หนึ่งสัปดาห์แล้วที่เพียงฟ้าเกาะติดเพียงขวัญแจ หญิงสาวไม่ยอมกลับบ้านไปกับนิธิ เหมันต์เองก็จนปัญญา เพราะเพียงขวัญขอร้องให้เห็นใจเธอกับน้องสาวที่เพิ่งสูญเสียมารดาไป จึงจำเป็นที่จะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
สองสาวนอนในห้องนอน ส่วนสองหนุ่มนอนที่โซฟาด้านนอก ตื่นเช้ามาเหมันต์และนิธิก็ออกจากบ้านไปออฟฟิศพร้อมกัน ตกเย็นทั้งคู่ก็กลับมาพร้อมกัน เหมือนจะเป็นชีวิตที่มีความสุขดี ตื่นเช้ามาทำงานตามปกติ ตกเย็นกลับบ้านก็ได้เห็นหน้าเมีย กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่พอตอนจะนอนนี่สิทุกข์ถนัด พี่น้องคู่นี้ทำตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ คุยกันกระหนุงกระหนิงแล้วก็แวบเข้าห้องไปนอนเฉย นิธิกับเหมันต์ได้แต่จ้องมองหน้ากันเซ็งๆ
“คุณนิธิวันนี้คุณต้องพาฟ้ากลับไปให้ได้นะ”
“ก็อยากพากลับอยู่ล่ะครับ แต่ผมมันประเภทใจอ่อน แค่เห็นหน้าเศร้าๆของเมียแล้วก็อดที่จะตามใจไม่ได้” นิธิกับเหมันต์กระซิบกระซาบกันสองคน แล้วหันไปมองพี่สาวน้องสาวที่กำลังพูดคุยกันหลังรับประทานอาหารมื้อค่ำเสร็จ เพียงขวัญแกะส้มยื่นป้อนน้องสาว เพียงฟ้าอ้าปากกินแล้วก็หัวเราะคิกคัก
“คุณนิธิผมขอสั่งคุณให้พาฟ้ากลับไปวันนี้เลย ไม่อย่างน
“ถ้าอยากชิมอีกก็ต้องทำเอง ผมอนุญาตให้ชิมทั้งตัวเลย นอกจากปากแล้ว ตรงไหนที่ขวัญเคยชิมแล้ว ก็อย่าลืมชิมมันอีกนะ จะได้รู้ว่ามันหวานขึ้นไหม” เหมันต์เลื่อนมือลงกดสะโพกมนให้ส่วนกลางกายสัมผัสกัน เพียงขวัญรับรู้ถึงความแข็งขึงของลำกายแกร่ง“คุณเหม!” เพียงขวัญตาโต ทุบอกแกร่งแบบไม่จริงจัง“นะครับที่รัก” เพียงขวัญพยักหน้ารับน้อยๆ จึงได้รับหอมฟอดใหญ่เป็นรางวัล“น่ารักจัง” เพียงขวัญตอบแทนคำชม ด้วยการชิมเขาไปทั้งร่างตามที่คนขี้เอา...แต่ใจต้องการ เหมันต์แทบแดดิ้นในตอนที่ถูกปากเล็กโอบรัดลำกายแกร่งไว้ ชั้นเชิงอ่อนด้อยนักแต่เร้าใจจนเขาต้องยกธงยอมแพ้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะสูญเสียเมล็ดพันธุ์ไปโดยเปล่าประโยชน์ในอุ้งปากนุ่มแน่นอน“ขวัญครับ มานี่เถอะที่รัก” เหมันต์ดึงร่างบางขึ้นมาจนใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน จูบเอากลิ่นรสของตนจากปากน้อยนุ่มนิ่ม เกี่ยวกระหวัดรัดร้อยดูดดึงเอาลิ้นเล็กเข้าสู่อุ้งปากร้อนผ่าว มือหนาบีบแก้มก้นงอนเคล้นคลึงหนักๆด้วยอารมณ์รักที่ลุกฮือรุนแรง“เร็วเถอะคนเก่ง ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้เลย” เหมันต์ดันร่างหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่ง ส่งสายตาอ้อนวอนหวานเชื่อม“
