แชร์

บทที่ 0210

ผู้เขียน: อันอี่หราน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-12 18:00:00
กลับมาถึงตำหนักชิงอวิ๋น พระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็เรียกเหมยหยิ่งเข้ามา เรื่องนี้นางให้ความสำคัญมาก จึงต้องจัดการโดยเร็ว “เรื่ององค์ชายรองและซื่อจื่ออันกั๋วกงถูกลอบสังหาร ข้าสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับพระสนมหนิงเฟย”

เหมยหยิ่งเพียงฟังคำสั่งนายหญิงอย่างเงียบๆ ไม่พูดแทรก

“ตอนสืบต้องระวังให้มาก ให้จวี๋อิ่งวางงานในมือก่อน ไปสืบพร้อมกับเจ้า”

“ให้จวี๋อิ่งจงใจทิ้งร่องรอยให้อีกฝ่ายสังเกตเห็น แต่ต้องรักษาความปลอดภัยของตัวเองให้ได้ ไม่ได้หวังให้นางสืบอะไรหรอก เพียงให้เป็นฉากบังหน้าให้เจ้า ส่วนเจ้า ต้องระมัดระวังให้มากที่สุด”

เหมยหยิ่งเห็นนายหญิงระมัดระวังเช่นนี้ จึงรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญมาก “เพคะ บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้”

พูดจบก็ออกไปทันที

หลังจากเหมยหยิ่งจากไป พระสนมเฉินกุ้ยเฟยนั่งอยู่ในห้องชั้นในอยู่นาน ในที่สุดก็เรียกจิ่นซินเข้ามา “พวกเราไปตำหนักหานกวางกันเถอะ”

“พระสนมจะไปพบพระสนมเหวินเฟยหรือเพคะ?” จิ่นซินถามอย่างสงสัย

“อืม ครั้งก่อนต้องขอบคุณพระสนมเหวินเฟยที่เตือน ข้าจึงรอดพ้นกับดักที่สนมอวิ๋นกุ้ยเหรินวางไว้ ข้าบอกว่าจะไปเยี่ยม แต่ก็ผิดคำพูด” พระสนมเฉินกุ้ยเฟยอุ้มลู่ซิงหว่านเดินไปพลาง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0211

    หันไปมองพระสนมเฉินกุ้ยเฟยอย่างตื่นเต้น "เหมือนพระสนมเฉินกุ้ยเฟยมากจริงด้วย!"จากนั้นก็ยื่นมือไปหยอกเล่นกับมือน้อย ๆ ของลู่ซิงหว่าน เนื่องจากในหนังสือนิทานเขาช่วยพูดแก้ต่างให้ติ้งกั๋วโหว ดังนั้นลู่ซิงหว่านก็เลยมีความประทับใจที่ดีในตัวเขาจึงคว้าจับมือของเขาไว้เขาอุทานอย่างตื่นเต้นอีกครั้ง "เสด็จแม่ น้องเก้าจับมือข้าด้วย!"สายตาเต็มไปด้วยความดีใจ "ได้ยินมาตั้งนานแล้วว่าน้องเก้าเป็นเด็กน้อยที่มีพรสวรรค์ฉลาดหลักแหลม ตอนนี้อายุแค่หกเดือนก็สามารถฟังที่เราพูดรู้เรื่องแล้ว เก่งมากเลยจริง ๆ "[ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นคนสุขุม ที่ไหนได้ก็เป็นแค่เด็กเหมือนกัน!][วันนี้ฝืนใจช่วยพระสนมเหวินเฟยดูแลลูกก็ได้ ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณที่พระสนมเหวินเฟยช่วยเสด็จแม่ของข้าเมื่อครั้งที่แล้วก็แล้วกัน][เหตุการณ์ครั้งที่แล้วถ้าไม่ได้พระสนมเหวินเฟยล่ะก็จะอัตรายมาก ใครจะคิดว่าสนมอวิ๋นกุ้ยเหรินคิดจะใช้วิธีชั่วร้ายแบบนั้นต่อกรกับท่านแม่]"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยนานทีจะได้มาที โปรดพูดคุยกับเสด็จแม่เยอะ ๆ เถิด" องค์ชายสี่เล่นกับลู่ซิงหว่านได้สักพักก็รู้สึกว่ารบกวนเวลาพูดคุยของเสด็จแม่กับพระสนมเฉินกุ้ยเฟยกุ้ยเฟยจึงคำนับอีก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0212

