Share

บทที่ 39 ใจกลางความมืดมิด(2)

last update Last Updated: 2025-02-23 19:30:30

บทที่ 39 ใจกลางความมืดมิด(2)

“...”

เสียงนั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับมา จางเว่ยที่อยู่อยู่ก็รู้สึกว่างเปล่า ขึ้นมาในช่วงขณะหนึ่ง ก็ได้ลุกออกจากบ้านไปยังบ้านของมารดา ที่ตอนนี้ทุกคนกำลังรับประทานมื้อเย็นกันอย่างสนุกสนาน

มองเหล่าบรรดาญาติพี่น้องพ่อแม่ลูกหลาน ทุกคนที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง หลังจากที่นานแล้วก็เข้าไม่ได้ฉลองกันพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้ ความรู้สึกหลากหลายมากมายตีกันอยู่ในอก จนจางเหว่ยไม่รู้แล้วว่าในตอนนี้ขอกำลังคิดอะไรอยู่

ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เขาที่มองอยู่อย่างนั้นก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผ่านเวลาไปค่อนข้างนานมากแล้ว ทุกคนที่ดื่มกินกันจนอิ่มหนำสำราญ ก็ได้เริ่มแยกย้ายออกจากวงสนทนา...

“...”

จางเหว่ยเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้สองขาของเขา กำลังพาเขาไปยังสถานที่ใด...

“เสี่ยเหว่ย...” ผ่านไปได้สักครู่หนึ่ง ในขณะที่จางเหว่ยกำลังแหงนมองดูดวงจันทราบนท้องฟ้า ด้วยความรู้สึกที่วางปลาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขาในระยะประชิด ในตอนนั้นเองเขาก็เกือบที่จะหลุดควบคุม จนหันหน้ากลับไปมองอีกฝ่ายแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังสามารถพอที่จะควบคุมตนเองได้อยู่ “ทำไมลูกถึงไม่เข้าไปกินข้าวเย็นกับพวกเราเล่า มันนานมากแล้วนะที่พวกเราไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน น่าจะสักสิบปีได้แล้ว...”

“...”

จางเหว่ยมิได้พูดอะไรตอบกลับไป เพียงแค่ยืนมองฟ้าอยู่นิ่งนิ่งเช่นนั้น แต่สำหรับคนที่มองแผ่นหลังของลูกชายของตนเองอยู่ ก็สามารถมองเห็นได้ถึงความสั่นของไหล่ทั้งสองข้าง

“แม่ขอโทษ เจ้าจะให้อภัยแม้สักครั้งจะได้ไหม”

“ท่านแม่จะมาพูดอะไรเอาป่านนี้เล่าขอรับ มันก็ผ่านไปนานมากแล้ว ในตอนนี้ไม่ว่าท่านแม่จะพูดอะไร มันก็ไร้ความหมายแล้วล่ะขอรับ”

“เรา...พวกเรามิสามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้วได้จริงๆหรือ”

“เหมือนเดิม... เหมือนเดิมแบบไหนหรือขอรับ เหมือนเดิมแบบที่มิเคยมีใครเห็นหัวขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนั้นหรือขอรับ พี่ใหญ่ทั้งเก่งทั้งฉลาดทั้งเป็นความหวังของหมู่บ้าน ส่วนน้องเล็กเองก็มีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่จิตใจกลับอ่อนโยนจนเป็นที่รักของทุกคน แต่ข้ามันเป็นเพียงแค่คนธรรมดาธรรมดาขอรับ คนธรรมดาที่เกิดมาในครอบครัวของผู้วิเศษ คนธรรมดาที่ไม่ได้มีให้ความสามารถอะไรเลย คนธรรมดาที่ไม่เคยถูกเหลียวแล กลับไปเป็นแบบนั้นหรือเปล่าขอรับ”

“จางเหว่ย...แม่...”

“ถ้าหากไม่มีอะไรจะพูดแล้วท่านแม่กลับไปเถอะขอรับ หลังจากที่พวกท่านทุกคนทำกับข้าเช่นนี้มาหลายสิบปี แล้วจู่ๆจะมาบอกว่าท่านรักท่านห่วงใยข้า? อย่างนั้นหรือขอรับ ท่านคิดว่าข้าควรจะรู้สึกดีใจดีไหม หรือข้าควรจะมีความสุขกับความรักเศษเสี้ยว ที่ท่านเพิ่งจะนึกได้หลังจากผ่านไปหลายสิบปีแล้ว อย่างนั้นหรือ!”

มิว่าด้วยโทสะหรือด้วยอะไรก็ตาม จางเหว่ยกล่าวด้วยเสียงตะคอกออกมาพร้อมกับหันหน้ามาประจันหน้ามองสบตากับมารดา...

