แชร์

บทที่ 19 ข่าวดี

ผู้เขียน: สุขนิรันดร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-21 19:30:39

บทที่ 19 ข่าวดี

“ทุกคนวันนี้กลับไปช่วยไปแจ้งแก่พวกผู้ใหญ่ทุกคนให้ข้าหน่อยจะได้หรือไม่” ในระหว่างที่ทุกคนกำลังจัดการจานชามหลังจากที่กินอาหารใกล้จะเสร็จแล้วนั้นเอง เย่หัวก็รีบวิ่งมาหาก่อนที่ทุกๆ คนจะลากลับบ้าน

ถึงมันจะไม่จำเป็นเพราะอย่างไรเด็กๆ จะต้องบอกลานางในทุกๆ วันก็เถอะ แต่อาจจะเพราะนางเผลอดีใจมากจนลืมไป

“มีอะไรหรือเจ้าคะ” จางหลังที่กำลังพยายามเล่นกับเจ้าสังที่นอนหมอบอยู่อย่างไม่ไหวติง ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดเป็นคนถามขึ้น

“เดี๋ยวเจ้าช่วยไปเรียกทุกคนมารวมตัวกันสักหน่อยได้หรือไม่ ทุกคนที่มาที่นี่เลยนะ รวมถึงเด็กๆ ด้วย ทุกๆ คนด้วยนะช่วยไปตามทั้งหมดมาที ข้ามีเรื่องจะฝากไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านและทุกๆ คนในหมู่บ้านเลย”

“มากันครบแล้วเจ้าค่ะ”

เพียงแค่ไม่นานนัก ก็มีคนมารายล้อมเด็กหญิงเอาไว้จนขนาดที่หากมองจากข้างนอกก็แทบไม่เห็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ อยู่ตรงกลางแล้ว

“เอาหละทุกคนช่วยเงีบฟังข้าสักเดี๋ยวนะ” หลังจากที่ได้ยินคำกล่าวนั้นเสียงที่พูดคุยเล่นบ้าง สอบถามกันด้วยความสงสัยบ้าง หรือกำลังเอ่ยถึงอาหารการกินในวันนี้อย่างมีความสุขบ้าง ต่างก็เงียบเป็นเป้าสากในฉับพลัน เบ่หัวที่เห็นแบบนั้นก็อึ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวเรื่องสำคัญที่นางเพิ่งจะตัดสินใจไปไม่กี่อึดใจที่ผ่านมา “อย่างที่บางคนได้ยินไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ในเมื่อบางคนยังไม่ได้ยินถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวข้าจะพูดรวดเดียวเลยนะ”

“...”

“...”

“...”

เด็กๆ ทุกคนที่ได้แวะเวียนไปมาที่นี่อยู่หลายครั้งแล้ว ต่างก็ให้ความเคารพต่อเย่หัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่มีข่าวลือกันในหมู่เด็กๆ ที่บอกเล่ากันว่าเย่หัวนั้นเป็นนางเซียนน้อยที่ลงมาจากสวรรค์ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่กำลังตกทุกข์ได้ยากและไม่ทอดทิ้งความดีงามไป...

ทำให้หลังจากนั้นมาแม้แต่เด็กสามขวบที่ผู้ใหญ่อนุญาตให้ออกมาเล่นที่นี่ได้ ภายใต้การดูแลของพี่ๆ นั้น ก็ยังเชื่อฟังในสิ่งที่เย่หัวกล่าวอย่างไม่มีบิดพลิ้ว

“คืออย่างนี้นะ ในคราแรกข้าเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าสิ่งที่ข้านำมามันจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก่อนหน้านี้ข้าก็ยังไม่มั่นใจว่าสิ่งที่พวกเราเพิ่งจะช่วยกันปลูกมันจะติดหัวไหม...

แต่เมื่อกี้นี้ข้าได้ไปดูที่แปลงมันทั้งสองชนิดมา ปรากฏว่ามันฝั่งที่พวกเราเพิ่งจะ “พูนดิน” ไปในตอนบ่ายตอนนี้มันเริ่มออกดอกตูมเล็กๆ แล้ว ส่วนมันหวานเองก็เริ่มลงหัวเล็กๆ บ้างแล้วด้วย ซึ่งถ้าหากข้าจำไม่ผิดแล้วล่ะก็อรกไม่เกินสองวันอย่างช้าที่สุดผลผลิตที่พวกเราลงมือลงแรกทำกันไปในก่อนหน้านี้มันก็จะประสบผลสำเร็จ!”

