แชร์

เสน่หานางมารหน้าใส
เสน่หานางมารหน้าใส
ผู้แต่ง: จันทร์ส่องแสง

ปฐมบท

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-29 08:16:16

“พี่สาวข้าไม่อยากแต่งกับไท่จือ”

หลินเสี่ยวหลิน ทำสีหน้าเศร้าสร้อย เหมือนกับจะตายดับลงตรงหน้า

“ท่านพ่อหมายมั่นให้เจ้าจะต้องแต่งกับไท่จือ”

หลินเจี้ยนหลิงเอ่ยเรื่องจริงที่ถูกวางไว้แล้วไม่มีทางเป็นอื่นก็ในเมื่อมันเป็นเช่นนั้นและจะเป็นเช่นนั้น

“ท่านพ่อคงเห็นว่าข้าไร้ซึ่งปากเสียง ต่างจากท่านที่มักจะเก่งกาจเกินหญิง ท่านมีความสามารถรอบด้าน มีคนนับหน้าถือตามากมายอีกทั้งยังกล้าที่จะต่อคำท่านพ่อ ชีวิตท่านจึงไม่ต้องถูก ….กดดันเช่นข้า”น้ำเสียงตัดพ้อจนน่าสงสารหลินเจี้ยนหลิงก็ยังคงสงสารนางเช่นเดิมสินะ

“เจ้าดีกว่าข้ามากนักเสี่ยวหลิน อย่างน้อยมารดาของเจ้าก็ไม่บังคับให้เจ้าทำเรื่องที่หนักเกินไป ข้าแต่เดิมต้องอ่านหนังสือจนดึกดื่น ตื่นตั้งแต่ยามอิ๋นเพื่อที่จะมาท่องตำราแล้วยังต้องเก่งเหนือใคร ส่วนเจ้ามารดาของเจ้าแม่เล็กแค่เพียงให้เจ้าเย็บถุงหอม ทำน้ำอบก็เท่านั้น"

“แล้วทำไมต้องเป็นข้า เดิมข้าอยู่แบบนี้ก็มีความสุขแล้ว ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวเล่นผิดกับท่านที่วันๆ ขี่ม้าล่าสัตว์ฝึกกระบี่ ยิงธนูล้วนมีแต่เรื่องที่สนุกสนาน”

“เสี่ยวหลินกว่าข้าจะได้มีชีวิตอิสระเจ้ารู้หรือไม่ข้าต้องผ่านอะไรมาบ้าง เคยถูกท่านแม่ตีจนปางตาย ถูกท่านพ่อเคี่ยวเข็ญจนจะกลายเป็นยอดคน หากเปลี่ยนกันได้ข้าขอเป็นเจ้าดีกว่า แม่เล็กรักเจ้าดูแลทะนุถนอม ท่านพ่อก็ไม่เคยให้เจ้าทำเรื่องที่เกินกำลังด้วยเห็นว่าสุขภาพเจ้าไม่สู้ดีนัก”

“พี่สาวนั่นอย่างไรเล่าท่านจึงได้กล้าแกร่งไม่กลัวใคร อีกทั้งยังสามารถจัดการเรื่องหนักเบาได้หมดจด”เสี่ยวหลินพูดเรื่องที่ใครๆต่างรู้ดี

“เอาน่า เจ้าแต่งเป็นไท่จือเฟยข้าก็จะได้อาศัยเจ้าเข้าไปเที่ยวชมวังหลวงบ้าง ท่านพ่อร้อยวันพันปีไม่เคยบังคับเจ้า มาครั้งนี้ท่านพ่อคงมีเหตุผลไม่น้อย"

“พี่สาวข้าขออยู่กับท่านอย่างนี้กว่า อย่างน้อยท่านก็พอได้เป็นที่พึ่งช่วยเหลือยามยาก”

น้ำเสียงอ่อนหวานออดอ้อนเหมือนที่เคยทำประจำเวลาที่นางอยากจะได้สิ่งใดทาง

เดียวที่นางทำคืออดอ้อน

“คุณหนูใหญ่เจี้ยนหลิง ฮูหยินใหญ่เรียกหาท่าน”

หลินเจี้ยนหลิงยิ้มให้น้องสาวต่างมารดา ด้วยรอยยิ้มปลอบประโลม

“เฮ้อ... เห็นไหมอย่างน้อยเจ้าก็ไม่ถูกแม่เล็กเรียกหาบ่อยๆ เหมือนที่ท่านแม่เรียกหาข้า ”

ก้าวขาออกจากห้องไปที่ห้องนอนของมารดาหรือฮูหยินใหญ่ของบ้านหลิน

“เจี้ยนหลิง นั่งลงสิ เจ้าออกไปปิดประตูให้ข้าด้วย”

ท้ายประโยคหันไปหาสั่งสาวใช้ สาวใช้ให้ออกจากห้องไป หลินเจี้ยนหลิง วางกระบี่ข้างกายแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ต่างระดับลงมาจากที่ฮูหยินหลินนั่งอยู่

“เจ้ารู้ไหม เมื่อคืนข้าเฝ้าครุ่นคิดกังวลนอนไม่หลับทั้งคืน”

พูดด้วยน้ำเสียงปกติไม่มีการทอดเสียงให้ดูอ่อนโยนเหมือนมารดาพึงกระทำกับบุตรี

“ท่านแม่มีเรื่องใดกังวล”เอ่ยปากถามด้วยท่าทีนอบน้อมเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

“เจ้า ไม่กังวลอย่างนั้นหรือ ปีนี้เจ้าสิบแปดยังไร้คนมาสู่ขอ อีกทั้งไท่จือสู่ขอเสี่ยวหลินท่านพ่อตัดสินใจยกเสี่ยวหลินให้แต่งเป็นไท่จือเฟย”

เจี้ยนหลิงก้มหน้ารู้ดีว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นหากมีสิ่งใดที่ฮูหยินใหญ่ผู้เป็นมารดาไม่พอใจ

“ลูกเข้าใจแล้ว”พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว

“ดีมาก เจ้า จ้าวแผนการอีกทั้งกลยุทธ์มากมาย ใช้ความสามารถของเจ้าให้ได้นั่งบนบัลลังก์ในตำหนักบูรพาเคียงข้างไท่จือ ข้าจึงจะสบายใจ”

