Share

บทที่ 16 วางยา

last update Last Updated: 2025-04-05 15:41:12

ท้ายที่สุดคดีสังหารเจ้าสาวก็ถูกปิดลง เจ้าเมืองถงหวางถูกซูอวี้เฉิงสังหาร ส่วนอาหลินก็ถูกตัดสินประหารชีวิต เหล่าข้ารับใช้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารคนของสองพ่อลูกก็ถูกประหารตามเจ้านายของตนไปอย่างไม่มีข้อยกเว้น เหล่าชาวบ้านต่างก่นด่าสาปแช่งที่สองพ่อลูกทำให้บุตรสาวของพวกเขาต้องมาด่วนจากโลกใบนี้ไป อีกทั้งยังลงมืออำมหิตโหดเหี้ยมอย่างไม่อาจให้อภัยอีกด้วย

เมื่อทุกอย่างคลี่คลายลง เซวียนซานหลางได้ส่งคนนำรายงานเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นไปถวายให้กับฮ่องเต้เซวียนจง อีกทั้งยังฝากความไปบอกด้วยว่าอีกไม่นานพวกเขาจะเร่งเดินทางกลับเมืองหลวงไปกราบทูลรายงานความเป็นไปทั้งหมดด้วยตนเอง

ฮ่องเต้เซวียนจงทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก คนหนุ่มมากความสามารถเหล่านี้ล้วนเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยทำงานให้เขาได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะหลานชายของเขาคนนี้

เซวียนซานหลางเป็นคนสุขุมรอบคอบ ที่ผ่านมาไม่เคยสร้างความลำบากใจอะไรให้กับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งยังเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่โลภมาก เขาเองไม่เคยหวาดระแวงในตัวหลานชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย

เมื่อปิดคดีได้สำเร็จ ฮ่องเต้เซวียนจงจึงออกราชโองการ ส่งท่านเจ้าเมืองคนใหม่ไปที่เมืองถงหวาง เจ้าเมืองคนนี้อายุยังไม่มาก แต่กลับมีความซื่อสัตย์ สองปีก่อนเขาสอบได้ตำแหน่งจอหงวนเป็นคนมากฝีมือ ได้เข้ามาทำงานในราชสำนักถึงสองปีเรียนรู้ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็ว ฮ่องเต้เซวียนจงจึงมอบหมายภาระหน้าที่นี้ให้แก่เขา

เมื่อท่านเจ้าเมืองคนใหม่มาถึง ก็กวาดล้างขั้วอำนาจเดิมของท่านเจ้าเมืองคนก่อนไปจนหมด ปฏิรูปการปกครองใหม่ ไม่นานเมืองถงหวางก็กลับมาคึกคักและสงบสุขอีกครั้ง ที่สำคัญท่านเจ้าเมืองคนใหม่ยังช่วยปลอบขวัญเหล่าชาวบ้านที่สูญเสียบุตรสาวไปอย่างใส่ใจอีกด้วย

เช้าวันนี้อากาศค่อนข้างเย็นสบายเป็นอย่างมาก เมื่อเรื่องราวเลวร้ายจบสิ้นลง พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังสถานะอีกต่อไป เหล่าชาวบ้านต่างรู้ว่าเซวียนซานหลางและเสิ่นเหวยอันเป็นใคร  อีกทั้งยังรู้ด้วยว่ามู่หลานเฟินก็ไม่ใช่แม่ค้าทั่วไป เหล่าชาวบ้านต่างแสดงท่าทีเคารพต่อพวกเขาอย่างนอบน้อม อีกทั้งยังนำของมาฝากมากมายจนมู่หลานเฟินรับเอาไว้ไม่ไหว

"คุณหนูมู่ ท่านน่ะเป็นคนจิตใจดี ทำอาหารก็อร่อย ไว้มีโอกาศก็มาเปิดร้านที่นี่เสียเลยสิ พวกข้าจะได้มีของอร่อยกินกัน อีกอย่างหนึ่ง ท่านกับซื่อจื่อผู้นั้นก็เหมาะสมกันมาก น่าเสียดายนัก แต่งงานกันจริงๆเสียเลยสิ"

มู่หลานเฟินแทบสำลักน้ำลายตัวเอง นางหันไปมองเซวียนซานหลางที่นั่งอ่านตำราอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของชายหนุ่มเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใดทั้งสิ้น ราวกับไม่สนใจต่อคำพูดไร้สาระเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันมาเอ่ยกับชาวบ้าน

"พวกท่านล้อข้าเล่นแล้ว ข้ากับซื่อจื่อเป็นเพียงคนอาศัยอยู่ในจวนของเขาเท่านั้น"

"น่าเสียดายนัก"

"เสียดายอันใดกัน"

มู่หลานเฟินรับของมาจากชาวบ้าน ก่อนจะส่งให้ลั่วเหมยนำไปเก็บ เหล่าบ้านอยู่สนทนากับนางต่ออีกไม่นานก็ขอตัวจากไป ยามนี้ภายในบ้านจึงเงียบสงบยิ่งนัก

เซวียนเจ๋อออกไปเดินเล่นตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนเสิ่นเหวยอันและซูอวี้เฉิงก็ไปจัดการเรื่องต่างๆที่ต้องจัดการ ตอนนี้ในบ้านเหลือเพียงนางและเซวียนซานหลางสองคน บรรยากาศช่างดูอึดอัดยิ่งนัก ที่ผ่านมาเขาเองก็ไม่ค่อยจะอยากเจรจาหรือสนทนาสิ่งใดกับนางอยู่แล้ว มู่หลานเฟินเองก็ไม่มีสิ่งใดอยากจะพูดคุยกับเขาเช่นเดียวกัน 

"ซื่อจื่อ ข้าจะออกไปซื้อของสักหน่อย"

"อืม"

เขาเอ่ยรีบคำเพียงเบาๆ มู่หลานเฟินจึงเดินออกมาจากบ้านเพียงลำพัง ก่อนหน้านี้ลั่วเหมยบอกนางว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายนางจึงให้สาวใช้น้อยไปพักไม่ต้องมาคอยรับใช้นาง

ที่เมืองถงหวางนั้นมีของที่ชาวบ้านทำด้วยมือมาขายหลายอย่าง ทุกอย่างล้วนประณีตงดงาม ผ้าไหมแพรพรรณของที่นี่ก็มีสีสันงดงามไม่ต่างจากเมืองหลวงเลย บรรยากาศก็ดีมาก ตอนนี้เมืองถงหวางเหมือนกับฟ้าหลังฝน หลังจากคดีคลี่คลาย นางก็ไม่ได้ยินเสียงแปลกประหลาดยามค่ำคืนอีกเลย

