บรืน
ปึก
"นารี"
"ต้นอ้อ"สองเพื่อนสาวต่างโผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึงทันทีเมื่อรถคันหรูของอัคคีเล่นเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านเรือนไทย ต้นอ้อดีใจจนเนื้อเต้นเธอรีบเปิดประตูลงมาจากรถเมื่อเห็นว่านารีเพื่อนสนิทสมัยเด็กกำลังยืนรอเธออยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน
"ฮึก คิดถึง คิดถึงมาก"
"คิดถึงเหมือนกัน ไม่เอาสิไม่ร้อง"นารีดันร่างเล็กของเพื่อนรักออก เธอบรรจงเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของต้นอ้อด้วยความอ่อนโยนอย่างเบามือ แต่ดูเหมือนว่าเธอยิ่งเช็ดสักเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ยิ่งปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาไม่หยุด จนอัคคีว่าที่สามีของต้นอ้อต้องรีบเดินมาดูแลว่าที่ภรรยา
"ตัวเล็กหยุดร้องไห้ก่อนนะครับคนดี"
"ฮึก ก็คนมันคิดถึงเพื่อนนี่คะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี"ต้นอ้อปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวก ๆ ก่อนเธอจะหันมาแนะนำสามีและพี่ชายของสามีให้เพื่อนรักอย่างนารีได้รู้จัก
"นารี นี่คุณอัคคีว่าที่เจ้าบ่าวของเราเอง"
"สวัสดีค่ะคุณอัคคี"
"สวัสดีครับ"นารียิ้มทักทายชายหนุ่มร่างสูงใหญ่มีใบหน้าหล่อเหลาพ่วงตำแหน่งว่าที่สามีเพื่อนด้วยความเป็นมิตร ซึ่งอัคคีเองก็หันมาส่งยิ้มทักทายด้วยความเป็นมิตรเช่นเดียวกัน
"ส่วนคุณคนนั้นคือคุณเมฆา พี่ชายของคุณอัคคี"แววตาอ่อนโยนของนารีหันไปมองหน้าชายหนุ่มซึ่งยืนนิ่งราวกับรูปปั้นอยู่ทางด้านหลัง เพียงแค่ได้สบนัยน์ตารัตติกาลคู่นั้นก็ทำเอาหัวใจดวงน้อยของเธอวูบโหวงอย่างน่าแปลกประหลาด
"สวัสดีค่ะคุณเมฆา"
เรือนกายสูงตระหง่านแข็งแกร่งทรงพละกำลังอย่างไร้ที่เรียบยืนนิ่ง แววตายากจะคาดเดาไล่มองรูปโฉมงดงามสะคราญตาของผู้หญิงตรงหน้า สตรีร่างเล็กสูงไม่ถึงหัวไหล่ของเขาเธอมีผิวพรรณขาวสะอาดราวกับหิมะ ใบหน้าเรียวเล็กตอบรับกับคิ้วโก่งดั่งคันศร จมูกสวยโด่งรั้นริมฝีปากอวบอิ่มชวนสัมผัส พวกแก้มทั้งสองข้างแดงปลั่ง เธองดงามเหมือนนางวรรณคดีไทย
"กะพริบตาบ้างก็ได้ เดี๋ยวไก่ตื่นหมด"
"เสือก"
"เอ้า ไอ้นี่ คนเขาอุตส่าห์หวังดี"
"เรื่องของกู"เมฆามองหน้าน้องชายก่อนตนเองจะเดินตามหญิงสาวทั้งสองเดินขึ้นไปภายในบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ซึ่งบริเวณบ้านให้ความเป็นธรรมชาติบรรยากาศร่มรื่น
"แล้วนี่จะมาอยู่กันกี่วัน"
"ก็คงสักสองสามวัน ฉันอยากไปเที่ยวที่อื่นด้วย"
"หืม อยู่ที่กรุงเทพไม่มีที่ให้แกเที่ยวหรือไง"ทั้งสองเดินมาถึงระเบียงที่ต่อยื่นออกมาจากตัวบ้านซึ่งมีสำรับอาหารที่นารีเตรียมวางเอาไว้
"ที่กรุงเทพฉันไปเที่ยวมาหมดแล้ว ฉันอยากกลับมาเที่ยวที่บ้านเกิดของตัวเองบ้าง"นารีย่นคิ้วมองหน้าเพื่อนสาว ก่อนเธอจะเดินหายเข้าไปในครัวแล้วกลับออกมาพร้อมกับขันใส่น้ำเย็น ๆ โดยมีดอกมะลิลอยเด่นส่งกลิ่นหอม
"เชิญนั่งกันก่อนสิคะ"นารีบอกสองชายหนุ่มซึ่งทั้งคู่พึ่งจะเดินขึ้นบันไดมาเธอส่งขันน้ำดื่มไปให้เมฆาเงยหน้ามองหญิงสาว เขายอมรับขันน้ำดื่มไปอย่างไม่ลังเล
"น้ำเย็น ๆ ค่ะ "
"ขอบคุณครับ"นารีส่งยิ้มหวานให้อีกครั้งก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างกายของเพื่อนสาว ส่วนเมฆาเขายกขันน้ำขึ้นดื่ม น้ำเย็น ๆ หอมชื่นใจผลจากดอกมะลิในขัน
"แล้วแกอยากจะไปเที่ยวที่ไหนล่ะ"
"ฉันยังไม่รู้เลย แกพอจะมีที่เที่ยวแนะนำฉันบ้างไหม"
"ฉันล่ะเชื่อแกจริง ๆ เลย ยายต้นอ้อ"นารีส่ายหน้าให้กับความโก๊ะของเพื่อนรัก
"แล้วนี่แกจะพักที่ไหนได้จองโรงแรมเอาไว้แล้วหรือยัง"นารีเปิดปากถาม เธอจัดการเปิดฝาครอบอาหาร พลางยื่นมือไปตักข้าวสวยใส่จานให้ทุกคน