“เสี่ยวเหว่ย...ตาเจ้า!” หญิงวัยกลางคนกล่าวออกมาด้วยความตกใจ ท่ามกลางดวงจันทร์ที่ทอประกายอยู่กลางฟากฟ้า จนผู้เป็นแม่สามารถมองเห็นได้ว่าดวงตาของบุตรชายตนนั้นแปลกไป ดวงตาข้างนึงมีสีดำสนิท ส่วนดวงตายอีกข้างนั้นลูกตาดำแทบจะกลืนตาขาวไปจนหมดสิ้นแล้ว “เจ้าเป็นอะไรไป”

“ไม่ว่าข้าจะเป็นหรือไม่เป็นอะไร มันก็ไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้วล่ะเข้ารับ” จางเว่ยหันหน้ากลับไปอีกครั้ง ไม่อยากให้ใครมองเห็นเขาในสภาพแบบนี้ 

“แม่...”

“มิต้องพูดอะไรแล้วล่ะขอรับ ระหว่างพวกเรามันไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันมานานมากแล้ว...” จางเว่ยระบายลมหายใจออกมายาวๆ “แต่หากว่าท่านแม่ยังคงมีความรู้สึกผิดต่อข้าอยู่บ้าง ได้โปรดเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับด้วยเถิดนะขอรับ”

“....”

กล่าวเพียงเท่านั้น เขาก็เดินหายลับไปท่ามกลางความมืดมิดยามราตรี ทิ้งให้ผู้เป็นแม่จมอยู่กับความรู้สึกที่หลากหลาย มิรู้ว่าควรจะทำเช่นไรต่อไปดีแล้ว

ในโลกนี้มักจะมีความจริงอยู่อย่างหนึ่งที่ผู้คนไม่รู้ นั้นก็คือความเท่าเทียมไม่เคยมีอยู่จริง... 

ไม่ว่าจะเป็นความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก ที่พวกผู้ใหญ่ที่มีลูกแล้วมักจะกล่าวกันว่าพวกตนเองและลูกเท่ากันเสมอ มิเคยเอนเอียงไปหาใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยแม้แต่ครั้งเดียว ความรักของพ่อแม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ใสสะอาดและมอบให้ลูกทุกคนอย่างเท่าเทียมเสมอ

มันเป็นอย่างนั้น จริงๆน่ะหรือ... 

ถ้าหากกล่าวในมุมของพ่อแม่พวกเขาก็คงจะบอกว่ามันเป็นเช่นนั้น

แต่ถ้าเป็นในมุมของลูกเล่า...

มันจะเป็นแบบนั้น จริงๆหรือเปล่า?

มิต้องบอกก็รู้ว่าลูกลูกแทบทุกคนสามารถบอกได้ว่ามันไม่เป็นเช่นนั้นเลย

หากเป็นในช่วงเวลาของวัยเด็ก พวกเราอาจจะแค่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจถึงความไม่เท่าเทียมนี้ เด็กบางคนอาจจะแค่รู้สึกเสียใจ ที่ทำไมตนเองทำแบบเดียวกันแต่เขาดันผิดเสียอย่างนั้น แต่ลูกรักของพ่อกับแม่ก็ไม่เคยผิด...

ยังมีอีกมากมายหลากหลายความรู้สึก หลากหลาย เหตุการณ์ ที่ทำให้เด็กๆ นั้นรู้สึกว่าตนเองไม่ได้เป็นที่รักของพ่อกับแม่…

แต่สำหรับเด็กแล้วอยากมากมันก็แค่น้อยใจ เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แต่พอเด็กเหล่านั้นโตขึ้นมา หากเขามิได้ถูกสั่งสอนอย่างถูกต้องสมควรแล้ว ชุดความคิดของเขาก็จะหันเหไปในทางที่เลวร้ายเสมอ

และซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปแทนที่พ่อแม่จะให้คำปรึกษาหรืออธิบายให้กับลูกอย่างถูกต้อง แต่กลับเอาแต่เก็บเงียบแล้วไม่พูดไม่จาถึงความผิดพลาดของตัวเองในอดีต ทำได้เพียงแค่พยายามขอโทษในสิ่งที่ทำพลาดไป 

ความหมายก็คือพยายามแก้ไขความรู้สึกผิดของตนเอง แต่ฝ่ายเดียว มิได้เข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายนั้นจะรู้สึกเช่นไร

จนในบางครั้ง…

ด้วยความรู้สึกผิดของพวกเขา ก็ได้เป็นการตัดสินใจที่ทำร้ายทุกๆคนในทิศทางที่ไม่สามารถกลับมาแก้ไขมันได้

เช่นเดียวกันกับมารดาของสามพี่น้องตระกูลจาง ที่เลือกจะทำตามคำกล่าวของบุตรชายคนกลาง แล้วเก็บความลับอันมืดมิดนี้เอาไว้กับตัวเองเพียงผู้เดียว

โดยมิรู้เลยว่าอีกไม่กี่วันต่อมา ทางเลือกของนางนั้นจะนำหายนะ มาสู่ทุกคนอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง

.................................

