“เขม...อัญว่า...ตอนนี้อัญเข้าใจเขมมากขึ้นแล้วนะคะ” เจ้าของร่างเพรียวระหงกรีดนิ้วเรียวเคลือบปลายเล็บงามด้วยสีชมพูอ่อนประกายไปบนถ้วยชาขณะยกขึ้นจิบและช้อนสายตามองผู้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างยวนยั่ว “เรื่องอะไรหรืออัญ?” “ก็เรื่องน้องสาวของเขมไงคะ อัญกลับมาคิดดูอีกที เราสองคนน่าจะจูนเวลากันใหม่ เพราะเมื่อก่อนอัญยังไม่เข้าใจความคิดของเขม อัญมัวแต่น้อยใจที่เขมให้เวลาน้องสาวของเขมมากกว่าอัญ...อัญแค่รู้สึกว่าอัญไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขมก็เท่านั้นเอง” อัญชิสากล่าวพลางจับจ้องอยู่บนใบหน้าคมคายของเขมราชที่ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังน้ำกาแฟสีดำสนิทในถ้วยเบื้องหน้า เขายังได้ยินเสียงของคู่สนทนาชัดเจน หากทว่ามิอาจจับประเด็นใดได้ในคำพูดที่ล่องลอยมากระทบโสตประสาทซึ่งยังอื้ออึงด้วยความรำลึกถึงเสียงของ ใครอีกคน ที่อ่อนหวานกว่ามากนัก วันนี้เขาออกจากบ้านในป่าเพียงตั้งใจมาบริษัทแค่ไม่ทันข้ามวัน เมื่อคืนปรายฟ้าแสดงทีท่ามึนตึงราวกับยังโกรธเคืองเขาเรื่องบังคับให้เธอถอดแหวนหมั้นออก เขมราชใจชื้นเล็ก ๆ ที่เมื่อเช้าเห็นว่าบนมือเรียวของเธอปราศจากสิ่งที่ทำให้ขุ่นข้องหมองใจแต่ก
“อุ๊ย!...” ปรายฟ้าเกือบหลุดเสียงร้องออกมาดังลั่นทันทีที่ปิดประตูลงกลอนก็รู้สึกถึงแขนหนาใหญ่โอบรัดมาจากด้านหลัง หากมิใช่กลิ่นโคโลญจน์อันแสนคุ้นเคยก็คงมิรู้เลยว่าเจ้าของอ้อมแขนคือใคร “คุณเขม!” เสียงอุทานนั้นแหบแห้งเมื่ออกหนาแสนอบอุ่นแนบสนิทอยู่บนแผ่นหลังบางขณะที่ลมหายใจเป่ารดอยู่หลังใบหู หญิงสาววางมือเรียวบนแขนใหญ่ที่รัดแน่นอยู่ใต้อกด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยให้เหตุผลตัวเองได้เลยสักครั้งว่าใยจึงรู้สึกวางใจและปลอดภัยนักในอ้อมแขนที่กระหวัดเกี่ยว “ขิมนอนแล้วหรือ?” เขมราชกระซิบถามขณะดันร่างบางให้นั่งลงบนเตียงเล็ก “ค่ะ...นอนแล้ว ปรายก็กำลังจะนอนเหมือนกัน” “ทำไมรีบนักล่ะ...ผมเพิ่งมาถึงเมื่อครู่ และก็ทันได้ยินคำพูดที่คุณปลอบขิม ผมชอบจังที่คุณบอกขิมอย่างนั้น” “ปรายทำตามหน้าที่ค่ะ...ทำตามคำสั่งของคุณ ถ้าไม่ทำปรายอาจต้องเจ็บตัวอีกก็ได้” หญิงสาวหัวใจเต้นแรงเมื่อเขาคลายวงแขนและจับไหล่ให้ตัวเธอหันมาเผชิญหน้ากับเขาใต้แสงตะเกียงอันนุ่มนวล ทั้งที่เธออยู่ใกล้ชิดเขาจนมิอาจนับครั้งหากแต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจึงยังตื่นเต้นเมื่
