“เอายังไงดีเนี่ย จะตอบหรือไม่ตอบดีนะ” ม่านทิวาพึมพำอยู่คนเดียวกำลังจะกดตอบแต่ทว่ารณพีร์กับลูกน้องกลับมาเสียก่อน ก็เลยคิดเพียงว่าเจอกันค่อยแก้ตัวจะดีกว่า พิมพ์ตอบในข้อความมันดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไรนัก
หลังจากสองหนุ่มกลับมาถึงก็ออกรถไปยังเส้นทางหนึ่งที่สองข้างทางเต็มไปด้วยความสวยสดงดงามของธรรมชาติสีเขียวขจี สายตาหวานมองไปยังป้ายข้างทางบ่งบอกว่าเส้นทางนี้กำลังไปที่วัดดังแห่งหนึ่ง
“คุณรณพีร์จะไปไหนเหรอคะ” หญิงสาวถามขึ้นเพื่อให้คลายความสงสัย
“ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง” ตอบเพียงแค่นั้นแล้วสนใจเอกสารที่อยู่ในแล็ปท็อปจนกระทั่งถึงที่หมาย
ซึ่งไม่ใช่ที่ไหนนอกเสียจากวัดชื่อดังประจำจังหวัด ไปไหว้พระขอพรตามที่ใจหญิงสาวปรารถนา ตอนแรกชายหนุ่มจะให้หญิงสาวเข้าไปคนเดียว แต่เธอพูดขึ้นมาว่า…
‘ไหน ๆ ก็มาถึงที่แล้ว คุณก็ไปไหว้พระด้วยกันสิคะ’ บอกเขาพร้อมทั้งส่งยิ้มให้ และยังไม่ลืมที่จะชวนธันวามาไว้พระด้วยกัน
ระหว่างนั้นที่รณพีร์กับม่านทิวาลงไปไหว้พระด้วยกัน ลูกน้องของปรานต์ที่ตามติดไม่คาดสายตาได้ส่งภาพถ่ายทั้งหมดให้เจ้านายและโทร.กลับไปรายงานให้
ม่านทิวาและรณพีร์กลับจากเชียงใหม่มาได้เกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ใครว่าหลังจากฮันนีมูนความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาจะดีขึ้นไม่เลย ทุกอย่างแย่ลงเสียยิ่งกว่าเดิม!ม่านทิวาตั้งใจหลบหน้ารณพีร์ทุกวัน สองสามวันแรกไม่ค่อยเท่าไร พอนานเข้าอารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อถูกเมียหลบหน้าหลบตาอย่างเอาเป็นเอาตายเขาจะกลับไปคุยกับเธอให้รู้เรื่อง!สี่วันให้หลังเมื่อชายหนุ่มกลับบ้านมาก็มักจะพบว่าหญิงสาวชิงนอนหลับไปก่อนทุกครั้ง กลิ่นกายหอม ๆ ของเธอทำเอาเขาปั่นป่วนร้อนรุ่มไปทั้งกาย อยากจะปลุกให้ตื่นขึ้นมารับโทษที่ทำให้เขานอนไม่หลับกระสับกระส่าย อยากทำรักกับคนที่นอนข้าง ๆ อยู่ไม่น้อย มิหนำซ้ำตื่นเช้ามาหญิงสาวก็ชิงออกจากบ้านก่อนเขาจะตื่นเสียอีกวันนี้รณพีร์กลับบ้านก่อนเวลาเลิกงานเพื่อที่จะรอพบม่านทิวา ดูซิว่าหญิงสาวจะทำอย่างไร จะหลบหน้าเขาอีกหรือไม่ทันทีที่ชายหนุ่มเข้ามาในบ้านกลับเป็นที่แปลกใจไม่น้อยสำหรับคนในบ้าน…“วันนี้ฝนคงตกหนักเพราะลูกชายคนเล็กของฉันกลับบ้านเร็ว…จริงไหมแม่เจียม” คุณนายสรวงสุดามองบุตรชายที่เดินเข้ามาพลางกระเซ้าเย้าแห
