แชร์

บทที่ 0010

ผู้แต่ง: อันอี่หราน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ไม่กี่วันต่อมา ไทเฮาก็เสด็จกลับวัง  ฮ่องเต้ต้าฉู่ทรงนำนางสนมกลุ่มหนึ่งมารอที่ประตูพระราชวังแต่เช้า ราชรถอันวิจิตรงดงามค่อยๆ สะท้อนสู่สายตาของทุกคนอย่างช้าๆ

อีกด้านของราชรถ เป็นปกติที่จะมีนางข้าหลวงข้างกายและขันทีคอยรับใช้ไทเฮา

อีกด้านหนึ่งคือองค์ชายรองลู่จินหยู่ที่ร่วมเดินทางกับไทเฮาไปวัดหมิงจิ้งเพื่อขอพร รวมถึงเผยฉู่เยี่ยนซื่อจื่อน้อยของจวนอันกั๋วกง

ไทเฮานั้นมีแม่นมซูผู้เป็นแม่นมข้างกายคอนปรนนิบัติตอนลงจากราชรถ ฮ่องเต้ต้าฉู่รีบก้าวเดินมาด้านหน้าอย่างรวดเร็วและช่วยประคองไทเฮา “เสด็จแม่ เสด็จไปวัดหมิงจิ้งงลำบากพระองค์แล้วล่ะพ่ะย่ะค่ะ”

เนื่องจากภัยแล้งรุนแรงในแคว้นต้าฉู่เป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน เป็นผลให้ในฤดูใบไม้ผลิประชาชนไม่สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้ แค่มองก็รู้ว่าผู้คนตกอยู่ในความทุกข์ยาก เป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้ามีความอดอยากในทุกหนทุกแห่ง

อีกทั้งในวังหลังก็ไม่มีฮองเฮานั่งบัญชาการ ไทเฮาจึงเสด็จไปที่วัดหมิงจิ้งงวัดประจำแคว้นต้าฉู่เป็นการส่วนตัวเพื่ออธิษฐานขอพรแก่แคว้น เหล่าสนมไม่จำเป็นต้องไปด้วย จึงแค่เลือกองค์ชายรองติดตามไปด้วยเท่านั้น

ไทเฮาตบไปที่มือฮ่องเต้ต้าฉู่ กล่าวอย่างชื่นใจว่า “ข้าก็แค่ไปอธิษฐานขอพรเอง ฝ่าบาทต่างหากที่นั่งบัญชาการในท้องพระโรงนั้นเหนื่อยกว่าอีก ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับข้ามากนักหรอก”

ท้ายที่สุดยังไงก็เป็นเทพเจ้าสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเสด็จแม่ ฝนจึงตกลงมาสองครั้งนี้ แคว้นต้าฉู่ของเราได้รับการช่วยเหลือแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินคำพูดของฮ่องเต้ต้าฉู่ ไทเฮารีบเงยหน้าขึ้นเพื่อค้นหาและมองไปที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟย “เฉินเฟยคลอดแล้วหรือ? แล้วเต็มเดือนหรือยัง? รีบอุ้มมาให้ข้าดูเร็วสิ”

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรีบรับลู่ซิงหว่านจากมือแม่นม แล้วเดินไปหาไทเฮา

[ว้าว เป็นไทเฮา ไทเฮาคนที่รักและเมตตามากที่สุด ดีที่พระองค์ทรงปกป้ององค์รัชทายาทพี่ชายตลอดหลายปีที่ผ่านมา น่าเสียดายที่สุดท้ายนางก็ถูกหรงอ๋องกักบริเวณในตำหนัก เป็นโรคตรอมใจจนสิ้นพระชนม์]

[มองดูลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าพี่ชายแท้ ๆ ของเขาเพื่อบัลลังก์ ในใจคงรับไม่ได้สินะ?]

ฮ่องเต้ต้าฉู่กับพระสนมเฉินกุ้ยเฟยปรับตัวเขากับความคิดเรื่อยเปื่อยของลู่ชิงหว่านได้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้ได้เรียนรู้แล้วว่าต่อหน้าใครจะรักจะชังก็ช่าง กลับวังไปแล้งค่อยไปแยกแยะ

“ลูกได้แต่งตั้งชิงเหยียนเป็นพระสนมขั้นกุ้ยเฟยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่กระซิบเบา ๆ ข้างหูไทเฮา

“ดี ดี สมควรแล้ว” ไทเฮาชื่นชอบสนมเฉินผู้วางตัวถ่อมตนมาโดยตลอด “สมควรแล้วล่ะ ได้ยินมาว่าเด็กคนนี้ตอนเกิดก็มีฝนตกห่าใหญ่ ในวันครบเดือนก็มีฝนหน้าแล้งตกลงมาอีก ข้าว่านางคงเป็นดาวนำโชคของแคว้นพวกเราสินะ!”

ไทเฮารับลู่ชิงหว่านมาอย่างอ่อนโยน มองนางใกล้ยิ่งขึ้น

[ไทเฮาฉลาดหลักแหลมที่สุดเลย แน่นอนว่าเซียนเช่นข้าต้องเป็นดาวนำโชคอยู่แล้ว!]

“ลูกได้แต่งตั้งยศให้หวานหว่านแล้วว่า หย่งอัน” ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าวพร้อมกับจับมือเล็ก ๆ ของลู่ซิงหว่านและแสดงปานดอกบัวพุทธบูชาบนแขนของนางให้ไทเฮาดู “เสด็จแม่ดูสิพ่ะย่ะค่ะ”

“มันคือบัวพุทธบูชาจริงๆ” ไทเฮาศรัทธาในพุทธศาสนามาตลอดและเมื่อนางเห็นเช่นนี้ นางก็อุทานว่า “เอาล่ะ เฉินเฟย อ่า ไม่ใช่สิ เฉินกุ้ยเฟยได้ให้กำเนิดบุตรสาวที่ดีจริง ๆ เลยนะ”

คนกลุ่มนี้คุยกันอย่างมีความสุข องค์ชายรองเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ก้าวเข้ามาทักทายเช่นกัน

“กระหม่อมถวายบังคมเสด็จพ่อ และขอแสดงความยินดีกับพระสนมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ต้าฉู่เมื่อเห็นเขาก็รีบหันกลับมามองเขา “ลุกขึ้นเร็วเข้า เจ้าทำงานหนักมาตลอดทางแล้ว”

