“ในเมื่อคุณให้โอกาสฉันมาทำงานในตำแหน่งเลขาฉันไม่มีปัญหาในการเดินทางไปกับคุณแน่นอนค่ะแล้วพบกันพรุ่งนี้นะคะ”
เลขาคนใหม่กลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเธอที่ตั้งอยู่หน้าประตูห้องของท่านประธาน เธอมัวแต่สาละวนวุ่นวายอยู่กับการเตรียมเอกสารที่จะใช้ในวันพรุ่งนี้จนลืมที่จะส่งตำแหน่งของที่พักให้กับบอสใหญ่จนอีกฝ่ายต้องส่งไลน์มาเตือนซึ่งหญิงสาวก็แอบสงสัยว่าเขามีไลน์ของเธอได้อย่างไรกัน
การเดินทางไปติดต่อธุรกิจในครั้งนี้ได้สร้างความสนิทสนมระหว่างเจ้านายกับลูกน้อยได้เป็นอย่างมากเพราะตลอดเวลาสามวันที่อยู่ที่เชียงใหม่ทั้งคู่แทบจะไม่ได้แยกจากกันนอกจากแยกกันนอนคนละห้องเท่านั้นซึ่งคืนสุดท้ายพิรภพก็เอ่ยปากชวนแกมบังคับให้เลขาสาวของเขานั่งรถไปเป็นเพื่อนเพื่อขับรถชมรอบเมืองเชียงใหม่
“อย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้นสิรับรองว่าผมพาคุณไปขี่รถเล่นพาไปหาอะไรกินคุณจะได้สนุกกว่าสองวันที่ผ่านมาแน่นอน”
พิรภพภพหันมามองหน้าสาวน้อยที่นั่งข้าง ๆ เขาด้วยอารมณ์ขันที่เห็นเธอทำหน้าบูดบึ้งแสดงออกถึงความไม่เต็มใจ
“ตามสบายเลยค่ะมันเป็นหน้าที่ของเลขาอยู่แล้ว”
ท่านประธานยกมือหนาขึ้นมาลูบผมของเลขาสาวอย่างเอ็นดูโดยที่คุ้มขวัญถึงกับตกใจเพราะไม่คิดว่าท่านประธานที่เอาแต่ทำหน้าตึงเครียดและมักจะใช้อำนาจบีบคั้นเธออยู่เสมอจะมี มุมที่อ่อนโยนแบบนี้ด้วย
เชียงใหม่เมืองหลวงของล้านนาในค่ำคืนที่บรรยากาศช่างแสนโรแมนติกอากาศที่เริ่มเย็นสบายเพราะเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวบวกกับแสงดาวที่ส่องประกายวับวาวอยู่บนท้องฟ้าทำให้ทั้ง สองคนเดินเที่ยวกันโดยลืมไปเลยว่าวันนี้ทั้งวันต่างก็ทำงานหนักกันมา
“ของกินที่นี่แปลก ๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ ฉันเกิดมายังไม่เคยได้กินเลยแล้วคุณล่ะเคยกินมาก่อนหรือเปล่า”
สาวน้อยที่ทั้งสองมือเต็มไปด้วยของกินทั้งที่เธอเพิ่งนั่งกินข้าวซอยเสร็จมาหมาด ๆ หันไปคุยกับท่านประธานหนุ่มหล่อของบริษัทที่เดินนำเธอไปยังร้านขายของฝากเพราะทั้งคู่ลืมคิดไปเลยว่าการมาติดต่อธุรกิจครั้งนี้ยังไม่มีของติดไม้ติดมือไปฝากพนักงานคนอื่น ๆ เลย
“ผมชอบเชียงใหม่แต่ก็ไม่เคยมาเดินแบบนี้นะเพราะปกติจะมาติดต่อเรื่องงานเพียงคนเดียว ยุวดีเองก็ไม่ค่อยได้มากับผมเพราะเธอมีครอบครัวแล้ว ครั้งหน้าถ้าเราได้มากันอีกผมจะพาคุณไปเที่ยวบนดอยแต่คงต้องมาใช้เวลาหลายวันกว่านี้เพราะครั้งนี้พรุ่งนี้เราก็ต้องเดินทางกลับกันแล้ว”
คุ้มขวัญทำท่าทางตื่นเต้นที่รู้ว่าถ้าเธอมีโอกาสได้มาเชียงใหม่กับท่านประธานเธอจะได้มีโอกาสไปเที่ยวที่อื่นด้วยเพราะชีวิตของเธอนอกจากบ้านกับมหาวิทยาลัยเธอก็แทบจะไม่ได้ไปไหนซึ่งเป็นเพราะว่ามารดาของเธอมาเสียชีวิตลงตั้งแต่เธอเริ่มเข้าเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยเธอจึงเลือกที่จะประหยัดเงินเพื่อช่วยไม่ให้พี่สาวต้องลำบากไปมากกว่านี้