นี่หลานตัวน้อยเจออาคนใหม่แล้วก็ลืมอาคนเก่าอย่างเขาไปเลยหรือ!“อาม่านไปทำงานยังไม่กลับค่ะ มาให้แม่อ่านให้ฟังก่อนเนอะ” มธุรินพยายามเกลี้ยกล่อมลูกสาวตัวน้อย แต่หนูน้อยกลับงอแงไม่ยอมท่าเดียว“น้องพายจะรออาม่าน” หนูน้อยหันไปบอกคนเป็นมารดาตาแป๋ว“อีกนานเลยลูกกว่าอาม่านจะกลับมา ย่าว่าน้องพายของย่าไปนอนก่อนดีกว่านะคะ พรุ่งนี้วันหยุดค่อยให้อาม่านอ่านให้ฟังดีไหม” คุณนายสรวงสุดาปะเหลาะหลานสาวเสียงนุ่มละมุน“จริงนะคะคุณย่า” มองหนังสือนิทานในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผู้เป็นย่าตาแป๋ว“มาค่ะ คุณพ่อพาไปนอนนะคะ” รณวีร์อ้าแขนรับลูกสาวเตรียมพาไปขึ้นนอนเพราะเวลานี้ก็ดึกมากแล้ว เจ้าตัวจ้อยกระโดดกอดคอผู้เป็นบิดาแล้วก็พากันขึ้นนอนทันที“ไม่ขึ้นนอนหรือไงตาสอง” นางถามบุตรชายที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนรณพีร์มองหน้ามารดาแล้วพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร ทำเอาคนเป็นมารดาถึงกับส่ายศีรษะให้กับความปากแข็งของบุตรชายที่อยากจะรอเมียแต่ทำเป็นขรึมไปอย่างนั้น“ขึ้นนอนเถอะ อีกสองชั่วโมงกว่าเมียแกจะเลิกงานกลับถึงบ้าน” นางบอกเพียงแค่นั้นแล้วเดินขึ้นห้องนอนทันที ทิ้
“ไม่ ฉันไม่ยอม” หญิงสาวตอบเสียงแข็งพยายามดิ้นรนออกจากร่างสูงกำยำเอาแต่ใจของเขา“ไม่ยอมก็ต้องยอมเพราะเธอเป็นเมียฉัน” รณพีร์บอกอย่างเอาแต่ใจตัวเอง“ไม่! ถ้าอยากมากคุณก็ออกไปซื้อกินข้างนอกสิ มายุ่งกับฉันทำไม” คนอ่อนแรงกว่าบอกชายหนุ่มอีกทั้งพยายามผลักอกแกร่งให้ถอยออกไปเขาต้องการอะไรจากเธอ ในเมื่อเป็นคนพูดเองว่าห้ามเข้าใกล้เขาไม่ใช่หรือ…แล้วนี่อะไรกัน?“มีเมียให้เอาฟรี ๆ อยู่ที่บ้านทั้งคน…จะออกไปเอาผู้หญิงข้างนอกให้เสียเงินทำไม ในเมื่อแม่ฉันเสียเงินจ่ายหนี้สินให้เธอตั้งหลายล้าน…ก็ต้องตอบแทนกันหน่อยสิ”“คุณรู้ได้ไง” ร้องถามด้วยความตกใจเขารู้ได้อย่างไร…หรือว่าคุณนายสรวงสุดาเป็นคนบอก ถ้าหากนางบอก…เขาก็ต้องรู้เรื่องที่เธอตกลงเอาไว้กับมารดาของเขาน่ะสิ“จะบอกอะไรให้นะ…ฉันรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ฉันไม่พูดก็แค่นั้นเอง”“ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันร้องจริง ๆ ด้วย” หญิงสาวขู่พร้อมกับอ้าปากหมายจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ“เอาเลย ร้องไห้ตายยังไงก็ไม่มีใครได้ยิน” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจก่อนก้มลงกระซิบเสียงแหบ
"โอ๊ย…เจ็บ!" เสียงหวานร้องออกมาเมื่อสองมือของรณพีร์เลื่อนขึ้นมากอบกุมทรวงอกอวบของตนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาเคลื่อนกายใหญ่โตพร้อมกับโน้มใบหน้าคมลงมาดูดกลืนเม็ดเชอร์รีสีหวานอย่างหิวกระหาย ทั้งริมฝีปากหนา มือ และเอวสอบต่างทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี"อ้า! หวานเป็นบ้าเลยม่านทิวา"ละปากออกจากทรวงอกอวบอิ่มก่อนก้มจูบตักตวงความหวานจากริมฝีปากบางกระจับของหญิงสาวอย่างดูดดื่มอีกครั้ง ก่อนจะผละออกอย่างเสียดายเพราะเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจรณพีร์กระแทกความแข็งขึงเข้ามาในกายสาวจนหน้าอกอวบใหญ่กระเพื่อมไหวไปตามแรงทำให้หญิงสาวเจ็บจุกและเสียดเสียวท้องน้อยในเวลาเดียวกันคนตัวโตถอนกายออกมาก่อนกระแทกเข้าไปอีกครั้งทำเอาหญิงสาวเกือบเสร็จเก็บเสียงครางรัญจวนเอาไว้ไม่อยู่ เขาทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาก่อนเปลี่ยนท่าทำรักใหม่ตามที่ใจเขาต้องการ ไม่สนว่าคนตัวเล็กจะเหน็ดเหนื่อยหรือไม่"คุณสอง...