พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ
"ต้นนี้หมดแล้วครับคุณนารี"เสียงเข้มของคนงานตัดทุเรียนดังขึ้นมาจากบนต้นทุเรียน นารีเงยหน้ามองพลางใช้หลังมือปาดเหงื่อตามกรอบหน้าสวยก่อนจะวางกระสอบสีน้ำตาลเข้มลงกับพื้น วันนี้เธอตื่นแต่เช้าตรู่และไม่รอช้ารีบต่อสายให้คนงานกรีดยางมาช่วยตัดทุเรียนโดยมีเธออาสาเป็นคนยืนรับลูกทุเรียนอยู่ใต้โคนต้น ทุเรียนจำนวนหลายร้อยลูกถูกวางเรียงรายรอให้พ่อค้ามารับ ขโมยแถวนี้ยิ่งชุมยามฤดูผลไม้คนไร้ที่พึ่งพาเสาะแสวงหาลักขโมยเล็กขโมยน้อยตามบ้านเรือนเพื่อนำเอาไปขาย ซึ่งช่วงนี้ทุเรียนราคาโลละเป็นร้อยย่อมเป็นที่หมายปองของพวกหัวขโมยธรรมดา นารีจึงใช้เวลาว่างโทรเรียกคนงานของตัวเองให้มาช่วยเพื่อจะได้เสร็จไว ๆ "ฉันฝากพวกนายจัดการทางนี้ต่อด้วยนะ" "ได้ครับคุณนารี"เหล่าคนงานต่างพากันแยกย้ายไปทำตามหน้าที่ ส่วนนารีก็พาร่างอันเหนื่อยหอบเดินกลับมาที่บ้าน หญิงสาวสวมชุดเสื้อและกางเกงขายาวแปลงร่างเป็นชาวสวนเดินกลับมาถึงบ้านไม้ ก็เห็นร่างสูงใหญ่ของอัคคีและเมฆากำลังยืนอยู่ตรงบันไดไร้เงาของต้นอ้อเพื่อนรัก "อรุณสวัสดิ์ครับคุณนารี" "อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณอัคคี ตื่นกันนานแล้วเหรอคะ" "พึ่งตื่นครับ แล้วนี่คุณนารีหายไปไหนมาล่ะครับ"หญิงสาวถอดรองเท้าบูตคู่เล็กวางลงข้างบันได เธอเงยหน้ามองพลางส่งยิ้มหวานให้กับทั้งสอง "นารีไปช่วยคนงานตัดทุเรียนในสวนมาค่ะ"สองหนุ่มตาลุกวาวเมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาว "คุณปีนขึ้นไปบนต้นเองเลยเหรอ"เมฆาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว เขารู้สึกทึ่งกับความสามารถเกินกว่าที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอจะทำได้ "เปล่าค่ะ นารีแค่รอรับลูกอยู่ใต้โคนต้น ว่าแต่คุณสองคนหิวกันแล้วหรือยังคะ" "ยังครับ ปกติแล้วพวกเราสองคนไม่ค่อยทานอาหารเช้า" "แต่อาหารเช้ามีประโยชน์ต่อร่างกายนะคะ ว่าแต่ยัยต้นอ้อไปไหนเสียล่ะคะหรือว่ายังไม่ตื่น" "ครับ ยังนอนหลับอยู่บนห้อง"นารีพยักหน้ารับรู้ก่อนที่เธอจะขอตัวขึ้นไปบนบ้าน "เป็นไงบ้าง เมื่อคืนได้คุยกันบ้างยัง"อัคคีมองแผ่นหลังเล็กของนารีเดินหายขึ้นไปบนบ้านก่อนจะหันมามองหน้าพี่ชายของตัวเองซึ่งยังคงมองตามแผ่นหลังเล็กของหญิงสาว "หึ" "ถ้าไม่จริงใจก็หยุด ไม่อยากให้ต้นอ้อต้องคิดมาก"อัคคีรีบห้ามปรามเพราะเขารู้นิสัยของพี่ชายดีที่สุด เลว เลวมาก เลวระยำ สามคำนี้เขาขอมอบให้กับเมฆาผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาเป็นที่ดึงดูดให้ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา "ก็ต้องดูกันไปก่อน ไม่แน่เธออาจจะเป็นตัวจริงก็ได้" "หึ สาธุ" "นารี พอจะมีที่เที่ยวแนะนำไหม"ต้นอ้อถามขึ้นหลังจากทั้งสี่รับประทานอาหารเช้าเสร็จ "มีสิ แต่ฉันไม่มีเวลาว่างไปเที่ยวด้วยหรอกนะ" "ทำไมล่ะ" "ฉันต้องคุมคนงาน อีกเดี๋ยวพ่อค้าก็จะมารับทุเรียนแล้ว แกพาคุณทั้งสองเขาไปเที่ยวเถอะ"คำตอบของนารีทำเอาต้นอ้อหน้างอเพราะเธออยากจะพาเพื่อนคนสวยออกไปเที่ยวด้วย "แกไปกับพวกเราด้วยไม่ได้เหรอ" "ต้นอ้อครับ ไม่เอาสิไม่งอแง คุณนารีเธอต้องทำงาน" "แต่ว่า"ริมฝีปากสีสวยที่กำลังจะอ้าจำเป็นต้องหุบลงเมื่อเห็นแววตาและสีหน้าลำบากใจของเพื่อน "ขอโทษนะที่เอาแต่ใจ" "ไม่เป็นไรเลย"นารีเข้าใจในความรู้สึกของต้นอ้อเป็นอย่างดีก่อนที่ทั้งสองจะเปลี่ยนเรื่องคุย นารีบอกสถานที่เที่ยวให้กับต้นอ้อซึ่งดูเหมือนว่าเพื่อนรักของเธอจะสนใจเป็นพิเศษ "น้ำใสน่าเล่นมาก อัคคีคะ เราไปเที่ยวที่นี่กันดีกว่านะคะ"ต้นอ้อเอ่ยชวนว่าที่สามีด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพลางยื่นรูปถ่ายบนหน้าจอโทรศัพท์ไปให้ชายคนรักได้ดู "นะคะที่รัก