Share

บทที่ 17 บิดาข้าขอซาลาเปาหน่อย

last update Last Updated: 2025-04-05 15:41:28

เมื่อเรื่องราวที่เมืองถงหวางจบสิ้นลงแล้ว ก็ได้เวลากลับเมืองหลวงกันเสียที 

ก่อนเดินทางกลับหนึ่งวัน เสิ่นเหวยอันนึกสนุกจึงเอาสุราชั้นดีมาให้ทุกคนได้ดื่ม อีกทั้งยังย่างเนื้อกินกันอย่างสนุกสนาน

แสงของกองไฟที่สว่างเจิดจ้า ส่องกระทบใบหน้างดงามของมู่หลานเฟิน นางยังคงยิ้มร่าเริง เข้ากับชาวบ้านได้ดี ไม่มีท่าทีรังเกียจเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังลงมือย่างเนื้อเองกับเมือ 

"คุณหนูมู่ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีฝีมือทำอาหารดีเช่นนี้ ข้าไม่เคยกินเนื้อย่างที่ไหนแล้วอร่อยเท่าของเจ้ามาก่อนเลย"

ซูอวี้เฉิงเอ่ยชมมู่หลานเฟิน เขาได้ยินเรื่องเล่าของสตรีน้อยนางนี้มาพอสมควร ทั้งเรื่องที่นางช่วยจับนักโทษ และเรื่องที่่ช่วยสืบคดี อีกทั้งตอนนั้นที่นางถือดาบหมายจะสังหารเจ้าเมืองถงหวางคนเก่า แววตาของนางมุ่งมั่นไม่สั่นคลอนและไม่หวาดกลัว อีกทั้งยังแน่วแน่เป็นอย่างมาก

น้อยนักที่ในเมืองหลวงจะมีสตรีที่กล้าหาญถึงเพียงนี้

"ใต้เท้าซูเอ่ยชมเกินไปแล้ว"

มู่หลานเฟินเอ่ยพร้อมกับยิ้มตอบเขา ซูอวี้เฉิงคือคุณชายรองของจวนตระกูลซู พี่ชายเขาก่อนหน้านี้เป็นหนุ่มรูปงามในเมืองหลวง สอบได้ตำแหน่งจอหงวน เป็นความหวังของสกุลซู แต่ไม่นานกลับพลัดตกม้าสมองได้รับความกระทบกระเทือนจนกลายเป็นพิการ คุณชายรองซูผู้เจ้าสำราญกลับต้องแบกรับหน้าที่ทายาทของตระกูลเอาไว้บนบ่าแทนพี่ชาย

เพราะความสามารถของเขาจึงได้เป็นถึงหัวหน้าองค์รักษ์เสื้อแพรผู้มีความเก่งกาจ

เสิ่นเหวยอันไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงมองมู่หลานเฟินด้วยแววตาที่ชื่นชม เขาเห็นกับตาตอนที่ไปสืบคดีว่านางมีความสามารถมากเพียงใด แต่นางกลับไม่สนใจเรื่องความดีความชอบ บอกว่าไม่ต้องการความวุ่นวาย เพียงแค่มอบสุราให้นางสักไหนางก็ชื่นใจแล้ว ส่วนความดีความชอบในการจับคนร้าย ก็ให้เขาและเซวียนซานหลางเป็นคนรับแทนไปเถอะ

นี่ยิ่งเพิ่มความประทับใจที่เขามีต่อนางมากขึ้นไปอีก

ในเมืองหลวงต่างบอกว่า เด็กสาวที่มาจากตระกูลพ่อค้านั่นต่ำต้อย เทียบคุณหนูที่เกิดจากตระกูลใหญ่ไม่ได้ แต่เขากลับคิดต่างออกไป มู่หลานเฟินโดดเด่นกว่าสตรีเหล่านั้นมากมายนัก

เซวียนซานหลางยกจกสุราขึ้นดื่ม และหันไปมองมู่หลานเฟินเป็นระยะ สตรีนางนี้เปลี่ยนไปมากจริงๆ

สายลับของบอกว่านางไม่เคยมีอาจารย์สอนวรยุทธ์ นางโกหกเขา

ในเมื่อไม่มีอาจารย์คอยชี้แนะ เช่นนั้นมู่หลานเฟินไปเรียนรู้เรื่องพวกนี้มาจากที่ใดกัน

มู่หลานเฟินในตอนนี้นอกจากจะมีความสามารถแล้วยังร่าเริงสดใส เมื่อยามที่พบเจอความยากลำบากนางกลับสุขุมรอบคอบ ไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด ไม่เข้าข้างคนทำผิด แม้แต่ตอนที่นางทำผิดเองก็ยังรู้จักขอโทษ นิสัยของนางคบหากว่าแต่ก่อนมาก

น่าคบหาหรือ ผู้ใดอยากคบหากับนางกัน

เข้าวันต่อมาก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับเมืองหลวง เสิ่นเหวยอันและซูอวี้เฉิงเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้ว แต่เพราะมู่หลานเฟินเป็นสตรีต้องจัดเก็บของหลายอย่างจึงทำให้ออกเดินทางช้า เซวียนซานหลางไม่ได้เร่งรัดอะไรนาง เมื่อจัดของเสร็จแล้ว พวกเขาก็เดินทางออกจากเมืองถงหวาง

 เหล่าชาวบ้านเดินมาส่งพวกนางที่หน้าประตูเมือง มู่หลานเฟินยิ้มให้ชาวบ้าน เมืองถงหวางแห่งนี้ต่อไปก็ไม่ต้องประสบพบเจอกับเรื่องเลวร้ายอีกต่อไปแล้ว

ภายในรถม้าค่อนข้างกว้างขวางโอ่อ่า สามารถนั่งได้หลายคน ลั่วเหมยกลัวความผิดและเกรงกลัวเซวียนซานหลางมากจึงไม่กล้าเข้ามานั่งในรถม้าตามคำชวนของมู่หลานเฟิน นางนั่งอยู่นอกรถม้าคอยดูแลความสะดวกให้เจ้านาย