ข้อโซ่แห่งพันธนาการ “ปราย...ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยสิ...ปรายรักกับพี่เขมได้ยังไง?” เป็นครั้งแรกที่เขมรินตั้งคำถามกับปรายฟ้าขณะนั่งในซุ้มไม้ใกล้ลำธารซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านออกมาไม่ไกล สีหน้าของเธอแช่มชื่นขึ้นมากโดยปราศจากความขุ่นข้องที่มีตั้งแต่แรกจนทำให้ปรายฟ้าคิดว่าน้องสาวของเขมราชเริ่มเชื่อใจเธอแล้ว หญิงสาวใคร่ครวญถ้วนถี่ก่อนจะให้คำตอบที่คิดว่าเหมาะควรแก่ผู้รับฟัง “มันเกิดจาก...ความไม่ตั้งใจ” “ไม่ตั้งใจ?” เขมรินเลิกคิ้วและทวนคำพูดเสียงสูงก่อนจะเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนจากอีกฝ่าย “บางครั้งความรักก็เกิดจากความไม่ตั้งใจไงคะคุณขิม เหมือนที่เราอาจไม่ตั้งใจพบใครสักคน แต่เรากลับพบเขาโดยบังเอิญ คนที่ค้นพบความรักแบบนี้ก็มีเยอะแยะนะคะ” “ปรายพบพี่เขมโดยบังเอิญเหรอ?...พบกันที่ไหน?...ไปพบกันได้ยังไง?” ทุกคำถามที่พุ่งเป้ามายังปรายฟ้าทำให้หญิงสาวหายใจติดขัดเล็กน้อย ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เธอเข้าใจคือความทรงจำอันมากมายยังคงเวียนไหลอยู่ในสำนึกของเขมริน พี่ชายของเธอเข้าใจถูกแล้วว่าน้องสาวของเขาไม่ได้บ้า เธอแค่สูญเสียพลังในการควบคุมตัว
“อย่าคิดว่าปรายเป็นสมบัติของคุณเพียงแค่เหตุผลว่าปรายเป็นของคุณแล้ว คุณเขมราช!...ความตั้งใจของคุณไม่ได้อยู่ที่ตัวผู้หญิงคนหนึ่งที่คุณใช้กำลังบังคับข่มเหงให้เขาต้องยอมจำนนต่อคุณ คุณแค่ต้องการความรู้สึกของคนที่คุณรักกลับคืนมาโดยไม่เคยสนใจเลยว่ามันต้องแลกกับความทุกข์ทรมานของคนที่ชีวิตเขาต้องย่อยยับเพราะคุณ!...คุณบอกปรายว่าพี่ก้องเลวยิ่งกว่าอะไร...ไม่ใช่หรอก...คุณอาจจะหลงลืมตัวเองไป หลงลืมว่าการกระทำของคุณเลวทรามยิ่งกว่าใคร ๆ ที่คุณว่าเขาเสียอีก!” ฉาด!!!เสียงฝ่ามือหนาตวัดลงบนหน้าบางจนสะบัดไปตามแรงกำลังนั้นโดยไร้ทางเบี่ยงหลบ ปรายฟ้ายกมือขึ้นลูบผิวแก้มร้อนและรู้สึกถึงความเจ็บปวดแล่นไหลไปทุกทิศทาง ใช่แต่แก้มจะแดงจ้ำหากแต่หยาดโลหิตที่หลั่งออกมาจากมุมปากยังส่งผ่านความเจ็บช้ำเข้าไปถึงก้นบึ้งเลยทีเดียว หญิงสาวหันกลับมามองเจ้าของใบหน้าแค้นเคียดที่บัดนี้แววตาคู่นั้นกลับฉายความตระหนกออกมาแทนความสาแก่ใจ เขมราชก้มลงดูมือหนาที่ตนใช้เป็นเครื่องมือประหัตประหารความรู้สึกของอีกฝ่ายราวสำนึกถึงการกระทำซึ่งครอบงำความคิด อารมณ์ชั่ววูบฉุดให้เขาพลั้งพลาดทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมด้วยทั้งโกรธและห