“สามารถทำให้ไทเฮามีความสุขได้ เป็นบุญวาสนาของกระหม่อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เผยฉู่เยี่ยนที่ติดตามเขาก้าวไปข้างหน้า แสดงความเคารพต่อฮ่องเต้ต้าฉู่และเหล่านางสนม

เผยฉู่เยี่ยนเดิมทีเป็นบุตรชายคนเดียวของจวนอันกั๋วกง เมื่อปีที่แล้วระหว่างสงครามที่แคว้นเยว่เฟิง จวนอันกั๋วกงแม้จะประสบความสูญเสียแต่ก็แทบไม่ถึงหนึ่งในสิบของจวนอันกั๋วกง อันกั๋วกงเดินลุยเข้าไปในกองทัพของศัตรูเพียงคนเดียวและเข้าไปเด็ดหัวนายพลของศัตรู แต่เขาก็ถูกศัตรูยิงเข้าที่ตรงกลางหัวใจด้วย ถูกฆ่าตายคาสนามรบ

หลังจากได้รับข่าวกลับมา ฮูหยินของอันกั๋วกงรับไม่ได้ และล้มป่วยลงทันที จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีวิธีรักษา และในที่สุดฮูหยินของอันกั๋วกงผอันกั๋วกงก็สิ้นใจเมื่อปลายปีที่แล้ว

อดีตอันกั๋วกงก็เสียชีวิตในสนามรบเมื่อหลายปีก่อนเช่นกัน

ทั้งครอบครัวเหลือเพียงลูกชายคนเล็กเผยฉู่เยี่ยนซึ่งอายุเพียงแปดขวบ ทำได้เพียงให้ไทเฮาเลี้ยงดูไว้ข้างกายก่อน รอให้เขาโตแล้วค่อยสืบทอดตำแหน่ง

[ว้าว ๆ ๆ เจอพระเอกแล้ว! ให้ข้าดูพี่รองคนนี้ของข้าหน่อย หล่อเหล่าใจกว้างจริงๆ แต่ว่าอายุเพิ่งจะสิบกว่าปีก็โดดเด่นขนาดนี้แล้ว งั้นหลังจากนี้คงไม่เลวเลยสินะ?]

[เสด็จพ่อมีองค์ชายมากขนาดนี้ มีเพียงพี่รองเท่านั้นที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นฮ่องเต้ น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ พี่รองต้องผ่านเรื่องพลิกผันมามากมายถึงจะได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้]

[ประชาชนที่ถูกหรงอ๋องและองค์ชายสามตรงหน้าทำให้ลำบากไม่ต้องพูดถึงความโกรธ ต้องใช้ความพยายามเสียเปล่ามากจริง ๆ!]

หลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินลู่ซิงหว่านพูดในใจอยู่คนเดียว อดไม่ได้ที่จะมองดูองค์ชายรองอีกครั้ง นึกไม่ถึงว่าโอรสคนที่สองที่ตนเองไม่ได้ให้ความสนใจ จริง ๆ แล้วเป็นคนที่เหมาะสมกับการเลือกองค์รัชทายาทที่สุด แต่ตอนนี้รัชทายาท...

ฮ่องเต้ต้าฉู่มองไปที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟย แต่เห็นเพียงท่าทีนางดูสงบ

[องค์ชายเผยก็อยู่เหรอ ดูเขาตอนนี้สิ ดูเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ใครจะไปคิดว่าเด็กน้อยคนนี้จะกลายเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังที่สุดขององค์ชายรองในอนาคตกัน! ]

ในใจฮ่องเต้ต้าฉู่อดไม่ได้ที่จะกุมหน้าผากในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ หวานหว่าน เจ้ายังเป็นแค่เด็กทารกอยู่นะ!

“น้องเก้าว่านอนสอนง่ายจริง ๆ” องค์ชายรองก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว เข้าใกล้กับไทเฮาที่ด้านหน้า มองที่ลู่ซิงหว่าน “งดงามพอ ๆกับพระสนมเลยนะพ่ะย่ะค่ะ!”

เต๋อเฟยและหลานเฟยก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อถวายบังคม

“วันนี้พอแค่นี้แหละ ไทเฮายังต้องกลับวังไปพักผ่อน พวกเจ้ากลับตำหนักตัวเองก่อนเถอะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่เห็นว่าไทเฮาดูเหนื่อยเล็กน้อย จึงรีบกล่าวขึ้น

เมื่อเสด็จถึงพระตำหนักไทเฮา ฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้ข้ารับใช้ถอยออกไป แล้วค่อยกล่าวว่า “เสด็จแม่ เสนาบดีชุยเกรงว่าจะคิดไม่ซื่อพ่ะย่ะค่ะ”

เรื่องนี้ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องพูดกับไทเฮา เพียงแต่เกี่ยวข้องกับองค์ชายสาม เป็นการดีกว่าที่ให้ไทเฮาทราบไว้

เมื่อเห็นความสงบของฮ่องเต้ “มีหลักฐานแล้วหรือ?”

ได้มีการสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว แต่ยังไม่ได้จับกุมใคร จริงๆ แล้วเสนาบดีชุยเป็นขุนนางมาหลายปีแล้ว กลัวว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นพ่ะย่ะค่ะ” การวิเคราะห์ของฮ่องเต้ฉู่มีความชัดเจนและรัดกุม

ความกังวลของฝ่าบาทถูกแล้ว เสนาบดีชุยหยั่งรากลึก เต๋อเฟยยังให้กำเนิดบุตรชายสองคนด้วย เกรงว่าจะไม่ง่ายที่จะเอาชนะ” แม้ว่าไทเฮาจะไม่ได้ทรงมีส่วนร่วมในการว่าราชการก็ตาม แต่ในช่วงปีแรก ๆ นั้นนางก็ได้ประสบกับสิ่งต่างๆ มากมายกับอดีตฮ่องเต้ ดังนั้นนางจึงรู้เรื่องการเมืองบ้าง

เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่ยังคงครุ่นคิดอยู่ จึงเปิดปากกล่าวว่า "เรื่องนี้ต้องพิจารณากันในระยะยาว"

ฮ่องเต้ต้าฉู่พยักหน้าไม่ได้พูดอะไร

และแล้วเมื่อคิดถึงเรื่องของหรงอ๋อง ไตร่ตรองไปมาแล้ว ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดกับไทเฮา เมื่อสักครู่หวานหว่านพูดว่าไทเฮาสิ้นพระชนม์ด้วยอาการตรอมใจเนื่องจากการยึดบัลลังก์ของหรงอ๋อง อย่าเพิ่งทำให้ไทเฮากังวลใจเรื่องนี้ก่อนจะดีกว่า