พอแล้ว...ฉันเหนื่อยแล้ว" เสียงหอบหายใจแรงเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน แต่มีหรือคนที่ความต้องการสูงอย่างเขาจะยอม อีกทั้งเมียยังพยายามหลบหน้ามาเกือบอาทิตย์ สิ่งที่สั่งสมในกายจึงต้องการการปลดปล่อยอย่างเ
หลบหน้า 1"อาม่านอยู่ไหนค้า..." เสียงเจื้อยแจ้วของหนูพาลิกาดังขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามาหา ในมือของหนูน้อยมีหนังสือนิทานเล่มเดิมถือติดมาด้วย"คุณย่าขา...อาม่านอยู่ไหนค้า" เสียงเล็ก ๆ เอ่ยถามคนเป็นย่าตาแป๋วคนเป็นย่าสอดส่ายสายตามองหาลูกสะใภ้คนเล็กที่ยังไม่เห็นหน้าตั้งแต่เช้า นางเลยร้องถามแม่บ้านเก่าแก่อย่างแม่เจียมจิต"แม่เจียม หนูม่านอยู่ในครัวหรือเปล่า" ร้องถามพร้อมกับชะเง้อคอมองหา"ไม่เห็นคุณม่านเลยค่ะ ตั้งแต่เช้าแล้ว ปกติคุณม่านจะลงมาเตรียมอาหารก่อนเจียมและเด็ก ๆ อีกนะคะ" คนถูกถามออกความเห็นด้วยความสงสัยไม่แพ้เจ้านาย"นั่นน่ะสิ นี่ก็จะสิบโมงเช้าแล้วนะ…หรือว่าออกไปทำงานแล้ว" คุณนายสรวงสุดาตั้งข้อสังเกตด้วยความแปลกใจ ปกติลูกสะใภ้มักจะตื่นเช้ามากไม่ว่าจะกลับบ้านดึกขนาดไหนก็ตาม"วันนี้วันหยุดนะคะคุณนาย" สาวใช้เอ่ยเตือน"งั้นเธอขึ้น..." ยังไม่ทันที่คุณนายสรวงสุดาจะเอ่ยจบประโยค รณพีร์ก็พี่เอ่ยแทรกเข้ามาเสียก่อน“มีอะไรกันเหรอครับเสียงดังกันเชียว” รณพีร์ที่ออกไปทำธุระข้างนอกบ้านตั้งแต่เช้าเพิ่งจะกลับมานั้นถามขึ้
หลบหน้า 2“โถ…หนูม่าน! แม่อยากให้หนูลาออกได้แล้ว หนูนอนดึกตื่นเช้าทุกวันร่างกายมันจะแย่เอานะ” นางลูบศีรษะทุยได้รูปของหญิงสาวด้วยความเอ็นดูระคนเป็นห่วงเป็นใย“ม่านอยากทำงานค่ะ” หญิงสาวตอบสั้น ๆสาเหตุที่เธอต้องทำงานหนักและกลับดึกทุกวันเพราะไม่อยากให้ใครมาว่าเธอได้ว่าหวังรวยทางลัด หวังเงินทองของคนในบ้านหลังนี้ เพียงแค่นามสกุลของคนในตระกูลนี้ช่วยปกป้องเธอจากแม่เลี้ยงและน้องสาวนอกไส้ได้เท่านี้ก็พอแล้ว“อาม่านมาแล้ว” หนูน้อยพาลิกาที่ถูกมารดาพาออกไปเดินเล่นข้างนอกเข้ามาเห็นม่านทิวาก็รีบวิ่งมาหาทันที“น้องพายอย่าวิ่งลูก” บอกบุตรสาวตัวน้อยก่อนเอ่ยทักทายน้องสะใภ้ด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณม่าน”“สวัสดีค่ะคุณมายด์” ทักทายเสร็จก็ย่อตัวลงมาหาเจ้าตัวน้อยที่ทำตาแป๋วใส่อย่างออดอ้อน“จ๊ะเอ๋! ว่าไงคะคนสวย”“อาม่านมาแล้ว น้องพายอยากฟังนิทานจังค่า” หนูน้อยพาลิกาบอกเสียงใส“ได้สิคะ” ม่านทิวาตอบกลับเสียงหวานตามใจหลานสาวตัวน้อยทุกอย่าง“น้องพายรอหนูม่านเล่านิทานให้ฟังตั้งแต่เมื่อวานน่ะ แม่ก็เลยบอกว่าวันนี้ค่อยให้ห