Related chapters

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 40 ใจกลางความมืดมิด(3)

    บทที่ 40 ใจกลางความมืดมิด(3)“คุณหนูมาถึงแล้วหรือขอรับ” เสียงเรียกขานด้วยความยินดี ที่ดังมาจากปากของจางหลง โดยที่ด้านหลังของเขามีผู้คนเกือบทั้งหมู่บ้านมารวมตัวกันอยู่ “พวกเรากำลังรอกันอยู่พอดีเลยขอรับ”“...”เย่หัวถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเห็นผู้คนคอยต้อนรับนางด้วยความยินดีแบบนี้ นางรีบลงจากหลังของเจ้าสัง มายืนเก้ๆ กังๆต่อหน้าของผู้คนจำนวนมากถึงก่อนหน้านี้จะเคยแอบลงมาพร้อมกับเด็กๆอยู่ครั้ง 2 ครั้ง ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ได้มีผู้คนมากมายขนาดนี้ เพราะนางแอบมาดูเด็กเด็กที่ได้เล่นกันอย่างมีความสุขในหมู่บ้านก็เท่านั้น แต่เมื่อต้องมาอยู่ในสภาวะแบบนี้แล้ว นางเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน“เจ้าหรือคือคุณหนูที่ผู้คนต่างนับถือ เจ้าเด็กตัวกะเปี๊ยกแค่นี้เนี่ยนะ มีอะไรวิเศษนักหนากัน...”ฮุมมมมจางหู่ที่แต่เด

    Last Updated : 2025-02-23
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 41 ใจกลางความมืดมิด(จบ)

    บทที่ 41 ใจกลางความมืดมิด(จบ)เย่หัวเองก็สงสัยเหมือนกัน เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่เด็กเหมือนกับร่างกายนี้แล้ว ต่อให้หากเทียบเวลาแล้วจริงๆนางจะเป็นเพียงแค่เด็กมากๆ สำหรับพวกเขาทุกคนก็เถอะ แต่ถึงอย่างนั้นประสบการณ์ชีวิตของนางก็มีมากไม่น้อยเช่นเดียวกัน“ในเมื่อท่านหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่ามีมิได้มีเจตนาร้ายต่อข้า เช่นนั้นก็สามารถบอกได้เลยเจ้าค่ะ ข้ามิได้โกรธเคืองผู้ใดโดยไร้เหตุผลอย่างแน่นอน ทุกคนก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว”“ถ้าอย่างนั้นข้าขออนุญาตเล่านะขอรับ...”หลังจากนั้นจางหลงจึงได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมด ที่เขาได้ทดลองตลอดช่วงเวลาสิบกว่าวันที่ผ่านมาอย่างแรกเลยก็คือเขาลองให้คนเอาสิ่งของที่เย่หัวมอบให้ ทั้งหัวมัน เนื้อสัตว์ ของกินเล่น ไม่ว่าจะเป็นขนม หรือแม้แต่พวกมันตากแห้งมันทอดทั้งหลายเท่าที่พอจะรวบรวมได้ แล้วให้คนเอาออกไปนอกหมู่บ้านโดยพลการ โดยไม่มีการบอกต่อนางก่อ

    Last Updated : 2025-02-23
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 0 ของฝากจากเพื่อนเก่า

    ณ ห้วงแห่งความว่างเปล่า ดวงจิตดวงหนึ่งกำลังล่องลอยอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย ราวกับว่ามันได้ถูกพรากออกมาจากเส้นทางที่ควรจะมุ่งไป แล้วกำลังล่องลอยอยู่อย่างนั้นมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว...“อีปลวก อีปลวก มึงได้ยินกูไหมเนี่ย” น้ำเสียงที่คุ้นหูคับคล้ายคับคลา ที่ส่งมาจากห้วงอากาศโดยรอบ ทำให้ดวงจิตดวงนั้นเริ่มก่อร่างกลายมาเป็นดวงจิตรูปร่างคล้ายมนุษย์เพศหญิง “เสียงใครเนี่ย...”“ก็กูไง!” เสียงนั้นตอบกลับมาดังลั่น จนสามารถบอกได้เพียงแค่ได้ยินว่าอีกฝ่ายนั้นดีใจมากแค่ไหน “นี่มึงจำเสียงกูไม่ได้จริงๆ หรอ”“ห๊ะ...”“ถ้าหน้ากูมึงจะไม่คุ้นเคยก็ไม่แปลกหรอก แต่เสียงกูมึงต้องคุ้นสิ ก็กูเป็นเพื่อนคนเดียวของมึงที่ด่ามึงยิ่งกว่าพ่อยิ่งกว่าแม่มึงอีก มึงจำกูไม่ได้จริงๆ อะ”“...”หลังจากที่นึกไปนึกมาอยู่ครู่หนึ่ง เสียงที่แสนคุ้นเคยกับสำเนียงเสียงพูดเล่นหัวไม่สนใจเพศและอายุที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ทำให้ดวงจิตดวงนั้นค่อยๆ กระจ่างแจ้งว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร...แต่นั่นแหละที่มันไม่ควรที่จะเป็นไปได้แม้แต่น้อย เพราะเจ้าของเสียงมันตายไปตั้งแต่ปีที่แล้ว!‘เป็นไปไม่ได้!’“เป็นไปได้สิทำไมจะเป็นไปได้ ก็กูพูดอยู่เนี่ย”“...” “ถ้าอ

