าน คาเฟ่ที่มีทั้งการตกแต่งที่อบอุ่นและบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะกับการมานั่งพักผ่อนหลังจากวันที่วุ่นวาย เขายิ้มให้กับมิเอโกะที่นั่งอยู่ตรงมุมข้างหน้าต่าง เธอหันไปมองเขาและยิ้มตอบด้วยความอ่อนโยน"สวัสดีครับ...วันนี้ดูเหมือนคุณจะนั่งพักไปได้นานเลยนะครับ" เคนชิโร่เริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นมิเอโกะยิ้ม "ใช่ค่ะ บางครั้งการนั่งเงียบๆ และคิดถึงบางเรื่องมันทำให้รู้สึกสงบดีค่ะ" เธอวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วมองไปที่ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งเคนชิโร่เห็นท่าทางของเธอและรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่าง "คุณคิดอะไรอยู่ครับ? ดูเหมือนว่าจะมีอะไรอยู่ในใจมากมาย"มิเอโกะพยักหน้าแล้วถอนหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดต่อ
สถานที่: ร้านกาแฟริมน้ำ, สวนสาธารณะคามากูระเช้าวันใหม่ในคามากูระเต็มไปด้วยแสงแดดที่อ่อนโยนและท้องฟ้าที่ใสสะอาด มิเอโกะยืนอยู่หน้าร้านกาแฟริมน้ำที่เธอเคยมาพบเคนชิโร่หลายครั้ง มันเป็นสถานที่ที่เธอรู้สึกผ่อนคลายและสามารถคิดได้ชัดเจนในช่วงเวลาที่วุ่นวายภายในจิตใจวันนี้มิเอโกะจะต้องตัดสินใจเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานและความรักของเธอ เธอยืนอยู่ที่นี่เพื่อให้เวลาให้ตัวเองคิดก่อนที่จะพบกับเคนชิโร่ และพูดถึงการตัดสินใจที่เธอคิดมานานไม่ไกลจากนั้นเคนชิโร่เดินเข้ามาที่ร้านกาแฟและมองเห็นมิเอโกะยืนอยู่ริมระเบียงมองไปที่ท้องทะเล สภาพแสงแดดยามเช้าทำให้ทุกอย่างดูสวยงามและเงียบสงบ เหมือนกับโลกใบนี้ให้เวลาเธอได้หายใจ และคิดสิ่งที่ต้องการจะทำเคนชิโร่เดินไปใกล้และทักทายเธอ "มิเอโกะ, คุณมาเร็วมากเลยครับ"มิเอโกะหันไปยิ้มให้เขา และเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้ ความเครียดที่สะสมไว้หลายวันเริ่มลดลงไป "ใช่ค่ะ ฉันอยากมาให้ตัวเองมีเวลาคิดอะไรหลายๆ อย่าง"ทั้งสองนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างของร้านกาแฟที่มองออกไปเห็นวิวทะเลที่เงียบสงบในตอนเช้า เคนชิโร่เปิดการสนทนาด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "คุณยังรู้สึกไม่แน่ใจใช่ไหมครับ
สถานที่: อาคารสำนักงานมิเอโกะ, ชายหาดคามากูระหลังจากที่มิเอโกะได้รับคำปลอบใจจากเคนชิโร่ในสวนสาธารณะยูโนะ สองวันที่ผ่านมาชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามที่ค้างคาใจ เธอได้กลับไปที่บริษัทและพยายามโฟกัสกับงานมากขึ้น แต่ทุกอย่างยังคงไม่ง่ายดาย เพราะเธอยังคงรู้สึกถึงการแบ่งแยกระหว่างการทำตามความฝันในอาชีพการงานและการเลือกชีวิตส่วนตัวที่เต็มไปด้วยความรักและความสัมพันธ์วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของมิเอโกะ เพราะเธอต้องทำการตัดสินใจเรื่องใหญ่ในงานที่เธอทำอยู่กับโครงการสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของบริษัทได้ แต่การตัดสินใจในเรื่องนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเพราะมันเกี่ยวข้องกับคำถามที่ยากเกี่ยวกับความสำเร็จและความรักมิเอโกะนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในอาคารสำนักงานของบริษัท ท่ามกลางกองเอกสารที่ซ้อนกันอยู่ เธอรู้สึกเหมือนมีโลกทั้งใบถล่มใส่ตัวเอง เมื่อเธอต้องรับผิดชอบในโครงการใหญ่ที่สามารถกำหนดทิศทางอนาคตของบริษัท แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกที่ตึงเครียดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเคนชิโร่ยังคงตามหลอกหลอนเธอโทโมโกะก้าวเข้ามาในห้องทำงานของมิเอโกะด้วยท่าทางที่จริงจัง "มิเอโกะคะ ว
