ช่วงนี้เขาช่วยดูแลเจ้าก้อนกลมสองก้อนที่กำลังดื้อและน่าฟัดเอามากๆเลยล่ะ ถึงแม้จะเหนื่อยแต่เขาก็เต็มใจช่วยนะเพราะแค่ปาล์มคนเดียวที่ต้องออกไปหาเงินมันก็หนักมากแล้วเขาสงสารปาล์มนะ ปาล์มเลือกที่จะเข้าป่ากับป้าๆน้าๆในหมู่เข้าป่าไปหาของป่าและเห็ด.. เขาสงสารปาล์ม เขาอยากจะแบ่งเบาภาระของปาล์มบ้างแต่เขาก็ไม่สามารถออกไปไหนได้เขาเลยขอเลือกที่จะทำงานง่ายๆผ่านบ้าน และสิ่งที่เขาคิดก็คือทำอาหารขาย และให้ลงขายผ่านอินเตอร์เน็ตเอา เขาเองก็พอมีเงินเก็บนิดๆหน่อย และข้าวของเครื่องใช้ที่จะต้องทำมันก็ไม่แพงมาก เขาเลยคิดว่าเขาจะหารายได้พิเศษเสริมเพื่อมาช่วยปาล์มสักนิด…
“ปาล์ม.. นั่งพักก่อนนะ กินน้ำใบเตยเย็นๆก่อนเราทำเอาไว้ให้ตัวโดยเฉพาะเลยนะ.. ” เพียงแค่เขาได้ยินเสียงป้าๆน้าๆเขาก็รีบพาเจ้าก้อนกลมสองก้อนออกมานอกบ้านเพื่อมารอคนเป็นแม่ทันที.. ดูสิเพียงได้ยินเสียงคนเป็นแม่ก็กระดี๊กระด๊ากันใหญ่ และนับวันเจ้าสองก้อนกลมหลานรักของเขาผิวพรรณและสีผมออกแนวไปทางลูกครึ่งเสียขนาดนี้.. ตกลงแล้ว.. ใครเป็นพ่อของหลานเขานะ…
“ ขอบคุณนะไปป์ แตงโม ตังเม.. ดื้อไหมครับ ดื้อกับน้าไปป์ไหมครับ…”
“ แมะ แมะ…”
สองพี่น้องได้แต่อมยิ้มให้กับเจ้าสองก้อนกลมที่เริ่มหัดพูด ทั้งสองคนใกล้จะสองขวบแล้ว เป็นอะไรที่พวกเขาเหนื่อยมากๆแต่ก็สนุกและรักในสิ่งที่พวกเขาทุ่มเทให้.. เด็กสองคนนี้เป็นเด็กที่ฉลาดมาก น่ารัก เข้ากับทุกคนได้ดี ป้าๆ น้าๆก็เอ็นดูเจ้าสองก้อนกลมมากๆเสียด้วย
“ ตัวได้อะไรมาบ้างวันนี้.. ปาล์ม… เราว่าจะหาทำอะไรนิดๆหน่อยๆหาเงินมาช่วยตัว เลี้ยงหลานอย่างเดียวมันเบื่อน่ะเราว่าจะหาอะไรทำแบบว่าที่เราสามารถทำและได้เงินด้วย เราว่าจะทำของกิน เราเห็นแล้วมันน่าสนใจน่ะ.. ตัวว่าไง ” ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเขาก็ขอถามปาล์มก่อนเพราะตอนนี้ปาล์มเหมือนผู้ปกครองเขาโดยสมบูรณ์แบบ เป็นทั้งแม่เจ้าก้อนกลมและเผลอๆจะเป็นแม่เขาแล้วเนี่ย..
“ เรายังไหวนะไปป์ ” เธอรู้ว่าไปป์อยากช่วยแบ่งเบาภาระเธอแต่เธอก็ไม่อยากให้ไปป์ต้องมาเป็นห่วงและเหนื่อยอีกคนเธอรู้ว่าแค่เจ้าสองก้อนกลมของเธอน่ะไม่ใช่ง่ายๆเลยนะที่จะเลี้ยงได้ในแต่ละวันเพราะบางวันลูกของเธอก็แสนซนและเอาแต่ใจตัวเองสุดๆบางครั้งเธอก็ถึงกับสติแตกเลยนะแต่โชคดีที่ไปป์เอาอยู่.. เธอรู้ว่าน้องชายของเธอเองก็เหนื่อยเธอไม่อยากให้ไปป์ทำอะไรเกินตัวเพราะมันเหนื่อยจริงๆ
“ตัวบอกไหวแต่เราก็จะบอกตัวว่าเราก็ไหว เพราะงานที่เราอยากทำน่ะมันทำที่บ้านได้เราจะทำของกินขายและโพสลงหน้าสื่อโซเชียลน่ะตัว มันไม่น่าจะยากหรอก แต่มันอาจจะต้องใช้เวลากันบ้าง.. เจ็บไหม..” เขาจับมือของปาล์มมาดู จากมือที่เคยสวยเนียน เล็บที่สะอาดสะอ้านตอนนี้ก็มีรอยแตกของการทำงานหนัก.. ปาล์มไปขุดหน่อไม้และเก็บของป่ามาขาย ปาล์มจัดชุดผักต่างๆเพื่อเอาไว้ให้แม่บ้านที่ผ่านไปผ่านมาได้จับจ่ายซื้อไปทำมื้อค่ำ.. มือที่เคยเนียนนุ่มตอนนี้มันแห้งแตกปละหยาบกร้าน.. เขาไม่อยากให้ปาล์มเหนื่อยไปมากกว่านี้แล้ว..เขาเองก็เป็นผู้ชายนะเขาก็จะต้องช่วยปาล์มสิ..