การทำงานในตำแหน่งเลขาไม่ง่ายและก็ไม่ยากแต่ทั้งหมดนั้นมันต้องใช้ความทุ่มเทในเรื่องเวลาเป็นอย่างมากตอนนี้คุ้มขวัญเข้าใจแล้วว่าทำไมพีรภพถึงเลือกที่จะหาคนมาแทนยุวดีเพราะตั้งแต่เธอกลับจากเชียงใหม่แทบจะไม่มีวันไหนเลยที่เธอได้เลิกงานก่อนหกโมงเย็นทั้งที่พนักงานคนอื่นแค่เพียงห้าโมงก็ได้กลับบ้านกันหมดแล้ว
“เดี๋ยวผมไปส่งนะรออีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็น่าจะทำงานเสร็จแล้วไว้วันนี้ผมจะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนที่ทำงานล่วงเวลามาเป็นอาทิตย์”
คุ้มขวัญอยากปฏิเสธแต่เธอก็ไม่กล้าเพราะใจหนึ่งก็รู้สึกเป็นห่วงท่านประธานบริษัทที่ต้องอยู่ทำงานเพียงคนเดียวถ้าเธอจะกลับก่อนแต่อย่างนั้นเธอก็ไม่อยากจะสนิทสนมกับเขามากเกินไปเพราะเท่าที่ผ่านมาสายตาของพนักงานคนอื่น ๆ ที่จ้องมองก็ทำให้เธอรู้สึกว่าความสนิทสนมที่ท่านประธานมีให้เธอมันมากกว่าที่เขาเคยมีให้พนักงานคนอื่นที่ผ่านมา
ร้านอาหารข้างทางถูกเลือกเป็นสถานที่กินอาหารมื้อค่ำของท่านประธานบริษัทใหญ่กับเลขาคนใหม่ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่ พิรภพให้โอกาสคุณขวัญเป็นคนเลือกบ้างเพราะเมื่อคราวที่ไปเชียงใหม่เขาเป็นคนเลือกร้านของกินให้กับหญิงสาวแล้ว
“เคยกินแต่ชาบูในห้างวันนี้มากินจิ้มจุ่มข้างทางบ้างก็อร่อยเหมือนกันไว้วันหลังพาผมมาอีกนะ”
จากตอนแรกที่ตั้งใจจะกินอาหารกันแค่ง่าย ๆ เพราะตอนนี้ก็ดึกแล้วแต่กลายเป็นว่าทั้งคู่พากันมานั่งกินจิ้มจุ่มริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทด้วยบรรยากาศที่ลมพัดเย็นสบายและสายน้ำที่กำลังไหลม้วนตัวเป็นคลื่นเพราะมีเรือใหญ่วิ่งทำให้พิรพบรู้สึกผ่อนคลายจนเขาเองยังไม่อยากที่จะกลับบ้าน
“ผมติดใจร้านนี้เข้าแล้วเอาเป็นว่าถือว่าร้านนี้เป็นร้านประจำของเราก็แล้วกัน”
คุ้มขวัญไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแค่เธอได้ยินชายหนุ่มตรงหน้าใช้คำว่าเรามันทำให้เธอรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว หัวใจของเธอมันรู้สึกหวาบหวิวอย่างบอกไม่ถูกหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเธอแอบหลงรักท่านประธานสุดหล่อตรงหน้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ตอนที่ 3คืนแรกรักแต่กลับเหมือนใจสลายคุ้มขวัญไม่รู้ตัวว่าเผลอปล่อยใจคิดกับเจ้านายมากเกินกว่าความสัมพันธ์ในที่ทำงานไปตั้งแต่เมื่อไหร่มารู้ตัวอีกทีหญิงสาวก็หลงรักเจ้านายของเธอไปแล้ว ตำแหน่งเลขาทำให้เธอและพิรภพต้องออกไปทำงานด้วยกันที่ต่างจังหวัดแทบจะทุกอาทิตย์ การที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองได้กินข้าวร่วมกันไปเที่ยวหยอกล้อพูดจาปรึกษาในปัญหาต่าง ๆ ด้วยกันบ่อยครั้งทำให้ความสนิทสนมจากที่คุ้มขวัญเคยคิดว่าเธอสามารถควบคุมมันได้ตอนนี้หัวใจของเธอมันมอบให้เขาไปอย่างไม่รู้ตัวพิรภพเองก็รู้สึกเหมือนว่าทุกวันนี้เลขาของเขากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปเสียแล้วนอกจากเวลาที่ต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดด้วยกันบ่อยครั้งที่ถึงแม้อยู่ในกรุงเทพฯชายหนุ่มก็ยังคงไปไหนมาไหนนอกเวลางานกับเลขาส่วนตัวเสมอจากที่สนใจว่าคนอื่นจะมองเช่นไรตอนนี้พิรภพก็ไม่สนใจแล้วเพราะเขารู้สึกว่าความสุขของการได้อยู่กับคุ้มขวัญมีค่ามากกว่าจะสนใจสายตาของพนักงานคนอื่น“จะไม่ชวนผมขึ้นไปบนห้องคุณบ้างเลยหรือครับ”พิรภพมาส่งคุ้มขวัญที่คอนโดของเธอแทบจะเกือบทุกวันแต่ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ฝ่ายหญิงจะเอ่ยปากชวนให้ท่านประธานบริษัทมีโอกาสได้ขึ้นไปนั่งเล่นที่