"ฉันคุยกับคุณอัคคีมาเรียบร้อยแล้ว พวกเราสามคนจะนอนค้างคืนกันที่นี่"
"จริงเหรอคะ"
"ครับ พวกเราสามคนต้องขอรบกวนคุณนารีด้วยนะครับ"
"ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ ที่นี่มีห้องพักตั้งหลายห้อง"เจ้าบ้านอย่างนารีตอบรับอย่างเป็นมิตร
"แต่ว่าบ้านของนารีไม่มีเครื่องปรับอากาศ พวกคุณสองคนนอนกันได้ใช่ไหมคะ"ครานี้เธอหันไปมองหน้าอัคคีสลับกับเมฆาซึ่งชายหนุ่มนั้นได้มองมาอยู่ที่เธอก่อนแล้ว
"ผมได้อยู่แล้ว แล้วพี่ล่ะพี่เมฆา"
"ฉันไม่มีปัญหา"เสียงเข้มของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ตอบกลับมา นารียิ้มจนตาของเธอเป็นสระอิทำให้หัวใจแกร่งของเมฆากระตุกวูบยามเมื่อเธอส่งยิ้มหวานมาให้
ทั้งสี่นั่งรับประทานอาหารเย็นอย่างอร่อย ฝีมือการทำอาหารใต้ของนารีทำให้ต้นอ้อเติมข้าวไปถึงสองจานไม่เว้นแม้แต่สองชายหนุ่ม ซึ่งในตลอดระยะเวลาสายตาของเมฆาเหลือบมองหน้านารีอยู่บ่อยครั้งซึ่งคนถูกมองก็สัมผัสมันได้แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกไปเพราะแววตาคมคู่นั้นที่มองมามันชั่งยากที่เธอจะหาความหมาย
ปิ๊น ปิ๊น
เสียงแตรรถกระบะมีรั้วเหล็กกันสูงดังขึ้นเรียกความสนใจให้ทั้งสี่หันไปมอง นารีต้องชะโงกหน้าลงไปดูเมื่อรถของเสกสรรกำลังขับเคลื่อนออกมาจากสวนผลไม้
"ใครเหรอนารี"
"รถคุณเสกพ่อค้าที่มารับซื้อทุเรียนน่ะ เดี๋ยวฉันมานะ เชิญพวกคุณตามสบายนะคะ"นารีหยัดกายลุกขึ้นก่อนเธอจะเดินอ้อมหลังชายหนุ่มเดินตรงไปยังทางบันได โดยมีสายตาเข้มมองตามแผ่นหลังของเธอไปโดยไม่ละสายตา
ใบหน้าเรียบนิ่งแววตายากจะคาดเดาของเมฆาทำให้ต้อนอ้อรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ คล้ายกับคนกำลังจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ลมหายใจของหญิงสาวตำแหน่งน้องสะใภ้สะดุดเมื่อเมฆาลุกขึ้นยืนพลางชะโงกหน้ามองไปยังสนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งตอนนี้มีหญิงสาวที่พึ่งจะเดินลงไปกำลังคุยพร้อมส่งยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขา
"ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ พรุ่งนี้จะมาอีกใช่ไหม"
"ครับ ผมต้องมาหาคุณอยู่แล้ว"ฝ่ามือใหญ่ของเสกสรรถือวิสาสะวางลงบนท่อนแขนเล็กของนารีทั้งคู่ยืนคุยกันด้วยท่าทีสนิทสนมกันออกนอกหน้า โดยมีสายตาลุกโชนด้วยเปลวไฟของเมฆากำลังมองทั้งคู่อยู่ไม่ไกล
กรอดดด
"ดูเหมือนว่านารีจะสนิทสนมกับผู้ชายคนนั้นจังเลยนะ"ต้นอ้อเปิดปากถามขึ้นทันทีหลังจากนารีเดินกลับมาร่วมรับประทานอาหาร ใบหน้าสวยมีรอยยิ้มสร้างความขุ่นเคืองให้ชายหนุ่ม เมฆามองหน้าสวยของนารีอย่างไม่ละสายตา"คุณเสกเขามาติดต่อขอซื้อทุเรียนกับเราหลายปีแล้วล่ะ ตั้งแต่พี่เข้มยังไม่เสียเลยด้วยซ้ำ""มิน่า ถึงได้ดูสนิทกัน ว่าแต่เรื่องพี่เข้มฉันเสียใจกับแกด้วยนะ""ขอบใจมากนะ"นารีหันมาตักอาหารใส่จานของเธอ อีกทั้งยังแบ่งปันไปถึงจานอาหารของเมฆา"ทานเยอะ ๆ นะคะ ในครัวยังมีอีกเยอะ"เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวานจากเธอก็ทำให้เขาใจอ่อนยวบอย่างน่าอัศจรรย์ ความขุ่นเคืองในเมื่อครู่นั้นหายเป็นปลิดทิ้งต้นอ้อหันมามองหน้าสามีเมื่อต้นขาของเธอได้รับแรงสะกิด อัคคีส่งสายตาให้เธอมองไปยังใบหน้าของเมฆาที่ดูเปลี่ยนไปเมื่อเห็นว่านารีหันมาเอาใจใส่"ห้องน้ำ อยู่ด้านล่างนะต้นอ้อ แกอาบได้ใช่ไหม""ฉันสบายมาก""ดีแล้วล่ะ ว่าแต่แกจะเอาผ้าถุงไหมฉันจะได้ไปเอามาให้""ก็ดีเหมือนกัน"นารีเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองก่อนจะกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับผ้าถุงสีสดมีลวดลายสวยงาม "ขอบใจมากนะ"ต้นอ้อยื่นมือไปรับ พลางจัดเก็บเสื้อผ้าที่ขนมาจากก