“มานอนกันเถอะเมียจ๋า พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้านะคะ” นิธิกวักมือเรียกเมียตัวน้อยที่กระเถิบไปจนสุดขอบเตียงอีกข้าง เพียงฟ้ามองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ“ลุงนิจะไม่ทำแบบนั้นจนกว่าจะถึงเวลาที่เราตกลงกันไว้ แต่ยังไงเราก็ต้องนอนด้วยกัน เพราะลุงนิจะต้องคุยกับลูกในท้องของฟ้า และอีกอย่างฟ้าจะได้คุ้นเคยกับลุงนิพอถึงเวลาเอา...จริง จะได้ไม่ตื่นเต้นไงคะ” เพียงฟ้าผงะแทบตกเตียงตอนที่เขาเน้นหนักตรงคำว่าเอา...จริง นิธิหัวหัวเราะในลำคอกับท่าทางของเมียตัวน้อย“มาสิคะ ถ้าเด็กดื้อ ผู้ใหญ่จะไม่รักษาสัญญานะคะ” หนุ่มใหญ่เอนกายลงนอนกางแขนออกแล้วตบเบาๆที่ต้นแขนของตน เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเธอควรจะนอนตรงไหน เพียงฟ้าค้อนวงเล็กให้แล้วค่อยๆคลานไปนอนหนุนต้นแขนกำยำตามความต้องการของคนตัวโต นิธิโอบรัดเอาร่างเล็กไว้ทันทีที่หญิงสาวแนบกายลงนอนเคียงข้าง“ลุงนิห้ามลักหลับฟ้านะ” หญิงสาวอุบอิบบอกกับอกกว้าง“เป็นความคิดที่ดี”“ลุงนิ!” เพียงฟ้าหยิกเนื้อช่วงเอวสอบสุดแรง“โอ๊ย!” นิธิอุทานแล้วหัวเราะจนอกกระเพื่อมกับเสียงตวาดแหว“ไม่ทำหรอกค่ะ ลุงนิเป็นผู้ใหญ่ใจดี
“อ้าว! ก็ถ้าเหนื่อย ควรอาบคนเดียวค่ะ” ร่างบางเบี่ยงตัวออกจากวงแขนแกร่งที่โอบกอดเอวเธอไว้หลวมๆ แล้วเดินยังโต๊ะเครื่องแป้ง จัดการถอดเครื่องประดับที่อยู่บนตัวออกแล้วบรรจงเก็บเข้ากล่องไว้อย่างระมัดระวัง เหมันต์มองตามด้วยใบหน้างอนๆ“ใช่ซี้! ได้ผมแล้วทั้งตัวและหัวใจ ตีตราจองผมถูกต้องทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยแล้วนี่ เลยไม่สนใจกันเหมือนเมื่อก่อนเลย ผมอาบคนเดียวก็ได้” เจ้าบ่าวตัวโตในชุดราชประแตนเข้าชุดกับเจ้าสาวงอนตุ๊บป่องหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีที่พูดจบ เพียงขวัญมองประตูที่ปิดลงแล้วขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจท่าทางของชายหนุ่ม“อะไรของเขา พักนี้ชอบโวยวายแล้วก็งอนง่ายๆนะเนี่ย” หญิงสาวถอนหายใจ รีบปลดชุดออกจากร่างแล้วเดินตามเข้าไป งอนทีไรเธอต้องง้อทุกที แล้ววิธีการง้อก็เป็นอะไรที่เปลืองตัวที่สุด เพราะชายหนุ่มจะทำปั้นปึ่งไม่พูดไม่จาจนเธอทนไม่ไหว ต้องเป็นฝ่ายง้อตลอดเหมันต์กึ่งนั่งกึ่งนอนแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ปรายตามองร่างเปลือยเย้ายวนใจของภรรยาแวบเดียว แล้วก็เมินหน้าหนี หัวใจหนุ่มเต้นรัวแรง ร่างกายตื่นตัวไปทุกส่วน ร่างเล็กแต่อะไรๆไม่เล็ก แล้วอกอวบนั่นใหญ่