“คุณขิม...”“เธอหลอกฉัน ปรายฟ้า!...เธอหลอกฉันใช่มั้ย...เธอไม่ได้รักพี่เขม...เธอใช่มั้ยที่ทำให้ก้องเปลี่ยนไป เขาไปจากชีวิตของฉันก็เพราะผู้หญิงเลวทรามอย่างเธอ!”“คุณขิมฟังปรายก่อนค่ะ!...ปรายอธิบายทุกอย่างได้นะคะว่า...”“อธิบายมาสิ...คนหลอกลวง!” เขมรินกรีดเสียงแหลมพร้อมยกมือข้างหนึ่งที่ไพล่อยู่ด้านหลังซึ่งกุมมีดด้ามเล็กเอาไว้อย่างมาดหมายในขณะที่ปรายฟ้าแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นประกายจากคมโลหะนั่น เธอถอยไปด้านหลังด้วยความหวาดกลัวที่วิ่งพล่าน คนสติกำลังกระเจิดกระเจิงตอนนี้หาใช่เขมรินแต่กลับเป็นเธอซึ่งกำลังจะถูกทำร้ายจากผู้หญิงไร้ความยั้งคิดที่ย่างสามขุมเข้ามา“ฉันจะให้เวลาเธออธิบาย ฉันจะให้เธอได้พูดในสิ่งที่เธอคิดว่าฉันจะเชื่อ คนปลิ้นปล้อน!...เพราะหลังจากนี้จะไม่มีคำว่าโอกาสให้คนที่หักหลังความรักของฉันอีกต่อไป!”“คุณขิม...ได้โปรดฟังปรายก่อนค่ะ ปรายไม่รู้เรื่องของคุณกับพี่ก้องมาก่อนจริง ๆ ปรายไม่เคยรู้ว่าพี่ก้องทำให้คุณขิมเสียใจ และการที่ปรายต้องแต่งงานกับพี่ก้องก็เป็นเพราะความเห็นชอบของผู้ใหญ่ ถ้าปรายรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะทำลายหัวใจของผู้หญิงอีกคน ปรายไม่มีวันตกลงรับปากแต่งงาน”“แต่เธอก็กำล
“คุณเขม...แผลของคุณ”ปรายฟ้าวางมือเรียวบางบนแขนหนาใหญ่ของชายหนุ่มขณะเขานิ่งมองร่างที่ยังหลับใหลซึ่งยังยินเสียงหอบหายใจสะท้อนของเขมรินที่นอนทอดร่างเหยียดยาวอยู่บนฟูกหนาภายในห้องของเธอบนเรือนไม้กลางป่าช่างดูเงียบหงอยและเศร้าสร้อยในราตรีที่ถูกอาบไล้ด้วยประกายของแสงสีเงิน หญิงสาวอดที่จะหลั่งน้ำตาอีกครั้งมิได้เมื่อเห็นแผ่นหลังบนร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรังจากรอยแผลที่เกิดด้วยคมมีดซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวมิได้แยแสต่อการบาดเจ็บของตัวเองแม้แต่น้อย“ผมไม่เป็นไร” เสียงนั้นผะแผ่วขณะดวงตาคมจับจ้องไปยังร่างของน้องสาวที่ยังไม่ไหวติง“ผมเกือบทำให้คุณต้องตาย...ถ้าผมไปช้ากว่านั้น...อีกนิดเดียว” “บางทีถ้าปรายต้องตายไปจริง ๆ โลกของคุณขิมอาจกว้างขึ้นกว่านี้ก็เป็นได้” ปรายฟ้ากล่าวออกมาอย่างสิ้นหวังเพราะเมื่อคิดดูอีกทีการที่เขมราชเอาตัวเองเข้ามารับคมมีดแทนเธอก็อาจด้วยไม่ต้องการให้น้องสาวของเขาเป็นฆาตกร “โลกของขิมแตกสลายไปนานแล้ว การตายของคน ๆ หนึ่งไม่อาจช่วยให้โลกที่เหลือแต่ซากปรักหักพังของอีกคนฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ โลกของขิมมีแต่จะรอวันทำลายตัวเอง” “แต่คุณ
แทนคำตอบมือเรียวบางกลับลากเลื่อนลงมาตามลำคอผ่านเนื้อผ้ายืดบนกล้ามเนื้อบนอกและหน้าท้องที่ไหวกระเพื่อมขึ้นลงเสมือนรอคอยอะไรบางอย่างกระทั่งปลายนิ้วของหญิงสาวขมวดชายเสื้อบนร่างสูงก่อนถลกมันขึ้นไปจนท่อนบนของเขาก็เปลือยเปล่าดุจเดียวกัน แต่แล้วสำนึกของปรายฟ้าบอกเธอว่าเขากำลังบาดเจ็บ ดวงตาคู่สวยเบิกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นร่องรอยโลหิตแห้งกรังบนเสื้อในมือ “คุณเขมคะ...