ภายในห้องน้ำใต้ถุนบ้านในยามพลบค่ำมีสองร่างของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังโอบกอดกัน ร่างกายของทั้งคู่นั้นแนบชิดอิงกายจนแทบไม่มีช่องว่างให้ลมผ่าน เสียงกระสันซ่านยามเมื่อทั้งคู่ขยับกายเข้าหากันดังเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำตับ! ตับ! ตับ!สองฝ่าเท้าของนารีซึ่งกำลังเดินลงบันไดมาหยุดชะงัก บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัดทำให้เธอได้ยินเสียงอันน่าอัศจรรย์ซึ่งดังมาจากภายในห้องน้ำได้อย่างชัดเจน"อ๊าส์ ต้นอ้อ""อื้อ เบา ๆ สิคะคุณอัคคี เดี๋ยวก็มีใครผ่านมาได้ยิน"น้ำเสียงแหบพร่าของหญิงสาวเอ่ยปรามเพราะกลัวว่าพี่ชายของสามีและเพื่อนสาวของเธอจะเดินมาได้ยิน แต่ดูเหมือนว่ามันคงจะไม่ทันการเมื่อในตอนนี้นั้นนารีกำลังยืนหน้าแดงก่ำอยู่ตรงตีนบันไดเสียงครางกระสันทำให้ร่องกลางกายของเธอเริ่มผลิตน้ำหวานออกมา ใบหน้าสวยแดงซ่านความต้องการตีตื้นขึ้นมาจุกอก นารีสะบัดศีรษะเธอโอบผ้าถุงเอาไว้สองฝ่าเท้าเรียวรีบใส่รองเท้าก่อนเธอจะก้าวไปยังห้องน้ำซึ่งทำด้วยสังกะสีที่อยู่ใกล้กับสวนผลไม้"อ๊าส์"นารีไม่รอช้าเมื่อเธอก้าวขาเข้ามาอยู่ในห้องน้ำ หญิงสาวรีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกาย เต้านมขนาดใหญ่ลอยเด่นยามเมื่อเธอถอดเสื้อตัวสวยออกตามด้วยผ้าถุงลาย
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ"ต้นนี้หมดแล้วครับคุณนารี"เสียงเข้มของคนงานตัดทุเรียนดังขึ้นมาจากบนต้นทุเรียน นารีเงยหน้ามองพลางใช้หลังมือปาดเหงื่อตามกรอบหน้าสวยก่อนจะวางกระสอบสีน้ำตาลเข้มลงกับพื้นวันนี้เธอตื่นแต่เช้าตรู่และไม่รอช้ารีบต่อสายให้คนงานกรีดยางมาช่วยตัดทุเรียนโดยมีเธออาสาเป็นคนยืนรับลูกทุเรียนอยู่ใต้โคนต้น ทุเรียนจำนวนหลายร้อยลูกถูกวางเรียงรายรอให้พ่อค้ามารับ ขโมยแถวนี้ยิ่งชุมยามฤดูผลไม้คนไร้ที่พึ่งพาเสาะแสวงหาลักขโมยเล็กขโมยน้อยตามบ้านเรือนเพื่อนำเอาไปขาย ซึ่งช่วงนี้ทุเรียนราคาโลละเป็นร้อยย่อมเป็นที่หมายปองของพวกหัวขโมยธรรมดา นารีจึงใช้เวลาว่างโทรเรียกคนงานของตัวเองให้มาช่วยเพื่อจะได้เสร็จไว ๆ"ฉันฝากพวกนายจัดการทางนี้ต่อด้วยนะ""ได้ครับคุณนารี"เหล่าคนงานต่างพากันแยกย้ายไปทำตามหน้าที่ ส่วนนารีก็พาร่างอันเหนื่อยหอบเดินกลับมาที่บ้านหญิงสาวสวมชุดเสื้อและกางเกงขายาวแปลงร่างเป็นชาวสวนเดินกลับมาถึงบ้านไม้ ก็เห็นร่างสูงใหญ่ของอัคคีและเมฆากำลังยืนอยู่ตรงบันไดไร้เงาของต้นอ้อเพื่อนรัก"อรุณสวัสดิ์ครับคุณนารี""อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอัคคี ตื่นกันนานแล้วเหรอคะ""พึ่งตื่นครับ แล้วนี่คุณนารีหายไปไหนมา
"ส่งมาเลยค่ะ"ชายหนุ่มในชุดลำลองธรรมดายืนมองหญิงสาวซึ่งกำลังขนย้ายทุเรียนจำนวนหลายร้อยลูกขึ้นรถกระบะ เธอทำมันด้วยความคล่องแคล่วและชำนาญจนเขาเองยังรู้สึกทึ่งไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะมีความสามารถถึงขนาดนี้เธอทำงานหนักจริงพอ ๆ กับผู้ชายอกสามศอกอย่างพวกเขา แม้เธอจะเหนื่อยมีเม็ดเหงื่อออกตามร่างกายแต่เธอก็ไม่คิดจะบ่นเลยสักคำติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดเสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นทำให้เมฆาที่กำลังยืนดูหญิงสาวทำงานรู้สึกหัวเสียเมื่อมีคนโทรมาขัดจังหวะ"มีอะไร"น้ำเสียงห้วน ๆ กรอกตามสายเมื่อเห็นว่าอัคคีน้องชายตัวดีของเขาโทรมา เมฆาเดินเลี่ยงออกมาเพื่อไม่ให้การคุยโทรศัพท์ของเขารบกวนเวลาทำงานของเธอ"เป็นยังไงบ้าง ทางนั้น""ก็ไม่ยังไง แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย""อย่าบอกนะว่ามึงจับคุณนารีกดลงบนเตียงไปแล้ว"อัคคีตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจทำให้เมฆาถึงกับกลอกตามองบน"ยัง""โล่งไป""มึงจะกลัวอะไร""หึ มึงนี่แหละตัวดีที่พวกกูต้องกลัว อย่าพึ่งรีบทำอะไรล่ะ เธอไม่ใช่คนที่มึงจะเล่น ๆ ด้วยนะ"เมฆารับฟังในสิ่งที่น้องชายพูด พลางหันหน้าไปมองยังร่างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อของนารีซึ่งเธอกำลังยืนช่วยลูกน้องคนงานขนย้ายทุเรียนขึ้นท้ายรถ
"ไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เลยอะ"เสียงเล็กงอแงคล้ายกับเด็กของต้นอ้อดังขึ้นในระหว่างที่ทั้งสี่กำลังนั่งทานอาหารเย็นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนร่มรื่นของบ้านไม้หลังใหญ่ ใบหน้าสวยของว่าที่เจ้าสาวเริ่มหงิกงอเมื่อวันพรุ่งนี้เธอต้องเดินทางกลับเพื่อเตรียมตัวไปจัดงานแต่งงานซึ่งจะถูกจัดขึ้นภายในอีกไม่ช้า "ฉันยังไม่หายคิดถึงนารีเลย""ไม่งอแงสิครับที่รัก""ก็ต้นอ้อยังอยากอยู่เที่ยว ยังไม่หายคิดถึงเพื่อนเลยนี่"นารีส่ายหน้าไปมาเมื่อเพื่อนสาวเกิดอาการงอแงเหมือนเด็กน้อยไม่ได้ดั่งใจ"เอาเป็นว่าถ้าฉันจัดการธุระทางนี้เสร็จจะรีบขึ้นไปหาแกที่กรุงเทพดีไหม""แต่""ไม่เอาสิต้นอ้อ เกรงใจคุณอัคคีกับคุณเมฆาเขาบ้าง เขาคงต้องรีบกลับไปทำงาน"ต้นอ้อชะงักว่าที่เจ้าสาวเม้มริมฝีปากแน่น ต้นอ้อพยักหน้าจำยอมแม้ว่าอันที่จริงแล้วเธออยากจะอยู่เที่ยวที่นี่ต่ออีกสักสองสามวัน"ไว้ฉันจะรีบขึ้นไปหาแกที่กรุงเทพนะ""โอเค ว่าแต่แกเถอะจะไปยังไง""แกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันหาทางไปเองได้""นั่งเครื่องเอาไหม เดี๋ยวฉันออกค่าตั๋วให้""มะ...""เดี๋ยวพี่ให้คนมารับคุณนารีเอง"น้ำเสียงเรียบนิ่งของเมฆาดังขึ้นทำให้นารีซึ่งกำลังอ้าปากเตรียมปฏิเสธเป็นอ
เมฆากัดฟันข่มอารมณ์เมื่อต้องจากลาหญิงสาวกลับมาทำหน้าที่ของเขาในช่วงเช้าของวันต่อมา ซึ่งไม่ต่างจากนารีเธอยืนชะเง้อคอมองรถคันหรูของเพื่อนสาวขับออกไป'ฉันจะรอเธอนะนารี'นี่คือคำสุดท้ายที่ต้นอ้อได้พูดกับเธอเอาไว้ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถแล้วขับออกไปหญิงสาวใจวูบโหวง เธอหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปบนบ้านเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเพราะยังมีงานที่เธอยังต้องทำต่อ แต่เมื่อเธอก้าวขาผ่านห้องนอนของเมฆา สองฝ่าเท้าเรียวของหม้ายสาวเป็นอันต้องหยุดชะงักดวงตากลมโตจ้องมองไปยังบางสิ่งบางอย่างที่วางอยู่บนเตียงนอนซับในสีดำของบุรุษวางอยู่บนเตียงนอนสีขาวสะอาดตาราวกับว่าอีกฝ่ายต้องการวางให้เด่นสะดุดสายตาเพื่อง่ายต่อการมองเห็น คราบน้ำสีขาวขุ่นยังสดใหม่ราวกับว่ามันพึ่งจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อในไม่นานมานี้ทำเอานารีใจเต้นไม่เป็นจังหวะ กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ลอยโชยเข้ามาแตะจมูกสาวทำเอาหม้านสาวใจเต้นผิดจังหวะเธอกำลังคิดว่าเมฆากำลังทิ้งสิ่งของชิ้นนี้ไว้ให้เธอดูต่างหน้า เช่นเดียวกับช่องทางติดต่อที่เขาได้ขอเธอเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนตึก ตึก ตึกเสียงรองเท้าหนังสีดำดังกระทบพื้นยามเมื่อผู้สวมใส่ก้าวขาเดินเข้ามาภายในบริษัทยักษ์ให
