Home / รักโบราณ / เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ / บทที่ 29 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(จบ)

Share

บทที่ 29 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(จบ)

last update Last Updated: 2025-02-23 08:45:04

บทที่ 29 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(จบ)

“ท่านหัวหน้าหมู่บ้านมีอะไรหรือเจ้าคะ ทำไมถึงรีบวิ่งมาจนป่านนี้” เย่หัวมองตามสายตาของเจ้าสัง ซึ่งกำลังมองไปยังผู้มาใหม่ที่กำลังวิ่งกระหืดก็มาหานาง สวัสดีก็เห็นเป็นจางหลงที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูงเกินความเร็วสูงสุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทำได้ นางมั่นใจว่ามันเร็วกว่าการวิ่งของคนปกติทั่วไปแน่ๆ ถึงไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็เถอะ “ถ้าหากว่าท่านหัวหน้ามาหาภรรยากับบุตรสาวของท่าน ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังจัดการมื้อเช้าของพวกเราอยู่ในครัวเจ้าค่ะ ให้ข้าไปตามทั้งสองคนไหมเจ้าคะ”

“มิใช่เช่นนั้นขอรับ ข้ามีเรื่องที่จะมาแจ้งแก่คุณหนูโดยตรง”

“ข้า? มีเรื่องอะไรกับข้าหรือเจ้าคะ”

“เรื่องทั้งหมดก็....”

หลังจากนั้นจางหลงก็ได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ตลอดจนถึงเรื่องที่ว่าหัวมันทั้งหมดได้เน่าเปื่อยและกลายเป็นเชื้อเน่าที่ลุกลามไปโดยรอบ

“...”

ในตอนแรกที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ภายในหัวของเด็กหญิงก็ถึงกับว่างเปล่าไปชั่วขณะ อาจจะเป็นเพราะว่าในโลกใบนี้ตั้งแต่ที่นางได้มาอยู่อาศัย นอกจากในวันแรกเท่านั้นที่สร้างความทรงจำที่ไม่ค่อยดีให้กับนาง นอกจากนั้นก็แทบจะไม่มีเรื่องราวอะไรชวนปวดหัวเลยแม้แต่น้อย นอกจากเหตุการณ์ที่เจ้าสังฆ่าคนไปเมื่อก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย

เมื่อรวมกับความใจดีและเข้ากันง่ายของผู้คนในหมู่บ้าน ส่วนเด็กๆเองก็นิสัยดีเสียยิ่งกว่าเด็กๆในโลกเดิมของนางอย่างผิดหูผิดตา ทุกคนล้วนแล้วแต่เชื่อฟัง และไม่กระทำสิ่งที่ผิดไปจากคำสั่งของผู้ใหญ่เลยแม้แต่คนเดียว มันก็เลยทำให้นางจดจ่ออยู่กับการช่วยเหลือเด็กๆเท่าที่นางจะทำได้

เมื่อรับรู้ได้ว่าเด็กๆ อดอยากนางก็พยายามมอบสิ่งที่นางสามารถมอบให้ได้ โดยไม่ลืมที่จะเผื่อแผ่ไปยังครอบครัวของพวกเขา หลังจากนั้นก็มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากขึ้น ใช้อาหารเป็นเครื่องจ่ายแทนเงินทอง แลกกับแรงงานของผู้คน

ผ่านไปสักพัก เมื่อรู้ถึงจำนวนของผู้คนที่มากกว่าพันคน และหน้าหนาวที่ใกล้จะมาถึงในเวลาเพียงแค่หนึ่งร้อยวัน ซึ่งก็คือระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือนหรืออาจจะน้อยกว่านั้นก็ได้ สำหรับคนในหมู่บ้านนี้พวกเขาส่วนใหญ่ ทำได้เพียงแค่เฝ้ารอคอยความตายเท่านั้น ไม่ว่าจะด้วยพื้นดินที่แห้งแล้ง ไม่ว่าจะด้วยฐานะที่ยากจนลงทุกวันทุกวัน เนื่องจากผ่านความยากลำบากมาตลอดระยะเวลาสิบปี

นางจึงลองพยายามทบทวนความคิด จนกระทั่งค้นพบว่าครั้งหนึ่งนางเคยศึกษาเรื่องการปลูกผักสวนครัวหลังบ้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีสิ่งที่นางมีอยู่แล้ว นั่นก็คือมันหวานและมันฝรั่ง หลังจากที่การทดลองได้ผลสำเร็จแล้วนางก็เพียงแค่ดีใจ แล้วหวังว่าหลังจากนี้เด็กๆกับครอบครัวของพวกเขาจะสามารถกินอิ่มนอนหลับได้โดยไม่ต้องหวั่นกลัวอะไรอีก

 จนถึงกระทั่งนางคิดที่จะสอนหนังสือ วิชาเรียนต่างๆ ที่นาง พอจะจดจำไปถ่ายทอดให้เด็กๆทุกคน เพื่อให้พวกเขาอ่านออกเขียนได้และรอดพ้นจากการถูกหลอกในอนาคตที่จะมาถึง...