“อ๊ะ! คุณเหม ขวัญไม่ไหวแล้วนะคะ อื๊อ!” เพียงขวัญบอกด้วยเสียงกระท่อนกระแท่น ความเสียวซ่านก่อตัวขึ้นที่จุดประสานเสียดสี แล้วแล่นพล่านไปทั้งร่าง ร่างกายเบาหวิว ความรู้สึกปลิดปลิวลอยเคว้ง วาบลึกรุนแรงจนต้องเปล่งเสียงร้องออกมายาวนาน“กรี๊ดดด!” เหมันต์จับสะโพกมนไว้แน่น กระชั้นกายสวนขึ้นถี่เร็ว ปลดปล่อยตนเองตามติดหญิงสาวไปยังความรู้สึกสุขสมเดียวกันเพียงขวัญซุกหน้าอยู่กับลำคอแกร่ง สองแขนเรียวกอดร่างหนาไว้หลวมๆ มือบางลูบไล้แผ่นหลังกว้างอย่างเพลิดเพลิน“เป็นการอาบน้ำที่ร้อนแรงมาก” คำพูดล้อเลียนของเหมันต์ส่งผลให้เขาโดนหยิกแผ่นหลังเบาๆ ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ เอาคืนคนที่ทำร้ายตัวเองด้วยการลุกขึ้นยืนทั้งที่ยังไม่ได้ถอดถอนตัวตนออกมา“อุ๊ย! คุณเหม”“ไปต่อที่เตียง คืนนี้คืนเข้าหอ ห้ามนอน เราจะรักกันทั้งคืน”“ขวัญเหนื่อยแล้ว”“ผมยังไม่เหนื่อย”“ไหนบอกว่าเน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ”“เปลี่ยนใจแล้ว ต่อไปจะเน้นทั้งปริมาณและคุณภาพ” เสียงทุ่มเถียงต่อรองกันยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง แต่ที่สุดแล้วเพียงขวัญก็พ่ายแพ้ต่อเหตุผลที่แสนเอาแต่ใจของคนขี้เอา...แต่
เมื่อวางร่างหญิงสาวลงบนที่นอนแล้ว นิธิก็เอนตัวลงนอนเคียงข้าง หนุ่มใหญ่นอนตะแคงเท้าแขนไว้ที่แก้ม จ้องมองใบหน้าเนียนใสไม่วางตา“ปิดไฟสิคะลุงนิ” เพียงฟ้าบอกเมื่อสามีเอาแต่จ้องมองเธอราวกับจะกลืนกินอยู่อย่างนั้น“ฟ้าไม่อยากจัดงานแต่งเหมือนคุณขวัญหรือคะ”“ไม่ดีกว่าค่ะ ฟ้าอยากเก็บเงินไว้ให้ลูกเยอะๆ” มือบางลูบคลำหน้าท้องที่นูนเล็กน้อยของตน“จัดเล็กๆก็ได้ ค่าใช้จ่ายไม่เท่าไรหรอก” นิ้วเรียวยาวไล้ไปตามแก้มเนียนแผ่วเบา“ไม่เอาหรอกค่ะ เล็กน้อยยังไงก็ตังค์ ลุงนิหาตังค์คนเดียว อะไรที่ประหยัดได้เราก็ควรประหยัด” นิธินึกขำภรรยา เจ้าหล่อนตัดพ้ออยู่บ่อยๆเวลาเขาซื้ออะไรมาให้ บ่นว่าเสียดายตังค์ บ่นว่ากลัวเงินเดือนจะไม่เหลือเก็บ แล้วเตือนเขาว่าห้ามรูดบัตรเครดิตซื้อของสุรุ่ยสุร่าย ภรรยาเขายังไม่รู้ว่าเงินที่สามีหามาทั้งชีวิตนั้นมีถึงแปดหลักปลายๆ และเงินเดือนเลขหกหลักก็เหลือเก็บจนไม่รู้ว่าจะจัดสรรยังไง เพราะเขาเองก็แทบไม่มีเวลาดูแลเลย ชีวิตที่มีแต่งานมาตลอด ทำให้เขาไม่ใส่ใจเรื่องการลงทุนการเก็บออมเท่าไร“น่ารักจัง เมียใครเนี่ย” นิธิยิ้มเอ็นดู เพียงฟ้าเงยหน้าขึ้นสบตา
“โอ๋ๆ ไม่เอาไม่ร้อง เดี๋ยวนี้เลยจ้ะ แต่ต้องช้าๆ ระวังหน่อยนะคะ” ร่างสูงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ดึงสองขาเรียวมาพาดบนท่อนแขนแกร่ง โหย่งกายเข้าหา ค่อยๆสอดแทรกเชื่องช้า เพียงฟ้าหงุดหงิดจนต้องยันกายลุกขึ้น นั่งคร่อมร่างใหญ่ มือบางจับบ่าแกร่งสองข้างไว้แน่น ก่อนกดสะโพกแรงๆคราเดียวจนสุดทาง“อ๊าย!” ใบหน้าสวยแหงนเชิดไปด้านหลัง ทั้งเจ็บจุกแต่เสียวซ่านสะใจ“ฟ้า!” นิธิรวบกอดเอาร่างที่แอ่นโค้งไว้แน่น เรียกเธอด้วยน้ำเสียงร้อนรน เพราะเกรงว่าภรรยาจะเจ็บมาก“ดีจังเลยค่ะลุงนิ ฟะ...