เซวียนซานหลางไม่ได้ติดใจเรื่องที่ลั่วเหมยคิดจะวางยาเขาอีก เซวียนเจ๋อเองก็ไม่ได้มีท่าทีประหม่าเช่นหลายวันก่อนอีก เพราะสองพี่น้องเข้าใจกันดี เซวียนเจ๋อหาวออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปจับแขนของพี่ชายเขย่าอย่างออดอ้อน

"พี่ใหญ่ ข้าแต่งตัวเป็นสตรีมาหลายสิบวันแล้วรู้สึกเหนื่อยมาก ใบหน้าหล่อเหลาของข้ากลับไปต้องใจตาแก่หมอบ้านั่นเข้า ให้ตายเถอะ"

เมื่อคิดถึงท่านหมอผู้นั้นที่หมายใจจะแต่งเซวียนเจ๋อเป็นภรรยา มู่หลานเฟินก็อดรู้สึกขบขันไม่ได้

หญิงสาวหยิบผลผูเถาขึ้นมากินแก้เบื่อ พร้อมกับมองไปที่นอกหน้าต่าง การเดินทางที่แสนยาวนานนับว่าน่าเบื่อเกินไปจริงๆ

อยู่ๆเซวียนเจ๋อก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ 

"นี่พวกท่าน มาเล่นทายลูกเต๋ากันดีหรือไม่ สูงต่ำอย่างไรเล่า ใครชนะก็ได้ตั๋วเงินไป ดีหรือไม่"

เซวียนซานหลางที่ได้ยินก็ยกมือขึ้นมาดีดหน้าผากน้องชายก่อนจะเอ่ยปราม

"อาเจ๋อ วันๆเจ้าไม่สนใจร่ำเรียนก็แล้วไปเถอะ แต่ยามนี้กลับมีใจฝักใฝ่ในการพนันอีกด้วย เจ้าจะเกินไปแล้วนะ"

"โธ่พี่ใหญ่ ท่านก็เอาแต่บังคับให้ข้าไปเรียน"

เซวียนซานหลางค้านจะสนใจแล้ว เขาหันไปมองมู่หลานเฟินก็พบว่านางกำลังยกจอกสุราขึ้นดื่มจอกแล้วจอกเล่า 

มารดามันเถอะ น้องชายก็ไม่รักเรียน ส่วนญาติของน้องชายก็ติดสุรา แต่ละคนช่างดีิยิ่งนัก!

สตรีขี้เมา!

ด้านมู่หลานเฟินที่กลายเป็นสตรีขี้เมานั้นตอนนี้ก็เริ่มจะเมาเข้าแล้วจริงๆ แม้นางจะคอแข็งเพียงใด แต่ระหว่างทางก็ดื่มสุราไปหลายไหแล้ว สุรานี่ของเสิ่นเหวยอันนำมามอบให้รสชาติแรงไม่เบา ดวงตาของนางเริ่มพร่ามัว ร่างกายโงนเงน ยิ่งรถม้าเคลื่อนไปรวดเร็วบนเส้นทางที่ขรุขระมากเพียงใด นางก็ยิ่งตาลาย

"หรานหร่านเจ้าเมาแล้วหรือ ข้าบอกแล้วว่าอย่าดื่มเยอะ”

เซวียนเจ๋อเอ่ยเตือนญาติผู้น้องของตนด้วยคามเป็นห่วง ช่วงที่อยู่ด้วยกันที่ถงหวางความสัมพันธ์ของเขาและนางดีมาก เขารู้สึกชื่นชอบนางที่มีนิสัยน่ารักคนนี้มากว่านางคนเก่าที่นิสัยเสียคนนั้น และตัวเขาเองก็ไม่ต้องการหาสาเหตุว่าเพราะอะไรนางถึงเปลี่ยนไปราวกับพลิกฝ่ามือเช่นนี้ ขอเพียงนางทำตัวดีขึ้นเขาก็ดีใจแล้ว

มู่หลานเฟินหันมามองเซวียนเจ๋อ ก่อนจะย่นหัวคิ้ว ตอนนี้นางมองเห็นเซวียนเจ๋อกลายเป็นซาลาเปาไส้เนื้อลูกโตไปเสียแล้ว หญิงสาวแลบลิ้นเลียริมฝีปากก่อนจะเอ่ย

“เจ้าซาลาเปา วันนี้ข้าจะกินเจ้า ข้าจะกินเจ้าเสีย!"

เซวียนเจ๋อสะดุ้งโหยง นี่มู่หลานเฟินเห็นเขาเป็นซาลาเปาอย่างนั้นหรือ นางเมาจนเพี้ยนไปแล้้ว

"เจ้าจะบ้าหรือ ข้าเป็นพี่ชายเจ้านะ ซาลาเปาอันใดกัน เจ้าเมาแล้ว เมาแล้วก็ไปนอนเสีย!"

“ซาลาเปา ข้าจะกินเจ้า!"

"พี่ใหญ่ช่วยข้าด้วย นางเป็นบ้าไปแล้ว!"

เซวียนเจ๋อกระโดดไปหลบอยู่ที่ด้านหลังของเซวียนซานหลาง มู่หลานเฟินต้องการคว้าจับซาลาเปานั้นมากินให้ได้จึงพุ่งเข้ามาทันที เซวียนซานหลางปรายตามองนาง คิดว่าหากนางเข้ามาถึงเขาจะฟาดคอนางให้สลบไปเสีย

แต่กลับผิดคาด!

มู่หลานเฟินมองเขาตาปริบๆ ใบหน้าของนางแดงกล่ำ ดวงตาหรี่ปรือ หญิงสาวคุกเข่าลง ก่อนจะกอดขาเขาเอาไว้แน่ พร้อมร้องห่มร้องไห้

"อึก ท่านพ่อ ข้าอยากกินซาลาเปาจริงๆนะเจ้าคะ ท่านพ่อ ขอซาลาเปาให้ข้าเถอะ ฮือ"

เซวียนเจ๋อถึงกับหัวเราะลั่น ก่อนจะกระซิบพูดข้างหูของพี่ชายตน

"พี่ใหญ่ ท่านดูสินางเห็นท่านกลายเป็นบิดาตนเองไปแล้ว ท่านลูบศีรษะนางสิ แล้วบอกว่า พ่อรู้แล้วลูก พ่อจะไปซื้อซาลาเปาให้นะลูก ฮ่าๆ!"

