มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าหรือว่า อ๋อจริงสิตอนนี้วรากรอาจเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่หายไป 555นึกออกแล้ว นางรอง (หรือตัวโกงวะ เรื่องนี้ไม่ยักกะมีตัวโกง) ในเมื่อเคยคิดไว้แค่พล็อตเขียนไปไม่กี่บรรทัดแค่ตอนที่นางเอกพบกับพระเอกที่ป่าไผ่ ต่อจากนั้นยังไม่ได้คิดต่อไป พระเอกเคยช่วยนางเอกไว้ ว่าแต่ก็สมบูรณ์แบบแล้วนี่ หลวนคุนช่วยอิงหลิวแล้วพระรองกับนางรอง ยังไม่ได้คิดว่าต้องเป็นใครอย่างไร แต่ตามบทพระรองต้องซัพพอตนางเอกนี่
หลวนคุนยืนกอดอกมองอยู่ห่างๆ
“ชินอี้อีกอย่างข้าอยากชวนเจ้าไปพบท่านพ่อ ...ข้าเล่าเรื่องของเจ้าให้ท่านพ่อฟังท่านพ่ออยากพบเจ้ามาก” ซวยแล้ว แซ่จางอะไรนี่ก็กุขึ้นมา
“คือๆๆ ไว้ เจอกันวันเทศกาลไหว้พระจันทร์เลยทีเดียวดีกว่า” หลิ่งจือยิ้มบริสุทธิ์
“แล้วแต่เจ้าเลย แค่เจ้ายอมไปตำหนักองค์รัชทายาทพร้อมข้าก็ดีใจแล้ว” หาทึกทักเอาเองใครจะไปพร้อมแกเห็ดหลินจือ
“นางเป็นคนของบ้านข้า เช่นนั้นต้องไปพร้อมข้าถึงจะถูก” มาอีกคน เฮ้อ#_#เวงๆๆ ทำอย่างไรดีอุปาทานหมู่หรือเปล่าสงสัยต้องลดบทบาทตัวเองลงบ้าง
“คือข้าไม่สบาย เป็นลมดีกว่า” หลิ่งจือรับร่างบางไว้ทัน สบตา หวานเยิ้ม โอ้มายก๊อด วรากรหลับตาปี้ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย
หลวนคุน ถือวิสาสะซ้อนร่างของวรากรไว้ในอ้อมแขน
“ข้าดูแลนางเองเจ้ากลับได้แล้วหลิ่งจือ”หลิ่งจือหน้าเปลี่ยนสีเหมือนจะ เกรงใจหลวนคุนอยู่ไม่น้อย
“อย่าเพิ่งแกล้งเป็นลมข้ามีเรื่องคุยกับเจ้าแม่นางชินอี้” @_@รู้ทัน วรากรแอบลืมตาข้างซ้ายมองคนอุ้ม ร่างบางแนบชิดอกกว้างอุ้มเดินลิ่วเหมือนกับตัววรากรเบาเหลือเกินวางลงบนเก้าอี้
“ไม่มีใครแล้ว ข้ามีเรื่องจะถาม” จะมีตบจูบไหมหากตอบอะไรแล้วทำเขาโมโห ไม่ไม่ๆๆอย่ามโนไปเองเราเป็นแค่คนเขียนนิยายเท่านั้นไม่มีบทเลิฟซีนหรือบท ฟินๆให้
“เชิญว่ามา”
“หมา ขนปุยสีขาว เจ้าเจอมันที่ไหน”
“อ๋อมันหายไปหรือ ท่านก็ตามหามันหรือข้าเจอมันที่หน้าห้องพักของข้า”
“จิ้งจอกเก้าหาง”
“หมาจิ้งจอก ข้าเห็นมันมีหางเดียว” หลวนคุนกำลังคิด
“ไม่ใช่หมา จิ้งจอกเก้าหางแล้วที่เจ้าเห็นมันมีหางเดียวเพราะ ตะบะยังไม่แก่กล้า” ภาพความทรงจำในอดีต เมื่อตามสืบคดีกับอาจารย์ในป่าไผ่แห่งนั้นหลวนคุนให้การช่วยเหลือลูกจิ้งจอกสีขาวขนปุกปุย ที่บาดเจ็บที่ขาโดยการฉีกเสื้อพันแผลให้มัน แล้วซ่อนมันไว้ไม่ให้อาจารย์มาพบเข้า หรือว่าเป็นเขาที่ผิดพลาดตอนนี้จิ้งจอกตัวนั้นเติบโตตะบะแก่กล้า ออกควักหัวใจผู้คนให้ล้มตายเพื่อเพิ่มตะบะให้ตัวเอง แปลงร่างกลายเป็นคนถาวรยากในการติดตามเหมือนที่อาจารย์เคยกล่าวไว้
“เจ้าระหว่างนี้ ห้ามออกไปไหนก่อนได้รับอนุญาตแม่นางชินอี้”
“ทำไม”
“เจ้ายิ่งจะไปแหวกหญ้าให้งูตื่น ข้าต้องการจับ จิ้งจอกเก้าหาง”
“ท่านมโนหรือเปล่าจิ้งจอกเก้าหางอะไรสุนัขพันธ์ุเจแปนนิส สปิตซ์ (japanese spitz) ข้าจะจับมันมาพิสูจน์ให้ท่านดู” หลวนคุนขมวดคิ้ว ส่ายหน้า
“เชื่อข้าแม่นางชินอี้ แม้แม่นางจะดูเข้มแข็งแต่ทว่าเรื่องราว แบบนี้ปล่อยให้ ข้าหลวนคุนจัดการแทน” เหมือนจะเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
“ก็ได้ แต่จริงๆนะ หมาตัวนั้นน่ารักมากทีเดียวข้าอยากกอดมัน ขนนุ่มปุกปุยน่ารักที่ซู้ดด” ^_^หลวนคุนยิ้ม เมื่อเห็นท่าทางของ วรากรที่เหมือนจะชอบสัตว์เลี้ยง