เพียงแค่นิ้วเรียวลากผ่านกลีบผกาก็ทำเอาหญิงสาวต้องเปล่งเสียงออกมาด้วยความเสียวซ่าน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกของชายหนุ่มในตอนนี้ที่เขากำลังใช้ฝ่ามือกอบกุมแก่นกายเอาไว้ ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มผ่อนแรงขึ้นตามห้วงอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้น"อะ...อ๊าส์""นะ...นารี ซี๊ด"เสียงครางหวาน ๆ ของเธอมันทำให้เขาแทบบ้า เมฆาหลับตาพริ้มนึกจินตนาการไปถึงเรือนร่างของเธอที่เขาเคยได้เห็น เต้าอวบขาวผ่องเต่งตึงเป็นก้อนมียอดถันสีหวานแปะอยู่อย่างชูชัน ยามเมื่อเขานึกไปถึงตรงนั้นยิ่งทำให้เขาเร่งบังคับฝ่ามือขยับขึ้นลง"คะ...คุณเมฆา""คะ...ครับ""คุณเมฆาขา นารีเสียว"ฟันซี่เล็กขบลงบนริมฝีปากล่างเมื่อปลายนิ้วสวยกำลังนวดคลึงร่องคับแคบจนมีน้ำเมือกใสไหลออกมาติดปลายนิ้ว น้ำเสียงชวนสยิวของเธอนั้นยิ่งทำให้ชายหนุ่มเร่งขยับลำกายจนมีน้ำเมือกใสไหลปริ่มตรงส่วนบริเวณหัวร่างสูงใหญ่เอนกายพิงกับพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามห้วงอารมณ์ เมฆาไม่นึกเลยว่าตัวเองจะต้องมาอดทนกับการรอให้ใครสักคนพร้อมและยินยอมที่จะต้องตกเป็นของเขาอย่างหญิงสาวในสายมาก่อน"ฮึก อ๊าส์"ใบหน้าของชายหนุ่มแดงก่ำ ลำกายยาวใหญ่ของเมฆารู้สึกปวดหนึบราวกับว่าสิ่ง
"ให้ฉันย้ายมาอยู่เป็นเพื่อนไหม"เสียงหวานของต้นอ้อเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งสองย้ายเข้ามาอยู่ในห้องพักของโรงแรมหรูใจกลางเมือง สองเพื่อนสาวนั่งลงบนโซฟาต้นอ้อเป็นฝ่ายเปิดปากถามทันทีเพราะเกรงว่าเพื่อนรักจะกลัวเพราะยังไม่ชินกับที่พัก"เธอพูดเหมือนกับว่าคุณอัคคีจะยอมให้เธอมานอนกับฉันด้วย"ต้นอ้อชะงักกับคำพูดของเพื่อนรัก ซึ่งมันก็จริงอย่างอย่างที่นารีว่าอัคคีคงไม่ยอมให้เธอออกห่างไกลหูไกลตา ที่เธอมารับนารีได้ในวันนี้ก็เพราะชายหนุ่มมีประชุมสำคัญ"ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันดูแลตัวเองได้ว่าแต่เธอเถอะ เรื่องชุดเตรียมพร้อมเสร็จแล้วใช่ไหม""เรื่องชุดเจ้าสาวคุณแม่ของคุณอัคคีเป็นคนจัดเตรียมให้ ส่วนเรื่องชุดเพื่อนเจ้าสาวทั้งตอนเช้าและตอนเย็นฉันจัดการเตรียมไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว"นารีพยักหน้ารับรู้สองเพื่อนสาวนั่งคุยจนเวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมงต้นอ้อก็เป็นฝ่ายขอตัวกลับเพราะใกล้จะถึงเวลาเลิกงานของอัคคี"ถ้ามีอะไรก็รีบโทรหาฉันได้เลยนะ""โอเค เดินทางปลอดภัยนะ"สองเพื่อนสาวโบกมือลาด้วยสีหน้ามีรอยยิ้มนารีเดินเข้ามาในห้องนอน ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัวทางเดียวที่จะช่วยเธอได้คือการได้อาบน้ำชำระร่า
"พ่อขอให้ลูกทั้งสองครองคู่กันอย่างมีความสุข หนักนิดเบาหน่อยก็ขอให้อภัยซึ่งกันและกัน อยู่ครองคู่ไปนานแสนนานจนยามแก่เฒ่า""ขอบคุณค่ะ""ขอบคุณครับ"คู่บ่าวสาวก้มกราบลงบนปลายเท้าของบิดา "ส่วนแม่ก็ขอให้ลูกทั้งสองครองรักกันอย่างยาวนาน ถ้าหากวันไหนมีเรื่องที่ทำให้ทั้งสองไม่เข้าใจกันก็ขอให้ทั้งสองลองหันหน้าเข้าหาเพื่อปรับความเข้าใจ อย่าได้ดึงใครเข้ามาทำลายความรักของลูกทั้งสองคนได้""...""แล้วอีกอย่างนะ เมฆา"คุณหญิงเปรมสุดาหันมามองหน้าลูกชายคนโตด้วยแววตาจริงจัง"ครับคุณแม่""แม่อยากอุ้มหลาน"ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มก่อนชายหนุ่มจะหันไปมองหน้าภรรยาคนสวยด้วยแววตาหวานเชื่อม"เดือนหน้าคุณพ่อกับคุณแม่รอรับฟังข่าวดีได้เลยครับ"ชายหนุ่มคุยโม้เพราะเขามั่นใจในฝีมือของตัวเองมากพอ"ให้มันแน่เถอะไอ้เสือ ตอนนี้พ่อกำลังรอฟังข่าวดีจากคู่ของแกกับหนูนารีอยู่ อย่ายอมแพ้คู่ของเจ้าอัคคีมันล่ะ""รอรับขวัญหลานแฝดได้เลยครับพ่อ"เพียะ"แฝดอะไรกันค่ะ แค่คนเดียวยังไม่มีน้ำยา"นารีอดหมั่นไส้ไม่ได้กับความโอ้อวดของสามี"ฮ่า ๆ เอาล่ะ พ่อกับแม่ต้องขอตัวก่อน เชิญลูกสองคนตามสบายเลยนะ""อย่าลืมนะเมฆา แม่ขอหลานสาว""จัดไปแบบคูณสองเลยค