เซวียนซานหลาง"...."

นางมองเซวียนเจ๋อเป็นซาลาเปาแต่กลับมองเขาเป็นบิดา?

มารดามันเถอะ เขาแก่ถึงขนาดนั้นเชียวหรือ!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 18 นักฆ่า

    การเดินทางกลับเมืองหลวงครั้งนี้่ย่อมต้องใช้เวลาไม่น้อย ระหว่างทางเซวียนซานหลางตัดสินใจพักที่โรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง ลั่วเหมยและเซวียนเจ๋อช่วยประคองมู่หลานเฟินที่ตอนนี้เมาไม่ได้สติเข้าไปพักในห้องเรียบร้อยแล้ว ส่วนเซวียนซานหลางกำลังนั่งอยู่ในอ่างน้ำ ชายหนุ่มเอนศีรษะพิงกับขอบถังน้ำก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ม่านขนตาเรียวยาวมีไอน้ำพร่างพราวเกาะอยู่ มองดูแล้วช่างน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่งเขานั่งนอนอยู่ในอ่างน้ำครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า อยู่ๆชายหนุ่มก็รับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวสายหนึ่งที่พุ่งเข้ามาในห้องนอน สัญชาตญาณการป้องกันตัวของเซวียนซานหลางเริ่มทำงานทันที เขาคว้ากดาบคู่ใจขึ้นมา ก่อนจะหันไปตวัดฟาดฟันใส่ผู้ที่เข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญในทันทีคนที่บุกเข้ามาเป็นชายชุดดำสามคน ฝีมือไม่ธรรมดา พวกมันอำพรางใบหน้าตน เซวียนซานหลางจ้องมองคนทั้งสามด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะเอ่ยถาม"ผู้ใดส่งพวกเจ้ามา""คนที่อยากให้เจ้าตายอย่างไรเล่า"เอ่ยจบนักฆ่าชุดดำสามคนก็พุ่งเข้าหาเซวียนซานหลางทันที แต่ชายหนุ่มเบี่ยงกายหลบได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะส่งสัญญาณเรียกองค์รักษ์ลับให้เข้ามาจัดการ นักฆ่าเมื่อรู้ว่าเริ่มปะมือไม่ไหว จ

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 19 เข้าเรียน

    มู่หลิงเมื่อได้ยินอย่างนั้นแม้ในใจจะสงสัยแต่อีกใจหนึ่งกลับรู้สึกอดเสียดายไม่ได้ เหตุใดนักฆ่าเหล่านั้นจึงลงมือพลาดกันนะ มู่หลานเฟินคร้านจะสนใจป้าของนางอีกจึงกลับมาที่เรือนพัก อีกทั้งยังบอกอีกว่าลั่วเหมยและพี่สาวนางจะรับมาดูแลต่อเอง หากอวี้หลิงไม่ยอมนางก็จะโบยคนของอวี้หลิงจนตายเช่นเดียวกัน อวี้หลิงส่งเสียงเหอะออกมา ไม่คิดว่าหลานสาวตัวดีจะกล้าข่มขู่นาง แต่แววตาของมู่หลานเฟินไม่ได้มีทีท่าล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย นางจึงรับปากไปอย่างส่งๆ รอให้มู่หลานเฟินลืมเรื่องนี้ไปค่อยจัดการก็ยังไม่สายด้านเซวียนซานหลางหลังจากที่กลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เซวียนจงผู้เป็นเสด็จลุง บอกเล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้รับรู้ ยามนี้ในห้องทรงอักษรยังมีเสิ่นเหวยอันและซูอวี้เฉิงอยู่ด้วย ฮ่องเต้เซวียนจงเอ่ยชมทั้งสามคน ไม่คาดคิดเลยว่าคดีที่ปิดไม่ได้ในครั้งนี้ จะเกี่ยวพันกับจวนเจ้าเมืองถงหวาง อีกทั้งบุตรสาวของเขาที่เสียสติเพราะความรักจนลงมือได้อย่างอำหิตนางนั้นก็ได้รับผลกรรมไปตามสมควรแล้ว"ซานหลาง ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่า หลานสาวของมารดาเลี้ยงเจ้ามีส่วนช่วยเหลือพวกเจ้าในการสืบคดี ไหนเจ

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 20 มีแต่เรื่อง

    ไม่นานรถม้ามาจอดที่หน้าทางเข้าสำนักศึกษา เซวียนเจ๋อแยกตัวไปที่สำนักศึกษาจิ้นหมิง และบอกอีกว่ายามเย็นจะมารับนาง มู่หลานเฟินพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในสำนักศึกษาเสวียนลู่ทันทีภายในสำนักศึกษาตกแต่งได้งดงามเป็นอย่างมาก หญิงสาวมองดูห้องเรียนใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า การตกแต่งของห้องเรียนใหญ่งดงามหรูหรา เพียงมองจากภายนอก นางก็นึกภาพออกได้แล้วว่าภายในจะต้องตกแต่งอย่างเอริกเกริกแน่นอน เพราะมีแต่สตรีที่มีชาติกำเนิดสูงส่ง ถูกเลี้ยงดูมาราวไข่มุกในฝ่ามือเท่านั้นที่จะได้เข้าไปเรียน วันหน้าวาสนาจะสูงส่งยิ่งนัก บางคนอาจจะได้แต่งให้กับบุรุษที่ดีพร้อม บางคนอาจจะได้เข้าวังหลวงไปเป็นพระสนมคนโปรดของฝ่าบาทนางไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอันใด สำหรับนางแล้ว คนเราล้วนเกิดมาตัวเปล่ากันทั้งนั้น สิ่งของนอกกายเหล่านี้เป็นเพียงภาพมายา วันใดที่หมดลมหายใจล้วนเอาพวกมันติดตัวไปไม่ได้สักอย่าง ไม่สู้อย่าไปยึดติดกับของภายนอกเหล่านั้นให้มากนักจะดีกว่ามู่หลานเฟินคร้านจะสนใจอีก นางเดินไปที่ห้องเรียนเล็กซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ระหว่างทางนางได้ยินเสียงสตรีน้อยที่มาจากตระกูลขุนนางกำลังเอ่ยวาจากระซิบกระซาบนินทานางอย่างออกรส บาง