จนนางเองก็หลงลืมไปแล้วว่าคนอย่างไรก็เป็นคนอยู่วันยังค่ำ...

สำหรับนางที่ผ่านโลก ได้มองดูโซเชียล ได้มองเห็นผู้คนมากมาย ทรัมป์ ตัวนางเองก็มีอายุมากกว่าห้าสิบปีแล้วก่อนที่จะได้มาอยู่ในโลกใบนี้...

มีหรือนางจะไม่เข้าใจว่ามนุษย์นั้นเป็นอย่างไร

ที่ผ่านมานางก็เพียงแค่พยายามหลอกตัวเอง เท่านั้นว่าโลกนี้มันสงบสุข ทั้งๆที่ในวันแรกที่นางมาเหยียบย่างบนพื้นโลกนี้ นางก็แทบจะตายกลายเป็นผีอีกครั้งแล้วด้วยซ้ำ

“เอาเป็นว่าข้าขอเจอหน้าทุกคนที่กระทำความผิดเมื่อวานนี้ก่อนเจ้าค่ะ แล้วหลังจากนั้นข้าจะตัดสินใจอีกทีว่าข้าจะทำอย่างไรกับพวกเขา เพราะข้าเองก็ยังไม่มั่นใจในตัวเองเช่นกันว่าข้าในตอนนี้นั้นคิดเช่นไร ข้าอาจจะไม่ทำอะไรพวกเขาเลย หรือข้าอาจจะแม้แต่เข่นฆ่าพวกเขาเลยก็ได้ ข้าไม่รู้เลยว่าหลังจากที่ได้ยินได้ฟังเรื่องราวจากปากของคนพวกนั้นแล้วข้าจะทำอย่างไรต่อไป...”

“ถือว่าข้าขอร้องแทนพวกมันเถิดนะครับ ถึงอย่างไรพวกมันก็อายุเพียงแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้น ยังถือว่าเด็กมากนัก ซ้ำยังมีครอบครัวของพวกมันที่ยังต้องอาศัยเรี่ยวแรงของพวกมันในการทำมาหากิน ถ้าหากเป็นไปได้ก็ไว้ชีวิตพวกมันเถิดหนาขอรับ ถือว่าข้าขอร้องอีกเสียงนึงนะขอรับ” 

จางหลงคุกเข่าลงเบื้องหน้าของเด็กหญิง เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มองเห็นใบหน้าที่เฉยชาของนาง...

โดยปกติแล้วทุกคนในหมู่บ้านจะรับรู้กันดี ว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้น หรือว่ามีเรื่องราวใดๆก็ตาม คุณหนูของพวกเขาก็จะคงรอยยิ้มน้อยๆ หรือไม่ก็เป็นใบหน้าที่เรียบเฉย มิได้แสดงอารมณ์ ใดๆ ออกมา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นใบหน้าที่เย็นชาและไร้อารมณ์ขนาดนี้ ถึงจะเป็นเพียงแค่ใบหน้าของเด็กอายุแปดขวบปี แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ ไม่แม้แต่จะสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงคิดเช่นนั้น...

‘ที่ทุกคนในหมู่บ้านเรียกนางว่านางเซียนน้อยก็คงจะไม่ผิดแล้วแน่ๆ เพราะแม้แต่ข้าเองก็ยังไม่เคยเห็นใบหน้าของใครที่น่ากลัวขนาดนั้น นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของข้าเลยที่สามารถหวาดกลัวใครสักคนได้ขนาดนี้ โดยเฉพาะอีกฝ่ายที่เป็นเพียงแค่เด็กแปดขวบ!’

จางลงคิดพลางลอบภาวนาในใจ ว่ามีให้เด็กหญิงมีโทสะไปมา กกว่านี้ จะอย่างไรเขาก็เป็นนักสู้ระดับสองดาว หากเป็นในบ้านนอกชนบทเช่นนี้แล้ว เขาก็แทบไม่เคยต้องหวาดกลัวใครเลยด้วยซ้ำ…

‘ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีทีเถอะ’

หลังจากนั้นเพียงไม่นานผู้คนก็เริ่มทยอยมาถึง ตามที่ได้นัดแนะกันเอาไว้เมื่อวานนี้ แต่ก่อนที่ทุกคนจะได้เก็บเกี่ยวมันแปลงแรกที่เด็กๆได้ร่วมกันปลูก ก็มีเรื่องให้ต้องถกเถียงกันอยู่พักใหญ่ โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นการรุมประนามของชาวบ้านที่มีต่อคนทั้งยี่สิบคน ที่มาลักขโมยมันของเย่หัวไปเมื่อวาน

ซึ่งก็มีเสียงขอร้องอ้อนวอนให้เย่หัวยกโทษให้เช่นเดียวกัน...