เมื่อคิดถึงเรื่องของอาหลินแล้ว ไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์เราจะทำเรื่องที่น่าหวาดหวั่นเช่นนี้ได้อย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและกฎแห่งกรรมเลยแม้แต่น้อย

มู่หลานเฟินเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะได้ยินเสียงใครบางคนกำลังเรียกชื่อของตน

"หรานหร่าน"

เมื่อนางหันไปมองก็พบกับเซวียนเจ๋อที่กำลังวิ่งเข้ามาหานางด้วยใบหน้าที่ตื่นตระหนกลนลาน หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเอ่ยถามเขา

"ญาติผู้พี่ ท่านเป็นอันใดไป ไหนว่าไปเดินเล่นแล้วเหตุใดจึงมีสภาพเช่นนี้เล่า"

เซวียนเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความเหนื่อยหอบ ชายหนุ่มพยายามระงับสติตนเองก่อนจะเอ่ย

“ลั่วเหมยแย่แล้ว"

"ห๊ะ แย่อันใดกัน หรือว่าอาการป่วยของนางจะทรุดหนักลง"

"ไม่ใช่!"

"เช่นนั้นนางเป็นอันใดเล่า"

"นางกำลังจะถูกพี่ใหญ่สังหาร เพราะลอบวางยาพี่ใหญ่"

"หา?"

มู่หลานเฟินที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้านทันที เมื่อเข้ามาถึงก็พบว่าตอนนี้ลั่วเหมยกำลังนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นด้วยร่างที่สั่นเทิ้ม เบื้องหน้านางคือเซวียนซานหลางที่กำลังจ้องมองลั่วเหมยด้วยแววตาที่เย็นชา เมื่อเห็นว่ามู่หลานเฟินกลับมาแล้ว ลั่วเหมยก็ลนลานรีบคลานเจ้ามาหาเจ้านายของตนทันที

“ฮือ คุณหนู ช่วยบ่าวด้วยเจ้าค่ะ ฮือ"

มู่หลานเฟินไม่ตอบแต่กลับหันไปเอ่ยกับเซวียนซานหลาง

“ซื่อจื่อ ลั่วเหมยนางวางยาท่านหรือ ยาอันใดกัน?"

เซวียนซานหลางที่ได้ยินอย่างนั้นก็ปรายตามองมู่หลานเฟิน ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"เจ้าไม่รู้หรือ?"

เมื่อได้ยินเขาย้อนถามเช่นนี้มู่หลานเฟินก็พลันขมวดคิ้วมุ่น นางไม่ได้รู้สึกโกธรอันใดที่ถูกเขาถามกลับเช่นนี้ เพราะที่ผ่านมาเจ้าของร่างเดิมทำสิ่งใดกับเขาเอาไว้บ้างนางรู้แจ้งแก่ใจดี ไม่แปลกที่เซวียนซานหลางจะผูกใจเจ็บกับนาง 

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงหันมาถามลั่วเหมยแทน

"เจ้าเล่ามาให้หมด ว่ามันคือยาอันใดและเจ้าเอายานั่นมาจากที่ใด หากเจ้าโกหก ข้าจะขายเจ้าไปที่หอนางโลม ชาตินี้อย่าได้คิดจะมีชีวิตอย่างสงบสุขอีก"

น้ำเสียงของมู่หลานเฟินเย็นเยียบจนลั่วเหมยถึงกับน้ำตาไหล นางกัดฟันแน่น ก่อนจะเล่าว่าอวี้หลิงเป็นคนมอบยานอนหลับให้นาง รอจนเซวียนซานหลางดื่มไปและหลับไม่ได้สติ ให้นางรีบยุยงมู่หลานเฟินฆ่าคนทันที และยังบอกอีกว่าหากงานไม่สำเร็จ พี่สาวของนางที่เป็นสาวใช้อยู่ในเรือนใหญ่จะต้องถูกโบยจนตาย ก่อนหน้านี้เพราะมู่หลานเฟินไม่ยอมรับยาห่อนั้นมาจัดการเอง อวี้หลิงจึงโยนเผือกร้อนชิ้นนี้มาให้นางช่วยจัดการแทน นางไม่มีทางเลือกจึงต้องทำตามคำสั่งของเจ้านาย

เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากปากของลั่วเหมย มู่หลานเฟินก็ยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้วตนเองอย่างเหนื่อยหน่าย

อยู่ไกลถึงเมืองหลวง แต่อวี้หลิงก็ยังสามารถยื่นมือมาก่อเรื่องจนได้

เซวียนเจ๋อถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก เขาไม่คิดว่าท่านแม่จะยังคงไม่ละความพยายาม ที่จะทำร้ายพี่ชายของเขา

เซวียนซานหลางที่ได้ฟังความจริงทั้งหมดกลับไม่เอ่ยวาจาใดสักคำ ก่อนหน้านี้มู่หลานเฟินออกไปด้านนอก สาวใช้ของนางเป็นคนทำน้ำแกงร้อนมามอบให้เขา แต่เขารู้สึกว่านางผิดปกติ ท่าทางดูลนลาน เมื่อเค้นถามอย่างหนักนางจึงยอมสารภาพว่าใส่ยานอนหลับให้เขากิน จากนั้นก็จะไปตามมู่หลานเฟินให้มาสังหารเขา หากมู่หลานเฟินไม่ทำ นางก็จะลงมือทำด้วยตนเอง

เดิมทีเขาคิดจะฆ่านางเสียแต่เซวียนเจ๋อกลับมารั้งเอาไว้ก่อน และไปตามมู่หลานเฟินกลับมา

เดิมทีเขารู้อยู่แล้วว่าอวี้หลิงคิดจะวางยา แต่ที่ผ่านมาลั่วเหมยดูเหมือนจะเชื่อฟังมู่หลานเฟินและไม่ก่อเรื่อง แต่นางกลับลงมือทำตามคำสั่งอวี้หลิงจริงๆ

มู่หลานเฟินถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะหันมาเอ่ยกับเซวียนซานหลาง

"เรื่องสาวใช้ของข้าที่ทำผิดต่อท่านข้าขออภัยด้วย ข้าจะไม่ปล่อยให้นางรอดความผิดไปได้”

เอ่ยจบก็หันไปมองลั่วเหมย

“ลั่วเหมยข้าจะโบยเจ้ายี่สิบไม้ หลังจากที่กลับถึงเมืองหลวงแล้วเจ้าก็ไปอยู่ที่โรงครัวไม่ต้องมาคอยรับใช้ข้าอีก ส่วนพี่สาวของเจ้า ข้าจะหาทางช่วยออกมาเอง ซื่อจื่อท่านเห็นเป็นเช่นไร"

เซวียนซานหลางที่ได้ยินไม่เอ่ยตอบ แต่กลับเก็บดาบในมือ เพียงเท่านี้มู่หลานเฟินก็เข้าใจได้แล้วว่าเขาไม่เอาเรื่องลั่วเหมยอีก

ไม่คิดว่าเขาจะยังมีความใจดีอยู่บ้าง

“เจ้ายังไม่รีบขอบคุณซื่อจื่ออีก”

"ฮือ ขอบพระคุณซื่อจื่อ กับคุณหนู ต่อไปบ่าวไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ บ่าวขอสาบานด้วยชีวิต!"