คุณคงลืมไปแล้วว่ายังไม่ได้ทำแผลบนหลังของคุณ” “ช่างมันก่อนเถอะ...” “ถ้าคุณบาดเจ็บมากกว่านี้...” “ผมจะทรมานมากกว่านี้ถ้าคุณจะบอกให้ผมหยุดทั้ง ๆ ที่คุณก็ต้องการ” ชายหนุ่มดึงเสื้อในมือของหญิงสาวทิ้งไปราวไม่ปรารถนาให้มันเป็นสิ่งกางกั้นความรู้สึกที่กำลังถูกแผดเผา เขายังปวดแปลบยามเคลื่อนไหวร่างกายหากทว่าความสุขสมในรสสัมผัสกลับช่วยขมวดรัดความอดทนจนคลี่คลายความเจ็บนั้นลงได้ยิ่งกว่ายาชา เมื่อสิ้นไร้ซึ่งความคลางแคลงใด ชายหนุ่มหญิงสาวจึงไม่รีรอที่จะหล่อหลอมความต้องการโดยกอดรัดและแลกความหวานฉ่ำแก่กันอีกครั้งอย่างที่ตั้งใจ เขมราชเพียรบอกด้วยภาษากายโดยการโลมไล้ความอ่อนนุ่มด
“คะ...คุณเขม” ปรายฟ้าขานรับเสียงสั่นขณะหลับตาพริ้มรับเรียวลิ้นและริมฝีปากร้อนที่ซอกซอนไปทุกส่วนของผิวละมุน เขมราชลากเลื่อนใบหน้าขึ้นมาจูบซับบนคางมนขณะมือหนากลับเลื่อนต่ำลงสู่เบื้องล่างก่อนที่นิ้วซุกซนจะผลุบหายเข้าไปในดงดอกไม้ที่แย้มกลีบบางและฉ่ำไปด้วยหยดหยาดแห่งปรารถนา “ปราย...คุณอยากร้องขออะไรจากผมตอนนี้มั้ย” ชายหนุ่มกระซิบถามเมื่อขบเม้มบนเรียวปากอิ่มบนหน้าสวยหวานเบา ๆ เพื่อหยั่งความรู้สึกแสนร้อนเร่าที่กำลังปะทุเป็นดอกไม้ไฟ “อืม...แล้วถ้าปรายไม่ขออะไรจากคุณตอนนี้ล่ะคะ” “คุณก็จะได้ในสิ่งที่คุณไม่ได้ร้องขอ...จากผม” หญิงสาวจิกปลายเล็บลงบนไหล่หนาเบา ๆ เมื่อนิ้วยาวของเขาสอดเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิม ปรายฟ้าแทบกลั้นหายใจทั้งยกสะโพกรับการเคลื่อนไหวแสนอ่อนหวานจากเจ้าของมือที่รู้ดีว่าทำอย่างไรประกายไฟในร่างของหญิงสาวจึงจะเปลี่ยนเป็นปรมาณูลูกใหญ่ซึ่งทำลายได้แม้แต่ธารน้ำแข็งครึ่งขั้วโลก ร่างบอบบางมิคอยรอให้เขาปรนเปรอเธอได้แค่ฝ่ายเดียว หญิงสาวค่อยเลื่อนมือเรียวขึ้นมาไล้บนรอยหยักบนเรียวปากที่ฝากความทุรายทุรนจนเธอสั่นสะท้านก่อนจะแทรกปลายนิ
“คุณจะรู้อะไร! นังนั่นมันคงหลอกล่อคุณให้ตายใจด้วยความสวยของมัน... ลูกสาวของนรา เจ้าของ ดิ เอเมอรัล ใครก็รู้ว่าสวยหยาดฟ้ามาดิน แต่ในวงสังคมมันก็เป็นแค่เจ้าสาวที่คงถูกพวกโจรพาไปทำปู้ยี่ปู้ยำจนหมดแล้ว คุณไม่มีวันรู้หรอกเขมว่ามันมีสามีมากี่คนแล้วก่อนจะถึงมือคุณ”“คุณคงอยากได้ความกระจ่างมากกว่าที่มืดบอดอยู่ ผมนี่แหละ ผู้ชายคนแรกของปรายฟ้า คนที่ฉุดเธอไปจากงานแต่งคืนนั้นคือผม เขมราช อัครินทร!”“กรี๊ด!...ไม่จริง!...เขม คุณจะบ้ารึไง คุณพูดออกมาได้ยังไงว่าคุณเป็นคนฉุดปรายฟ้าไป คุณแกล้งอัญใช่มั้ยถึงได้กุเรื่องบ้าบอคอแตกนี้ขึ้นมา!”“ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น คนอย่างผมไม่เคยล้อใครเล่น และไม่รู้จักการโกหก โดยเฉพาะกับคนที่ผมรัก”เขมราชดูจะใส่ใจต่อเสียงกรีดร้องปลายสายน้อยลงในทุกขณะเมื่อร่างที่เขาทาบทับอยู่นั้นเป็นฝ่ายผงกศีรษะขึ้นมาเพื่อมอบจูบอันหน่วงหนักโดยละทิ้งความกริ่งเกรงในคราวแรกว่าสามีของเธอจะใจอ่อนต่อผู้หญิงคนนั้น“เขม...คุณต้องสั่งทนายของคุณให้หยุดเดินเรื่องฟ้องอัญเดี๋ยวนี้นะคะ คุณทำแบบนี้ไม่ได้ อัญเป็นแฟนคุณ ไม่ใช่คู่กรณีทางกฎหมายแบบนี้”“ก็แค่เคย...ผมจะไม่พูดอะไรในตอนนี้ เพราะคนที่จะพูดแทนผมได้คื