สถานที่: สวนสาธารณะยูโนะในโตเกียวเมื่อมิเอโกะกลับมาถึงบริษัทในตอนเย็น ความรู้สึกที่ยังค้างอยู่จากการสนทนากับเคนชิโร่ในร้านอาหารริมทะเลคามากูระยังคงตามหลอกหลอนเธอ การตัดสินใจในชีวิตที่เธอต้องทำกำลังกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นทุกที แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจกลับไปที่บริษัทก็เพราะไม่อยากให้ปัญหาที่เกิดขึ้นในบริษัทลุกลามไปมากกว่านี้ทุกครั้งที่เธอพยายามทิ้งปัญหานี้ไปสักพักหนึ่ง ความกดดันก็ยังคงกลับมารบกวนใจอยู่ดี เหมือนกับเงาที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้ เธอรู้ว่าเธอจะต้องพบกับมันในอนาคตอันใกล้ และความไม่มั่นใจในเส้นทางชีวิตของเธอก็ยิ่งทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในระหว่างการประชุมที่บริษัท โทโมโกะเริ่มพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการใหญ่ของพวกเขา ความเครียดและความวิตกกังวลในตัวมิเอโกะเพิ่มขึ้นเมื่อได้ยินรายละเอียดของปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหานี้เป็นสิ่งที่มิเอโกะรู้ดีว่าเธอจะต้องแก้ไข แต่คำถามที่ยังค้างในใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองยังคงวนเวียนอยู่ตลอดเวลา"มิเอโกะค่ะ เราต้องการคุณในการตัดสินใจเรื่องนี้" โทโมโกะพูดด้วยน้ำเสียงเครียด "ถ้าเราไม่รีบแก้ไข ปัญหานี้จะยิ่งซับซ้อนและอาจส่งผลกระ
สถานที่: ร้านอาหารริมทะเลคามากูระหลังจากคืนที่เต็มไปด้วยความคิดในคาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ มิเอโกะรู้สึกถึงแรงกดดันจากการตัดสินใจที่ต้องเผชิญในชีวิตของเธอ แม้ว่าเคนชิโร่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจ แต่เธอก็ยังคงมีคำถามในใจเกี่ยวกับอนาคต ความไม่แน่นอนของเส้นทางที่เธอเลือกเดินยังคงเป็นภาระที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้วันต่อมา เคนชิโร่ได้พามิเอโกะไปยังร้านอาหารริมทะเลคามากูระ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาชื่นชอบมากที่สุดที่หนึ่ง สถานที่แห่งนี้มองเห็นทะเลที่เปิดกว้างและท้องฟ้าที่กว้างไกล บรรยากาศสงบและร่มรื่น เหมาะกับการพูดคุยและทำความเข้าใจชีวิตในมุมมองใหม่ร้านอาหารมีพื้นที่กลางแจ้งที่มองเห็นวิวทะเลและยังมีกลิ่นของเกลือทะเลที่ลอยมาจากข้างๆ เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นคลื่นทะเลที่กระทบชายหาด มิเอโกะรู้สึกถึงความสงบและสดชื่นที่เริ่มเข้ามาในใจเธอ แม้ว่าจะยังคงมีคำถามที่ติดค้างในใจ"คุณรู้ไหมคะว่าเมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าความสำเร็จในชีวิตคือการมีทุกอย่างที่อยากได้ แต่พอได้ลองใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและความรับผิดชอบ ทุกอย่างมันกลับดูซับซ้อนเกินไป" มิเอโกะเริ่มพูดอย่างเปิดใจ ขณะที่เธอสังเ
สถานที่: คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะหลังจากวันที่เต็มไปด้วยความท้าทายในการทำงาน มิเอโกะพบว่าเธอต้องการเวลาเพื่อฟื้นฟูจิตใจและพักผ่อนจากความเครียดจากธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบ วันนั้นเธอได้ตัดสินใจโทรหาคนที่เธอรู้สึกว่าอาจเป็นแหล่งของความสงบ—เคนชิโร่ หลังจากที่ได้พูดคุยกันในวันก่อนหน้า เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นทีละเล็กทีละน้อยทั้งสองตกลงที่จะพบกันที่คาเฟ่ริมแม่น้ำสุมิดะ สถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศสงบและสวยงาม ตลอดทั้งเส้นทางการเดินจากสำนักงานไปยังคาเฟ่ มิเอโกะรู้สึกถึงความตึงเครียดในตัวเองที่เริ่มคลายลงเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นเคนชิโร่ยืนรอที่มุมหนึ่งของคาเฟ่ เขาดูสงบและมั่นคงเช่นเคย รอยยิ้มของเขาทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันเริ่มลดลง"สวัสดีครับ" เคนชิโร่ทักทายมิเอโกะด้วยเสียงนุ่มนวล ขณะที่เขาเชิญให้เธอนั่งลงที่โต๊ะริมหน้าต่างที่มองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำสุมิดะที่ไหลเอื่อยๆ และท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีไปในยามเย็น"สวัสดีค่ะ" มิเอโกะยิ้มตอบและนั่งลงอย่างสบายๆ ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟที่เสิร์ฟให้ขึ้นมาดื่ม "วันนี้วันยาวจริงๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนทุกอย่างต้องการความสนใจพร้อมๆ กัน"เคนชิโ
สถานที่: สวนริมน้ำซุมิดะ, โตเกียวฤดูใบไม้ผลิเริ่มแสดงตัวตนผ่านความสดใสของดอกซากุระที่เบ่งบานสะพรั่งรอบๆ สวนริมน้ำซุมิดะในกรุงโตเกียว เสียงน้ำที่ไหลเย็นผ่านหินในลำธารได้สร้างบรรยากาศอันสงบเงียบ ท่ามกลางสายลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันท่ามกลางดอกซากุระที่กำลังผลิบาน สองคนต่างรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่มีคำพูดใดสามารถแทนที่ได้ การเดินในสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยความสงบจากธรรมชาติที่ล้อมรอบพวกเขา ทั้งสองยิ้มให้กันโดยไม่ต้องพูดอะไร ตลอดระยะทางที่เดินไปด้วยกัน พวกเขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องพูดคุยมาก เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังเติบโตขึ้นในรูปแบบที่เงียบสงบและมั่นคง“คุณเคยคิดไหมครับว่า... อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต?” เคนชิโร่ถามเสียงเบา ขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ต้นซากุระที่กำลังผลิบานอย่างงดงาม "บางครั้งมันทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตมันไม่แน่นอน เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าความท้าทายใหญ่ๆ จะมาเมื่อไหร่"มิเอโกะหันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ชีวิตทุกชีวิตมีอุปสรรคค่ะ แต่เราผ่านมันมาได้แล้วหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่เหรอคะ? ดังนั้น ถ้าเรายังอยู่ข้างกัน เราก็จะเอาชนะทุกอุปสรรคที่ขว
ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเริ่มเย็นขึ้นเพียงเล็กน้อย ภูมิทัศน์ของกรุงโตเกียวเต็มไปด้วยต้นซากุระที่กำลังเบ่งบานอยู่ริมถนน ขณะที่มิเอโกะและเคนชิโร่เดินเคียงข้างกันในสวนสาธารณะใกล้แม่น้ำสุมิดะ เสียงของน้ำที่ไหลกระทบกับหินในลำธารทำให้บรรยากาศรอบๆ เป็นไปอย่างสงบเงียบ ทั้งสองเดินไปด้วยกันอย่างไม่มีคำพูดมากมาย แต่ความเงียบนี้กลับเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดในตอนนี้ การอยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลานี้ทำให้รู้สึกถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งขึ้นท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองอ่อนๆ เมื่อแสงแดดอ่อนๆ เริ่มลอยเหนือขอบฟ้า เคนชิโร่และมิเอโกะยังคงเดินไปด้วยกันอย่างเงียบๆ มือของเคนชิโร่ล้วงในกระเป๋ากางเกง ขณะที่มิเอโกะเดินเคียงข้างเขาด้วยท่าทางผ่อนคลาย แต่ภายในใจทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน“คุณรู้ไหม... มีบางครั้งที่ผมคิดว่าเราอาจจะต้องพบเจอกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ในอนาคต” เคนชิโร่พูดเสียงเบา ขณะที่มองไปที่ต้นซากุระที่เริ่มผลิบาน “ชีวิตคู่มันไม่ง่ายเลย แต่ผมก็มั่นใจในสิ่งที่เรามี”มิเอโกะยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา "เราผ่านอุปสรรคมามากมายแล้วค่ะ คุณไม่คิดว่าเรามีความสามารถที่จะเผชิญห