“ข้าสัญญาหาก ข้าจับมันได้และมันไม่ใช่จิ้งจอกเก้าหางข้ายินดีมอบมัน ให้เจ้าชินอี้” วรากรยิ้มตาหยีหลวนคุนเอื้อมมือเหมือนจะมาลูบหัวแต่กลับหดมือกลับ ใช้มือเกาหัวแก้เก้อ
“ข้าสัญญากับ อิงหลิวว่าจะพานางไปพายเรือที่สระบัว เจ้าไปด้วยไหม”
“ไม่ไม่ไม่ ดีเลย ท่านทั้งสองไปเถอะบรรยากาศดีสระบัว” *_*
หลวนคุนก้มหน้าใช้เท้าเขี่ยพื้นดินไปมาเหมือนกำลังเขินเมื่อเอ่ยถึงอิงหลิวหากวรากรมองไม่ผิด
ยิ้มมุมปาก555
“ท่าน ชอบอิงหลิวใช่หรือไม่” หลวนคุนเบิกตากว้าง
“บอกมาเถอะไม่ต้องอาย ข้าช่วยให้ท่านสมหวัง”
“เช่นไร”
“ก็เดี๋ยวให้ข้านอนคิดสักวันสองวัน แต่ตอนนี้ ไปชวนนางพายเรือก่อน” หลวนคุนยิ้มบางๆ ก่อนจะปลีกตัวออกไปวรากรคิดหนักก่อนจะ ตะโกนตามหลัง
“ให้ข้าไปพายเรือด้วยได้ไหม” หลวนคุนยิ้มเก๋เดินถอยหลังจากไป
วรากรนั่งรอ อิงหลิวกับหลวนคุนที่ท่าน้ำบนศาลา หลวนคุนมาถึงก่อน
ลงไปในเรือไม่พูดไม่จา วรากรมองหลวนคุนวิดน้ำออกจากเรือไม้ มองเลยไปยังฝักบัวน่ากินพิลึก อิงหลิวในชุดสีเหลืองส่วางสดใสบางเบา อิงหลิวช่างเหมาะกับเสื้อผ้าแบบนี้เสียจริงเหมือนหญิงงามในภาพวาดพู่กันจีนไม่มีผิดเพี้ยน หลวนคุนมองอิงหลิว ก่อนจะเชื้อเชิญ
“แม่นางทั้งสองเชิญ” หลวนคุนนั่งท้ายเรืออิงหลิวนั่งกลางหันหน้าให้หลวนคุนวรากรนั่งข้างหลังอิงหลิวหันหน้าไปทางเดียวกัน มองเห็นหน้าหลวนคุนได้ชัดเจนหลวนคุนสบตา อิงหลิว ส่งสายตาหวาน วรากรเสมองทางอื่น
เมื่อเรือถูกพายโดยหลวนคุนมาจนถึง กลางสระน้ำบทสนทนาของคนทั้งสามที่แทบไม่มี วรากรลุกขึ้นชี้มือไปที่ฝักบัวฝักใหญ่ เรือเริ่มโคลงเคลง
“แม่นางชินอี้นั่งลง” หลวนคุนส่งเสียงเตือน
“ข้าอยากได้ฝักบัว” เอื้อมมือคว้าฝักบัวที่อยู่ไกลเกินเอื้อม
“นั่งลง ๆ” หลวนคุนตะโกนลั่น อิงหลิวหน้าเสียจับขอบเรือไว้ด้วยมือทั้งสอง วรากรจงใจเหยียบเรือข้างหนึ่งให้เอียงก่อนที่เรือจะคว่ำ คนทั้งสามร่วงลงสู่พื้นน้ำที่เย็นเฉียบ หลวนอิงปล่อยไม้พายมองหาสองสาว วรากรกระหยิ่มใจใจเดี๋ยวต้องไปช่วยอิงหลิวตามแผน วรากรพยายามว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง อิงหลิวว่ายน้ำไวมากจนถึงฝั่งไปแล้ว แต่วรากร ….กรรมดันเป็นตะคริวที่ขาเพราะน้ำเย็นจัด จมลงสู่พื้นน้ำพยายาม ที่จะโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำแต่ยิ่งดำดิ่งลงไปเกือบจะหมดลมหายใจ ภาพที่ตัวเองตกบันไดลงไปจากชั้นสอง ข้างล่างนั้นน้องชายเขย่าร่างที่ไม่ไหวติงด้วยแรงทั้งหมด กิริยาของน้องชายคือตะโกนเสียงดังลั่น แต่วรากรไม่ได้ยินเสียงแม้แต่น้อยแม่กับพ่อที่พากันวิ่งมาดูวรากร อยู่ๆน้ำตาก็ไหลเกือบจะหมดลมนั่นเองหลวนคุน ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ใบหน้า รางเลือนในน้ำนั่น พยายามจะเข้ามาหาวรากร สติดับวูบลงไปทันทีกลืนน้ำเข้าไปเต็มกระเพาะริมฝีปากรับรู้ถึงการถูกสัมผัส ลมหายใจอุ่นๆ ถูกส่งผ่านมายังริมฝีปาก หลวนคุนกอดดึงร่างขึ้นสู่ผิวน้ำเย็นยะเยือก สะดุ้งสุดตัว รู้สึกแน่นท้องกินน้ำจนอิ่ม พยายามจะอ้วกแต่ไม่มีอะไรออกมา อิงหลิวลูบหลังลูบไหล หลวนคุนยืนมองผ้าห่มผืนหนา