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 21 เบาะแสของคดีใหม่

    เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปหลายวัน มู่หลานเฟินยังคงไปเรียนที่สำนักศึกษาเช่นเดิม ระยะนี้นางได้พบเพื่อนใหม่มากมาย อีกทั้งบุรุษที่นางช่วยในวันนั้นก็ได้กลายมาเป็นสหายของนาง เขามีนามว่าอาจ้าน อาจ้านเป็นคนนิสัยดี อีกทั้งยังแนะนำสหายบหลายคนให้มารู้จักนางอีกด้วย พวกเขาแม้จะไม่ได้มีฐานะร่ำรวยสูงส่งแต่กลับมีนิสัยใจคอที่ดีและน่าคบหาส่วนเซียวเหลียนและพรรคพวกก็ไม่กล้ามายุ่งกับพวกนางอีกเอ่ยถึงเซวียนซานหลงแล้ว มู๋หลานเฟินเองก็รู้สึกติดค้างเขาอยู่เช่นเดียวกัน ก่อนหน้านี้ที่เกิดเรื่องเขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนาง นางไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนเขา จึงตั้งใจทำขนมเล็กๆน้อยๆไปมอบให้เขาแทนวันนี้ไม่มีเรียน มู่หลานเฟินเองก็ว่าง นางจึงทำขนมไปขอบคุณเขา ปลายฤดูใบไม้ผลิอากาศเริ่มจะร้อนขึ้นมาเล็กน้อยแต่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศของความหนาวเย็นอยู่บ้าง มู่หลานเฟินเดินถือกล่องใส่อาหารมาที่เรือนของเซวียนซานหลาง หญิงสาวชั่งใจว่าจะเข้าไปดีไหม เขาจะมองนางเช่นไรเมื่อสอบถามสาวใช้ที่เรือนของเซวียนซานหลาง ก็ได้ความว่าเขาไปนั่งพักผ่อนที่ศาลาใต้้ต้นไม้ที่ด้านหลังเรือน มู่หลานเฟินที่ได้ยินอย่างนั้นก็คิดว่าดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเข้าไปยุ่งวุ่น

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 22 เด็กหาย

    ที่นี่คือเมืองเจียงตาน ตั้งอยู่ทางใต้ของแคว้นตงหลาง หมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากในเมืองเจียงตานเท่าใดนัก พวกเขามีอาชีพจับปลาไปขายที่ตลาดในเมืองเจียงตาน เซวียนซานหลางไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะลอยตามกระแสน้ำจนมาถึงเมืองนี้ได้เรื่องที่เขาได้ยินมาจากสตรีเหล่านั้นก็คือช่วงหลายเดือนมานี้ในเมืองเจียงตานมีเด็กชายอายุสิบขวบหายไปจากบ้าน อย่างไร้ร่องรอง ก่อนที่จะมีเด็กหายพวกชาวบ้านมักจะได้ยินเสียงกลองป๋องแป๋งซึ่งเป็นของเล่นเด็กดังขึ้น จากนั้นพวกเขาก็จะรู้สึกสสืมสลือและผล็อยหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าของอีกวันก็พบว่าบุตรชายของตนได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้วผู้คนเล่าลือกันว่าก่อนหน้านี้มีหญิงสาวคนหนึ่งตั้งครรภ์ ไม่นานสามีนางก็ทิ้งไปกับภรรยาใหม่ นางให้คลอดบุตรชายคนหนึ่ง แต่เพราะบุตรชายคลอดก่อนกำหนดจึงไม่แข็งแรง ไม่นานก็ตายจากนางไป นางเสียสติและตัดสินใจปลิดชีพตนให้ตายตามลูกไป หลังจากที่นางตายไป ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น นั่นก็คือเด็กๆ มักจะหายตัวไป ทางการออกตามหาตัวแต่กลับไม่พบ ช่างน่าแปลกประหลาดยิ่งนักเซวียนซานหลางขมวดคิ้วมุ่น เรื่องนี้คล้ายกับคดีที่เมืองถงหวางอยู่บ้างผีสางอันใดกัน คงจ

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 23 สามีภรรยา(ปลอม)อีกแล้ว

    ข่าวการหายตัวไปของคนทั้งสาม สร้างความแตกตื่นแก่ผู้คนในเมืองหลวงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฮ่องเต้เซวียนจงที่ตอนนี้ร้อนรนจนนั่งไม่ติด เพราะหลานชายทั้งสองคนของเขาได้หายตัวไปอย่างกระทันหัน อีกทั้งยังหาตัวคนไม่พบ เบาะแสใดใดก็ยังไม่มี นั่นยิ่งทำให้เขากลุ้มใจเป็นอย่างมากด้านเซวียนชินอ๋องเองก็ไม่ต่างกัน แม้ยามปกติเขาดูเหมือนจะไม่สนใจเซวียนซานหลางและเซวียนเจ๋อเท่าใดนัก แต่อย่างไรเด็กสองคนนั้นก็คือทายาทของเขา เป็นสายเลือดของเขา เขาย่อมไม่อาจเฉยเมยได้ จึงสั่งให้คนไปตามหาอีกแรงหนึ่งด้านอวี้ิหลิงนั้นนางเองก็ร้อนใจเหมือนไฟเผา ใจหนึ่งนางดีใจที่เซวียนซานหลางหายตัวไป นางถึงกับสาปแช่งให้เขาตกตายไปเสียและไม่มีโอกาศรอดกลับมาเมืองหลวงได้อีก แต่อีกใจหนึ่งนางก็แทบคลุ้มคลั่งเพราะเซวียนเจ๋อบุตรชายของนางก็หายไปพร้อมกัน อีกทั้งมู่หลานเฟินก็หายไปด้วยผู้คนในเมืองหลวงต่างเอ่ยกันไปต่างๆนาๆถึงการหายหายตัวไปของคนทั้งสาม บ้างก็ว่าเป็นรักสามเศร้าพวกเขาตกลงกันไม่ได้จึงพากันไปตาย บ้างก็ว่าเซวียนซานหลางเป็นคนฆ่าเซวียนเจ๋อและมู่หลานเฟินเพราะรับไม่ได้ที่ถูกน้องชานหยามเกียรติแย่งสตรีของตนไป เรื่องราวเลยเถิดเป็นอย่างมากจนฮ่องเต