หลายปีมานี้ เจี้ยนหลิงมีหน้าที่เพียงทำให้มารดาสบายใจ แต่ตัวเองสบายใจหรือไม่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิด

“ลูกจะพยายาม”น้ำเสียงหนักแน่นดุจหินผา

“ดีข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง"

วังหลวง

“ฝ่าบาทในเมื่อตัดสินใจไม่ได้ เช่นนั้นไม่สู้รับทั้งสองคนมาเป็นไท่จือเฟยและเซ่อฝูจิ้น ไปพร้อมกัน”

“คิดว่าใต้เท้าหลินจะยินยอมอย่างนั้นหรือ”

“อย่างนั้น คงต้องใช้วิธีเสี่ยงดวง”ขันทีข้างกายออกความเห็น

“หลินฮูหยิน เดิมเป็นถึงองค์หญิงสาม เรื่องนี้นางก็คงไม่มีทางยอม ที่จะให้บุตรีของนางเป็นรองบุตรีของอนุเช่นกัน"น้ำเสียงแสดงออกหนักใจไม่น้อย

"แต่ผู้ที่ส่งฎีกาฉบับนี้มา จงใจที่จะให้ฝ่าบาทต้องทบทวนเรื่องที่ไท่จือทรงตัดสินใจไท่จือไม่ยอมแต่งบุตรีคนโต แต่ไปสู่ขอบุตรีคนรอง”

ขันทีข้างกายตั้งข้อสังเกตไท่จือจงใจทำสิ่งใดกันแน่

ตระกูลหลิน

“มีคนถวายฎีกากับฝ่าบาทให้มีการทบทวนเรื่องการแต่งตั้งไท่จือเฟย ข้าคิดว่าคงไม่ใช่เจ้าใช่ไหม ซูหลาน”

ใต้เท้าหลินเอ่ยปากถาม ฮูหยินใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ข้าเช่นไรจะกล้าทำเรื่องเช่นนั้นไท่จือตัดสินใจไปแล้ว”

ใต้เท้าหลิน เหลือบตามองหลินซูหลานภรรยาที่ร่วมทุกขืร่วมสุขกันมา

“เจ้าไม่ทำก็มีเพียง ..เจี้ยนหลิงเท่านั้นที่จะทำเรื่องนี้ เจี้ยนหลิงนางเป็นหนึ่งมาตลอด อีกทั้งในตระกูลหลินใครบ้างจะไม่ยอมลงให้เจี้ยนหลิง ข้าเองยังต้องอาศัยลูกคนนี้ในการวางกลยุทธ์การรบ ดีเช่นนั้นข้าก็ไม่หวงห้ามนางจะทำอะไรก็ตามใจเพียงแต่จะคอยดูว่านางจะพลิกสถานการณ์มาได้เปรียบได้หรือไม่”

“ตบปากนางร้อยที โบยนางร้อยไม้”เสียงตวาดลั่นจากปากของ 

หลินเจี้ยนหลิงที่เพียงแค่ได้ยินเสียงซุบซิบ ว่าคุณหนูใหญ่ ต้องการจะเป็นไท่จือเฟย แย่งชิงแม้กระทั่งโชควาสนาของคุณหนูรอง สาวใช้ต่างหดหัวหนีหายใครบ้างจะกล้ากับคุณหนูใหญ่ เห็นได้ชัดว่าคุณหนูใหญ่ไม่เคยเกรงกลัวใครนอกจาก ฮูหยินกับใต้เท้าหลิน

“นางขาดใจตายแล้วคุณหนู”

เจี้ยนหลิง ใช้มีดปอกลูกท้อยัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่ได้สนใจคำบอกกล่าวนั้นแม้แต่น้อย โยนมีดสั้นให้ปักลงบนโต๊ะ สาวใช้สะดุ้งรีบคุกเข่า

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เสน่หานางมารหน้าใส   ร้ายจริงหรือ

    "รออะไรหรือว่ารอจะเห็นสีหน้าสำนึกผิดของข้าบอกไว้ก่อน ไม่มีใครจะได้เห็นมัน”“เจี้ยนหลินฝ่าบาทให้เจ้ากับเสี่ยวหลินประลองฝีมือกัน เพื่อตำแหน่งไท่จือเฟย”“ลูกเข้าใจแล้ว”ใต้เท้าหลิน ส่ายหน้าจากไปวันประลอง“คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยเตรียมกระบี่เนื้อดี คมที่สุดไว้ให้แล้ว”หยางเพ่ยตง รองแม่ทัพเพ่ยตงส่งกระบี่ในมือให้กับเจี้ยนหลิงอย่างนอบน้อม แม้ท่าทีองอาจของเขาจะไม่เหมาะแก่การนอบน้อมก็ตาม แต่หากเป็นคนอื่นก็คงไม่ได้เห็นท่าทีเช่นนี้ของเขามีเพียงเจี้ยนหลิงที่ได้เห็นมัน“เพ่ยตงข้าควรออมมือหรือไม่”“คุณหนูคุณหนูรู้ดีข้อนี้ ข้าน้อยไม่ควรออกความเห็น”“ดี ..ไปกันเถอะ”“พี่สาว” เพ่ยตงถอยหลังไปยืนห่างๆ เมื่อ เสี่ยวหลินก้าวขาเข้ามาขวางหน้าไว้“ท่าน ..กับข้า เราจะต้องประลองกันจริงๆ หรือ”น้ำเสียงหวานปนเศร้า เพ่ยตงเบือนหน้าหนีเสีย เจี้ยนหลิงยิ้มบางๆ“เสี่ยวหลินเจ้าเป็นน้องสาวของข้า อย่างไรก็ไม่อาจเป็นอื่น เราสองคนยังเป็นพี่น้องกัน ไปกันเถอะทุกอย่างจะได้จบลงเสียที”ตัดสินใจแน่วแน่“เดี๋ยว” ฮูหยินใหญ่ส่งเสียงมาแต่ไกล เสี่ยวหลินย่อกาย ก้าวเดินสวนทางกับฮูหยินใหญ่ด้วยความเกรงขาม“ท่านแม่”เจี้ยนหลิงประสานมือพร้อมกับก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • เสน่หานางมารหน้าใส   ไม่อยากหรือ