“พี่สาวสี โอโรสขับผิวพี่สาว หรือว่าสีแดงเหมือนข้าดี สีเหลืองไหมรับรอง หนุ่มๆ มองกันจนตาไม่กระพริบ”“555มองเพราะสมเพช นะสิคงคิดว่าทำไมขี้เหร่ขนาดนี้”“ไม่นะ อย่างน้อยตอนนี้บ่าวก็บอกว่าหลิ่งจือมายืนรอพี่สาวหน้าบ้าน” วรากรยิ้มจางๆหลวนคุนยืนอยู่ข้างนอกนั้น พร้อมกับกล้องไม้ใบใหญ่ ยืนเคาะประตูทั้งๆที่มันเปิดอยู่วรากร เพียงแค่เหลือบตามองก่อนจะแกล้งเดิน ไปหาเลือกชุด“ข้าให้เจ้าแม่นางชินอี้สวมมันเสียวังหลวงหาใช่ที่จะแต่งกายตามใจ” อิงหลิวเดินมารับ หลวนคุนหันหลังกลับทันที อิงหลิวถือวิสาสะเปิดกล่องออกดู เสื้อสีชมพูปนขาวบางเบางดงาม อิงหลิวทำตาโต"พี่สาว สวยจริง ๆ คุณชายหลวนคุนมีน้ำใจกับเราสองคนเหลือเกิน” วรากรยิ้ม^_^ไม่มีบทฮาๆ ในเมื่อเข้าหน้าเขาไม่ติด อิงหลิวเดินมาถอดชุดของ วรากรออกสวมชุดใหม่ให้ทันทีใครอีกคนในกระจก ใบหน้าสวยใส ริมฝีปากสีเดียวกับชุด ผมถูกกล้าครึ่งหัวปล่อย ด้านหลังยาวสลวย อิงหลิวค่อยๆ ปักปิ่นหยกสีแดงให้ หันตัววรากรไปมา“พี่สาวสวยที่สุดเลยคืนนี้ ข้าน้อยขอคารวะ” อิงหลิวย่อตัวทีเล่นทีจริง วรากรยิ้ม“สู้เจ้าได้หรือน้องสาว ประเมินข้าสูงไปแล้ว”หัวเราะพร้อมกัน“หากความกังวลในใบหน้าหายไป
สองหนุ่มที่เหลือมองตาไม่กะพริบ วรากรดึงมือออกจากมือองค์รัชทายาท แต่กลับดึงไม่ออกก็เมื่ออีกคนกำมือไว้แน่นขนาดนั้นดึงมือจนเซไปซบอกกว้าง (มาเหนือเมฆกว่าคนอื่น) @_@“เช่นไรแม่นางซินอี้” ยื่นหน้ามาใกล้ เจ้างดงามเช่นนี้จึงรังเกียจจะเดินเคียงข้างข้าเช่นนั้นหรือ”วรากรส่ายหน้าคิดหาคำราชาศัพท์ เออไม่เห็นใครเขาพูด จำได้แต่เฉินเมอ ตกใจทีไรเฉินเมอทุกที“พวกท่านเห็นไหม หญิงงามแคว้นเราไม่มีใครเหมือนนางสักคนไม่พอใจข้าถึงกับไม่พูดกับข้าไปเลยทีเดียวเชียว” หลิ่งจือยิ้มเจื่อนๆ หลวนคุนมองสบตาวรากรแต่เพียงแวบเดียว“ข้าไม่ใช่คนในแคว้นท่าน เช่นนั้นท่านก็มิใช่ไทจื่อของข้าเช่นกันเหตุใดต้องคอยดีกับท่านด้วย”“5555นางช่างกล้าเช่นนั้นข้าให้ใครพาตัวนาง ไปส่งถึงห้องบรรทมข้าเลยดีไหม จะได้รู้เสียทีว่าองค์รัชทายาทของแคว้นเราทำอะไรได้บ้าง” &_&วรากร เริ่มหัวเสียคน คนนี้ทำให้หัวเสียได้ดีจริงจะรับมืออย่างไร มองหลวนคุนแต่เขากลับเสมองเสียทางอื่น หลิ่งจือประสานมือ“ไท่จือในฐานะที่นางมากับหลิ่งจือ หลิ่งจือจึงขออภัยแทนแม่นางชินอี้ด้วย”“555คนอย่างข้า หากอยากได้สิ่งใดแม้ยากเย็นแสนเข็ญก็ไม่อาจปล่อยทิ้งไปได้ ได้ข้ายอมลดตัวลงมาเทีย
“ในโถงกว้างอาหารเลิศรสมากมาย วรากรตื่นตาตื่นใจกลับ ของกินที่หลากหลาย ทำไมมันเยอะขนาดนี้กินไม่กี่คนเองสะลัดมือไท่จื่อออก ดึงมืออิงหลิวไปหาของกินด้วยกัน อิงหลิวสงวนท่าทีในตอนแรกต่อมาก็ไม่ต่างจากวรากร อิ่มแปร้“แม่นางชินอี้ สุราเลิศรสนี้ข้าดื่มให้แม่นาง” ไทจื่อ ส่งจอกสุราให้วรากรเหลือบมองหลวนคุนที่พยักหน้าให้รับไว้ วรากรรับมาดื่มรวดเดียวหมด 555หอมหวานที่ซู๊ดดเลย เหล้าอะไรจะอร่อยขนาดนั้น“อร่อยจัง”“อีกจอกเป็นไง” ไทจื่อให้ขันทีรินให้อีกจอก วรากรรับมาดื่มอย่างว่าง่าย“อิงหลิว เจ้าดำเนินแผนการไปถึงไหน” ฮองเฮาที่มีใบหน้างดงาม ไม่ต่างจากสาวๆ ทั้งที่หากรวมอายุแล้วไม่น้อยกว่าพันปี“ท่านแม่ลูกๆๆๆ กำลัง หาทางเข้าใกล้องค์รัชทายาท”“ดี มาก เจ้าทำได้ดีตำแหน่งราชินี ของเผ่าจิ้งจอกเราเป็นเจ้าที่ได้สืบทอด หากเจ้าจะให้ข้ามั่นใจมอบมันให้เจ้าเจ้าต้องได้ตำแหน่งไทจื่อเฟย เช่นนั้นถึงจะมั่นคง”“ท่านแม่องค์รัชทายาท มีชายาหลายคนอยู่แล้ว อิงหลิวจะมีทางทำให้ตัวเองได้เป็นไทจื่อเฟยได้อย่างไร”“ทุกอย่างที่พร่ำสอนอย่างไรละอิงหลิว ต้องทุกอย่างรวมมันเข้าด้วยกันจะสามารถทำสำเร็จได้”“ท่านแม่อิงหลิว”“หากลังเล เจ้าก็จะทำใ