ลั่วเหมยโขกศีรษะลงกับพื้นก่อนจะลนลานออกไป เซวียนเจ๋อเองก็รู้สึกผิดเขาเอ่ยขอโทษพี่ชายก่อนจะอาสารับหน้าที่เป็นคนลงโทษลั่วเหมยด้วยตนเอง

เมื่อคนออกไปหมดแล้ว เซวียนซานหลางก็เดินเข้ามาหามู่หลานเฟิน นางย่นหัวคิ้วก่อนจะขยับกายถอยหนีจนแผ่นหลังชิดกำแพง ชายหนุ่มตรงหน้ากำลังจ้องนางเหมือนต้องการมองให้ทะลุเข้าไปถึงภายในจิตใจ นัยน์ตาดอกท้อฉายแววเย็นชาดุดันอย่างไม่ปิดบัง

"เมื่อใดกันที่เจ้า รู้จักแยกแยะถูกผิดได้เช่นนี้"

มู่หลานเฟินรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก นางเบือนหน้าหนี พร้อมกับเอ่ยตอบโดยที่ไม่มองหน้าเขา

"เป็นคนชั่วมันน่าเบื่อเกินไป ข้าอยากเป็นคนดีบ้างไม่ได้หรือ"

“เช่นนั้นหรือ"

"อืม"

เอ่ยจบนางก็ยกมือน้อยๆขึ้นมาดันตัวเซวียนซานหลางให้ออกห่างจากตน เซวียนซานหลางส่งเสียงเหอะ นางคิดว่าเขาอยากเข้าใกล้นางอย่างนั้นหรือ

มู่หลานเฟินขยับตัวออกให้ห่างจากเขา ก่อนจะเดินไปหยิบของบางอย่างที่อยู่ด้านนอกมาวางเอาไว้บนโต๊ะตำราของเซวียนซานหลาง

"ตอนที่ข้าออกไปเดินมา เห็นว่าของสิ่งนี้งดงามดี มันคือชามสุราหยกมรกตห่วงคู่ งดงามประณีต เผื่อยามใดที่ท่านอยากชื่นชมมวลผกาดื่มสุราคลายทุกข์ก็เอามันมาใช้ได้ ข้าไม่รู้ว่าจะมอบสิ่งใดตอบแทนที่ท่านช่วยข้าเอาไว้ ก็มีเพียงสิ่งนี้ หากท่านไม่ชอบก็โยนมันทิ้งไปได้เลย ถือว่าข้าไม่เคยมอบให้ก็แล้วกัน ส่วนเรื่องในวันนี้ ข้าขออภัยแทนท่านป้าและสาวใช้ของข้าด้วย ส่วนเซวียนเจ๋อท่านก็อย่าได้หวาดระแวงเขา น้องชายของท่าน รักท่านยิ่งกว่ารักมารดาของเขาเสียอีก ระแวงข้าก็แล้วไปเถอะ แต่กับเซวียนเจ๋อได้โปรดละเว้นเขาเอาไว้สักคนหนึ่ง"

เอ่ยจบนางก็เดินจากไปทันที เซวียนซานหลางปรายตามองชามสุราหยกมรกตคราหนึ่ง ก่อนจะเก็บสายตาตนกลับคืน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 17 บิดาข้าขอซาลาเปาหน่อย

    เมื่อเรื่องราวที่เมืองถงหวางจบสิ้นลงแล้ว ก็ได้เวลากลับเมืองหลวงกันเสียที ก่อนเดินทางกลับหนึ่งวัน เสิ่นเหวยอันนึกสนุกจึงเอาสุราชั้นดีมาให้ทุกคนได้ดื่ม อีกทั้งยังย่างเนื้อกินกันอย่างสนุกสนานแสงของกองไฟที่สว่างเจิดจ้า ส่องกระทบใบหน้างดงามของมู่หลานเฟิน นางยังคงยิ้มร่าเริง เข้ากับชาวบ้านได้ดี ไม่มีท่าทีรังเกียจเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังลงมือย่างเนื้อเองกับเมือ "คุณหนูมู่ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีฝีมือทำอาหารดีเช่นนี้ ข้าไม่เคยกินเนื้อย่างที่ไหนแล้วอร่อยเท่าของเจ้ามาก่อนเลย"ซูอวี้เฉิงเอ่ยชมมู่หลานเฟิน เขาได้ยินเรื่องเล่าของสตรีน้อยนางนี้มาพอสมควร ทั้งเรื่องที่นางช่วยจับนักโทษ และเรื่องที่่ช่วยสืบคดี อีกทั้งตอนนั้นที่นางถือดาบหมายจะสังหารเจ้าเมืองถงหวางคนเก่า แววตาของนางมุ่งมั่นไม่สั่นคลอนและไม่หวาดกลัว อีกทั้งยังแน่วแน่เป็นอย่างมากน้อยนักที่ในเมืองหลวงจะมีสตรีที่กล้าหาญถึงเพียงนี้"ใต้เท้าซูเอ่ยชมเกินไปแล้ว"มู่หลานเฟินเอ่ยพร้อมกับยิ้มตอบเขา ซูอวี้เฉิงคือคุณชายรองของจวนตระกูลซู พี่ชายเขาก่อนหน้านี้เป็นหนุ่มรูปงามในเมืองหลวง สอบได้ตำแหน่งจอหงวน เป็นความหวังของสกุลซู แต่ไม่นานกลับพลัดตกม้าสมอง

