Share

บทที่ 0011

Author: อันอี่หราน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อองค์ชายสามมาถึงตำหนักฉางชิว ฮ่องเต้นั้นก็แค่ทดสอบบทเรียนบางอย่างแก่องค์ชายสาม จากนั้นก็เรียกมาอยู่ข้างเขา

ตอนนี้จิ่นเฉินก็โตขึ้นแล้วควรค่อย ๆ คลุกคลีกับเรื่องการเมืองบ้าง ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปก็ติดตามพี่ใหญ่และพี่รองของเจ้าไปประชุมเช้าด้วยเถอะ” ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าวด้วยท่าทีอ่อนโยน

“จริงหรือพะยะค่ะ?” องค์ชายสามเดิมทีก็เป็นคนเปิดเผยความคิดอยู่แล้ว เมื่อได้ยินที่ฮ่องเต้ต้าฉู่กล่าว ก็เป็นธรรมดาที่จะมีความสุข “ลูกขอบคุณเสด็จพ่อพะยะค่ะ”

พระสนมเต๋อเฟยรีบกล่าวยับยั้ง “ฝ่าบาท จิ่นเฉินเพิ่งจะอายุสิบสามปีนะเพคะ ยังเป็นแค่เด็กอยู่เลย จะเข้าร่วมประชุมเช้ได้ยังไงกันเพคะ นอกจากนี้ตอนนี้ก็ยังมีองค์รัชทายาทคอย...”

ฮ่องเต้ต้าฉู่ขัดจังหวะนาง “ข้าได้ตัดสินใจแล้ว เต๋อเฟย ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความอีก”

หลังจากพูดจบแล้วก็ชี้ไปที่พระสนมเต๋อ “อีกอย่าง จิ่นเฉินร่ำเรียนได้ไม่เลว เจ้าเลี้ยงดูได้ดีมาก”

“ขอบพระทัยสำหรับคำชมเพคะ ฝ่าบาท” เมื่อได้ยินเช่นนี้ พระสนมเต๋อก็รีบแสดงกล่าวคำขอบคุณ

“เมิ่งฉวนเต๋อ แจ้งเหล่าสนมด้วยว่าพระสนมเต๋อได้รับการเลื่อนยศเป็นพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยแล้ว” หลังจากพูดจบก็ชี้ไปที่พระสนมเต๋อ “คืนนี้ข้าจะมาทานอาหารเย็นที่ตำหนักของเจ้า”

พูดจบก็ออกจากวังฉางชิวโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย เหลือไว้เพียงพระสนมเต๋อเฟยและองค์ชายสามที่มีสีหน้าตกตะลึง

“เสด็จแม่ เสด็จพ่อไม่พอใจองค์รัชทายาท จะแต่งตั้งให้กระหม่อมทำหน้าที่แทนแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?” องค์ชายสามส่ายแขนของพระสนมเต๋อเฟยอย่างมีความสุข เอ๊ะ ไม่ใช่ ตอนนี้เป็นพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยแล้ว

“ข้า...ข้าก็ไม่รู้” พระสนมเต๋อยังคงตกใจ ตามที่ท่านพ่อบอก ตอนนี้ฝ่าบาทควรจะต้องสงสัยในตนถึงจะถูก แล้วทำไมนางถึงได้รับการเลื่อนยศ อีกทั้งองค์ชายสามได้รับอนุญาตให้กลับมามีส่วนร่วมในงานการเมืองอีกครั้งล่ะ เห็นทีครั้งนี้ท่านพ่อคงกังวลมากเกินไปแล้ว

หรือเพราะว่า เป็นเรื่องจริงอย่างที่จิ่นเฉินพูด ฝ่าบาทไม่พอใจองค์รัชทายาท?

ไม่กี่วันต่อมา ก็มีพิธีแต่งตั้งพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยและพระสนมเฉินกุ้ยเฟย ไทเฮาทรงตัดสินใจเชิญครอบครัวขุนนางใหญ่ระดับสามขึ้นไป ด้วยเหตผลที่ว่าในวังไม่ได้ครึกครื้นมานานแล้ว ตอนนี้หย่งอันก็โตขึ้นแล้ว ควรจะต้องครึกครื้นถึงจะดี

ลู่ซิงหว่าน [เสด็จย่า ข้าอายุแค่สองเดือนเท่านั้นนะ!]

พูดแล้วว่าครึกครื้น ฮ่องเต้และไทเฮาย่อมต้องมีการเตรียมการอื่น ๆ อยู่แล้ว

เหล่าขุนนางตระกูลใหญ่ย่อมรู้ดีอยู่แล้ว วันนี้ไทเฮาจะเลือกชายาให้รัชทายาท ตอนนี้รัชทายาทก็อายุสิบแปดปีแล้ว แต่อีกสองปีข้างหน้าถึงจะทำพิธีสถาปนา ก็ถึงเวลาที่จะแต่งงานได้แล้ว

ว่าที่ฮ่องเต้ที่มั่นคง ถึงเป็นรากฐานของแคว้นได้

ชั่วขณะหนึ่ง พระสนมเต๋อเฟยไม่เข้าใจเจตนาของฮ่องเต้เลย หากเขาพอใจในตัวรัชทายาทแล้ว ทำไมยังสนับสนุนองค์ชายสามอีกล่ะ หากบอกว่าไม่พอใจในตัวรัชทายาท แต่ก็ยังวุ่นวายเลือกชายาให้เขาอีก

วันนี้กลับเป็นลู่ซิงหว่านที่ยุ่งมาก พระสนมเฉินกุ้ยเฟยที่อยู่ข้างๆ ก็เหนื่อยคนสมองมึนงงไปหมด

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยดูออกแล้วว่าลู่ซิงหว่านเด็กน้อยคนนี้ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน วันนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนจึงพานางไปด้วย ก็นี่คือลูกสาวล้ำค่าของตัวเองนี่นา ก็ต้องทำให้นางพอใจสิ

เพียงแต่นี่ทำให้นางสนมทุกคนในวังต่างรู้สึกว่าการที่พระสนมเฉินกุ้ยเฟยได้รับการเลื่อนยศก็เพราะองค์หญิงหย๋งอัน ก็ย่อมต้องเอ็นดูรักนางเป็นอย่างมากอยู่แล้ว

พวกนางไม่รู้เลย ฮ่องเต้ยังหวังที่จะพาองค์หญิงหย๋งอันไปที่ท้องพระโรงตอนเช้าด้วยซ้ำ ให้นางช่วยตัวเองแยกแยะว่าใครภักดีหรือทรยศ

[เสด็จแม่วันนี้หาชายาให้เสด็จพี่รัชทายาทใช่ไหม ในนิยายเสด็จพ่อเลือกคุณหนูหานจากตระกูลมหาขุนพลอะไรสักอย่างให้เสด็จพี่รัชทายาท ข้าดูแล้วเหมาะสมมาก คุณหนูหานคนนั้นไม่เลวใช่ไหม?]