“แม่นางชินอี้ไท่จือตั้งใจมอบให้แม่นางรับไว้เถอะ”หลิ่งจือ สำทับ วรากรหยิบเอาของที่เล็กที่สุดในนั้นตุ้มหูมุกสีขาว มากำไว้ไท่จือมองวรากรด้วยสายตาชื่นชม“แม่นางชินอี้รสนิยมการเลือกของของแม่นางไม่ธรรมดาสิ่งนั้นคือไข่มุกน้ำจืดที่หายาก กว่าจะเติบโตต้องใช้เวลายาวนานจึงทรงคุณค่า” วรากรเบิกตาโพลงโห พลาดอีกแล้วคนที่ชอบทำอะไรก็ใช่“ไท่จืออิงหลิว อยากได้สักชิ้นไท่จือเลือกให้อิงหลิว” ไม่อยากพูดว่าอิงหลิว แต่ก็นะอะไรทำให้อิงหลิวเปลี่ยนไปขนาดนี้ ไท่จื่อเลือกหยิบสร้อยลูกปัดหินสีสวยงามส่งให้อิงหลิว อิงหลิวรับมา ทำท่าจะสวมทันทีไท่จื่อจึงต้องสวมให้อิงหลิวด้วยความเป็นสุภาพบุรุษวรากรเดินหลบออกมา เฮ้อเริ่มไม่อยากอยู่ที่นี่ละ กลัวเหลือเกินกลัวใจตัวเองจะ อิจฉาอิงหลิวอิจฉาอะไรอิจฉาความกล้าของอิงหลิวรู้สึกมึนหัว นิดหน่อยลุกขึ้นยืนก็ดันจะล้ม หลิ่งจืออยู่ใกล้คว้าตัวไว้ทันเผลอสบตาที่จริงใจนั้น นี่ก็อีกคนทำใจไหวยวบสายตาบ่งบอกอะไรบางอย่างทำเอาใจสาวไหวเอนเหมือนจะนึกได้ว่ามันทำให้ใจสั่น ทำท่าจะปล่อยวรากรให้ไปกองกับพื้นวรากรเกาะแขนไว้แน่น หลิ่งจือยิ้มหล่อฉุดแขนวรกรขึ้นมา“แม่นางชิ้นอี้ คงจะเริ่มเมาแล้ว ข้าอนุญาตให้แ
“บอกข้าสิชินอี้ทำไมจึงผลักไสข้าให้อิงหลิว” จะบอกอย่างไรว่าตัวเองเป็นแค่นักเขียนแล้วเรื่องนี้ถูกกำหนดตัวพระเอกนางเอกไว้แล้ว หลวนคุนก้มลงหมายจะจูบวรากรอีกครั้ง“หลวนคุนท่านได้โปรดปล่อยข้า” ดันอกกว้างออกแต่ก็ไม่ได้มีแรงมากมายขนาดนั้น หมดเรี่ยวหมดแรง“ปล่อยก็ต่อเมื่อเจ้าพูดความจริง มิใช่แสร้งทำตลกไปวันๆ ให้ คนอื่นสนุกแต่บางอย่างในใจเจ้าข้ามองไม่ออกจริงๆ”“นั้นอย่างไรละท่านคิดมากไปเอง” ดึงร่างของวรากรมาเผชิญหน้าแววตาอ้อนวอน“ชินอี้ ข้าไม่เคยเป็นเช่นนี้”“รู้แล้วง่า ท่านเมาคนเราเวลาเมาจะ..งอแงแล้วก็อารมณ์อ่อนไหว” วรากร พยายามหาทางออก แต่หลวนคุนกลับกอดแน่น จูบวาบหวามที่เขาบรรจงแสดงให้วรากรเข้าใจ หัวใจของเขา ถอนริมฝีปากออกยากเย็นวรากรเซแซ่ดๆ อย่างนี้เองเวลาอ่านเจอในนิยายเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเซ เซเพราะฤทธิ์พิศวาสมันจุกอก ตัวชา เสียวซ่านทำให้หมดเรี่ยวแรงขัดขืน“ทำไมเจ้าต้องเสแสร้ง ในเมื่อแววตาของเจ้าบอกว่าคิดเหมือนกันกับข้า” ฮ้า...นายคิดเหมือนฉันไหมบีหนึ่ง ขำไม่ออกคนเมาไม่พูดพล่ามซ้อนร่างบางของวรากรไว้ในอ้อมแขนกำลังจะอุ้มเข้าไปในห้อง วรากรดิ้นรนแต่จะสู้แรงชายได้หรือ หวยมาออกที่เธอแทนที่จะเป็นอิง
“ไม่ต้องมากพิธีข้าร้อนใจ”“เรื่องการตายของเหยื่อที่ถูกควักหัวใจเมื่อคืน”“เปล่าเรื่องนั้นคนตายไปแล้วยังคงต้องสืบกันต่อไป แต่ที่ชินอี้ลืม ตุ้มหูมุกไว้นางไม่ให้ความสำคัญกับของที่ข้ามอบให้นาง พวกเจ้าคิดเช่นไรนางไม่มีใจให้ข้าเช่นนั้นหรือ หรือว่ารังเกียจข้า” @_@...