เด็กๆ ที่อายุยังน้อยอาจจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เย่หัวกล่าวนั้นคืออะไร แต่สำหรับเด็กที่พอจะรู้สึกรู้สาขึ้นมาหน่อยแล้ว ทุกคนล้วนแล้วแต่เบิกต้ากว้างขึ้น ในใจแล้วพวกเขาอยากที่จะโห่ร้องตะโกนออกมาใจจะขาด แต่ติดที่ยังคงเชื่อฟังคำของเย่หัว โดยเฉพาะเด็กที่อายุสิบสองปีขึ้นไป ที่ถึงแม้จะยังเป็นเด็กอยู่กึ่งหนึ่ง แต่พวกเขาก็เข้าใจหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่งความหมายทั้งหมดเท่ากับว่านับตากนี้ไปพวกเขาก็จะไม่อดอยากอีกต่อไป แม้วันหนึ่งท่านเทพธิดาของพวกเขาจะกลับขึ้นสู่สรวงสวรรค์ก็ตาม...

“...” มองเด็กๆ ที่บางส่วนกำลังงุนงง บางส่วนกำลังยิ้มกว้างออกมา และบางส่วนที่กำลังพยายามข่มกลั้นความดีใจเอาไว้ โดยเฉพาะมีเด็กผู้หญิงที่โตจนอายุสิบแปดสิบเก้าบางคนถึงขึ้นหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ ที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องอดอยากอีกต่อไป

เด็ก...

ใช่แล้วนางไม่ได้กล่าวผิดไปเลยแม้แต่น้อย สำหรับโลกใบนี้ที่อายุขัยของมนุษย์ยืนยาวโดยเฉลี่ยที่สองร้อยปีแล้วนั้น หากยังไม่เติบโตไปถึงอายุยี่สิบปีก็ยังไม่ถือว่าก้าวพ้นวัยเด็กแต่อย่างใด แล้วหากยังอายุเพียงแค่ไม่ถึงสามสิบก็ยังถือว่าเป็นแค่วัยรุ่นเท่านั้น!

ซึ่งโดยปกติแล้วสำหรับโลกใบนี้โดยเฉลี่ยแล้วผู้คนจะเริ่มแต่งงานมีครอบครัวที่ช่วงอายุยี่สิบปีขึ้นไป น้อยมากที่จะมีก่อนอายุยี่สิบปี

และด้วยช่วงอายุขัยที่ยาวนานและยังเป็นโลกที่ “สะอาด” ในระดับหนึ่ง ทำให้ผู้คนยังสามารถอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน แม้ว่าภายในครอบครัวนั้นจะมีห้าชั่วรุ่นแล้วก็ตาม จะมีก็เพียงแค่บางส่วนเท่านั้นที่แต่งออกไปจากบ้านหรืออยากที่จะท้าทายตนเองแล้วสร้างบ้านใหม่หรือย้ายถิ่นฐานไป...

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอบอกเรื่องสำคัญเลยก็แล้วกัน ในเมื่อสิ่งที่พวกเราทำมันประสบผลสำเร็จ ข้าอยากให้คืนนี้ทุกคนกลับไปบอกพ่อแม่ผู้ปกครองที่บ้าน ให้ช่วยกันกระจายข่าวที ว่าถ้าเป็นไปได้แล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปข้าอยากให้ทุกคนมาช่วยกันปลูกมันหวานกับมันฝรั่งกัน

แน่นอว่าสำหรับผู้หญิง เด็ก และคนชราเองก็สามารถมาช่วยกันทำอาหารเลี้ยงทุกคนในหมู่บ้านและให้กำลังใจกันและกันในระหว่างวันได้ ข้าจะรับผิดชอบเรื่องวัตถุดิบในการทำอาหารเลี้ยงทุกคนและหัวพันของมันทั้งสองชนิดเอง ขอแค่ทุกคนมาช่วยกันถางป่าปรับพื้นดินเพื่อยกร่องปลูกมัน

แล้วหลังจากนี้ไปอีกแค่ไม่กี่วันข้าสัญญาว่าทุกคนจะมีหัวมันทั้งสองชนิดเอาไว้กินในตลอดหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้อย่างแน่นอน”

.................................