    "พี่หญิงไม่ต้องห่วง" พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเข้าใจความหมายของพระสนมเหวินเฟยได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พูดต่อ "เดี๋ยวข้าจะไปที่ตำหนักซิงหยาง วันหลังก็ให้จิ่นรุ่ยไปตำหนักซิงหยางบ่อย ๆ ให้รัชทายาทช่วยสอนหนังสือให้แก่เขา""ข้าหมายความว่าเช่นนี้แหละ ขอบใจน้องหญิงมาก" พระสนมเหวินเฟยเอ่ยอย่างซาบซึ้งพวกนางทั้งสองรู้ดีว่าด้วยตัวนตนฐานะของพระสนมเหวินเฟย ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่มีทางให้องค์ชายสี่มีส่วนร่วมทางการเมืองแน่นอน แต่การเรียนหนังสือให้มากและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ อนาคตมีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษแน่นอนลู่ซิงหว่านที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดที่จะรำพึงรำพันไม่ได้[ลูกหลานเชื้อพระวงศ์นี่ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ทั้งห้ามโดดเด่นเกินไปจะทำให้รัชทายาทอิจฉา หรือถ้าด้อยค่าตนเองเกินไปก็จะถูกคนรังแก][ดีที่พี่รัชทายาทเป็นคนดีมากและเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก แม้แต่องค์ชายรองที่ได้เป็นฮ่องเต้ในหนังสือนิทาน ยังแทบจะต้องช่วยเหลือเคียงข้างพี่รัชทายาทเลย][เห็นจากที่องค์ชายสี่ช่วยพูดแก้ต่างให้ท่านตา คิดว่าเขาคงจะไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร พี่รัชทายาทต้องดูแลเขาอย่างดีแน่นอน]ตอนนี้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยถึงค่อยบอกจุดประสงค์การมาในครั้งนี้ของตน "อันที่จริงที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0213

    "ตำหนักของข้าคึกคักมากเลยนะ!" พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพูดพลางชำเลืองมองจิ่นอวี้ "ใช่ไหมจิ่นอวี้?""แน่นอนอยู่แล้วเพคะ" จิ่นอวี้เห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยพูดคุยอย่างออกรสกับพระสนมเหวินเฟยก็พูดหยอก "พระสนมของพวกข้าชอบฟังเรื่องเล่ามาก หากพระสนมเหวินเฟยมีเวลาว่างก็ไปฟังด้วยกันกับพวกข้าสิเพคะ""เรื่องเล่า?" พระสนมเหวินเฟยไม่เข้าใจ"ถ้าพี่หญิงเหวินเฟยไปแล้วก็รู้เอง" พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรู้ว่าที่จิ่นอวี้พูดหมายถึงอะไรจึงเขินอายเล็กน้อย"เหวินเฟยจะไปไหนหรือ?" พระสนมเหวินเฟยยังไม่ทันตอบก็มีเสียงฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น "นาน ๆ ข้าจะได้มาหาเหวินเฟย แต่วันนี้คึกคักเป็นพิเศษเลยนะ"เมื่อพระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นว่าเป็นฮ่องเต้ต้าฉู่ก็รีบลุกขึ้นคำนับ "หม่อมฉันกำลังบอกว่า ถ้าพี่หญิงพระสนมเหวินเฟยว่างให้ไปเที่ยวที่ตำหนักชิงอวิ๋นบ้าง ฝ่าบาทต้องช่วยโน้มน้าวพี่หญิงด้วยนะเพคะ"ฮ่องเต้ต้าฉู่ประคองพระสนมเฉินกุ้ยเฟยให้ลุกขึ้น แล้วให้พระสนมเหวินเฟยนั่งลงจึงค่อยเอ่ยปาก "ชิงเหยียนพูดถูก ตอนนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว เจ้าควรออกไปข้างนอกบ้าง ชิงเหยียนเป็นคนไม่มีเล่ห์เหลี่ยมที่สุดแล้ว อยู่กับนางไม่เหนื่อยมากหรอก""ถ้าเช่นนั้นต้องขอบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0214