หลบหน้า 3โดยไม่ลืมที่จะบอกมธุรินว่าช่วงบ่ายเธอไม่ได้อยู่อ่านนิทานให้หนูน้อยพาลิกาฟังเพราะมีธุระด่วนต้องรีบไปทำ ทิ้งให้ร่างสูงของรณพีร์ยืนหัวเสียไม่น้อยที่ถูกเมียเมินมาหลายต่อหลายครั้งชายหนุ่มรีบต่อสายหาลูกน้องคนสนิทและสั่งการบางอย่างทันที ส่วนตัวของเขานั้นต้องกลับไปสะสางงานต่อให้เรียบร้อย ส่วนเรื่องอื่นที่ทำให้กวนใจค่อยว่ากันเพราะตอนนี้งานสำคัญกว่าคาเฟที่ตกแต่งอย่างน่ารักใกล้ห้างสรรพสินค้าชื่อดังเป็นสถานที่นัดพบกันของเหล่าเพื่อนสาวในวันนี้...ม่านทิวายืนชั่งใจอยู่หน้าร้านครู่หนึ่งก่อนจะรวบรวมความกล้าด้วยการผ่อนลมหายใจเข้าและออกอย่างช้า ๆ ถ้าหากเธอคิดไม่ผิด เหล่าสี่สาวน่าจะมีเรื่องเม้าท์มอยมากมายหลังจากไม่ได้เจอหน้ากันมานาน นับจากวันที่เธอจดทะเบียนสมรสกับรณพีร์มาก็รวมเวลาสามเดือนแล้ว เธอนั้นแทบไม่ได้ออกมาพบปะเพื่อนสาวเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะถ้าหากพบกันแล้วก็คงไม่วายที่จะซักถามเรื่องการย้ายบ้านของเธอเป็นแน่ เพราะเท่าที่เห็นนั่งคุยกันในกรุปไลน์ก็พากันคุยเรื่องของเธอเสียส่วนใหญ่ ถามไถ่ว่าเป็นอย่างไรบ้างไม่ได้เจอกันหลายเดือนแ
"เม้าท์ฉันอีกแล้วนะ" คนตัวเล็กมุ่ยหน้ามองเพื่อนพลางทำท่าทางแสนงอน"ช่วยไม่ได้ ก็แกอยากมีเรื่องให้พวกฉันเมาท์ทำไมล่ะยะ"“เฮ้อ!” ม่านทิวาถอนหลายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ทำไมเพื่อนเธอถึงอยากรู้อยากเห็นอะไรกันขนาดนี้น้า"ว่าแต่เรื่องของแก เป็นจริงอย่างที่ยัยวีวี่มันพูดหรือเปล่า...ที่ว่าแกมีผัวแล้วน่ะ" คำถามขอธาริกาทำเอาม่านทิวาแทบสำลักอเมริกาโนเย็นที่เพิ่งเอามาเสิร์ฟเมื่อครู่นี้แค่ก ๆ"เอาอะไรมาพูด" ม่านทิวาพยายามบ่ายเบี่ยง สายตาหวานเสมองไปทางอื่นไม่ยอมสบตาเพื่อนทั้งสี่คนที่จ้องเธออย่างคาดคั้น"ก็ยัยวีวี่มันเล่าให้ฟังว่าแกมีผัวแล้ว ตอนที่แกไปเที่ยวเชียงใหม่เมื่อคราวก่อน" อัญญ์เอ่ยขึ้นพร้อมกับเสมองไปทางวีรพล"ใช่! อย่ามาตอแหลนะนังม่าน เพราะวันนั้นที่แกกับฉันจะไปวัดด้วยกันอะ ฉันโทร.หาแกแต่คนรับสายเป็นผู้ชาย ฉันสงสัยก็เลยรีบไปเคาะประตูที่ห้องพักของแก แต่คนที่เปิดเป็นผู้ชาย สูง ขาว หล่อล่ำ แต่หน้าดุไม่ค่อยยิ้ม พอฉันถามว่าเป็นใคร...เขาบอกว่าเป็นผัวแก" วีรพลอธิบายยาวเหยียดให้ม่านทิวาและเพื่อน ๆ ได้ฟังอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าตนพูดจริง ๆ ไม่ได้โกหก