“ไม่เป็นไรแล้ว เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นน่ะ ไปๆวันนี้ตัวทำอะไรบ้างหิวแล้วเนี่ย วันนี้รีบเข้าบ้านเลยนะอยากกินกับข้าวฝีมือตัวอ่ะ…” เฮ้อ.. เธอรู้ว่าไปป์เป็นห่วงเธอ แต่เธอก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ เธอเคยไปล่อนใบสมัครเอาไว้แต่ไม่มีใครรับเธอเข้าทำงานเลย เธอรู้แล้วว่าเขาน่าจะทำทุกวิถีทางให้เธอไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไปเขาเคยพูดกับเธอเอาไว้นานแล้ว.. เรื่องนั้นเธอจำได้ขึ้นใจเลยล่ะ และเขาก็ทำจริงๆซะด้วยสิ.. ดังนั้นเธอจะมามัวเลือกงานไม่ได้ ตอนนี้ไม่ว่าจะงานอะไรเธอก็ต้องทำ และเธอก็ชอบด้วยสิเธอเคยดูคลิปของคนจีนบ่อยๆที่เขาชอบไปหาหน่อไม้ในป่า และไปหาเห็ดตามป่า เมื่อเธอได้ไปสัมผัสมันจริงๆมันก็ทำให้เธอหลงลืมเรื่องเศร้าๆไปเลย..
“ปาล์ม.. อย่าห้ามเราเลย เราเป็นน้องตัวนะ เราะจะไม่ยอมให้ตัวเหนื่อยคนเดียว เรารักปาล์มนะ รักและเป็นห่วงตัวมากๆนะรู้ไหม?”
เธอรับรู้ถึงความรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากไปป์ เธอรู้ดีว่าไปป์รักและเป็นห่วงเธอมากๆ เธอเองก็รักและเป็นห่วงไปป์เหมือนกัน…
~~~
ในที่สุดสิ่งที่เขาได้วางแผนเอาไว้เขาก็ได้ทำมันขึ้นมาตอนนี้เขาเริ่มทำอาหารง่ายๆที่ราคาไม่แพงเท่าไร ข้าวก็มี แต่พวกกับคงจะต้องสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามวันเพราะเขาไม่อยากให้แต่อะไรเดิมๆ อย่างเช่นวันนี้เขาทำหมูกระเทียมพริกไทย มีแตงกวาเพิ่มไปให้อีก กล่องนึงเขาขายที่ 35 บาท เขาโพสลงบนโซเชียลของเขาเองและก็รับออร์เดอร์เผื่อมีใครสนใจ.. ช่วงแรกๆมันอาจจะทุลักทุเลหน่อยแต่พอผ่านไปได้ครบอาทิตย์มันก็เริ่มดีขึ้นมา และที่สำคัญปาล์มก็เอาไปวางขายที่แผงในตลาดอีกทีช่วงเย็น มันก็ได้นะ ไม่ได้แย่อย่างที่เขาและปาล์มคิดเลย
“ วันนี้เราทำหมูทอดกระเทียมพริกไทยนะตัว กล่องล่ะ 30 ก็แล้วกันเพราะคนที่มาจับจ่ายเขามาซื้อหน้าร้าน.. ปาล์ม… เหนื่อยไหม? ” เขาก็รู้ว่าปาล์มเหนื่อยแต่เขาก็อยากจะถามให้ปาล์มได้รู้ว่าเขาเป็นห่วงปาล์ม
“ก็ไม่เท่าไรนะไปป์ ยังไหวอยู่ ว่าแต่ไปป์เถอะเหนื่อยไหมไหนจะเจ้าสองตัวดื้อแล้วและยังทำอาหารขายอีก.. ถ้าเหนื่อยก็พักนะ”
“แหม.. บอกตัวเองเถอะปาล์ม ตัวน่ะพักเยอะๆนะ กินเยอะๆด้วยรู้ไหม? ดูสิตัวจะผอมไปไหนอีก แค่นี้เราก็กลัวว่าตัวจะเป็นลมแล้วนะ กินเยอะๆรู้ไหม เรื่องของเราตัวไม่ต้องเป็นกังวลนะ เราแข็งแรงกว่าตัวเยอะเลย เราเป็นผู้ชายนะตัวอย่าลืมสิ…” ปาล์มก็กะไร คิดว่าเขาจะเป็นลมเป็นแล้งง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? เขาแข็งแรงกว่าปาล์มตั้งเยอะ เพียงแค่บริเวณเข่าของเขามันอาจจะมีอาการเจ็บบ้างถ้ายกของที่หนักไป โดยรวมเขาก็ยังแข็งแรงกว่าปาล์มเยอะนะ
“ค๊าๆๆ กินเยอะ จะกินเยอะๆ งั้นเราไปกินข้าวกันก่อนแล้วค่อยมาจัดแจงของที่จะเอาไปขายที่ตลาด…” เฮ้อ.. บ่นไม่ได้เลยสินะ แต่สิ่งที่ไปป์พูดมาเธอก็เข้าใจนะ เธอรู้ว่าไปป์เป็นห่วงเธอมากถึงมากที่สุด ดังนั้นเธอจะต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อคนที่เธอรักทั้งสามคนเเธอจะต้องไม่เป็นอะไร