“หานซีเยว่?” พระสนมเฉินกุ้ยเฟยแอบพึมพำถึงลูกสาวคนที่สองของตระกูลแม่ทัพใหญ่ อายุก็ใกล้ถึงวัยเหมาะสมแล้ว ในภายหลังควรจะให้ความสนใจมากขึ้น

“พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพ่ะย่ะค่ะ” รัชทายาทและองค์ชายรองก็มาร่วมงาน เมื่อเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็รีบเดินเข้ามาทักทาย “ขอแสดงความยินดีกับพระสนมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยหัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “ตัวเอกในวันนี้ไม่ใช่ข้า เป็นพวกเจ้าเหล่าพี่น้องต่างหาก!”

“พระสนมล้อเล่นแล้วพ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายรองยิ้มแล้วประสานมือ ตอนนี้เสด็จพี่รัชทายาทก็อายุเหมาะสมแล้ว ข้ายังเด็กอยู่มากเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”

[เอ๊? ซื่อจื่ออันกั๋วกงหล่ะ? หรือว่าเวลานี้เขากับองค์ชายรองยังไม่สนิทกันหรือ? ]

พระสนมเฉินมองทางองค์ชายรอง จำสิ่งที่หวานหว่านพูดในคืนนั้นได้ หรือว่าองค์ชายรองต่างหากที่เป็นผู้ถูกเลือก

นางถอนหายใจในใจ เป็นเช่นนั่นก็ดี เพียงแค่รัชทายาทสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย ก็ถือว่าบรรลุความปรารถนาของพี่สาวแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เขาอยู่ในตำแหน่งนั้นแล้ว...

“ทำไมซื่อจื่อเผยไม่อยู่กับน้องรองล่ะ?” รัชทายาทถามคำถามที่ลู่ซิงหว่านคิดอยู่ในใจออกมา

“เฮ้อ ข้าว่าเขายังอายุน้อยแต่เหมือนคนแก่ซะจริงเชียว” องค์ชายสองถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เขาบอกว่างานวันนี้วุ่นวายเกินไป ไม่อยากมา!”

พูดจบ พวกเขาก็หัวเราะกันออกมา

เหล่าฮูหยินและคุณหนูก็นั่งลงทีละคน พระสนมเฉินกุ้ยเฟยมองไปทางครอบครัวของแม่ทัพใหญ่หาน เห็นเพียงว่าคุณหนูตระกูลหานนั้นกลับเป็นคนอ่อนโยน เหมาะสมกับรัชทายาทยิ่งนัก

[เอ๋ จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้เรื่องหนึ่ง ]

ทันใดนั้นลู่ซิงหว่านก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังสือนิทานได้

[เหมือนว่าวันที่รัชทายาทเลือกชายา ก็ยังเป็นงานเลี้ยงใหญ่ด้วยเหมือนกัน พระสนมเต๋อเฟยวางแผนคุณหนูหรง ลูกสาวตระกูลหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดิน ดูเหมือนว่านางให้องค์ชายสามทำลายชื่อเสียงของคุณหนูหรงหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ เพราะอยากให้ตระกูลหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินมาเป็นพวกด้วย!]

[แต่พูดไปก็แปลก ในนิทานพระสนมเต๋อเฟยไม่ได้เลื่อนยศเป็นพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยนี่นา! ทำไมมันถึงแตกต่างจากที่เขียนในนิทานล่ะ!]

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยพึมพำ “ในนิทานพวกเราสองคนก็ตายแล้วนะ!”

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยได้ยินคำพูดหวานหว่านก็มองไปรอบ ๆ เห็นเพียงฮูหยินหรงตระกูลหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินนั่งอยู่คนเดียว ไม่เห็นคุณหนูหรงคนนั้น

จากนั้นก็ถามจิ่นซินที่อยู่ข้างๆ “ทำไมไม่เห็นคุณหนูหรงล่ะ? มีเพียงฮูหยินหรงที่มาหรือ?”

ชื่อเสียงผู้หญิง ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ถ้าพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยมีความคิดเช่นนั้นจริง ๆ มันก็โหดร้ายเอาการอยู่ นางต้องช่วยคุณหนูหรงสักหน่อย

พูดจบก็มองไปทางพระสนมเต๋อเฟบ เห็นเพียงนางมองไปทางห้องโถงด้านหลังตลอดเวลา พระสนมเฉินกุ้ยเฟยก็พอเดาออกแล้ว

จิ่นซินก็พูดถูกเวลาเช่นกัน “เมื่อสักครู่คุณหนูหรงถูกนางกำนัลทำเสื้อผ้าของนางเปียก เลยไปที่ห้องโถงด้านหลังเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเพคะ

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยได้ยินแบบนี้ ลุกขึ้นยืนทันทีแล้วเดินไปที่ห้องโถงด้านหลัง แต่พอก้าวไปสองก้าวก็กลับมา อุ้มลู่ซิงหว่านจากมือของแม่นม แล้วสั่งให้จิ่นหยูติดตามมา ให้จิ่นอวี้ไปตามเหมยกับหลานมา

[ว้าว เสด็จแม่จะไปช่วยคุณหนูหรงแล้วหรือ? เสด็จแม่เท่ห์จังคุณหนูหรงเป็นนางเอกเชียวนะ! เสด็จแม่ต้องช่วยนางนะ!]

“นางเอก? งั้นคุณหนูหรงและองค์ชายรองถึงจะเป็นคู่แท้สินะ งั้นเราต้องรีบไปแล้ว” พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรู้สึกว่า ตั้งแต่ตัวเองให้กำเนิดทารกคนนี้ นางก็พูดน้อยลงเรื่อย ๆ แต่คิดมากขึ้นแทน

อ้าว พระสนมเฉินนี่นา นี่กำลังจะไปไหนหรือ?” พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยเจอพระสนมเฉินกุ้ยเฟยที่กำลังเดินไปโถงด้านหลัง กลัวว่านางจะทำลายเรื่องดี ๆของตัวเอง จึงรีบเอ่ยปากเพื่อหยุด

“อ้อ พี่สาว คือหย่งอันฉี่อีกแล้วน่ะ ให้เปลี่ยนเสื้อผ้าของนางที่ห้องโถงหน้าก็คงจะไม่ได้!” พระสนมเฉินกุ้ยเฟยไม่ได้คาดคิดว่าพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยจะหยุดตัวเอง ตอนนี้นางกังวลมากขึ้นไปอีก นี่คงจะมาถ่วงเวลาไว้สินะ!