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 18 นักฆ่า

    การเดินทางกลับเมืองหลวงครั้งนี้่ย่อมต้องใช้เวลาไม่น้อย ระหว่างทางเซวียนซานหลางตัดสินใจพักที่โรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง ลั่วเหมยและเซวียนเจ๋อช่วยประคองมู่หลานเฟินที่ตอนนี้เมาไม่ได้สติเข้าไปพักในห้องเรียบร้อยแล้ว ส่วนเซวียนซานหลางกำลังนั่งอยู่ในอ่างน้ำ ชายหนุ่มเอนศีรษะพิงกับขอบถังน้ำก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ม่านขนตาเรียวยาวมีไอน้ำพร่างพราวเกาะอยู่ มองดูแล้วช่างน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่งเขานั่งนอนอยู่ในอ่างน้ำครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า อยู่ๆชายหนุ่มก็รับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวสายหนึ่งที่พุ่งเข้ามาในห้องนอน สัญชาตญาณการป้องกันตัวของเซวียนซานหลางเริ่มทำงานทันที เขาคว้ากดาบคู่ใจขึ้นมา ก่อนจะหันไปตวัดฟาดฟันใส่ผู้ที่เข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญในทันทีคนที่บุกเข้ามาเป็นชายชุดดำสามคน ฝีมือไม่ธรรมดา พวกมันอำพรางใบหน้าตน เซวียนซานหลางจ้องมองคนทั้งสามด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะเอ่ยถาม"ผู้ใดส่งพวกเจ้ามา""คนที่อยากให้เจ้าตายอย่างไรเล่า"เอ่ยจบนักฆ่าชุดดำสามคนก็พุ่งเข้าหาเซวียนซานหลางทันที แต่ชายหนุ่มเบี่ยงกายหลบได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะส่งสัญญาณเรียกองค์รักษ์ลับให้เข้ามาจัดการ นักฆ่าเมื่อรู้ว่าเริ่มปะมือไม่ไหว จ

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 19 เข้าเรียน

    มู่หลิงเมื่อได้ยินอย่างนั้นแม้ในใจจะสงสัยแต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกอดเสียดายไม่ได้ เหตุใดนักฆ่าเหล่านั้นจึงลงมือพลาดกันนะ มู่หลานเฟินคร้านจะสนใจป้าของนางอีกจึงกลับมาที่เรือนพัก อีกทั้งยังบอกอีกว่าลั่วเหมยและพี่สาวนางจะรับมาดูแลต่อเอง หากอวี้หลิงไม่ยอมนางก็จะโบยคนของอวี้หลิงจนตายเช่นเดียวกัน อวี้หลิงส่งเสียงเหอะออกมา ไม่คิดว่าหลานสาวตัวดีจะกล้าข่มขู่นาง แต่แววตาของมู่หลานเฟินไม่ได้มีทีท่าล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย นางจึงรับปากไปอย่างส่งๆ รอให้มู่หลานเฟินลืมเรื่องนี้ไปค่อยจัดการก็ยังไม่สายด้านเซวียนซานหลางหลังจากที่กลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เซวียนจงผู้เป็นเสด็จลุง บอกเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้รับรู้ ยามนี้ในห้องทรงอักษรยังมีเสิ่นเหวยอันและซูอวี้เฉิงอยู่ด้วย ฮ่องเต้เซวียนจงเอ่ยชมทั้งสามคน ไม่คาดคิดเลยว่าคดีที่ปิดไม่ได้ในครั้งนี้ จะเกี่ยวพันกับจวนเจ้าเมืองถงหวาง อีกทั้งบุตรสาวของเขาที่เสียสติเพราะความรักจนลงมือได้อย่างอำหิตนางนั้นก็ได้รับผลกรรมไปตามสมควรแล้ว"ซานหลาง ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่า หลานสาวของมารดาเลี้ยงเจ้ามีส่วนช่วยเหลือพวกเจ้าในการสืบคดี ไหนเจ

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 20 มีแต่เรื่อง

    ไม่นานรถม้ามาจอดที่หน้าทางเข้าสำนักศึกษา เซวียนเจ๋อแยกตัวไปที่สำนักศึกษาจิ้นหมิง และบอกอีกว่ายามเย็นจะมารับนาง มู่หลานเฟินพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในสำนักศึกษาเสวียนลู่ทันทีภายในสำนักศึกษาตกแต่งได้งดงามเป็นอย่างมาก หญิงสาวมองดูห้องเรียนใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า การตกแต่งของห้องเรียนใหญ่งดงามหรูหรา เพียงมองจากภายนอก นางก็นึกภาพออกได้แล้วว่าภายในจะต้องตกแต่งอย่างเอริกเกริกแน่นอน เพราะมีแต่สตรีที่มีชาติกำเนิดสูงส่ง ถูกเลี้ยงดูมาราวไข่มุกในฝ่ามือเท่านั้นที่จะได้เข้าไปเรียน วันหน้าวาสนาจะสูงส่งยิ่งนัก บางคนอาจจะได้แต่งให้กับบุรุษที่ดีพร้อม บางคนอาจจะได้เข้าวังหลวงไปเป็นพระสนมคนโปรดของฝ่าบาทนางไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอันใด สำหรับนางแล้ว คนเราล้วนเกิดมาตัวเปล่ากันทั้งนั้น สิ่งของนอกกายเหล่านี้เป็นเพียงภาพมายา วันใดที่หมดลมหายใจล้วนเอาพวกมันติดตัวไปไม่ได้สักอย่าง ไม่สู้อย่าไปยึดติดกับของภายนอกเหล่านั้นให้มากนักจะดีกว่ามู่หลานเฟินคร้านจะสนใจอีก นางเดินไปที่ห้องเรียนเล็กซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ระหว่างทางนางได้ยินเสียงสตรีน้อยที่มาจากตระกูลขุนนางกำลังเอ่ยวาจากระซิบกระซาบนินทานางอย่างออกรส บาง