    Last Updated : 2025-02-19
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   รายละเอียดหลักๆ ที่จะใช้ภายในเรื่องเพื่อความเข้าใจตรงกัน

    ก่อนที่เราจะไปเข้าสู่เนื้อหาของเรื่องกัน เราจะมาพูดคุยกันก่อนนะ และเฉพาะในตอนนี้ถ้าหากใครมีคำถามอะไรสามารถถามมาได้เลย ผมจะกลับมาตอบให้จ้าเรื่องแรกที่อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกันก็คือ วัน-เวลา เนื่องจากผมจะสร้างโลกใบใหม่ที่แตกต่างจากโลกนี้โดยสิ้นเชิงเลย สิ่งแรกที่อยากจะทำความเข้าใจก็คือแต่ละวันนั้นจะยาวนานขึ้นสิบเท่า กล่าวคือในแต่ละชั่วยามจะยาวนานกว่า20ชั่วโมง และที่สำคัญก็คือแต่ละปีจะยาวนาน1200วัน(เดือนละ100วัน12เดือน) แต่ก็ยังยังคงแบ่งเป็น4ฤดูตามประเทศจีน และสกุลเงินเองก็เช่นเดียวกัน ส่วนเหตุผลทั้งหมดจะค่อยๆ อธิบายไปในเรื่องจ้า แต่เพื่อไม่ใช้นักอ่านงุนงงสงสัยเกี่ยวกับการเดินเรื่องที่อาจจะแปลกๆ ไปจากที่เคยผ่านตามา แต่รับรองว่าจะไม่งงแน่นอนจ้า ส่วนรายละเอียดของ เวลา ค่าเงิน และระยะทางก็ตามนี้เลยเวลาในสมัยโบราณ คนจีนจะแบ่งเวลา 1 วันเป็น 12 ชั่วยาม ดังนั้น เมื่อเทียบกับเวลาสากล 1 ชั่วยามจึงเท่ากับ 2 ชั่วโมง โดยจะเริ่มนับชั่วยามแรกตั้งแต่เวลา 00.01-02.00 น. และนับต่อไปเรื่อย ๆ จนครบ 12 ชั่วยามชั่วยาม (时辰:shíchén)ยามจื่อ (子:zǐ) คือ 23.00 – 24.59 น.ยามโฉ่ว (丑:chǒu) คือ 01.00 – 02.59 น.ย

    Last Updated : 2025-02-19
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 1 เผชิญหน้ากับความตาย

    “...”ร่างเล็กกระพริบตาถี่ๆ ทันทีที่รู้สึกตัวขึ้นมาก็รู้ตัวว่าตนเองกำลังนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง จึงได้พยายามที่จะลืมตาขึ้นมา แล้วลุกขึ้นนั่งเพื่อสำรวจรอบๆ“ไม่ยักกะเจ็บแฮะ ปกติถ้าตามนิยายที่ไอ้ชามันเอาให้อ่าน ถ้าไม่ปวดหัวเหมือนหัวจะแตก ก็ต้องบาดเจ็บเป็นไข้ใกล้ตายอะไรสักอย่าง แต่นี่ไม่เห็นรู้สึกแปลกๆอะไรเลย...”พูดได้เท่านั้นแหละนางก็ต้องหุบปากเงียบก่อนที่จะพยายามหาที่หลบให้มิดชิด เพราะตอนนี้ได้ยินเสียงเหมือนกับผู้คนจำนวนมากกำลังวิ่งมาทางนี้ แต่ก็เหมือนว่ามันจะไร้ผลเพราะไม่ว่านางจะพยายามสักแค่ไหนก็ไม่สามารถหลุดออกจากกำแพงอากาศโปร่งใสที่รายล้อมนางอยู่นี่ได้เสียที ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง“ไอ้เพื่อนเวร ส่งมาทั้งทีทำไมไม่ส่งไปที่ที่ปลอดภัยหน่อยวะ...ห๊ะ” ในตอแรกนางก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าเสียงของตัวเองเล็กลงอย่างน่าใจหาย แต่มันกลับหวานใสปานแก้วเนื้อดีไพเราะน่าฟังสมวัย แต่ก่อนที่นางจะทันได้คิดอะไร ก็ต้องหยุดชะงักเพราะในตอนนี้กลุ่มคนแปลกหน้าได้มาหยุดรายลอมนางเอาไว้เสียแล้ว“...” แต่คงเป็นเพราะกำแพงอากาศโปร่งใสนี่ทำให้คนพวกนั้นมองไม่เห็นนาง แล้วยังอยู่เยื้องออกมานิดหน่อย ทำให้

