Share

บทที่ 0010

Author: อันอี่หราน
ไม่กี่วันต่อมา ไทเฮาก็เสด็จกลับวัง  ฮ่องเต้ต้าฉู่ทรงนำนางสนมกลุ่มหนึ่งมารอที่ประตูพระราชวังแต่เช้า ราชรถอันวิจิตรงดงามค่อยๆ สะท้อนสู่สายตาของทุกคนอย่างช้าๆ

อีกด้านของราชรถ เป็นปกติที่จะมีนางข้าหลวงข้างกายและขันทีคอยรับใช้ไทเฮา

อีกด้านหนึ่งคือองค์ชายรองลู่จินหยู่ที่ร่วมเดินทางกับไทเฮาไปวัดหมิงจิ้งเพื่อขอพร รวมถึงเผยฉู่เยี่ยนซื่อจื่อน้อยของจวนอันกั๋วกง

ไทเฮานั้นมีแม่นมซูผู้เป็นแม่นมข้างกายคอนปรนนิบัติตอนลงจากราชรถ ฮ่องเต้ต้าฉู่รีบก้าวเดินมาด้านหน้าอย่างรวดเร็วและช่วยประคองไทเฮา “เสด็จแม่ เสด็จไปวัดหมิงจิ้งงลำบากพระองค์แล้วล่ะพ่ะย่ะค่ะ”

เนื่องจากภัยแล้งรุนแรงในแคว้นต้าฉู่เป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน เป็นผลให้ในฤดูใบไม้ผลิประชาชนไม่สามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้ แค่มองก็รู้ว่าผู้คนตกอยู่ในความทุกข์ยาก เป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้ามีความอดอยากในทุกหนทุกแห่ง

อีกทั้งในวังหลังก็ไม่มีฮองเฮานั่งบัญชาการ ไทเฮาจึงเสด็จไปที่วัดหมิงจิ้งงวัดประจำแคว้นต้าฉู่เป็นการส่วนตัวเพื่ออธิษฐานขอพรแก่แคว้น เหล่าสนมไม่จำเป็นต้องไปด้วย จึงแค่เลือกองค์ชายรองติดตามไปด้วยเท่านั้น

ไทเฮาตบไปที่มือฮ่องเต้ต้าฉู่ กล่าวอย่างชื่นใจว่า “ข้าก็แค่ไปอธิษฐานขอพรเอง ฝ่าบาทต่างหากที่นั่งบัญชาการในท้องพระโรงนั้นเหนื่อยกว่าอีก ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับข้ามากนักหรอก”

ท้ายที่สุดยังไงก็เป็นเทพเจ้าสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเสด็จแม่ ฝนจึงตกลงมาสองครั้งนี้ แคว้นต้าฉู่ของเราได้รับการช่วยเหลือแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินคำพูดของฮ่องเต้ต้าฉู่ ไทเฮารีบเงยหน้าขึ้นเพื่อค้นหาและมองไปที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟย “เฉินเฟยคลอดแล้วหรือ? แล้วเต็มเดือนหรือยัง? รีบอุ้มมาให้ข้าดูเร็วสิ”

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรีบรับลู่ซิงหว่านจากมือแม่นม แล้วเดินไปหาไทเฮา

[ว้าว เป็นไทเฮา ไทเฮาคนที่รักและเมตตามากที่สุด ดีที่พระองค์ทรงปกป้ององค์รัชทายาทพี่ชายตลอดหลายปีที่ผ่านมา น่าเสียดายที่สุดท้ายนางก็ถูกหรงอ๋องกักบริเวณในตำหนัก เป็นโรคตรอมใจจนสิ้นพระชนม์]

[มองดูลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองฆ่าพี่ชายแท้ ๆ ของเขาเพื่อบัลลังก์ ในใจคงรับไม่ได้สินะ?]

ฮ่องเต้ต้าฉู่กับพระสนมเฉินกุ้ยเฟยปรับตัวเขากับความคิดเรื่อยเปื่อยของลู่ชิงหว่านได้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้ได้เรียนรู้แล้วว่าต่อหน้าใครจะรักจะชังก็ช่าง กลับวังไปแล้งค่อยไปแยกแยะ

“ลูกได้แต่งตั้งชิงเหยียนเป็นพระสนมขั้นกุ้ยเฟยแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่กระซิบเบา ๆ ข้างหูไทเฮา

“ดี ดี สมควรแล้ว” ไทเฮาชื่นชอบสนมเฉินผู้วางตัวถ่อมตนมาโดยตลอด “สมควรแล้วล่ะ ได้ยินมาว่าเด็กคนนี้ตอนเกิดก็มีฝนตกห่าใหญ่ ในวันครบเดือนก็มีฝนหน้าแล้งตกลงมาอีก ข้าว่านางคงเป็นดาวนำโชคของแคว้นพวกเราสินะ!”