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 24 ตามตัวคน

    เมื่อตกลงแผนการกันได้อย่างลงตัวแล้ว คนทั้งสามก็เดินทางเข้าเมืองเจียงตานอย่างราบรื่น เป็นอย่างที่มู่หลานเฟินเอ่ยเอาไว้จริงๆว่าเมืองเจียงตานค่อนข้างหละหลวมขาดการคัดกรองคน แรกเริ่มเหล่าทหารยังมองพวกเขาด้วยความสงสัย แต่เมื่อพวกเขามอบเงินให้นิดหน่อยทหารพวกนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาเข้าเมืองไปได้แล้วก่อนหน้านี้เหล่าชาวบ้านได้มอบเงินไม่น้อยให้พวกเขานำติดตัวมา ประจวบเหมาะกับมู่หลานเฟินนำปิ่นปักผมของนางไปจำนำที่โรงรับจำนำไม่ไกลจากทางเข้าเมืองเจียงตานได้มาอีกหลายสิบตำลึง จึงยังพอจะประทังชีวิตกันไปได้บ้าง รอให้คนของเซวียนซานหลางตามตัวพวกเขาเจอ แน่นอนว่าย่อมไม่ขัดสนเรื่องเงินทองภายในเมืองเจียงตานนั้นค่อนข้างกว้างใหญ่่เป็นอย่างมาก เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางใต้ ลมพัดเย็นสบายไม่น้อยเลย มู่หลานเฟินมองไปโดยรอบด้วยความสงสัยใคร่รู้ เหล่าชาวบ้านเองก็มองพวกนางเช่นเดียวกันแต่กลับไม่ได้เอ่ยทักทายปราศรัยอันใดเซวียนซานหลางพาคนทั้งหมดมาพักที่โรงเตี้ยมเล็กๆแห่งหนึ่ง เถ้าแก่โรงเตี้ยมให้การต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาและนางอยู่ร่วมห้องกัน มู่หลานเฟินจึงไม่ได้รู้สึกประดักประเดิดอันใด อย่างไรเขาก็ไม่ท

    Last Updated : 2025-04-05
  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 25 กลิ่นประหลาด

    หลายวันต่อมา เซวียนซานหลางและมู่หลานเฟินรวมถึงเซวียนเจ๋อก็ได้มาซื้อร้านของท่านหมอหลิ่วตามที่ตกลงกันเอาไว้ พวกเขาเปิดร้านขายเนื้อ ทำทีเหมือนเป็นพ่อค้าธรรมดา โดยมีเซวียนเจ๋อน้องชายคอยช่วยทำเนื้อขาย ส่วนมู่หลานเฟินนั้นค่อนข้างสบายเป็นอย่างยิ่ง เพราะนางรับบทภรรยาขี้โรคของเขา วันๆนอกจากแกล้งไอแล้วนางก็ไม่ทำสิ่งใดอีกกิจการค่อนข้างไปได้ดี มีทางการมาตรวจเวรยามตามปกติ แต่่ส่วนมากมักจะชอบมากินโดยไม่่จ่ายเงินเสียมากกว่า เซวียนซานหลางสังเกตว่าพวกทหารเหล่านี้ทำตัวเมือนอันธพาลเป็นอย่างมากจากการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาหลายวัน ทำให้เขาได้รู้เรื่องหนึ่งเข้าดูเหมือนว่าเมืองเจียงตานแห่งนี้นายอำเภอจะมีอำนาจมากกว่าท่านเจ้้าเมืองเสียด้วยซ้ำเจ้าเมืองเจียงตานเป็นชายวัยกลางคน แม้จะนั่งอยู่ในตำแหน่งท่านเจ้าเมืองแต่เหมือนเป็นเพียงหุ่นเชิดให้คนชั่วคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ส่วนนายอำเภอหม่านั้น วางอำนาจบาตรใหญ่ เบื้องหน้าทำท่าทีเป็นรักใคร่ห่วงใยชาวบ้านในเมือง แต่ยามที่ชาวบ้านมีภัย มาร้องขอความเมตตาเรื่องบุตรที่หายตัวไป เขากลับไม่ได้ช่วยเหลือเท่าที่ควร อีกทั้งยังบอกให้พ่อแม่เด็กทำใจเสียยังไม่ทันหาเบาะแสก็บอกให้คนทำ

    Last Updated : 2025-04-05

Latest chapter

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   ตอนจบ

    แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้เข้าห่ำหั่นกับศัตรูเพื่อปิดจบสงครามฉากนี้นี้ ก็ได้ยินเสียงเกือกเท้าม้าดังกึกก้อง คนทั้งสามหันมาสบตากันอีกครั้ง ในดวงตาฉายแววเคร่งเครียดหรือนี่จะเป็นกำลังเสริมของชนเผ่าทุ่งหญ้า?ยังไม่ทันได้คิดสิ่งใดให้มากความเซวียนซานหลางก็เห็นว่ากองทหารของแคว้นทุ่งหญ้าที่ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าแตกแถวออกเป็นวงกว้าง ศีรษะของแม่ทัพเผาทุ่งหญ้าร่วงกระเด็นตกลงบนพื้นดวงตาเบิกโพลงเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าตนจะถูกสังหาร"ฆ่าทิ้งให้หมด!"เซวียนซานหลางมองไปเบื้องหน้า ก่อนที่ดวงตาของเขาจะแดงก่ำตอนนี้มู่หลานเฟิรกำลังควบอยู่บนหลังม้าด้วยท่วงท่าองอาจ มือหนึ่งจับบังเหียน มือหนึ่งถือหอกเอาไว้ในมือ ปลายด้ามหอกอาบย้อมไปด้วยโลหิตสีแดงสด นางสวมชุดเกราะรวบผมขึ้นสูง ดวงตามั่นคงหนักแน่นไม่หวาดหวั่น ทุกทีที่นางควบม้าพาดผ่าน ล้วนมีทหารของชนเผ่าทุ่งหญ้าล้มตายราวกับใบไม้ร่วงเสิ่นเหวยอันและซูอวี้เฉิงเมื่อได้เห็นเช่นนั้นก็ตื่นตระหนกไม่น้อย เดิมทีพวกเขารู้ว่านางมีความสามารถ แต่ไม่คิดว่าจะองอาจเยี่ยงแม่ทัพใหญ่ผู้เจนจัดสงครามในสนามรบเช่นนี้มู่หลานเฟินหันมามองบุรุษทั้งสามคน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่องอาจ