ฟ้าขยับนะคะ ได้ไหม” นิธิเบิกตากว้าง รีบพยักหน้ารับเร็วๆ“ได้ค่ะ ขยับได้เลยตามใจฟ้า” หนุ่มใหญ่ละล่ำละลักตอบด้วยน้ำเสียงยินดี เมื่อได้รับคำอนุญาตเพียงฟ้าก็ขยับร่ายรำอย่างใจต้องการ สะโพกสวยกดแรงไม่กลัวเจ็บ ส่ายร่อนหมุนวนในจังหวะที่ตนเองพอใจ ใบหน้าหวานก้มลงจูบสามีอย่างที่เขาทำกับตัวเอง เสียงครางอื้ออึงในลำคอของคนทั้งสองดังประสานกับเสียงเนื้อหนังกระทบกันในจังหวะเร่าร้อน อกอวบเสียดสีไปกับแผ่นอกกว้าง เพียงฟ้าจิกเล็บลงบนบ่าแกร่ง หญิงสาวกำลังโจนทะยานไปสู่จุดสุดยอดของบทเพลงกามา ใบหน้าสวยหวานสะบัดหนีจูบของสามี คร
“ฟ้าเป็นอะไรก็ไม่รู้ น่าอายจังเลย” เพียงฟ้าซุกหน้ากับอกสามีอย่างอับอายเธอร่านร้อนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอเช้ามาก็ยังใจกล้ากินสามีด้วยท่าทางน่าอายแบบนั้นอีก“อายทำไม เป็นผัวเมียกันเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ”“แต่ฟ้าเริ่มเองทุกครั้งเลย ลุงนิเต็มใจหรือเปล่าก็ไม่รู้”“เต็มใจที่สุด และชอบที่ฟ้าเป็นแบบนี้มากๆค่ะ” นิธิจูบขมับสวย ลูบไล้แผ่นหลังเนียนเบาๆ“ลุงนิอย่ามาใกล้ฟ้าบ่อยๆนะคะ เวลาได้กลิ่นลุงนิแล้ว ฟ้าจะรู้สึกอยากรักทุกทีเลย” เพียงฟ้าพูดอย่างไม่อาย เธอกลัวกว่าสามีจะหาว่าเธอมักมากในเพศรส“จะเข้าใกล้บ่อยๆ จะอยู่ใกล้ๆทั้งวัน ลุงนิอยากให้ฟ้ารัก” เพียงฟ้าเงยหน้ามองสามี ตากลมโตเบิกกว้าง“ได้ทีเลยนะคะ” แก้มป่องๆหน้างอนๆ ทำให้นิธิกดจมูกโด่งหอมแรงๆ“ก็คนมันอดมานานนี่นา”“ตาแก่ลามก” นิธิหัวเราะจนอกกระเพื่อม“ใครแก่คะ แถวนี้มีแต่คนเหล็กฆ่าไม่ตาย” มือใหญ่จับมือเล็กให้สัมผัสลำกายที่ขยายพองอีกแล้ว“ฆ่าไม่ตายจริงด้วย เดี๋ยวฟ้าจะจัดการมันเองนะคะ” นิธิเต็มใจยิ่งกว่าเต็มใจ ยอมให้ภรรยาจัดการโดยไม่มีปากเสียงใดๆ แบบนี้ดีจัง
“พี่ดินเป็นเกษตรอำเภอที่นี่ ยังโสด ไม่มีแฟน ฉันแอบไปสัมภาษณ์พี่เขามาแล้ว คนอะไรดูไกลๆก็หล่อ ยิ่งพอไปดูใกล้ๆนะแกเอ๊ย! ฉันนี้แทบละลาย” เพื่อนสาวที่นั่งร่วมโต๊ะเอ่ยด้วยใบหน้าเพ้อฝันแก้วใจใบหน้าบูดบึ้งลงทันทีที่เพื่อนพูดจบ อะไรกัน โสดเหรอ ไม่มีแฟน อ้อ! ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งแล้วนี้ คงลืมเด็กกะโปโลอย่างเธอแล้วล่ะสิ หญิงสาวจับจ้องมองแผ่นหลังกว้างราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ผู้ชายนิสัยเสีย รักง่ายหน่ายเร็ว ไหนบอกว่าจะรอ ไหนบอกว่ารักแก้วคนเดียว มือบางเผลอยกขึ้นถูแก้มเนียนแรงๆด้วยความโกรธ แก้มเนียนข้างนี้ไงที่ถูกเขาหอมฟอดใหญ่ เธอยังจำสัมผัสร้อนผ่าวนั้นได้ดี ทั้งที่ไม่ควรจะจำเลย เพราะเขาเองก็คงลืมเธอไปแล้ว เจ็บใจที่สุด“เฮ้ย! แก้วเป็นอะไรถูแก้มจนแดงเถือกไปหมดแล้ว” แก้วใจชะงักมือน้อย กวาดสายตามองเพื่อนที่จ้องเธอเป็นตาเดียวกัน“เอ่อ...ไม่มีอะไร เราขอตัวแป๊บนึงนะ” หญิงสาวลุกขึ้นเดินหนีไปจากกลุ่มเพื่อน เมื่อมาถึงหลังบ้านที่มีต้นมะขามใหญ่ และมีชิงช้าผูกกิ่งมะขามไว้สำหรับนั่งเล่น แก้วใจก็นั่งลงบนชิงช้าเหม่อมองออกไปยังทุ่งกว้างหลังบ้าน“มีอะไรหรือเปล่าลูก” แม่ติ๋มสังเกตเห