    "ต่อไปเป็นการประลองเพลงกระบี่ ครั้งนี้คุณหนูทั้งสองจะต้องประลองฝีมือด้านการต่อสู้ ใครทำกระบี่หลุดมือเสียก่อนนับว่าพ่ายแพ้แก่คนที่สามารถถือกระบี่ไว้ในมือ เตรียมพร้อม"เสี่ยวหลินหันหน้าหันหลังหลายปีมานี้แม้จะได้ร่ำเรียนเพลงกระบี่หลังจากที่เจี้ยนหลิงขอร้องให้เสี่ยวหลินออกมาฝึกวิชากระบี่ไว้เพื่อป้องกันตัวแต่หาได้คืบหน้าไม่ ไม่เกินสามกระบวนท่าต้องพ่ายแพ้ให้กับเจี้ยนหลิงอย่างแน่นอน"ฝ่าบาท เจี้ยนหลิงรู้ดีว่าน้องสาวเสี่ยวหลินไม่อาจเอาชนะเจี้ยนหลิงได้ ซึ่งการประลองเพลงกระบี่ครั้งนี้จึงไม่เป็นการยุติธรรม น้องเดิมปักผ้าเย็บถุงหอมไม่เคยได้ออกไปไหน ผิดกับเจี้ยนหลิงที่พอจะเคยมีโอกาสได้ถือกระบี่บ้างเป็นครั้งคราวอีกอย่างเสี่ยวหลินอ่อนแอตั้งแต่เด็กๆ นางแค่ถือกระบี่ยังไม่มีแรงเช่นนั้นการประลองครั้งนี้ขอเป็นเจี้ยนหลิงที่ต้องประลองกับ.กับ....ไท่จือ"ฮ่องเต้เลิกคิ้วสูงหันไปกระซิบกระซาบกับขันที่ข้างกาย“ได้ ตามไท่จือที่ลานประลอง”องครักษ์ประสานมือออกจากลานประลองไปในทันที เสี่ยวหลินยืนก้มหน้าอยากจะคัดค้านแต่อีกใจกับคิดว่าเป็นการดี หากเสี่ยวหลินแพ้ถึงสองครั้งทั้งเพลงกระบี่และารปักผ้า ก็คงหน้าอายไม่น้อยแต่หา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • เสน่หานางมารหน้าใส   เจ็บปวด

    แววตาปีติบังเกิดขึ้นในดวงตาของเสี่ยวหลินในทันที เสียงราษฎรและขุนนางที่มาชมการประลองต่างอื้ออึงด้วย ทั้งสองช่างหล่อเหลาและงดงามสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก“ช่างเป็นคู่สวรรค์สร้างเสียจริง นางอ่อนหวานน่าเอ็นดูต่างจากหลินเจี้ยนหลิงคนนั้น ที่นางช่างร้ายกาจ ในสายตาพวกเรา”เสียงพูดนี้มีหรือเจี้ยนหลิงจะไม่ได้ยิน ในเมื่อเจี้ยนหลิงสร้างผลงานไว้มากมาย ที่ทำให้ผู้คนเกลียดชัง หากเป็นที่ตระกูลหลิน เจี้ยนหลิงคงสั่งตบปากคนพูดไปแล้ว แต่นี่แค่เพียงเดินหนีเสียการประลองครั้งนี้ เจี้ยนหลิงชนะสองในสามทั้งงานฝีมือและการประลองปัญญาในแบบที่ไม่ใช้กลโกง บิดากับเพ่ยตงรู้ดีแก่ใจว่าเจี้ยนหลิงมักใช้เล่ห์เหลี่ยมและกลโกง ในทุกครั้งที่บิดาออกรบและทำให้ ใต้เท้าหลินรบชนะทุกครั้งไปเจี้ยนหลิง ก้าวขาออกจากวังหลวงแทบจะทันทีเมื่อการประลองเสร็จสิ้นลง“คุณหนูเช่นไรท่านจึงยอมอ่อนข้อให้กับไท่จือเห็นได้ชัดว่าท่านรับมือเขาได้สบาย”“เจ้าคิดหรือว่าหากข้าชนะแล้วจะได้เป็นไท่จือเฟย มีใครบ้างจะชอบใจหากไท่จือเฟยจะเก่งกว่าไท่จือที่มีโอกาสนั่งบนบัลลังก์มังกรนั่น”เพ่ยตงพยักหน้ายิ้มๆ“แต่ถึงกระนั้นคุณหนูก็ยังชนะการประลองอยู่ดี การแต่งตั้งไท่จื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • เสน่หานางมารหน้าใส   ตอนพิเศษ

    ทางเดินทอดยาว กลางตลาดที่คราคล่ำไปด้วยผู้คนเสี่ยวหลิน ถือไม้เสียบผลซานซาเชื่อมสีแดงน่ากิน แต่เจี้ยนหลิงกับยกมือข้นลูบคลำมีดสั้นที่เพิ่งจะจ่ายเงินซื้อมา“พี่สาวเราสองคนหากมีใครสักคนที่ จะต้องแต่งออกไป”“ก็ต้องเป็นเจ้าที่แต่งออกไปก่อนข้าแน่นอน น้องสาวของข้างดงามอ่อนหวาน”เสี่ยวหลินเหลือบตามองเพ่ยตง ยิ้มเศร้าๆ“เพ่ยตงท่านเล่าคิดเห็นอย่างไร”เจี้ยนหลิงหันไปถามความเห็นของเพ่ยตงที่กอดอกนิ่ง“เพ่ยตงไร้ความเห็น คุณหนูของเพ่ยตงแม้จะไม่อ่อนหวานแต่ทว่ามีความเป็นตัวของตัวเองมิได้สิ่งใดเคลือบแฝงไว้ด้วยบางอย่าง”เสี่ยวหลินหน้าเง้ารู้ดีว่าเพ่ยตงพูดถึงตัวเอง“เพ่ยตงท่านว่ากล่าวข้าหรือไร”“คนเราล้วนมีอุปนิสัยต่างกัน บางคนมีเรื่องราวภายในใจมากมายแต่เก็บงำไว้ ยิ่งน่ากลัว แต่บางคนเปิดเผยชัดเจน ต่างคนต่างใจต่างความคิด”“แล้วเจ้าชอบแบบไหนเพ่ยตง”เจี้ยนหลิงถามยิ้มๆ“เพ่ยตรงก็ย่อมต้องชอบคนที่เปิดเผยชัดเจน”เจี้ยนหลิงอมยิ้มเสี่ยวหลินหน้าเง้า อิจฉา ชในสิ่งที่เจี้ยนหลิงเป็น พยายามจะทำให้ได้เช่นเดียวกับเจี้ยนหลิงแต่ด้วยถูกสั่งสอนให้งดงามอ่อนหวานจึง ไม่มีทางที่เสี่ยวหลินจะเหมือนกันกับเจี้ยนหลิงได้ เจี้ยนหลิงหลิงคว้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • เสน่หานางมารหน้าใส   รางวัลปลอบใจ