ไทเฮารับลู่ชิงหว่านมาอย่างอ่อนโยน มองนางใกล้ยิ่งขึ้น

[ไทเฮาฉลาดหลักแหลมที่สุดเลย แน่นอนว่าเซียนเช่นข้าต้องเป็นดาวนำโชคอยู่แล้ว!]

“ลูกได้แต่งตั้งยศให้หวานหว่านแล้วว่า หย่งอัน” ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าวพร้อมกับจับมือเล็ก ๆ ของลู่ซิงหว่านและแสดงปานดอกบัวพุทธบูชาบนแขนของนางให้ไทเฮาดู “เสด็จแม่ดูสิพ่ะย่ะค่ะ”

“มันคือบัวพุทธบูชาจริงๆ” ไทเฮาศรัทธาในพุทธศาสนามาตลอดและเมื่อนางเห็นเช่นนี้ นางก็อุทานว่า “เอาล่ะ เฉินเฟย อ่า ไม่ใช่สิ เฉินกุ้ยเฟยได้ให้กำเนิดบุตรสาวที่ดีจริง ๆ เลยนะ”

คนกลุ่มนี้คุยกันอย่างมีความสุข องค์ชายรองเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ก้าวเข้ามาทักทายเช่นกัน

“กระหม่อมถวายบังคมเสด็จพ่อ และขอแสดงความยินดีกับพระสนมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ต้าฉู่เมื่อเห็นเขาก็รีบหันกลับมามองเขา “ลุกขึ้นเร็วเข้า เจ้าทำงานหนักมาตลอดทางแล้ว”

“สามารถทำให้ไทเฮามีความสุขได้ เป็นบุญวาสนาของกระหม่อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เผยฉู่เยี่ยนที่ติดตามเขาก้าวไปข้างหน้า แสดงความเคารพต่อฮ่องเต้ต้าฉู่และเหล่านางสนม

เผยฉู่เยี่ยนเดิมทีเป็นบุตรชายคนเดียวของจวนอันกั๋วกง เมื่อปีที่แล้วระหว่างสงครามที่แคว้นเยว่เฟิง จวนอันกั๋วกงแม้จะประสบความสูญเสียแต่ก็แทบไม่ถึงหนึ่งในสิบของจวนอันกั๋วกง อันกั๋วกงเดินลุยเข้าไปในกองทัพของศัตรูเพียงคนเดียวและเข้าไปเด็ดหัวนายพลของศัตรู แต่เขาก็ถูกศัตรูยิงเข้าที่ตรงกลางหัวใจด้วย ถูกฆ่าตายคาสนามรบ

หลังจากได้รับข่าวกลับมา ฮูหยินของอันกั๋วกงรับไม่ได้ และล้มป่วยลงทันที จากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีวิธีรักษา และในที่สุดฮูหยินของอันกั๋วกงผอันกั๋วกงก็สิ้นใจเมื่อปลายปีที่แล้ว

อดีตอันกั๋วกงก็เสียชีวิตในสนามรบเมื่อหลายปีก่อนเช่นกัน

ทั้งครอบครัวเหลือเพียงลูกชายคนเล็กเผยฉู่เยี่ยนซึ่งอายุเพียงแปดขวบ ทำได้เพียงให้ไทเฮาเลี้ยงดูไว้ข้างกายก่อน รอให้เขาโตแล้วค่อยสืบทอดตำแหน่ง

[ว้าว ๆ ๆ เจอพระเอกแล้ว! ให้ข้าดูพี่รองคนนี้ของข้าหน่อย หล่อเหล่าใจกว้างจริงๆ แต่ว่าอายุเพิ่งจะสิบกว่าปีก็โดดเด่นขนาดนี้แล้ว งั้นหลังจากนี้คงไม่เลวเลยสินะ?]

[เสด็จพ่อมีองค์ชายมากขนาดนี้ มีเพียงพี่รองเท่านั้นที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นฮ่องเต้ น่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ พี่รองต้องผ่านเรื่องพลิกผันมามากมายถึงจะได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้]

[ประชาชนที่ถูกหรงอ๋องและองค์ชายสามตรงหน้าทำให้ลำบากไม่ต้องพูดถึงความโกรธ ต้องใช้ความพยายามเสียเปล่ามากจริง ๆ!]

หลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินลู่ซิงหว่านพูดในใจอยู่คนเดียว อดไม่ได้ที่จะมองดูองค์ชายรองอีกครั้ง นึกไม่ถึงว่าโอรสคนที่สองที่ตนเองไม่ได้ให้ความสนใจ จริง ๆ แล้วเป็นคนที่เหมาะสมกับการเลือกองค์รัชทายาทที่สุด แต่ตอนนี้รัชทายาท...