“ผมรักคุณนะปราย...มากกว่าอะไรในโลกนี้”เสียงปนหอบขานรับดังชัดกว่าสายฝนพรำและประทับลงสู่เบื้องลึกของความทรงจำที่มี เขา เสมอมิเสื่อมคลาย“ปรายก็รักคุณค่ะ...มากกว่าอะไร...ในโลกนี้”เสียงนกร้องปลุกสำนึกแรกของเขมราชให้ลืมตาตื่นรับประกายแดดอ่อนเบาที่ทอดผ่านเข้ามาทางบานกระจกหน้าต่างหลังคืนฟ้าฝนตกหนักผ่านพ้นไป เปลือกตาใต้โครงคิ้วหนาเป็นปื้นกระพริบถี่รัวเพื่อปรับม่านนัยน์ตารับแสงแรกของอรุณใหม่ภายในเรือนไม้หลังงามซึ่งเขาชื่นชมนักเมื่อมาถึงครั้งแรก ชายหนุ่มยังไม่ขยับตัวไปทางใดเมื่อดวงตาคมเปิดรับภาพอันชัดเจนและตรึงตราของปรายฟ้าที่ยังนอนหนุนแขนของเขาต่างหมอนตลอดทั้งคืน ร่างสูงใหญ่บิดตะแคงเพียงน้อยเพื่อเพ่งพิศความงามของร่างเล็กเปลือยเปล่าซึ่งยังคงทิ้งตัวในนิทรารมย์ใต้ผ้าห่มคลุมแค่เนินเนื้ออิ่มเผยเนียนผิวขาวช่างเจิดจรัสราวกุหลาบงามใต้ละอองแดดอาบไล้ฉาบประกายชมพูบนเนื้อนวลอันหมดจดผู้อยู่ในอ้อมแขนขยับตัวบางครั้งเพื่อบดเบียดตัวเองเข้าหาแผ่นอกกว้างทำให้เขาได้กลิ่นหอมเบาบางจากเรือนผมดำยาวสยายเต็มหมอนโอบล้อมวงหน้ารูปไข่และแก้มเปล่งปลั่งตามธรรมชาติโดยไร้การแต่งเติมสีสันใด ๆ ทว่าก็ช่างน่ามองนัก ทุกครั้งที่ร
“คะเขม”“ผมลืมไปว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่คุณกับผม”“คุณหมายถึงลูกของเราใช่ไหมคะ”เขมราชเลื่อนตัวลงแนบข้างแทนที่จะทิ้งน้ำหนักบนร่างสาวโดยตรงพลางวางฝ่ามือหนาลงบนหน้าท้องที่ยังเรียบตึงแต่ก็เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวช่างนุ่มนิ่มอิ่มอวบขึ้นมากกว่าแต่ก่อน หากก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความมีน้ำมีนวลนี้เร่งเร้าให้เขาอยากสัมผัสเธอไปทุกส่วนสัด ยิ่งเนินถันอวบอัดที่กระเพื่อมขึ้นลงนั้นดูคล้ายบัวตูมดอกใหญ่อิ่มขยายชูช่อรอรับหยาดแห่งความฉ่ำชื่น“เขาจะเป็นอะไรมั้ยถ้าเรา...”ปรายฟ้าวางมือบางบนหลังมือที่แนบอยู่บนแผ่นผิวหน้าท้องราบเรียบด้วยความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด“เขาอยู่ลึกมากเลยค่ะเขม ปรายยังไม่รู้สึกว่าเขาตอบสนอง แต่เขาอยู่ที่นั่นค่ะ”“ปราย...ที่ผมรีบตามคุณมาที่นี่เพราะกลัวว่าคุณจะทำอย่างขิม เป็นความจริงที่ผู้ชายตัดสินใจทำอะไรได้รวดเร็วเด็ดขาด แต่เรื่องความใจเด็ดเราอาจมีไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งของผู้หญิง”ร่างเล็กเบียดตัวเองเข้าหาความแข็งแกร่งกำยำราวจะบอกในทีว่าถึงอย่างไรสตรีก็ไม่เคยลืมทิ้งความอ่อนหวานให้บุรุษถวิลหา“คุณกำลังจะว่าผู้หญิงโหดเหี้ยมกว่าผู้ชาย ถึงยังไงเราก็สู้คนตัวโตกว่าไม่ได้อยู่แล้วนี่คะเขม”เขมราชลากปลาย