    Last Updated : 2025-02-19
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 2 ความทรงจำที่ขาดหาย

    บทที่ 2 ความทรงจำที่ขาดหายหลังจากที่กลุ่มคนจากไปจนหมดไม่เหลือใครเนิ่นนานหลายสิบหลายร้อยลมหายใจ กว่าที่ทิพย์จะหายจากอาการตกใจจนสามารถกลับมามีสติอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะภาพติดตาที่ยังคงชัดเจนหรือว่าเพราะอะไรกันแน่ นางก็สำรอกน้ำย่อยออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด กว่าครู่ใหญ่ที่นางจะสามารถกลับมาเป็นปกติได้“หนี!!”เป็นคำแรกที่หลุดออกมาจากปากของนาง หลังจากที่เหมือนว่านางลืมการพูดจาไปแล้วพักใหญ่ และสิ่งที่นางทำเป็นอย่างแรกก็คือการวิ่งไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับทิศที่คนพวกนั้นเดินจากไปอย่างสุดชีวิต“ทำไมถึงได้แรงเยอะจัง...” เสียงเล็กๆ ที่หลุดออกมาจากปากของเด็กหญิงบ่งบอกได้ถึงความสงสัยอย่างไม่สามารถปกปิดได้ต้องย้อนกลับไปก่อนว่าแม้แต่ก่อนหน้าที่นางจะหลุดมายังโลกใบนี้ นางก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ ที่ไม่ได้แข็งแรงอะไรมากมาย ซ้ำยังมีโรคข้อเข่าที่เป็นมาตั้งแต่สาวๆ แล้ว ทำให้นางเดินเหินไม่ค่อยจะสดวกนักหรือต่อให้นี่เป็นร่างใหม่ที่เด็กลงมากว่าสมัยก่อนมาก ฟังแค่เสียงก็รู้แล้วว่าเด็กแค่ไหน ที่สำคัญต่อให้นางไม่มีความทรงจำเก่าๆ อยู่เลย แต่ดูจากปฏิกิริยาของชายชราและกลุ่มคนแล้ว ที่คนพวกนั้นบอกว่านางอายุแ

    Last Updated : 2025-02-19
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 3 เริ่มต้นชีวิตใหม่

    หลายวันผ่านพ้นไป...“เฮ้อ...” ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่ร่างเล็กของเย่หัวถอนหายใจออกมาแบบนี้ เนื่องจากในตอนที่ก่อนหน้านี้ที่นางได้หมดสติไปนั้น นางก็ได้รับจดหมายจากเพื่อนเก่าที่ฝากเอาไว้ในห้วงแห่งความฝัน ที่จ่าหน้าซองเอาไว้ว่าถ้าหากนางสามารถรอดพ้นมาได้ก็แสดงว่านางนั้นจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปจริงๆ ได้ ซึ่งในจดหมายฉบับนี้จะมีสิ่งที่นางจะต้องรู้เอาไว้ซึ่งสิ่งที่มันได้เขียนเอาไว้ก็เป็นอะไรที่คนธรรมดาๆ อย่างนางเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ที่พอจะสามารถจับใจความได้คร่าวๆ ก็คือ...อย่างแรกก็คือโลกนี้เป็นโลกอีกใบหนึ่งที่ไม่ใช่โลกเดิมของนาง เนื่องจากช่วงเวลามันผ่านไปนานหลายภัทรกัปแล้ว และในโลกนี้นั้นเป็นช่วงเวลาขาลงของโลกที่มนุษย์จะมีอายุไขยาวนานราวสองร้อยสิบปี โดยที่แต่ละวันของโลกนี้จะยาวนานกว่าโลกเดิมของเราถึงสิบเท่า ส่วนแต่ละปีนั้นยาวนานกว่าหนึ่งพันสองร้อยวันในตอนที่กวาดสายตาอ่านเจอคำพวกนี้คราวแรกนางก็ออกจะมึนๆ งงอยู่บ้าง แต่พอได้รู้รายละเอียดเรื่องของเวลาในโลกใบนี้นางก็ถึงกับอ้าปากค้างถ้าอย่างนั้นที่นางอายุแปดขวบมันก็เท่ากับเท่าไหร่?...เป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในใจ ซึ่งพอนางลองคำนวณ

    Last Updated : 2025-02-19
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 4 เด็กหญิงประหลาดกับหมายักษ์

    ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่อยู่ห่างไกลกับเมืองใหญ่พอสมควร เป็นเพียงแค่หมู่บ้านชายป่าที่มีประชากรรวมกันเพียงแค่ไม่ถึงร้อยครัวเรือน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนนั้นจะอาศัยขึ้นไปหาของป่าที่ทิวเขาไกลออกไปหลายสิบลี้ เพราะว่าดินแดนแถบนี้ไปนั้นค่อนข้างแห้งแล้งและมีดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์เท่าไรนัก ทำให้ไม่ค่อยเหมาะแก่การเพาะปลูกหัวเผือกหัวมันเท่าไรนัก ความเป็นอยู่ของผู้คนจึงลำบากมากพอตัวเลยทีเดียวถึงทิวเขาไกลออกไปหรือถ้าออกจากที่ดินผืนนี้ไปจะสามารถที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ แต่ด้วยสำหรับพวกเขาทั้งหมดที่ดินผืนนี้เป็นที่ที่พวกเขาทุกคนอาศัยอยู่กันมาหลายชั่วอายุคน แม้ว่าจะไม่มีอะไรโดดเด่นมากมาย แต่พวกเขาก็สามารถมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยมาอย่างยาวนาน หากไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาก็คงไม่ต้องลำบากเช่นนี้ยังไม่รวมถึงเหล่าชายฉกรรจ์อีกหลายคนที่ต้องไปทิ้งชีวิตเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวแล้วด้วย สิริรวมแล้วสถานการณ์ของหมู่บ้านที่สุขสงบเช่นนี้ก็เริ่มจะไม่คอยดีมากนักจนกระทั่ง...เมื่อราวๆ หนึ่งเดือนก่อนหรือนานกว่านั้น เริ่มมีผู้คนที่เดินขึ้นไปตามลำธารที่แห้งขอด ก็เริ

    Last Updated : 2025-02-19

Latest chapter

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 41 ใจกลางความมืดมิด(จบ)

    บทที่ 41 ใจกลางความมืดมิด(จบ)เย่หัวเองก็สงสัยเหมือนกัน เพราะถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่เด็กเหมือนกับร่างกายนี้แล้ว ต่อให้หากเทียบเวลาแล้วจริงๆนางจะเป็นเพียงแค่เด็กมากๆ สำหรับพวกเขาทุกคนก็เถอะ แต่ถึงอย่างนั้นประสบการณ์ชีวิตของนางก็มีมากไม่น้อยเช่นเดียวกัน“ในเมื่อท่านหัวหน้าหมู่บ้านบอกว่ามีมิได้มีเจตนาร้ายต่อข้า เช่นนั้นก็สามารถบอกได้เลยเจ้าค่ะ ข้ามิได้โกรธเคืองผู้ใดโดยไร้เหตุผลอย่างแน่นอน ทุกคนก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว”“ถ้าอย่างนั้นข้าขออนุญาตเล่านะขอรับ...”หลังจากนั้นจางหลงจึงได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมด ที่เขาได้ทดลองตลอดช่วงเวลาสิบกว่าวันที่ผ่านมาอย่างแรกเลยก็คือเขาลองให้คนเอาสิ่งของที่เย่หัวมอบให้ ทั้งหัวมัน เนื้อสัตว์ ของกินเล่น ไม่ว่าจะเป็นขนม หรือแม้แต่พวกมันตากแห้งมันทอดทั้งหลายเท่าที่พอจะรวบรวมได้ แล้วให้คนเอาออกไปนอกหมู่บ้านโดยพลการ โดยไม่มีการบอกต่อนางก่อ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 40 ใจกลางความมืดมิด(3)

    บทที่ 40 ใจกลางความมืดมิด(3)“คุณหนูมาถึงแล้วหรือขอรับ” เสียงเรียกขานด้วยความยินดี ที่ดังมาจากปากของจางหลง โดยที่ด้านหลังของเขามีผู้คนเกือบทั้งหมู่บ้านมารวมตัวกันอยู่ “พวกเรากำลังรอกันอยู่พอดีเลยขอรับ”“...”เย่หัวถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเห็นผู้คนคอยต้อนรับนางด้วยความยินดีแบบนี้ นางรีบลงจากหลังของเจ้าสัง มายืนเก้ๆ กังๆต่อหน้าของผู้คนจำนวนมากถึงก่อนหน้านี้จะเคยแอบลงมาพร้อมกับเด็กๆอยู่ครั้ง 2 ครั้ง ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ได้มีผู้คนมากมายขนาดนี้ เพราะนางแอบมาดูเด็กเด็กที่ได้เล่นกันอย่างมีความสุขในหมู่บ้านก็เท่านั้น แต่เมื่อต้องมาอยู่ในสภาวะแบบนี้แล้ว นางเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน“เจ้าหรือคือคุณหนูที่ผู้คนต่างนับถือ เจ้าเด็กตัวกะเปี๊ยกแค่นี้เนี่ยนะ มีอะไรวิเศษนักหนากัน...”ฮุมมมมจางหู่ที่แต่เด

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 39 ใจกลางความมืดมิด(2)