ฮ่องเต้ต้าฉู่มองไปที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟย แต่เห็นเพียงท่าทีนางดูสงบ

[องค์ชายเผยก็อยู่เหรอ ดูเขาตอนนี้สิ ดูเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ใครจะไปคิดว่าเด็กน้อยคนนี้จะกลายเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังที่สุดขององค์ชายรองในอนาคตกัน! ]

ในใจฮ่องเต้ต้าฉู่อดไม่ได้ที่จะกุมหน้าผากในใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ หวานหว่าน เจ้ายังเป็นแค่เด็กทารกอยู่นะ!

“น้องเก้าว่านอนสอนง่ายจริง ๆ” องค์ชายรองก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว เข้าใกล้กับไทเฮาที่ด้านหน้า มองที่ลู่ซิงหว่าน “งดงามพอ ๆกับพระสนมเลยนะพ่ะย่ะค่ะ!”

เต๋อเฟยและหลานเฟยก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อถวายบังคม

“วันนี้พอแค่นี้แหละ ไทเฮายังต้องกลับวังไปพักผ่อน พวกเจ้ากลับตำหนักตัวเองก่อนเถอะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่เห็นว่าไทเฮาดูเหนื่อยเล็กน้อย จึงรีบกล่าวขึ้น

เมื่อเสด็จถึงพระตำหนักไทเฮา ฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้ข้ารับใช้ถอยออกไป แล้วค่อยกล่าวว่า “เสด็จแม่ เสนาบดีชุยเกรงว่าจะคิดไม่ซื่อพ่ะย่ะค่ะ”

เรื่องนี้ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องพูดกับไทเฮา เพียงแต่เกี่ยวข้องกับองค์ชายสาม เป็นการดีกว่าที่ให้ไทเฮาทราบไว้

เมื่อเห็นความสงบของฮ่องเต้ “มีหลักฐานแล้วหรือ?”

ได้มีการสอบสวนอย่างละเอียดแล้ว แต่ยังไม่ได้จับกุมใคร จริงๆ แล้วเสนาบดีชุยเป็นขุนนางมาหลายปีแล้ว กลัวว่าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นพ่ะย่ะค่ะ” การวิเคราะห์ของฮ่องเต้ฉู่มีความชัดเจนและรัดกุม

ความกังวลของฝ่าบาทถูกแล้ว เสนาบดีชุยหยั่งรากลึก เต๋อเฟยยังให้กำเนิดบุตรชายสองคนด้วย เกรงว่าจะไม่ง่ายที่จะเอาชนะ” แม้ว่าไทเฮาจะไม่ได้ทรงมีส่วนร่วมในการว่าราชการก็ตาม แต่ในช่วงปีแรก ๆ นั้นนางก็ได้ประสบกับสิ่งต่างๆ มากมายกับอดีตฮ่องเต้ ดังนั้นนางจึงรู้เรื่องการเมืองบ้าง

เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่ยังคงครุ่นคิดอยู่ จึงเปิดปากกล่าวว่า "เรื่องนี้ต้องพิจารณากันในระยะยาว"

ฮ่องเต้ต้าฉู่พยักหน้าไม่ได้พูดอะไร

และแล้วเมื่อคิดถึงเรื่องของหรงอ๋อง ไตร่ตรองไปมาแล้ว ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดกับไทเฮา เมื่อสักครู่หวานหว่านพูดว่าไทเฮาสิ้นพระชนม์ด้วยอาการตรอมใจเนื่องจากการยึดบัลลังก์ของหรงอ๋อง อย่าเพิ่งทำให้ไทเฮากังวลใจเรื่องนี้ก่อนจะดีกว่า

พอออกจากตำหนักหรงเล่อของไทเฮา ฮ่องเต้ต้าฉู่ที่กำลังจะกลับไปห้องอักษรต่อ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางไปยังตำหนักฉางชิวของเต๋อเฟยแทน

อวี่ฉี คราวนี้เลื่อนตำแหน่งเฉินเฟยให้เป็นกุ้ยเฟย เจ้ารู้สึกไม่พอใจหรือเปล่า?” ฮ่องเต้ต้าฉู่ต้องการทดสอบเต๋อเฟย

“ฝ่าบาท ทรงกำลังพูดอะไรน่ะเพคะ เฉินกุ้ยเฟยให้กำเนิดองค์หญิงหย่งอันมีคุณงามความดี หลายปีมานี้ดูแลเอาใจใส่องค์รัชทายาทด้วยใจจริง เป็นคนที่ทำประโยชน์ให้กับแคว้น หม่อมฉันไหนเลยจะอิจฉาเพคะ”

เต๋อเฟยตอบอย่างน่าพอใจ แต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ตื่นตกใจ