จนในท้ายที่สุด... 

นางก็ใจอ่อนและปล่อยคนทั้งยี่สิบคนนั้นไปเฉยๆ โดยที่ให้พวกเขาสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก...

โดยที่นางจะไม่มีทางรับรู้ได้เลยว่า อีกไม่นานนับจากนี้ไปนางจะต้องเสียใจกับทางเลือกของนางอีกครั้ง

แต่อีกมุมหนึ่งก็มีความเปลี่ยนแปลงไปของผู้คนที่มีต่อนาง โดยที่ในเวลาต่อมาผู้คนจะเรียกขานนางว่านางเซียนน้อยกันปากต่อปาก และตั้งชื่อหุบเขาแห่งนี้ที่เคยเกือบจะเป็นหุบเขาที่ตายไปแล้ว และได้รับการชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง โดยฝีมือของเย่หัวว่า “หุบเขาธิดาสวรรค์” ซึ่งจะสืบทอดชื่อนี้ไปอีกนานนับพันนับหมื่นปี เพื่อระลึกถึงเด็กหญิงที่เคยช่วยพวกเขาทุกคนให้รอดชีวิตสืบต่อไปอีกนานแสนนาน 

 .................................

Related chapters

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 30 เมล็ดพันธุ์แห่งความหวังได้ถูกโปรยปราย

    บทที่ 30 เมล็ดพันธุ์แห่งความหวังได้ถูกโปรยปรายหลังจากที่จัดการเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว เย่หัว จึงรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว โดยการที่ให้เด็กๆ ทุกคนมารวมตัวกันที่แปลงมัน“เอาล่ะทุกคนมาดูนี้ก่อน ตอนนี้ทุกคนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรไหม”“มันของพวกเรา...ตายหมดแล้วหรือเจ้าคะ” หนึ่ง ในกลุ่ม ของเด็กๆ ได้เอ่ยถามขึ้น เพราะจริงๆแล้วตั้งแต่ตอนที่มาถึงเด็กๆก็ได้มาดูแปลงมันก่อนเป็นอันดับแรก สิ่งที่ทุกคนได้พบเห็นก็คือ ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งที่ตนตายไปเกือบหมดแล้ว มันหวานเองก็มีเถาที่แห้งเหี่ยวไม่เหมือนกับแต่ก่อน มีเพียงแค่ดอกบางดอกที่บานอยู่ ถึงดอกของมันจะงดงาม แต่ลำต้นของมันทั้งเหี่ยวเฉา ใบส่วนใหญ่ของมันก็ตายไปเกือบหมดแล้วมันก็ทำให้เด็กๆดังก็คาดเดาไปต่างๆนานา แต่มิมีใครกล้าที่จะเอ่ยถามเนื่องจากผู้ใหญ่ได้ห้ามเอาไว้ทางฝ่ายผู้ใหญ่เองก็ไม่แตกต่างกับเด็กๆเลย พวกเ

    Last Updated : 2025-02-23
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 31 ก่อนหนาวมาเยือน

    บทที่ 31 ก่อนหนาวมาเยือนหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ตั้งแต่ที่ผู้คนสามารถเห็นได้ด้วยตาของตนเอง ว่าผลผลิตของมันทั้งสองชนิดนั้นมากมายแค่ไหน ที่สำคัญที่สุดก็คือรสชาติของหัวมันที่ปลูกในหุบเขาแห่งนี้ ยังมีรสชาติดีกว่าเดิมขึ้นอีกหลายเท่าตัวเดิมทีแล้วสำหรับพวกเขาทุกคน ลำพังแค่มันที่แย่หัวเอาออกมาให้นั้น ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งหรือมันหวาน ก็ล้วนแล้วแต่มีรสชาติดีกว่าอาหารที่พวกเขาเคยลิ้มลองมานักต่อนักแล้ว ถึงมันจะไม่ผ่านการปรุงมาเลยก็ตามทีไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งต้มหรือมันหวานเผา ก็มีรสชาติกลมกล่อม สามารถทานได้เรื่อยๆไม่ต่างกัน...แต่ในตอนเที่ยงวันนั้น ในวันที่พวกเขาได้เก็บเกี่ยวมันทั้งสองชนิดเป็นครั้งแรก เด็กหญิงก็ได้ให้ พวกแม่ครัวใช้มันทั้งสองชนิดแทนวัตถุดิบที่นางยังไม่ได้เอาออกมาจากตู้เย็น ซึ่งปรากฏว่าเพียงแค่มันหวานเผาธรรมดาธรรมดา ก็ทั้งหอมอร่อยรสชาติเข้มข้นขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า ทั้งเหนียวนุ่มเคี้ยวเพลินไม่สามารถหยุดปากได้เลยทีเด