เสียงหัวเราะเฮฮาของคนที่อยู่ในบ้านหลังเล็กกระทัดรัดสร้างรอยยิ้มให้กับคนที่ผ่านไปผ่านมาได้เสมอ ทุกคนเมื่อก่อนต่างมองทั้งสองพี่น้องผิดคิดว่าทั้งคู่ได้เสียกันจนทำให้แฝดผู้พี่ต้องท้องแต่เมื่อเด็กแฝดทั้งสองคนเริ่มโตขึ้น… ทุกคนต่างก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเพราะช่วงแรกๆทุกคนต่างว่าร้ายใส่สีเทเสียทั้งสองคนและเมื่อเห็นเด็กแฝดทุกคนก็รู้สึกผิดและพยายามที่จะทำดีกับบ้านนี้เท่าที่ทุกคนจะทำได้ ไม่ว่าจะช่วยสอดส่องความเรียบร้อยหรือช่วยเหลือเรื่องไหนที่สองพี่น้องทำไม่ได้ คนในหมู่บ้านก็จะช่วยกันสอดส่องและช่วยเหลืออยู่ตลอด…
แต่ละวันมันช่างผ่านไปรวดเร็วเหมือนกันนะจะว่าไปหลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะเริ่มทำงานหาเงินตอนนี้ก็เวลาก็ล่วงเลยเข้าเดือนที่สามแล้ว รายได้ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากเลยทีเดียว เมื่อก่อนที่บ้านตู้เย็นยังเป็นหลังเล็กๆใส่ของได้ไม่มากตอนนี้เป็นเป็นหลังใหม่แล้วและสามารถกักตุนของสดต่างๆได้มากขึ้น.. และเขาสามารถซื้อวัตถุดิบอย่างอื่นได้เพื่อมาทำของขาย วันนี้เขาเลือกทำซูชิทอดและวางไส้หลังจากทอดและหั่นผ่าตรงกลางให้มันแยกออกจากกัน และนำไส้ต่างๆที่เขาคิดว่าน่าจะเข้ากันลงไปวางตรงกลางและราดด้วยซอสในฉบับของเขา“ แตงโม ตังเม.. กินไหมเอ่ย.. มาๆมาลองชิมให้น้าก่อนนะครับ..” หนูทดลองตัวดีคือเจ้าก้อนกลมของเขานี่แหละ เจ้าสองคนนี้มักจะคอยชิมอาหารต่างๆให้กับเขาอยู่ตลอดเวลาถ้าเมื่อไรเจ้าสองคนนั้นคายทิ้งนั่นก็หมายความว่า… หยุดทำเพราะมันไม่อร่อยและเขาก็จะต้องปรับปรุงและแก้ไขรสชาติไปจนกว่าเจ้าสองก้อนกลมจะกิน ถ้าเมื่อไรที่เจาสองก้อนกลมกินหมดนั่นหมายความว่าอาหารของเขาผ่านแล้ว“ กิน.. กิน…”หึหึ.. อ้วนเอ้ย.. จะอวบอ้วนไปถึงไหนกันนะเจ้าสองก้อนเอ้ย.. ให้ตายสิเจ้าเด็กสองคนนี้นับวันยิ่งน่ารักและน่าเอ็นดูขึ้นไปอีก เมื่อก่อนเขาก็หลงห
วันแล้ววันเล่าตอนแรกเขาก็คิดว่าคนที่อ้างตัวเองว่าเป็นพ่อของเจ้าสองก้อนกลมจะล้มเลิกความคิดไปเพราะหลังจากที่เขาเจอในวันนั้นคนพวกนั้นก็หายหน้าไปเลยสองสามวันเขาก็เลยคิดว่าคงจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีกต่อไปแต่ที่ไหนได้… สองคนนั้นกลับมาอีกครั้งและก็มาคอยป้วนเปี้ยนอยู่แถวบ้านของเขาเรื่องนี้เขาเองก็ลืมเล่าให้ปาล์มฟังเพราะเขาคิดว่าคนพวกนั้นไม่น่าจะมาอีกเพราะคนที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อเจ้าสองก้อนกลมหายหน้าไปเลยและไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขาอีก แต่พอสามวันผ่านไปเท่านั้นแหละ..“คุณมาแบบนี้คุณต้องการอะไรกันแน่…” มันจะเกินไปแล้วนะ เพียงแค่ปาล์มออกไปข้างนอกกับป้าๆน้าๆในหมู่บ้านพ่อของก้อนกลมก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาหาแตงโมและตังเมทันที วันนี้เขาถือขนมมาเยอะมาก ขนมที่เด็กสามารถกินได้ อันที่จริงมันก็ดีนะเพราะเด็กๆจะได้กินอะไรที่แปลกใหม่บ้างแต่เขาก็ไม่อยากจะทำให้เด็กทั้งสองคนเคยตัวจนไม่ยอมกินข้าวกินน้ำน่ะสิ ดีที่เขายังไม่ได้สอนให้เจ้าสองก้อนกลมเรียกเขาว่าพ่อไม่งั้นเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกกับปาล์มว่ายังไงดี“ต้องการลูกและเมียไงถามโง่ๆ ไอ้ณุช่วยพาน้าของลูกกูไปหาปลากินหน่อยเผื่อจะฉลาดขึ้นมาบ้าง พ่อมาหาลูก ผัวมาหาเมีย