เกรงว่าเรื่องการสอบสวนเสนาบดีชุยคงจะถูกรู้เข้าแล้วสินะ เต๋อเฟยเป็นคนอิจฉาริษยามาโดยตลอด เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเต๋อเฟยคิดถึงตำแหน่งฮองเฮามาโดยตลอด ฉลาดตอบเช่นนี้ เกรงว่าเสนาบดีชุยคงได้แจ้งให้นางทราบแล้ว

ขณะนั้นเอง ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็มีความคิดปรากฏขึ้นในใจ “ให้คนไปเรียกองค์ชายสามมา ข้าไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้ว”

ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ค่อยใส่ใจต่อองค์ชาย องค์หญิงมาโดยตลอด จู่ ๆ ก็จะพบองค์ชายสาม แม้ว่าเต๋อเฟยจะตกใจก็ตาม แต่ก็รีบออกคำสั่ง

Related chapters

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0011

    เมื่อองค์ชายสามมาถึงตำหนักฉางชิว ฮ่องเต้นั้นก็แค่ทดสอบบทเรียนบางอย่างแก่องค์ชายสาม จากนั้นก็เรียกมาอยู่ข้างเขาตอนนี้จิ่นเฉินก็โตขึ้นแล้วควรค่อย ๆ คลุกคลีกับเรื่องการเมืองบ้าง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปก็ติดตามพี่ใหญ่และพี่รองของเจ้าไปประชุมเช้าด้วยเถอะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าวด้วยท่าทีอ่อนโยน“จริงหรือพะยะค่ะ?” องค์ชายสามเดิมทีก็เป็นคนเปิดเผยความคิดอยู่แล้ว เมื่อได้ยินที่ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าว ก็เป็นธรรมดาที่จะมีความสุข “ลูกขอบคุณเสด็จพ่อพะยะค่ะ”พระสนมเต๋อเฟยรีบกล่าวยับยั้ง “ฝ่าบาท จิ่นเฉินเพิ่งจะอายุสิบสามปีนะเพคะ ยังเป็นแค่เด็กอยู่เลย จะเข้าร่วมประชุมเช้ได้ยังไงกันเพคะ นอกจากนี้ตอนนี้ก็ยังมีองค์รัชทายาทคอย...”ฮ่องเต้ต้าฉู่ขัดจังหวะนาง “ข้าได้ตัดสินใจแล้ว เต๋อเฟย ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความอีก”หลังจากพูดจบแล้วก็ชี้ไปที่พระสนมเต๋อ “อีกอย่าง จิ่นเฉินร่ำเรียนได้ไม่เลว เจ้าเลี้ยงดูได้ดีมาก”“ขอบพระทัยสำหรับคำชมเพคะ ฝ่าบาท” เมื่อได้ยินเช่นนี้ พระสนมเต๋อก็รีบแสดงกล่าวคำขอบคุณ“เมิ่งฉวนเต๋อ แจ้งเหล่าสนมด้วยว่าพระสนมเต๋อได้รับการเลื่อนยศเป็นพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยแล้ว” หลังจากพูดจบก็ชี้ไปที่พระสนมเต๋อ “คืน

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0012

    ขณะที่พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยกำลังจะยื่นมือไปรับลู่ซิงหว่านมานั้น ทันใดนั้นลู่ซิงหว่านก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา[ไม่นะท่านแม่ ข้าไม่อยากให้ผู้หญิงร้ายอุ้ม ไม่เอา ไม่เอา]พระสนมเฉินกุ้ยเฟยแสร้งทำเป็นตำหนิจิ่นอวี้ "ยังไม่รีบอุ้มองค์หญิงไปอีก หากทำชุดของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยเปื้อนข้าลงโทษเจ้าแน่"พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยได้ยินก็เข้าใจการปฏิเสธของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟย เมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้ว บัดนี้จิ่นเฉินคงจะอยู่ในห้องกับหรงเหวินเมี่ยวสองต่อสองแล้ว ถ้าหากให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยไปบังเอิญเจอเข้าพอดีคงจะช่วยลดปัญหาของตนได้มากทีเดียวนางจึงยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ยปาก "ถ้าเช่นนั้นน้องหญิงเฉินก็รีบไปเถิด"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นท่าทางเมินเฉยของนาง ในใจก็ยิ่งเป็นกังวล รีบสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปทันทีโดยไม่สนใจระเบียบมารยาทวังหลวงอะไรแล้วลู่ซิงหว่านที่ยังอยู่ในอ้อมอกของจิ่นอวี้ก็ดีใจไปด้วย[ท่านแม่รีบวิ่งเร็วเข้า ท่านแม่สู้ ๆ ต้องช่วยพี่สาวตระกูลหรงให้ได้นะ!]เมื่อพระสนมเฉินเฟยไปถึงก็เห็นสาวใช้นางหนึ่งถูกผลักล้มลงกับพื้นที่หน้าประตูห้อง ประตูห้องถูกเปิดกว้างพระสนมเฉินกุ้ยเฟยมองจากที่ไกล ๆ ในใจก็ยิ่งตะลึงใจจึงรีบเอ่ยปากถาม "นี่มันเ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0013