๑_๑ สองงง“หลวนคุนท่านอาสาถามนางให้ไท่จื่อสิ” หลิ่งจือโยนเผือกร้อนให้หลวนคุนที่ทำหน้าตาปูเลี่ยนๆ“ไม่ต้องไม่ต้องข้ากลัวคำตอบ ที่ได้จะไม่เป็นดั่งใจหวังวันนี้เลยตั้งใจขอเสด็จพ่อและฮองเฮามาที่บ้านเจ้า เจรจากับนางดูท่าทีนาง และปรึกษากับพวกเจ้าเรื่องเหยื่อที่ถูกควักหัวใจไปด้วย” หลวนคุนทำสีหน้าแปลกไปเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีอกหักใช่ไหมแบบนี้“องค์รัชทายาทให้ข้าเชิญแม่นางชินอี้จะดีไหม” หลิ่งจือดึงชายเสื้อหลวนคุนไว้เหมือนจะบอกว่าอย่าเชียวนะของแบบนี้ใครดีใครได้ ไท่จือก็ไท่จือเถอะอิงหลิวยกน้ำชามาเสิร์ฟวันนี้นางแต่งกายด้วยสี ชมพูขาวสวยอ่อนหวานแต่ก็เงิบในเมื่อสามหนุ่ม มัวแต่หารือกันเรื่อง เหยื่อเคราะห์ร้ายวรากร นั่งริมศาลามองใบหลิวที่ร่วงลงสู่ผิวน้ำ เหมือนกับว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ความจริงมันก็สวยไปอีกแบบอิงหลิวนั่งลงข้างๆ“พี่สาว คิดอะไรอยู่ไม่ทร
วรากร วิ่งออกจากห้องนอนด้วยความเร่งรีบมัวแต่เขียนนิยาย วันนี้มีการลดราคาหนังสือ เที่ยงวันยันเที่ยงคืน แต่ประเด็นคือเธอดันจำวันผิดนี่ก็เหลืออีกไม่ถึงสองชั่วโมงจะหมดเวลาแล้ว คว้ากระเป่าถือวิ่งเร็วรี่ แต่ยังไม่ทันจะไปถึงไหน ก็ก้าวพลาด กลิ้งลงมาจากบันไดชั้นบนเสียงโครมคราม“โอ๊ยเจ็บจังเลย ขาหักไหมนี่” คลำขาตัวเองปรอยๆ รู้สึกเจ็บแปลบๆ กระแทกลงมาอย่างจังขนาดนั้นก้นกบพังไปแล้วม้างงงT_T ก้มลงมองขาตัวเองใช้มือบีบเบาๆ สายตานับสิบคู่มองมาที่วรากร ตอนนี้เองที่เธอรู้แล้วว่าไม่ใช่ที่บ้าน“นางเป็นใคร ใครกัน ใครเนี๊ยะ” กวาดตามองรอบๆ“เฮ้ย ที่ไหนเนี๊ยะ” ลองหลับตาดูลืมตายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนไปผู้คนที่แต่งกายด้วยชุดชาวจีนโบราณ รายล้อมรอบตัวเริ่มทะยอยเดินหายไปที่ละคนสองคน เสียงฝีเท้าม้าควบตรงเข้ามา วรากรเตรียมลุกแต่ไปไม่รอด ดันไปขว้างทางม้าแรงฉุดจากคนบนม้า ดึงร่างเล็กของวรากรลอยละลิ่วขึ้นไปนั่งบนหลังม้า“เฮ้ย” หันหน้าหันหลังร่างแนบชิดกับคนบนหลังม้าใบหน้าเฉยชาแต่หล่อลากไส้ ใครวะ@_@“เฮ้ยนี่มันพระเอกนิยายชัดๆ O_O” ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปวาด ริมฝีปากเรียวบาง คิ้วดกหนา ตาคมเข้มมือเรียวบางเหมือนผู้หญิงที่
“ไม่ต้องมากพิธีข้าร้อนใจ”“เรื่องการตายของเหยื่อที่ถูกควักหัวใจเมื่อคืน”“เปล่าเรื่องนั้นคนตายไปแล้วยังคงต้องสืบกันต่อไป แต่ที่ชินอี้ลืม ตุ้มหูมุกไว้นางไม่ให้ความสำคัญกับของที่ข้ามอบให้นาง พวกเจ้าคิดเช่นไรนางไม่มีใจให้ข้าเช่นนั้นหรือ หรือว่ารังเกียจข้า” @_@...๑_๑ สองงง“หลวนคุนท่านอาสาถามนางให้ไท่จื่อสิ” หลิ่งจือโยนเผือกร้อนให้หลวนคุนที่ทำหน้าตาปูเลี่ยนๆ“ไม่ต้องไม่ต้องข้ากลัวคำตอบ ที่ได้จะไม่เป็นดั่งใจหวังวันนี้เลยตั้งใจขอเสด็จพ่อและฮองเฮามาที่บ้านเจ้า เจรจากับนางดูท่าทีนาง และปรึกษากับพวกเจ้าเรื่องเหยื่อที่ถูกควักหัวใจไปด้วย” หลวนคุนทำสีหน้าแปลกไปเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีอกหักใช่ไหมแบบนี้“องค์รัชทายาทให้ข้าเชิญแม่นางชินอี้จะดีไหม” หลิ่งจือดึงชายเสื้อหลวนคุนไว้เหมือนจะบอกว่าอย่าเชียวนะของแบบนี้ใครดีใครได้ ไท่จือก็ไท่จือเถอะอิงหลิวยกน้ำชามาเสิร์ฟวันนี้นางแต่งกายด้วยสี ชมพูขาวสวยอ่อนหวานแต่ก็เงิบในเมื่อสามหนุ่ม มัวแต่หารือกันเรื่อง เหยื่อเคราะห์ร้ายวรากร นั่งริมศาลามองใบหลิวที่ร่วงลงสู่ผิวน้ำ เหมือนกับว่าไม่เคยเห็นมาก่อน ความจริงมันก็สวยไปอีกแบบอิงหลิวนั่งลงข้างๆ“พี่สาว คิดอะไรอยู่ไม่ทร