โชคดีที่นางคอยจับตาดูอยู่ ตอนนี้จิ่นซินน่าจะพบเหมยหลานแล้ว หากพวกนางสามารถไปถึงห้องโถงหลังได้ทันเวลาล่ะก็ ต้องช่วยคนไว้ได้อย่างแน่นอน

“ให้ข้าอุ้มหย่งอันหน่อยได้ไหม?” พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยเอ่ยถาม

[เหอะ เพื่อถ่วงเวลา ท่านไม่รังเกียจร่างที่เต็มไปด้วยฉี่และขี้ของข้าเลยหรือไง? ]

พระสนมเฉินกุ้ยเฟยทำได้เพียงกลั้นหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของหวานหว่าน

Related chapters

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0012

    ขณะที่พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยกำลังจะยื่นมือไปรับลู่ซิงหว่านมานั้น ทันใดนั้นลู่ซิงหว่านก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา[ไม่นะท่านแม่ ข้าไม่อยากให้ผู้หญิงร้ายอุ้ม ไม่เอา ไม่เอา]พระสนมเฉินกุ้ยเฟยแสร้งทำเป็นตำหนิจิ่นอวี้ "ยังไม่รีบอุ้มองค์หญิงไปอีก หากทำชุดของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยเปื้อนข้าลงโทษเจ้าแน่"พระสนมเต๋อกุ้ยเฟยได้ยินก็เข้าใจการปฏิเสธของพระสนมเต๋อกุ้ยเฟย เมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้ว บัดนี้จิ่นเฉินคงจะอยู่ในห้องกับหรงเหวินเมี่ยวสองต่อสองแล้ว ถ้าหากให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยไปบังเอิญเจอเข้าพอดีคงจะช่วยลดปัญหาของตนได้มากทีเดียวนางจึงยิ้มบาง ๆ แล้วเอ่ยปาก "ถ้าเช่นนั้นน้องหญิงเฉินก็รีบไปเถิด"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเห็นท่าทางเมินเฉยของนาง ในใจก็ยิ่งเป็นกังวล รีบสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปทันทีโดยไม่สนใจระเบียบมารยาทวังหลวงอะไรแล้วลู่ซิงหว่านที่ยังอยู่ในอ้อมอกของจิ่นอวี้ก็ดีใจไปด้วย[ท่านแม่รีบวิ่งเร็วเข้า ท่านแม่สู้ ๆ ต้องช่วยพี่สาวตระกูลหรงให้ได้นะ!]เมื่อพระสนมเฉินเฟยไปถึงก็เห็นสาวใช้นางหนึ่งถูกผลักล้มลงกับพื้นที่หน้าประตูห้อง ประตูห้องถูกเปิดกว้างพระสนมเฉินกุ้ยเฟยมองจากที่ไกล ๆ ในใจก็ยิ่งตะลึงใจจึงรีบเอ่ยปากถาม "นี่มันเ

    Last Updated : 2024-10-29
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0013

    เมื่อผู้คนกลับไปกันหมด หรงเหวินเมี่ยวก็แอบมาอยู่ข้างพระสนมเฉินกุ้ยเฟยแล้วย่อกายลงเล็กน้อย "เรื่องวันนี้ต้องขอบพระคุณพระสนมมากด้วยเพคะ"พระสนมเฉินกุ้ยเฟยกลับไม่ใส่ใจมาก "คุณหนูหรงไม่ต้องคิดมาก ข้าแค่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้หว่านหว่านแล้วบังเอิญพบเข้าเท่านั้น เรื่องวันนี้รอดพ้นได้เพราะคุณหนูหรงฉลาดมีไหวพริบต่างหาก"หรงเหวินเมี่ยวเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยพูดแบบนี้ก็กระจ่างในใจ พระสนมเฉินกุ้ยเฟยไม่ได้มีความคิดที่จะทวงคืนบุญคุณแต่อย่างใดจึงเก็บเรื่องนี้นี้เอาไว้ในใจทุกคนต่างรู้ว่า พระสนมเฉินกุ้ยเฟยเป็นน้าสาวแท้ ๆ ขององค์รัชทายาท และนางก็ไม่มีทายาทดังนั้นจึงต้องช่วยองค์รัชทายาทปูทางเป็นธรรมดา หากวันนี้ตนรอดพ้นจากแผนขององค์ชายสามแล้วเข้าไปพัวพันกับองค์รัชทายาทอีกก็จะเป็นการทำลายชื่อเสียงอันดีของท่านพ่อได้ดังนั้นจึงกล่าวขอบคุณ ทำความเคารพและออกจากวังไปพร้อมท่านแม่หรงเหวินเมี่ยวกลับบ้านเล่าเรื่องนี้ให้กับท่านพ่อและท่านแม่ ใต้เท้าหรงทั้งบ้านชื่นชมพระสนมเฉินกุ้ยเฟย และชื่นชอบองค์รัชทายาทมากขึ้น บอกว่าขอแค่องค์รัชทายาทไม่มีความคิดที่ไม่ดีจะตอบแทนอย่างดีแต่ว่า มันก็เป็นเรื่องของอนาคตขณะเดียวกัน ณ

    Last Updated : 2024-10-29
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0014