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 20 เศร้าหมอง

    บทที่ 20 เศร้าหมองหน้าหนาว...หนึ่งในฤดูที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ ก่อนหนี้ไม่กี่สิบปีก่อนอาจจะไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ห่างไกล และมีลำธารไหลพาดผ่านหลายสายใหญ่บ้างเล็กบ้างแล้วแต่ต้นน้ำว่ามาจากจุดไหนแต่หลังจากที่ภัยพิบัติได้เริ่มขึ้นเมื่อสิบปีก่อน จากฤดูหนาวธรรมดาๆ ที่เพียงแค่มันจะกินเวลานานบ้างเร็วบ้าง แต่มันก็เพียงแค่ต้องเตรียมพร้อมเสบียงอาหารให้มากขึ้นก็เท่านั้น กลายเป็นฤดูหนาวที่เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นผลผลิตที่ลดลงตามความแห้งแล้งจนแทบไม่ได้เลยในปีหลังๆ มานี้ เป็นสิ่งที่ทำให้เพิ่มจำนวนคนตายมากขึ้นในทุกๆ ปี...สำหรับหน้าหนาวที่ค่ำคืนจะยาวนานกว่ากลางวัน ในช่วงที่นานที่สุดอาจจะกินเวลากลางวันเกินไปถึงสองชั่วยาม เป็นช่วงเวลาที่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุยืนยาวที่ไม่มีอาหารมากเพียงพอตายไปอย่างเงียบๆ ยิ่งเป็นหน้าหนาวที่ต้องประหยัดเนื่องจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 21 เนื้อเน่า

    บทที่ 21 เนื้อเน่าแต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจของหัวหน้าหมู่บ้านนั้นจะไม่ทันเสียแล้ว...“จะดีหรือ” ในระหว่างที่ผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งจับกลุ่มพูดคุยกันไกลออกไปเล็กน้อย “แต่ถ้าถูกจับได้มันจะไม่ดีเอานา...”“แล้วมันจะเป็นอะไรไปเล่า จะอย่างไรคนพวกนั้นก็ไม่ได้ห้ามสักหน่อยนี่”“ใช่แล้ว อีกอย่างเราแค่จะแอบเอาไปสักหน่อยแล้วเอาไปลองปลูกที่แถวๆ บ้านเราตามคำแนะนำของจางเว่ยเท่านั้นเอง ไม่ได้ทำอะไรเสียหนายสักหน่อย”“แล้วอีกอย่างถ้าหากว่าเจ้าหัวมันกองนั้นสามารถนำไปปลูกได้จริง แล้วมันโตเร็วเหมือนที่เด็กๆ บอกเล่าแล้ว อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าหน้าหนาวในปีนี้ครอบครัวของพวกเราจะอยู่รอดได้ไม่ใช่หรืออย่างไร แล้วจะลังเลไปทำไมกัน”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 22 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(1)

    บทที่ 22 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(1)“...”ท่ามกลางห้วงแห่งความว่างเปล่า ดวงจิตของเย่หัวตื่นขึ้นมาบนห้วงอากาศที่สูงขึ้นไปเหนือท้องฟ้า ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ก้อนเมฆรูปร่างต่างๆ เต็มไปหมด แต่ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น“สงสัยอะดิ ว่าที่นี่คือที่ไหนแล้วมึงมาทำอะไรตรงนี้...”“ไอ้ชา!”“‘ไอ้ชา!’ มึงจะตะโกนเรียกชื่อกูแบบนี้ใช่ไหมล่ะ แต่กูบอกเลยว่านี่เป็นระบบอัตโนมัติที่จะทำงานในตอนที่มึงใช้พลังไปจนหมดเป็นครั้งแรก ในกรณีที่มึงไม่ยอมฝึกฝนลมปราณเลย”“แล้ว...”“กูรู้ว่ามึงมีเรื่องมากมายที่จะถาม แต่ก็เหมือนกับจดหมายที่เคยเขียนหรือตอนที่กูส่งมึงมาที่นี่ กูมีเวลาจำกัดมากๆ เพราะฉะนั้นแล้วกูของให้มึงช่วยฟังได้อย่างเดียวสได้ไหม ถือว่ากูขอละกัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 23 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(2)