"เป็นยังไงบ้างเมื่อคืน หนักเลยใช่ไหม"นารีถามต้นอ้อเมื่อทั้งคู่เดินลงมาจากห้องพักปล่อยให้สองชายหนุ่มได้พักผ่อน นารีกวาดสายตาดูสภาพของต้นอ้อซึ่งดูอิดโรยตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยรักและไหนจะลักษณะท่าทางการเดินแปลก ๆ"ทั้งคืน ระบบไปหมดทั้งตัว""ไม่ต่างกัน"สองสาวอยู่ในชุดว่ายน้ำเซ็กซี่นั่งลงบนเก้าอี้อาบแดดข้างสระว่ายน้ำของโรงแรมในเวลาเกือบเที่ยง ดวงตากลมโตซุกซนของทั้งคู่กวาดมองหุ่นล่ำกล้ามแน่นน่ากินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ"เมื่อคืนคุณอัคคีไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน กว่าจะได้นอนก็เกือบสว่าง"ต้นอ้อบ่นอุบ ศึกรักของชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกอ่อนแรงแต่ก็ยังสามารถปลีกตัวออกมาจากห้องพักได้ เพราะคืนนี้เธอคงได้รับแรงกระแทกอันหนักหน่วงจากเขาอีกเป็นแน่"ของเธอแค่เกือบ แต่ของฉันนี่สิ เช้าตรู่เลยจ้า""แล้วเธอมีแรงลุกขึ้นมาชวนฉันมาว่ายน้ำอีก?""เปล่า ฉันก็แค่ชวนเธอมานั่งพักเพื่อผ่อนคลาย เธอคิดเหรอว่าคืนนี้สองหนุ่มจะปล่อยให้เราสองคนได้ก้าวขาลงจากเตียง"เสียงหวานเอ่ยพูดกับเพื่อนสาว แต่สายตาของนารีกำลังไล่มองตามแผ่นหลังแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินผ่านไป"น้อย ๆ หน่อย เดี๋ยวคุณเมฆามาเห็นเข้า
ตับ! ตับ! ตับ!ร่างของทั้งสองไร้ซื้อเสื้อผ้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ในเวลาค่ำ แรงกระหน่ำซอยยังคงถี่ยิบเรียกเสียงครวญครางจากทั้งสองได้เป็นอย่างดีแม้เวลาจะผ่านมาหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าทั้งคู่จะหยุดโรมรัน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรับผลัดกันรุกอย่างไม่มีใครยอมใครแม้จะเสียเรี่ยวแรงไปมากแต่ความต้องการอันเปี่ยมล้นก็ไม่สามารถทำให้ทั้งคู่หยุดกิจกรรมนี้ได้"อ๊าส์ คุณเมฆาขา นารีเสียวไม่ไหวแล้ว อ๊าย"เสียงหวานร้องบอกอีกทั้งยังเด้งเอวสวนลำกายซึ่งกำลังขยับเข้าออกในช่องทางรักเปียกชื้นของเธออย่างดุดัน"ผัวก็เสียวเหมือนกันครับเมีย อ๊าส์ เอามันเป็นบ้า""แรง ๆ เลยค่ะ เมียรับไหว กระแทกแรง ๆ เลย"ตับ! ตับ! ตับ!"แบบนี้แรงพอไหมครับ อ๊าส์ ซี๊ด"คำขอของหญิงสาวชายหนุ่มยอมทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน ฝ่ามือประคองร่างเด้งสะโพกสอดลำกายเข้าใส่จากทางด้านหลังอย่างดุเดือดเผ็ดมัน"โอ้ว ซี๊ด"หญิงสาวครางเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มตอบแทนเธออย่างถึงอกถึงใจ ก่อนเธอจะจัดการดันร่างออกพลิกตัวของชายหนุ่มให้นอนราบลงบนเตียง เพียงแค่เสี้ยววินาที นารีปีนขึ้นไปนั่งคร่อมจัดการกดสะโพกครอบครองแก่นกาย"โอ้ว คนดี"เมฆาครวญครางด้วยความเ
"แม่ดีใจด้วยนะลูก ที่หนูกับลูกชายของแม่ตกลงปลงใจที่จะร่วมสร้างครอบครัวด้วยกัน""พ่อก็เหมือนกัน ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าลูกชายของพ่ออย่างเมฆาคิดจะสร้างครอบครัวเหมือนกับคนอื่นเขา พ่อต้องขอบคุณหนูนารีมากนะที่เข้ามาทำให้ลูกชายของพ่อกับแม่ได้รู้จักกับคำว่าความรัก"สองสามีภรรยาอย่างคุณรังสรรค์และคุณหญิงเปรมสุดารู้สึกยินดีกับความรักของทั้งคู่ ทั้งสองอ้าแขนต้อนรับนารีให้เข้ามาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน"หนูต้องขอขอบคุณ คุณพ่อและคุณแม่มาก ๆ เลยนะคะที่ทั้งรักและเอ็นดูหนู"ฝ่ามือคู่เล็กเย็นเฉียบแต่ก็มีฝ่ามือใหญ่ของเมฆาคอยกอบกุมให้ความอบอุ่นอยู่ไม่ห่าง ภาพที่ทั้งคู่หันมาส่งยิ้มให้กับเป็นภาพที่น่ายินดีสำหรับคนที่ได้พบเห็น"แล้วนี่จะจัดงานแต่งกันเมื่อไหร่ ให้แม่ช่วยไปดูฤกษ์ให้เอาไหม""เอาตามที่คุณแม่กับนารีเห็นสมควรเลยก็ได้ครับ ผมยังไงก็ได้""...""คนดีอยากจัดงานแบบไหนบอกผมได้เลยนะ ผมพร้อมที่จะทำให้คุณทุกอย่าง"คุณรังสรรค์หันไปมองหน้าภรรยาคู่ชีวิตเมื่อท่านได้ฟังน้ำเสียงอ่อนโยนบวกกับการเอาใจใส่ของลูกชายซึ่งไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยได้รับนอกเสียจากคนในครอบครัว"นารียังไงก็ได้ค่ะ หนูแล้วแต่คุณแม่""พูดแล้วนะ