พอออกจากตำหนักหรงเล่อของไทเฮา ฮ่องเต้ต้าฉู่ที่กำลังจะกลับไปห้องอักษรต่อ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางไปยังตำหนักฉางชิวของเต๋อเฟยแทน

อวี่ฉี คราวนี้เลื่อนตำแหน่งเฉินเฟยให้เป็นกุ้ยเฟย เจ้ารู้สึกไม่พอใจหรือเปล่า?” ฮ่องเต้ต้าฉู่ต้องการทดสอบเต๋อเฟย

“ฝ่าบาท ทรงกำลังพูดอะไรน่ะเพคะ เฉินกุ้ยเฟยให้กำเนิดองค์หญิงหย่งอันมีคุณงามความดี หลายปีมานี้ดูแลเอาใจใส่องค์รัชทายาทด้วยใจจริง เป็นคนที่ทำประโยชน์ให้กับแคว้น หม่อมฉันไหนเลยจะอิจฉาเพคะ”

เต๋อเฟยตอบอย่างน่าพอใจ แต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ตื่นตกใจ

เกรงว่าเรื่องการสอบสวนเสนาบดีชุยคงจะถูกรู้เข้าแล้วสินะ เต๋อเฟยเป็นคนอิจฉาริษยามาโดยตลอด เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเต๋อเฟยคิดถึงตำแหน่งฮองเฮามาโดยตลอด ฉลาดตอบเช่นนี้ เกรงว่าเสนาบดีชุยคงได้แจ้งให้นางทราบแล้ว

ขณะนั้นเอง ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็มีความคิดปรากฏขึ้นในใจ “ให้คนไปเรียกองค์ชายสามมา ข้าไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้ว”

ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ค่อยใส่ใจต่อองค์ชาย องค์หญิงมาโดยตลอด จู่ ๆ ก็จะพบองค์ชายสาม แม้ว่าเต๋อเฟยจะตกใจก็ตาม แต่ก็รีบออกคำสั่ง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0011

    เมื่อองค์ชายสามมาถึงตำหนักฉางชิว ฮ่องเต้นั้นก็แค่ทดสอบบทเรียนบางอย่างแก่องค์ชายสาม จากนั้นก็เรียกมาอยู่ข้างเขาตอนนี้จิ่นเฉินก็โตขึ้นแล้วควรค่อย ๆ คลุกคลีกับเรื่องการเมืองบ้าง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปก็ติดตามพี่ใหญ่และพี่รองของเจ้าไปประชุมเช้าด้วยเถอะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าวด้วยท่าทีอ่อนโยน“จริงหรือพะยะค่ะ?” องค์ชายสามเดิมทีก็เป็นคนเปิดเผยความคิดอยู่แล้ว เมื่อได้ยินที่ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าว ก็เป็นธรรมดาที่จะมีความสุข “ลูกขอบคุณเสด็จพ่อพะยะค่ะ”พระสนมเต๋อเฟยรีบกล่าวยับยั้ง “ฝ่าบาท จิ่นเฉินเพิ่งจะอายุสิบสามปีนะเพคะ ยังเป็นแค่เด็กอยู่เลย จะเข้าร่วมประชุมเช้ได้ยังไงกันเพคะ นอกจากนี้ตอนนี้ก็ยังมีองค์รัชทายาทคอย...”ฮ่องเต้ต้าฉู่ขัดจังหวะนาง “ข้าได้ตัดสินใจแล้ว เต๋อเฟย ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความอีก”หลังจากพูดจบแล้วก็ชี้ไปที่พระสนมเต๋อ “อีกอย่าง จิ่นเฉินร่ำเรียนได้ไม่เลว เจ้าเลี้ยงดูได้ดีมาก”“ขอบพระทัยสำหรับคำชมเพคะ ฝ่าบาท” เมื่อได้ยินเช่นนี้ พระสนมเต๋อก็รีบแสดงกล่าวคำขอบคุณ“เมิ่งฉวนเต๋อ แจ้งเหล่าสนมด้วยว่าพระสนมเต๋อได้รับการเลื่อนยศเป็นพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยแล้ว” หลังจากพูดจบก็ชี้ไปที่พระสนมเต๋อ “คืน

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0012

    ขณะที่พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยกำลังจะยื่นมือไปรับลู่ซิงหว่านมานั้น ทันใดนั้นลู่ซิงหว่านก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา[ไม่นะท่านแม่ ข้าไม่อยากให้ผู้หญิงร้ายอุ้ม ไม่เอา ไม่เอา]พระสนมเฉินกุ้ยเฟยแสร้งทำเป็นตำหนิจิ่นอวี้ "ยังไม่รีบอุ้มองค์หญิงไปอีก หากทำชุดของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยเปื้อนข้าลงโทษเจ้าแน่"พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยได้ยินก็เข้าใจการปฏิเสธของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟย เมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้ว บัดนี้จิ่นเฉินคงจะอยู่ในห้องกับหรงเหวินเมี่ยวสองต่อสองแล้ว ถ้าหากให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยไปบังเอิญเจอเข้าพอดีคงจะช่วยลดปัญหาของตนได้มากทีเดียวนางจึงยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ยปาก "ถ้าเช่นนั้นน้องหญิงเฉินก็รีบไปเถิด"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นท่าทางเมินเฉยของนาง ในใจก็ยิ่งเป็นกังวล รีบสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปทันทีโดยไม่สนใจระเบียบมารยาทวังหลวงอะไรแล้วลู่ซิงหว่านที่ยังอยู่ในอ้อมอกของจิ่นอวี้ก็ดีใจไปด้วย[ท่านแม่รีบวิ่งเร็วเข้า ท่านแม่สู้ ๆ ต้องช่วยพี่สาวตระกูลหรงให้ได้นะ!]เมื่อพระสนมเฉินเฟยไปถึงก็เห็นสาวใช้นางหนึ่งถูกผลักล้มลงกับพื้นที่หน้าประตูห้อง ประตูห้องถูกเปิดกว้างพระสนมเฉินกุ้ยเฟยมองจากที่ไกล ๆ ในใจก็ยิ่งตะลึงใจจึงรีบเอ่ยปากถาม "นี่มันเ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0013