อ้ออยากไปเที่ยว" "ตามใจที่รักเลยครับ" "ที่รักของอ้อน่ารักที่สุดเลยค่ะ จุ๊บ"นารียิ้มให้กับความน่ารักของคู่รัก เธอปล่อยให้ทั้งสามได้พูดคุยกันส่วนเธอนั้นขอตัวเก็บจานอาหารกลับเข้ามาไว้ในครัว กึก สองเท้าของนารีที่กำลังก้าวออกมาจากครัวหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าใครกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ใกล้กับบันได หัวใจดวงน้อยเต้นสั่นไม่เป็นจังหวะท้องร้อนรู้สึกวูบวาบเมื่อเห็นว่าเมฆากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้และเขาสวมใส่แค่เพียงกางเกงขาสั้นแนบลำกายแค่เพียงตัวเดียว อึก นารีกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก เธอพยายามไม่จ้องมองไปยังจุดกลางลำกายนั้นแม้ว่ามันจะเด่นสะดุดตาของเธอก็ตาม "คุณเมฆาไม่ได้ไปกับต้นอ้อและคุณอัคคีเหรอคะ"เธอข่มใจเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงรถยนต์ขับออกไปคิดว่าเขาจะตามทั้งสองไปด้วยกันเสียอีก "เปล่าครับ พอดีผมขี้เกียจไปเป็นข้างขวางคอ"นารีพยักหน้า เมฆามองหน้าสวยด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เขาหยัดกายลุกขึ้นยืนยิ่งทำให้กางเกงตัวบางแนบไปกับท่อนขาใหญ่ ลำกายยาวเด่นชัดจนทำให้นารีต้องรีบก้มหน้าเนื้อตัวสั่นเทาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มก้าวขาเดินเข้ามาใกล้เธออย่างเชื่องช้า "ร้อนเหรอครับ เหงื่อออกเยอะเชียว"น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นใกล้กับใบหูขาวทำเอานารีสะดุ้ง ลมหายใจตกกระทบใบหน้าทำให้เธอเงยหน้ามองเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ "นะ..นารีขอตัวเข้าไปในสวนก่อนนะคะ" "เดี๋ยวสิครับ"ร่างเล็กของนารีสั่นเข้าไปใหญ่เมื่อฝ่ามือใหญ่ของเขาคว้าข้อมือเล็กของเธอเอาไว้ ลมหายใจของเธอติดขัดเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวของเธอนั้นดันไปสัมผัสเข้ากับซิกแพคบนหน้าท้องของเขา เมฆานึกสนุกเมื่อเห็นร่างของนารีสั่นเป็นเจ้าเข้า เขามองเธอด้วยแววตาเจ้าเล่ห์พลางบังคับให้ฝ่ามือของเธอนั้นสัมผัสบริเวณหน้าท้องซึ่งอัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ซิกแพคเรียงตัวสวยงาม "คะ...คุณเมฆา" "ว่าไงครับ" "ปะ...ปล่อยมือของนารีก่อนจะได้ไหมคะ" "ทำไมล่ะครับ คุณไม่ชอบเหรอ"เขายังคงไม่หยุดบังคับมือเธอ เขาคงสนุกกับการที่ได้แกล้งเธอแบบนี้สินะ พรึ่บ "อะ...อ๊าส์"ฝ่ามือเล็กอาจหาญสัมผัสเข้ากับท่อนลำกายซึ่งเริ่มขยายใหญ่ตามอารมณ์ของเมฆา นารีหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าเธอมองหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาที่ท้าทายพลางขยับฝ่ามือถูกไถไปกับลำกายใหญ่ของเขา "อย่าพึ่งรีบสิคะ มันยังไม่ถึงเวลาของเราสองคน"เธอขยับกายเบียดเข้าไปหาร่างใหญ่ ท่อนแขนแกร่งไปด้วยมัดกล้ามโอบร่างของเธอเอาไว้ให้แนบชิดไปกับร่างกายสูงใหญ่ของเขา "ซี๊ด และเมื่อไหร่ล่ะครับ" "ยังบอกไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าอยากกินของอร่อยต้องอดใจรอสักหน่อยนะคะ" "อย่านานนักนะครับ ผมกลัวว่าจะอดใจไม่ไหว"แววตาของเขาดั่งเสือร้ายจ้องตะครุบเหยื่อตรงหน้าโดยที่เมฆาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า นารีนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับสิงห์ร้าย เพราะถ้าเธอไม่เด็ดจริงคงไม่สามารถมัดใจอดีตสามีอย่างเข้มได้อยู่หมัด"ส่งมาเลยค่ะ"ชายหนุ่มในชุดลำลองธรรมดายืนมองหญิงสาวซึ่งกำลังขนย้ายทุเรียนจำนวนหลายร้อยลูกขึ้นรถกระบะ เธอทำมันด้วยความคล่องแคล่วและชำนาญจนเขาเองยังรู้สึกทึ่งไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะมีความสามารถถึงขนาดนี้เธอทำงานหนักจริงพอ ๆ กับผู้ชายอกสามศอกอย่างพวกเขา