“ปราย...ผมจะแต่งงานกับคุณ”ปรายฟ้าชะงักงันแม้ชุดนอนจะถูกรั้งลงไปกองอยู่ข้างเตียงเหลือเพียงร่างงามเปล่าเปลือยผ่องผุดใต้แสงเย็นตา เขมราชไล้ปลายนิ้วสากไปบนผิวนิ่มลื่นบนไหล่บางและเกลี่ยปลายผมที่ทิ้งตัวลงมาปิดถันอิ่มออกไปโดยไม่ได้สนใจดวงตากลมโตฉายความฉงนของอีกฝ่ายแต่อย่างใด“เขมคะ...ปรายแต่งงานกับคุณไม่ได้หรอกค่ะ”หญิงสาวจับมือของเขาที่ไล้ลูบบนเนินทรวงทั้งที่ความรุ่มร้อนเริ่มแผดเผาจากข้างในทว่าก็ยังมีข้อสงสัยที่เธออยากคลี่คลายมันเสียก่อน“มีอะไรที่ยากลำบากสำหรับคุณหรือปราย ในเมื่อตอนนี้ก้องกาจก็อยู่ต่างประเทศ”“มันไม่ได้เกี่ยวกับพี่ก้อง แต่มันเป็นชื่อเสียงของคุณ ประธานกลุ่มบริษัทอัครินทรต้องหมองมัวแน่ถ้าสังคมรับรู้ว่าคุณจะลงเอยกับเจ้าสาวที่ถูกฉุดหายไปในวันแต่งงาน... ปรายฟ้า นิรกิจจากร”“คุณคือปรายฟ้า อัครินทร ต่างหาก ลืมไปแล้วหรือว่าหลักฐานในทะเบียนสมรสระบุไว้อย่างนั้น หรือถ้าคุณคิดว่ามันยังไม่ชัดเจนพอ ผมก็จะขอเอาตัวเองพิสูจน์กับคุณเสียเดี๋ยวนี้เลย”“เขม...” เรียวปากจิ้มลิ้มอ้าออกไม่ทันคัดค้านก็ถูกประกบปิดไว้แน่นแนบจากเจ้าของใบหน้าคมคาย ชายหนุ่มไม่ต้องการประวิงเวลาไว้สำหรับความเข้าใจอันลึก
“ปราย...” เขาแน่ใจว่าเธออยู่ตรงนั้นในเวลาที่ยังรำลึกถึงคำพูดซึ่งเขายังจดจำอยู่เสมอ“ปรายกลัวเสียงฟ้าผ่าค่ะ...เป็นมาตั้งแต่เด็ก แก้ไม่เคยหายเลย”“แล้วเมื่อก่อนเวลาคุณกลัว...คุณทำยังไง” “ปรายชอบแอบอยู่ข้างเตียง...ตลกมากใช่มั้ยคะ ปรายไม่เคยบอกใครเลย”ชายหนุ่มก้าวไปหยุดใกล้ ๆ และเห็นชัดว่าร่างเล็กห่อกายด้วยผ้านวมผืนใหญ่ซุกตัวอยู่ติดผนังห้องตรงหัวเตียงด้านล่าง“เขม...เขมคะ” เสียงสั่นเครือบอกความกลัวเจือด้วยความเว้าวอนนั้นทำให้เขมราชรู้ตัวว่าเขาคงมิอาจทอดทิ้งปรายฟ้าไปไหนได้อีกแล้วเมื่อร่างสูงตระหง่านตรงเข้าไปคุกเข่าและกอดหญิงสาวในผ้านวมแนบแน่น“ปราย...ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว อย่ากลัว ผมจะปกป้องคุณเอง”ร่างอรชรสลัดผ้าผืนหนาออกก่อนสอดแขนเรียวโอบรอบแผ่นหลังกว้างราวกับเธอก็หมดสิ้นแล้วซึ่งทิฐิและความถือดีใด ๆ นอกจากหัวใจเพรียกหาสามีผู้เป็นที่รัก“ไหนคุณบอกนายย้งว่าคุณจะกลับกรุงเทพแล้วไงคะ คุณจะกลับไปจริง ๆ ใช่ไหมคะ?”“คุณเชื่อที่ผมพูดหรือ...แล้วคุณรู้ได้ยังไง คุณได้ยินทุกอย่างใช่มั้ยที่ผมคุยกับนายย้งข้างนอก”ชายหนุ่มใช้มือทั้งสองแนบลงกับหูของหญิงสาวและตรึงให้ใบหน้าหวานเผชิญกับเขาอย่างนุ่