    บทที่ 23 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(2)“ตอนนี้แหละ!!”ทั้งกลุ่มที่ตอนนี้รวมตัวกันได้ราวยี่สิบคน แบ่งหน้าที่กันอย่างรวดเร็วที่เกิดความวุ่นวายขึ้น โดยที่มีการแบ่งเป็นกลุ่มๆ ตั้งแต่กลุ่มดูต้นทางที่จะวางเอาไว้เป็นจุดๆ เพื่อป้องกันการถูกพบเห็น ซึ่งมีเพียงแค่สี่คนเท่านั้นที่อาษาทำหน้าที่นี้ ถึงจะไม่ค่อยมีความเสี่ยงมากเท่ากับกลุ่มที่ไปขโมยหัวมัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าพวกตนจะได้รับส่วนแบ่งน้อยลงตามไปด้วยกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่เป็นกลุ่มที่ต้องเอาถุงกระสอบสานลวกๆ ไปช่วยกันขนมันเท่าที่ทำได้ ซึ่งคนที่เหลือทั้งหมดแบ่งกันเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละสองคนโดยที่พวกเขาจะเอามันไปให้มากที่สุดเท่าที่กระสอบจะสามารถจุไหว แล้วค่อยสลับกันขนไปเป็นช่วงๆ แล้วแยกย้ายกันหนีกลับไปที่หมู่บ้าน ซึ่งทุกคนต่างก็ให้สัญญากันเอาไว้ว่าถ้าหากใครถูกจับได้ก็จะไม่มีการซัดทอดอย่างเด็ดขาดและเมื่อเอากลับกันไปแล้วจะไปรวมตัวกันที่บ้านของหนึ่งในสมาชิกกลุ่มที่ห่างไกลออกไปจากหมู่บ้านเล็กน้อย แล้วค่อยแบ่งกันในคืนนี้...แล้วเมื่อจัดการแบ่งสันปันส่วนหน้าที่รับผิดชอบของตนเองกันแล้ว โดยไม่สนว่าผู้คนในหมู่บ้านต่างก็พากันไปดูเด็กหญิงด้วยความเป็นห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 24 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(3)

    บทที่ 24 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(3)สองชั่วยามผ่านไป...ตั้งแต่ตอนที่เย่หัวหมดสติ นางก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางผู้คนจำนวนมากที่รายล้อมนางอยู่ ด้วยความที่ไม่ชินกับการที่มีใครมาเป็นห่วงเป็นไยขนาดนี้ มันก็ทำให้นางรู้สึกเขินไม่ได้ จึงเอ่ยปากถามออกมาด้วยเสียงเบาๆ“...มีอะไรกันหรือเจ้าคะ”“คุณหนู...”“คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”“คุณหนูฟื้นแล้ว”“...”“...”“...”เด็กๆ ที่เฝ้ารออยู่ไม่ไกลต่างก็กรูเข้ามาบ้างดีอกดีใจ บ้างก็ร้องห่มร้องให้งอแงโผเข้ามากอดร่างเล็กจนแทบไม่มีช่องว่าให้หายใจเย่หัวที่เห็นทุกๆ คนเป็นห่วงขนาดนี้จากที่ตั้งใจที่จะผละออกไป กลับกลายเป็นยินยอมให้เด็กๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 0 ของฝากจากเพื่อนเก่า

    ณ ห้วงแห่งความว่างเปล่า ดวงจิตดวงหนึ่งกำลังล่องลอยอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย ราวกับว่ามันได้ถูกพรากออกมาจากเส้นทางที่ควรจะมุ่งไป แล้วกำลังล่องลอยอยู่อย่างนั้นมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว...“อีปลวก อีปลวก มึงได้ยินกูไหมเนี่ย” น้ำเสียงที่คุ้นหูคับคล้ายคับคลา ที่ส่งมาจากห้วงอากาศโดยรอบ ทำให้ดวงจิตดวงนั้นเริ่มก่อร่างกลายมาเป็นดวงจิตรูปร่างคล้ายมนุษย์เพศหญิง “เสียงใครเนี่ย...”“ก็กูไง!” เสียงนั้นตอบกลับมาดังลั่น จนสามารถบอกได้เพียงแค่ได้ยินว่าอีกฝ่ายนั้นดีใจมากแค่ไหน “นี่มึงจำเสียงกูไม่ได้จริงๆ หรอ”“ห๊ะ...”“ถ้าหน้ากูมึงจะไม่คุ้นเคยก็ไม่แปลกหรอก แต่เสียงกูมึงต้องคุ้นสิ ก็กูเป็นเพื่อนคนเดียวของมึงที่ด่ามึงยิ่งกว่าพ่อยิ่งกว่าแม่มึงอีก มึงจำกูไม่ได้จริงๆ อะ”“...”หลังจากที่นึกไปนึกมาอยู่ครู่หนึ่ง เสียงที่แสนคุ้นเคยกับสำเนียงเสียงพูดเล่นหัวไม่สนใจเพศและอายุที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ทำให้ดวงจิตดวงนั้นค่อยๆ กระจ่างแจ้งว่าเจ้าของเสียงนั้นเป็นใคร...แต่นั่นแหละที่มันไม่ควรที่จะเป็นไปได้แม้แต่น้อย เพราะเจ้าของเสียงมันตายไปตั้งแต่ปีที่แล้ว!‘เป็นไปไม่ได้!’“เป็นไปได้สิทำไมจะเป็นไปได้ ก็กูพูดอยู่เนี่ย”“...” “ถ้าอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   รายละเอียดหลักๆ ที่จะใช้ภายในเรื่องเพื่อความเข้าใจตรงกัน