นับว่าเป็นวันแรกที่ต้องกลายเป็นคนตกงานไปโดยปริยายของม่านทิวา อันที่จริงวันนี้เธอต้องเข้าไปที่ทำงานเพื่อเอาของใช้ส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับมา แต่อย่างที่รู้ว่ารณพีร์ได้เอาของทุกอย่างออกมาให้เธอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มิหนำซ้ำอดีตเจ้านายยังให้ฝ่ายบุคคลโทร.มาแจ้งเธออีกครั้งว่า ‘เหลือเวลาอีกหนึ่งวันไม่ต้องกลับเข้ามาทำงาน เพราะเป็นคำขอจากรณพีร์’ นี่เขาจะยุ่งเรื่องของเธอมากเกินไปแล้วนะเขายุ่งเรื่องของเธอได้ แต่เธอห้ามยุ่งหรือก้าวก่ายเรื่องของเขาอย่างนั้นน่ะหรือ?คนตัวเล็กที่เพิ่งตกงานไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีรีบเดินเข้าครัว หมายจะช่วยเหล่าแม่บ้านจัดเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคนในบ้านรับประทาน เพราะเวลานี้เธอนั้นพยายามปรับเวลาให้ตื่นเช้าขึ้นถึงแม้ว่าจะนอนดึกมากก็ตาม"คุณมายด์ ป้าเจียม มีอะไรให้ม่านช่วยไหมคะ" เสียงหวานนุ่มละมุนเหมือนทุกครั้งที่เอ่ยทักถาม แต่ทว่าวันนี้มีความอ่อนเพลียแทรกติดปลายเสียงมาด้วย"ไม่มีเลยค่ะคุณม่าน อีกนิดเดียวก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว" แม่บ้านใหญ่เอ่ยบอกทั้ง ๆ ที่มือยังคอยคนหม้อต้มยำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเจ้านายสาวที่ท่าทางอ่อนเพลียไม่
ทันทีที่ถึงบ้านในช่วงบ่ายแก่ ๆ คนในบ้านตกใจไม่น้อยที่สองสามีภรรยาที่ดูท่าจะไม่ลงรอยกันกลับบ้านพร้อมกัน มิหนำซ้ำยังเดินจับมือกันเข้ามาภายในบ้านเสียด้วย"กลับบ้านเร็วจังวะไอ้สอง" รณวีร์ทักทายน้องชายที่เดินเข้าบ้านพร้อมกับม่านทิวา"ประชุมเสร็จก็กลับบ้านสิ...แปลกตรงไหนวะ" คนเป็นน้องย้อนตอบกวน ๆ"ถามมาได้ว่าแปลกตรงไหน มึงแปลกทุกตรงอะ แล้วยิ่งตอนนี้มึงยิ่งแปลกหนักเข้าไปใหญ่" คนเป็นพี่ชายตั้งข้อสงสัยกับคนเป็นน้องพลางเหล่มองร่างเล็กของน้องสะใภ้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ"คุณม่าน วันนี้ไม่ไปทำงานหรือคะ" มธุรินเอ่ยถามม่านทิวาด้วยความสงสัยเพราะวันนี้เป็นวันทำงานของหญิงสาวไม่ใช่หรือ"เอ่อ…ค่ะ พอดีม่านตื่นสายไปหน่อยเลยไม่ได้ไปทำงานน่ะค่ะ" หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหย ๆ ไม่กล้าบอกว่าตัวต้นเหตุคือคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังเธอ"ตื่นสายนั่นคือเหตุผลหนึ่งครับ แต่จริง ๆ มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้ตื่นสาย"คำตอบของเขาทำเอาม่านทิวาถลึงตาหน้าบึ้งตึงใส่ทันที คนเป็นพี่ชายเห็นแล้วต้องรีบเดินเข้ามากระซิบข้างหูรณพีร์"เบาได้เบานะเว้ย เมียมึงยิ่งตัวเล็ก ๆ อยู่"คน
หญิงสาวส่ายหน้าเป็นคำตอบว่าเธอไม่อยากได้ของพวกนี้ ราคามันแพงเกินไปไม่เหมาะกับคนธรรมดาอย่างเธอ"เลือกเถอะน่า ผัวซื้อของขวัญวันเกิดให้เมียมันน่าแปลกตรงไหน""เอ่อ..." ม่านทิวาอ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูกพนักงานจึงรีบเชียร์"คุณผู้หญิงชอบเส้นไหนคะ เส้นนี้เส้นเล็ก ๆ ดูเรียบหรู ส่วนเส้นนี้สวยไฮโซดูแพงมากเลยค่ะ แต่ดิฉันว่าเหมาะกับคุณผู้หญิงทั้งสองเส้นเลยค่ะ""เลือก...