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 21 เบาะแสของคดีใหม่

    เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปหลายวัน มู่หลานเฟินยังคงไปเรียนที่สำนักศึกษาเช่นเดิม ระยะนี้นางได้พบเพื่อนใหม่มากมาย อีกทั้งบุรุษที่นางช่วยในวันนั้นก็ได้กลายมาเป็นสหายของนาง เขามีนามว่าอาจ้าน อาจ้านเป็นคนนิสัยดี อีกทั้งยังแนะนำสหายบหลายคนให้มารู้จักนางอีกด้วย พวกเขาแม้จะไม่ได้มีฐานะร่ำรวยสูงส่งแต่กลับมีนิสัยใจคอที่ดีและน่าคบหาส่วนเซียวเหลียนและพรรคพวกก็ไม่กล้ามายุ่งกับพวกนางอีกเอ่ยถึงเซวียนซานหลงแล้ว มู๋หลานเฟินเองก็รู้สึกติดค้างเขาอยู่เช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ที่เกิดเรื่องเขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนาง นางไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนเขา จึงตั้งใจทำขนมเล็กๆน้อยๆไปมอบให้เขาแทนวันนี้ไม่มีเรียน มู่หลานเฟินเองก็ว่าง นางจึงทำขนมไปขอบคุณเขา ปลายฤดูใบไม้ผลิอากาศเริ่มจะร้อนขึ้นมาเล็กน้อยแต่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศของความหนาวเย็นอยู่บ้าง มู่หลานเฟินเดินถือกล่องใส่อาหารมาที่เรือนของเซวียนซานหลาง หญิงสาวชั่งใจว่าจะเข้าไปดีไหม เขาจะมองนางเช่นไรเมื่อสอบถามสาวใช้ที่เรือนของเซวียนซานหลาง ก็ได้ความว่าเขาไปนั่งพักผ่อนที่ศาลาใต้้ต้นไม้ที่ด้านหลังเรือน มู่หลานเฟินที่ได้ยินอย่างนั้นก็คิดว่าดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเข้าไปยุ่งวุ่น

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 22 เด็กหาย

    ที่นี่คือเมืองเจียงตาน ตั้งอยู่ทางใต้ของแคว้นตงหลาง หมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากในเมืองเจียงตานเท่าใดนัก พวกเขามีอาชีพจับปลาไปขายที่ตลาดในเมืองเจียงตาน เซวียนซานหลางไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะลอยตามกระแสน้ำจนมาถึงเมืองนี้ได้เรื่องที่เขาได้ยินมาจากสตรีเหล่านั้นก็คือช่วงหลายเดือนมานี้ในเมืองเจียงตานมีเด็กชายอายุสิบขวบหายไปจากบ้าน อย่างไร้ร่องรอง ก่อนที่จะมีเด็กหายพวกชาวบ้านมักจะได้ยินเสียงกลองป๋องแป๋งซึ่งเป็นของเล่นเด็กดังขึ้น จากนั้นพวกเขาก็จะรู้สึกสสืมสลือและผล็อยหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าของอีกวันก็พบว่าบุตรชายของตนได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้วผู้คนเล่าลือกันว่าก่อนหน้านี้มีหญิงสาวคนหนึ่งตั้งครรภ์ ไม่นานสามีนางก็ทิ้งไปกับภรรยาใหม่ นางให้คลอดบุตรชายคนหนึ่ง แต่เพราะบุตรชายคลอดก่อนกำหนดจึงไม่แข็งแรง ไม่นานก็ตายจากนางไป นางเสียสติและตัดสินใจปลิดชีพตนให้ตายตามลูกไป หลังจากที่นางตายไป ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น นั่นก็คือเด็กๆ มักจะหายตัวไป ทางการออกตามหาตัวแต่กลับไม่พบ ช่างน่าแปลกประหลาดยิ่งนักเซวียนซานหลางขมวดคิ้วมุ่น เรื่องนี้คล้ายกับคดีที่เมืองถงหวางอยู่บ้างผีสางอันใดกัน คงจ

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 23 สามีภรรยา(ปลอม)อีกแล้ว

    ข่าวการหายตัวไปของคนทั้งสาม สร้างความแตกตื่นแก่ผู้คนในเมืองหลวงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฮ่องเต้เซวียนจงที่ตอนนี้ร้อนรนจนนั่งไม่ติด เพราะหลานชายทั้งสองคนของเขาได้หายตัวไปอย่างกระทันหัน อีกทั้งยังหาตัวคนไม่พบ เบาะแสใดใดก็ยังไม่มี นั่นยิ่งทำให้เขากลุ้มใจเป็นอย่างมากด้านเซวียนชินอ๋องเองก็ไม่ต่างกัน แม้ยามปกติเขาดูเหมือนจะไม่สนใจเซวียนซานหลางและเซวียนเจ๋อเท่าใดนัก แต่อย่างไรเด็กสองคนนั้นก็คือทายาทของเขา เป็นสายเลือดของเขา เขาย่อมไม่อาจเฉยเมยได้ จึงสั่งให้คนไปตามหาอีกแรงหนึ่งด้านอวี้ิหลิงนั้นนางเองก็ร้อนใจเหมือนไฟเผา ใจหนึ่งนางดีใจที่เซวียนซานหลางหายตัวไป นางถึงกับสาปแช่งให้เขาตกตายไปเสียและไม่มีโอกาศรอดกลับมาเมืองหลวงได้อีก แต่อีกใจหนึ่งนางก็แทบคลุ้มคลั่งเพราะเซวียนเจ๋อบุตรชายของนางก็หายไปพร้อมกัน อีกทั้งมู่หลานเฟินก็หายไปด้วยผู้คนในเมืองหลวงต่างเอ่ยกันไปต่างๆนาๆถึงการหายหายตัวไปของคนทั้งสาม บ้างก็ว่าเป็นรักสามเศร้าพวกเขาตกลงกันไม่ได้จึงพากันไปตาย บ้างก็ว่าเซวียนซานหลางเป็นคนฆ่าเซวียนเจ๋อและมู่หลานเฟินเพราะรับไม่ได้ที่ถูกน้องชานหยามเกียรติแย่งสตรีของตนไป เรื่องราวเลยเถิดเป็นอย่างมากจนฮ่องเต

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 24 ตามตัวคน

    เมื่อตกลงแผนการกันได้อย่างลงตัวแล้ว คนทั้งสามก็เดินทางเข้าเมืองเจียงตานอย่างราบรื่น เป็นอย่างที่มู่หลานเฟินเอ่ยเอาไว้จริงๆว่าเมืองเจียงตานค่อนข้างหละหลวมขาดการคัดกรองคน แรกเริ่มเหล่าทหารยังมองพวกเขาด้วยความสงสัย แต่เมื่อพวกเขามอบเงินให้นิดหน่อยทหารพวกนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาเข้าเมืองไปได้แล้วก่อนหน้านี้เหล่าชาวบ้านได้มอบเงินไม่น้อยให้พวกเขานำติดตัวมา ประจวบเหมาะกับมู่หลานเฟินนำปิ่นปักผมของนางไปจำนำที่โรงรับจำนำไม่ไกลจากทางเข้าเมืองเจียงตานได้มาอีกหลายสิบตำลึง จึงยังพอจะประทังชีวิตกันไปได้บ้าง รอให้คนของเซวียนซานหลางตามตัวพวกเขาเจอ แน่นอนว่าย่อมไม่ขัดสนเรื่องเงินทองภายในเมืองเจียงตานนั้นค่อนข้างกว้างใหญ่่เป็นอย่างมาก เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางใต้ ลมพัดเย็นสบายไม่น้อยเลย มู่หลานเฟินมองไปโดยรอบด้วยความสงสัยใคร่รู้ เหล่าชาวบ้านเองก็มองพวกนางเช่นเดียวกันแต่กลับไม่ได้เอ่ยทักทายปราศรัยอันใดเซวียนซานหลางพาคนทั้งหมดมาพักที่โรงเตี้ยมเล็กๆแห่งหนึ่ง เถ้าแก่โรงเตี้ยมให้การต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาและนางอยู่ร่วมห้องกัน มู่หลานเฟินจึงไม่ได้รู้สึกประดักประเดิดอันใด อย่างไรเขาก็ไม่ท