สวัสดีวันที่น่าเบื่อสำหรับผม… อ๋อ ผมชื่อไปป์ อายุ 26 ปี เป็นพนักงานบัญชีทั่วไปที่ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งนึงที่ทำมาได้นานสองปีแล้ว.. ชีวิตประจำวันผมก็ได้ทำงานทำงานและก็ทำงานไปเรื่อยๆ ชีวิตก็วนลูปอยู่แบบนี้ประจำนั่นแหละ“ ไปป์ ช่วยเอาเอกสารชุดนี้ไปช่วยตรวจให้หน่อยสิ.. ฝากด้วยนะ…” นั่นไง.. งานที่เขาไม่จำเป็นต้องทำมันก็จะถูกส่งมาให้เขาทำเช่นนี้อยู่เสมอ เขาก็อยากจะปฏิเสธบ้างแต่เขาก็ไม่กล้าทำ.. ดังนั้นเขาก็เลยต้องทำแทนทุกคนแต่ก็ไม่เป็นไรหรอกถือว่าเป็นการฝึกงานและเพิ่มประสบการณ์ให้ตัวเองไปในตัว เรื่องแบบนี้เขาจะมาจมปรักอยู่แต่กับความรู้ที่ตัวเองเคยเรียนมาก็ไม่ได้เพราะโลกสมัยนี้ถ้าทำได้หลายอย่างมันก็ยังดีกว่าทำเป็นแค่อย่างเดียวประเภทเดียวจริงไหม?“ครับเดี๋ยวไปป์จะดูให้นะครับ…” ตึกตึกตึก….“ไปป์.. ไปป์ควรปฏิเสธบ้างนะ งานตัวเองยังเหลืออีกตั้งเยอะยังจะไปเอางานคนอื่นมาทำเพิ่มอีกเหรอ? น่าเบื่อ…” หึหึหึ…“งั้นมิ้นเอาไปช่วยไหมล่ะจะได้เสร็จเร็วๆ ว่าแต่.. นี่จะเที่ยงแล้วเราไปหาอะไรกินกันเถอะ ” ตลอดเลยนะมิ้นเนี่ยแต่เขาก็เข้าใจได้นะเพราะว่ามิ้นเป็นห่วงเขาหรอกมิ้นเลยดุ แต่ก็อย่างที่บอกถ้าทำได้หลายอย่าง
“ปาล์ม.. ให้เราไปส่งที่หน้าบริษัทไหม? รถเราซ่อมเสร็จแล้วนะ ไปไหมๆ ” กว่ารถเขาจะซ่อมเสร็จก็เป็นอาทิตย์เลยล่ะ เครื่องอยู่ๆมันก็ดับ และที่สำคัญดับบนสะพานสูงด้วยน่ะสิ.. เขานะคิดว่าไม่น่าจะรอดเพราะมันดันไปดับที่เลนส์กลางเลยล่ะดีที่เขาเร่งมาถึงตรงนั้นได้และเขาก็สามารถพาตัวเองไปยังเลนส์นอกสุดของถนนไม่งั้นนะเขาคงจะโดนรถชนเข้าให้… และค่าเสียหายในการซ่อมครั้งนี่ก็ปาไป 5 พันบาท “ไม่เป็นไรตัว วันนี้เจ้านายผ่านมาแถวนี้น่ะเจ้านายเราเลยให้ติดรถไปด้วย… ไปป์ตัวต้องขับรถระวังๆนะรู้ไหม? อย่าซิ่งให้มากนะเราเป็นห่วงรู้ไหม? ” “จ้าๆๆ รู้แล้วจ้า เราจะขับระวังๆนะ ปาล์มตัวก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ ตัวผอมไปมากเลยนะรู้ไหม.. กินให้มันเยอะๆหน่อยสิเราเป็นห่วง เรามีกันแค่สองคนนะปาล์ม.. รักนะ เป็นห่วงตัวมากๆด้วยนะรู้ไหม?” ทั้งชีวิตเขาก็มีแค่ปาล์มนี่แหละที่เป็นครอบครัวที่เหลือของเขา เพราะพ่อและแม่ของเราสองคนได้เสียไปแล้ว แม่เสียด้วยโรคมะเร็ง พ่อของเขาก็ตรอมใจเพราะท่านรักแม่มากๆไม่นานพ่อก็เสียชีวิตตามไป ไม่นานเลยนะ เขาเองก็อยากจะมีความรักแบบนี้นะ ความรักที่พ่อมีให้แม่.. ความรักที่แบบความรักที่ใครๆก็มองออกว่าพ่อของเขารั
ติ๊ด…. ติ๊ด….เสียงอะไรนะ.. เสียงที่เขากำลังได้ยินนั่นมันคือเสียงอะไรกันแน่… แล้วทำไม.. เขารู้สึกเจ็บไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ.. ติ๊ด… ติ๊ด….“โอ้ย….” “ฟื้นแล้วค่ะ คนไข้ฟื้นแล้ว.. ”ตึกตึกตึก….เสียงเอะอะของคนที่อยู่รอบตัวทำให้เขาพยายามที่จะลืมตามองแต่ทำไมมันหนักแบบนี้นะ.. มันเจ็บทั้งตัวและยังขยับไม่ได้อีก… เขาอยู่ที่ไหนกันและเขาเป็นอะไรกันแน่…ตึกตึกตึก….“อย่าพึ่งขยับครับ.. ขอให้หมอตรวจเช็คร่างกายคุณก่อนนะครับ…”และนั่นก็เป็นประโยคแรกที่เขาได้ยิน.. เขาเป็นอะไรนั้นตอนแรกเขาก็ไม่รู้แต่เมื่อเขาตั้งสติได้เขาก็พอจับใจความได้ว่าเขานั้นอยู่ที่โรงพยาบาล.. เขาประสบอุบัติเหตุ.. ใช่สิเขาประสบอุบัติเหตุ.. แต่เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำไปว่าเขาไปโดนอะไรมา เขาเจออะไรกันแน่…ก๊อกๆๆ“ ขออนุญาตค่ะ.. คนไข้เจ็บตรงไหนบ้างไหมคะนอกจากที่ขา..” “ ไม่ครับ.. ไม่เจ็บตรงอื่นครับ.. ว่าแต่.. ผมไปเจออะไรมากันแน่ครับ…” ดูแล้วเขาน่าจะขาหักเข้าให้.. แต่ไม่มีอาการปวดหัวหรือว่าเจ็บต้นคออย่างที่คุณหมอท่านกังวล.. โชคดีที่เขาใส่หมวกกันน๊อคเอาไว้มันเลยทำให้หัวของเขาไม่กระแทกจนได้รับความบาดเจ็บที่คอและหัว แต่ก็นะ.. ขาของเขาหักจนต้องใส่