    เมื่อผู้คนกลับไปกันหมด หรงเหวินเมี่ยวก็แอบมาอยู่ข้างพระสนมเฉินกุ้ยเฟยแล้วย่อกายลงเล็กน้อย "เรื่องวันนี้ต้องขอบพระคุณพระสนมมากด้วยเพคะ"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับไม่ใส่ใจมาก "คุณหนูหรงไม่ต้องคิดมาก ข้าแค่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้หว่านหว่านแล้วบังเอิญพบเข้าเท่านั้น เรื่องวันนี้รอดพ้นได้เพราะคุณหนูหรงฉลาดมีไหวพริบต่างหาก"หรงเหวินเมี่ยวเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยพูดแบบนี้ก็กระจ่างในใจ พระสนมเฉินกุ้ยเฟยไม่ได้มีความคิดที่จะทวงคืนบุญคุณแต่อย่างใดจึงเก็บเรื่องนี้นี้เอาไว้ในใจทุกคนต่างรู้ว่า พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเป็นน้าสาวแท้ ๆ ขององค์รัชทายาท และนางก็ไม่มีทายาทดังนั้นจึงต้องช่วยองค์รัชทายาทปูทางเป็นธรรมดา หากวันนี้ตนรอดพ้นจากแผนขององค์ชายสามแล้วเข้าไปพัวพันกับองค์รัชทายาทอีกก็จะเป็นการทำลายชื่อเสียงอันดีของท่านพ่อได้ดังนั้นจึงกล่าวขอบคุณ ทำความเคารพและออกจากวังไปพร้อมท่านแม่หรงเหวินเมี่ยวกลับบ้านเล่าเรื่องนี้ให้กับท่านพ่อและท่านแม่ ใต้เท้าหรงทั้งบ้านชื่นชมพระสนมเฉินกุ้ยเฟย และชื่นชอบองค์รัชทายาทมากขึ้น บอกว่าขอแค่องค์รัชทายาทไม่มีความคิดที่ไม่ดีจะตอบแทนอย่างดีแต่ว่า มันก็เป็นเรื่องของอนาคตขณะเดียวกัน ณ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0014

    เมื่อลู่จิ่นเหยาลงจากรถม้ามาถึงตรงหน้าทั้งสอง เสิ่นเป่าซวงที่กำลังเหยียดหยามหานซีเยว่ไม่หยุดถึงได้เห็นเขา"องค์รัชทายาท" เสิ่นเป่าซวงรีบก้าวมาข้างหน้า เดินมาหาลู่จิ่นเหยา ย่อกายเล็กน้อยแล้วแสร้งทำท่าทางอ่อนโยน "ถวายบังคมองค์รัชทายาทเพคะ ช่างบังเอิญเสียจริงที่ได้พบท่านที่นี่"ลู่จิ่นเหยาพยักหน้า ไม่ได้ตอบกลับหานซีเยว่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ ก้าวขึ้นมาทำความเคารพให้องค์รัชทายาทด้วยแต่องค์รัชทายาทกลับตอบนาง "คุณหนูหาน พระสนมเฉินเห็นว่าเจ้าอยู่ที่นี่จึงเรียกเจ้าไปหาน่ะ"หานซีเยว่อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองลู่จิ่นเหยา องค์รัชทายาทมาเพื่อช่วยนางอย่างนั้นหรือ?เสิ่นเป่าซวงทนไม่ได้ที่เห็นพวกเขาส่งสายตากันไปมา จึงก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าวแทรกระหว่างสองคนแล้วมององค์รัชทายาท "งานเลี้ยงครั้งก่อนไม่ได้เจอพระสนมกุ้ยเฟยเลย โปรดรบกวนองค์รัชทายาทช่วยพาหม่อมฉันไปแนะนำด้วยนะเพคะ"แต่ลู่จิ่นเหยาไม่อยากยุ่งกับนางจึงเอ่ยปากตอบ "บัดนี้พระสนมเฉินอยากพบแค่คุณหนูหาน หรือคุณหนูเสิ่นคิดจะขัดคำสั่งหรือ?"คำพูดนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเย็นชาเสิ่นเป่าซวงเห็นองค์ราชทายาทเป็นเช่นนี้ก็รีบย่อกายขออภัย และมองทั้งสองคนเดินไปเป

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0015

    ครั้นเมื่อเห็นเผยฉู่เยี่ยนบาดเจ็บ องค์ชายใหญ่ก็รีบมาสังหารนักฆ่าจนเสียชีวิต การต่อสู้อันดุเดือดจึงได้ยุติลงเหลียวดูรอบข้างพบว่าไม่มีศัตรูอีก พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงได้หันกลับไปที่เกี้ยว เห็นลู่ซิงหว่านยังนอนตาแป๋วอยู่ จึงได้วางใจ จากนั้นจึงหันมาดูเผยฉู่เยี่ยน พยุงแขนของเขาพลางถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”“พระสนมโปรดวางใจ ไม่เป็นไรมากพ่ะย่ะค่ะ” เผยฉู่เยี่ยนอายุเพียงแค่แปดขวบเท่านั้น แต่นิสัยเป็นคนแข็งกร้าว ทำให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยอดไม่ได้ที่จะมองซ้ำอีก“จิ่นเหยา จิ่นหยู ทิ้งคนไว้ให้จัดการที่นี่ อย่าให้ชาวบ้านรอบข้างแตกตื่น พวกเรากลับวังก่อน” เจอเรื่องเช่นนี้เข้า พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรู้จักตั้งสติคล้ายกับตอนอยู่ในสนามรบ “ซื่อจื่อน้อยตามข้าขึ้นเกี้ยวก่อน เพราะได้รับบาดเจ็บ ไม่ควรที่จะขี่ม้าอีก”เมื่อเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยกล่าวเช่นนี้ เผยฉู่เยี่ยนจึงไม่กล้าปฏิเสธอีก ได้แต่ตามนางขึ้นรถม้าไป[เผยซื่อจื่อดูเท่ห์เหลือเกิน ถ้าไม่ได้เขามาช่วย วันนี้ข้าคงตายแน่ ฮือ ๆ ๆ...][สมแล้วที่เป็นผู้ช่วยมือดีของพระเอก อายุยังน้อยก็มีความกล้าหาญถึงเพียงนี้ ช่างร้ายกาจจริง ๆ!]พระสนมเฉินเฟยขึ้นไปในรถม้า แล้วจึงอุ้มลู่ซิงห