แม้เธอจะเหนื่อยมีเม็ดเหงื่อออกตามร่างกายแต่เธอก็ไม่คิดจะบ่นเลยสักคำติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดเสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นทำให้เมฆาที่กำลังยืนดูหญิงสาวทำงานรู้สึกหัวเสียเมื่อมีคนโทรมาขัดจังหวะ"มีอะไร"น้ำเสียงห้วน ๆ กรอกตามสายเมื่อเห็นว่าอัคคีน้องชายตัวดีของเขาโทรมา เมฆาเดินเลี่ยงออกมาเพื่อไม่ให้การคุยโทรศัพท์ของเขารบกวนเวลาทำงานของเธอ"เป็นยังไงบ้าง ทางนั้น""ก็ไม่ยังไง แต่ก็ไม่ได้เลวร้าย""อย่าบอกนะว่ามึงจับคุณนารีกดลงบนเตียงไปแล้ว"อัคคีตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจทำให้เมฆาถึงกับกลอกตามองบน"ยัง""โล่งไป""มึงจะกลัวอะไร""หึ มึงนี่แหละตัวดีที่พวกกูต้องกลัว อย่าพึ่งรีบทำอะไรล่ะ เธอไม่ใช่คนที่มึงจะเล่น ๆ ด้วยนะ"เมฆารับฟังในสิ่งที่น้องชายพูด พลางหันหน้าไปมองยังร่างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อของนารีซึ่งเธอกำลังยืนช่วยลูกน้องคนงานขนย้ายทุเรียนขึ้นท้ายรถ
"ไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เลยอะ"เสียงเล็กงอแงคล้ายกับเด็กของต้นอ้อดังขึ้นในระหว่างที่ทั้งสี่กำลังนั่งทานอาหารเย็นท่ามกลางบรรยากาศอันแสนร่มรื่นของบ้านไม้หลังใหญ่ ใบหน้าสวยของว่าที่เจ้าสาวเริ่มหงิกงอเมื่อวันพรุ่งนี้เธอต้องเดินทางกลับเพื่อเตรียมตัวไปจัดงานแต่งงานซึ่งจะถูกจัดขึ้นภายในอีกไม่ช้า "ฉันยังไม่หายคิดถึงนารีเลย""ไม่งอแงสิครับที่รัก""ก็ต้นอ้อยังอยากอยู่เที่ยว ยังไม่หายคิดถึงเพื่อนเลยนี่"นารีส่ายหน้าไปมาเมื่อเพื่อนสาวเกิดอาการงอแงเหมือนเด็กน้อยไม่ได้ดั่งใจ"เอาเป็นว่าถ้าฉันจัดการธุระทางนี้เสร็จจะรีบขึ้นไปหาแกที่กรุงเทพดีไหม""แต่""ไม่เอาสิต้นอ้อ เกรงใจคุณอัคคีกับคุณเมฆาเขาบ้าง เขาคงต้องรีบกลับไปทำงาน"ต้นอ้อชะงักว่าที่เจ้าสาวเม้มริมฝีปากแน่น ต้นอ้อพยักหน้าจำยอมแม้ว่าอันที่จริงแล้วเธออยากจะอยู่เที่ยวที่นี่ต่ออีกสักสองสามวัน"ไว้ฉันจะรีบขึ้นไปหาแกที่กรุงเทพนะ""โอเค ว่าแต่แกเถอะจะไปยังไง""แกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันหาทางไปเองได้""นั่งเครื่องเอาไหม เดี๋ยวฉันออกค่าตั๋วให้""มะ...""เดี๋ยวพี่ให้คนมารับคุณนารีเอง"น้ำเสียงเรียบนิ่งของเมฆาดังขึ้นทำให้นารีซึ่งกำลังอ้าปากเตรียมปฏิเสธเป็นอ
เมฆากัดฟันข่มอารมณ์เมื่อต้องจากลาหญิงสาวกลับมาทำหน้าที่ของเขาในช่วงเช้าของวันต่อมา ซึ่งไม่ต่างจากนารีเธอยืนชะเง้อคอมองรถคันหรูของเพื่อนสาวขับออกไป'ฉันจะรอเธอนะนารี'นี่คือคำสุดท้ายที่ต้นอ้อได้พูดกับเธอเอาไว้ก่อนจะก้าวขาขึ้นรถแล้วขับออกไปหญิงสาวใจวูบโหวง เธอหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปบนบ้านเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเพราะยังมีงานที่เธอยังต้องทำต่อ แต่เมื่อเธอก้าวขาผ่านห้องนอนของเมฆา สองฝ่าเท้าเรียวของหม้ายสาวเป็นอันต้องหยุดชะงักดวงตากลมโตจ้องมองไปยังบางสิ่งบางอย่างที่วางอยู่บนเตียงนอนซับในสีดำของบุรุษวางอยู่บนเตียงนอนสีขาวสะอาดตาราวกับว่าอีกฝ่ายต้องการวางให้เด่นสะดุดสายตาเพื่อง่ายต่อการมองเห็น คราบน้ำสีขาวขุ่นยังสดใหม่ราวกับว่ามันพึ่งจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อในไม่นานมานี้ทำเอานารีใจเต้นไม่เป็นจังหวะ กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ลอยโชยเข้ามาแตะจมูกสาวทำเอาหม้านสาวใจเต้นผิดจังหวะเธอกำลังคิดว่าเมฆากำลังทิ้งสิ่งของชิ้นนี้ไว้ให้เธอดูต่างหน้า เช่นเดียวกับช่องทางติดต่อที่เขาได้ขอเธอเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนตึก ตึก ตึกเสียงรองเท้าหนังสีดำดังกระทบพื้นยามเมื่อผู้สวมใส่ก้าวขาเดินเข้ามาภายในบริษัทยักษ์ให