    ก่อนที่เราจะไปเข้าสู่เนื้อหาของเรื่องกัน เราจะมาพูดคุยกันก่อนนะ และเฉพาะในตอนนี้ถ้าหากใครมีคำถามอะไรสามารถถามมาได้เลย ผมจะกลับมาตอบให้จ้าเรื่องแรกที่อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกันก็คือ วัน-เวลา เนื่องจากผมจะสร้างโลกใบใหม่ที่แตกต่างจากโลกนี้โดยสิ้นเชิงเลย สิ่งแรกที่อยากจะทำความเข้าใจก็คือแต่ละวันนั้นจะยาวนานขึ้นสิบเท่า กล่าวคือในแต่ละชั่วยามจะยาวนานกว่า20ชั่วโมง และที่สำคัญก็คือแต่ละปีจะยาวนาน1200วัน(เดือนละ100วัน12เดือน) แต่ก็ยังยังคงแบ่งเป็น4ฤดูตามประเทศจีน และสกุลเงินเองก็เช่นเดียวกัน ส่วนเหตุผลทั้งหมดจะค่อยๆ อธิบายไปในเรื่องจ้า แต่เพื่อไม่ใช้นักอ่านงุนงงสงสัยเกี่ยวกับการเดินเรื่องที่อาจจะแปลกๆ ไปจากที่เคยผ่านตามา แต่รับรองว่าจะไม่งงแน่นอนจ้า ส่วนรายละเอียดของ เวลา ค่าเงิน และระยะทางก็ตามนี้เลยเวลาในสมัยโบราณ คนจีนจะแบ่งเวลา 1 วันเป็น 12 ชั่วยาม ดังนั้น เมื่อเทียบกับเวลาสากล 1 ชั่วยามจึงเท่ากับ 2 ชั่วโมง โดยจะเริ่มนับชั่วยามแรกตั้งแต่เวลา 00.01-02.00 น. และนับต่อไปเรื่อย ๆ จนครบ 12 ชั่วยามชั่วยาม (时辰:shíchén)ยามจื่อ (子:zǐ) คือ 23.00 – 24.59 น.ยามโฉ่ว (丑:chǒu) คือ 01.00 – 02.59 น.ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 1 เผชิญหน้ากับความตาย

    “...”ร่างเล็กกระพริบตาถี่ๆ ทันทีที่รู้สึกตัวขึ้นมาก็รู้ตัวว่าตนเองกำลังนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง จึงได้พยายามที่จะลืมตาขึ้นมา แล้วลุกขึ้นนั่งเพื่อสำรวจรอบๆ“ไม่ยักกะเจ็บแฮะ ปกติถ้าตามนิยายที่ไอ้ชามันเอาให้อ่าน ถ้าไม่ปวดหัวเหมือนหัวจะแตก ก็ต้องบาดเจ็บเป็นไข้ใกล้ตายอะไรสักอย่าง แต่นี่ไม่เห็นรู้สึกแปลกๆอะไรเลย...”พูดได้เท่านั้นแหละนางก็ต้องหุบปากเงียบก่อนที่จะพยายามหาที่หลบให้มิดชิด เพราะตอนนี้ได้ยินเสียงเหมือนกับผู้คนจำนวนมากกำลังวิ่งมาทางนี้ แต่ก็เหมือนว่ามันจะไร้ผลเพราะไม่ว่านางจะพยายามสักแค่ไหนก็ไม่สามารถหลุดออกจากกำแพงอากาศโปร่งใสที่รายล้อมนางอยู่นี่ได้เสียที ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมที่กำลังจะมาถึง“ไอ้เพื่อนเวร ส่งมาทั้งทีทำไมไม่ส่งไปที่ที่ปลอดภัยหน่อยวะ...ห๊ะ” ในตอแรกนางก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าเสียงของตัวเองเล็กลงอย่างน่าใจหาย แต่มันกลับหวานใสปานแก้วเนื้อดีไพเราะน่าฟังสมวัย แต่ก่อนที่นางจะทันได้คิดอะไร ก็ต้องหยุดชะงักเพราะในตอนนี้กลุ่มคนแปลกหน้าได้มาหยุดรายลอมนางเอาไว้เสียแล้ว“...” แต่คงเป็นเพราะกำแพงอากาศโปร่งใสนี่ทำให้คนพวกนั้นมองไม่เห็นนาง แล้วยังอยู่เยื้องออกมานิดหน่อย ทำให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19

บทล่าสุด

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 24 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(3)