    เมื่อผู้คนกลับไปกันหมด หรงเหวินเมี่ยวก็แอบมาอยู่ข้างพระสนมเฉินกุ้ยเฟยแล้วย่อกายลงเล็กน้อย "เรื่องวันนี้ต้องขอบพระคุณพระสนมมากด้วยเพคะ"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับไม่ใส่ใจมาก "คุณหนูหรงไม่ต้องคิดมาก ข้าแค่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้หว่านหว่านแล้วบังเอิญพบเข้าเท่านั้น เรื่องวันนี้รอดพ้นได้เพราะคุณหนูหรงฉลาดมีไหวพริบต่างหาก"หรงเหวินเมี่ยวเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยพูดแบบนี้ก็กระจ่างในใจ พระสนมเฉินกุ้ยเฟยไม่ได้มีความคิดที่จะทวงคืนบุญคุณแต่อย่างใดจึงเก็บเรื่องนี้นี้เอาไว้ในใจทุกคนต่างรู้ว่า พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเป็นน้าสาวแท้ ๆ ขององค์รัชทายาท และนางก็ไม่มีทายาทดังนั้นจึงต้องช่วยองค์รัชทายาทปูทางเป็นธรรมดา หากวันนี้ตนรอดพ้นจากแผนขององค์ชายสามแล้วเข้าไปพัวพันกับองค์รัชทายาทอีกก็จะเป็นการทำลายชื่อเสียงอันดีของท่านพ่อได้ดังนั้นจึงกล่าวขอบคุณ ทำความเคารพและออกจากวังไปพร้อมท่านแม่หรงเหวินเมี่ยวกลับบ้านเล่าเรื่องนี้ให้กับท่านพ่อและท่านแม่ ใต้เท้าหรงทั้งบ้านชื่นชมพระสนมเฉินกุ้ยเฟย และชื่นชอบองค์รัชทายาทมากขึ้น บอกว่าขอแค่องค์รัชทายาทไม่มีความคิดที่ไม่ดีจะตอบแทนอย่างดีแต่ว่า มันก็เป็นเรื่องของอนาคตขณะเดียวกัน ณ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0014

    เมื่อลู่จิ่นเหยาลงจากรถม้ามาถึงตรงหน้าทั้งสอง เสิ่นเป่าซวงที่กำลังเหยียดหยามหานซีเยว่ไม่หยุดถึงได้เห็นเขา"องค์รัชทายาท" เสิ่นเป่าซวงรีบก้าวมาข้างหน้า เดินมาหาลู่จิ่นเหยา ย่อกายเล็กน้อยแล้วแสร้งทำท่าทางอ่อนโยน "ถวายบังคมองค์รัชทายาทเพคะ ช่างบังเอิญเสียจริงที่ได้พบท่านที่นี่"ลู่จิ่นเหยาพยักหน้า ไม่ได้ตอบกลับหานซีเยว่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ ก้าวขึ้นมาทำความเคารพให้องค์รัชทายาทด้วยแต่องค์รัชทายาทกลับตอบนาง "คุณหนูหาน พระสนมเฉินเห็นว่าเจ้าอยู่ที่นี่จึงเรียกเจ้าไปหาน่ะ"หานซีเยว่อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองลู่จิ่นเหยา องค์รัชทายาทมาเพื่อช่วยนางอย่างนั้นหรือ?เสิ่นเป่าซวงทนไม่ได้ที่เห็นพวกเขาส่งสายตากันไปมา จึงก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าวแทรกระหว่างสองคนแล้วมององค์รัชทายาท "งานเลี้ยงครั้งก่อนไม่ได้เจอพระสนมกุ้ยเฟยเลย โปรดรบกวนองค์รัชทายาทช่วยพาหม่อมฉันไปแนะนำด้วยนะเพคะ"แต่ลู่จิ่นเหยาไม่อยากยุ่งกับนางจึงเอ่ยปากตอบ "บัดนี้พระสนมเฉินอยากพบแค่คุณหนูหาน หรือคุณหนูเสิ่นคิดจะขัดคำสั่งหรือ?"คำพูดนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเย็นชาเสิ่นเป่าซวงเห็นองค์ราชทายาทเป็นเช่นนี้ก็รีบย่อกายขออภัย และมองทั้งสองคนเดินไปเป