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0016

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ตกใจเป็นอย่างมากเขาเคยสงสัยหรงอ๋อง เคยสงสัยเสนาบดีชุย หรือแม้กระทั่งครอบครัวของสนมโหรวกุ้ยเหรินที่ถูกเนรเทศก็เคยต้องสงสัย แต่ไม่เคยนึกถึงพระสนมชุยเฟยเลยสมัยที่ตนยังเป็นรัชทายาทอยู่ ชุยอวี่ฉีก็แต่งมาเป็นพระชายารองแล้ว ความสัมพันธ์ในวัยเยาว์ล้ำค่าที่สุด เขาจึงมอบความรักให้แก่ชุยอวี่ฉีอย่างเต็มเปี่ยมมาโดยตลอดและในสายตาฮ่องเต้ต้าฉู่ นางก็เป็นสตรีที่อ่อนโยนและใสซื่อ ทั้งยังให้กำเนิดองค์ชายถึงสองคน และก่อนหน้านี้ดเขาเองก็หมายมั่นจะให้นางครองตำแหน่งฮองเฮาคนต่อไปพักก่อนต่อให้เรื่องของเสนาบดีชุยถูกเปิดโปง เขาก็ไม่ได้สงสัยนางเลย แต่ไม่คิดว่านางจะโหดร้ายถึงเพียงนี้และเมื่อนางทำผิดจริง ช้าเร็วก็ต้องถูกเปิดเผย เพื่อความมั่นคงของราชสำนัก อย่างไรก็ต้องจัดการ“เมิ่งฉวนเต๋อ สั่งการไปยังตำหนักฉางชิว ชุยเฟยทำความผิด ให้ลดขั้นเป็นตาอิ้ง ย้ายไปอยู่ตำหนักผู่เหวินแทน” ฮ่องเต้ต้าฉู่ครุ่นคิดอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเมิ่งฉวนเต๋อได้รับบัญชาก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ด้วยไม่คิดว่าฮ่องเต้จะทรงเฉียบขาดถึงปานนี้ ตำหนักผู่เหวิน สภาพใกล้เคียงกับตำหนักเย็น ฮ่องเต้ต้าฉู่โปรดปรานพระสนมเต๋อเฟยมาโดยตลอด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0017

    ฮ่องเต้ต้าฉู่พลิกไปได้เพียงแค่สองหน้าก็เห็นว่าภายในนั้นเรื่องหนึ่งอยู่ ไม่นานมานี้ตอนที่พระสนมเฉินเฟยคลอดบุตรก็เป็นชุยเหวินที่ซื้อตัวสนมโหรวกุ้ยเหริน และใช้ครอบครัวของนางมาข่มขู่ให้สนมโหรวกุ้ยเหรินออกหน้าซื้อตัวแม่นมทำคลอดผู้นั้นเห็นดังนี้เขาก็โกรธเสียจนปาสาส์นกราบทูลขอราชการนั้นออกไป “เขากลับรู้ว่าต้องทำให้บุตรสาวของตนเองไร้มลทิน”เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่กริ้วแล้ว คนของกรมสอบสวนก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรต่อ“จับหนิงซวี่ได้หรือยัง?” ภายในใจของฮ่องเต้ต้าฉู่รู้สึกกลัดกลุ้มเพราะยังนึกไม่ออกว่าจะจัดการอย่างไรดี“ยามนี้ได้นำตัวคนไปส่งถึงศาลต้าหลี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ โดยได้จัดคนดูแลเป็นเฉพาะการ และไม่ได้ใช้วิธีทรมานแต่อย่างใด เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เขาฆ่าตัวตายเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” แต่ไหนแต่ไรใต้เท้าหรงก็จัดการเรื่องได้อย่างน่าเชื่อถืออยู่แล้วฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินก็พยักหน้า “พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ”ความผิดที่ชุยเหวินกระทำแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย แต่ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับนึกถึงสิ่งที่หลายปีมานี้เขาทุ่มเททำเพื่อแคว้นต้าฉู่ ชั่วขณะก็ไม่รู้ว่าควรจะลงโทษอย่างไรดีฮ่องเต้ต้าฉู่ฟังเมิ่งฉวนเต๋อเอ่ยถึงปฏิกิริยาขอ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0018

    เมื่อฮ่องเต้ต้าฉู่กลับมายังห้องหนังสือส่วนพระองค์ ก็ได้ให้เมิ่งฉวนเต๋อไปเรียกคนของกรมสอบสวนมา“สืบเรื่องเงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งของปีนี้ที่จัดสรรไปว่าภายในมีผู้ทุจริตหรือไม่” ฮ่องเต้ต้าฉู่พูดออกมาอย่างง่ายดายด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความลังเลใต้เท้าหรง และคนอื่น ๆ ย่อมเข้าใจดีว่าที่ฮ่องเต้ต้าฉู่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาในยามนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเสนาบดีชุย ในขณะนั้นจึงได้สืบไปในทิศทางนี้ทันทีเมื่อชัดเจนเรื่องทิศทางแล้ว บวกกับการทำงานที่รวดเร็ว และเฉียบขาดของกรมสอบสวน ไม่ถึงครึ่งวัน สาส์นฉบับหนึ่งก็ถูกเอามาวางไว้ที่โต๊ะหนังสือของฮ่องเต้เงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยหนึ่งแสนตำลึง ชุยเหวินเพียงแค่ผู้เดียวก็ทุจริตไปแล้วห้าหมื่นตำลึงยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงที่จัดสรรไปแต่ละรอบว่ามีหลงเหลือมาถึงมือของราษฎรจริง ๆ อยู่เท่าไหร่?เมื่อเห็นดังนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่มีความลังเลอีกต่อไป “เมิ่งฉวนเต๋อ ไปเรียกเว่ยเฉิงมา”ในขณะนั้นก็ได้รับสั่งให้คนของทหารราชองครักษ์ และกรมสอบสวนไปตรวจค้น รวมถึงยึดทรัพย์ที่บ้านตระกูลชุย คนที่เกี่ยวข้องให้นำไปขังไว้ที่ศาลต้าหลี่เป็นการชั่วคราว ส่วนข้ารับใช้บ้างก็เน