“จะให้ผมรับหมอมาดูอาการของคุณเขมราชที่นี่หรือเปล่าครับคุณปราย”นายย้งเสนอตัวก่อนหันไปมองใบหน้าคมคายซีดเผือดบนร่างสูงกำยำซึ่งยังนอนหายใจหนักใต้ผ้าห่มผืนหนาด้วยความร้อนยังไม่ทุเลาเบาลง“ไม่ต้องหรอกค่ะ...นายย้งคอยเฝ้าดูอาการของเขาตรงนี้แล้วกันนะคะ ถ้าไข้เขาลดแล้ว...”ปรายฟ้าระบายลมหายใจก่อนพูดต่อเสียงหวิว“ปรายจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้นายย้งพาเขาไปส่งที่กรุงเทพค่ะ”“คุณปรายครับ...แต่ว่าคุณเขมราชเพิ่งมาถึงนะครับ แล้วถ้าให้ผมพาเขากลับกรุงเทพคุณปรายจะอยู่กับใคร”“ปรายอยู่คนเดียวได้ค่ะ! ปรายอยากอยู่คนเดียวมากกว่าจะมีเขา ซึ่งการที่มีเขาหรือไม่มี ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างนี่คะนายย้ง”ร่างบางกล่าวจบก็เดินออกไปจากที่นั้นซึ่งนายย้งรู้ดีว่าคุณหนูของเขาคงไปนั่งจัดดอกไม้ในสวนข้างบ้านอย่างเคย เขาส่ายหน้าไปมาก่อนพูดกับตัวเอง“เฮ้อ!...คุณปรายของย้ง ดูเหมือนจะใจอ่อนแล้ว บทจะแข็งขึ้นมาก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน”.ใช่แต่คำพูดของนายย้งที่แทรกซึมเข้าไปในประสาทรับรู้ของเขมราช ถ้อยวาจาก่อนหน้าของปรายฟ้าก็ยังดังชัดเจนในหูของคนทำทีเสมือนหลับหากก็เปิดเปลือกตาขึ้นมาเมื่อผู้รับคำสั่งให้คอยดูแลเดินกลับเข้าไปในครัวแล้ว“ตื๊อเท
ร่างอรชรโคลงศีรษะขับไล่ความมึนงงก่อนลุกขึ้นจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงผ้าไหมเรียบลื่นสีครีมขับประกายผุดผ่องบนผิวขาวอมชมพูในวันท้องฟ้ายังขมุกขมัว และเมื่อเธอเปิดประตูห้องนอนก็ยังรู้สึกว่าบ้านช่างเงียบเชียบ...หรือเขมราชกลับกรุงเทพฯ ไปแล้วแต่แล้วหญิงสาวก็หมดสงสัยเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ยังคงนอนเหยียดยาวใต้ผ้านวมคลุมมิดชิดถึงลำคอบนโซฟาบุหนังต่างที่นอนตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ทุกอย่างยังคงเงียบจนดูเหมือนผิดปกติยินเพียงเสียงหายใจหนักซึ่งเริ่มทำให้หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจว่าเขาสบายดี เธออยู่กับเขมราชจนรู้ว่าเขาไม่ใช่คนชอบนอนตื่นสาย เขาตื่นเช้ามากจนหลายครั้งเธอก็ยังนึกอายเมื่อลืมตาขึ้นมาในอ้อมแขนและเห็นนัยน์ตาคมคู่นั้นจ้องมองเธอยามหนุนแขนหนาใหญ่แนบอกกว้างจนไม่อยากขยับตัวลุกจากที่นอน“คุณเขมราช...คุณเขม...เขมคะ” ปรายฟ้าคุกเข่าลงใกล้ ๆ พลางเรียกเขาซ้ำ ๆ จนหลงลืมเรียกสามีตัวเองอย่างคุ้นเคยอีกครั้ง ทว่าคำตอบของเขาคือเสียงทอดลมหายใจยาวและหนักสลับกับเสียงครางในลำคอ“คุณเขม!” หญิงสาวใจหายวาบเมื่อวางหลังมือบางลงบนหน้าผากของชายหนุ่มและสัมผัสที่ได้คือความร้อนแล่นไหลไปตามอณูผิว ปรายฟ้ากำลังจะดึงมือกลับหากก็ถ