“บอกข้าสิชินอี้ทำไมจึงผลักไสข้าให้อิงหลิว” จะบอกอย่างไรว่าตัวเองเป็นแค่นักเขียนแล้วเรื่องนี้ถูกกำหนดตัวพระเอกนางเอกไว้แล้ว หลวนคุนก้มลงหมายจะจูบวรากรอีกครั้ง“หลวนคุนท่านได้โปรดปล่อยข้า” ดันอกกว้างออกแต่ก็ไม่ได้มีแรงมากมายขนาดนั้น หมดเรี่ยวหมดแรง“ปล่อยก็ต่อเมื่อเจ้าพูดความจริง มิใช่แสร้งทำตลกไปวันๆ ให้ คนอื่นสนุกแต่บางอย่างในใจเจ้าข้ามองไม่ออกจริงๆ”“นั้นอย่างไรละท่านคิดมากไปเอง” ดึงร่างของวรากรมาเผชิญหน้าแววตาอ้อนวอน“ชินอี้ ข้าไม่เคยเป็นเช่นนี้”“รู้แล้วง่า ท่านเมาคนเราเวลาเมาจะ..งอแงแล้วก็อารมณ์อ่อนไหว” วรากร พยายามหาทางออก แต่หลวนคุนกลับกอดแน่น จูบวาบหวามที่เขาบรรจงแสดงให้วรากรเข้าใจ หัวใจของเขา ถอนริมฝีปากออกยากเย็นวรากรเซแซ่ดๆ อย่างนี้เองเวลาอ่านเจอในนิยายเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงเซ เซเพราะฤทธิ์พิศวาสมันจุกอก ตัวชา เสียวซ่านทำให้หมดเรี่ยวแรงขัดขืน“ทำไมเจ้าต้องเสแสร้ง ในเมื่อแววตาของเจ้าบอกว่าคิดเหมือนกันกับข้า” ฮ้า...นายคิดเหมือนฉันไหมบีหนึ่ง ขำไม่ออกคนเมาไม่พูดพล่ามซ้อนร่างบางของวรากรไว้ในอ้อมแขนกำลังจะอุ้มเข้าไปในห้อง วรากรดิ้นรนแต่จะสู้แรงชายได้หรือ หวยมาออกที่เธอแทนที่จะเป็นอิง
“แม่นางชินอี้ไท่จือตั้งใจมอบให้แม่นางรับไว้เถอะ”หลิ่งจือ สำทับ วรากรหยิบเอาของที่เล็กที่สุดในนั้นตุ้มหูมุกสีขาว มากำไว้ไท่จือมองวรากรด้วยสายตาชื่นชม“แม่นางชินอี้รสนิยมการเลือกของของแม่นางไม่ธรรมดาสิ่งนั้นคือไข่มุกน้ำจืดที่หายาก กว่าจะเติบโตต้องใช้เวลายาวนานจึงทรงคุณค่า” วรากรเบิกตาโพลงโห พลาดอีกแล้วคนที่ชอบทำอะไรก็ใช่“ไท่จืออิงหลิว อยากได้สักชิ้นไท่จือเลือกให้อิงหลิว” ไม่อยากพูดว่าอิงหลิว แต่ก็นะอะไรทำให้อิงหลิวเปลี่ยนไปขนาดนี้ ไท่จื่อเลือกหยิบสร้อยลูกปัดหินสีสวยงามส่งให้อิงหลิว อิงหลิวรับมา ทำท่าจะสวมทันทีไท่จื่อจึงต้องสวมให้อิงหลิวด้วยความเป็นสุภาพบุรุษวรากรเดินหลบออกมา เฮ้อเริ่มไม่อยากอยู่ที่นี่ละ กลัวเหลือเกินกลัวใจตัวเองจะ อิจฉาอิงหลิวอิจฉาอะไรอิจฉาความกล้าของอิงหลิวรู้สึกมึนหัว นิดหน่อยลุกขึ้นยืนก็ดันจะล้ม หลิ่งจืออยู่ใกล้คว้าตัวไว้ทันเผลอสบตาที่จริงใจนั้น นี่ก็อีกคนทำใจไหวยวบสายตาบ่งบอกอะไรบางอย่างทำเอาใจสาวไหวเอนเหมือนจะนึกได้ว่ามันทำให้ใจสั่น ทำท่าจะปล่อยวรากรให้ไปกองกับพื้นวรากรเกาะแขนไว้แน่น หลิ่งจือยิ้มหล่อฉุดแขนวรกรขึ้นมา“แม่นางชิ้นอี้ คงจะเริ่มเมาแล้ว ข้าอนุญาตให้แ
“ในโถงกว้างอาหารเลิศรสมากมาย วรากรตื่นตาตื่นใจกลับ ของกินที่หลากหลาย ทำไมมันเยอะขนาดนี้กินไม่กี่คนเองสะลัดมือไท่จื่อออก ดึงมืออิงหลิวไปหาของกินด้วยกัน อิงหลิวสงวนท่าทีในตอนแรกต่อมาก็ไม่ต่างจากวรากร อิ่มแปร้“แม่นางชินอี้ สุราเลิศรสนี้ข้าดื่มให้แม่นาง” ไทจื่อ ส่งจอกสุราให้วรากรเหลือบมองหลวนคุนที่พยักหน้าให้รับไว้ วรากรรับมาดื่มรวดเดียวหมด 555หอมหวานที่ซู๊ดดเลย เหล้าอะไรจะอร่อยขนาดนั้น“อร่อยจัง”“อีกจอกเป็นไง” ไทจื่อให้ขันทีรินให้อีกจอก วรากรรับมาดื่มอย่างว่าง่าย“อิงหลิว เจ้าดำเนินแผนการไปถึงไหน” ฮองเฮาที่มีใบหน้างดงาม ไม่ต่างจากสาวๆ ทั้งที่หากรวมอายุแล้วไม่น้อยกว่าพันปี“ท่านแม่ลูกๆๆๆ กำลัง หาทางเข้าใกล้องค์รัชทายาท”“ดี มาก เจ้าทำได้ดีตำแหน่งราชินี ของเผ่าจิ้งจอกเราเป็นเจ้าที่ได้สืบทอด หากเจ้าจะให้ข้ามั่นใจมอบมันให้เจ้าเจ้าต้องได้ตำแหน่งไทจื่อเฟย เช่นนั้นถึงจะมั่นคง”“ท่านแม่องค์รัชทายาท มีชายาหลายคนอยู่แล้ว อิงหลิวจะมีทางทำให้ตัวเองได้เป็นไทจื่อเฟยได้อย่างไร”“ทุกอย่างที่พร่ำสอนอย่างไรละอิงหลิว ต้องทุกอย่างรวมมันเข้าด้วยกันจะสามารถทำสำเร็จได้”“ท่านแม่อิงหลิว”“หากลังเล เจ้าก็จะทำใ