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0015

    ครั้นเมื่อเห็นเผยฉู่เยี่ยนบาดเจ็บ องค์ชายใหญ่ก็รีบมาสังหารนักฆ่าจนเสียชีวิต การต่อสู้อันดุเดือดจึงได้ยุติลงเหลียวดูรอบข้างพบว่าไม่มีศัตรูอีก พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงได้หันกลับไปที่เกี้ยว เห็นลู่ซิงหว่านยังนอนตาแป๋วอยู่ จึงได้วางใจ จากนั้นจึงหันมาดูเผยฉู่เยี่ยน พยุงแขนของเขาพลางถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”“พระสนมโปรดวางใจ ไม่เป็นไรมากพ่ะย่ะค่ะ” เผยฉู่เยี่ยนอายุเพียงแค่แปดขวบเท่านั้น แต่นิสัยเป็นคนแข็งกร้าว ทำให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยอดไม่ได้ที่จะมองซ้ำอีก“จิ่นเหยา จิ่นหยู ทิ้งคนไว้ให้จัดการที่นี่ อย่าให้ชาวบ้านรอบข้างแตกตื่น พวกเรากลับวังก่อน” เจอเรื่องเช่นนี้เข้า พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรู้จักตั้งสติคล้ายกับตอนอยู่ในสนามรบ “ซื่อจื่อน้อยตามข้าขึ้นเกี้ยวก่อน เพราะได้รับบาดเจ็บ ไม่ควรที่จะขี่ม้าอีก”เมื่อเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยกล่าวเช่นนี้ เผยฉู่เยี่ยนจึงไม่กล้าปฏิเสธอีก ได้แต่ตามนางขึ้นรถม้าไป[เผยซื่อจื่อดูเท่ห์เหลือเกิน ถ้าไม่ได้เขามาช่วย วันนี้ข้าคงตายแน่ ฮือ ๆ ๆ...][สมแล้วที่เป็นผู้ช่วยมือดีของพระเอก อายุยังน้อยก็มีความกล้าหาญถึงเพียงนี้ ช่างร้ายกาจจริง ๆ!]พระสนมเฉินเฟยขึ้นไปในรถม้า แล้วจึงอุ้มลู่ซิงห

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0016

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ตกใจเป็นอย่างมากเขาเคยสงสัยหรงอ๋อง เคยสงสัยเสนาบดีชุย หรือแม้กระทั่งครอบครัวของสนมโหรวกุ้ยเหรินที่ถูกเนรเทศก็เคยต้องสงสัย แต่ไม่เคยนึกถึงพระสนมชุยเฟยเลยสมัยที่ตนยังเป็นรัชทายาทอยู่ ชุยอวี่ฉีก็แต่งมาเป็นพระชายารองแล้ว ความสัมพันธ์ในวัยเยาว์ล้ำค่าที่สุด เขาจึงมอบความรักให้แก่ชุยอวี่ฉีอย่างเต็มเปี่ยมมาโดยตลอดและในสายตาฮ่องเต้ต้าฉู่ นางก็เป็นสตรีที่อ่อนโยนและใสซื่อ ทั้งยังให้กำเนิดองค์ชายถึงสองคน และก่อนหน้านี้ดเขาเองก็หมายมั่นจะให้นางครองตำแหน่งฮองเฮาคนต่อไปพักก่อนต่อให้เรื่องของเสนาบดีชุยถูกเปิดโปง เขาก็ไม่ได้สงสัยนางเลย แต่ไม่คิดว่านางจะโหดร้ายถึงเพียงนี้และเมื่อนางทำผิดจริง ช้าเร็วก็ต้องถูกเปิดเผย เพื่อความมั่นคงของราชสำนัก อย่างไรก็ต้องจัดการ“เมิ่งฉวนเต๋อ สั่งการไปยังตำหนักฉางชิว ชุยเฟยทำความผิด ให้ลดขั้นเป็นตาอิ้ง ย้ายไปอยู่ตำหนักผู่เหวินแทน” ฮ่องเต้ต้าฉู่ครุ่นคิดอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเมิ่งฉวนเต๋อได้รับบัญชาก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ด้วยไม่คิดว่าฮ่องเต้จะทรงเฉียบขาดถึงปานนี้ ตำหนักผู่เหวิน สภาพใกล้เคียงกับตำหนักเย็น ฮ่องเต้ต้าฉู่โปรดปรานพระสนมเต๋อเฟยมาโดยตลอด