    Last Updated : 2025-02-23
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 32 จางหู่

    บทที่ 32 จางหู่“นี่มันเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!!”เสียงร้องอันดังลั่นในทันทีที่เดินทางเข้ามาถึงประตูหมู่บ้านของ “จางหู่” ผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์มีกล้ามเป็นมากๆ หมดเคราหงเผาตั้งชี้โด่ชี้เด่ ยิ่งตัดผมสั้นแล้วด้วยก็ยิ่งสามารถมองเห็นถึงความชี้ตรงของเส้นผมได้อย่างชัดเจน ดวงตาเองก็เป็นประกายคมกล้าราวพญาเสือ คิ้วตั้งเป็นสันดาบร่วมกับสันจมูกคมโด่งเป็นสง่า เมื่อรวมเข้ากับหนวดเคราและจอนผมที่เชื่อมต่อด้วยกันแล้ว หากจะอธิบายให้เข้าใจถึงรูปร่างหน้าตาของจางหู่ได้ง่ายที่สุดแล้ว ตัวเขานั้นแทบไม่ต่างไปจากเตียวหุยในหนังสือเรื่องสามก๊กเลยทีเดียวด้วยอุปนิสัยแต่เดิมที่โผงผางและผ่าเผย ไม่เคยเก็บเร้นสิ่งใดเอาไว้ในใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในทันทีที่เขาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน หลังจากที่เขาพยายามอยู่ข้างนอกมากว่าสามปีแล้ว มันก็ทำให้เขาอดที่จะตก

    Last Updated : 2025-02-23
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 33 หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ!

    บทที่ 33 หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ!“ข้าดีใจยิ่งขึ้นที่เจ้ากลับมา นานมากแล้วน้องชายที่เราไม่ได้เจอกัน” เพียงแค่ไม่นานนักจางหลงกับคนอื่นๆ ก็เดินทางมาถึง ก่อนที่สองพี่น้องจะสวมกอดกันเบาๆ ตามประสาพี่น้องที่สนิทกันมาก “ว่าแต่เจ้าดูตัวโตขึ้นมากเลยนะ เมื่อก่อนก็ว่าโตมากแล้ว ตอนนี้เจ้าไม่ต่างจากหมีป่าเลยทีเดียว”ฮ่า ฮ่า ฮ่า“ท่านไม่ต้องมาล้อข้าหรอกน่า ข้าเพียงแค่โชคดีนิดหน่อย ทำให้ได้ฝึกฝนวรยุทธ์มาบ้าง ร่างกายของข้าที่เคยโตมากอยู่แล้ว มันก็เลยเติบโตขึ้นตามไปด้วยมันก็เท่านั้นแหละ”“จริงหรือ!” อีกคนหนึ่งที่ตามมาด้วยก็ถึงกับตาเบิกกว้าง สำหรับคนธรรมดาๆ อย่างพวกเขาแล้ว การที่จะโชคดีได้รับเลือกเข้าสำนักยุทธนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ“สมแล้วกับที่ได้รับฉายาพญาเสือ”“...&rdqu

    Last Updated : 2025-02-23
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 34 หา!!

    บทที่ 34 หา!!“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอาจารย์ของเจ้า จะใจดีถึงขนาดซื้อของมากมายขนาดนี้ มอบให้แก่เจ้าเป็นของขวัญกลับบ้าน มันจะต้องใช้อีแปะมากมายเท่าไหร่กัน...”มองเห็นสิ่งของที่อัดแน่นเต็มจนล้นทั้งห้าสิบเล่มเกวียน จางหลงก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมากับน้องชาย หากเป็นเมื่อก่อนหน้านี้ ในตอนที่เขายังไม่เจอกับนางเซียนน้อย เขาก็คงจะดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปแล้ว...“เรื่องนั้นท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ถึงแม้อาจารย์ของข้าจะไม่ใช่คนที่ร่ำรวยที่สุดในสำนัก แต่ถึงอย่างนั้นการซื้อของเพียงแค่นี้ เขาสามารถจ่ายออกได้อย่างสบายๆ” จางหู่ตอบยิ้มยิ้ม “แล้วที่สำคัญก็คืออาจารย์ของข้ามิได้ใช้ตำลึงหรือเงินอีแปะ แบบที่พวกเราใช้แต่อย่างใด แต่ท่านตายออกด้วยหินวิญญาณก้อนเล็กที่สุดเพียงแค่หนึ่งก่อน ก็สามารถซื้อสิ่งของมากมายที่ท่านเห็นได้เลย”“หินวิญญาณอย่างนั้นหรือ... เจ้าไปอยู่ในสำน