“พี่แดน!” เสียงหัวเราะของชายหนุ่มทำให้เด็กสาวงอน จนเผลอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ใบหน้าที่น่ารักจิ้มลิ้มบูดบึ้งจนน่าขำ“ดูทำหน้าสิ ไม่น่ารักเลย”“ไม่น่ารักก็ไม่ต้องมารัก พี่แดนอยากมาหัวเราะพี่ข้าวก่อนทำไม” บุรินทร์วางจอบที่แบกไว้บนบ่าลง แล้วกอดอกพิงหลังกับต้นทองกวาว ชายหนุ่มสวมเสื้อยืดทับด้วยเสื้อเชิ้ตสีหม่น กางเกงยีนส์สีซีดกับรองเท้าบูธสีดำ โดยมีผ้าขาวม้าคาดเอวไว้ด้วย เพราะเขาถือว่ามันเป็นผ้าสารพัดประโยชน์ ต้องคาดติดเอวไว้ตลอดเวลา“พี่ไม่ได้หัวเราะพี่ข้าวสักหน่อย พี่หัวเราะไอ้หน้าแหลมโน่น” ชายหนุ่มพยักพเยิดไปยังควายเพศผู้ที่และเล็มหญ้าอยู่ไม่ไกล ไอ้หน้าแหลมเป็นควายที่บุรินทร์รับซื้อมาตั้งแต่ยังเล็ก เจ้าของเดิมเป็นชาวบ้านแถวนี้ขอร้องให้เขารับซื้อมันไว้เพราะเดือดร้อนเงิน ชายหนุ่มจึงรับซื้อไว้ด้วยความสงสาร และเลี้ยงมันมาจนโต“ไอ้หน้าแหลมมันจะทำอะไรให้พี่แดนหัวเราะได้ ในเมื่อมันก้มหน้าก้มตากินหญ้าอยู่อย่างเดียว”“อ้าว! ก็พี่ข้าวมัวแต่เซลฟี่อยู่ไง ก็เลยไม่เห็น ควายอะไรไม่รู้กินหญ้าอยู่ดีๆก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มตัวเดียว เดี๋ยวก็ทำแก้มป่อง เดี๋ยวก็ขยิบ
“แก้วจ๋า” คนไม่อยากนอนเรียกเสียงอ่อนเสียงหวาน“พ่อง่วง เลิกคุยกันเสียที” หนุ่มสาวสะดุ้งจ้องมองตากันในความมืด ทำได้แค่เพียงนอนจับมือกันไว้แค่นั้น เข้าหอคืนแรกก็โดนพ่อตากันท่าซะแล้ว แล้วคืนพรุ่งนี้ และคืนต่อๆไปล่ะ ถ้าพ่อตาเข้ามานอนด้วยทุกคืน เขาจะทำเช่นไร บดินทร์อยากจะกรีดร้อง มันแน่นอกมากปังๆๆ เสียงทุบประตูยามดึกสงัดดังจนคนทั้งสามสะดุ้งลุกขึ้นนั่ง บดินทร์ลุกขึ้นไปเปิดไฟทันที“พี่กำนัน! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” กำนันเกื้อเหลียวหน้าเหลียวหลัง ก็นึกว่าเมียหลับแล้ว เลยแอบย่องออกมาเป็นไม้กันหมาให้ลูกสาว คนเกรงใจเมียหน้าซีดเผือด“พี่กำนันจะออกมาดีๆ หรือออกมาด้วยน้ำตา” เสียงตวาดแหวถามเข้ามาทำเอากำนันเกื้อสะดุ้งโหยง“พ่อดิน พ่อลูกเขยคนดี พ่อยอดขมองอิ่มของพ่อ ช่วยบอกแม่ติ๋มให้ทีว่าพ่อหลับแล้ว แล้วก็อย่าเปิดประตูนะ” บดินทร์สบสายตาเว้าวอนของพ่อตา ชายหนุ่มมีสีหน้าเห็นใจ“ได้ครับพ่อตา” ร่างสูงเดินไปใกล้ประตูแล้วเอ่ยเสียงดังให้ได้ยินทั้งคนข้างนอกข้างใน“แม่ติ๋มครับ พ่อตาให้บอกว่าพ่อตาหลับแล้วครับ” กำนันเกื้อถึงกับสะดุ้ง มองหน้าลูกเขยด้วยความแค้นใจ