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0017

    ฮ่องเต้ต้าฉู่พลิกไปได้เพียงแค่สองหน้าก็เห็นว่าภายในนั้นเรื่องหนึ่งอยู่ ไม่นานมานี้ตอนที่พระสนมเฉินเฟยคลอดบุตรก็เป็นชุยเหวินที่ซื้อตัวสนมโหรวกุ้ยเหริน และใช้ครอบครัวของนางมาข่มขู่ให้สนมโหรวกุ้ยเหรินออกหน้าซื้อตัวแม่นมทำคลอดผู้นั้นเห็นดังนี้เขาก็โกรธเสียจนปาสาส์นกราบทูลขอราชการนั้นออกไป “เขากลับรู้ว่าต้องทำให้บุตรสาวของตนเองไร้มลทิน”เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่กริ้วแล้ว คนของกรมสอบสวนก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรต่อ“จับหนิงซวี่ได้หรือยัง?” ภายในใจของฮ่องเต้ต้าฉู่รู้สึกกลัดกลุ้มเพราะยังนึกไม่ออกว่าจะจัดการอย่างไรดี“ยามนี้ได้นำตัวคนไปส่งถึงศาลต้าหลี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ โดยได้จัดคนดูแลเป็นเฉพาะการ และไม่ได้ใช้วิธีทรมานแต่อย่างใด เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เขาฆ่าตัวตายเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” แต่ไหนแต่ไรใต้เท้าหรงก็จัดการเรื่องได้อย่างน่าเชื่อถืออยู่แล้วฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินก็พยักหน้า “พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ”ความผิดที่ชุยเหวินกระทำแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย แต่ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับนึกถึงสิ่งที่หลายปีมานี้เขาทุ่มเททำเพื่อแคว้นต้าฉู่ ชั่วขณะก็ไม่รู้ว่าควรจะลงโทษอย่างไรดีฮ่องเต้ต้าฉู่ฟังเมิ่งฉวนเต๋อเอ่ยถึงปฏิกิริยาขอ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0018

    เมื่อฮ่องเต้ต้าฉู่กลับมายังห้องหนังสือส่วนพระองค์ ก็ได้ให้เมิ่งฉวนเต๋อไปเรียกคนของกรมสอบสวนมา“สืบเรื่องเงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งของปีนี้ที่จัดสรรไปว่าภายในมีผู้ทุจริตหรือไม่” ฮ่องเต้ต้าฉู่พูดออกมาอย่างง่ายดายด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความลังเลใต้เท้าหรง และคนอื่น ๆ ย่อมเข้าใจดีว่าที่ฮ่องเต้ต้าฉู่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาในยามนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเสนาบดีชุย ในขณะนั้นจึงได้สืบไปในทิศทางนี้ทันทีเมื่อชัดเจนเรื่องทิศทางแล้ว บวกกับการทำงานที่รวดเร็ว และเฉียบขาดของกรมสอบสวน ไม่ถึงครึ่งวัน สาส์นฉบับหนึ่งก็ถูกเอามาวางไว้ที่โต๊ะหนังสือของฮ่องเต้เงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยหนึ่งแสนตำลึง ชุยเหวินเพียงแค่ผู้เดียวก็ทุจริตไปแล้วห้าหมื่นตำลึงยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงที่จัดสรรไปแต่ละรอบว่ามีหลงเหลือมาถึงมือของราษฎรจริง ๆ อยู่เท่าไหร่?เมื่อเห็นดังนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่มีความลังเลอีกต่อไป “เมิ่งฉวนเต๋อ ไปเรียกเว่ยเฉิงมา”ในขณะนั้นก็ได้รับสั่งให้คนของทหารราชองครักษ์ และกรมสอบสวนไปตรวจค้น รวมถึงยึดทรัพย์ที่บ้านตระกูลชุย คนที่เกี่ยวข้องให้นำไปขังไว้ที่ศาลต้าหลี่เป็นการชั่วคราว ส่วนข้ารับใช้บ้างก็เน

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0634

    เขาเป็นฮ่องเต้และเข้าใจวิธีการใช้คนเป็นอย่างดีคนอย่างเสิ่นผิงเป็นดาบที่แหลมคม ต้องให้ผู้ถือดาบควบคุมให้ดีเรื่องต่อไปนั้นง่ายมากฮ่องเต้ต้าฉู่สั่งให้เว่ยเฉิงออกหน้าเพื่อปลอบขวัญราษฎรทั้งหมด ส่วนตัวเขาเองก็พาเสิ่นผิงกลับไปที่จวนนายอำเภออีกครั้งครั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงตั้งใจพาลู่ซิงหว่านมาอยู่ข้างกายถึงอย่างไรเขาก็มีความคิดแบบนี้มานานแล้ว อยากจะพาลู่ซิงหว่านไปประชุมเช้าด้วยแต่เมื่อนึกถึงคนแก่คร่ำครึกลุ่มนั้น เพื่อลดความยุ่งยากให้กับลู่ซิงหว่านและซ่งชิงเหยียนสองแม่ลูก ในที่สุดเขาก็ยกเลิกความคิดนี้แต่ตอนนี้อยู่ข้างนอกมันไม่เหมือนกันแล้ว สิ่งที่ควรใช้ก็ต้องใช้ให้ดีเมื่อเห็นฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังอุ้มเด็กคนหนึ่ง เสิ่นผิงก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นฮ่องเต้ เขาเป็นแค่ข้าน้อยธรรมดาคนหนึ่ง จะกล้าเอ่ยปากได้อย่างไรจนกระทั่งทั้งสองนั่งลง ฮ่องเต้ต้าฉู่จึงเอ่ยปากถามว่า “คุณชายเสิ่นแม้จะสวมเสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูแล้วก็สง่างาม ไม่รู้ว่าพ่อเจ้าเป็นใครกัน”เสิ่นผิงกลับส่ายหน้า “ทูลฝ่าบาท ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็นใคร ข้าน้อยอาศัยอยู่กับท่านแม่ที่อําเภอไถจิ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0633