    รอบกายพร่ามัวแม้กระทั่งสายตาผิดหวังอย่างยิ่งของหลินซูหลานองค์หญิงสามของฮ่องเต้องค์ก่อนมีเพียงจุดที่หยางฟงฉีกับเสี่ยวหลินยืนอยู่เท่านั้นที่เจี้ยนหลิงเห็นมันเด่นชัด หยางฟงฉียิ้มสุขสมกับเสี่ยวหลินที่มีท่าทีเอียงอาย ผู้คนล้วนแซ่ซ้องกับความเหมาะสมกันดังสุริยันเคียงคู่จันทราในวันที่จันทร์ค้างฟ้าสดใส"เจี้ยนหลิง หลิงเจี้ยนหลิง"ร่างดั่งหุ่นไม้ สะบัดผ้าคลุมหน้าปาลงกับพื้นสุรามงคลถูกแจกจ่าย ไท่จือกับไท่จือเฟยคล้องแขนแลกกันดื่มสุราในมือชื่นมื่น"คุณหนู….หลินเจี้ยนหลิง"เพ่ยตงดึงสติเจี้ยนหลิงมิใช่แค่เพียงดึงสติเขายังดึงร่างบางให้ออกจากความอัปยศตรงหน้าไม่แม้แต่จะหลุดคำกล่าวใดออกมาไม่มีน้ำตาแต่ใจก็แหลกสลายด้วยความผิดหวังได้ไม่ยาก"ไปร่ำสุราที่โรงเตี๊ยมเดียวดายของเยว่ฉีจะดีไหม"เพ่ยตงชักชวน คิดถึงโรงเตี๊ยมเดียวดายร้างไร้ผู้คนที่ล้วนมีสุรารสเลิศหมักบ่มด้วยมือของแม่นางเยว่ฉี เจี้ยนหลิงเหมือนหุ่นไม้ที่ไร้ความรู้สึกนึกคิด อนาคตข้างหน้าไม่อาจคาดเดา ทว่ากับต้องพบกับเรื่องใดบ้างเจี้ยนหลิงก็ต้องรับมันให้ได้สายตาผิดหวังจากมารดา เป็นสิ่งที่เจี้ยนหลิงไม่อยากเห็นมัน ต่อจากนั่นมารดาจะปฏิบัติอย่างไรกับเจี้ยนหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • เสน่หานางมารหน้าใส   รางวัลปลอบใจ2

    "เสี่ยวหลินรู้ดีว่าตำแหน่งไท่จือเฟยสำคัญกับพี่สาวเพียงใด ท่านแม่บอกข้าว่า ท่านแม่...ของพี่สาวลงโทษพี่สาว ข้าเสี่ยวหลินรู้สึกผิดยิ่งนัก แต่ไม่ใช่ข้าที่เป็นผู้กะเกณฑ์เรื่องนี้ หากไม่ใช่ประสงค์ของไท่จือแต่ก็อีกนั่นแหละ ข้าเป็นไท่จือเฟยแล้วเป็นคนของไท่จือแล้ว ข้ารู้ว่าพี่สาวไม่ยอมรามือแน่ ข้ารู้จักท่านดี หากว่าท่านจะแค้นเคืองโปรดให้เป็นเสี่ยวหลินเถิด"ถอนหายใจเบือนหน้าหนีเจี้ยนหลิงลุกขึ้นยืนกอดอก ความจริงเมื่อฝ่าบาทมอบตำแหน่งองครักษ์หญิงให้กับเจี้ยนหลิง ความบาดหมางเบาบางลงไป หากเสี่ยวหลินไม่มาพูดอะไรทำนองนี้อีก ตำแหน่งสำคัญนี้คงพอกู้หน้าให้กับมารดาของเจี้ยนหลิงได้"ข้าไม่รับปาก"ด้วยนิสัยของเจี้ยนหลิงจะยอมง่ายๆ ไม่ใช่เจี้ยนหลิงแต่น้องสาวไม่ได้ผิดอะไรหันมาจับไหล่บางของเสี่ยวหลินให้ลุกขึ้นแม้จากปากแข็งเพียงใดแต่เมื่อเป็นเสี่ยวหลินเจี้ยนหลิงมักจะยอมใจอ่อนเสมอ"ข้าไม่ลุก จนกว่าท่านจะยอมรับปากว่าจะไม่แค้นเคืองไท่จือ"เหมือนเข้ามานั่งในใจ หรือต้องการอวดความภักดีที่มีต่อไท่จือ"ความจริงเป็นเจ้าที่สับปลับในตอนนั้น เป็นเจ้าที่บอกข้าว่าไม่อยากรับตำแหน่งไท่จือเฟย ข้าจึงคาดหวังและทุ่มเท หากเจ้าไม่พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • เสน่หานางมารหน้าใส   รางวัลปลอบใจ3