“แดนมาก็ดีเหมือนกัน พี่ขวัญฝากให้อยู่เป็นเพื่อนพี่ข้าวแป๊บหนึ่งนะคะ พี่ขวัญจะพาน้องขิงไปเอาขวดนมที่รถ นี่เริ่มงอแงแล้ว สงสัยจะหิวนม” เด็กหนุ่มยิ้มบาง“ครับ”“พี่ข้าวอยู่กับพี่แดนก่อนนะลูก คุณแม่พาน้องขิงไปเอาขวดนมที่รถแป๊บเดียวนะคะ”“ค่า” เด็กหญิงตอบรับเสียงสดใสเมื่ออยู่ลำพังสองคน บดินทร์ขยับเข้าใกล้ไกวชิงช้าเบาๆ เด็กหนุ่มมองใบหน้าจิ้มลิ้มของน้องน้อยด้วยสายตาอ่อนโยน“พี่แดนค้า ไกวชิงช้าแรงๆหน่อยสิค้า พี่ข้าวอยากไกวแรงๆ”“ไม่ได้ครับ เดี๋ยวตก” เด็กหญิงเงยหน้ามองคนตัวสูงที่ยืนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มงอง้ำเมื่อถูกขัดใจ“พี่แดนใจร้าย พี่ข้าวอยากไกวชิงช้าแรงๆ ฮึกๆ” เมื่อเห็นน้องน้อยร้องไห้บุรินทร์จึงใจอ่อน“เอาอย่างนี้นะครับ พี่แดนจะนั่งด้วย แล้วให้พี่ข้าวนั่งตัก เราถึงจะไกวชิงช้าแรงๆได้” เด็กหนุ่มแหงนมองเชือก ดูความแข็งแรงของชิงช้าและกิ่งไม้ใหญ่ ประเมินแล้วว่ามันแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักเขาและเด็กหญิงได้แน่นอน หทัยรักยิ้มกว้างทั้งน้ำตา“พร้อมมั้ยครับเจ้าหญิงน้อย” เมื่อคนที่มีฐานะเป็นพี่นั่งก่อนแล้วให้น้องน้อย
“แก้วจ๋า แก้วของพี่สวยเหลือเกิน” ชายหนุ่มซุกหน้าลงกับความสวยงามที่เขาพร่ำเพ้อ แก้วใจสะท้านไปทั้งร่าง สองมือจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น ริมฝีปากสีสวยเม้มแน่นเป็นเส้นตรง เธอไม่กล้าส่งเสียงน่าอายออกไปทั้งที่หวามไหวซ่านกระสันแทบคลั่ง “แก้วจ๋า หวานหอมที่สุด” บดินทร์ครางแนบชิดเนื้อนาง จูบซ้ำๆ ดูดดึงและซอกซอนรีดเค้นเอาความหวานจากร่างเล็ก แก้วใจเกินจะเก็บกักความวาบหวามไว้ในอกได้ หญิงสาวครวญครางแว่วหวาน กระถดสะโพกหนีความซ่านหวิวที่ตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ หากแต่ถูกดึงรั้งตรึงเอาไว้มั่น เธอจึงทำให้แค่เพียงส่ายสะบัดหน้าเร็วๆและกรีดร้องออกมาในที่สุด “อ๊า! พี่ดิน! กรี๊ดดด!” หน้าท้องแบนราบเกร็ง ร่างกายเบาหวิวปลิดปลิวไปกับสายลมรัก บดินทร์เคลื่อนกายขึ้นมาคร่อมร่างบางไว้ พรมจูบไปบนใบหน้าชื้นเหงื่อจนทั่ว ไปหยุดอยู่ตรงปากนุ่มๆ คลอเคลียดูดดึงเบาๆ ก่อนจะปรนเปรอเจ้าสาวของตนด้วยจูบ แสนหวานปานจะกลืนกินเธอลงท้องเสียให้ได้ “พี่รักแก้ว” ชายหนุ่มกระซิบคำบอกรักแนบอยู่กับกลีบปากบาง แก้วใจลืมตาขึ้นมาสบตาเข
หลังจากเสร็จพิธีบายศรีสู่ขวัญและผูกข้อไม้ข้อมือกันแล้ว ก็เป็นการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ ปล่อยให้ทั้งสองอยู่ในห้องกันลำพังเพื่อให้บ่าวสาวได้พักผ่อน ก่อนจะออกมาต้อนรับแขกอีกครั้งในงานเลี้ยงตอนเย็นแก้วใจนอนนิ่งอยู่บนเตียงที่โรยด้วยกลีบกุหลาบแดงรูปหัวใจสองดวง โดยมีเจ้าบ่าวนอนกอดตัวเธออยู่ ประตูห้องถูกปิดลงเมื่อสักครู่ แว่วเสียงพ่อเจ้าบ่าวกับพ่อเจ้าสาวถกเถียงกันจะไม่ยอมให้ล็อกประตู หากแต่สุดท้ายแล้วแม่ ติ๋มก็จัดการล็อกประตูจากด้านนอกจนได้“พะ...