    [นี่เป็นขบวนเสด็จของฝ่าบาท พวกเจ้ายังกล้าขัดขวางอีกหรือ?]ส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เปิดม่านรถออกอย่างเงียบๆ และมองออกไปด้านนอกตอนนี้ที่หน้ารถของพวกเขา มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกําลังคุกเข่าอยู่ เป็นธรรมดาที่มีชาวบ้านทยอยกันเดินมาทางนี้ลู่ซิงหว่านตาไว มองปราดเดียวก็เห็นคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด เป็นชายที่คุยกับพวกเขาเมื่อวาน“เสด็จพ่อ พี่ชาย” ลู่ซิงหว่านชี้นิ้วไปยังคนที่คุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุดฮ่องเต้ต้าฉู่หันมองลู่ซิงหว่านอย่างสงสัย แล้วมองไปข้างหน้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาคิดไปคิดมา ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ลุกขึ้นและออกจากรถม้าไป“ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” ทุกคนคุกเข่าลงและตะโกนถวายบังคมชายที่อยู่ด้านหน้าสุดกลับเอ่ยปากก่อน “ข้าน้อยเสิ่นผิง ถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบ เสิ่นผิงก็เงยหน้าขึ้น มองตรงไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ “ก่อนหน้านี้ที่ฝ่าบาททรงมอบเงินเหล่านั้นให้ข้าน้อย ข้าน้อยก็รู้สึกว่าฝ่าบาทต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการแน่นอน นึกไม่ถึงว่าจะเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน”พูดถึงตรงนี้ เสิ่นผิงก็โขกหัวลงไปอีกครั้ง “ฝ่าบาททรงเมตตากรุณายิ่งนัก เป็นความโชคดีของราษฎรในใต้หล้าเหลือเกินพ่ะย่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0632

    ฮ่องเต้ต้าฉู่จัดการเรื่องนี้เสร็จ ก็เสียเวลาไปบ้าง ได้แต่พักค้างคืนหนึ่งคืนก่อนแล้วค่อยออกเดินทางอีกครั้งในวันถัดไปเท่านั้นค่ำคืนนี้ พวกฮ่องเต้ต้าฉู่กลับไม่ได้ไปพักที่โรงเตี๊ยมหรือเรือนรับรองใดๆ อีก แต่พักอยู่ในที่ว่าการอําเภอโดยตรงตอนนี้ไม่มีงานราชการที่ต้องจัดการ หลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ก็รู้สึกเบื่อมาก“เว่ยเฉิง” ฮ่องเต้ต้าฉู่ชะโงกหน้าไปถาม “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของอําเภอเทียนจินนี้เป็นอย่างไร?”พูดถึงตรงนี้ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ยืนขึ้น “ไม่สู้เรียกหวงกุ้ยเฟยมาดีกว่า ให้ออกไปเดินเล่นด้วยกัน”บังเอิญจริงๆ ซ่งชิงเหยียนและพรรคพวกก็กําลังเดินมาทางนี้เช่นกัน“นายท่าน” เยวี่ยกุ้ยเหรินเดิมทีก็มีนิสัยร่าเริงอยู่แล้ว เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทและพระสนมหวงกุ้ยเฟยยังไม่กล้าปล่อยมากนัก หลายวันมานี้คุ้นเคยกันแล้ว ย่อมมีชีวิตชีวามากขึ้น “พระ...ฮูหยินเรียกข้าออกไปเดินเล่นด้วยกัน นายท่านจะไปด้วยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อได้ยินสนมเยว่กุ้ยเหรินเรียกซ่งชิงเหยียนแบบนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็อึ้งไปชั่วขณะเขาจับตาซ่งชิงหย่านอย่างว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นใบหน้าของซ่งชิงหย่าผ่านใบหน้าของนางเมื่อฮ่องเต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status