    Last Updated : 2025-02-23
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 35 สัตว์อสูร

    บทที่ 35 สัตว์อสูร“...”จางหู่รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก จนแทบอยากจะเอาหน้ามุดดินหนี รู้สึกเขินอายจนแทบจะไม่รู้ว่าควรจะวางตัวเช่นไรดีในเวลาแบบนี้ จึงพยายามอธิบายแก้เก้อไปอย่างนั้นเอง “ก็ข้าไม่รู้นี่ ใครจะไปคิดว่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะไม่อยู่ในหมู่บ้านของเรา”ฮุม...เจ้าสังที่เพิ่งมาถึงครางฮูมในลำคอเบาๆ พลางบ่ายหน้าไปทางหมู่บ้าน ส่งสัญญาณให้ทุกคนเป็นเชิงบอกว่าต้องรีบกลับแล้ว“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะเอาไว้คุยรายละเอียดกันทีหลัง ในตอนนี้เราทุกคนรีบกลับหมู่บ้านกันก่อน ก่อนที่จะมืดค่ำเถิดพวกเรามีเวลาอีกราวครึ่งชั่วยาม...” จางหลงกล่าวพลางหันไปหาเจ้าสังที่มองมาที่เขาอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน “ข้าขอให้ท่านช่วยปิดท้ายขบวนหน่อยนะครับ”“...”เจ

    Last Updated : 2025-02-23
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 36 พี่น้อง

    บทที่ 36 พี่น้อง“เสี่ยวเฉินคุณหนูยังไม่มาหรือ”พวกเขาเดินทางเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อย จนสามารถเดินทางมาถึงหมู่บ้านก่อนเวลาพรบค่ำ จางหลงที่สอดส่ายสายตาไปมาก็ไม่พบเห็นเด็กหญิงเลย จึงได้เอ่ยถามเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่“คุณหนูยังไม่มาขอรับ เห็นพี่ต้าพังบอกว่าคุณกำลังยุ่งอยู่กับการเขียนตำรา น่าจะยังไม่ลงมาวันนี้ขอรับ” เด็กชายตัวน้อยกล่าว “ท่านลุงหลงมีอะไรหรือเปล่าครับ”“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าไปเล่นก่อนเถอะ แต่ว่าเจ้าอย่าลืมกลับไปที่บ้านก่อนค่ำล่ะ เพราะว่าอีกเดี๋ยวมันก็จะค่ำแล้ว”“ทราบแล้วขอรับ” เด็กชายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะวิ่งแจ้นหายลับไปเล่นกับเพื่อนๆ“จางหู่พี่ ขอให้เจ้าช่วยเก็บของทั้งหมดเอาไว้เปิดพรุ่งนี้ได้หรือไม่ ในเมื่อเจ้าเป็นคนที่หาสิ่งของทั้งหมดนี้มา แต่

    Last Updated : 2025-02-23
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 37 ม้วนตำรา

    บทที่ 37 ม้วนตำรา“ในที่สุดก็เสร็จสิ้นสักที นึกว่าข้าจะตายก่อนเสียแล้ว” หลังจากที่เขียนตัวอักษรสุดท้ายลงบนม้วนตำราเรียบร้อยแล้ว นางก็ถึงกับถอนหายใจยาวแล้วนอนแผ่กายลงบนฟูกหนังสัตว์ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา นางลงมือลงแรงไปกับสิ่งที่เรียกว่าม้วนตำรานี้มากที่สุด เพราะหลังจากที่นางคิดใคร่ครวญมาพักใหญ่ และทบทวนความทรงจำที่มีอยู่ในตอนนี้ ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมตัวนางถึงสามารถจำมันได้อย่างชัดเจน ทั้งยังเข้าใจ อ่านออก เขียนได้ ทั้งๆที่ก่อนนางจะตายนั้นนางไม่เห็นจะจำได้เลยว่านางเคยเรียนรู้ภาษาจีนไปตั้งแต่เมื่อไหร่และตอนไหนแต่ในที่สุดนางก็สามารถสร้างม้วนตำรา ที่จะเอาไว้ใช้สอนเด็กๆได้สำเร็จย้อนความกลับไปก่อนหน้า ถึงแม้นางจะไม่รู้ว่าทำไมนางถึงสามารถเรียนรู้และเข้าใจภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว แต่นางก็พอจะจดจำได้ว่านางได้เรียนรู้วิธีการสร้างม้วนตำรานี้มาจากอินเทอร์เน็ต