    Last Updated : 2025-04-05

Latest chapter

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   ตอนจบ

    แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้เข้าห่ำหั่นกับศัตรูเพื่อปิดจบสงครามฉากนี้นี้ ก็ได้ยินเสียงเกือกเท้าม้าดังกึกก้อง คนทั้งสามหันมาสบตากันอีกครั้ง ในดวงตาฉายแววเคร่งเครียดหรือนี่จะเป็นกำลังเสริมของชนเผ่าทุ่งหญ้า?ยังไม่ทันได้คิดสิ่งใดให้มากความเซวียนซานหลางก็เห็นว่ากองทหารของแคว้นทุ่งหญ้าที่ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าแตกแถวออกเป็นวงกว้าง ศีรษะของแม่ทัพเผาทุ่งหญ้าร่วงกระเด็นตกลงบนพื้นดวงตาเบิกโพลงเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าตนจะถูกสังหาร"ฆ่าทิ้งให้หมด!"เซวียนซานหลางมองไปเบื้องหน้า ก่อนที่ดวงตาของเขาจะแดงก่ำตอนนี้มู่หลานเฟิรกำลังควบอยู่บนหลังม้าด้วยท่วงท่าองอาจ มือหนึ่งจับบังเหียน มือหนึ่งถือหอกเอาไว้ในมือ ปลายด้ามหอกอาบย้อมไปด้วยโลหิตสีแดงสด นางสวมชุดเกราะรวบผมขึ้นสูง ดวงตามั่นคงหนักแน่นไม่หวาดหวั่น ทุกทีที่นางควบม้าพาดผ่าน ล้วนมีทหารของชนเผ่าทุ่งหญ้าล้มตายราวกับใบไม้ร่วงเสิ่นเหวยอันและซูอวี้เฉิงเมื่อได้เห็นเช่นนั้นก็ตื่นตระหนกไม่น้อย เดิมทีพวกเขารู้ว่านางมีความสามารถ แต่ไม่คิดว่าจะองอาจเยี่ยงแม่ทัพใหญ่ผู้เจนจัดสงครามในสนามรบเช่นนี้มู่หลานเฟินหันมามองบุรุษทั้งสามคน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่องอาจ

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 46 สงคราม

    เมื่อเรื่องราวคลี่คลายแล้ว ทุกคนจึงเกินทางกลับมาที่เมืองหลวง เมื่อกลับมาถึงก็ได้ทราบข่าวร้ายก่อนหน้านี้เซวียนชินอ๋องติดสุราจนเมามาย ทำให้สุขภาพไม่สู้ดีจนถึงขึ้นล้มป่วยลง อีกทั้งยังได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจเนื่องจากรู้ข่าวว่าอวี้หลิงปลิดชีพตนเองตายจากไป แม้ปากจะบอกว่าเกลียดชังนางย่ แต่เมื่อนางตายจากไปจริงๆ เขากลับทำใจไม่ได้ สุดท้ายจึงดื่มเหล้าหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุขภาพทรุดหนักลงเรื่อยๆ จวบจนทนไม่ไหวและตรอมใจตายตามอวี้หลิงไปก่อนจากเขาไม่ได้สั่งเสียสิ่งใดกับบุตรชายทั้งสองคน เอาแต่เหม่อลอยเรียกหาอวี้หลิงและอดีตพระชายาซึ่งก็คือมารดาของเซวียนซานหลาง จวบจนวาระสุดท้ายท่านพ่อของพวกเขาสองคนก็คิดถึงแต่ตนเอง ไม่เคยคิดถึงบุตรชายเลยแม้แต่น้อยงานศพของเซวียนชินอ๋องถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายเมื่อบิดาตายจากไป ตำแหน่งชินอ๋องย่อมตกเป็นของเซวียนซานหลางโดยชอบธรรม ส่วนเซวียนเจ๋อนั้นเขาไม่อยากจะรับตำแหน่งใดทั้งสิ้น เขาอยากเป็นเพียงคุณชายเจ้าสำราญที่ได้ใช้ชีวิตตามใจของตนด้านวังหลวงเองก็ไม่สู้ดีเท่าใดนัก ฮ่องเต้เซวียนจงอาการไม่สู้ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังไม่ม่ีทายาทสืบทอด เหล่าขุนนางต่างหวาดหวั่นใจยิ่งน

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 45 จับคนร้าย

    วันคืนก็ผ่านไปเช่นนี้ จนกระทั่งสุขภาพของมู่หลานเฟินดีขึ้นมาก และเซวียนซานหลางก็สะสางธุระแล้วเสร็จและกลับมาเมืองหลวงพอดี นางจึงบอกเรื่องนี้กับเขาและตัดสินใจกลับบ้านเดิมสักครั้งจวนตระกูลอวี้เป็นตระกูลคหบดี พวกเขาเป็นคนเมืองจินหลิงซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปไม่ไกลเท่าใดนัก นับว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองจินหลิงแล้ว พวกเขาทำการค้าหลายอย่าง หลายปีมานี้กิจการก้าวหน้า เพราะมีน้าสาวและสามีของนางคอยดูแลวันแรกที่มู่หลานเฟินกลับไปถึง ก็พบว่าพวกเขามีท่าทีแปลกประหลาดจริงๆ เหมือนไม่อยากต้อนรับ ราวกับมีบางอย่างปิดบังนางอย่างไรอย่างนั้น แต่่เพราะมู่หลานเฟินต้องการสืบความจริง นางจึงแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นท่าทีนั้นของพวกเขาและยังบอกอีกว่าอยากจะพักอยู่ที่นี่สักระยะเพราะมีเรื่องจะมาแจ้งทุกคน นางเดินทางมาครั้งนี้นำสมบัติมาด้วยหลายหีบบอกว่าเป็นของที่นางเก็บสะสมเอาไว้ แต่ตอนนี้ถูกไล่ออกจากจวนอ๋องแล้วไร้หนทางไปจึงต้องกลับมาบ้านเดิม อวี้หลันมองหลานสาวตนเองด้วยแววตาที่่อ่อนโย แต่ภายในใจกลับเย้ยหยัน ตอนนี้อวี้หลิงถูกขับออกจากจวนอ๋องไปอยู่ที่วัด นางเองไม่ได้สนใจพี่สาวเท่ามดนักเดิมทีพวกนางก็เป็นพี่น้อง