"สวัสดีค่ะคุณเมฆา"เสียงพนักงานสาวกล่าวทักทายลูกชายของประธานบริษัทใหญ่พ่วงด้วยตำแหน่งลูกชายเจ้าของร้านจิวเวลรี่แห่งนี้"แหวนที่สั่งทำได้หรือยัง""เสร็จแล้วค่ะ รอสักครู่นะคะ"พนักงานกระตือรือร้นรีบเข้าไปนำแหวนเพชรซึ่งชายหนุ่มได้จัดการสั่งทำเอาไว้มาให้เจ้าตัวได้เชยชม"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม"นารีเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองดูรอบร้านซึ่งเต็มไปด้วย เพชร อัญมณีราคาแพงที่เธอไม่มีปัญญาซื้อมัน"ผมขอร้องล่ะคนดี เลิกแทนตัวเองแบบนี้สักทีได้ไหม"เธอไม่สนใจคำพูดของเขา นารีหันมองไปทางอื่นก่อนที่เธอจะไปสะดุดตาเข้ากับกับสร้อยทองคำขาวมีจี้เพชรรูปหัวใจ ซึ่งสิ่งที่เธอกำลังสนใจอยู่ในสายตาของเมฆาทั้งหมด"แหวนที่คุณเมฆาสั่งทำได้แล้วค่ะ"ผู้จัดการร้านเป็นคนนำแหวนเพชรมาให้เมฆาด้วยตนเอง แหวนเพชรน้ำงามสีขาวถูกเจียระไนอย่างประณีตจากชั่งฝีมือดี แหวนวงนี้มีมูลค่ามหาศาลตามความสวยงามของมันซึ่งเขานั้นได้ทุ่มทุนก้อนใหญ่ด้วยความเต็มใจดวงตาคมกริบสีเข้มมีความพึงพอใจเมื่อได้เห็นผลงานที่เขาเป็นคนออกแบบจัดการเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และตอนนี้มันก็ได้มาอยู่ตรงหน้าเขาเรียบร้อย"นี่ค่ะ""ครับ"เมฆาดึงแหวนเพชรวงสวยออกมาจากกล่อง เขาคุกเข่าลงนั
"เอาชุดทั้งหมดนี้ แล้วให้คนจัดส่งไปตามที่อยู่นี้""ค่ะ คุณเมฆา"พนักงานสาวรีบตอบรับก่อนลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้าเดินโอบร่างอ่อนแรงของหญิงสาวออกมา ใบหน้าสวยแสดงถึงความเหนื่อยล้าเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ช่วงล่างของเธอได้ถูกเมฆาจัดหนักจัดเต็มจนขาสั่น"ให้ผมอุ้มไหมครับ""พอเลยค่ะ คืนนี้นารีไม่ให้คุณทำอะไรแบบนี้แล้ว""ได้ยังไงกันครับ ผมยังไม่...""ไม่อะไรคะ"น้ำเสียงเรียบนิ่งของหญิงสาวทำเอาเมฆารีบปิดปาก ดวงตาคมกริบคู่นั้นทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มันขัดใจเธอ"คืนนี้ผมจะให้นารีได้นอนพักก็ได้""มันก็คงต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยให้นารีนอนพักเห็นทีทริปไปเที่ยวก็คงได้ล่ม"ช่วงล่างของเธอถูกใช้งานหนักติดต่อกันหลายวัน น้ำเมือกใสที่เขาปลดปล่อยเข้าใส่ช่องทางรักของเธอนั้นยังคงเอ่อนองอยู่ภายด้านในทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว"นารีอยากเข้าห้องน้ำค่ะ""เชิญทางนี้ครับคนสวยของผม"เมฆาเดินโอบร่างเพรียวบางของหญิงสาวไปยังทิศทางของห้องน้ำโดยที่มีสายตาคู่หนึ่งคอยมองตามแผ่นหลังของทั้งคู่อยู่ไม่ไกล"คุณรอนารีอยู่ตรงนี้นะคะ"เมฆาพยักหน้าเขาปล่อยให้เธอได้เข้าไปจัดการธุระภายในห้องน้ำตามลำพังแกร๊กห
"ขับรถดี ๆ สิคะ"เสียงหวานต่อว่าในขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่บนรถในระหว่างการเดินทางไปห้างสรรพสินค้านารีในตำแหน่งคนนั่งข้างคอยหลีกเลี่ยงฝ่ามือใหญ่ซึ่งมักจะเข้ามาจับลูบคลำไปตามร่างกายของเธออยู่เป็นประจำ"คุณเมฆา อย่าเล่นสิคะ""ผมแค่อยากอยู่ใกล้นารี""ตอนนี้เราสองคนตัวก็แทบจะติดกันอยู่แล้วนะคะ พอเลยนารีไม่เล่นกับคุณด้วยแล้ว"ใบหน้าสวยเริ่มงองำเมื่อชายหนุ่มเอาแต่เล่นจนไม่ระวังในขณะที่เขากำลังขับรถ"ผมไม่เล่นแล้วก็ได้ คุณอย่าโกรธผมเลยนะครับ"เมฆาประสานฝ่ามือใหญ่เข้าหาฝ่ามือเรียวสวย