    “ฝ่าบาทคิดอะไรข้าไม่อาจคาดเดาได้ ตำแหน่งของเจี้ยนหลิงไม่ธรรมดา นางสามารถใช้คำพูดของตัวเองต่างคำบัญชาฝ่าบาทได้ อำนาจนี้แม้แต่ไท่จือกับฮองเฮายังไม่อาจเอื้อม” หลินลี่หลินซ่อนความรู้สึกริษยา แกล้งยิ้มหวานกลบเกลื่อน“นางเป็นหญิงแม้จะมีอำนาจแต่หากเหล่าขุนนางไม่ให้ความย้ำเกรงก็ ไม่อาจคลุมคนได้”“เกรงว่าเป็นฝ่าบาทที่จะสั่งสอนเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์โดยการยกย่องเจี้ยนหลิงและจะต้องมีใครสักคนเป็นตัวอย่างให้ขุนนางคร่ำครึเหล่านั้นรู้ว่า เจี้ยนหลิงมีอำนาจในมือจริงไม่ควรค่อนแคะนินทานาง”"ท่านพี่เสี่ยวหลินจำเป็นต้องมีสาวใช้ติดตามที่รู้ใจคอยรับใช้ใกล้ชิดอยู่ที่ตำหนักบูรพาจะต้องไม่ให้ใครค่อนแคะได้ว่าไท่จือเฟยเป็นเพียงลูกอนุ""ส่งสาวใช้ในบ้านให้นางเสียสองคน คัดเอาคนที่สนิทชิดเชื้อกับ เสี่ยวหลินจึงดี"หลินลี่หลินยิ้มพราวเพ่ยตงเดินกอดกระบี่ตามเจี้ยนหลิงในตลาดที่คราคร่ำไปด้วยผู้คน"นั่นอย่างไรเล่า บุตรีคนโตของบ้านหลิน ท่าดีทีเหลว ในครั้งแรกที่เห็นยิ่งใหญ่เหนือใครแต่สุดท้ายน้องสาวจากเมียอนุของใต้เท้าหลินก็รั้งตำแหน่งไท่จือเฟย"เจี้ยนหลิงยิ้มก้าวเข้าหาคนพูด"เจ้าพูดถึงข้าใช้ไหม""ชะชะใช้ เจ้าจะทำไม"ยัยป้าร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01
  • เสน่หานางมารหน้าใส   จับให้ได้ถ้าแน่จริง

    หยุดเดินแต่ไม่ยอมหันมาเผชิญหน้าเจี้ยนหลิง"อย่าเรียกข้าแบบนั้น สิ่งนี่เป็นความอัปยศที่สุดในชีวิตข้า""ไม่จริงหรอก เช่นนั้นองค์ชายจะอ้างความเป็นองค์ชายห้าทำไมกัน""เจ้าเคยเห็นคนขลาดเขลา เวลาเอาตัวรอดหรือไม่ คิดเรื่องใดไม่ออกมักจะอ้างสิ่งที่คิดว่าจะทำให้คนอื่นกลัว"เจี้ยนหลิงยิ้ม รู้ดีว่าคนผู้นี้มิได้ขลาดเขลา"เชิญองค์ชาย เจี้ยนหลิงหวังว่าโอกาสหน้าจะได้พบกันอีก"หยางฟงเกาก้าวขาจากไป"ไม่น่าต้องชักกระบี่ ปกติเพ่ยตงไม่ชักกระบี่ง่ายๆ ""กลัวว่าคุณหนูจะเป็นอันตราย ข้าประเมินพวกมันสูงไปหน่อย"กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เจี้ยนหลิงอมยิ้มส่ายหน้าไปมาตำหนักบูรพาเสี่ยวหลินขยำเทียบเชิญในมือปาลงกับพื้น"ไท่จือเฟย เพ่ยตงส่งเทียบเชิญ"สาวใช้ที่ฮ่องเต้ประทานมาเอ่ยออกมาอย่างนอบน้อม เสี่ยวหลินหันมายิ้มอ่อนหวาน"เตรียมของฝากให้พี่สาว ข้าจะเลือกของที่ดีหน่อย เจ้ายกหีบเครื่องบรรณาการของไท่จือที่ต่างแคว้นนำมาถวายให้ข้าเลือกที คงต้องใช้เวลาเลือกเสียนานหน่อย สำหรับพี่สาวเจี้ยนหลิงจะต้องเป็นของที่คู่ควร"สาวใช้จากไปเสี่ยวหลินเปลี่ยนสีหน้าเป็นกังวลใจยิ่งนัก"นางตั้งใจเอาคืน"เกี้ยวของตำหนักบูรพาหยุดนิ่งหน้าตระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04

บทล่าสุด

  • เสน่หานางมารหน้าใส   จบบริบูรณ์

    ฟงเกาฝืนยิ้มทั้งๆ ที่เจ็บปวดไปทั่วสรรพร่าง“นั่นอย่างไรเล่าข้าจึงต้องตายอย่างน้อยก็รู้ว่า เจี้ยนหลิงเจ็บปวดต่อการจากไปของข้า”เจี้ยนหลิงหลับตาไล่หยาดน้ำตา กลืนมันลงในอก“ท่านห้า ข้าไม่ให้ท่านไปไหน เราสองคนจะต้องอยู่ด้วยกันไม่มีใครไปไหน”เพ่ยตงกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น“ข้าก็อยากจะอยู่กับเจ้าอยากยืนเคียงข้างเจ้าในวันเสกสมรส อยากเปิดผ้าคลุมหน้าอยากยิ้มกับเจ้าแต่.. คงไม่มีวันนั้นแล้ว”“องค์ชายหยุดพูดหยุดพูดเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น…”เจี้ยนหลิงกลืนก้อนแข็งๆ ลงในลำคอสะกดกลั้นอาการสะอื้นไห้“ 555ข้าชอบเจ้าเวลาโกรธชอบเจ้าเวลาทำท่าทางขึงขัง เจ้ารองแม่ทัพเพ่ยตงปราบพยศคุณหนูของเจ้าแทนข้า แต่ข้าว่าเจ้าจะโดนเจี้ยนหลิงปราบเสียมากกว่า เอาอย่างนี้ดูแลนาง ปกป้องนาง ตามใจนางเหมือนที่ข้าอยากทำ”เพ่ยตงแหงนหน้ามองฟ้า สะกดกลั้นหยาดน้ำตาที่ไหลรินเช่นกัน“ข้าไม่รับปากท่านจะต้องไม่เป็นอะไร ไม่มีอะไรสำคัญเท่าการที่ท่านจะอยู่กับพวกเราที่นี่ไม่มีใครต้องจากไป” ฟงเกายิ้มเศร้าๆ เอื้อมมือสั่นเทาคว้ามือของเจี้ยนหลิงวางบนมือเพ่ยตง“ข้าพยายามแล้วแต่คิดว่าคงไม่อาจกระทำข้าเจ็บเหลือเกินตอนนี้”“ท่านห้าท่านเก่งเกินใครเรื่องเล็