    เมื่อลู่จิ่นเหยาลงจากรถม้ามาถึงตรงหน้าทั้งสอง เสิ่นเป่าซวงที่กำลังเหยียดหยามหานซีเยว่ไม่หยุดถึงได้เห็นเขา"องค์รัชทายาท" เสิ่นเป่าซวงรีบก้าวมาข้างหน้า เดินมาหาลู่จิ่นเหยา ย่อกายเล็กน้อยแล้วแสร้งทำท่าทางอ่อนโยน "ถวายบังคมองค์รัชทายาทเพคะ ช่างบังเอิญเสียจริงที่ได้พบท่านที่นี่"ลู่จิ่นเหยาพยักหน้า ไม่ได้ตอบกลับหานซีเยว่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ ก้าวขึ้นมาทำความเคารพให้องค์รัชทายาทด้วยแต่องค์รัชทายาทกลับตอบนาง "คุณหนูหาน พระสนมเฉินเห็นว่าเจ้าอยู่ที่นี่จึงเรียกเจ้าไปหาน่ะ"หานซีเยว่อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองลู่จิ่นเหยา องค์รัชทายาทมาเพื่อช่วยนางอย่างนั้นหรือ?เสิ่นเป่าซวงทนไม่ได้ที่เห็นพวกเขาส่งสายตากันไปมา จึงก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าวแทรกระหว่างสองคนแล้วมององค์รัชทายาท "งานเลี้ยงครั้งก่อนไม่ได้เจอพระสนมกุ้ยเฟยเลย โปรดรบกวนองค์รัชทายาทช่วยพาหม่อมฉันไปแนะนำด้วยนะเพคะ"แต่ลู่จิ่นเหยาไม่อยากยุ่งกับนางจึงเอ่ยปากตอบ "บัดนี้พระสนมเฉินอยากพบแค่คุณหนูหาน หรือคุณหนูเสิ่นคิดจะขัดคำสั่งหรือ?"คำพูดนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเย็นชาเสิ่นเป่าซวงเห็นองค์ราชทายาทเป็นเช่นนี้ก็รีบย่อกายขออภัย และมองทั้งสองคนเดินไปเป

    Last Updated : 2024-10-29
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0015

    ครั้นเมื่อเห็นเผยฉู่เยี่ยนบาดเจ็บ องค์ชายใหญ่ก็รีบมาสังหารนักฆ่าจนเสียชีวิต การต่อสู้อันดุเดือดจึงได้ยุติลงเหลียวดูรอบข้างพบว่าไม่มีศัตรูอีก พระสนมเฉินกุ้ยเฟยจึงได้หันกลับไปที่เกี้ยว เห็นลู่ซิงหว่านยังนอนตาแป๋วอยู่ จึงได้วางใจ จากนั้นจึงหันมาดูเผยฉู่เยี่ยน พยุงแขนของเขาพลางถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”“พระสนมโปรดวางใจ ไม่เป็นไรมากพ่ะย่ะค่ะ” เผยฉู่เยี่ยนอายุเพียงแค่แปดขวบเท่านั้น แต่นิสัยเป็นคนแข็งกร้าว ทำให้พระสนมเฉินกุ้ยเฟยอดไม่ได้ที่จะมองซ้ำอีก“จิ่นเหยา จิ่นหยู ทิ้งคนไว้ให้จัดการที่นี่ อย่าให้ชาวบ้านรอบข้างแตกตื่น พวกเรากลับวังก่อน” เจอเรื่องเช่นนี้เข้า พระสนมเฉินกุ้ยเฟยรู้จักตั้งสติคล้ายกับตอนอยู่ในสนามรบ “ซื่อจื่อน้อยตามข้าขึ้นเกี้ยวก่อน เพราะได้รับบาดเจ็บ ไม่ควรที่จะขี่ม้าอีก”เมื่อเห็นพระสนมเฉินกุ้ยเฟยกล่าวเช่นนี้ เผยฉู่เยี่ยนจึงไม่กล้าปฏิเสธอีก ได้แต่ตามนางขึ้นรถม้าไป[เผยซื่อจื่อดูเท่ห์เหลือเกิน ถ้าไม่ได้เขามาช่วย วันนี้ข้าคงตายแน่ ฮือ ๆ ๆ...][สมแล้วที่เป็นผู้ช่วยมือดีของพระเอก อายุยังน้อยก็มีความกล้าหาญถึงเพียงนี้ ช่างร้ายกาจจริง ๆ!]พระสนมเฉินเฟยขึ้นไปในรถม้า แล้วจึงอุ้มลู่ซิงห

    Last Updated : 2024-10-29
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0016

    ฮ่องเต้ต้าฉู่ตกใจเป็นอย่างมากเขาเคยสงสัยหรงอ๋อง เคยสงสัยเสนาบดีชุย หรือแม้กระทั่งครอบครัวของสนมโหรวกุ้ยเหรินที่ถูกเนรเทศก็เคยต้องสงสัย แต่ไม่เคยนึกถึงพระสนมชุยเฟยเลยสมัยที่ตนยังเป็นรัชทายาทอยู่ ชุยอวี่ฉีก็แต่งมาเป็นพระชายารองแล้ว ความสัมพันธ์ในวัยเยาว์ล้ำค่าที่สุด เขาจึงมอบความรักให้แก่ชุยอวี่ฉีอย่างเต็มเปี่ยมมาโดยตลอดและในสายตาฮ่องเต้ต้าฉู่ นางก็เป็นสตรีที่อ่อนโยนและใสซื่อ ทั้งยังให้กำเนิดองค์ชายถึงสองคน และก่อนหน้านี้ดเขาเองก็หมายมั่นจะให้นางครองตำแหน่งฮองเฮาคนต่อไปพักก่อนต่อให้เรื่องของเสนาบดีชุยถูกเปิดโปง เขาก็ไม่ได้สงสัยนางเลย แต่ไม่คิดว่านางจะโหดร้ายถึงเพียงนี้และเมื่อนางทำผิดจริง ช้าเร็วก็ต้องถูกเปิดเผย เพื่อความมั่นคงของราชสำนัก อย่างไรก็ต้องจัดการ“เมิ่งฉวนเต๋อ สั่งการไปยังตำหนักฉางชิว ชุยเฟยทำความผิด ให้ลดขั้นเป็นตาอิ้ง ย้ายไปอยู่ตำหนักผู่เหวินแทน” ฮ่องเต้ต้าฉู่ครุ่นคิดอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปเมิ่งฉวนเต๋อได้รับบัญชาก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ด้วยไม่คิดว่าฮ่องเต้จะทรงเฉียบขาดถึงปานนี้ ตำหนักผู่เหวิน สภาพใกล้เคียงกับตำหนักเย็น ฮ่องเต้ต้าฉู่โปรดปรานพระสนมเต๋อเฟยมาโดยตลอด

    Last Updated : 2024-10-29
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0017