พี่ดิน” หญิงสาวขยับกาย พยายามขยับออกห่างจากร่างใหญ่ที่กอดเธอไว้เสียแน่น แต่เขาไม่ยอมปล่อย“หืม...ว่าไงครับ” ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับจูบลงบนหน้าผากมน แก้วใจเงยหน้าขึ้นสานสบกับดวงตาวาววับคู่คมแล้วสะเทิ้นอาย จนต้องก้มหน้าหลบเสียเอง“เขาออกกันไปหมดแล้ว ลุกขึ้นได้แล้วค่ะ”“อยากนอนกอดแก้วแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ขอกอดต่ออีกนิดนะ” บดินทร์กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีกนิด“ฮื่อ...แก้วเมื่อย ลุกเถอะค่ะ” ร่างใหญ่ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี คนที่ตื่นเต้นกับสัมผัสแนบชิดจนแทบจะเป็นลมรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่งตาม วงแขนแข็งแรงรีบกอดเกี
“อือ...” การขานรับในลำคอแบบไม่ค่อยเต็มใจของสามีทำให้แม่ติ๋มส่ายหน้า คงต้องรอให้เวลาผ่านไปสักหน่อย เดี๋ยวคงทำใจยอมรับลูกเขยได้เองเหมันต์และเพียงขวัญมาร่วมงานแต่เช้า โดยมีลูกๆทั้งสามติดตามมาด้วย หทัยรักหรือพี่ข้าวของน้องๆลูกสาวคนโตอายุสี่ขวบ หทัยกานต์หรือเข้มลูกชายคนกลางอายุสองขวบ และหทัยชนกหรือน้องขิงลูกสาวคนเล็กอายุหนึ่งขวบ คุณแม่ยังสาวจัดชุดครอบครัวใส่โทนสีเดียวกันคือสีฟ้า ลูกสาวทั้งสองอยู่ในชุดกระโปรงสีฟ้าลายดอกไม้สีขาวเล็กๆ ลูกชายและสามีสวมเชิ้ตแขนยาวสีฟ้ากับกางเกงยีนส์และรองเท้าหนังสีน้ำตาล ส่วนเธอสวมชุดเดรสสีฟ้ายาวคลุมเข่าสวมรองเท้าสานสีขาวเหมือนกับลูกสาวทั้งสองนิธิและเพียงฟ้าพานิดาหรือหนูดาลูกสาวคนโตวัยสี่ขวบกว่า และนทีหรือนทวัยหนึ่งขวบมาร่วมงานด้วย เพียงฟ้าได้กล่าวคำขอโทษกับแก้วใจ เรื่องที่เธอเคยทำร้ายหญิงสาวเมื่อหลายปีที่แล้ว ทั้งสองปรับความเข้าใจกันและตกลงนับถือกันเป็นพี่น้องพิธีการเริ่มขึ้นหลังจากวางสินสอดซึ่งฝ่ายเจ้าบ่าวจัดมาสมกับฐานะเจ้าสาวแล้ว ขณะทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน เหมันต์และเพียงขวัญจึงพาลูกๆเลี่ยงไปนั่งเล่น
“ตื่นกันหรือยังคะ” เพียงขวัญส่งเสียงดังมาก่อน“ตื่นแล้วครับ” นิธิตอบกลับไป ยกมุ้งครอบขึ้น พาตัวเองลงมายืนอยู่ข้างศาลาเรือนไทย หนุ่มใหญ่จัดการสวมชุดให้ตัวเองและภรรยาหลังจากที่บทเพลงรักสุดท้ายจบลงอย่างเร่าร้อน จึงไม่ต้องห่วงว่าใครจะมาเห็นภาพที่ไม่สมควรเห็น“ป๊ะป๊า” ลูกสาวส่งเสียงเรียกอย่างดีใจ เมื่อเห็นหน้าผู้เป็นพ่อ นิธิยื่นมือออกไปรับลูกมาไว้ในอ้อมกอด“ว่าไงคะ หนูดาดื้อกับป้าขวัญหรือเปล่าลูก” คุณพ่อหอมแก้มลูกสาวอย่างรักใคร่“หนูดาเพิ่งตื่นค่ะ ตื่นมาไม่เจอคุณพ่อคุณแม่ แกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ขวัญเลยอุ้มมานี่ล่ะค่ะ เอ่อ...ฟ้ายังไม่ตื่นเหรอคะ” เพียงขวัญชะเง้อคอมองเข้าไปในมุ้งครอบ เห็นแต่ผ้าห่มผืนใหญ่คลุมร่างน้องสาวอยู่“ยังครับ” นิธิตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย“เอ่อ...เดี๋ยวขวัญไปเตรียมอาหารเช้ารอนะคะ”“ขอบคุณครับ” หนุ่มใหญ่กล่าวคำขอบคุณแล้วพาลูกน้อยมุดเข้าไปในมุ้งครอบหลังใหญ่ เพียงขวัญมองแล้วอมยิ้ม ก่อนจะเดินหันหลังกลับเข้าไปในบ้านแรงดูดจ๊วบๆที่ยอดอกทำให้คุณแม่ที่หลับใหลอยู่สะดุ้งตื่น แล้วหลุบตามองหน้าอกตัวเองด้วยความตกใจเล็กน