    ส่วนทางฝั่งขององค์ชายสาม เมื่อรู้ว่าองค์ชายสองกำลังจะกลับมาอย่างปลอดภัย สีหน้าก็นิ่งขรึมราวกับจะเค้นน้ำหมึกออกมาได้"ไหนซิ่นเทียนบอกว่าจะอาศัยโอกาสจัดการมือขวาคนนี้ของรัชทายาททิ้งไม่ใช่หรือ?" องค์ชายสามมองเจิ้งจงที่อยู่ข้าง ๆ แล้วก่นด่า "มันมีปัญญาแค่นี้เองหรือ?"เจิ้งจงรีบเข้ามาพูดปลอบ "องค์ชายโปรดใจเย็นเถิด เผยฉู่เยี่ยนคนนั้นทำให้องค์ชายเสียเรื่อง เขารับดาบแทรองค์ชายสองทำให้องค์ชายสองรอดไปได้""องค์ชายไม่ต้องห่วง ครั้งนี้ไม่ได้ยังมีครั้งหน้าอีก ไม่ว่าอย่างไรองค์ชายสองก็อยู่ข้างกายเราอยู่แล้วมีโอกาสอีกเหลือเฟือ ตอนนี้ไม่ถูกจับได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว"องค์ชายสามได้ยินก็ไม่พอใจมาก "ถูฏจับได้ก็ถูกจับได้สิ เกี่ยวอะไรกับ..."แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดคำสุดท้ายออกไป ตอนนี้ตนไร้ที่พึ่งนอกจากซิ่นเทียน ทำได้เพียงต้องพึ่งพาอาศัยถึงจะได้ขึ้นสู่บังลลังก์อย่างรวดเร็ว เมื่อนึกถึงว่าเมื่อก่อนเขาทำงานได้ไม่เลวจึงอ่อนน้ำเสียงลง "ช่างมันเถอะ ก็แค่สุนัขตัวหนึ่งข้างกายรัชทายาทเท่านั้น"เจิ้งจงรู้ว่าช่วงนี้องค์ชายสามอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เริ่มจากการสิ้นพระชนม์ของพระสนมเต๋อเฟย ดังนั้นเส้นสายที่จะดึงจ้าวหาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-13
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0215