    ฮ่องเต้ต้าฉู่พลิกไปได้เพียงแค่สองหน้าก็เห็นว่าภายในนั้นเรื่องหนึ่งอยู่ ไม่นานมานี้ตอนที่พระสนมเฉินเฟยคลอดบุตรก็เป็นชุยเหวินที่ซื้อตัวสนมโหรวกุ้ยเหริน และใช้ครอบครัวของนางมาข่มขู่ให้สนมโหรวกุ้ยเหรินออกหน้าซื้อตัวแม่นมทำคลอดผู้นั้นเห็นดังนี้เขาก็โกรธเสียจนปาสาส์นกราบทูลขอราชการนั้นออกไป “เขากลับรู้ว่าต้องทำให้บุตรสาวของตนเองไร้มลทิน”เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้ต้าฉู่กริ้วแล้ว คนของกรมสอบสวนก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรต่อ“จับหนิงซวี่ได้หรือยัง?” ภายในใจของฮ่องเต้ต้าฉู่รู้สึกกลัดกลุ้มเพราะยังนึกไม่ออกว่าจะจัดการอย่างไรดี“ยามนี้ได้นำตัวคนไปส่งถึงศาลต้าหลี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ โดยได้จัดคนดูแลเป็นเฉพาะการ และไม่ได้ใช้วิธีทรมานแต่อย่างใด เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เขาฆ่าตัวตายเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” แต่ไหนแต่ไรใต้เท้าหรงก็จัดการเรื่องได้อย่างน่าเชื่อถืออยู่แล้วฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินก็พยักหน้า “พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ”ความผิดที่ชุยเหวินกระทำแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่น่าให้อภัย แต่ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับนึกถึงสิ่งที่หลายปีมานี้เขาทุ่มเททำเพื่อแคว้นต้าฉู่ ชั่วขณะก็ไม่รู้ว่าควรจะลงโทษอย่างไรดีฮ่องเต้ต้าฉู่ฟังเมิ่งฉวนเต๋อเอ่ยถึงปฏิกิริยาขอ

    Last Updated : 2024-10-29
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0018

    เมื่อฮ่องเต้ต้าฉู่กลับมายังห้องหนังสือส่วนพระองค์ ก็ได้ให้เมิ่งฉวนเต๋อไปเรียกคนของกรมสอบสวนมา“สืบเรื่องเงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยแล้งของปีนี้ที่จัดสรรไปว่าภายในมีผู้ทุจริตหรือไม่” ฮ่องเต้ต้าฉู่พูดออกมาอย่างง่ายดายด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความลังเลใต้เท้าหรง และคนอื่น ๆ ย่อมเข้าใจดีว่าที่ฮ่องเต้ต้าฉู่เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาในยามนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเสนาบดีชุย ในขณะนั้นจึงได้สืบไปในทิศทางนี้ทันทีเมื่อชัดเจนเรื่องทิศทางแล้ว บวกกับการทำงานที่รวดเร็ว และเฉียบขาดของกรมสอบสวน ไม่ถึงครึ่งวัน สาส์นฉบับหนึ่งก็ถูกเอามาวางไว้ที่โต๊ะหนังสือของฮ่องเต้เงินบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยหนึ่งแสนตำลึง ชุยเหวินเพียงแค่ผู้เดียวก็ทุจริตไปแล้วห้าหมื่นตำลึงยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงที่จัดสรรไปแต่ละรอบว่ามีหลงเหลือมาถึงมือของราษฎรจริง ๆ อยู่เท่าไหร่?เมื่อเห็นดังนี้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ก็ไม่มีความลังเลอีกต่อไป “เมิ่งฉวนเต๋อ ไปเรียกเว่ยเฉิงมา”ในขณะนั้นก็ได้รับสั่งให้คนของทหารราชองครักษ์ และกรมสอบสวนไปตรวจค้น รวมถึงยึดทรัพย์ที่บ้านตระกูลชุย คนที่เกี่ยวข้องให้นำไปขังไว้ที่ศาลต้าหลี่เป็นการชั่วคราว ส่วนข้ารับใช้บ้างก็เน

    Last Updated : 2024-10-29
  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0019

    [ทูตของแคว้นเยว่เฟิงจะมาถึงแล้วอย่างหรือ? หรงอ๋องก็จะได้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับรายละเอียดการกบฏกับทูตนั้นแล้ว เสด็จพ่อพระองค์รีบตื่นสิ พระองค์รีบตื่นเร็วเข้า น้องชายคนนั้นของพระองค์ไม่ใช่คนดีอะไรเลย!][ฮือ ๆ ๆ ทำไมข้าถึงได้น่าสงสารถึงเพียงนี้! เพิ่งเกิดก็โดนสนมโหรวกุ้ยเหรินลงมือสังหาร สามเดือนถูกพระสนมเต๋อเฟยลงมือ ยังไม่ถึงหนึ่งปีก็จะถูกหรงอ๋องลงมืออีกแล้วหรือเนี่ย?]พระสนมเฉินกุ้ยเฟยบย่อมรู้เรื่องที่พ่อของตนไปยังห้องทรงอักษรอยู่แล้ว แม้ว่าหวานหว่านจะเอ่ยจนดูน่ากลัว แต่คิดว่ามีการเตือนของบิดา ฝ่าบาทก็คงจะตื่นตัวอยู่ และคงไม่ถึงกับที่จะตกไปอยู่ในหลุมพรางของหรงอ๋องหรอกฮ่องเต้ต้าฉู่ทำเป็นเงียบสงบแต่กลับตบไปที่มือของพระสนมเฉินกุ้ยเฟยโดยที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “แต่ไหนแต่ไรเจ้าก็เป็นคนรู้กาลเทศะอยู่สมอ”[เหอะ เด็กดีไม่มีขนมกินหรอกนะ][แต่เสด็จพ่อก็ดีกับท่านแม่ไม่เบาเลยนะ มักจะมาอยู่เป็นเพื่อนนางเสมอ][อยู่ดี ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า หนิงอ๋องทำเรื่องใหญ่อะไรลงไปนะ จำไม่ค่อยได้แล้ว…]ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินภายในใจก็เป็นกังวลขึ้นมา หนิงอ๋องทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตนเป็นห่วงอีก ดูท่าแล้วภาย