จากวันที่เขาประสบอุบัติเหตุเขาต้องอยู่โรงพยาบาลเกือบเดือนค่า ใช้จ่ายก็หลายแสนอยู่ ที่สําคัญตํารวจก็ยังจับคู่กรณีไม่ได้ คุณตํารวจคิดว่าคู่ กรณีน่าจะเป็นคนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวและก็กลัวความผิดเลยรีบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว.. งานที่ทําเขาก็ไม่ต้องไปทําอีกต่อไปเพราะว่าเขา โดนไล่ออกแล้ว.. เรื่องราวมรสุมชีวิตของเขามันเป็นเรื่องที่ทุเรศสิ้นดี.. ภาระทุกอย่างเลยต้องมาตกอยู่ที่ปาล์มแค่คนเดียว.. เขาสงสารปาล์มแต่ ปาล์มเองบอกให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเพียงแค่เขาสู้ และอยู่กับปาล์ม.. ปาล์มก็พร้อมที่จะทําทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาเดินได้เหมือนกัน.. ตอน นี่เขาก็อยู่บ้านมาเกือบสามเดือนแล้ว.. ช่วงนี่ปาล์มไม่ค่อยกลับมาอยู่บ้านเท่าไรเห็นว่าต้องท่างานเยอะเลยต้องไปอยู่ห้องพักของทางที่ท่างานที่เจ้า นายเป็นคนจัด ให้เพราะมัน ใกล้และสะดวกในการเดินทาง.. ซึ่งมันก็จริงอย่างที่ปาล์มพูดเอาไว้.. แต่ปาล์มก็แวะมาหาเขานะ หลังเลิกงานก็จะแวะ มาหาเขาทุกวัน และก็จะกลับช่วง 6 โมงเย็นเป็นประจํา "วันนี่ปาล์มได้กินข้าวรึยังเนี่ย.. หน้าตาไม่ดีเลย เป็นอะไร? ปวดหัวเหรอ? พักผ่อนเพียงพอไหมปาล์ม” วันนี้ปาล์มดูไม่ดีเลยอ่ะ เป็นอะไรรึเปล
โอ้ก….นี่เป็นเสียงของปาล์มที่ทุกเช้าหลังตื่นนอนเขาจะได้ยินเสมอ.. เขาและปาล์มได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเก่าของเราแล้ว.. บรรยากาศเก่าๆที่เขายังคงจำได้สมัยช่วงในวัยเด็ก.. การที่ปาล์มอ้วกมันเกิดจากปาล์มท้อง… แต่ปาล์มท้องกับใครนั้นเขาไม่รู้เลย.. ปาล์มไม่ยอมเล่า ปาล์มไม่บอกเขาก็ไม่ถาม.. ถ้าปาล์มอยากบอกเจ้าตัวก็คงจะบอกเองนั่นแหละเรื่องนี้เขาจึงไม่บังคับถาม.. เขาไม่อยากทำให้ปาล์มเสียใจไปมากกว่านี้.. เพราะสิ่งที่เขาคิดเอาไว้น่ะเหรอ.. เขาคิดว่าปาล์มเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อให้เขาได้รักษาตัว.. เขาจะต้องดูแลปาล์มให้ดีที่สุดเท่าที่น้องชายคนนึงจะทำได้…“ไหวไหมตัว? กินน้ำก่อน..” สิ่งที่เขารู้ก็คือปาล์มท้องและได้ลูกแฝด.. ก็ไม่แปลกนะเพราะเราสองคนก็เป็นฝาแฝดกันดังนั้น้ถ้าปาล์มจะท้องลูกแฝดมันก็คือเรื่องปกติ.. ตอนนี้เขาอยากจะเจอหลานแฝดแล้วสิเขาอยากรู้เหมือนกันว่าหน้าตาจะออกมาจะหน้าหยิกขนาดไหน..“เราโอเคไปป์ ทำไมดื้อกับแม่แบบนี้นะ.. ” เธอเลือกที่จะหนีออกมาจากผู้ชายใจร้ายคนนั้นให้เร็วที่สุด.. เธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะมีลูกเขาไม่ต้องการผูกมัดกับเธอ เขามีคนของเขาอยู่แล้ว.. มันผิดที่เธอ ผิดที่เธอแพ้ยาคุมยี่ห่อน