สองหนุ่มที่เหลือมองตาไม่กะพริบ วรากรดึงมือออกจากมือองค์รัชทายาท แต่กลับดึงไม่ออกก็เมื่ออีกคนกำมือไว้แน่นขนาดนั้นดึงมือจนเซไปซบอกกว้าง (มาเหนือเมฆกว่าคนอื่น) @_@“เช่นไรแม่นางซินอี้” ยื่นหน้ามาใกล้ เจ้างดงามเช่นนี้จึงรังเกียจจะเดินเคียงข้างข้าเช่นนั้นหรือ”วรากรส่ายหน้าคิดหาคำราชาศัพท์ เออไม่เห็นใครเขาพูด จำได้แต่เฉินเมอ ตกใจทีไรเฉินเมอทุกที“พวกท่านเห็นไหม หญิงงามแคว้นเราไม่มีใครเหมือนนางสักคนไม่พอใจข้าถึงกับไม่พูดกับข้าไปเลยทีเดียวเชียว” หลิ่งจือยิ้มเจื่อนๆ หลวนคุนมองสบตาวรากรแต่เพียงแวบเดียว“ข้าไม่ใช่คนในแคว้นท่าน เช่นนั้นท่านก็มิใช่ไทจื่อของข้าเช่นกันเหตุใดต้องคอยดีกับท่านด้วย”“5555นางช่างกล้าเช่นนั้นข้าให้ใครพาตัวนาง ไปส่งถึงห้องบรรทมข้าเลยดีไหม จะได้รู้เสียทีว่าองค์รัชทายาทของแคว้นเราทำอะไรได้บ้าง” &_&วรากร เริ่มหัวเสียคน คนนี้ทำให้หัวเสียได้ดีจริงจะรับมืออย่างไร มองหลวนคุนแต่เขากลับเสมองเสียทางอื่น หลิ่งจือประสานมือ“ไท่จือในฐานะที่นางมากับหลิ่งจือ หลิ่งจือจึงขออภัยแทนแม่นางชินอี้ด้วย”“555คนอย่างข้า หากอยากได้สิ่งใดแม้ยากเย็นแสนเข็ญก็ไม่อาจปล่อยทิ้งไปได้ ได้ข้ายอมลดตัวลงมาเทีย
“พี่สาวสี โอโรสขับผิวพี่สาว หรือว่าสีแดงเหมือนข้าดี สีเหลืองไหมรับรอง หนุ่มๆ มองกันจนตาไม่กระพริบ”“555มองเพราะสมเพช นะสิคงคิดว่าทำไมขี้เหร่ขนาดนี้”“ไม่นะ อย่างน้อยตอนนี้บ่าวก็บอกว่าหลิ่งจือมายืนรอพี่สาวหน้าบ้าน” วรากรยิ้มจางๆหลวนคุนยืนอยู่ข้างนอกนั้น พร้อมกับกล้องไม้ใบใหญ่ ยืนเคาะประตูทั้งๆที่มันเปิดอยู่วรากร เพียงแค่เหลือบตามองก่อนจะแกล้งเดิน ไปหาเลือกชุด“ข้าให้เจ้าแม่นางชินอี้สวมมันเสียวังหลวงหาใช่ที่จะแต่งกายตามใจ” อิงหลิวเดินมารับ หลวนคุนหันหลังกลับทันที อิงหลิวถือวิสาสะเปิดกล่องออกดู เสื้อสีชมพูปนขาวบางเบางดงาม อิงหลิวทำตาโต"พี่สาว สวยจริง ๆ คุณชายหลวนคุนมีน้ำใจกับเราสองคนเหลือเกิน” วรากรยิ้ม^_^ไม่มีบทฮาๆ ในเมื่อเข้าหน้าเขาไม่ติด อิงหลิวเดินมาถอดชุดของ วรากรออกสวมชุดใหม่ให้ทันทีใครอีกคนในกระจก ใบหน้าสวยใส ริมฝีปากสีเดียวกับชุด ผมถูกกล้าครึ่งหัวปล่อย ด้านหลังยาวสลวย อิงหลิวค่อยๆ ปักปิ่นหยกสีแดงให้ หันตัววรากรไปมา“พี่สาวสวยที่สุดเลยคืนนี้ ข้าน้อยขอคารวะ” อิงหลิวย่อตัวทีเล่นทีจริง วรากรยิ้ม“สู้เจ้าได้หรือน้องสาว ประเมินข้าสูงไปแล้ว”หัวเราะพร้อมกัน“หากความกังวลในใบหน้าหายไป
“นั่งลง ๆ” หลวนคุนตะโกนลั่น อิงหลิวหน้าเสียจับขอบเรือไว้ด้วยมือทั้งสอง วรากรจงใจเหยียบเรือข้างหนึ่งให้เอียงก่อนที่เรือจะคว่ำ คนทั้งสามร่วงลงสู่พื้นน้ำที่เย็นเฉียบ หลวนอิงปล่อยไม้พายมองหาสองสาว วรากรกระหยิ่มใจใจเดี๋ยวต้องไปช่วยอิงหลิวตามแผน วรากรพยายามว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง อิงหลิวว่ายน้ำไวมากจนถึงฝั่งไปแล้ว แต่วรากร ….