  • เสน่หานางมารหน้าใส   บทสรุป2

    "บัดนี้ การสถาปนาฮ่องเต้ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว หยางฟงฉีฮ่องเต้ทรงพระเจริญ"ขันทีอัญเชิญตราประทับหยก ตรงหน้าหยางฟงฉีเอื้อมมือคว้าตราประทับเสี่ยวหลินยิ้มสุขสม ทว่าเพ่ยตงทะยานผ่านหน้าคว้าตราประทับไว้ในมือ"องครักษ์มีผู้ชิงตราประทับ"ขันทีตะโกนก้อง ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าขุนนาง ฟงฉีและเสี่ยวหลิน เพ่ยตงดึงเกราะออกเปิดเผยใบหน้า"เพ่ยตงบังอาจนัก องครักษ์ฆ่าเขาเสีย"เพ่ยตงกระโจนทะยานไปบนศีรษะของเหล่าองครักษ์ที่กรูกันเข้ามา ข้ามไปยังเบื้องหน้าลานกว้างที่บัดนี้ หยางฟงหยางยืนอยู่ เพ่ยตงย่อกายส่งมอบตราประทับให้กับหยางฟงหยางทั้งขุนนางและคนที่มาร่วมงานต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็นหยางฟงหยางชูตราประทับขึ้นสูงสุด"เสด็จพ่อ"หยางฟงฉีพึมพำเบาๆ"ฟงฉี เจ้าลูกชั่ววางยาทำร้ายข้าแล้วยังใส่ร้ายผู้อื่นทหารจับตัวฟงฉีไว้เดี๋ยวนี้"องครักษ์หันหน้าหันหลัง"ทหารจับตัวกบฏหยางฟงฉี"เสียงใต้เท้าหลิน ที่นำกำลังทหารฝ่ายใต้การนำของใต้เท้ากุ้ยและใต้เท้าหลินในตำแหน่งแม่ทัพ เข้ามาล้อมลานพิธีไว้"ท่านพ่อ ทำไมทำแบบนี้ทั้งๆ ที่ลูกกับท่านพี่กำลังจะได้นั่งบนบัลลังก์แล้วแท้ๆ "เสี่ยวหลินตัดพ้อใต้เท้าหลิน"ข้าไม่เคยมีลูกเช่นเจ้า ลูกของ

  • เสน่หานางมารหน้าใส   บทสรุป

    ฟงเกา ตวัดคมกระบี่เข้าห้ำหั่นเหล่าองครักษ์และมือสังหารล้มตายเหมือนใบไม้ร่วงแต่กลับเหมือนยิ่งล้มตายยิ่งเพิ่มเข้ามาไม่หยุดหย่อน ฟงเกาแทบจะทรงกายไว้ไม่ไหว มือสังหารได้ใจไม่ยอมให้ได้หยุดพัก ใช้กระบี่คมกริบในมือฟาดฟัน แผ่นหลังเป็นแผลยาวเลือดไหลซึมออกมา ฟงเกาทรุดกายลงคุกเข่ากับพื้นแต่ทว่ามือยังกำกระบี่ไว้แน่น มือสังหารอีกคนพุ่งตรงเข้าใส่ จ้วงกระบี่ เข้าใส่แผ่นหลังหมายปลิดชีพเสีย จวนตัวจนไม่อาจจะหนีพ้น ฟงฉานถลาเข้าเอาตัวบังร่างของฟงเกาไว้เสียงคมกระบี่เสียบเข้าที่ยอดอกของฟงฉานชัดเจนเลือดสดสดไหลออกจากปากดวงตาเหลือกถลนล้มลงกับพื้น ฟงเกาอ้าปากค้างหันมากอดรวบเอาร่างโชกเลือดของฟงฉานไว้ในอ้อมแขน“พี่ใหญ่”ฟงฉานยิ้มน้อยๆ เลือดไหลออกจากปากไม่หยุด“พี่ใหญ่ไม่ ไม่ไม่ ท่านจะต้องไม่เป็นอะไร”“หนีไป เจ้าห้าหนีไปเสีย”“ข้าจะต้องช่วยท่านออกไปให้ได้”ผุดลุกขึ้นกวัดแกว่งกระบี่ในมือย่างบ้าคลั่งแม้จะบาดเจ็บ องครักษ์กับมือสังหารล้มตายดาษดื่นด้วยแรงโทสะสามารถทำให้องครักษ์และมือสังหารมากมายพ่ายแพ้ย่อยยับ หันกลับมาที่ร่างอ่อนแรงเสียงหายใจรวยริน“พี่ใหญ่..พี่ใหญ่ออกไปไปหาจูจิวนางรอเราอยู่ที่นั่นข้างนอกนั่น”พยุงร่า

  • เสน่หานางมารหน้าใส   ตามแผน2

    “องค์ชายเรื่องราวมากมายวกวน ล้วนมีทั้งสุขและทุกข์องค์ชายอย่าได้กังวล คิดเสียว่าทุกอย่าง มาถึงเวลาอันควรแล้ว”“พี่รองนับวันยิ่งเหิมเกริมอาศัยอำนาจทำเรื่องชั่วช้า ไม่เกรงกลัวบาปกรรม”“คนเช่นนี้จะต้องจัดการให้เข็ดหลาบ ไม่เปิดโอกาสให้ได้มีทางแก้ตัวได้”“เจี้ยนหลิง ตอนนี้ทุกอย่างกำลังบีบรัดข้าอยากได้กำลังใจจากเจ้าเสียจริง”“กำลังใจแบบไหนกัน” ขยับเข้าหาเจี้ยนหลิงมือไวเท่าความคิดคว้าร่างบางมากอดแนบแน่น“องค์ชาย หาใช่เวลาที่จะ..จะ อุ๊ป”แก้มเนียนถูกขโมยดอมดมกลิ่นหอม จมูกโด่งเป็นสันกดเข้าที่พวงแก้ม สุดแรง“องค์ชาย”“ต่อจากนี้ไม่รู้ว่าจะต้องพบเจอสิ่งใดบ้าง ข้ากลัวเหลือเกินว่าจะไม่ได้ใกล้เจ้าแบบนี้เจี้ยนหลิง อย่าใจร้ายกับข้านักเลย” เจี้ยนหลิงหลบตาเขินอาย“องค์ชาย ไปที่แห่งใดเจี้ยนหลิงไปที่นั่น ต่อไปก็จะต้องใกล้ชิดกัน ข้าหาได้คิดที่จะปล่อยให้องค์ชายต้องเผชิญเรื่องราวทุกข์เข็ญเพียงลำพังในเมื่อเรามีชะตากรรมเดียวกันถือว่าเป็นวสรรค์ที่ ให้เราทั้งหมดได้พานพบ”กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น สูดดมความหอมจากเรือนผม“ขอบใจเจ้าจริงๆ ขอบใจที่ทำให้รู้ว่าเจ้าจะอยู่ข้างข้าแบบนี้ค่อยมีกำลังใจหน่อย ต่อไปไม่ว่าจะเกิด