    Last Updated : 2025-02-23

Latest chapter

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 40 ใจกลางความมืดมิด(3)

    บทที่ 40 ใจกลางความมืดมิด(3)“คุณหนูมาถึงแล้วหรือขอรับ” เสียงเรียกขานด้วยความยินดี ที่ดังมาจากปากของจางหลง โดยที่ด้านหลังของเขามีผู้คนเกือบทั้งหมู่บ้านมารวมตัวกันอยู่ “พวกเรากำลังรอกันอยู่พอดีเลยขอรับ”“...”เย่หัวถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเห็นผู้คนคอยต้อนรับนางด้วยความยินดีแบบนี้ นางรีบลงจากหลังของเจ้าสัง มายืนเก้ๆ กังๆต่อหน้าของผู้คนจำนวนมากถึงก่อนหน้านี้จะเคยแอบลงมาพร้อมกับเด็กๆอยู่ครั้ง 2 ครั้ง ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ได้มีผู้คนมากมายขนาดนี้ เพราะนางแอบมาดูเด็กเด็กที่ได้เล่นกันอย่างมีความสุขในหมู่บ้านก็เท่านั้น แต่เมื่อต้องมาอยู่ในสภาวะแบบนี้แล้ว นางเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน“เจ้าหรือคือคุณหนูที่ผู้คนต่างนับถือ เจ้าเด็กตัวกะเปี๊ยกแค่นี้เนี่ยนะ มีอะไรวิเศษนักหนากัน...”ฮุมมมมจางหู่ที่แต่เด

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 39 ใจกลางความมืดมิด(2)

    บทที่ 39 ใจกลางความมืดมิด(2)“...”เสียงนั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับมา จางเว่ยที่อยู่อยู่ก็รู้สึกว่างเปล่า ขึ้นมาในช่วงขณะหนึ่ง ก็ได้ลุกออกจากบ้านไปยังบ้านของมารดา ที่ตอนนี้ทุกคนกำลังรับประทานมื้อเย็นกันอย่างสนุกสนานมองเหล่าบรรดาญาติพี่น้องพ่อแม่ลูกหลาน ทุกคนที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง หลังจากที่นานแล้วก็เข้าไม่ได้ฉลองกันพร้อมหน้าพร้อมตาเช่นนี้ ความรู้สึกหลากหลายมากมายตีกันอยู่ในอก จนจางเหว่ยไม่รู้แล้วว่าในตอนนี้ขอกำลังคิดอะไรอยู่ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เขาที่มองอยู่อย่างนั้นก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผ่านเวลาไปค่อนข้างนานมากแล้ว ทุกคนที่ดื่มกินกันจนอิ่มหนำสำราญ ก็ได้เริ่มแยกย้ายออกจากวงสนทนา...“...”จางเหว่ยเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้สองขาของเขา กำลังพาเขาไปยังสถานที่ใด...

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 38 ใจกลางความมืดมิด(1)

    บทที่ 38 ใจกลางความมืดมิด(1)“ต้าพัง วันนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปเล่นกับคุณหนูสนุกไหม”ในทันทีที่จางต้าพังกลับมาถึงบ้าน เสียงที่ดูใจดีเป็นพิเศษของจางเหว่ยก็ลอยเข้ามา เมื่อเด็กชายหันไปเห็นบิดาที่กำลังนั่งเอนหลับตานิ่งอยู่บนเก้าอี้ ก็รีบตอบรับด้วยความตื่นเต้น เพราะนานมากแล้วที่เขาไม่ได้ยินน้ำเสียงใจดีของบิดา วันนี้จึงเป็นวันที่เด็กชายมีความสุขเป็นพิเศษ“สนุกมากเลยขอรับ วันนี้ในช่วงเช้าคุณหนูได้เริ่มสอนเรื่องตัวอักษร ให้พวกเราทุกคนในเรื่องเรียนกันบ้างแล้ว เห็นว่าพี่จางหลัว พี่จางซิ่ว นั้นมีพรสวรรค์ในการเรียนรู้สูงมาก คุณหนูก็เลยอยากจะสอนให้ทั้งสองเป็นผู้นำในการเล่าเรียนเกี่ยวกับตัวอักษรขอรับ”“เช่นนั้นหรือ แล้วคนอื่นๆ เล่าเป็นอย่างไรกันบ้าง”“ทุกคนก็ไม่ต่างจากค่าเลยขอรับ คุณหนูทั้งใจดี และใจเย็นกับพวกเรามากๆ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 37 ม้วนตำรา