    เอ่ยจบก็หมุนตัวจากไป หากไม่ใช่เพราะว่าไม่มีตัวเลือกเขาก็ไม่มีทางไปเลือกคนไร้ประโยชน์แบบนี้วันที่สอง เป็นวันที่องค์ชายรอง และ เผยฉู่เยี่ยนตกลงกันไว้ว่าจะเดินทางกลับ ในตอนที่ใกล้จะถึงเมื่อหลวงก็ได้มีม้าเร็วข้างกายขององค์ชายรองกลับมารายงาน องค์รัชทายาทถึงได้ออกจากวังไปแล้วพาคนไปรอพวกเขาอยู่ที่ด้านหน้าประตูเมืองเสียงดังกรุบกรับของเกือกม้าดังขึ้นมาจากที่ห่างไกล องค์รัชทายาทจึงหันไปมองแล้วเห็นว่าจิ่นหยู และฉู่เยี่ยนกำลังควบม้าเข้ามา องค์รัชทายาทถึงได้สะบัดแส้ม้าเบา ๆ แล้วค่อย ๆ เดินไปด้านหน้า“เสด็จพี่”“องค์รัชทายาท”องค์ชายรอง และฉู่เยี่ยนรีบเร่งมาตลอดทางเมื่อเห็นองค์รัชทายาทก็โล่งใจราวกลับว่ายกภูเขาออกจากอก และแน่นอนว่ายากจะปิดบังสีหน้ามีความสุของค์รัชทายาทพาม้าเข้าไปใกล้ ๆ กับทั้งสองคน “ตลอดทางพวกเจ้าลำบากแล้ว”แล้วก็มองไปที่เผยฉู่เยี่ยน “ฉู่เยี่ยนดีขึ้นแล้วหรือ ? เหตุใดถึงไม่นั่งรถม้า ? อย่าไปทำให้กระทบกับบาดแผลอีก”“องค์รัชทายาทโปรดวางพระทัย” แน่นอนว่าเผยฉู่เยี่ยนซาบซึ้งในความเป็นห่วงขององค์รัชทายาท จึงยกมือขึ้นมาคารวะแล้วเอ่ย “บาดแผลหายดีแล้วถึงได้ออกเดินทางพ่ะย่ะค่ะ บาดแผล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0216

    หรงเหวินเหมี่ยวได้ยินเหออวี่เหยาเอ่ยก็หน้าแดงขึ้นมาด้วยความเขินอายหานซีเยว่เห็นนางเป็นเช่นนี้ก็เอ่ยหยอกเย้าขึ้นมา “ยามนี้น้องหญิงเหวินเหมี่ยวของเราเติบโตแล้ว เมื่อก่อนนิสัยไม่กลัวฟ้าดินนั่น ยามนี้กลับรู้จักเขินอายแล้ว”ไม่กี่คนก็ก็ยิ้นขำกันขึ้นมาภายในห้องหรูหราที่อยู่ไม่ไกลจากพวกนาง เสิ่นเป่าเยี่ยน และเสิ่นเป่าซวงก็กำลังยืนอยู่ที่หน้าต่างแล้วมองออกไปด้านนอกเสิ่นเป่าซวงไม่รู้ว่าวันนี้คือวันเดินทางกลับของพวกองค์ชายสอง เรื่องนี้เป็นเสิ่นเป่าเหยี่ยนไปสืบเรื่องมาให้โดยตั้งใจพาน้องสาวของตนเองมาก่อนหน้านี้น้องสาวเอ่ยกับตนว่าจะย้อมแพ้เรื่องขององค์รัชทายาทแม้ว่าสีหน้าของนางจะแน่วแน่เพียงแต่อย่างไรก็ยืนกรานมาตั้งหลายปี นางปล่อยวางไปแล้วจริง ๆ เหรอ ? อย่างไรก็ต้องลองดูถึงจะดี มีเพียงแค่นางปล่อยวางจริง ๆ ตนถึงจะวางใจได้เมื่อเห็นองค์รัชทายาทขี่ม้าเรียงแถวกันมาสามคน สายตามสองเสิ่นเป่าเหยี่ยนก็แฝงไปด้วยความรู้สึกทึ่ง แล้วเอ่ยออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ “ดู ๆ แล้วองค์รัชทายาทผอมลง”“ท่านพ่อไม่ได้บอกว่าองค์รัชทายาทกำลังยุ่งอยู่กับราชกิจบ้านเมืองเหรอ ผอมลงไปหน่อยก็ปกติ” เสิ่นเป่าซวงกลับไม่ได้ไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0217