    บทที่ 24 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(3)สองชั่วยามผ่านไป...ตั้งแต่ตอนที่เย่หัวหมดสติ นางก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางผู้คนจำนวนมากที่รายล้อมนางอยู่ ด้วยความที่ไม่ชินกับการที่มีใครมาเป็นห่วงเป็นไยขนาดนี้ มันก็ทำให้นางรู้สึกเขินไม่ได้ จึงเอ่ยปากถามออกมาด้วยเสียงเบาๆ“...มีอะไรกันหรือเจ้าคะ”“คุณหนู...”“คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”“คุณหนูฟื้นแล้ว”“...”“...”“...”เด็กๆ ที่เฝ้ารออยู่ไม่ไกลต่างก็กรูเข้ามาบ้างดีอกดีใจ บ้างก็ร้องห่มร้องให้งอแงโผเข้ามากอดร่างเล็กจนแทบไม่มีช่องว่าให้หายใจเย่หัวที่เห็นทุกๆ คนเป็นห่วงขนาดนี้จากที่ตั้งใจที่จะผละออกไป กลับกลายเป็นยินยอมให้เด็กๆ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 23 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(2)

    บทที่ 23 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(2)“ตอนนี้แหละ!!”ทั้งกลุ่มที่ตอนนี้รวมตัวกันได้ราวยี่สิบคน แบ่งหน้าที่กันอย่างรวดเร็วที่เกิดความวุ่นวายขึ้น โดยที่มีการแบ่งเป็นกลุ่มๆ ตั้งแต่กลุ่มดูต้นทางที่จะวางเอาไว้เป็นจุดๆ เพื่อป้องกันการถูกพบเห็น ซึ่งมีเพียงแค่สี่คนเท่านั้นที่อาษาทำหน้าที่นี้ ถึงจะไม่ค่อยมีความเสี่ยงมากเท่ากับกลุ่มที่ไปขโมยหัวมัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าพวกตนจะได้รับส่วนแบ่งน้อยลงตามไปด้วยกลุ่มที่สองเป็นกลุ่มที่เป็นกลุ่มที่ต้องเอาถุงกระสอบสานลวกๆ ไปช่วยกันขนมันเท่าที่ทำได้ ซึ่งคนที่เหลือทั้งหมดแบ่งกันเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละสองคนโดยที่พวกเขาจะเอามันไปให้มากที่สุดเท่าที่กระสอบจะสามารถจุไหว แล้วค่อยสลับกันขนไปเป็นช่วงๆ แล้วแยกย้ายกันหนีกลับไปที่หมู่บ้าน ซึ่งทุกคนต่างก็ให้สัญญากันเอาไว้ว่าถ้าหากใครถูกจับได้ก็จะไม่มีการซัดทอดอย่างเด็ดขาดและเมื่อเอากลับกันไปแล้วจะไปรวมตัวกันที่บ้านของหนึ่งในสมาชิกกลุ่มที่ห่างไกลออกไปจากหมู่บ้านเล็กน้อย แล้วค่อยแบ่งกันในคืนนี้...แล้วเมื่อจัดการแบ่งสันปันส่วนหน้าที่รับผิดชอบของตนเองกันแล้ว โดยไม่สนว่าผู้คนในหมู่บ้านต่างก็พากันไปดูเด็กหญิงด้วยความเป็นห

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 22 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(1)

    บทที่ 22 เซียนน้อยแห่งหุบเขาธิดาสวรรค์(1)“...”ท่ามกลางห้วงแห่งความว่างเปล่า ดวงจิตของเย่หัวตื่นขึ้นมาบนห้วงอากาศที่สูงขึ้นไปเหนือท้องฟ้า ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ก้อนเมฆรูปร่างต่างๆ เต็มไปหมด แต่ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น“สงสัยอะดิ ว่าที่นี่คือที่ไหนแล้วมึงมาทำอะไรตรงนี้...”“ไอ้ชา!”“‘ไอ้ชา!’ มึงจะตะโกนเรียกชื่อกูแบบนี้ใช่ไหมล่ะ แต่กูบอกเลยว่านี่เป็นระบบอัตโนมัติที่จะทำงานในตอนที่มึงใช้พลังไปจนหมดเป็นครั้งแรก ในกรณีที่มึงไม่ยอมฝึกฝนลมปราณเลย”“แล้ว...”“กูรู้ว่ามึงมีเรื่องมากมายที่จะถาม แต่ก็เหมือนกับจดหมายที่เคยเขียนหรือตอนที่กูส่งมึงมาที่นี่ กูมีเวลาจำกัดมากๆ เพราะฉะนั้นแล้วกูของให้มึงช่วยฟังได้อย่างเดียวสได้ไหม ถือว่ากูขอละกัน