บทล่าสุด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0619

    คิดในใจ ลู่ซิงหว่านจึงใช้ทั้งมือและเท้าเดินกลับไปหาหานซีเยว่อีกครั้ง แล้วประคองโต๊ะเล็กให้ลุกขึ้นตอนนี้หานซีเยว่เปิดกล่องนั้นแล้ว เป็นกําไลหยกที่โปร่งใสซ่งชิงเหยียนถึงยิ้มแล้วพูดต่อ “ไม่ถือว่าเป็นกําไลที่ดีอะไรหรอก แต่เป็นของฮองเฮาองค์ก่อนทิ้งเอาไว้”ลู่ซิงหว่านเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามือของหานซีเยว่ที่ถือกําไลนั้นถึงกับสั่นนางวางกําไลนั้นกลับไปอย่างรวดเร็ว แล้วผลักไปตรงหน้าซ่งชิงเหยียน “พระสนมหวงกุ้ยเฟยเพคะ หม่อมฉันไม่กล้ารับไว้จริงๆ”ซ่งชิงเหยียนกลับยิ้มพลางยืนขึ้น หยิบกําไลหยกนั้นไว้ในมือ เดินไปตรงหน้าหานซีเยว่ แล้วสวมแทนนาง “การแต่งงานของเจ้ากับองค์รัชทายาท พวกข้าพอใจมาก ฮองเฮาองค์ก่อนก็ต้องพอใจมากเช่นกัน”ตอนนี้เมื่อซ่งชิงเหยียนพูดถึงซ่งชิงหย่าอีกครั้ง นางก็รู้สึกสงบมากขึ้นกว่าเดิม“กําไลวงนี้เป็นของฮองเฮาองค์ก่อนทิ้งเอาไว้ บอกว่าจะมอบให้ว่าที่ลูกสะใภ้ “น่าเสียดายที่นางเองไม่มีโอกาสได้มอบมันให้กับเจ้าด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงต้องให้น้องสาวอย่างข้าทําแทน”“เดิมทีจะมอบให้เจ้าในพิธีปักปิ่นของเจ้า แต่วันที่เจ้าเข้าพิธีปักปิ่นนั้น ข้าเกรงว่าจะมีธุระไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้ ดังนั้นจึ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0618

    หลังจากได้ยินคําพูดของซ่งชิงเหยียน ฉยงหัวก็เหม่อลอยไปชั่วขณะ“จะได้หรือ?” คําพูดของฉยงหัวแฝงความหมายหยั่งเชิงอยู่บ้าง นางย่อมยินยอมไปหลายวันมานี้นางก็คิดได้แล้ว ดีชั่วตอนนี้ตนเองสูญเสียพลังจิตวิญญาณไปแล้ว แทนที่จะมัวยึดติดกับการตามหาหวานหว่าน สู้สงบจิตสงบใจ เสพสุขกับชีวิตในตอนนี้จะดีกว่าบางทีหลังจากที่อาจารย์ของหวานหว่านออกจากการเก็บตัวแล้ว เห็นว่าตัวเองก็ไม่อยู่แล้ว ย่อมมาช่วยเองอยู่แล้ว“แน่นอน ข้าจะไปถามความหมายของฝ่าบาทเดี๋ยวนี้”“คิดว่าฝ่าบาทคงไม่ปฏิเสธแน่ ฝีมือการรักษาของแม่นางฉยงหัวยอดเยี่ยมมาก หากได้แม่นางฉยงหัวมาอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ด้วย นั่นคงจะดีไม่น้อย”แน่นอนว่านี่เป็นเพียงข้ออ้างของซ่งชิงเหยียนเท่านั้น ที่นางอยากพาฉยงหัวออกไปก็เพราะหวานหว่านหวานหว่านชอบพี่ฉยงหัวขนาดนี้ ย่อมต้องอยากอยู่กับนางตลอดไปอยู่แล้วจิ่นซินและจิ่นอวี้เก็บข้าวของเกือบทั้งคืน พวกนางเอาเข้าไป ซ่งชิงเหยียนเอาออกมา แบบนี้ไปๆ มาๆ สุดท้ายก็ทิ้งกล่องใหญ่สองใบไว้ซ่งชิงเหยียนประนีประนอมแล้วนางพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ให้คนขับรถม้าของฝ่าบาทเหนื่อยหน่อยละกัน!ก่อนออกเดินทาง นางยังมีเรื่องสําคั

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0617

    ต้องบอกว่าของข้างนอกอร่อยกว่าของในวังจริงๆในนิทานล้วนบอกว่าชีวิตของพระสนมหวงกุ้ยเฟยในวังนั้นงดงามและสบายแค่ไหน แต่ลู่ซิงหว่านกลับรู้สึกว่า ไม่ได้สบายอยู่ข้างนอก[ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกก็คงดีไม่น้อย ยังไงก็มีเงิน อยากซื้ออะไรก็ซื้อเลย][อยากกินอะไรก็ซื้อได้เลย สามารถกินอาหารที่พ่อครัวทําได้มากมาย พ่อครัวทำขนมในวังเหล่านี้ ข้ากินจนเบื่อแล้ว][เสด็จย่ากินมาตั้งหลายปี ยังกินไม่เบื่ออีกหรือ?]ซ่งชิงเหยียนบ่นในใจว่า เบื่อสิ แน่นอนว่านางกินจนเบื่อแล้ว ขนมที่องค์หญิงใหญ่นํามาจากหอฝูหม่านครั้งที่แล้ว ไทเฮาพูดตรงๆ เลยว่าอร่อยตอนนี้ซิงรั่วเกือบจะส่งคนมาส่งที่วังทุกสองวันก็ถือว่ามีใจแล้วจริงๆ เมื่อซ่งชิงเหยียนกําลังยุ่งอยู่ ฉยงหัวก็มาหานางมองท่าทางของจิ่นซินและจิ่นอวี้ที่กําลังยุ่งอยู่ อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง"พระสนมหวงกุ้ยเฟยนี่คือ..."คําพูดที่เหลือฉยงหัวไม่กล้าพูดออกมา ถูกโจรปล้นหรือ?“พี่ฉยงหัว!” ลู่ซิงหว่านพูดพลางพลิกตัวลงจากเตียง แล้ววิ่งไปหาฉยงหัวซ่งชิงเหยียนมองท่าทางคล่องแคล่วของลู่ซิงหว่านแล้วก็ตกตะลึงนางรู้ว่าหวานหว่านชอบพี่สาวฉยงหัวคนนี้มาก แต่เตียงนุ่มที่สูงขนาดนี้ น