อยากได้เส้นไหน" รณพีร์สั่งเสียงนุ่มก่อนก้มลงกระซิบข้างใบหูขาวสะอาดของหญิงสาวเบา ๆ ให้ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น "ถ้าไม่เลือกคืนนี้ไม่ต้องนอนนะ"สิ้นประโยคของเขาทำเอาม่านทิวาตาเบิกโพลงก่อนจะชี้นิ้วไปยังเครื่องเพชรเซตแรกอย่างไม่ลังเล เพราะกลัวว่าคืนนี้เธอจะไม่ได้นอนอีกคืน อีกทั้งดูจากน้ำเสียงของเขาแล้วเกรงว่าจะทำอย่างนั้นจริง ๆ เสียด้วย"เอาเส้นนี้แล้วกันค่ะ"ชายหนุ่มยิ้มขบขันในท่าทางลนลานของหญิงสาว หลังจากนั้นจัดการชำระเงินค่าเครื่องประดับหลายแสนบาทให้ม่านทิวาและพากันออกมาจากร้าน“คุณสองคะ” หญิงสาวเรียกชายหนุ่มเบา ๆ ทำให้ขาแกร่งต้องหยุดก้าวเดินและหันมามองหน้าคนตัวเล็ก
"ไม่ค่ะ" เธอตอบเบา ๆ ยังมองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ"ดีเลย" ชายหนุ่มตอบเพียงแค่นั้น ก่อนบอกกับสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทีสุภาพ "ขอตัวก่อนนะครับ พอดีวันนี้เป็นวันเกิดของภรรยา ผมสั่งของขวัญพิเศษเอาไว้ให้เธอ เราต้องรีบไปรับกันแล้ว" รณพีร์บอกเพียงแค่นั้นก่อนคว้ามือเล็กของม่านทิวาเดินออกมาอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนที่ไม่เคยได้อะไรจากรณพีร์แทบกรีดร้องด้วยความอิจฉาริษยา"คุณสองจะไปไหนคะ" ม่านทิวาถามขึ้นเมื่อทั้งเขาและเธอเดินออกห่างจากคนเหล่านั้นมากพอ"ตามมาเถอะน่าไม่ต้องถามมาก"“ฉันไปก็ได้ แต่คุณต้องตอบคำถามฉันก่อน”“อะไร”“ทำไมถึงไม่บอกฉันตรง ๆ ว่าคุณกับวิเคยเป็นแฟนกันมาก่อน โกหกปกปิดทำไม” ม่านทิวารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เวลานี้เขาทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงโง่ ๆ คนหนึ่งเลยก็ว่าได้รณพีร์มองหน้าสวยหวานที่กำลังขุ่นมัวเพราะตนพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตอบไปด้วยเหตุผลที่คิดว่าดีที่สุดที่จะรักษาม่านทิวาเอาไว้จนกว่าตนจะเป็นฝ่ายชนะ“ก็เพราะว่าฉันไม่ได้สนใจรวิดามากไปกว่าเธอไง เธอเป็นเมียฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น และฉันก็ไม่ได้อาลัยอาวรณ์รว
ม่านทิวาออกจากเพนต์เฮาส์สุดหรูหราของรณพีร์ที่มองอย่างผิวเผินแทบจะกลายเป็นบ้านหรูหลังหนึ่งอยู่แล้ว จากนั้นก็แวะเข้าไปยังที่ทำงานของตน แต่ก็ถูกเจ้านายห้ามไว้เพราะสามีของเธอนั้นโทร.มาลาป่วยให้แล้วโดยให้เหตุผลว่า ‘ภรรยาของเขาไม่สบายหนักมาก’ เธอจึงเออออไปตามน้ำ แต่อีกไม่กี่วันเธอก็ไม่ได้มาทำงานที่นี่อีกแล้ว ด้วยความเอาแต่ใจของชายหนุ่มโดยที่ไม่ถามความคิดเห็นของเธอแม้แต่น้อย หญิงสาวลองถามเจ้านายว่าหากเธอจะทำงานที่นี่ต่อขอสมัครงานใหม่จะได้หรือไม่ แต่คำตอบที่ได้กลับมาทำเอาม่านทิวาพูดไม่ออกเพราะว่ารณพีร์มีหุ้นส่วนในบริษัทนี้เช่นกัน หากสมัครเข้าทำงานใหม่หรือรับกลับเข้ามาทำงานคงเกิดปัญหาเป็นแน่ คนตัวเล็กจึงขอตัวไปเก็บข้าวของที่อยู่บนโต๊ะทำงานลงกล่องล่วงหน้าจะได้ไม่เสียเวลาย้อนมาเก็บพรุ่งนี้ข้าวของบนโต๊ะของเธอก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย นอกจากอุปกรณ์สำนักงานเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกจากออฟฟิศทันที สายตาหวานเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเรือนเล็กก็พบว่าเวลานี้จวนจะบ่ายสอง อาหารเช้ายังไม่ตกถึงกระเพาะน้อย ๆ เลย ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของเธอคือจุดหมาย
ร่างสูงของรณพีร์ยืนเด่นอยู่ที่ริมระเบียงห้องนอน เอวสอบถูกพันหลวม ๆ ด้วยผ้าขนหนูสีขาว กำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ ทว่าสายตาของเขากลับมองร่างเล็กเนื้อตัวหอมหวานและขาวเนียนแทบทุกส่วนที่หลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม อย่างไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่าย ๆ ก่อนหันมาสนทนาอย่างจริงจังกับคนที่อยู่ปลายสาย"อือ! ยังไงจัดการให้ฉันด้วยนะ เรื่องที่สั่งไป""ได้ครับ..."ครู่หนึ่งชายหนุ่มก็กดตัดสายจากลูกน้องคนสนิททันที ก่อนจะค้นหาเบอร์โทรศัพท์มือถือของเจ้านายม่านทิวาเพื่อที่จะลางานให้หญิงสาว เพราะดูจากสถานการณ์แล้วคนตัวเล็กไม่น่าจะตื่นไปทำงานไหว ผลพวงก็มาจากเมื่อคืนที่ทะเลาะกันตั้งแต่กลับจากร้านของจอมพลแล้วจบที่เตียงพลอยทำให้หวนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาว่าเขานั้นรุนแรงกับเธอเกินไปหรือไม่ คนตัวสูงเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงฝั่งที่ม่านทิวาหลับอยู่ มองใบหน้าสวยหวานที่กำลังหลับพริ้มราวกับอยู่ในห้วงแห่งความฝันมือหนาค่อย ๆ ไล่ปอยผมที่ปรกใบหน้าทัดเข้ากับใบหูเล็กอย่างเบามือที่สุด…เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนการนอนของเธอ บางครั้งรณพีร์ก็เผลออมยิ้มเอ็นดูกับท่าทางปัด
ธาริกาตอบกลับพร้อมกับทำหน้าล้อเลียนคนที่เพิ่งจะจบการสนทนาเมื่อครู่ด้วยความไม่ชอบใจ ก่อนหันไปหาม่านทิวาและชวนเข้าไปในห้องด้วยกัน เธอไม่ค่อยไว้ใจให้เพื่อนยืนรอหน้าห้องเท่าไร เพราะมีผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจเดินวนเวียนอยู่ไม่ห่าง"สวัสดีค่ะคุณนที" น้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจและรู้สึกเจ็บกับสิ่งที่ได้เห็นของเลขานุการสาวนอกเวลางาน…เอ่ยทักเจ้านายทันทีที่มาถึง ทำให้สี่หนุ่มที่นั่งสังสรรค์พร้อมกับสาว ๆ ข้างกายเงยหน้าขึ้นมามองเป็นตาเดียว"สายไปห้านาที" นทีต่อว่าด้วยความเขี้ยว"ฉันก็มีธุระของฉันนี่คะ คุณนทีรีบเซ็นเอกสารเถอะค่ะ ฉันจะได้รีบไป" หญิงสาวย่อตัวลงวางเอกสารให้เจ้านายหนุ่มเซ็นแต่นทีกลับไม่ยอมทำตาม อีกทั้งถามกลับเสียงแข็ง "ไปไหน""ไปไหนไม่สำคัญค่ะ" หญิงสาวตอบเสียงเรียบก่อนหันไปหาม่านทิวาที่สะกิดเรียก"หือ..มีอะไร?""ฉันกลับไปรอที่ห้องนะ" ม่านทิวาบอกกับเพื่อนสาว ทั้ง ๆ ที่สายตาของเธอจ้องมองไปยังร่างสูงของรณพีร์ที่กำลังกอดผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่ยั่วยวนข้างกายธาริกาพยักหน้าอนุญาตแล้วหันกลับมามองเอกสารสำคัญที่เจ้านายหนุ่มเพิ่งจรดปากกาเซ็นช