“เสาร์นี้เราต้องไปภูเก็ตใช่ไหมคะฉันยังไม่ได้เก็บกระเป๋าเลยแล้วบอสล่ะเตรียมตัวหรือยัง”สาวน้อยพยายามเปลี่ยนเรื่องพูด เธอไม่ต้องการให้เขาหยอดคำหวานเธออีกต่อไปเพราะตอนนี้เธอรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆจิตใจของเธอมันสั่นจนเธอควบคุมตัวเองไม่ได้ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่กำลังเกิดมันเรียกว่าความรักหรือเปล่าเพราะคุ้มขวัญไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนไม่ว่าจะกลับผู้ชายคนไหนก็ตาม“คุณทำให้ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปทำงานต่างจังหวัดไม่ใช่เพราะงานแต่เป็นเพราะผมจะมีโอกาสได้อยู่กับคุณทั้งวันเกือบทั้งคืนแต่ผมคงมีความสุขมากกว่านี้ถ้าเช้ามาเมื่อผมลืมตาตื่นได้เห็นคุณนอนอยู่ข้าง ๆ ”ท่านประธานสุดหล่อไม่ใช่แค่เพียงหยอดคำหวานมือหนายกขึ้นลูบไล้เอวคอดของหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ ก่อนจะเลื้อยขึ้นมาตามสีข้างค่อย ๆ ไต่ระดับลงมาใกล้กับอกอวบ“ดึกแล้วคุณกลับดีกว่า พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องตื่นสาย”คุ้มขวัญพยายามที่จะผลักเจ้านายให้ออกไปให้ห่างจากเธอไม่ใช่เพราะเธอไม่รู้สึกดีกับสัมผัสที่เขามอบให้แต่เธอรู้ตัวว่ามันเป็นความสุขที่อันตรายเพราะตอนนี้หัวใจของเธอเริ่มไม่ค่อยทำตามสมองที่กำลังรวบรวมว่าอะไรผิดอะไรถูกหรืออะไรสมควรไม่สมควรเธอกำลังจะปล่อ
ตอนที่ 1ครั้งแรกที่ไม่ประทับใจบริษัทใหญ่ใจกลางเมืองหลวงวันนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายเพราะทางบริษัทเปิดรับสมัครตำแหน่งเลขาท่านประธานซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถือว่าได้เงินเดือนในระดับที่สูงนอกจากคนข้างนอกแล้วพนักงานเก่า ๆ หลายคนของบริษัทก็เลือกที่จะมาลงสมัครในตำแหน่งนี้ด้วย“คุณยุวดีดูแล้วคนที่มาสมัครมีจำนวนมากถ้าอย่างไรผมฝากคุณช่วยคัดกรองก่อนที่จะส่งรายชื่อมาให้ผมด้วยนะครับ”พิรภพตั้งใจจะสัมภาษณ์และพิจารณาพนักงานในตำแหน่งนี้ด้วยตัวเองเพราะคนที่จะมาเป็นเลขาจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับเขามากท่านประธานจึงมองเห็นว่าคงไม่มีใครเลือกสรรคนได้ดีเท่ากับตัวเขาเองแต่ด้วยจากจำนวนของคนที่มาสมัครมีมากกว่าที่เขาคิดไว้ ท่านประธานจึงอยากให้อดีตเลขาช่วยคัดกรองมาก่อนอีกทีเพื่อที่ตัวเขาจะได้ใช้เวลาในการคัดกรองแค่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น“ได้ค่ะ...เดี๋ยวฉันจะคัดเลือกเฉพาะคนที่น่าสนใจส่งไปให้ท่านประธานสัมภาษณ์อีกทีรับรองว่าภายในพรุ่งนี้รายชื่อจะถูกเอาไปวางที่โต๊ะตามกำหนดค่ะ”ยุวดีเคยทำงานในตำแหน่งเลขาของพิรภพมาก่อนแต่เนื่องจากตอนนี้เธอเพิ่งคลอดลูกได้เพียงแค่ไม่กี่เดือนและพิรภพมองเห็นว่าการที่เธอมีลูกอ่อนควรต้อง