    Last Updated : 2024-10-29

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0628

    ซ่งชิงเหยียนมองไปที่ฮ่องเต้ต้าฉู่ สีหน้าของเขาดูไม่ดีจริงๆ จากนั้นก็หันหน้าไปตบมือสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ “เป็นเรื่องในอดีตแล้ว ไม่ต้องเอ่ยถึงอีกแล้วล่ะ”“เจ้าสนิทกับเล่อกุ้ยเหรินได้ดีที่สุด ตอนนี้ครรภ์ของนางเป็นอย่างไรบ้าง?”ต้องบอกว่าความกังวลของสนมเล่อกุ้ยเหรินนั้นไม่ผิด สนมเยว่กุ้ยเหรินถือได้ว่าเป็นคนที่ปากไม่มีหูรูดจริงๆ แต่ก็เป็นคนที่ไม่คิดมากสําหรับเรื่องที่ซ่งชิงเหยียนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา นางไม่สนใจแม้แต่น้อย รับเรื่องไว้แล้วก็พูดต่อจุดแรกของพวกเขาอยู่ที่ตําหนักนอกเมืองแห่งหนึ่งที่ชานเมืองฮ่องเต้ต้าฉู่เตรียมที่จะเก็บสัมภาระบางส่วนที่นี่ แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องแต่งกายของพ่อค้าทั่วไป ค่อยเดินทางลงใต้ต่อไปทางด้านลู่ซิงหว่านอาจอยากลงใต้เพื่อไปเที่ยวเล่น แต่ถึงอย่างไรฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เป็นฮ่องเต้ ความคิดของเขาคืออยากดูว่าการเก็บเกี่ยวของราษฎรในปีนี้เป็นอย่างไร ชีวิตเป็นอย่างไรมากกว่ากลยุทธ์การช่วยเหลือราษฎรที่นําโดยองค์รัชทายาทก่อนหน้านี้ได้บรรลุผลจริงหรือไม่ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อราษฎรสงบสุข ใต้หล้านี้ถึงจะสงบสุขได้หลังจากเดินทางอย่างเรียบง่ายแล้ว ความเร็วของรถม้าก็เร็วขึ้น

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0627

    “คุณหนูเดินทางลงใต้ในครั้งนี้ จึงให้หลานอิ่งและจวี๋อิ่งติดตามไปตลอดทาง” เพราะทุกครั้งที่ซ่งชิงเหยียนออกจากวัง นางมักจะถูกลอบสังหารเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่าอย่างฮ่องเต้ต้าฉู่ เหม่ยอิ่งจึงไม่วางใจ“ส่วนข้าน้อยก็อยู่ในวัง คอยจับตาดูอยู่ในวังแทนคุณหนู” แทนที่จะบอกว่าจับตาในวัง ไม่สู้บอกว่าจับตาฮองเฮาจะดีกว่า “ไม่ว่าเรื่องอะไร ข้าน้อยจะแจ้งให้คุณหนูทราบทันที”พูดถึงตรงนี้เหมยอิ่งก็หันไปมองจู๋อิ่งอีกครั้ง “สําหรับจู๋อิ่ง เรื่องที่เผยซื่อจื่อถูกลอบสังหารก่อนหน้านี้ ยังคงหาเบาะแสไม่ได้ ถือโอกาสนี้ให้จู๋อิ่งเดินทางไปยังแคว้นต้าหลี่ด้วยตนเอง”ซ่งชิงเหยียนพยักหน้าและพอใจมากกับการจัดการของเหมยอิ่ง[ว้าว เหมยหลานจู๋จวี๋ที่อยู่ข้างกายท่านแม่นี่สิถึงเป็นสี่มหาพิทักษ์][ท่านแม่บอกมาสิว่า สหายเคียงบ่าที่เก่งกาจแบบนี้มีจุดจบหนึ่งศพสองชีวิตในนิทานได้ยังไงล่ะเนี่ย][แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว! ตอนนี้พวกเราเก่งมากเลย!]สองวันต่อมาในตอนฟ้าเพิ่งจะสาง รถของฮ่องเต้ต้าฉู่ก็เตรียมพร้อมอยู่ที่ประตูวังแล้วพระสนมทั้งหลายย่อมต้องมาส่ง แม้แต่สนมเล่อกุ้ยเหรินและสนมเหยาผินที่กําลังตั้งครรภ์ก็ม

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0626

    สืบไปสืบมา กลับไม่ได้ผลอะไรเลยทางฝั่งตระกูลหาน ไม่ว่าจะเป็นตําหนักชิงอวิ๋น หรือตำหนักหลงเซิง แม้กระทั่งตําหนักจิ่นซิ่วของฮองเฮา ก็ยังส่งของขวัญมากมายไปให้หานซีเยว่ถึงอย่างไรหานซีเยว่ก็เกิดเรื่องในวังหลวง และก็เพื่อซ่งชิงเหยียนด้วยเนื่องจากไม่วางใจ ซ่งชิงเหยียนจึงให้จิ่นอวี้พาฉยงหัวไปที่จวนตระกูลหานอีกครั้ง อย่างไรก็ต้องดูว่าอาการบาดเจ็บของหานซีเยว่หายดีเป็นเช่นไร นางถึงจะวางใจ“ขอบพระทัยในความห่วงใยของพระสนมหวงกุ้ยเฟยเพคะ” ตอนนี้หานซีเยว่ไม่เป็นอะไรแล้ว สีหน้าฮูหยินหานก็ดีขึ้นมากแล้ว “บุตรสาวข้าแค่บาดเจ็บทางผิวหนังเท่านั้น ไม่จําเป็นต้องให้พระสนมก่อความวุ่นวายเช่นนี้”แต่จิ่นอวี้ต้องทําตามคําสั่งของซ่งชิงเหยียน จึงให้ฉยงหัวตรวจดูหานซีเยว่อีกครั้งตอนนี้ทั้งในวังและนอกวังต่างก็รู้ว่าข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟยมีหมอหญิงที่มีความสามารถคนหนึ่ง ฝีมือการรักษายอดเยี่ยมมาก ฮูหยินหานย่อมปรารถนาเป็นอย่างยิ่งไม่นาน ฉยงหัวก็ออกมาจากห้องด้านใน มองไปทางฮูหยินหาน “ตอนนี้คุณหนูหานไม่เป็นอะไรแล้ว แม้มีดสั้นจะปักเข้าไปแล้ว แต่ยังดีที่เส้นเอ็นและกระดูกไม่บาดเจ็บ แค่ครึ่งเดือนนี้ พยายามอย่าให้คุ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0625