เพียงแค่นิ้วเรียวลากผ่านกลีบผกาก็ทำเอาหญิงสาวต้องเปล่งเสียงออกมาด้วยความเสียวซ่าน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกของชายหนุ่มในตอนนี้ที่เขากำลังใช้ฝ่ามือกอบกุมแก่นกายเอาไว้ ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มผ่อนแรงขึ้นตามห้วงอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้น"อะ...อ๊าส์""นะ...นารี ซี๊ด"เสียงครางหวาน ๆ ของเธอมันทำให้เขาแทบบ้า เมฆาหลับตาพริ้มนึกจินตนาการไปถึงเรือนร่างของเธอที่เขาเคยได้เห็น เต้าอวบขาวผ่องเต่งตึงเป็นก้อนมียอดถันสีหวานแปะอยู่อย่างชูชัน ยามเมื่อเขานึกไปถึงตรงนั้นยิ่งทำให้เขาเร่งบังคับฝ่ามือขยับขึ้นลง"คะ...คุณเมฆา""คะ...ครับ""คุณเมฆาขา นารีเสียว"ฟันซี่เล็กขบลงบนริมฝีปากล่างเมื่อปลายนิ้วสวยกำลังนวดคลึงร่องคับแคบจนมีน้ำเมือกใสไหลออกมาติดปลายนิ้ว น้ำเสียงชวนสยิวของเธอนั้นยิ่งทำให้ชายหนุ่มเร่งขยับลำกายจนมีน้ำเมือกใสไหลปริ่มตรงส่วนบริเวณหัวร่างสูงใหญ่เอนกายพิงกับพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามห้วงอารมณ์ เมฆาไม่นึกเลยว่าตัวเองจะต้องมาอดทนกับการรอให้ใครสักคนพร้อมและยินยอมที่จะต้องตกเป็นของเขาอย่างหญิงสาวในสายมาก่อน"ฮึก อ๊าส์"ใบหน้าของชายหนุ่มแดงก่ำ ลำกายยาวใหญ่ของเมฆารู้สึกปวดหนึบราวกับว่าสิ่ง
"ให้ฉันย้ายมาอยู่เป็นเพื่อนไหม"เสียงหวานของต้นอ้อเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งสองย้ายเข้ามาอยู่ในห้องพักของโรงแรมหรูใจกลางเมือง สองเพื่อนสาวนั่งลงบนโซฟาต้นอ้อเป็นฝ่ายเปิดปากถามทันทีเพราะเกรงว่าเพื่อนรักจะกลัวเพราะยังไม่ชินกับที่พัก"เธอพูดเหมือนกับว่าคุณอัคคีจะยอมให้เธอมานอนกับฉันด้วย"ต้นอ้อชะงักกับคำพูดของเพื่อนรัก ซึ่งมันก็จริงอย่างอย่างที่นารีว่าอัคคีคงไม่ยอมให้เธอออกห่างไกลหูไกลตา ที่เธอมารับนารีได้ในวันนี้ก็เพราะชายหนุ่มมีประชุมสำคัญ"ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันดูแลตัวเองได้ว่าแต่เธอเถอะ เรื่องชุดเตรียมพร้อมเสร็จแล้วใช่ไหม""เรื่องชุดเจ้าสาวคุณแม่ของคุณอัคคีเป็นคนจัดเตรียมให้ ส่วนเรื่องชุดเพื่อนเจ้าสาวทั้งตอนเช้าและตอนเย็นฉันจัดการเตรียมไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว"นารีพยักหน้ารับรู้สองเพื่อนสาวนั่งคุยจนเวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมงต้นอ้อก็เป็นฝ่ายขอตัวกลับเพราะใกล้จะถึงเวลาเลิกงานของอัคคี"ถ้ามีอะไรก็รีบโทรหาฉันได้เลยนะ""โอเค เดินทางปลอดภัยนะ"สองเพื่อนสาวโบกมือลาด้วยสีหน้ามีรอยยิ้มนารีเดินเข้ามาในห้องนอน ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัวทางเดียวที่จะช่วยเธอได้คือการได้อาบน้ำชำระร่า
เช้าอันแสนสดใสในสภาพแวดล้อมของคนเมืองกรุงไม่ได้ทำให้นารีรู้สึกหวั่นเลยสักนิด เธอตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนจะรีบอาบน้ำเพราะวันนี้เธอมีนัดกับต้นอ้อเพื่อไปลองชุดเพื่อนเจ้าสาวหญิงสาวหุ่นเพรียวบางมีสัดส่วนที่ลงตัววันนี้นารีเลือดแต่งกายด้วยกางเกงยีนขายาวสีเข้มรัดรูปเธอสวมเสื้อเชิ้ตสีดำช่วยให้ตัดกับผิวขาวผ่องของเธอ ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้นารีซึ่งแต่งตัวเสร็จพอดีต้องรีบเดินไปคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายเมื่อเห็นว่าต้นอ้อเพื่อนรักเป็นคนโทรมา"ฉันอยู่หน้าโรงแรมแล้วนะ""โอเค เดี๋ยวฉันจะรีบลงไป"นารีรีบกดวางสาย เธอคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่ก่อนจะรีบลงไป"ทานอะไรมาหรือยัง""ยังเลย"นารีเอ่ยตอบหลังจากที่เธอก้าวเท้าขึ้นมานั่งภายในรถ โดยการเดินทางครั้งนี้มีบอดี้การ์ดของอัคคีอำนวยความสะดวกคอยขับรถให้ ซึ่งใช้เวลาการเดินทางเพียงไม่กี่นาทีรถคันหรูสีดำขลับก็เคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังหน้าร้านตัดชุดเพื่อนเจ้าสาวการลองชุดเพื่อนเจ้าสาวในครั้งนี้ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดีซึ่งนารีก็รู้สึกพึงพอใจกับชุดที่ต้นอ้อเลือกตัดให้อยู่ไม่น้อยหลังจากจัดการรับชุดเพื่อนเจ้าสาวเสร็จทั้งสองก็รีบมุ่งหน้าไปยังห้