กรรมดันเป็นตะคริวที่ขาเพราะน้ำเย็นจัด จมลงสู่พื้นน้ำพยายาม ที่จะโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำแต่ยิ่งดำดิ่งลงไปเกือบจะหมดลมหายใจ ภาพที่ตัวเองตกบันไดลงไปจากชั้นสอง ข้างล่างนั้นน้องชายเขย่าร่างที่ไม่ไหวติงด้วยแรงทั้งหมด กิริยาของน้องชายคือตะโกนเสียงดังลั่น แต่วรากรไม่ได้ยินเสียงแม้แต่น้อยแม่กับพ่อที่พากันวิ่งมาดูวรากร อยู่ๆน้ำตาก็ไหลเกือบจะหมดลมนั่นเองหลวนคุน ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ใบหน้า รางเลือนในน้ำนั่น พยายามจะเข้ามาหาวรากร สติดับวูบลงไปทันทีกลืนน้ำเข้าไปเต็มกระเพาะริมฝีปากรับรู้ถึงการถูกสัมผัส ลมหายใจอุ่นๆ ถูกส่งผ่านมายังริมฝีปาก หลวนคุนกอดดึงร่างขึ้นสู่ผิวน้ำเย็นยะเยือก สะดุ้งสุดตัว รู้สึกแน่นท้องกินน้ำจนอิ่ม พยายามจะอ้วกแต่ไม่มีอะไรออกมา อิงหลิวลูบหลังลูบไหล หลวนคุนยืนมองผ้าห่มผืนหนา
มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าหรือว่า อ๋อจริงสิตอนนี้วรากรอาจเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่หายไป 555นึกออกแล้ว นางรอง (หรือตัวโกงวะ เรื่องนี้ไม่ยักกะมีตัวโกง) ในเมื่อเคยคิดไว้แค่พล็อตเขียนไปไม่กี่บรรทัดแค่ตอนที่นางเอกพบกับพระเอกที่ป่าไผ่ ต่อจากนั้นยังไม่ได้คิดต่อไป พระเอกเคยช่วยนางเอกไว้ ว่าแต่ก็สมบูรณ์แบบแล้วนี่ หลวนคุนช่วยอิงหลิวแล้วพระรองกับนางรอง ยังไม่ได้คิดว่าต้องเป็นใครอย่างไร แต่ตามบทพระรองต้องซัพพอตนางเอกนี่หลวนคุนยืนกอดอกมองอยู่ห่างๆ“ชินอี้อีกอย่างข้าอยากชวนเจ้าไปพบท่านพ่อ ...ข้าเล่าเรื่องของเจ้าให้ท่านพ่อฟังท่านพ่ออยากพบเจ้ามาก” ซวยแล้ว แซ่จางอะไรนี่ก็กุขึ้นมา“คือๆๆ ไว้ เจอกันวันเทศกาลไหว้พระจันทร์เลยทีเดียวดีกว่า” หลิ่งจือยิ้มบริสุทธิ์“แล้วแต่เจ้าเลย แค่เจ้ายอมไปตำหนักองค์รัชทายาทพร้อมข้าก็ดีใจแล้ว” หาทึกทักเอาเองใครจะไปพร้อมแกเห็ดหลินจือ“นางเป็นคนของบ้านข้า เช่นนั้นต้องไปพร้อมข้าถึงจะถูก” มาอีกคน เฮ้อ#_#เวงๆๆ ทำอย่างไรดีอุปาทานหมู่หรือเปล่าสงสัยต้องลดบทบาทตัวเองลงบ้าง“คือข้าไม่สบาย เป็นลมดีกว่า” หลิ่งจือรับร่างบางไว้ทัน สบตา หวานเยิ้ม โอ้มายก๊อด วรากรหลับตาปี้ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด
“ไม่เป็นไร ข้าอยากลองมาหาอะไรทานเอง” สาวรับใช้ไม่ได้เซ้าซี้อะไร วรากรเธอจึงถือโอกาส หาของกินที่มีในครัวมานั่งกินที่ม้านั่งหน้าโรงครัวนั่นเองมีแต่ของชอบของวรากรไม่ว่าจะเป็นหน่อไม้จีนหรือปลาแห้ง กินไปอยู่ๆน้ำตาก็ไหลคิดถึงบ้านคิดถึงน้ำพริกปลาทูคิดถึงข้าวหอมมะลิร้อนๆ ที่หอมที่สุดอร่อยที่สุด“ฮะแฮ่ม” เสียงกระแอมพอให้หันไป (O) ใครวะ รูปร่างสูงโปร่งแต่ขาวมากไปหน่อยของคนที่มองมา ใบหน้าหล่อเหลาก็จริงแต่มีบางอย่างที่วรากรไม่ชอบใจนักในสายตาคมนั้น แววหยิ่งทะนงนั่นเอง เหลือบมองเห็นป้ายหยกแกะสลักสวยงามที่ห้อยอยู่ข้างเอวหนา เสื้อผ้าถูกตัดอย่างประณีตบ่งบอกว่าไม่ใช่คนธรรมดา พระเอกมาแล้วพระรองมาแล้วอันนี้พระอะไรดี แต่ใครสนอะ กำลังเศร้าๆ อยู่T_T“แม่นาง ขอโทษที่มารบกวนการกินของแม่นางไม่ทราบแม่นางเป็นใคร”“เรื่องอะไรท่านเป็นใครทำไมข้าต้องบอกเสียมารยาทคนกำลังกินดันมากวนใจได้” คนถามยิ้มมุมปากท่าทางยียวน“หญิงงามบ้านนี้ ช่างกล้าหาญนัก” เอื้อมมือเชยคางวรากรที่สะบัดคางหนีมือใหญ่“องค์รัชทายาทโปรดอภัย แม่นางชินอี้นางมาจากต่างแคว้นไม่รู้ธรรมเนียมของที่นี่” หลวนคุนโผล่มาจากไหนพร้อมกับ อิงหลิว“ชินอี้555แม้นางไม่