คุ้มขวัญถึงกับพูดไม่ออกเสียงตะกุกตะกักมีความหวาดกลัวและไม่มั่นใจอยู่ในนั้นจะไม่ให้เธอรู้สึกแบบนั้นได้อย่างไรในเมื่อผู้ชายตรงหน้าคือคนที่เธอเพิ่งจะทำปากดีใส่เขามาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา“ยินดีนะครับที่เราได้เจอกันอีกครั้ง”พิรภพยกหลังออกจากพนักเก้าอี้นั่งชันข้อศอกขึ้นสองมือกุมกันส่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูเจ้าเล่ห์ให้กับหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางของคนที่กำลังถือไพ่เหนือกว่า“คุณคงไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรแล้วใช่ไหมคะเอาเป็นว่าฉันเข้าใจถ้าคุณจะไม่รับฉันเข้าเป็นเลขแต่อยากจะบอกคุณว่าทุกคำที่ฉันพูดมันถูกต้อง คุณไม่ควรจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวแบบนั้นถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะเป็นของคุณก็ตามแต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้พลังงานทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แบบไหนก็ได้เพียงเพราะมีเงินจ่าย.... ขอบคุณนะคะที่ให้โอกาสฉันได้มาถึงขั้นตอนสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ฉันลาล่ะค่ะ”หญิงสาวในชุดทำงานที่เป็นชุดเดียวและชุดแรกของเธอลุกขึ้นยกมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทางเหมือนคนที่กำลังสิ้นหวังแต่ก็ยังมีความมั่นใจในสิ่งที่พูดอยู่ในที“หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะครับ”ท่านประธานบริษัทผู้ตามหลังก่อนที่คุณขวัญจะเปิดประตูห้องและเดิน
ตอนที่ 2จิ้มจุ่มร้านประจำของเรา“ยินดีด้วยนะจ๊ะ ท่านประธานให้พี่โทรตามเราให้เข้ามาทำงานได้เลยในวันพรุ่งนี้”ปลายสายโทรมาด้วยความดีใจจึงยังไม่ทันได้แนะนำตัวเพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้ว่าคนที่โทรมาเป็นใคร“ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าโทรมาจากที่ไหนและต้องการคุยกับใครคะ”คุ้มขวัญถามออกไปตรง ๆ เพราะตอนนี้เธอเพิ่งจะตื่นนอนยังคงงัวเงียและจำไม่ได้ว่าเสียงของคนที่โทรมาคือใครที่สำคัญเธอได้ไปเขียนใบสมัครงานไว้หลายที่ถึงแม้ว่าจะมีเพียงที่เดียวที่เรียกเธอสัมภาษณ์ก็ตาม“พี่ต้องขอโทษทีดีใจไปหน่อยเลยลืมแนะนำตัวนี่พี่ยุว่าดีโทรมาจากบริษัทที่คุ้มขวัญไปสัมภาษณ์งานมาเมื่อวานพี่ยินดีด้วยท่านประธานบริษัทรับเธอเข้าทำงานและอยากให้มาเริ่มงานในวันพรุ่งนี้ สะดวกใช่ไหม”คุ้มขวัญนอนหมดหวังมาทั้งคืนแต่ใครจะรู้ว่าตื่นเช้ามาเธอจะได้รับข่าวดีมีหรือที่เธอจะไม่พร้อมเพราะตอนนี้เธอต้องการทำงานให้เร็วที่สุดไม่อยากกลายเป็นคนตกงานแม้เพียงแค่วันเดียวการเริ่มงานในบริษัทใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล็กสำหรับคุ้มขวัญเพราะเธอยังไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อนและการเรียนในห้องเรียนช่างแตกต่างจากการทำงานเสียมากมายถึงแม้ตัวเธอเองจะได้ถึงเกียรตินิยมอันดับ 1 แ