วันแล้ววันเล่าตอนแรกเขาก็คิดว่าคนที่อ้างตัวเองว่าเป็นพ่อของเจ้าสองก้อนกลมจะล้มเลิกความคิดไปเพราะหลังจากที่เขาเจอในวันนั้นคนพวกนั้นก็หายหน้าไปเลยสองสามวันเขาก็เลยคิดว่าคงจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีกต่อไปแต่ที่ไหนได้… สองคนนั้นกลับมาอีกครั้งและก็มาคอยป้วนเปี้ยนอยู่แถวบ้านของเขาเรื่องนี้เขาเองก็ลืมเล่าให้ปาล์มฟังเพราะเขาคิดว่าคนพวกนั้นไม่น่าจะมาอีกเพราะคนที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อเจ้าสองก้อนกลมหายหน้าไปเลยและไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขาอีก แต่พอสามวันผ่านไปเท่านั้นแหละ..“คุณมาแบบนี้คุณต้องการอะไรกันแน่…” มันจะเกินไปแล้วนะ เพียงแค่ปาล์มออกไปข้างนอกกับป้าๆน้าๆในหมู่บ้านพ่อของก้อนกลมก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาหาแตงโมและตังเมทันที วันนี้เขาถือขนมมาเยอะมาก ขนมที่เด็กสามารถกินได้ อันที่จริงมันก็ดีนะเพราะเด็กๆจะได้กินอะไรที่แปลกใหม่บ้างแต่เขาก็ไม่อยากจะทำให้เด็กทั้งสองคนเคยตัวจนไม่ยอมกินข้าวกินน้ำน่ะสิ ดีที่เขายังไม่ได้สอนให้เจ้าสองก้อนกลมเรียกเขาว่าพ่อไม่งั้นเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกกับปาล์มว่ายังไงดี“ต้องการลูกและเมียไงถามโง่ๆ ไอ้ณุช่วยพาน้าของลูกกูไปหาปลากินหน่อยเผื่อจะฉลาดขึ้นมาบ้าง พ่อมาหาลูก ผัวมาหาเมีย
แต่ละวันมันช่างผ่านไปรวดเร็วเหมือนกันนะจะว่าไปหลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะเริ่มทำงานหาเงินตอนนี้ก็เวลาก็ล่วงเลยเข้าเดือนที่สามแล้ว รายได้ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากเลยทีเดียว เมื่อก่อนที่บ้านตู้เย็นยังเป็นหลังเล็กๆใส่ของได้ไม่มากตอนนี้เป็นเป็นหลังใหม่แล้วและสามารถกักตุนของสดต่างๆได้มากขึ้น.. และเขาสามารถซื้อวัตถุดิบอย่างอื่นได้เพื่อมาทำของขาย วันนี้เขาเลือกทำซูชิทอดและวางไส้หลังจากทอดและหั่นผ่าตรงกลางให้มันแยกออกจากกัน และนำไส้ต่างๆที่เขาคิดว่าน่าจะเข้ากันลงไปวางตรงกลางและราดด้วยซอสในฉบับของเขา“ แตงโม ตังเม.. กินไหมเอ่ย.. มาๆมาลองชิมให้น้าก่อนนะครับ..” หนูทดลองตัวดีคือเจ้าก้อนกลมของเขานี่แหละ เจ้าสองคนนี้มักจะคอยชิมอาหารต่างๆให้กับเขาอยู่ตลอดเวลาถ้าเมื่อไรเจ้าสองคนนั้นคายทิ้งนั่นก็หมายความว่า… หยุดทำเพราะมันไม่อร่อยและเขาก็จะต้องปรับปรุงและแก้ไขรสชาติไปจนกว่าเจ้าสองก้อนกลมจะกิน ถ้าเมื่อไรที่เจาสองก้อนกลมกินหมดนั่นหมายความว่าอาหารของเขาผ่านแล้ว“ กิน.. กิน…”หึหึ.. อ้วนเอ้ย.. จะอวบอ้วนไปถึงไหนกันนะเจ้าสองก้อนเอ้ย.. ให้ตายสิเจ้าเด็กสองคนนี้นับวันยิ่งน่ารักและน่าเอ็นดูขึ้นไปอีก เมื่อก่อนเขาก็หลงห
ช่วงนี้เขาช่วยดูแลเจ้าก้อนกลมสองก้อนที่กำลังดื้อและน่าฟัดเอามากๆเลยล่ะ ถึงแม้จะเหนื่อยแต่เขาก็เต็มใจช่วยนะเพราะแค่ปาล์มคนเดียวที่ต้องออกไปหาเงินมันก็หนักมากแล้วเขาสงสารปาล์มนะ ปาล์มเลือกที่จะเข้าป่ากับป้าๆน้าๆในหมู่เข้าป่าไปหาของป่าและเห็ด.. เขาสงสารปาล์ม เขาอยากจะแบ่งเบาภาระของปาล์มบ้างแต่เขาก็ไม่สามารถออกไปไหนได้เขาเลยขอเลือกที่จะทำงานง่ายๆผ่านบ้าน และสิ่งที่เขาคิดก็คือทำอาหารขาย และให้ลงขายผ่านอินเตอร์เน็ตเอา เขาเองก็พอมีเงินเก็บนิดๆหน่อย และข้าวของเครื่องใช้ที่จะต้องทำมันก็ไม่แพงมาก เขาเลยคิดว่าเขาจะหารายได้พิเศษเสริมเพื่อมาช่วยปาล์มสักนิด… “ปาล์ม.. นั่งพักก่อนนะ กินน้ำใบเตยเย็นๆก่อนเราทำเอาไว้ให้ตัวโดยเฉพาะเลยนะ.. ” เพียงแค่เขาได้ยินเสียงป้าๆน้าๆเขาก็รีบพาเจ้าก้อนกลมสองก้อนออกมานอกบ้านเพื่อมารอคนเป็นแม่ทันที.. ดูสิเพียงได้ยินเสียงคนเป็นแม่ก็กระดี๊กระด๊ากันใหญ่ และนับวันเจ้าสองก้อนกลมหลานรักของเขาผิวพรรณและสีผมออกแนวไปทางลูกครึ่งเสียขนาดนี้.. ตกลงแล้ว.. ใครเป็นพ่อของหลานเขานะ… “ ขอบคุณนะไปป์ แตงโม ตังเม.. ดื้อไหมครับ ดื้อกับน้าไปป์ไหมครับ…” “ แมะ แมะ…” สองพี่น้องได้แต่อมยิ้ม