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 44 น้องสาวบุญธรรม

    เรื่องราวสะเทือนขวัญทั้งหมดที่เกิดขึ้น สร้างคลื่นลมใหญ่หลวงให้กับราชสำนักเป็นอย่างมาก เหล่าราษฎรต่างหวาดหวั่น ต้องใช้เวลาร่วมหลายเดือนกว่าที่คราวจะเงียบหายไปหลังจากเกิดเรื่อง เซวียนชินอ๋องก็กลายเป็นคนเมามาย และวาดใส่คนอื่นไปทั่วทั้งจวน โดยเฉพาะกับมู่หลานเฟิน เขาเอาโทสะทั้งหมดไปลงที่นาง บอกว่านาและป้าของนางคือตัวซวย อีกทั้งยับขับไล่นางออกจากจวนอ๋อง เซวียนซานหลางและเซวียนเจ๋อเองก็ปวดหัวไม่น้อยแต่มู่หลานเฟินกลับไม่ได้โกธร นางเข้าใจเรื่องราวได้อย่างกระจ่างแจ้ง เมื่ออวี้หลิงสิ้นอำนาจแล้ว นางย่อมไม่อาจอยู่ที่จวนอ๋องได้อีก และนางเองก็ไม่อยากจะสร้างปัญหาให้เขาเพิ่ม จึงปรึกษากับเขาว่าจะไปหาซื้อบ้านใหม่อยู่ เปิดร้านขายอาหาร เพราะของมีค่าที่ได้รับพระราชทานมาก่อนหน้านี้ก็ยังมีเหลืออยู่ไม่น้อย แรกเริ่มเซวียนซานหลางไม่เห็นด้วย แต่ม่หลานเฟินกลับเอ่ยโน้มน้าวเขาอย่างใจเย็น เขาจึงยอมตามใจนางเซวียนซานหลางหาบ้านหลังหนึ่งได้ มันตั้งอยู่ในตลาดสามารถทำมาค้าขายได้ เซวียนเจ๋อเป็นห่วงน้องสาวอยากตามมาอยู่ด้วย แต่มู่หลานเฟินบอกว่านางอยู่ได้ชีวิตที่ยากกำบากไม่ใช่ว่านางไม่เคยพานพบ ใช้ชีวิตมาหลายชาติพบเจอความทุ

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 43 ยาพิษ

    เซวียนซานหลางและมู่หลานเฟินรีบวิ่งมาที่เรือนของอวี้หลิงอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงภาพตรงหน้าก็ทำให้พวกเขาถึงกับหน้าซีดเผือดตอนนี้เซวียนเจ๋อกำลังนอนอยู่บนเตียงเขากระอักโลหิตออกมาไม่หยุด ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดจนน่าหวาดหวั่น ลมหายใจก็รวยรินราวกับจะขาดเสียให้ได้ เซวียนซานหลางที่เห็นสภาพน้องชายตนที่ย่ำแย่ถึงเพียงนี้ก็ตื่นตระหนกรีบสั่งให้คนไปตามหมอหลวงมาอย่างเร่งด่วน มู่หลานเฟินเข้าไปประคองญาติผู้พี่ของตนเอง ดวงตาของนางแดงกล่ำ ก่อนจะเอ่ย"เซวียนเจ๋อ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ท่านดื่มยาพิษเข้าไปได้อย่างไรกัน"เซวียนเจ๋อเงยหน้ามามองมู่หลานเฟินอย่างอ่อนแรง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาไม่ตอบอันใด เพียงมองไปที่มารดาของตนด้วยแววตาที่เย็นชาห่างเหินก่อนหน้านี้ท่านแม่ดูผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง นางดูเหมือนครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา เขาจึงจับตาดูนางและพบว่านางกำลังวางแผนจะสังหารพี่ใหญ่ของเขาอีกครั้งเซวียนเจ๋อรู้สึกผิดหวังในตัวมารดาเป็นอย่างมาก เดิมทีเขาคิดว่าท่านแม่จะสามารถปล่อยวางความโลภในใจได้แล้ว แต่มันกลับไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย ท่านแม่ยังคงมีจิตใจริษยามักใหญ่ใฝ่สูงท่านแม่คิดอาศัยช่วงชุลมุนวางยาพิษพี่ใหญ่ เขาที

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 42 ความจริง

    ด้านมู่หลานเฟินตอนนี้ก็ถูกโซ่ตรวนพันธนาการมือเท้าเอาไว้ นางได้กลิ่นสมุนไพรเข้มข้นสายหนึ่งที่ฉุนจนแทบแสบจมูก มันเป็นกลิ่นเดียวกับที่ได้กลิ่นจากศพในรูปปั้นเทพธิดา อีกทั้งบนโต๊ะยังมียันต์หลายแผ่นวางเอาไว้"สวีเจี๋ย เราต้องรีบทำพิธีแล้ว ไม่อย่างนั้นจะเลยฤกษ์ยามดี หลังจากนางตายก็เอาร่างนางหล่อเป็นรูปปั้นของเทพธิดา มอบนางเป็นเครื่องบูชายัญให้เทพปีศาจ เอาล่ะ ข้าจะเร่งขอพร ท่านก็รีบสังหารนาง จากนั้นก็ผ่าท้องนางและเอายันต์ขอพรยัดใส่เข้าไปพร้อมสมุนไพร""ได้เลย"ราชครูสวีรับคำ ด้านเฉินฮองเฮาก็นั่งลงเบื้องหน้าแท่นบูชาที่ตั้งอยู่ในห้องลับ ก่อนจะเอ่ยขอพรอย่างตั้งใจ"ท่านเทพปีศาจ ข้าได้นำเทพธิดามาสังเวยให้ท่านแล้ว หวังว่าท่านจะพอใจ เมื่อท่านพอใจแล้วก็ได้โปรดอำนวยอวยพระให้เซวียนจิ้น บุตรชายของข้าแข็งแรงโดยเร็ว ให้เขาได้ครองราชย์ยอย่างราบรื่น ไร้กังวลด้วยเถิด"มู่หลานเฟินมองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาที่วูบไหว นางพอจะเข้าใจเรื่องราวได้แล้วราชครูสวีและเฉินฮองเฮาดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์พิเศษต่อกัน หรือว่าองค์ชายน้อยผู้นั้นจะ...ยังไม่ทันที่นางจะได้คิดสิ่งใดต่อ ก็พบกับสวีเมิ่งเหยาที่วิ่งเข้ามา ราชครูสวีและเ