  • เสน่หานางมารหน้าใส   ตามแผน

    “จูจิว”เจี้ยนหลิงกล่าวทักทายด้วยความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าคนที่พบจะเป็นจูจิว ทั้งๆ ที่ส่งข่าวให้สาวใช้ที่เป็นคนของเจี้ยนหลิงไปบอกกล่าวคำพูดปริศนากับองค์ชายใหญ่ เพื่อส่งข่าว“พี่สาวเจี้ยนหลิง ท่านปลอดภัยดีไหม ข้าเพิ่งจะเข้าใจเมื่อพบหน้าท่าน องค์ชายใหญ่รอบคอบยิ่งนักไม่ยอมมาด้วยตัวเอง คนของไท่จือจับตามององค์ชายใหญ่ตลอดเวลาข้ายินดีส่งข่าวให้พวกท่านกับองค์ชายใหญ่เอง”“ขอบคุณแม่นางจูจิว” ฟงเกาเอ่ยออกมาบ้าง“องค์ชายตอนนี้ ไท่จือทรงกริ้วอย่างมาก การที่ท่านหนีออกมาแบบนี้ ส่งมือสังหารไล่ล่า”“ไม่หนีก็ไม่ควรจะอยู่ ลมเปลี่ยนทิศอำนาจเปลี่ยนมือ”“ฝ่าบาทตอนนี้ถูกรับมาดูแลที่ตำหนักปลายฟ้า”“แปลกจริงทำไมถึงยอมให้องค์ชายใหญ่รับเอาฝ่าบาทไปดูแลง่ายดาย ไม่ได้การแล้ว”เจี้ยนหลิงลุกขึ้นจากท่านั่ง“คุณหนูท่านหมายความว่าอย่างไร”เพ่ยตงผู้ที่รู้ใจเจี้ยนหลิงที่สุด“หากต้องการอำนาจไว้ในมือไท่จือ จะต้องรับเอาฝ่าบาทไว้ดูแลเองไม่ต้องการให้ใครไปยุ่งเกี่ยว ที่ทำแบบนี้เพราะๆ ..ได้ทุกอย่างไว้ในกำมือแล้วหรือต้องการ... ให้ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์ในมือขององค์ชายใหญ่เพื่อจะป้ายความผิดให้กับองค์ชายใหญ่”จูจิว ถอยหลังกรูด“เราจะทำ

  • เสน่หานางมารหน้าใส   ซบหน้าร้องไห้กับอกข้า

    "เพ่ยตง เจ้าจะทิ้งข้าไปไหนอีก เพราะไม่มีเจ้าไม่อยู่ท่านแม่จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้" เพ่ยตงประสานมือตรงหน้าสีหน้าเศร้าหมองไม่ต่างกัน"ไม่ได้ ข้าว่าข้าเคยห้ามเจ้าแล้วนะเพ่ยตรง"ฟงเกาช่วยห้ามอีกแรง"องค์ชายไม่ได้เป็นเพ่ยตงองค์ชายไม่มีทางเข้าใจหรอก ว่าท่านน้าสำคัญกับข้าเพ่ยตงแค่ไหน""จะบอกว่าเจ้าเจ็บแค้นคนเดียวหรือไร ฝ่าบาทตอนนี้ก็อยู่ในมือของพี่รองเป็นตายเท่ากัน คิดว่าข้าไม่ร้อนใจหรือไร""แล้วจะปล่อยคนชั่วไว้ทำไมกัน"“เจี้ยนหลิงเจ้าว่าอย่างไร”"ข้าตอนนี้แทบกระอักเลือด เสี่ยวหลินจะต้องชดใช้เรื่องที่นางทำกับท่านแม่ข้าไม่มีทางอภัยให้นาง แต่ไม่ใช่ตอนนี้หากทำการวู่วามไปนอกจากจะไม่ได้แก้แค้นบางทีกลัวว่าจะไม่อาจรักษาชีวิตไว้”“เราทั้งสามเข้าตาจน ตอนนี้คงต้องเร้นกายที่นี่แต่กลัวเหลือเกินว่าจะทำให้เยว่เหนียงได้รับความเดือดร้อน” เพ่ยตงกล่าวขึ้น“ท่านรองแม่ทัพไม่ต้องกังวล ที่นี่มีห้องลับมากมาย อีกอย่างโรงเตี๊ยมของเยว่เหนียงห่างไกลจากวังหลวง คงไม่มีใครให้ความสนใจหรือหากจะมีใครมาค่ายกลที่สร้างไว้ก็พร้อมที่จะเปิดใช้งาน”“รบกวนแม่นางเยว่เหนียงแล้ว”ฟงเกาประสานมือตรงหน้าเยว่เหนียง“ไม่อาจรับไว้ได้ เยว่เหน