"ว้าว"เสียงอุทานของคนทั้งร้านดังขึ้นเมื่อการแปลงโฉมของหญิงสาวชาวสวนเสร็จสิ้น ต้นอ้อเดินเข้ามาหาเพื่อนสนิทด้วยแววตาตกตะลึงริมฝีปากสวยคลี่ยิ้มกว้างทำเอานารียิ้มเขิน"เธอสวยมากเลยนารี"ต้นอ้อละเมอพูดพลางจ้องหน้าเพื่อนรักด้วยแววตาชื่นชมอย่างไม่ปิดบัง"สวยแบบนี้คนเมฆาหลงแย่เลย""พอเลย หยุดชมได้แล้ว""ก็มันจริงนี่ ถ้าคุณเมฆามาเห็นเธอตอนนี้นะ รับรองว่า...""พอ ๆ "ริมฝีปากสีชมพูพีชเอ่ยห้ามแต่ดวงตากลมโตของนารีกลับเปล่งประกายยามเมื่อนึกถึงชายหนุ่ม เธอเองก็อยากจะรู้ว่าเขาจะมองเธอยังไงเมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของหญิงสาวชาวสวนในครั้งนี้"คุณนารีสวยมากเลยนะคะ จะเป็นอะไรไหมคะถ้าหากทางร้านของเราจะขอถ่ายรูปเอาไว้เป็นการโปรโมท"เจ้าของร้านอย่างลูกปลาตาเปล่งประกายเช่นเดียวกับต้นอ้อ ในมือของเจ้าของร้านถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้"ได้ค่ะ"ต้นอ้อยิ้มรับพลางจัดการโพสต์ท่าให้กับหญิงสาวชาวสวนซึ่งนารีเองก็ไม่ขัด เธอเองก็รู้สึกสนุกที่ได้ทำอะไรแบบนี้"ไว้โอกาสเชิญใหม่นะคะ คุณต้นอ้อ คุณนารี""ค่ะ คุณลูกปลา"สองสาวโบกมือลาเจ้าของร้านหลังจากจัดการจ่ายเงินทุกอย่างเสร็จสิ้น และก็เป็นจริงอย่างที่ต้นอ้อพูด เพียงแค่นารีก้าวเท้
ประตูรั้วเหล็กสูงขนาดสามเมตรเปิดประตูต้อนรับการมากลับมาของว่าที่ลูกสะใภ้คนเล็กและเพื่อนสนิท รถคันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาภายในอาณาเขตของคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูล 'ชัยมงคล'ซึ่งมีหัวเรือใหญ่อย่างคุณ 'รังสรรค์ ชัยมงคล'เป็นเจ้าของธุรกิจหมื่นล้านผู้ประกอบการทางด้าน นำเข้ารถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า โรงแรมห้าดาว ไม่เว้นแม้แต่ร้านอาหาร และธุรกิจอีกมากมายภายใต้การบริหารของ ตระกูลใหญ่ผู้มั่งคั่งอย่าง 'ชัยมงคล' ซึ่งตอนนี้ได้มีลูกชายทั้งสองคนของท่านได้เข้าไปดูแลจัดการบริหารแทนผู้เป็นบิดาซึ่งได้เกษียณตัวเองออกมาปล่อยให้ลูกชายทั้งสองได้ดำรงทำหน้าที่แทนบรืนรถสีดำคันหรูวิ่งเข้ามายอดยังบันไดตรงหน้าประตู สาวใช้ต่างรีบเดินออกมาต้อนรับเมื่อต้นอ้อและนารีก้าวขาเดินลงมาจากรถคันหรู วัตถุดิบที่ทั้งสองไปเลือกซื้อมาจากตลาดถูกส่งต่อไปให้เหล่าแม่บ้านเพื่อนำไปจัดการล้างให้เรียบร้อย"คุณอัคคีกลับมาแล้วหรือยังคะ""ยังเลยค่ะคุณต้นอ้อ ตอนนี้ทั้งคุณอัคคีและคุณเมฆายังไม่มีใครกลับมาเลยค่ะ"หญิงสาวพยักหน้า วันนี้สามีของเธอคงจะกลับดึกเหมือนเช่นเคยเพราะคงต้องอยู่เคลียร์งานให้รีบเสร็จ"แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ล่ะ""คุณท่านท
"พ่อขอให้ลูกทั้งสองครองคู่กันอย่างมีความสุข หนักนิดเบาหน่อยก็ขอให้อภัยซึ่งกันและกัน อยู่ครองคู่ไปนานแสนนานจนยามแก่เฒ่า""ขอบคุณค่ะ""ขอบคุณครับ"คู่บ่าวสาวก้มกราบลงบนปลายเท้าของบิดา "ส่วนแม่ก็ขอให้ลูกทั้งสองครองรักกันอย่างยาวนาน ถ้าหากวันไหนมีเรื่องที่ทำให้ทั้งสองไม่เข้าใจกันก็ขอให้ทั้งสองลองหันหน้าเข้าหาเพื่อปรับความเข้าใจ อย่าได้ดึงใครเข้ามาทำลายความรักของลูกทั้งสองคนได้""...""แล้วอีกอย่างนะ เมฆา"คุณหญิงเปรมสุดาหันมามองหน้าลูกชายคนโตด้วยแววตาจริงจัง"ครับคุณแม่""แม่อยากอุ้มหลาน"ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มก่อนชายหนุ่มจะหันไปมองหน้าภรรยาคนสวยด้วยแววตาหวานเชื่อม"เดือนหน้าคุณพ่อกับคุณแม่รอรับฟังข่าวดีได้เลยครับ"ชายหนุ่มคุยโม้เพราะเขามั่นใจในฝีมือของตัวเองมากพอ"ให้มันแน่เถอะไอ้เสือ ตอนนี้พ่อกำลังรอฟังข่าวดีจากคู่ของแกกับหนูนารีอยู่ อย่ายอมแพ้คู่ของเจ้าอัคคีมันล่ะ""รอรับขวัญหลานแฝดได้เลยครับพ่อ"เพียะ"แฝดอะไรกันค่ะ แค่คนเดียวยังไม่มีน้ำยา"นารีอดหมั่นไส้ไม่ได้กับความโอ้อวดของสามี"ฮ่า ๆ เอาล่ะ พ่อกับแม่ต้องขอตัวก่อน เชิญลูกสองคนตามสบายเลยนะ""อย่าลืมนะเมฆา แม่ขอหลานสาว""จัดไปแบบคูณสองเลยค