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 46 สงคราม

    เมื่อเรื่องราวคลี่คลายแล้ว ทุกคนจึงเกินทางกลับมาที่เมืองหลวง เมื่อกลับมาถึงก็ได้ทราบข่าวร้ายก่อนหน้านี้เซวียนชินอ๋องติดสุราจนเมามาย ทำให้สุขภาพไม่สู้ดีจนถึงขึ้นล้มป่วยลง อีกทั้งยังได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจเนื่องจากรู้ข่าวว่าอวี้หลิงปลิดชีพตนเองตายจากไป แม้ปากจะบอกว่าเกลียดชังนางย่ แต่เมื่อนางตายจากไปจริงๆ เขากลับทำใจไม่ได้ สุดท้ายจึงดื่มเหล้าหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุขภาพทรุดหนักลงเรื่อยๆ จวบจนทนไม่ไหวและตรอมใจตายตามอวี้หลิงไปก่อนจากเขาไม่ได้สั่งเสียสิ่งใดกับบุตรชายทั้งสองคน เอาแต่เหม่อลอยเรียกหาอวี้หลิงและอดีตพระชายาซึ่งก็คือมารดาของเซวียนซานหลาง จวบจนวาระสุดท้ายท่านพ่อของพวกเขาสองคนก็คิดถึงแต่ตนเอง ไม่เคยคิดถึงบุตรชายเลยแม้แต่น้อยงานศพของเซวียนชินอ๋องถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายเมื่อบิดาตายจากไป ตำแหน่งชินอ๋องย่อมตกเป็นของเซวียนซานหลางโดยชอบธรรม ส่วนเซวียนเจ๋อนั้นเขาไม่อยากจะรับตำแหน่งใดทั้งสิ้น เขาอยากเป็นเพียงคุณชายเจ้าสำราญที่ได้ใช้ชีวิตตามใจของตนด้านวังหลวงเองก็ไม่สู้ดีเท่าใดนัก ฮ่องเต้เซวียนจงอาการไม่สู้ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังไม่ม่ีทายาทสืบทอด เหล่าขุนนางต่างหวาดหวั่นใจยิ่งน

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 45 จับคนร้าย

    วันคืนก็ผ่านไปเช่นนี้ จนกระทั่งสุขภาพของมู่หลานเฟินดีขึ้นมาก และเซวียนซานหลางก็สะสางธุระแล้วเสร็จและกลับมาเมืองหลวงพอดี นางจึงบอกเรื่องนี้กับเขาและตัดสินใจกลับบ้านเดิมสักครั้งจวนตระกูลอวี้เป็นตระกูลคหบดี พวกเขาเป็นคนเมืองจินหลิงซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปไม่ไกลเท่าใดนัก นับว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองจินหลิงแล้ว พวกเขาทำการค้าหลายอย่าง หลายปีมานี้กิจการก้าวหน้า เพราะมีน้าสาวและสามีของนางคอยดูแลวันแรกที่มู่หลานเฟินกลับไปถึง ก็พบว่าพวกเขามีท่าทีแปลกประหลาดจริงๆ เหมือนไม่อยากต้อนรับ ราวกับมีบางอย่างปิดบังนางอย่างไรอย่างนั้น แต่่เพราะมู่หลานเฟินต้องการสืบความจริง นางจึงแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นท่าทีนั้นของพวกเขาและยังบอกอีกว่าอยากจะพักอยู่ที่นี่สักระยะเพราะมีเรื่องจะมาแจ้งทุกคน นางเดินทางมาครั้งนี้นำสมบัติมาด้วยหลายหีบบอกว่าเป็นของที่นางเก็บสะสมเอาไว้ แต่ตอนนี้ถูกไล่ออกจากจวนอ๋องแล้วไร้หนทางไปจึงต้องกลับมาบ้านเดิม อวี้หลันมองหลานสาวตนเองด้วยแววตาที่่อ่อนโย แต่ภายในใจกลับเย้ยหยัน ตอนนี้อวี้หลิงถูกขับออกจากจวนอ๋องไปอยู่ที่วัด นางเองไม่ได้สนใจพี่สาวเท่ามดนักเดิมทีพวกนางก็เป็นพี่น้อง