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 21 เนื้อเน่า

    บทที่ 21 เนื้อเน่าแต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจของหัวหน้าหมู่บ้านนั้นจะไม่ทันเสียแล้ว...“จะดีหรือ” ในระหว่างที่ผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งจับกลุ่มพูดคุยกันไกลออกไปเล็กน้อย “แต่ถ้าถูกจับได้มันจะไม่ดีเอานา...”“แล้วมันจะเป็นอะไรไปเล่า จะอย่างไรคนพวกนั้นก็ไม่ได้ห้ามสักหน่อยนี่”“ใช่แล้ว อีกอย่างเราแค่จะแอบเอาไปสักหน่อยแล้วเอาไปลองปลูกที่แถวๆ บ้านเราตามคำแนะนำของจางเว่ยเท่านั้นเอง ไม่ได้ทำอะไรเสียหนายสักหน่อย”“แล้วอีกอย่างถ้าหากว่าเจ้าหัวมันกองนั้นสามารถนำไปปลูกได้จริง แล้วมันโตเร็วเหมือนที่เด็กๆ บอกเล่าแล้ว อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าหน้าหนาวในปีนี้ครอบครัวของพวกเราจะอยู่รอดได้ไม่ใช่หรืออย่างไร แล้วจะลังเลไปทำไมกัน”

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 20 เศร้าหมอง

    บทที่ 20 เศร้าหมองหน้าหนาว...หนึ่งในฤดูที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ ก่อนหนี้ไม่กี่สิบปีก่อนอาจจะไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่ห่างไกล และมีลำธารไหลพาดผ่านหลายสายใหญ่บ้างเล็กบ้างแล้วแต่ต้นน้ำว่ามาจากจุดไหนแต่หลังจากที่ภัยพิบัติได้เริ่มขึ้นเมื่อสิบปีก่อน จากฤดูหนาวธรรมดาๆ ที่เพียงแค่มันจะกินเวลานานบ้างเร็วบ้าง แต่มันก็เพียงแค่ต้องเตรียมพร้อมเสบียงอาหารให้มากขึ้นก็เท่านั้น กลายเป็นฤดูหนาวที่เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นผลผลิตที่ลดลงตามความแห้งแล้งจนแทบไม่ได้เลยในปีหลังๆ มานี้ เป็นสิ่งที่ทำให้เพิ่มจำนวนคนตายมากขึ้นในทุกๆ ปี...สำหรับหน้าหนาวที่ค่ำคืนจะยาวนานกว่ากลางวัน ในช่วงที่นานที่สุดอาจจะกินเวลากลางวันเกินไปถึงสองชั่วยาม เป็นช่วงเวลาที่ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุยืนยาวที่ไม่มีอาหารมากเพียงพอตายไปอย่างเงียบๆ ยิ่งเป็นหน้าหนาวที่ต้องประหยัดเนื่องจ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 19 ข่าวดี

    บทที่ 19 ข่าวดี“ทุกคนวันนี้กลับไปช่วยไปแจ้งแก่พวกผู้ใหญ่ทุกคนให้ข้าหน่อยจะได้หรือไม่” ในระหว่างที่ทุกคนกำลังจัดการจานชามหลังจากที่กินอาหารใกล้จะเสร็จแล้วนั้นเอง เย่หัวก็รีบวิ่งมาหาก่อนที่ทุกๆ คนจะลากลับบ้านถึงมันจะไม่จำเป็นเพราะอย่างไรเด็กๆ จะต้องบอกลานางในทุกๆ วันก็เถอะ แต่อาจจะเพราะนางเผลอดีใจมากจนลืมไป“มีอะไรหรือเจ้าคะ” จางหลังที่กำลังพยายามเล่นกับเจ้าสังที่นอนหมอบอยู่อย่างไม่ไหวติง ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดเป็นคนถามขึ้น“เดี๋ยวเจ้าช่วยไปเรียกทุกคนมารวมตัวกันสักหน่อยได้หรือไม่ ทุกคนที่มาที่นี่เลยนะ รวมถึงเด็กๆ ด้วย ทุกๆ คนด้วยนะช่วยไปตามทั้งหมดมาที ข้ามีเรื่องจะฝากไปบอกหัวหน้าหมู่บ้านและทุกๆ คนในหมู่บ้านเลย”“มากันครบแล้วเจ้าค่ะ”เพียงแค่ไม่นานนัก ก็มีคนมารายล้อมเด็กหญิงเอาไว้จนขนาดท