    บทที่ 39 ใจกลางความมืดมิด(2)“...”เสียงนั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับมา จางเว่ยที่อยู่อยู่ก็รู้สึกว่างเปล่า ขึ้นมาในช่วงขณะหนึ่ง ก็ได้ลุกออกจากบ้านไปยังบ้านของมารดา ที่ตอนนี้ทุกคนกำลังรับประทานมื้อเย็นกันอย่างสนุกสนานมองเหล่าบรรดาญาติพี่น้องพ่อแม่ลูกหลาน ทุกคนที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง หลังจากที่นานแล้วก็เข้าไม่ได้ฉลองกันพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้ ความรู้สึกหลากหลายมากมายตีกันอยู่ในอก จนจางเหว่ยไม่รู้แล้วว่าในตอนนี้ขอกำลังคิดอะไรอยู่ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เขาที่มองอยู่อย่างนั้นก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผ่านเวลาไปค่อนข้างนานมากแล้ว ทุกคนที่ดื่มกินกันจนอิ่มหนำสำราญ ก็ได้เริ่มแยกย้ายออกจากวงสนทนา...“...”จางเหว่ยเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้สองขาของเขา กำลังพาเขาไปยังสถานที่ใด...

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 38 ใจกลางความมืดมิด(1)

    บทที่ 38 ใจกลางความมืดมิด(1)“ต้าพัง วันนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปเล่นกับคุณหนูสนุกไหม”ในทันทีที่จางต้าพังกลับมาถึงบ้าน เสียงที่ดูใจดีเป็นพิเศษของจางเหว่ยก็ลอยเข้ามา เมื่อเด็กชายหันไปเห็นบิดาที่กำลังนั่งเอนหลับตานิ่งอยู่บนเก้าอี้ ก็รีบตอบรับด้วยความตื่นเต้น เพราะนานมากแล้วที่เขาไม่ได้ยินน้ำเสียงใจดีของบิดา วันนี้จึงเป็นวันที่เด็กชายมีความสุขเป็นพิเศษ“สนุกมากเลยขอรับ วันนี้ในช่วงเช้าคุณหนูได้เริ่มสอนเรื่องตัวอักษร ให้พวกเราทุกคนในเรื่องเรียนกันบ้างแล้ว เห็นว่าพี่จางหลัว พี่จางซิ่ว นั้นมีพรสวรรค์ในการเรียนรู้สูงมาก คุณหนูก็เลยอยากจะสอนให้ทั้งสองเป็นผู้นำในการเล่าเรียนเกี่ยวกับตัวอักษรขอรับ”“เช่นนั้นหรือ แล้วคนอื่นๆ เล่าเป็นอย่างไรกันบ้าง”“ทุกคนก็ไม่ต่างจากค่าเลยขอรับ คุณหนูทั้งใจดี และใจเย็นกับพวกเรามากๆ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 37 ม้วนตำรา

    บทที่ 37 ม้วนตำรา“ในที่สุดก็เสร็จสิ้นสักที นึกว่าข้าจะตายก่อนเสียแล้ว” หลังจากที่เขียนตัวอักษรสุดท้ายลงบนม้วนตำราเรียบร้อยแล้ว นางก็ถึงกับถอนหายใจยาวแล้วนอนแผ่กายลงบนฟูกหนังสัตว์ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา นางลงมือลงแรงไปกับสิ่งที่เรียกว่าม้วนตำรานี้มากที่สุด เพราะหลังจากที่นางคิดใคร่ครวญมาพักใหญ่ และทบทวนความทรงจำที่มีอยู่ในตอนนี้ ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมตัวนางถึงสามารถจำมันได้อย่างชัดเจน ทั้งยังเข้าใจ อ่านออก เขียนได้ ทั้งๆที่ก่อนนางจะตายนั้นนางไม่เห็นจะจำได้เลยว่านางเคยเรียนรู้ภาษาจีนไปตั้งแต่เมื่อไหร่และตอนไหนแต่ในที่สุดนางก็สามารถสร้างม้วนตำรา ที่จะเอาไว้ใช้สอนเด็กๆได้สำเร็จย้อนความกลับไปก่อนหน้า ถึงแม้นางจะไม่รู้ว่าทำไมนางถึงสามารถเรียนรู้และเข้าใจภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว แต่นางก็พอจะจดจำได้ว่านางได้เรียนรู้วิธีการสร้างม้วนตำรานี้มาจากอินเทอร์เน็ต

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 36 พี่น้อง

    บทที่ 36 พี่น้อง“เสี่ยวเฉินคุณหนูยังไม่มาหรือ”พวกเขาเดินทางเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อย จนสามารถเดินทางมาถึงหมู่บ้านก่อนเวลาพรบค่ำ จางหลงที่สอดส่ายสายตาไปมาก็ไม่พบเห็นเด็กหญิงเลย จึงได้เอ่ยถามเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่“คุณหนูยังไม่มาขอรับ เห็นพี่ต้าพังบอกว่าคุณกำลังยุ่งอยู่กับการเขียนตำรา น่าจะยังไม่ลงมาวันนี้ขอรับ” เด็กชายตัวน้อยกล่าว “ท่านลุงหลงมีอะไรหรือเปล่าครับ”“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าไปเล่นก่อนเถอะ แต่ว่าเจ้าอย่าลืมกลับไปที่บ้านก่อนค่ำล่ะ เพราะว่าอีกเดี๋ยวมันก็จะค่ำแล้ว”“ทราบแล้วขอรับ” เด็กชายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะวิ่งแจ้นหายลับไปเล่นกับเพื่อนๆ“จางหู่พี่ ขอให้เจ้าช่วยเก็บของทั้งหมดเอาไว้เปิดพรุ่งนี้ได้หรือไม่ ในเมื่อเจ้าเป็นคนที่หาสิ่งของทั้งหมดนี้มา แต่