“ก็ฟ้าหมายถึงเมื่อก่อนนี้ ไม่ได้หมายถึงตอนนี้” แก้ตัวอุบอิบ“งั้นก็ไม่ต้องไปง้อ เพราะฟ้าไม่ผิด คุณนิธิเข้าใจผิดไปเอง” เพียงขวัญสรุปแล้วเอื้อมมือไปปิดไฟ ก่อนเอนกายลงนอน หันหลังให้น้องสาว“อ้าว!” เพียงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ นั่งคิดชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจนำผ้าห่มผืนหนามากั้นฝั่งตัวเองไว้ แล้วก้าวลงจากเตียง เปิดประตูห้องออกไป เพียงขวัญหัวเราะเบาๆ ลุกขึ้นเปิดไฟมองดูความเรียบร้อยบนเตียงกว้างอีกครั้ง“นอนกับป้านะคะหนูดา ให้คุณพ่อคุณแม่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์สักคืนนะคะ อุ๊ย!” วงแขนแกร่งที่กอดรัดเอาร่างตัวเองลอยขึ้นจากเตียงทำให้เพียงขวัญอุทานตกใจ“คุณเหม”“ฟ้าออกไปหาคุณนิธิแล้ว เราลงไปนอนพื้นกันเถอะ ปล่อยให้เด็กๆนอนบนเตียง”“นอนด้วยก็ได้ แต่ไม่ทำอะไรนะคะ เกรงใจลูกกับหลาน” เพียงขวัญต่อรอง ขณะยืนมองสามีปูที่นอนลงข้างเตียง“อือ...” เหมันต์ส่งเสียงในลำคอ เมื่อปูที่นอนเสร็จก็หันมารวบร่างภรรยาเอนกายลงนอนพร้อมกัน“คุณเหม...” เพียงขวัญปรามเสียงเบา เพราะกลัวลูกกับหลานจะตื่นขึ้นมา“ครับ”“ไหนบอกไม่ทำอะไรไงคะ”“ใครบอก”
“เดี๋ยวเรียกป้าโอ๋มาอยู่เป็นเพื่อนหนูดาก็ได้นะคะ” เพียงฟ้าหันมายิ้มให้สามี“ไม่เป็นไร ลุงนิจะอยู่กับลูกเองนะคะ” หญิงสาวหน้างอง้ำ สะบัดหน้าหนีงอนๆ“ลูกหลับอยู่ เรารึก็อุตส่าห์จะอาบน้ำให้ แต่ถ้าลุงนิอยากอยู่กับลูกก็ตามใจนะคะ” พูดจบก็เดินสะบัดก้นออกจากห้องไปทันที หนุ่มใหญ่ยืนนิ่งกะพริบตาปริบๆ มองประตูห้องปิดลงงงๆ หลังจากนั้นไม่ถึงห้าวินาที เพียงฟ้าที่เดินขึ้นบนบ้านไปก่อนก็หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงสามีตะโกนดังลั่นบ้าน“ป้าโอ๋! ป้าโอ๋ครับ ป้าโอ๋อยู่หนายยย”เช้าวันต่อมานิธิไปส่งลูกเมียไว้ที่บ้านสวนของเหมันต์ แล้วรีบกลับเข้าเมืองไปทำงานทันที เพียงฟ้ากับลูกน้อยจึงอยู่กับเพียงขวัญ เหมันต์และเด็กหญิงหทัยรัก“อ้อนให้คุณนิธิพามาส่งจนได้นะเราน่ะ” เพียงขวัญเอ่ยกับน้องสาวยิ้มๆ ขณะที่นั่งป้อนข้าวลูกสาวอยู่ที่ศาลาเรือนไทยหลังบ้าน“ก็ฟ้าอยากคุยกับขวัญ อยากพาหนูดามาเล่นกับน้องข้าว” น้องสาวอ้อนพี่สาวยิ้มๆ“น้องข้าวคิดถึงน้าฟ้ากับหนูดามั้ยคะ” หทัยรักฉีกยิ้มกว้าง เด็กหญิงแย่งช้อนในมือมารดามาถือไว้ แล้วยื่นไปใกล้ปากเด็กหญิงอีกค