    บทที่ 37 ม้วนตำรา“ในที่สุดก็เสร็จสิ้นสักที นึกว่าข้าจะตายก่อนเสียแล้ว” หลังจากที่เขียนตัวอักษรสุดท้ายลงบนม้วนตำราเรียบร้อยแล้ว นางก็ถึงกับถอนหายใจยาวแล้วนอนแผ่กายลงบนฟูกหนังสัตว์ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา นางลงมือลงแรงไปกับสิ่งที่เรียกว่าม้วนตำรานี้มากที่สุด เพราะหลังจากที่นางคิดใคร่ครวญมาพักใหญ่ และทบทวนความทรงจำที่มีอยู่ในตอนนี้ ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมตัวนางถึงสามารถจำมันได้อย่างชัดเจน ทั้งยังเข้าใจ อ่านออก เขียนได้ ทั้งๆที่ก่อนนางจะตายนั้นนางไม่เห็นจะจำได้เลยว่านางเคยเรียนรู้ภาษาจีนไปตั้งแต่เมื่อไหร่และตอนไหนแต่ในที่สุดนางก็สามารถสร้างม้วนตำรา ที่จะเอาไว้ใช้สอนเด็กๆได้สำเร็จย้อนความกลับไปก่อนหน้า ถึงแม้นางจะไม่รู้ว่าทำไมนางถึงสามารถเรียนรู้และเข้าใจภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว แต่นางก็พอจะจดจำได้ว่านางได้เรียนรู้วิธีการสร้างม้วนตำรานี้มาจากอินเทอร์เน็ต

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 36 พี่น้อง

    บทที่ 36 พี่น้อง“เสี่ยวเฉินคุณหนูยังไม่มาหรือ”พวกเขาเดินทางเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อย จนสามารถเดินทางมาถึงหมู่บ้านก่อนเวลาพรบค่ำ จางหลงที่สอดส่ายสายตาไปมาก็ไม่พบเห็นเด็กหญิงเลย จึงได้เอ่ยถามเด็กๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่“คุณหนูยังไม่มาขอรับ เห็นพี่ต้าพังบอกว่าคุณกำลังยุ่งอยู่กับการเขียนตำรา น่าจะยังไม่ลงมาวันนี้ขอรับ” เด็กชายตัวน้อยกล่าว “ท่านลุงหลงมีอะไรหรือเปล่าครับ”“ไม่มีอะไรหรอกเจ้าไปเล่นก่อนเถอะ แต่ว่าเจ้าอย่าลืมกลับไปที่บ้านก่อนค่ำล่ะ เพราะว่าอีกเดี๋ยวมันก็จะค่ำแล้ว”“ทราบแล้วขอรับ” เด็กชายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะวิ่งแจ้นหายลับไปเล่นกับเพื่อนๆ“จางหู่พี่ ขอให้เจ้าช่วยเก็บของทั้งหมดเอาไว้เปิดพรุ่งนี้ได้หรือไม่ ในเมื่อเจ้าเป็นคนที่หาสิ่งของทั้งหมดนี้มา แต่

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 35 สัตว์อสูร

    บทที่ 35 สัตว์อสูร“...”จางหู่รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก จนแทบอยากจะเอาหน้ามุดดินหนี รู้สึกเขินอายจนแทบจะไม่รู้ว่าควรจะวางตัวเช่นไรดีในเวลาแบบนี้ จึงพยายามอธิบายแก้เก้อไปอย่างนั้นเอง “ก็ข้าไม่รู้นี่ ใครจะไปคิดว่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะไม่อยู่ในหมู่บ้านของเรา”ฮุม...เจ้าสังที่เพิ่งมาถึงครางฮูมในลำคอเบาๆ พลางบ่ายหน้าไปทางหมู่บ้าน ส่งสัญญาณให้ทุกคนเป็นเชิงบอกว่าต้องรีบกลับแล้ว“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะเอาไว้คุยรายละเอียดกันทีหลัง ในตอนนี้เราทุกคนรีบกลับหมู่บ้านกันก่อน ก่อนที่จะมืดค่ำเถิดพวกเรามีเวลาอีกราวครึ่งชั่วยาม...” จางหลงกล่าวพลางหันไปหาเจ้าสังที่มองมาที่เขาอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน “ข้าขอให้ท่านช่วยปิดท้ายขบวนหน่อยนะครับ”“...”เจ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 34 หา!!