    นอกจากตําหนักชิงอวิ๋นที่ยุ่งวุ่นวายแล้ว ย่อมมีตําหนักจิ่นซิ่วที่ยุ่งวุ่นวายตามไปด้วยตอนนี้ทุกคนในตําหนักต่างก็รู้กันหมดแล้วว่าวันนี้คุณหนูตระกูลหานเข้าวังมาเยี่ยมเยียนพระสนมหวงกุ้ยเฟย คิดไม่ถึงว่าจะพบมือสังหารที่นอกตําหนักชิงอวิ๋นแต่คุณหนูตระกูลหานที่ปกป้องพระสนมหวงกุ้ยเฟยอย่างสุดจิตสุดใจ กลับถูกมีดแทงแทนนางโชคดีที่คุณหนูตระกูลหานโชคดีมาก ไม่ได้โดนทําร้ายจุดสําคัญเมื่อได้ยินข่าวนี้ ไป๋หลิงที่กําลังมาพร้อมกับลู่ซิงหุยก็ลุกขึ้นยืนทันที ขมวดคิ้วและมองไปข้างนอกและลู่ซิงหุยก็ตระหนักได้ในทันทีว่านี่เป็นฝีมือของไป๋หลิงจริงๆ นางต้องการแก้แค้นตําหนักชิงอวิ๋นเพื่อตัวเองจริงๆ คิดถึงตรงนี้ ลู่ซิงก็สั่งให้อิงหงออกไป แล้วดึงไป๋หลิงมาอีกครั้ง“พี่หญิงไป๋หลิง” ลู่ซิงหุยลองหยั่งเชิงอย่างเงียบๆ “จะมีใครพบท่านไหม?”ไป๋หลิงกลับตกใจกับคําถามอย่างกะทันหันขององค์หญิงหก มองนางอย่างประหลาดใจ จากนั้นเพียงแค่ยิ้มแล้วย่อตัวลงข้างองค์หญิงหก “องค์หญิงวางใจเถิด ไม่มีใครสืบสาวราวเรื่องได้หรอกเพคะ”พระสนมเต๋อเฟยเคยทิ้งคนกลุ่มหนึ่งไว้เบื้องหลัง ล้วนซ่อนอยู่ในวังหลังแห่งนี้ พวกเจาล้วนไม่มีพ่อแม่ไม่มีอะไรต

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0624

    พอเห็นฉยงหัว รัชทายาทก็รีบก้าวขึ้นไปและถามว่า “แม่นางฉยงหัว ซีเยว่เป็นอย่างไรบ้าง?”เมื่อรู้ว่าซ่งชิงเหยียนเคารพและให้ความสําคัญกับฉยงหัว แม้จะรีบร้อน องค์รัชทายาทก็ยังเกรงใจนางมาก[ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านแม่ ข้าบอกแล้วว่าพี่ฉงหัวเก่งที่สุด!][พี่ฉยงหัวได้ถอนพิษของพี่หญิงตระกูลหานแล้ว แม้แต่บาดแผลก็รักษาเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พี่หญิงตระกูลหานพ้นขีดอันตรายแล้ว][แค่รอตื่นมาก็พอ]ซ่งชิงเหยียนและฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ยินความในใจของลู่ซิงหว่าน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแต่องค์รัชทายาทกลับไม่ได้ยิน ยังคงมองฉยงหัวด้วยสายตาร้อนแรง รอคอยคําตอบของนาง“ทูลองค์รัชทายาทเพคะ” ฉยงหัวกอดลู่ซิงหว่านแล้วย่อตัวลงเล็กน้อย “แม่นางหานสบายดี ใช้เวลาเพียงหนึ่งก้านธูปก็ตื่นแล้วเพคะ”ซ่งชิงเหยียนก็รีบเข้าไปรับลู่ซิงหว่าน “ฉยงหัว ลําบากเจ้าแล้ว”“พระสนมหวงกุ้ยเฟยเกรงใจแล้ว เป็นหน้าที่ของบ่าวเพคะ” พระสนมหวงกุ้ยเฟยปฏิบัติต่อนางอย่างดีเช่นนี้ นางย่อมต้องตอบแทนอย่างสุดความสามารถเดิมทีฮ่องเต้ต้าฉู่กําลังพูดคุยกับองค์รัชทายาทอยู่ในห้องเรียน และอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ดังนั้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ พ่อลูกสองคนจึงมา

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0623

    เมื่อรู้สึกถึงความโกรธของฝ่าบาท เมิ่งเฉวียนเต๋อรีบรับคําและหันหลังจากไปส่วนเสิ่นหนิงก็หลบไปหลบมา สุดท้ายก็หนีไม่พ้นความโกรธของฮ่องเต้ต้าฉู่ “ในเมื่อฮองเฮาอยู่ ก็ไม่จําเป็นต้องให้ข้าพูดมาก ในวังหลังเกิดเรื่องวุ่นวายแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าเป็นฮองเฮา ควรทบทวนตัวเองให้ดี”เสิ่นหนิงรู้สึกหมดคําพูดเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับตน ใครใช้ให้นังซ่งชิงเหยียนนี่ล่วงเกินคนอื่นไปทั่ว ทําไมไม่เห็นมีใครมาลอบสังหารคนอื่นเลย!แต่ใบหน้านางกลับทําได้เพียงคุกเข่าลงไปอย่างนอบน้อม “ฝ่าบาทตรัสถูกต้องแล้วเพคะ หม่อมฉันคิดอยู่ว่า ถ้านางกํานัลคนนี้ไม่ใช่คนของวังหลวง ก็แสดงว่าแต่ละตําหนักย่อมมีคนอื่นปะปนเข้ามา”“หม่อมฉันคิดว่าควรตรวจสอบคนรับใช้ทั้งหมดในวังหลัง” พูดถึงตรงนี้เสิ่นหนิงก็หยุดชะงัก “แค่ยุ่งยากนิดหน่อย”ฮ่องเต้ต้าฉู่กลับเห็นด้วยกับความคิดเห็นของนางอย่างหาได้ยาก “ไปตรวจสอบตอนนี้เลย มีคนตายแล้ว ยังจะพูดว่ายุ่งยากหรือไม่ยุ่งยากอีก”“พระมเหสี” ระหว่างทางที่ออกจากตําหนักชิงอวิ๋น เยว่หรานก็เผยความไม่พอใจต่อฮ่องเต้ “พระมเหสีเหตุใดต้องทนเช่นนี้ด้วยเพคะ”เสิ่นหนิงกลับถอนหายใจยาวช่างเถอะ อดทนอีกไม่กี่เ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0622