โอ้ก….นี่เป็นเสียงของปาล์มที่ทุกเช้าหลังตื่นนอนเขาจะได้ยินเสมอ.. เขาและปาล์มได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเก่าของเราแล้ว.. บรรยากาศเก่าๆที่เขายังคงจำได้สมัยช่วงในวัยเด็ก.. การที่ปาล์มอ้วกมันเกิดจากปาล์มท้อง… แต่ปาล์มท้องกับใครนั้นเขาไม่รู้เลย.. ปาล์มไม่ยอมเล่า ปาล์มไม่บอกเขาก็ไม่ถาม.. ถ้าปาล์มอยากบอกเจ้าตัวก็คงจะบอกเองนั่นแหละเรื่องนี้เขาจึงไม่บังคับถาม.. เขาไม่อยากทำให้ปาล์มเสียใจไปมากกว่านี้.. เพราะสิ่งที่เขาคิดเอาไว้น่ะเหรอ.. เขาคิดว่าปาล์มเอาตัวเองเข้าแลกเพื่อให้เขาได้รักษาตัว.. เขาจะต้องดูแลปาล์มให้ดีที่สุดเท่าที่น้องชายคนนึงจะทำได้…“ไหวไหมตัว? กินน้ำก่อน..” สิ่งที่เขารู้ก็คือปาล์มท้องและได้ลูกแฝด.. ก็ไม่แปลกนะเพราะเราสองคนก็เป็นฝาแฝดกันดังนั้น้ถ้าปาล์มจะท้องลูกแฝดมันก็คือเรื่องปกติ.. ตอนนี้เขาอยากจะเจอหลานแฝดแล้วสิเขาอยากรู้เหมือนกันว่าหน้าตาจะออกมาจะหน้าหยิกขนาดไหน..“เราโอเคไปป์ ทำไมดื้อกับแม่แบบนี้นะ.. ” เธอเลือกที่จะหนีออกมาจากผู้ชายใจร้ายคนนั้นให้เร็วที่สุด.. เธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะมีลูกเขาไม่ต้องการผูกมัดกับเธอ เขามีคนของเขาอยู่แล้ว.. มันผิดที่เธอ ผิดที่เธอแพ้ยาคุมยี่ห่อน
จากวันที่เขาประสบอุบัติเหตุเขาต้องอยู่โรงพยาบาลเกือบเดือนค่า ใช้จ่ายก็หลายแสนอยู่ ที่สําคัญตํารวจก็ยังจับคู่กรณีไม่ได้ คุณตํารวจคิดว่าคู่ กรณีน่าจะเป็นคนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวและก็กลัวความผิดเลยรีบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว.. งานที่ทําเขาก็ไม่ต้องไปทําอีกต่อไปเพราะว่าเขา โดนไล่ออกแล้ว.. เรื่องราวมรสุมชีวิตของเขามันเป็นเรื่องที่ทุเรศสิ้นดี.. ภาระทุกอย่างเลยต้องมาตกอยู่ที่ปาล์มแค่คนเดียว.. เขาสงสารปาล์มแต่ ปาล์มเองบอกให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเพียงแค่เขาสู้ และอยู่กับปาล์ม.. ปาล์มก็พร้อมที่จะทําทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาเดินได้เหมือนกัน.. ตอน นี่เขาก็อยู่บ้านมาเกือบสามเดือนแล้ว.. ช่วงนี่ปาล์มไม่ค่อยกลับมาอยู่บ้านเท่าไรเห็นว่าต้องท่างานเยอะเลยต้องไปอยู่ห้องพักของทางที่ท่างานที่เจ้า นายเป็นคนจัด ให้เพราะมัน ใกล้และสะดวกในการเดินทาง.. ซึ่งมันก็จริงอย่างที่ปาล์มพูดเอาไว้.. แต่ปาล์มก็แวะมาหาเขานะ หลังเลิกงานก็จะแวะ มาหาเขาทุกวัน และก็จะกลับช่วง 6 โมงเย็นเป็นประจํา "วันนี่ปาล์มได้กินข้าวรึยังเนี่ย.. หน้าตาไม่ดีเลย เป็นอะไร? ปวดหัวเหรอ? พักผ่อนเพียงพอไหมปาล์ม” วันนี้ปาล์มดูไม่ดีเลยอ่ะ เป็นอะไรรึเปล