    ตอนนี้นางไม่รีบร้อนเท่าคนเหล่านั้น เผยฉู่เยี่ยนอายุแค่เก้าขวบเท่านั้น ยังเร็วเกินไปที่จะแต่งงานกับเขา!ในขณะที่นางกําลังดื่มด่ำกับความงามของเผยฉู่เยี่ยน ก็มีคนมาเคาะประตูจากข้างนอก นางอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและหันไปมองหญิงรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆหญิงรับใช้คนนั้นรีบออกไปเปิดประตูข้างนอกแล้วดู ก่อนจะกลับมารายงานว่า “เจ้าหนู เป็นเจ้าหนูเหอและเจ้าหนูหลินเจ้าค่ะ”"เหออวิ๋นเหยาและหลินอิน? พวกนางสองคนมาทําอะไรที่นี่ สีหน้าของซิงเหนียวเหนี่ยวแสดงความไม่พอใจ“บอกว่าได้ยินว่าเจ้าหนูอยู่ที่นี่ เลยตั้งใจมาทําความเคารพเจ้าค่ะ” หญิงสาวคนนั้นพูดอย่างเอาใจ“ให้พวกนางเข้ามาเถอะ” ซิงเหนียวเหนี่ยวแกว่งขาแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างต่อ“บังเอิญจริง ๆ น้องหญิงซิงก็อยู่ที่นี่ด้วย” หลินอินและเหออวิ๋นเหยาเข้าไปในห้องส่วนตัวและเดินไปที่หน้าต่าง จุดประสงค์นั้นชัดเจนมากซิงเหนียวเหนี่ยวกลับจมจ่ออยู่กับคําพูดหวานไพเราะของทั้งสองคนไม่ได้สังเกตวันนี้เหออวิ๋นเหยาลากหลินอินมาที่นี่ แต่ไม่คิดว่าเพราะไม่ได้จองล่วงหน้า ห้องส่วนตัวจึงไม่มีไปนานแล้ว ได้ยินว่าซิงเหนียวเหนี่ยวอยู่คนเดียว ถึงได้กล้ามาหานางสายตาของเหออวิ๋นเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0218

    เมื่อเห็นไทเฮาเป็นเช่นนี้ องค์ชายรองและเผยฉู่เยี่ยนก็รีบเข้าไปประคองไทเฮาไทเฮาจับมือของเผยฉู่เยี่ยนและมองเขาอย่างระมัดระวัง “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เผยฉู่เยี่ยนรีบปลอบไทเฮา “ไทเฮาวางใจเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมหลบได้ทันเวลา แค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น”ไทเฮาถึงถอนหายใจแล้วพูดว่า “ข้ายินยอมให้เด็กอย่างพวกเจ้าออกไปฝึกฝนข้างนอกนะ เพียงแต่ข้างนอกมันอันตรายเกินไปจริงๆ”“จิ่นหยูเป็นหลานชายแท้ ๆ ของข้า ข้าย่อมรักเขาอยู่แล้ว” ไทเฮาพูดคํานี้ออกมา สายตามองไปที่เผยฉู่เยี่ยนด้วยแววตาลุกวาว “แต่เจ้าก็เป็นเด็กที่ข้าเห็นเติบโตมา ข้าก็รู้สึกสงสารเจ้าเหมือนกัน”แม่นมซูที่อยู่ข้าง ๆ เห็นไทเฮาเป็นเช่นนี้ จึงรีบเข้าไปพูดว่า “เมื่อวานไทเฮาได้ทราบเรื่องที่เผยซื่อจื่อถูกลอบสังหาร ถึงกับร้องไห้กลางดึกอย่างทรมาน”เผยฉู่เยี่ยนได้ยินก็รู้สึกซาบซึ้งใจ คุกเข่าลงอีกครั้ง โขกหัวให้ไทเฮา “กระหม่อมขอบพระทัยไทเฮาพะยะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่เห็นบรรยากาศเช่นนี้ก็รีบเอ่ยปากปรับ “เอาล่ะ กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว”พูดจบก็ให้คนรับใช้จัดที่นั่งให้คนที่เข้ามาข้างหลังองค์ชายรองทําความเคารพบรรดาสนมทั้งหลายอีกครั้ง จึงสังเกตเห็นว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-14

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

DMCA.com Protection Status