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 18 ความปรารถนาที่เป็นจริง

    บทที่ 18 ความปรารถนาที่เป็นจริงในตลอดค่ำคืนอันยาวนานที่เด็กหญิงล่องลอยไปในห้องแห่งความฝันที่ไม่มีใครล่วงรู้ ผู้คนในหมู่บ้านทุกคนต่างก็มีความสุขแทบจะทุกผู้ตัวคน จะยกเว้นก็แต่บุคคนเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่อยู่ไม่สุข ผุดลุกผุดนั่งอยู่อย่างนั้น และเริ่มที่จะไม่สามารถควบคุมสติของตนเองในบางครั้ง แต่เมื่อได้ยินเสียงกรนเบาๆ ของบุตรชายมันก็ทำให้สติของเขากลับมาความร้อนรนที่แทบจะไม่เคยถูกดับลงไปเลยสักหนตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้ มีเพียงแค่ช่วงเวลาที่นึกถึงบุตรชายผู้สืบสายเลือดของเขาเท่านั้นที่ทำให้เขาพอจะกลับมาพยายามในสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ความตั้งใจ...สำหรับคนธรรมดาๆ ที่ไม่ได้มีอะไรดีหรือแย่ เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ คนหนึ่งที่บังเอิญมาเกิดในบ้านที่มีพี่ชายที่เก่งกาจในทุกๆ ด้าน เมื่อวันหนึ่งเขาได้แต่งงานมีครอบครัวและมีเจ้าอวบอ้วนตัวน้อยถือกำเนิดขึ้นมา ทำให้เขาเลิกน้อยเนื้อต่ำใจตัวเองไปชั่วขณะ...

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 17 วันที่แสนวุ่นวาย

    บทที่ 17 วันที่แสนวุ่นวาย“เป็นอย่างไรบ้าง พอจะกินกันได้ไหม” เย่หัวถามเด็กๆ ทั้งหมดที่กำลังกินมันหวานต้มกับเนื้อเป็นมื้อเช้า“อร่อยมากเลยขอรับ/เจ้าค่ะ”เด็กๆ ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยรอยยิ้มที่ริมฝีปากยังคงมันแผลบเนื่องจากความมันของน้ำซุป“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเด็กเล็กตั้งแต่เจ็ดขวบลงไปพากันไปวิ่งเล่นกันก่อนก็ได้ ส่วนคนที่อายุมากกว่านั้นเดี๋ยวอยู่ช่วยกันเก็บล้างจานก่อน เดี๋ยวหลังจากนี้เราจะไปแยกกอมันฝรั่งกัน”ด้วยที่มีเด็กๆ หกสิบกว่าคนที่มาพร้อมกันทั้งหมู่บ้านแบบนี้ ทำให้แผนการต่างๆ ของนางต้องเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร อีกทั้งมันฝั่งเองที่นางจำวิธีปลูกดูแลได้แค่ลางๆ ดันโตเร็วไปกว่าที่นางคิดมากโขเลยต้องเร่งแยกกอก่อนกำหนดแต่ก็นั่นแหละอาจจะเพราะผู้คนที่โลกนี้ยังไม่ได้ถูกปรุงแต่งด้วยสือหรือสังคมที

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 16 เป้าหมาย

    บทที่ 16 เป้าหมาย“โห!!”เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีของเด็กๆ หลายสิบคนที่กำลังมาล้อมวงดูแปลงมันที่ตอนนี้เจริญเติบโตเขียวขจีเต็มหูเต็มตาไปหมด กอมันฝรั่งก็เริ่มแตกกอออกมาส่วนต้นมันเองก็สูงเกือบจะสองฉื่อแล้ว ส่วนกอมันหวานเองตอนนี้เถาของมันเริ่มยาวเฟื้อยเลื้อยไปมาเกินสามฉื่อเข้าไปแล้ว“เหลือจะเชื่อ เพิ่งจะปลูกไปเมื่อวันก่อนเอง ผ่านไปแค่สองคืนก็เติบโตขนาดนี้แล้ว...”“ใช่ๆ ”“ที่สำคัญพวกเจ้าดูที่ผืนดินตรงแปลงที่เถามันเลื้อยผ่านดูสิ มันทั้งชื้นราวกับว่าฝนเพิ่งจะตกใหม่ๆ เลย แต่กลับไม่ได้เปียกชุ่มขาดนั้น นี่มันอะไรกัน”“พวกเจ้าอย่าเอาแต่พูดจากัน ไปช่วยกันทำงานส่วนที่คุณหนูเคยบอกเอาไว้เสีย เมื่อวานคุณหนูเหนื่อยเพื่อพวกเรามามาก รีบไปทำให้เสร็จก่อนที่คุณหนูจะตื่นเสีย” จางหลัวที่เริ่มไม่ค่อยคุ้นชินกับเด็กจำน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status