"เป็นยังไงบ้างเมื่อคืน หนักเลยใช่ไหม"นารีถามต้นอ้อเมื่อทั้งคู่เดินลงมาจากห้องพักปล่อยให้สองชายหนุ่มได้พักผ่อน นารีกวาดสายตาดูสภาพของต้นอ้อซึ่งดูอิดโรยตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยรักและไหนจะลักษณะท่าทางการเดินแปลก ๆ"ทั้งคืน ระบบไปหมดทั้งตัว""ไม่ต่างกัน"สองสาวอยู่ในชุดว่ายน้ำเซ็กซี่นั่งลงบนเก้าอี้อาบแดดข้างสระว่ายน้ำของโรงแรมในเวลาเกือบเที่ยง ดวงตากลมโตซุกซนของทั้งคู่กวาดมองหุ่นล่ำกล้ามแน่นน่ากินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ"เมื่อคืนคุณอัคคีไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน กว่าจะได้นอนก็เกือบสว่าง"ต้นอ้อบ่นอุบ ศึกรักของชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกอ่อนแรงแต่ก็ยังสามารถปลีกตัวออกมาจากห้องพักได้ เพราะคืนนี้เธอคงได้รับแรงกระแทกอันหนักหน่วงจากเขาอีกเป็นแน่"ของเธอแค่เกือบ แต่ของฉันนี่สิ เช้าตรู่เลยจ้า""แล้วเธอมีแรงลุกขึ้นมาชวนฉันมาว่ายน้ำอีก?""เปล่า ฉันก็แค่ชวนเธอมานั่งพักเพื่อผ่อนคลาย เธอคิดเหรอว่าคืนนี้สองหนุ่มจะปล่อยให้เราสองคนได้ก้าวขาลงจากเตียง"เสียงหวานเอ่ยพูดกับเพื่อนสาว แต่สายตาของนารีกำลังไล่มองตามแผ่นหลังแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินผ่านไป"น้อย ๆ หน่อย เดี๋ยวคุณเมฆามาเห็นเข้า
ตับ! ตับ! ตับ!ร่างของทั้งสองไร้ซื้อเสื้อผ้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ในเวลาค่ำ แรงกระหน่ำซอยยังคงถี่ยิบเรียกเสียงครวญครางจากทั้งสองได้เป็นอย่างดีแม้เวลาจะผ่านมาหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าทั้งคู่จะหยุดโรมรัน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรับผลัดกันรุกอย่างไม่มีใครยอมใครแม้จะเสียเรี่ยวแรงไปมากแต่ความต้องการอันเปี่ยมล้นก็ไม่สามารถทำให้ทั้งคู่หยุดกิจกรรมนี้ได้"อ๊าส์ คุณเมฆาขา นารีเสียวไม่ไหวแล้ว อ๊าย"เสียงหวานร้องบอกอีกทั้งยังเด้งเอวสวนลำกายซึ่งกำลังขยับเข้าออกในช่องทางรักเปียกชื้นของเธออย่างดุดัน"ผัวก็เสียวเหมือนกันครับเมีย อ๊าส์ เอามันเป็นบ้า""แรง ๆ เลยค่ะ เมียรับไหว กระแทกแรง ๆ เลย"ตับ! ตับ! ตับ!"แบบนี้แรงพอไหมครับ อ๊าส์ ซี๊ด"คำขอของหญิงสาวชายหนุ่มยอมทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน ฝ่ามือประคองร่างเด้งสะโพกสอดลำกายเข้าใส่จากทางด้านหลังอย่างดุเดือดเผ็ดมัน"โอ้ว ซี๊ด"หญิงสาวครางเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มตอบแทนเธออย่างถึงอกถึงใจ ก่อนเธอจะจัดการดันร่างออกพลิกตัวของชายหนุ่มให้นอนราบลงบนเตียง เพียงแค่เสี้ยววินาที นารีปีนขึ้นไปนั่งคร่อมจัดการกดสะโพกครอบครองแก่นกาย"โอ้ว คนดี"เมฆาครวญครางด้วยความเ
"แม่ดีใจด้วยนะลูก ที่หนูกับลูกชายของแม่ตกลงปลงใจที่จะร่วมสร้างครอบครัวด้วยกัน""พ่อก็เหมือนกัน ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าลูกชายของพ่ออย่างเมฆาคิดจะสร้างครอบครัวเหมือนกับคนอื่นเขา พ่อต้องขอบคุณหนูนารีมากนะที่เข้ามาทำให้ลูกชายของพ่อกับแม่ได้รู้จักกับคำว่าความรัก"สองสามีภรรยาอย่างคุณรังสรรค์และคุณหญิงเปรมสุดารู้สึกยินดีกับความรักของทั้งคู่ ทั้งสองอ้าแขนต้อนรับนารีให้เข้ามาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน"หนูต้องขอขอบคุณ คุณพ่อและคุณแม่มาก ๆ เลยนะคะที่ทั้งรักและเอ็นดูหนู"ฝ่ามือคู่เล็กเย็นเฉียบแต่ก็มีฝ่ามือใหญ่ของเมฆาคอยกอบกุมให้ความอบอุ่นอยู่ไม่ห่าง ภาพที่ทั้งคู่หันมาส่งยิ้มให้กับเป็นภาพที่น่ายินดีสำหรับคนที่ได้พบเห็น"แล้วนี่จะจัดงานแต่งกันเมื่อไหร่ ให้แม่ช่วยไปดูฤกษ์ให้เอาไหม""เอาตามที่คุณแม่กับนารีเห็นสมควรเลยก็ได้ครับ ผมยังไงก็ได้""...""