ความอบอุ่นแผ่ซ่านทำให้นารีคลี่ยิ้มออกมาตั้งแต่ที่เธอได้รู้จักกับเมฆาเขาทำให้เธอมีความสุขอยู่เสมอ เธอสามารถยิ้มได้ทุกครั้งยามเมื่ออยู่ใกล้ อัตราหัวใจที่เต้นแรงมันกำลังบอกว่าเธอนั้นได้ตกหลุมรักชายหนุ่มเป็นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมฆาเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ทำให้เธอรู้สึกขาดหาย เขาทำให้ชีวิตของเธอกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้ทั้งคู่จะรู้จักกันภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ความสัมพันธ์ ความรู้สึกของเขาและเธอนั้นได้เดินทางข้ามผ่านกันไปไกล ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ปล่อยตัวปล่อยใจ ปล่อยร่างกายให้เขาได้เชยชมห้างสรรพสินค้า"จะซื้อเสื้อผ้า
เช้าอันแสนสดใสปลุกให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น ร่างกายของเธอรู้สึกปวดเมื่อยทันทีเมื่อเธอขยับตัว เพราะเมื่อคืนกว่าเมฆาจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระเวลาก็ผ่านเข้าสู่วันใหม่ไปหลายชั่วโมง"หายไปไหนนะ"หญิงสาวกวาดสายตามองหาร่างสูงใหญ่เมื่อเธอไม่เห็นเขานอนอยู่บนเตียง พลันหูของเธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังมาจากทางด้านนอก นารีจึงไม่รอช้ารีบก้าวขาลงจากเตียงตอนนี้เธอรู้สึกเหนียวไปทั่วทั้งตัวต้องการอาบน้ำชำระร่างกายอย่างเร่งด่วน"ฉันจะเดินทางไปพักผ่อนกับคุณนารี ถ้ามีงานอะไรด่วนนายก็จัดการแทนฉันก็แล้วกัน""ได้ครับคุณเมฆา""เรื่องภายในบริษัทคุณพ่อท่านจะเข้ามาช่วยดูแลก่อนในตอนที่ฉันไม่อยู่ ฝากนายดูแลท่านด้วย""ได้ครับ""ออกไปได้"ลูกน้องคนสนิทรับคำสั่งจากเจ้านายก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักของโรงแรมร่างสูงใหญ่มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันท่อนล่างเอาไว้หันกลับมาสนใจกับกล่องใส่อาหารตรงหน้า หลังจากจัดการเรื่องอาหารมื้อเช้าเสร็จเขาก็รีบถือถุงเสื้อผ้าและของใช้เข้าไปในห้องนอนแกร๊ก"ตื่นนานแล้วเหรอครับ""ตื่นได้สักพักแล้วค่ะ"เป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ ตามเนื้อตัวของเธอมีหยดน้ำเกาะไปตามร่างกายยิ่งทำให้ชวนมองมาก
ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน มีสองร่างกำลังนอนกันกลมอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ ร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่มีผ้าห่มผืนใหญ่ปกคลุมเอาไว้ภายในห้องนอนยังคงมืดทึบเมื่อมีผ้าม่านสีดำผืนใหญ่คอยบดบังแสงของดวงอาทิตย์จากภายนอกไม่ให้สาดส่องเข้ามา"อื้อ"ร่างเล็กส่งเสียงครางในลำคอพลางขยับตัวเข้าหาความอบอุ่นจากอ้อมแขนแกร่ง เพียงแค่คนในอ้อมกอดขยับตัวก็ทำเอาชายหนุ่มผู้มีประสาทสัมผัสดีเปิดเปลือกตาขึ้นมองก็เห็นร่างของนารีซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขา มุมปากหยักกระตุกยิ้ม ใบหน้าสวยใสไร้เครื่องสำอางวางแนบไปกับแผ่งอกแกร่งโดยมีท่อนแขนของเขาใช้แทนหมอนเพื่อให้เธอได้รองหนุนนอนมาตลอดทั้งคืนยามเธอตื่นก็ไม่ต่างอะไรจากแม่เสือสาวที่ทำให้เขากระวนกระวายใจได้ตลอดเวลา และยามเมื่อเธอหลับตานารีก็ไม่ต่างอะไรจากลูกแมวตัวน้อยที่คอยทำให้เขาลุ่มหลง เอ็นดูเธอตลอดเวลายิ่งกวาดสายตามองใบหน้าสวย ยิ่งทำให้เมฆาตระหนักได้ว่าเธอคือสิ่งที่มีค่าที่เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอหายออกไปจากชีวิตของตัวเองโดยเด็ดขาด ยิ่งเข้าใกล้เธอยิ่งทำให้เขาถลำลึกมอบหัวใจไปให้เธอจนหมดทั้งดวง เขารู้สึกหึง รู้สึกหวงยามเมื่อเธอเข้าใกล้หรือส่งยิ้มให้ชายอื่นใด ความไม่พึ