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 44 น้องสาวบุญธรรม

    เรื่องราวสะเทือนขวัญทั้งหมดที่เกิดขึ้น สร้างคลื่นลมใหญ่หลวงให้กับราชสำนักเป็นอย่างมาก เหล่าราษฎรต่างหวาดหวั่น ต้องใช้เวลาร่วมหลายเดือนกว่าที่คราวจะเงียบหายไปหลังจากเกิดเรื่อง เซวียนชินอ๋องก็กลายเป็นคนเมามาย และวาดใส่คนอื่นไปทั่วทั้งจวน โดยเฉพาะกับมู่หลานเฟิน เขาเอาโทสะทั้งหมดไปลงที่นาง บอกว่านาและป้าของนางคือตัวซวย อีกทั้งยับขับไล่นางออกจากจวนอ๋อง เซวียนซานหลางและเซวียนเจ๋อเองก็ปวดหัวไม่น้อยแต่มู่หลานเฟินกลับไม่ได้โกธร นางเข้าใจเรื่องราวได้อย่างกระจ่างแจ้ง เมื่ออวี้หลิงสิ้นอำนาจแล้ว นางย่อมไม่อาจอยู่ที่จวนอ๋องได้อีก และนางเองก็ไม่อยากจะสร้างปัญหาให้เขาเพิ่ม จึงปรึกษากับเขาว่าจะไปหาซื้อบ้านใหม่อยู่ เปิดร้านขายอาหาร เพราะของมีค่าที่ได้รับพระราชทานมาก่อนหน้านี้ก็ยังมีเหลืออยู่ไม่น้อย แรกเริ่มเซวียนซานหลางไม่เห็นด้วย แต่ม่หลานเฟินกลับเอ่ยโน้มน้าวเขาอย่างใจเย็น เขาจึงยอมตามใจนางเซวียนซานหลางหาบ้านหลังหนึ่งได้ มันตั้งอยู่ในตลาดสามารถทำมาค้าขายได้ เซวียนเจ๋อเป็นห่วงน้องสาวอยากตามมาอยู่ด้วย แต่มู่หลานเฟินบอกว่านางอยู่ได้ชีวิตที่ยากกำบากไม่ใช่ว่านางไม่เคยพานพบ ใช้ชีวิตมาหลายชาติพบเจอความทุ

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 43 ยาพิษ

    เซวียนซานหลางและมู่หลานเฟินรีบวิ่งมาที่เรือนของอวี้หลิงอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงภาพตรงหน้าก็ทำให้พวกเขาถึงกับหน้าซีดเผือดตอนนี้เซวียนเจ๋อกำลังนอนอยู่บนเตียงเขากระอักโลหิตออกมาไม่หยุด ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดจนน่าหวาดหวั่น ลมหายใจก็รวยรินราวกับจะขาดเสียให้ได้ เซวียนซานหลางที่เห็นสภาพน้องชายตนที่ย่ำแย่ถึงเพียงนี้ก็ตื่นตระหนกรีบสั่งให้คนไปตามหมอหลวงมาอย่างเร่งด่วน มู่หลานเฟินเข้าไปประคองญาติผู้พี่ของตนเอง ดวงตาของนางแดงกล่ำ ก่อนจะเอ่ย"เซวียนเจ๋อ เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ท่านดื่มยาพิษเข้าไปได้อย่างไรกัน"เซวียนเจ๋อเงยหน้ามามองมู่หลานเฟินอย่างอ่อนแรง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาไม่ตอบอันใด เพียงมองไปที่มารดาของตนด้วยแววตาที่เย็นชาห่างเหินก่อนหน้านี้ท่านแม่ดูผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง นางดูเหมือนครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา เขาจึงจับตาดูนางและพบว่านางกำลังวางแผนจะสังหารพี่ใหญ่ของเขาอีกครั้งเซวียนเจ๋อรู้สึกผิดหวังในตัวมารดาเป็นอย่างมาก เดิมทีเขาคิดว่าท่านแม่จะสามารถปล่อยวางความโลภในใจได้แล้ว แต่มันกลับไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย ท่านแม่ยังคงมีจิตใจริษยามักใหญ่ใฝ่สูงท่านแม่คิดอาศัยช่วงชุลมุนวางยาพิษพี่ใหญ่ เขาที

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 42 ความจริง

    ด้านมู่หลานเฟินตอนนี้ก็ถูกโซ่ตรวนพันธนาการมือเท้าเอาไว้ นางได้กลิ่นสมุนไพรเข้มข้นสายหนึ่งที่ฉุนจนแทบแสบจมูก มันเป็นกลิ่นเดียวกับที่ได้กลิ่นจากศพในรูปปั้นเทพธิดา อีกทั้งบนโต๊ะยังมียันต์หลายแผ่นวางเอาไว้"สวีเจี๋ย เราต้องรีบทำพิธีแล้ว ไม่อย่างนั้นจะเลยฤกษ์ยามดี หลังจากนางตายก็เอาร่างนางหล่อเป็นรูปปั้นของเทพธิดา มอบนางเป็นเครื่องบูชายัญให้เทพปีศาจ เอาล่ะ ข้าจะเร่งขอพร ท่านก็รีบสังหารนาง จากนั้นก็ผ่าท้องนางและเอายันต์ขอพรยัดใส่เข้าไปพร้อมสมุนไพร""ได้เลย"ราชครูสวีรับคำ ด้านเฉินฮองเฮาก็นั่งลงเบื้องหน้าแท่นบูชาที่ตั้งอยู่ในห้องลับ ก่อนจะเอ่ยขอพรอย่างตั้งใจ"ท่านเทพปีศาจ ข้าได้นำเทพธิดามาสังเวยให้ท่านแล้ว หวังว่าท่านจะพอใจ เมื่อท่านพอใจแล้วก็ได้โปรดอำนวยอวยพระให้เซวียนจิ้น บุตรชายของข้าแข็งแรงโดยเร็ว ให้เขาได้ครองราชย์ยอย่างราบรื่น ไร้กังวลด้วยเถิด"มู่หลานเฟินมองภาพเบื้องหน้าด้วยแววตาที่วูบไหว นางพอจะเข้าใจเรื่องราวได้แล้วราชครูสวีและเฉินฮองเฮาดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์พิเศษต่อกัน หรือว่าองค์ชายน้อยผู้นั้นจะ...ยังไม่ทันที่นางจะได้คิดสิ่งใดต่อ ก็พบกับสวีเมิ่งเหยาที่วิ่งเข้ามา ราชครูสวีและเ