คนดีอยากจัดงานแบบไหนบอกผมได้เลยนะ ผมพร้อมที่จะทำให้คุณทุกอย่าง"คุณรังสรรค์หันไปมองหน้าภรรยาคู่ชีวิตเมื่อท่านได้ฟังน้ำเสียงอ่อนโยนบวกกับการเอาใจใส่ของลูกชายซึ่งไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยได้รับนอกเสียจากคนในครอบครัว"นารียังไงก็ได้ค่ะ หนูแล้วแต่คุณแม่""พูดแล้วนะ
"สวัสดีค่ะคุณเมฆา"เสียงพนักงานสาวกล่าวทักทายลูกชายของประธานบริษัทใหญ่พ่วงด้วยตำแหน่งลูกชายเจ้าของร้านจิวเวลรี่แห่งนี้"แหวนที่สั่งทำได้หรือยัง""เสร็จแล้วค่ะ รอสักครู่นะคะ"พนักงานกระตือรือร้นรีบเข้าไปนำแหวนเพชรซึ่งชายหนุ่มได้จัดการสั่งทำเอาไว้มาให้เจ้าตัวได้เชยชม"คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม"นารีเอ่ยถามพลางกวาดสายตามองดูรอบร้านซึ่งเต็มไปด้วย เพชร อัญมณีราคาแพงที่เธอไม่มีปัญญาซื้อมัน"ผมขอร้องล่ะคนดี เลิกแทนตัวเองแบบนี้สักทีได้ไหม"เธอไม่สนใจคำพูดของเขา นารีหันมองไปทางอื่นก่อนที่เธอจะไปสะดุดตาเข้ากับกับสร้อยทองคำขาวมีจี้เพชรรูปหัวใจ ซึ่งสิ่งที่เธอกำลังสนใจอยู่ในสายตาของเมฆาทั้งหมด"แหวนที่คุณเมฆาสั่งทำได้แล้วค่ะ"ผู้จัดการร้านเป็นคนนำแหวนเพชรมาให้เมฆาด้วยตนเอง แหวนเพชรน้ำงามสีขาวถูกเจียระไนอย่างประณีตจากชั่งฝีมือดี แหวนวงนี้มีมูลค่ามหาศาลตามความสวยงามของมันซึ่งเขานั้นได้ทุ่มทุนก้อนใหญ่ด้วยความเต็มใจดวงตาคมกริบสีเข้มมีความพึงพอใจเมื่อได้เห็นผลงานที่เขาเป็นคนออกแบบจัดการเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และตอนนี้มันก็ได้มาอยู่ตรงหน้าเขาเรียบร้อย"นี่ค่ะ""ครับ"เมฆาดึงแหวนเพชรวงสวยออกมาจากกล่อง เขาคุกเข่าลงนั
"เอาชุดทั้งหมดนี้ แล้วให้คนจัดส่งไปตามที่อยู่นี้""ค่ะ คุณเมฆา"พนักงานสาวรีบตอบรับก่อนลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้าเดินโอบร่างอ่อนแรงของหญิงสาวออกมา ใบหน้าสวยแสดงถึงความเหนื่อยล้าเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ช่วงล่างของเธอได้ถูกเมฆาจัดหนักจัดเต็มจนขาสั่น"ให้ผมอุ้มไหมครับ""พอเลยค่ะ คืนนี้นารีไม่ให้คุณทำอะไรแบบนี้แล้ว""ได้ยังไงกันครับ ผมยังไม่...""ไม่อะไรคะ"น้ำเสียงเรียบนิ่งของหญิงสาวทำเอาเมฆารีบปิดปาก ดวงตาคมกริบคู่นั้นทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มันขัดใจเธอ"คืนนี้ผมจะให้นารีได้นอนพักก็ได้""มันก็คงต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยให้นารีนอนพักเห็นทีทริปไปเที่ยวก็คงได้ล่ม"ช่วงล่างของเธอถูกใช้งานหนักติดต่อกันหลายวัน น้ำเมือกใสที่เขาปลดปล่อยเข้าใส่ช่องทางรักของเธอนั้นยังคงเอ่อนองอยู่ภายด้านในทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว"นารีอยากเข้าห้องน้ำค่ะ""เชิญทางนี้ครับคนสวยของผม"เมฆาเดินโอบร่างเพรียวบางของหญิงสาวไปยังทิศทางของห้องน้ำโดยที่มีสายตาคู่หนึ่งคอยมองตามแผ่นหลังของทั้งคู่อยู่ไม่ไกล"คุณรอนารีอยู่ตรงนี้นะคะ"เมฆาพยักหน้าเขาปล่อยให้เธอได้เข้าไปจัดการธุระภายในห้องน้ำตามลำพังแกร๊กห