ติ๊ด…. ติ๊ด….เสียงอะไรนะ.. เสียงที่เขากำลังได้ยินนั่นมันคือเสียงอะไรกันแน่… แล้วทำไม.. เขารู้สึกเจ็บไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ.. ติ๊ด… ติ๊ด….“โอ้ย….” “ฟื้นแล้วค่ะ คนไข้ฟื้นแล้ว.. ”ตึกตึกตึก….เสียงเอะอะของคนที่อยู่รอบตัวทำให้เขาพยายามที่จะลืมตามองแต่ทำไมมันหนักแบบนี้นะ.. มันเจ็บทั้งตัวและยังขยับไม่ได้อีก… เขาอยู่ที่ไหนกันและเขาเป็นอะไรกันแน่…ตึกตึกตึก….“อย่าพึ่งขยับครับ.. ขอให้หมอตรวจเช็คร่างกายคุณก่อนนะครับ…”และนั่นก็เป็นประโยคแรกที่เขาได้ยิน.. เขาเป็นอะไรนั้นตอนแรกเขาก็ไม่รู้แต่เมื่อเขาตั้งสติได้เขาก็พอจับใจความได้ว่าเขานั้นอยู่ที่โรงพยาบาล.. เขาประสบอุบัติเหตุ.. ใช่สิเขาประสบอุบัติเหตุ.. แต่เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำไปว่าเขาไปโดนอะไรมา เขาเจออะไรกันแน่…ก๊อกๆๆ“ ขออนุญาตค่ะ.. คนไข้เจ็บตรงไหนบ้างไหมคะนอกจากที่ขา..” “ ไม่ครับ.. ไม่เจ็บตรงอื่นครับ.. ว่าแต่.. ผมไปเจออะไรมากันแน่ครับ…” ดูแล้วเขาน่าจะขาหักเข้าให้.. แต่ไม่มีอาการปวดหัวหรือว่าเจ็บต้นคออย่างที่คุณหมอท่านกังวล.. โชคดีที่เขาใส่หมวกกันน๊อคเอาไว้มันเลยทำให้หัวของเขาไม่กระแทกจนได้รับความบาดเจ็บที่คอและหัว แต่ก็นะ.. ขาของเขาหักจนต้องใส่
“ปาล์ม.. ให้เราไปส่งที่หน้าบริษัทไหม? รถเราซ่อมเสร็จแล้วนะ ไปไหมๆ ” กว่ารถเขาจะซ่อมเสร็จก็เป็นอาทิตย์เลยล่ะ เครื่องอยู่ๆมันก็ดับ และที่สำคัญดับบนสะพานสูงด้วยน่ะสิ.. เขานะคิดว่าไม่น่าจะรอดเพราะมันดันไปดับที่เลนส์กลางเลยล่ะดีที่เขาเร่งมาถึงตรงนั้นได้และเขาก็สามารถพาตัวเองไปยังเลนส์นอกสุดของถนนไม่งั้นนะเขาคงจะโดนรถชนเข้าให้… และค่าเสียหายในการซ่อมครั้งนี่ก็ปาไป 5 พันบาท “ไม่เป็นไรตัว วันนี้เจ้านายผ่านมาแถวนี้น่ะเจ้านายเราเลยให้ติดรถไปด้วย… ไปป์ตัวต้องขับรถระวังๆนะรู้ไหม? อย่าซิ่งให้มากนะเราเป็นห่วงรู้ไหม? ” “จ้าๆๆ รู้แล้วจ้า เราจะขับระวังๆนะ ปาล์มตัวก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ ตัวผอมไปมากเลยนะรู้ไหม.. กินให้มันเยอะๆหน่อยสิเราเป็นห่วง เรามีกันแค่สองคนนะปาล์ม.. รักนะ เป็นห่วงตัวมากๆด้วยนะรู้ไหม?” ทั้งชีวิตเขาก็มีแค่ปาล์มนี่แหละที่เป็นครอบครัวที่เหลือของเขา เพราะพ่อและแม่ของเราสองคนได้เสียไปแล้ว แม่เสียด้วยโรคมะเร็ง พ่อของเขาก็ตรอมใจเพราะท่านรักแม่มากๆไม่นานพ่อก็เสียชีวิตตามไป ไม่นานเลยนะ เขาเองก็อยากจะมีความรักแบบนี้นะ ความรักที่พ่อมีให้แม่.. ความรักที่แบบความรักที่ใครๆก็มองออกว่าพ่อของเขารั
สวัสดีวันที่น่าเบื่อสำหรับผม… อ๋อ ผมชื่อไปป์ อายุ 26 ปี เป็นพนักงานบัญชีทั่วไปที่ทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งนึงที่ทำมาได้นานสองปีแล้ว.. ชีวิตประจำวันผมก็ได้ทำงานทำงานและก็ทำงานไปเรื่อยๆ ชีวิตก็วนลูปอยู่แบบนี้ประจำนั่นแหละ“ ไปป์ ช่วยเอาเอกสารชุดนี้ไปช่วยตรวจให้หน่อยสิ.. ฝากด้วยนะ…” นั่นไง.. งานที่เขาไม่จำเป็นต้องทำมันก็จะถูกส่งมาให้เขาทำเช่นนี้อยู่เสมอ เขาก็อยากจะปฏิเสธบ้างแต่เขาก็ไม่กล้าทำ.. ดังนั้นเขาก็เลยต้องทำแทนทุกคนแต่ก็ไม่เป็นไรหรอกถือว่าเป็นการฝึกงานและเพิ่มประสบการณ์ให้ตัวเองไปในตัว เรื่องแบบนี้เขาจะมาจมปรักอยู่แต่กับความรู้ที่ตัวเองเคยเรียนมาก็ไม่ได้เพราะโลกสมัยนี้ถ้าทำได้หลายอย่างมันก็ยังดีกว่าทำเป็นแค่อย่างเดียวประเภทเดียวจริงไหม?“ครับเดี๋ยวไปป์จะดูให้นะครับ…” ตึกตึกตึก….“ไปป์.. ไปป์ควรปฏิเสธบ้างนะ งานตัวเองยังเหลืออีกตั้งเยอะยังจะไปเอางานคนอื่นมาทำเพิ่มอีกเหรอ? น่าเบื่อ…” หึหึหึ…“งั้นมิ้นเอาไปช่วยไหมล่ะจะได้เสร็จเร็วๆ ว่าแต่.. นี่จะเที่ยงแล้วเราไปหาอะไรกินกันเถอะ ” ตลอดเลยนะมิ้นเนี่ยแต่เขาก็เข้าใจได้นะเพราะว่ามิ้นเป็นห่วงเขาหรอกมิ้นเลยดุ แต่ก็อย่างที่บอกถ้าทำได้หลายอย่าง