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0616

    คิดถึงตรงนี้ องค์หญิงหกก็เงยหน้ามองไปยังทิศทางของฮ่องเต้ต้าฉู่อีกครั้ง ในใจเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นณ ตําหนักข้างของตําหนักเหวินอิงในเวลานี้ สนมเยว่กุ้ยเหรินก็กําลังพบท่านแม่ของตนเช่นกัน“เดิมคิดว่าเจ้าเป็นเพียงกุ้ยเหรินเล็กๆ ข้าไม่มีโอกาสเข้าวัง” ตอนนี้ฮูหยินเจิ้ง แม่ของสนมเยว่กุ้ยเหรินกําลังอยู่ในตําหนักของสนมเยว่กุ้ยเหริน มองสิ่งของในวังของนางไปๆมาๆ สัมผัสไปๆมาๆ ในใจรู้สึกน่าทึ่งเป็นมาก“ของในวังนี้ดีจริงๆ ทุกชิ้นประณีตขนาดนี้”เพราะรู้พฤติกรรมของแม่ตัวเอง สนมเยว่กุ้ยเหรินจึงไล่สาวใช้ข้างกายออกไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้นางแค่นั่งอยู่บนตั่งนุ่ม มองใบหน้าละโมบของแม่ตัวเองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เดิมทีนางก็ไม่อยากเจอแม่ของตัวเองอยู่แล้วแม่ของคนอื่นๆ เข้าวังด้วยความห่วงใยและสงสารลูกสาวของพวกเขาแล้วแม่ของตัวเองล่ะเอาแต่โทษตัวเองที่ไร้ประโยชน์ โทษตัวเองที่แย่งความรักไม่เป็น โทษตัวเองที่ให้กําเนิดลูกไม่ได้เมื่อสนมเยว่กุ้ยเหรินคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินเจิ้งพลันหันหน้ามา เดินมาข้างกายนางอย่างลึกลับ ล้วงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อของตัวเอง แล้วยัดใส่มือสนมเยว่กุ้ยเหริน“เจ้าเป็นคนที่ไม่เอาไห

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0615

    เดิมคิดว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลตัวเอง แต่การไปเรียนหนังสือจะถือเป็นรางวัลอะไรได้เมื่อก่อนนางเคยได้ยินลู่ซิงยุ่นบ่นว่าอาจารย์คนนี้เข้มงวดขนาดไหน ยังต้องทําการบ้านอีก นั่นไม่แตกต่างจากการคัดลอกพระคัมภีร์ในตําหนักเหยียนหัวของนางหรอกหรือนางไม่อยากไปหรอก!เมื่อเห็นท่าทางของลู่ซิงหุย ลู่ซิงหว่านก็อดหัวข้าะคิกคักไม่ได้[เสด็จพ่อ ดูเหมือนว่าลูกสาวของท่านดูเหมือนจะไม่ชอบเรียนหนังสือนะ][แต่ก็ใช่ เด็กบ้านไหนชอบเรียนหนังสือกัน เดิมคิดว่าเสด็จพ่อจะให้รางวัลอะไรแก่นาง การเรียนหนังสือนี้นับเป็นรางวัลอะไรได้]ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่สนใจ ในฐานะที่เป็นองค์หญิง ไม่เรียนหนังสือย่อมไม่ได้อยู่แล้วองค์หญิงทุกคนล้วนถูกส่งไปที่ห้องเรียนเมื่ออายุหกขวบ แม้ว่าจะแตกต่างจากเหล่าองค์ชาย แต่ก็มีอาจารย์สอนพิเศษฮ่องเต้ต้าฉู่หันไปมองพระสนมเหวินเฟยอีกครั้ง “ตอนนี้ซิงเหยียนอยู่ข้างกายเจ้า รู้สึกสบายใจกว่าเมื่อก่อนมากนะ”“เพียงแต่ตอนนี้ต้องพาเด็กตัวเล็กๆ แบบนี้มาด้วย ลําบากเจ้าแล้วจริงๆ”เด็กๆ มีความสุขหรือไม่นั้น มักจะมองปราดเดียวก็รู้แล้วลู่ซิงเหยียนเป็นเพียงเด็กอายุสามขวบเท่านั้น เมื่อก่อนสนมซูผินดูแลเองไม่มาก

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0614

    ครั้งนี้ลู่ซิงหว่านเดาผิดแล้วที่ลู่ซิงหุยพูดประจบด้วยเป็รเรื่องจริง นางกลัวที่จะไปคัดลอกหนังสือธรรมมะที่ตําหนักเหยียนหัวแล้วจริงๆ จึงไม่กล้าทะเลาะกับพี่น้องของตนอย่างโจ่งแจ้งอีกแล้วเพราะพอเสด็จพ่อทรงกริ้วขึ้นมา มันน่ากลัวมากเลยเพราะว่าเมื่อก่อนสนมซูผินปฏิบัติต่อองค์หญิงเจ็ดเพียงแค่เป็นของเล่นเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจนางมากนักพูดตามคําพูดขององค์หญิงรอง เสด็จแม่ของพวกนางเลี้ยงดูพวกนางสองพี่น้อง ก็ไม่มีอะไรมากไปแค่ให้มีกินมีใส่ ขอเพียงไม่อดตายก็พอแล้วดังนั้นหลังจากที่องค์หญิงเจ็ดมาถึงข้างกายของพระสนมเหวินเฟยแล้ว จึงสามารถไปเที่ยวที่อุทยานหลวงได้บ่อยๆ และแน่นอนว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นลู่ซิงหุยนางชี้ไปที่ลู่ซิงและพึมพําว่า"พี่สาวคนสวย"[ตาบอดตั้งแต่อายุยังน้อย][ฮึ่ม ข้าจะไม่เล่นกับเจ้าอีกแล้ว เจ้าเด็กขี้ประจบ]ประโยคนี้ขององค์หญิงเจ็ดทําให้ลู่ซิงหุยพอใจจริงๆ ลู่ซิงหุยจึงย่อตัวลงทันทีและเข้าไปใกล้หน้าองค์หญิงเจ็ด “ซิงเหยียนเป็นเด็กดี”เป็นเด็กดีมากเมื่อเทียบกับไอ้เด็กเหลือขอลู่ซิงหว่านนั่นต้องบอกว่าวันนี้ลู่ซิงหุยโชคดีมาก ในขณะที่นางเล่นกับลู่ซิงเหยียน ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เดินผ่านส