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 41 แผนคลาดเคลื่อน

    เสียงน้ำสาดกระเซ็นเป็นวงกว้าง เซวียนซานหลางที่ได้ยินก็รีบวิ่งเข้ามาดูทันที เมิื่อเห็นว่ามู่หลานเฟินตกน้ำลงไปพร้อมกับสวีเมิ่งเหยาเขาขมวดคิ้วมุ่น แต่เมื่อเห็นว่านางลอบยักคิ้วให้เขาหนึ่งครั้ง เซวียนซานหลางก็ถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออกนี่นางกำลังจะทำอันใดกันเซวียนเจ๋อที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบร้อนวิ่งมาหาเซวียนซานหลาง"พี่ใหญ่ รีบช่วยหรานหร่านเร็วเข้า"ด้านฮ่องเต้เซวียนจงและเฉินฮองเฮาก็เริ่มร้อนใจแล้ว แม้แต่อวี้หลิงก็ยังนั่งไม่ติดที่สวีเมิ่งเหยาที่ถูกมู่หลานเฟินลากลงน้ำมาด้วยกันเริ่มมีโทสะขึ้นมา นางกัดฟันเอ่ยกับมู่หลานเฟินอย่างไม่พอใจ"นังสารเลว เจ้าคิดจะทำอันใด""เจ้าอยากกล่าวโทษข้า ว่าข้าผลักเจ้าตกน้ำไม่ใช่หรือ""เจ้ารู้ได้เช่นไร""เหอะ สวีเมิ่งเหยา เจ้าคิดว่าตนเองฉลาดมากนักหรือ แผนการเช่นนี้ข้ามองปราดเดียวก็กระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว ในเมื่อเจ้าอยากเล่นข้าก็จะเล่นด้วย พวกเรามาเล่นกันเถอะ"เอ่ยจบนางก็คว้ามือของสวีเมิ่งเหยามากดหัวตนเองให้จมน้ำ พร้อมกับทำท่าทางจะเป็นจะตาย สวีเมิ่งเหยาเลิกลั่กแล้ว มู่หลานเฟินไม่เพียงดำผุดดำว่ายอย่างสนุกสนาน แต่นางยังใช้มืออีกข้างยื่นมาหยิกที่เอวของสวีเมิ่งเหยาอย่างแรง

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 40 แกล้ง

    เช้าวันต่อมา มู่หลานเฟินตื่นนอนแต่เช้า นางไปหาอวี้หลิงและเซวียนเจ๋อที่พักอยู่อีกเรือนหนึ่ง เพื่อร่วมกินมื้อเช้า เช้าวันนี้ฮ่องเต้เซวียนจงไม่ได้สั่งให้พวกนางไปร่วมมื้อเช้าด้วย มู่หลานเฟินคิดว่าเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะนางก็ไม่อยากจะพบร่วมโต๊ะกับพวกเขาเท่าใดนักระยะนี้อวี้หลิงดูเหมือนจะมีท่าทางแปลกไป นอกจากจะไม่ก่อคลื่นลมใดแล้ว ในแววตายังดูเหมือนมีเรื่องให้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา มู่หลานเฟินเองไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใดและไม่ได้วางใจเช่นกัน การที่อวี้หลิงไม่ก่อคลื่นลมไม่ได้แปลว่าพวกนางจะวางใจได้หลังจากผ่านพ้นมื้อเช้าไปเพียงไม่นาน ฮ่องเต้เซวียนจงก็มีรีบสั่งให้เซวียนซานหลางไปสนทนาที่ตำหนักใหญ่ มู่หลานเฟินไม่ได้ตามไปด้วย นางไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้กับเซวียนเจ๋ออากาศที่นี่ค่อนข้างดีไม่น้อยเลย มองไปทางใดก็เห็นเหล่ามวลผกาออกดอกล้อเล่นลม ป่าไผ่รอบข้างก็เขียวขจีสดชื่น แม้แต่ทะเลสาบเบื้องหน้าก็ยังงดงามราวกับภาพวาด เซวียนเจ๋อที่เดินอยู่ข้างกายมู่หลานเฟิน พลันเอ่ยถามญาติผู้น้องของตนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย"หรานหร่าน หากพี่ใหญ่แต่งงานกับสวีเมิ่งเหยาแล้ว เจ้าจะทำเช่นไร เจ้าจะยอมแต่งเป็นภรรยาของเขาหร

  • เมื่อข้าทะลุมิติมาเป็นนางร้ายผู้ประสบภัย   บทที่ 39 พระราชวังฤดูร้อน

    หลายวันต่อมา มู่หลานเฟินที่เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ก็ทำทีเป็นว่าทราบเรื่องที่วัดสือฉีเปิดให้หญิงสาวไปผูกดวงขอความรัก นางจึงเดินทางไปที่วัดแห่งนั้นและเขียนดวงชะตาของตนเองผูกเอาไว้เพราะเข้าสู่ช่วงกลางฤดูร้อนที่อากาศร้อนอบอ้าวแล้ว ฮ่องเต้เซวียนจงจึงมีรับสั่งว่าจะเดินทางไปพักผ่อนที่พระราชวังฤดูร้อนด้านนอกเมืองหลวง ที่นั่นบรรยากาศดีและเย็นสบายกว่าเมืองหลวง อีกทั้งยังตรัสว่าให้เหล่าขุนนางชั้นสูงติดตามไปด้วย เหล่าขุนนางที่มีตำแหน่งสูงต้องติดตามไปด้วย เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากอันใด เพราะบ้านพักของพวกเขาตั้งอยู่ใกล้ๆกับพระราชวังฤดูร้อนอยู่แล้วแน่นอนว่าคนในจวนชินอ๋องย่อมต้องติดตามไปด้วยเพราะเป็นเครือญาติและเชื้อพระวงศ์ อวี้หลิงพระชายาเอกนั้นได้สั่งให้บ่าวไพร่ตระเตรียมของให้พร้อมสรรพ ก่อนที่นางจะเดินกลับเข้ามาในห้องของตนเองเพื่อพักผ่อนเมื่อนั่งอยู่เพียงลำพังแล้ว อวี้หลิงก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้เมื่อสองคืนก่อนนางได้รับจดหมายลับฉบับหนึ่ง เนื้อหาในจดหมายบอกว่า มีเบาะแสที่สามารถชี้ตัวคนร้ายที่สังหารน้องสาวและน้องเขยของนางได้ แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่งนั่นก็คือ นางจะต้องสังหารเซวียนซานหลางเสีย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status