  • เสน่หานางมารหน้าใส   เข้มแข็ง

    ชักกระบี่ออกจากอก เลือดสีแดงพุ่งดั่งเขื่อนแตก ซูหลานกำอาภรณ์ไว้แน่น เสี่ยวหลิน สะบัดตัวปล่อยร่างของซูหลานฟุบลงกับพื้น ใต้เท้าหลินถลาเข้าหอบร่างของซูหลานไว้แนบอกน้ำตาไหลริน“ข้าขอโทษข้าขอโทษ ซูหลานข้าขอโทษ”“ท่านพี่ ปกป้องเจี้ยนหลิงให้ข้าด้วย ปกป้องลูกของเราด้วย” กระอักเลือดสดสดออกมาก่อนที่จะสิ้นลมไปต่อหน้าต่อตาใต้เท้าหลินตำหนักม่านฟ้า องครักษ์กรูกันเข้ามาล้อมฟงเกาที่นั่งไขว่ห้างแสร้งจิบชาสบายอารมณ์ทั้งๆที่รู้ว่าจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น“พวกเจ้ารับบัญชาไท่จือ จงใจเป็นศัตรูกับข้าใช่หรือไม่”“องค์ชาย ไท่จือให้กักบริเวณองค์ชายให้อยู่แต่ในตำหนักม่านฟ้า”“คิดว่าจะกักขังข้าได้หรือ” ลุกขึ้นยืนคว้ากระบี่ที่ซ่อนไว้ใต้โต๊ะเครื่องเสวย ชักมันออกจากฝักง่ายดาย องค์รักษ์ต่างตกตะลึงเพราะไม่มีใครรู้ว่าฟงเกาเชี่ยวชาญวรยุทธ์มาก่อน“เข้ามา พร้อมกันข้าจะได้เลือกว่าจะฆ่าใครก่อน”องครักษ์มองหน้ากันเลิกลักก่อนจะ พุ่งทะยานเข้าใส่ ฟงเกาด้วยคิดว่าเป็นต่อ กระบี่ในมือถูกสะบัดไปในอากาศ เพียงพริบตาเดียวเหล่าองครักษ์ต่างล้มลงกับพื้นโอดโอยบ้างก็หนีตายบ้างก็ทรุดกายลงด้วยยอมจำนน“คิดจะกักขังข้า ไม่มีทางเจ้าคิดผิดแล

  • เสน่หานางมารหน้าใส   หนี

    "ฝ่าบาททรงพระประชวรอย่างหนัก เพียงชั่วข้ามคืน"ซูหลานกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"ท่านแม่ คงเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก""ระหว่างนี้เจ้าต้องระวังตัวเมื่อเข้าไปในวังหลวง พวกเรายังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด”"ลูกทราบแล้ว ขอบคุณท่านแม่ที่ห่วงใยองค์ชายรองรีบรุดอาสาดูแลฝ่าบาท ลูกกลัวเหลือเกินว่านี่จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนมือ""เพ่ยตงมาลา"ลอบมองสีหน้าของเจี้ยนหลิง"ลา ในยามนี้เขาทิ้งเรา ร่ำลาไปที่แห่งใดกัน"ใต้เท้าหลินสาวเท้าเข้ามาในห้อง"ฝ่าบาทมีบัญชาแต่งตั้งองค์ชายรองในตำแหน่งไท่จือทันที"ใต้เท้าหลินเองก็มีสีหน้ากังวลไม่น้อยไปกว่าสองคนแม่ลูกในเมื่ออำนาจเปลี่ยนมือฝ่าบาทประชวรคนที่มีอำนาจสั่งการทั้งหมดจะต้องเป็นไท่จือ"ท่านพี่ฝ่าบาททรงพระประชวร เช่นไรจึงเร่งรีบแต่งตั้งเพียงนี้""อ้างว่า ไร้คนบัญชาการเรื่องราวต่างๆ ในวังหลวง จึงต้องมีการตัดสินใจในทันที มีทั้งตราประทับ และร่างอักษรในการแต่งตั้งไท่จือที่เป็นลายพระหัตถ์ของฝ่าบาทนัยว่าร่างไว้นานแล้วแต่ยังไม่ได้บัญชาออกไป"ซูหลานสบตากับเจี้ยนหลิง"เจ้าไปเสียก่อน เจี้ยนหลิงออกไปจากเขตวังหลวงเรื่องราวสงบลงเมื่อไหร่ค่อยกลับมา"ดึงตัวเจี้ยนหลิงให้ลุกขึ้น"เจ้ากังวลเก

  • เสน่หานางมารหน้าใส   สวรรค์ลิขิตหรือบิดเบือน

    เสี่ยวหลินยิ้มหยัน อยู่ตรงหน้า"ทานรองแม่ทัพ ยอมจำนนแล้วหรือเจี้ยนหลิง คนที่หมายปองนางสูงศักดิ์อีกทั้งยังเหนือกว่าไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้ เกรงว่าจะต้องเป็นท่านที่ต้องยอมแพ้เสียก่อน ""ข้าไม่เคยยอมจำนนที่จะภักดีกับคุณหนูตลอดไป"เสี่ยวหลินสีหน้าสลดลงลงทันทีสิ่งที่ไม่อาจตัดทิ้งไปได้คือความรู้สึกที่มีต่อเพ่ยตง"เสี่ยวหลินเอาใจช่วย ให้ท่านสมหวังแม้ข้าจะไม่ชอบพี่สาวเท่าไหร่ก็ตาม"เพ่ยตงสาวเท้าจากไปไม่อยากมองภาพบาดตาตรงหน้า"ปล่อยข้านะ"เจี้ยนหลิงผลักร่างสูงออกห่างแต่กลับถูกแขนอุ่นดึงรั้งร่างบางเข้าหาตัว เจี้ยนหลิงเบือนหน้าหนีอีกคนเชยคางมนให้สบตาคม"เจ้า ถึงจะบอกว่าไม่ชอบข้ารังเกียจข้า แต่ให้รู้ไว้ว่าฟงเกาคนนี้ไม่มีทางยอมแพ้ง่ายดาย”“องค์ชาย เร่งรัดเจี้ยนหลิงมากไป”“เสด็จพ่อมีพระประสงค์ประทานงานแต่งงานให้เราสองคน แต่ข้าขอเวลากับเสด็จพ่อว่าไม่อยากหักหาญน้ำใจเจ้าให้เจ้ามายินยอมด้วยตัวเอง ในการที่จะแต่งกับข้า”เจี้ยนหลิงถอนหายใจยาว“อย่างที่บอกข้าไม่มีทางยอม แม้เจ้าจะบอกว่าไม่ชอบข้าก็ตามสักวันข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่า ข้าปรารถนาดีกับเจ้าที่สุด”ปล่อยมืออกช้าๆ เจี้ยนหลิงก้มหน้าด้วยภายในใจ ไม่อาจบรรยายออ

DMCA.com Protection Status