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 41 แผนคลาดเคลื่อน

    เสียงน้ำสาดกระเซ็นเป็นวงกว้าง เซวียนซานหลางที่ได้ยินก็รีบวิ่งเข้ามาดูทันที เมิื่อเห็นว่ามู่หลานเฟินตกน้ำลงไปพร้อมกับสวีเมิ่งเหยาเขาขมวดคิ้วมุ่น แต่เมื่อเห็นว่านางลอบยักคิ้วให้เขาหนึ่งครั้ง เซวียนซานหลางก็ถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออกนี่นางกำลังจะทำอันใดกันเซวียนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบร้อนวิ่งมาหาเซวียนซานหลาง"พี่ใหญ่ รีบช่วยหรานหร่านเร็วเข้า"ด้านฮ่องเต้เซวียนจงและเฉินฮองเฮาก็เริ่มร้อนใจแล้ว แม้แต่อวี้หลิงก็ยังนั่งไม่ติดที่สวีเมิ่งเหยาที่ถูกมู่หลานเฟินลากลงน้ำมาด้วยกันเริ่มมีโทสะขึ้นมา นางกัดฟันเอ่ยกับมู่หลานเฟินอย่างไม่พอใจ"นังสารเลว เจ้าคิดจะทำอันใด""เจ้าอยากกล่าวโทษข้า ว่าข้าผลักเจ้าตกน้ำไม่ใช่หรือ""เจ้ารู้ได้เช่นไร""เหอะ สวีเมิ่งเหยา เจ้าคิดว่าตนเองฉลาดมากนักหรือ แผนการเช่นนี้ข้ามองปราดเดียวก็กระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว ในเมื่อเจ้าอยากเล่นข้าก็จะเล่นด้วย พวกเรามาเล่นกันเถอะ"เอ่ยจบนางก็คว้ามือของสวีเมิ่งเหยามากดหัวตนเองให้จมน้ำ พร้อมกับทำท่าทางจะเป็นจะตาย สวีเมิ่งเหยาเลิกลั่กแล้ว มู่หลานเฟินไม่เพียงดำผุดดำว่ายอย่างสนุกสนาน แต่นางยังใช้มืออีกข้างยื่นมาหยิกที่เอวของสวีเมิ่งเหยาอย่างแรง

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 40 แกล้ง

    เช้าวันต่อมา มู่หลานเฟินตื่นนอนแต่เช้า นางไปหาอวี้หลิงและเซวียนเจ๋อที่พักอยู่อีกเรือนหนึ่ง เพื่อร่วมกินมื้อเช้า เช้าวันนี้ฮ่องเต้เซวียนจงไม่ได้สั่งให้พวกนางไปร่วมมื้อเช้าด้วย มู่หลานเฟินคิดว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะนางก็ไม่อยากจะพบร่วมโต๊ะกับพวกเขาเท่าใดนักระยะนี้อวี้หลิงดูเหมือนจะมีท่าทางแปลกไป นอกจากจะไม่ก่อคลื่นลมใดแล้ว ในแววตายังดูเหมือนมีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา มู่หลานเฟินเองไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใดและไม่ได้วางใจเช่นกัน การที่อวี้หลิงไม่ก่อคลื่นลมไม่ได้แปลว่าพวกนางจะวางใจได้หลังจากผ่านพ้นมื้อเช้าไปเพียงไม่นาน ฮ่องเต้เซวียนจงก็มีรีบสั่งให้เซวียนซานหลางไปสนทนาที่ตำหนักใหญ่ มู่หลานเฟินไม่ได้ตามไปด้วย นางไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้กับเซวียนเจ๋ออากาศที่นี่ค่อนข้างดีไม่น้อยเลย มองไปทางใดก็เห็นเหล่ามวลผกาออกดอกล้อเล่นลม ป่าไผ่รอบข้างก็เขียวขจีสดชื่น แม้แต่ทะเลสาบเบื้องหน้าก็ยังงดงามราวกับภาพวาด เซวียนเจ๋อที่เดินอยู่ข้างกายมู่หลานเฟิน พลันเอ่ยถามญาติผู้น้องของตนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย"หรานหร่าน หากพี่ใหญ่แต่งงานกับสวีเมิ่งเหยาแล้ว เจ้าจะทำเช่นไร เจ้าจะยอมแต่งเป็นภรรยาของเขาหร

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 39 พระราชวังฤดูร้อน

    หลายวันต่อมา มู่หลานเฟินที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ก็ทำทีเป็นว่าทราบเรื่องที่วัดสือฉีเปิดให้หญิงสาวไปผูกดวงขอความรัก นางจึงเดินทางไปที่วัดแห่งนั้นและเขียนดวงชะตาของตนเองผูกเอาไว้เพราะเข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าวแล้ว ฮ่องเต้เซวียนจงจึงมีรับสั่งว่าจะเดินทางไปพักผ่อนที่พระราชวังฤดูร้อนด้านนอกเมืองหลวง ที่นั่นบรรยากาศดีและเย็นสบายกว่าเมืองหลวง อีกทั้งยังตรัสว่าให้เหล่าขุนนางชั้นสูงติดตามไปด้วย เหล่าขุนนางที่มีตำแหน่งสูงต้องติดตามไปด้วย เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากอันใด เพราะบ้านพักของพวกเขาตั้งอยู่ใกล้ๆกับพระราชวังฤดูร้อนอยู่แล้วแน่นอนว่าคนในจวนชินอ๋องย่อมต้องติดตามไปด้วยเพราะเป็นเครือญาติและเชื้อพระวงศ์ อวี้หลิงพระชายาเอกนั้นได้สั่งให้บ่าวไพร่ตระเตรียมของให้พร้อมสรรพ ก่อนที่นางจะเดินกลับเข้ามาในห้องของตนเองเพื่อพักผ่อนเมื่อนั่งอยู่เพียงลำพังแล้ว อวี้หลิงก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้เมื่อสองคืนก่อนนางได้รับจดหมายลับฉบับหนึ่ง เนื้อหาในจดหมายบอกว่า มีเบาะแสที่สามารถชี้ตัวคนร้ายที่สังหารน้องสาวและน้องเขยของนางได้ แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่งนั่นก็คือ นางจะต้องสังหารเซวียนซานหลางเสีย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status