"ขับรถดี ๆ สิคะ"เสียงหวานต่อว่าในขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่บนรถในระหว่างการเดินทางไปห้างสรรพสินค้านารีในตำแหน่งคนนั่งข้างคอยหลีกเลี่ยงฝ่ามือใหญ่ซึ่งมักจะเข้ามาจับลูบคลำไปตามร่างกายของเธออยู่เป็นประจำ"คุณเมฆา อย่าเล่นสิคะ""ผมแค่อยากอยู่ใกล้นารี""ตอนนี้เราสองคนตัวก็แทบจะติดกันอยู่แล้วนะคะ พอเลยนารีไม่เล่นกับคุณด้วยแล้ว"ใบหน้าสวยเริ่มงองำเมื่อชายหนุ่มเอาแต่เล่นจนไม่ระวังในขณะที่เขากำลังขับรถ"ผมไม่เล่นแล้วก็ได้ คุณอย่าโกรธผมเลยนะครับ"เมฆาประสานฝ่ามือใหญ่เข้าหาฝ่ามือเรียวสวย ความอบอุ่นแผ่ซ่านทำให้นารีคลี่ยิ้มออกมาตั้งแต่ที่เธอได้รู้จักกับเมฆาเขาทำให้เธอมีความสุขอยู่เสมอ เธอสามารถยิ้มได้ทุกครั้งยามเมื่ออยู่ใกล้ อัตราหัวใจที่เต้นแรงมันกำลังบอกว่าเธอนั้นได้ตกหลุมรักชายหนุ่มเป็นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมฆาเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ทำให้เธอรู้สึกขาดหาย เขาทำให้ชีวิตของเธอกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้ทั้งคู่จะรู้จักกันภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ความสัมพันธ์ ความรู้สึกของเขาและเธอนั้นได้เดินทางข้ามผ่านกันไปไกล ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ปล่อยตัวปล่อยใจ ปล่อยร่างกายให้เขาได้เชยชมห้างสรรพสินค้า"จะซื้อเสื้อผ้า
เช้าอันแสนสดใสปลุกให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น ร่างกายของเธอรู้สึกปวดเมื่อยทันทีเมื่อเธอขยับตัว เพราะเมื่อคืนกว่าเมฆาจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระเวลาก็ผ่านเข้าสู่วันใหม่ไปหลายชั่วโมง"หายไปไหนนะ"หญิงสาวกวาดสายตามองหาร่างสูงใหญ่เมื่อเธอไม่เห็นเขานอนอยู่บนเตียง พลันหูของเธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังมาจากทางด้านนอก นารีจึงไม่รอช้ารีบก้าวขาลงจากเตียงตอนนี้เธอรู้สึกเหนียวไปทั่วทั้งตัวต้องการอาบน้ำชำระร่างกายอย่างเร่งด่วน"ฉันจะเดินทางไปพักผ่อนกับคุณนารี ถ้ามีงานอะไรด่วนนายก็จัดการแทนฉันก็แล้วกัน""ได้ครับคุณเมฆา""เรื่องภายในบริษัทคุณพ่อท่านจะเข้ามาช่วยดูแลก่อนในตอนที่ฉันไม่อยู่ ฝากนายดูแลท่านด้วย""ได้ครับ""ออกไปได้"ลูกน้องคนสนิทรับคำสั่งจากเจ้านายก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักของโรงแรมร่างสูงใหญ่มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันท่อนล่างเอาไว้หันกลับมาสนใจกับกล่องใส่อาหารตรงหน้า หลังจากจัดการเรื่องอาหารมื้อเช้าเสร็จเขาก็รีบถือถุงเสื้อผ้าและของใช้เข้าไปในห้องนอนแกร๊ก"ตื่นนานแล้วเหรอครับ""ตื่นได้สักพักแล้วค่ะ"เป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ ตามเนื้อตัวของเธอมีหยดน้ำเกาะไปตามร่างกายยิ่งทำให้ชวนมองมาก
ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน มีสองร่างกำลังนอนกันกลมอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ ร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่มีผ้าห่มผืนใหญ่ปกคลุมเอาไว้ภายในห้องนอนยังคงมืดทึบเมื่อมีผ้าม่านสีดำผืนใหญ่คอยบดบังแสงของดวงอาทิตย์จากภายนอกไม่ให้สาดส่องเข้ามา"อื้อ"ร่างเล็กส่งเสียงครางในลำคอพลางขยับตัวเข้าหาความอบอุ่นจากอ้อมแขนแกร่ง เพียงแค่คนในอ้อมกอดขยับตัวก็ทำเอาชายหนุ่มผู้มีประสาทสัมผัสดีเปิดเปลือกตาขึ้นมองก็เห็นร่างของนารีซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขา มุมปากหยักกระตุกยิ้ม ใบหน้าสวยใสไร้เครื่องสำอางวางแนบไปกับแผ่งอกแกร่งโดยมีท่อนแขนของเขาใช้แทนหมอนเพื่อให้เธอได้รองหนุนนอนมาตลอดทั้งคืนยามเธอตื่นก็ไม่ต่างอะไรจากแม่เสือสาวที่ทำให้เขากระวนกระวายใจได้ตลอดเวลา และยามเมื่อเธอหลับตานารีก็ไม่ต่างอะไรจากลูกแมวตัวน้อยที่คอยทำให้เขาลุ่มหลง เอ็นดูเธอตลอดเวลายิ่งกวาดสายตามองใบหน้าสวย ยิ่งทำให้เมฆาตระหนักได้ว่าเธอคือสิ่งที่มีค่าที่เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอหายออกไปจากชีวิตของตัวเองโดยเด็ดขาด ยิ่งเข้าใกล้เธอยิ่งทำให้เขาถลำลึกมอบหัวใจไปให้เธอจนหมดทั้งดวง เขารู้สึกหึง รู้สึกหวงยามเมื่อเธอเข้าใกล้หรือส่งยิ้มให้ชายอื่นใด ความไม่พึ