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0613

    [ว้าว ชิงช้า]ทันทีที่ลู่ซิงหว่านเห็นชิงช้า ดวงตาของนางก็เปล่งประกาย นางวิ่งไปที่ชิงช้าทันทีขณะที่กําลังจะเดินไปข้างชิงช้านั้น กลับถูกเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าขวางทางไว้ก็คือองค์หญิงเจ็ดลู่ซิงเหยียนนั่นเองลู่ซิงเหยียนไม่ถือว่าสูงนักไม่รู้ว่านางเตี้ยเกินไปหรือลู่ซิงหว่านสูงเกินไป เด็กสองคนที่อายุห่างกันแค่สองสามขวบกลับสูงห่างกันแค่ครึ่งหัวเท่านั้นในเวลานี้ ลู่ซิงเหยียนมองลู่ซิงหว่านที่น่ารักตรงหน้าแล้ว ในที่สุดก็ทนไม่ไหวแล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว กอดหัวนางไว้ แล้วจุ๊บแก้มนางทีหนึ่งลู่ซิงหว่านถอยหลังไปสองก้าวแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นจิ่นอวี้กลั้นยิ้มแล้วก้าวเข้าไปประคององค์หญิงของตนให้ลุกขึ้น ส่วนพระสนมเหวินเฟยและสาวใช้ที่ปรนนิบัติอยู่ทางนั้นก็รีบเดินเข้ามา“หวานหว่านไม่เป็นไรใช่ไหม?” พระสนมเหวินเฟยถามด้วยความเป็นห่วงหลังจากองค์หญิงเจ็ดเห็นพระสนมเหวินเฟยแล้ว ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มกว้าง “เสด็จแม่ น้องหญิงหอมจังเลยเพคะ”ลู่ซิงหว่านมองคนตรงหน้าอย่างหมดคําพูด ที่จริงในใจรู้สึกรังเกียจมาก[คนดีๆ ที่ไหนจู่ๆ ก็มาหอมคนอื่นกลางทางแบบนี้][คนไม่รู้ว่าสงสัยคงนึกว่าเป็นเด็

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0612

    แต่สาวใช้ของนางกลับไม่กล้าส่งเสียงใดๆ เพียงแค่ฟังเจ้านายของตนบ่น ส่วนนางเองก็เก็บเศษซากที่ตกแตกอย่างเชื่อฟังอาจเป็นเพราะฝ่าบาททรงเมตตา เพราะพระสนมหวงกุ้ยเฟยและสนมเยว่กุ้ยเหรินต้องเดินทางไกล ดังนั้นก่อนออกเดินทางจึงอนุญาติให้พบครอบครัวได้เป็นกรณีพิเศษทางด้านจวนติ้งกั๋วโหว แน่นอนว่าฮูหยินติ้งกั๋วโหวนางเซียวมาด้วยตัวเอง และครั้งนี้ก็เช่นกัน ข้างกายนางมีคนมาด้วยคนหนึ่งแต่สิ่งที่ซ่งชิงเหยียนคาดไม่ถึงก็คือ คนนี้ไม่ใช่พี่สะใภ้ของนาง แต่เป็นอาสะใภ้รองของนาง กัวหยูหลังจากทั้งสองทําความเคารพซ่งชิงเหยียนด้วยความเคารพแล้วซ่งชิงเหยียนก็ให้ทั้งสองนั่งลงนางเซียวนั้นนั่งลงไปแล้วแต่กัวหยูกลับเดินไปข้างหน้าและคุกเข่าลงด้วยเสียงดัง"ตุบ"ทําให้ซ่งชิงเหยียนตกใจ แม้ว่านางจะไม่ชอบอาสะใภ้คนนี้ แต่พูดไปแล้ว หลายปีที่ผ่านมา นางเองก็ไม่ง่ายเลยเพราะเข้าใจความยากลําบากของนาง ดังนั้นนางจึงไม่ได้ถึงขั้นรังเกียจอะไรดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นและช่วยพยุงนางขึ้น แต่กัวหยูกลับยืนกรานที่จะคุกเข่าอยู่ที่นั่นและพูดว่า "หม่อมฉันขออภัยต่อพระสนมหวงกุ้ยเฟยและองค์รัชทายาทแทนพี่ชายของหม่อมฉันด้วยเพคะ"หลายวันก่อนได้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0611

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมมีเรื่องจะกําชับฮองเฮาเช่นกัน “หลังจากข้าจากไปแล้ว งานแต่งงานของจิ่นเหยาต้องพึ่งพาเจ้าให้มาก หากต้องการความช่วยเหลือ เจ้าก็ไปหาหลานเฟยให้ช่วยเจ้าได้เลย ไม่จําเป็นต้องแบกรับไว้คนเดียว”“เรื่องอื่นๆ ในวัง เจ้าก็สามารถปรึกษากับเสด็จแม่หรือหลานเฟยได้”“นางสนมคนอื่นๆ ในวังที่ตั้งครรภ์ก็ต้องรบกวนเจ้าดูแลให้มากๆ ด้วย”พูดจบฮ่องเต้ต้าฉู่ก็หันไปมองไทเฮาอีกครั้ง “สําหรับเรื่องการคัดตัว เสด็จแม่กับฮองเฮาก็จัดการกันเองเถอะ ดูหญิงคัดตัวว์ล่วงหน้าบ้างก็ดี”เพื่อปลอบขวัญฮองเฮา คืนนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงไปเสวยพระกระยาหารที่ตําหนักจิ่นซิ่ว และค้างคืนที่ตําหนักจิ่นซิ่วหลังจากจบการร่วมรัก เสิ่นหนิงก็พลิกตัวลงจากเตียง เยว่หรานรีบเข้ามาทำความสะอาดให้พระมเหสีของตนนายบ่าวมองหน้ากันโดยปราศจากคำพูดใดๆเสิ่นหนิงมองผ่านกระจกทองแดงไปยังฮ่องเต้ต้าฉู่ที่กําลังหลับสนิทอยู่บนเตียง ให้เยว่หรานแนบหูมา พูดด้วยน้ำเสียงที่ที่ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น “บอกเขาว่า แผนการทั้งหมดหยุดชั่วคราว ข้ามีแผนการอื่น”ในเมื่อฮ่องเต้ต้าฉู่จะเสด็จลงใต้ เช่นนั้นก็สามารถวางแผนอื่นได้แล้วเรื่องที่ฮ่องเต้ต้าฉู่จะพาพ

DMCA.com Protection Status