“ปราย...”ปรายฟ้าหยุดชะงักเมื่อเก็บร่มและหันหลังให้เขาขณะกำลังจะก้าวกลับเข้าบ้าน“ผมรู้ว่าคุณไม่ใจร้ายปล่อยให้ผมตายอยู่ข้างนอกแน่ และผมก็รู้ว่า...คุณกลัวเสียงฟ้าร้อง”ชายหนุ่มนิ่งมองแผ่นหลังของร่างเล็กภายใต้เสื้อคลุมตัวยาวท่ามกลางแสงอ่อนจากโคมไฟในยามท้องฟ้าหมองมัวและบรรยากาศขะมุกขมัวด้วยละอองน้ำปรายโปรย ผมยาวปล่อยสยายบนไหล่บางสะท้อนความงามเงาดึงดูดสายตาของเขาเสมอ ปรายฟ้าฝืนก้าวเท้ากลับเข้าไปทั้งที่เวลาเช่นนี้เธอปรารถนาอ้อมกอดของเขาล้นเหลือ หากแต่ความโกรธทำให้หญิงสาวอยากเกลียดเขาให้มากเท่าที่เขาเคยทำให้เธอเจ็บช้ำแทบหมดสิ้นกำลังใจ“ฮัดเช้ย!” เสียงจามเป็นระยะของเขมราชทำให้ปรายฟ้าซึ่งกำลังหอบผ้านวมและหมอนมาวางกองบนโซฟาภายในห้องรับแขกอดที่จะเหลือบมองร่างกำยำที่สวมกางเกงแพรตัวเดียวขณะนั่งลูบผ้าขนหนูไปบนเรือนผมสั้นทว่าเปียกชื้นนั้นไม่ได้ ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามบนหน้าอกกว้างและหน้าท้องเป็นลอนน่ามองทุกครั้งที่มันขมวดเกร็งและกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ“คุณนอนตรงนี้ก็แล้วกัน จะกลับพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือคะ?”“ผมบอกแล้วไงว่าจะมาอยู่คอยดูแลคุณแทนคุณพ่อ แล้วจะไล่ผมกลับไปแบบนี้ได้ยังไง”“บ้านนี้ห้อ
ปรายฟ้าร่ำรองอยู่กับตัวเองขณะนั่งบนฟูกนุ่มรองด้วยเตียงไม้ฉลุลายโบราณภายในห้องนอนกว้างซึ่งอวลด้วยกลิ่นดอกไม้หอมในแจกัน หญิงสาวพยายามสลัดภาพใบหน้าคมคายออกจากหัวใจทั้งที่รู้ว่าไม่เคยทำได้สักที ก็จะเป็นไรไปเล่า เขาอยากจะนั่งเฝ้าคอยเธอก็ให้เขานั่งต่อไป ร่างอรชรลุกจากที่นอนและทำเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้ทั้งที่ใจเต้นระส่ำเมื่อได้ยินเสียงฝนหล่นกระทบหลังคาดังเปาะแปะก่อนหยาดพิรุณจะทิ้งเม็ดหนามากขึ้นทุกทีเมื่อมองลอดกระจกหน้าต่างมัวหมองด้วยฝ้าน้ำออกไปปรายฟ้ายังพยายามนิ่งใจเย็นหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนผ้าซาตินสายเดี่ยวสวมทับด้วยเสื้อคลุมตัวยาวก็หยิบหนังสือเล่มเล็กมานั่งอ่านทั้งที่สายตานั้นพร่าไปหมดด้วยไม่แน่ใจอะไรบางอย่างเขาคงกลับไปแล้ว....หญิงสาวค่อย ๆ ปิดหนังสือขณะน้ำหยดน้อยร่วงผล็อยลงมาจากดวงตาคู่สวย ฝนฟ้าตกหนักเช่นนี้มีหรือที่เขาจะมานั่งทนรอเธอให้เสียเวลา อาจขับรถกลับกรุงเทพไปเสียแล้วกระมังเพราะคงถอดใจกับการประชดประชันไม่เข้าท่าของผู้หญิงไร้ค่าในสายตาของเขา“คุณปราย!...คุณปรายครับ ย้งเองครับคุณปราย”เสียงของนายย้งดังขึ้นพร้อมเคาะประตูหลายหนจนปรายฟ้าต้องลุกจากที่นอนเพื่อผลักประตูห้