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 35 สัตว์อสูร

    บทที่ 35 สัตว์อสูร“...”จางหู่รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก จนแทบอยากจะเอาหน้ามุดดินหนี รู้สึกเขินอายจนแทบจะไม่รู้ว่าควรจะวางตัวเช่นไรดีในเวลาแบบนี้ จึงพยายามอธิบายแก้เก้อไปอย่างนั้นเอง “ก็ข้าไม่รู้นี่ ใครจะไปคิดว่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะไม่อยู่ในหมู่บ้านของเรา”ฮุม...เจ้าสังที่เพิ่งมาถึงครางฮูมในลำคอเบาๆ พลางบ่ายหน้าไปทางหมู่บ้าน ส่งสัญญาณให้ทุกคนเป็นเชิงบอกว่าต้องรีบกลับแล้ว“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะเอาไว้คุยรายละเอียดกันทีหลัง ในตอนนี้เราทุกคนรีบกลับหมู่บ้านกันก่อน ก่อนที่จะมืดค่ำเถิดพวกเรามีเวลาอีกราวครึ่งชั่วยาม...” จางหลงกล่าวพลางหันไปหาเจ้าสังที่มองมาที่เขาอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน “ข้าขอให้ท่านช่วยปิดท้ายขบวนหน่อยนะครับ”“...”เจ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 34 หา!!

    บทที่ 34 หา!!“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอาจารย์ของเจ้า จะใจดีถึงขนาดซื้อของมากมายขนาดนี้ มอบให้แก่เจ้าเป็นของขวัญกลับบ้าน มันจะต้องใช้อีแปะมากมายเท่าไหร่กัน...”มองเห็นสิ่งของที่อัดแน่นเต็มจนล้นทั้งห้าสิบเล่มเกวียน จางหลงก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมากับน้องชาย หากเป็นเมื่อก่อนหน้านี้ ในตอนที่เขายังไม่เจอกับนางเซียนน้อย เขาก็คงจะดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปแล้ว...“เรื่องนั้นท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ถึงแม้อาจารย์ของข้าจะไม่ใช่คนที่ร่ำรวยที่สุดในสำนัก แต่ถึงอย่างนั้นการซื้อของเพียงแค่นี้ เขาสามารถจ่ายออกได้อย่างสบายๆ” จางหู่ตอบยิ้มยิ้ม “แล้วที่สำคัญก็คืออาจารย์ของข้ามิได้ใช้ตำลึงหรือเงินอีแปะ แบบที่พวกเราใช้แต่อย่างใด แต่ท่านตายออกด้วยหินวิญญาณก้อนเล็กที่สุดเพียงแค่หนึ่งก่อน ก็สามารถซื้อสิ่งของมากมายที่ท่านเห็นได้เลย”“หินวิญญาณอย่างนั้นหรือ... เจ้าไปอยู่ในสำน

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 33 หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ!

    บทที่ 33 หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ!“ข้าดีใจยิ่งขึ้นที่เจ้ากลับมา นานมากแล้วน้องชายที่เราไม่ได้เจอกัน” เพียงแค่ไม่นานนักจางหลงกับคนอื่นๆ ก็เดินทางมาถึง ก่อนที่สองพี่น้องจะสวมกอดกันเบาๆ ตามประสาพี่น้องที่สนิทกันมาก “ว่าแต่เจ้าดูตัวโตขึ้นมากเลยนะ เมื่อก่อนก็ว่าโตมากแล้ว ตอนนี้เจ้าไม่ต่างจากหมีป่าเลยทีเดียว”ฮ่า ฮ่า ฮ่า“ท่านไม่ต้องมาล้อข้าหรอกน่า ข้าเพียงแค่โชคดีนิดหน่อย ทำให้ได้ฝึกฝนวรยุทธ์มาบ้าง ร่างกายของข้าที่เคยโตมากอยู่แล้ว มันก็เลยเติบโตขึ้นตามไปด้วยมันก็เท่านั้นแหละ”“จริงหรือ!” อีกคนหนึ่งที่ตามมาด้วยก็ถึงกับตาเบิกกว้าง สำหรับคนธรรมดาๆ อย่างพวกเขาแล้ว การที่จะโชคดีได้รับเลือกเข้าสำนักยุทธนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ“สมแล้วกับที่ได้รับฉายาพญาเสือ”“...&rdqu

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status