เวลาสามทุ่มกว่าของคืนวันเดียวกัน ภายในสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง เสียงเพลงจังหวะสนุกสนานผสมผสานเคล้าคลอกับเครื่องดื่มชั้นดีที่ธาริกาจัดมาให้เพื่อน หญิงสาวเลือกโต๊ะที่มีความเป็นส่วนตัวเพราะไม่อยากให้ใครมารบกวน"โต๊ะที่คุณผู้หญิงจองไว้ทางร้านจัดให้เรียบร้อยแล้วครับ" พนักงานชายของร้านบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ"ขอบคุณค่ะ อย่าลืมของที่สั่งไว้นะคะ"ธาริกาย้ำเตือนกับพนักงานแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาถ่ายรูปโต๊ะที่จองไว้ ส่งให้เพื่อนในไลน์กรุปทันทีจะได้ไม่เสียเวลาเดินออกไปรับ ไม่นานนักเสียงข้อความแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอัญญ์ : ถึงแล้ว กำลังจะเข้าไปธาริกา : โอเค รีบมาฉันรออยู่อัญญ์ส่งสติกเกอร์ยิ้มแฉ่งแข่งตะวันมาให้ธาริกาธาริกา : แล้วคนอื่นล่ะ? ยัยวีวี่ ยัยปอ ยัยม่านถ้าแกไม่มาฉันจะโกรธจริง ๆ ด้วยม่านทิวาส่งสติกเกอร์การ์ตูนรูปหน้าผู้หญิงหัวเราะชอบใจเป็นการตอบกลับวีรพล : กำลังจะเข้าไปปอแก้ว : กำลังถึงเช่นกันจ้า รอแป๊บน
“ไม่ใช่ครับ แต่มีเรื่องจะถามนิดหน่อย” ตอบพร้อมกับมองหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยความสงสัย “บัญชีงบประมาณที่คุณทำอยู่เสร็จหมดหรือยังครับ”“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”“เดือนหน้าคุณม่านไม่ต้องมาทำงานแล้วนะครับ”“ทำไมคะ?” หญิงสาวถามเจ้านายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนเหลือบตามองคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามอย่างสงสัยว่าน่าจะเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องนี้“พอดีสามีคุณทำเรื่องลาออกให้เรียบร้อยแล้วครับ” ม่านทิวาตกใจพอ ๆ กับพนักงานหลายคนที่ได้ยินเรื่องน่าตกใจของเธอในคราวเดียวกันถ้าเดือนหน้าไม่ต้องมาทำงาน เช่นนั้นเธอจะเหลือเวลาทำงานที่บริษัทแห่งนี้เพียงสามวันเท่านั้น…สายตาหวานมองไปรอบ ๆ สายตาพนักงานคนอื่นต่างมองมาที่เธอรณพีร์! นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือไงกัน!“ขอบคุณคุณหิรัญมากนะครับที่อนุมัติให้ภรรยาผมลาออกอย่างกะทันหัน” รณพีร์หันไปคุยกับหิรัญโดยไม่สนสายตาขุ่น ๆ ของม่านทิวาเลย“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” หิรัญตอบรับด้วยน้ำเสียงสุภาพนอบน้อม“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ชายหนุ่มผู้เป็นสามีของม่านทิวาขอตัวกลับ เขาเดินผ่านคนตัวเล