    บทที่ 34 หา!!“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอาจารย์ของเจ้า จะใจดีถึงขนาดซื้อของมากมายขนาดนี้ มอบให้แก่เจ้าเป็นของขวัญกลับบ้าน มันจะต้องใช้อีแปะมากมายเท่าไหร่กัน...”มองเห็นสิ่งของที่อัดแน่นเต็มจนล้นทั้งห้าสิบเล่มเกวียน จางหลงก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมากับน้องชาย หากเป็นเมื่อก่อนหน้านี้ ในตอนที่เขายังไม่เจอกับนางเซียนน้อย เขาก็คงจะดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปแล้ว...“เรื่องนั้นท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงเลย ถึงแม้อาจารย์ของข้าจะไม่ใช่คนที่ร่ำรวยที่สุดในสำนัก แต่ถึงอย่างนั้นการซื้อของเพียงแค่นี้ เขาสามารถจ่ายออกได้อย่างสบายๆ” จางหู่ตอบยิ้มยิ้ม “แล้วที่สำคัญก็คืออาจารย์ของข้ามิได้ใช้ตำลึงหรือเงินอีแปะ แบบที่พวกเราใช้แต่อย่างใด แต่ท่านตายออกด้วยหินวิญญาณก้อนเล็กที่สุดเพียงแค่หนึ่งก่อน ก็สามารถซื้อสิ่งของมากมายที่ท่านเห็นได้เลย”“หินวิญญาณอย่างนั้นหรือ... เจ้าไปอยู่ในสำน

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 33 หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ!

    บทที่ 33 หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ!“ข้าดีใจยิ่งขึ้นที่เจ้ากลับมา นานมากแล้วน้องชายที่เราไม่ได้เจอกัน” เพียงแค่ไม่นานนักจางหลงกับคนอื่นๆ ก็เดินทางมาถึง ก่อนที่สองพี่น้องจะสวมกอดกันเบาๆ ตามประสาพี่น้องที่สนิทกันมาก “ว่าแต่เจ้าดูตัวโตขึ้นมากเลยนะ เมื่อก่อนก็ว่าโตมากแล้ว ตอนนี้เจ้าไม่ต่างจากหมีป่าเลยทีเดียว”ฮ่า ฮ่า ฮ่า“ท่านไม่ต้องมาล้อข้าหรอกน่า ข้าเพียงแค่โชคดีนิดหน่อย ทำให้ได้ฝึกฝนวรยุทธ์มาบ้าง ร่างกายของข้าที่เคยโตมากอยู่แล้ว มันก็เลยเติบโตขึ้นตามไปด้วยมันก็เท่านั้นแหละ”“จริงหรือ!” อีกคนหนึ่งที่ตามมาด้วยก็ถึงกับตาเบิกกว้าง สำหรับคนธรรมดาๆ อย่างพวกเขาแล้ว การที่จะโชคดีได้รับเลือกเข้าสำนักยุทธนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ“สมแล้วกับที่ได้รับฉายาพญาเสือ”“...&rdqu

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 32 จางหู่

    บทที่ 32 จางหู่“นี่มันเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!!”เสียงร้องอันดังลั่นในทันทีที่เดินทางเข้ามาถึงประตูหมู่บ้านของ “จางหู่” ผู้ชายตัวใหญ่ยักษ์มีกล้ามเป็นมากๆ หมดเคราหงเผาตั้งชี้โด่ชี้เด่ ยิ่งตัดผมสั้นแล้วด้วยก็ยิ่งสามารถมองเห็นถึงความชี้ตรงของเส้นผมได้อย่างชัดเจน ดวงตาเองก็เป็นประกายคมกล้าราวพญาเสือ คิ้วตั้งเป็นสันดาบร่วมกับสันจมูกคมโด่งเป็นสง่า เมื่อรวมเข้ากับหนวดเคราและจอนผมที่เชื่อมต่อด้วยกันแล้ว หากจะอธิบายให้เข้าใจถึงรูปร่างหน้าตาของจางหู่ได้ง่ายที่สุดแล้ว ตัวเขานั้นแทบไม่ต่างไปจากเตียวหุยในหนังสือเรื่องสามก๊กเลยทีเดียวด้วยอุปนิสัยแต่เดิมที่โผงผางและผ่าเผย ไม่เคยเก็บเร้นสิ่งใดเอาไว้ในใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในทันทีที่เขาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน หลังจากที่เขาพยายามอยู่ข้างนอกมากว่าสามปีแล้ว มันก็ทำให้เขาอดที่จะตก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status