    ถึงอย่างไรก็เป็นพระชายาของพี่ชายองค์รัชทายาทที่ยังไม่ได้แต่งงานอีกทั้งหานซีเยว่ดีต่อนางมากจริงๆ การเข้าวังครั้งนี้ ยังนําของเล่นพื้นบ้านมาให้นางไม่น้อยเลย[คนดีๆแบบนี้ต้องไม่ตายแน่]คิดถึงตรงนี้ ลู่ซิงหว่านถึงกับขอบตาแดงก่ำ[ในนิยาย หานซีเยว่ตายเพื่อพี่รัชทายาท คงเป็นไปไม่ได้ที่เรื่องจะมีตัวแปรมากมายขนาดนี้ แต่โชคชะตาของพี่หญิงตระกูลหานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง!][พี่ฉยงหัวต้องรักษาได้แน่ๆ ]ซ่งชิงเหยียนจึงหันไปมองลู่ซิงหว่านที่ดวงตาแดงก่ำ กอดนางไว้ในอ้อมแขนและตบนางเบาๆ “หวานหว่านไม่ต้องกังวล พี่หญิงหานของเจ้าเป็นคนดีขนาดนี้ จะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”“ฝ่าบาทเสด็จ องค์รัชทายาทเสด็จ” ในขณะที่สองแม่ลูกกําลังเสียใจเพราะหานซีเยว่ เสียงของเมิ่งเฉวียนเต๋อก็ดังขึ้นจากข้างนอก“พระมเหสีเสด็จ” ทันทีที่เมิ่งเฉวียนเต๋อพูดจบ ก็มีเสียงของขันทีน้อยที่อยู่ข้างๆ ดังขึ้นซ่งชิงเหยียนปล่อยลู่ซิงหว่านแล้วจูบนาง “หวานหว่านอยู่ดีๆ นะ แม่จะไปพบเสด็จพ่อดีไหม”ลู่ซิงหว่านพยักหน้าอย่างหนักแน่น แต่ไม่สนใจซ่งชิงเหยียนอีก เพียงมองไปทางหานซีเยว่เมื่อซ่งชิงเหยียนปรากฏตัวที่นอกประตู ทุกคนต่างก็ตกตะลึงแต่โชคร้า

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0621

    “พี่ไป๋หลิง ตอนนี้เสด็จพี่ไม่อยู่แล้ว คนทั้งวังต่างก็รังแกข้า วันนั้นข้าถูกไอ้เด็กเหลือขอลู่ซิงหว่านรังแกอีกแล้ว” พูดจบประโยค องค์หญิงหกก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งความไม่พอใจในใจของไป๋หลิงเมื่อสักครู่ถูกลู่ซิงหุยแก้ไขทันทีใช่แล้ว ตอนนี้พระสนมหวงกุ้ยเฟยไม่อยู่แล้ว องค์ชายสามก็ถูกกักบริเวณแล้ว คนที่องค์หญิงหกสามารถพึ่งพาได้มีเพียงตนเองเท่านั้นเมื่อคิดถึงตรงนี้ ไป๋หลิงก็ตบหลังองค์หญิงหกเบาๆ “องค์หญิงวางใจเถิด สิ่งใดที่ทําให้องค์หญิงไม่สบายใจ ล้วนต้องได้รับผลกรรม”ในทิศทางที่ลู่ซิงหุยมองไม่เห็น ดวงตาของไป๋หลิงเต็มไปด้วยความเกลียดชังแม้แต่อิงหงก็ไม่กล้าสบตานางโดยตรง ก้มหน้าลงสิ่งที่ไป๋หลิงพูดในครั้งนี้ถูกต้อง ซ่งชิงเหยียนได้รับ"กรรมตามสนอง" อย่างที่นางพูดอย่างรวดเร็วเมื่อหานซีเยว่ออกจากวัง ซ่งชิงเหยียนก็ไปส่งนางที่ด้านนอก ซ่งชิงเหยียนก็ถูกลอบสังหารที่ถนนนอกตำหนักชิงอวิ๋นได้ยินมาว่าได้รับบาดเจ็บสาหัสมากส่วนนางกํานัลที่ลอบสังหารคนนั้น หลังจากลอบสังหารสําเร็จแล้ว ก็ปาดคอตายอยู่บนถนนทันทีข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่ววังหลังอย่างรวดเร็วในเวลานี้ไป๋หลิงกําลังอยู่กับลู่ซิงหุย เมื่อลู่ซิงหุ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0620

    ในขณะที่ซ่งชิงเหยียนกําลังยุ่งอยู่กับการพูดคุยกับหานซีเยว่ลู่ซิงหุยที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมมาหลายวันในที่สุดก็ได้พบกับไป๋หลิงทันทีที่ไป๋หลิงเข้าไปในห้องด้านใน ลู่ซิงหุยก็ขว้างถ้วยน้ำชาที่อยู่ข้างหน้าเขาไปที่เท้าของนางด้วยความโกรธ "เจ้ายังรู้ว่าจะมา!"“ตอนนี้เจ้าได้รับความโปรดปรานจากหญิงชั่วคนนั้นของฮองเฮาใช่หรือไม่? ลืมเสด็จแม่ของข้าไปจนสิ้นแล้ว!”ลู่ซิงหุยตอนนี้อาศัยอยู่ในตําหนักจิ่นซิ่ว ย่อมรู้ว่าบ่าวไพร่ของตําหนักจิ่นซิ่วเคารพไป๋หลิงเพียงใด และรู้ว่าตอนนี้ในใจของฮองเฮาพึ่งพาไป๋หลิงเป็นอย่างมากนอกจากนี้ไป๋หลิงไม่ได้ปรากฏตัวในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ดังนั้นนางจึงสงสัยส่วนอิงหงที่ยืนอยู่ข้างหลังลู่ซิงหุย รีบก้าวเข้าไปปิดปากนางอย่างรวดเร็ว “องค์หญิง!”จากนั้นก็ปล่อยมือ “องค์หญิงระวังคําพูด ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ในตําหนักจิ่นซิ่ว ทุกเรื่องต้องระมัดระวัง”“ฮึ” ลู่ซิงหุยส่งเสียงหึในลําคออย่างเย็นชา แล้วหันไปมองไป๋หลิงที่อยู่ตรงหน้า “เจ้าช่างเป็นคนที่รู้จักหลบๆ ซ่อนๆ เสียจริง เมื่อก่อนต้องมาที่ตำหนักของข้าทุกวัน”“ตั้งแต่พี่สามถูกเสด็จพ่อกักบริเวณอยู่ในตําหนักฉางชิว เจ้าก็ไม่ปราก

DMCA.com Protection Status