“นอนลงไปค่ะทำไมพูดมากจัง ไหนบอกว่าจะยอมให้อลิชทำโทษไงคะ” ฉันออกคำสั่งแล้วแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ทำให้คุณคานส์ขมวดคิ้วยุ่งเหยิงอย่างคิดไม่ตก “เมียจ๋า” คุณคานส์เรียกฉันเสียงหวาน แต่น้ำเสียงออดอ้อนแบบนั้นไม่สามารถทำให้ฉันใจอ่อนได้“จะนอนลงไปดีๆ ไหมคะ” ฉันพูดเสียงแข็งในเชิงข่มขู่ ทำให้ถูกคุณคานส์พูดค้อน “ซาดิสม์หรือไง”“เด็กดีของอลิชหายไปไหนแล้วนะ” ฉันหยิบเชือกขึ้นมาด้วยท่าทางที่ยั่วยวนคุณคานส์ถอนหายใจอย่างจำนนจากนั้นเขาก็นอนราบลงไป แก่นกายที่มันผงาดขึ้นนอนนี้ห่อเหี่ยวเหมือนต้นไม้ที่ขาดการรดน้ำเป็นเวลานาน “นอนคว่ำหน้าสิคะ” ฉันออกคำสั่งอีกครั้ง“เธอมีรสนิยมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันเริ่มกลัวเมียตัวเองแล้วนะ” คุณคานส์บ่นพร้อมกับพลิกตัวนอนควำหน้าตามคำสั่งของฉันอย่างว่าง่ายฉันจับเอามือทั้งสองข้างของคุณคานส์มาไคว้หลังไว้แล้วเอาเชือกมัด ไม่ได้มัดแน่นมากหรอกเพราะฉันก็แค่อยากจะแกล้งเขา อยากจะแก้เผ็ดแค่นั้น อยากถูกทำโทษดีนักจะเอาให้เข็ด “คุณคานส์มีไฟแช็กไหมคะ” ฉันหยิบเทียนขึ้นมาแล้วถามคุณคานส์แต่เขาไม่ยอมตอบ คงจะรู้สินะว่าต้องเจอกับอะไร อย่างคุณคานส์เขาสูบบุหรี่ยังไงก็ต้องมีไฟแช็กติดตัวอยู่แล
หลายวันผ่านไป….ในขณะที่ฉันกำลังเก็บของเตรียมจะกลับบ้าน สายของแพรก็โทรเข้ามาฉันจึงหยุดพับผ้าแล้วหยิบโทรศัพท์มารับสายเพื่อน ( ว่าไงแก ขอโทษนะช่วงนี้ฉันยุ่งๆ เลยไม่ได้โทรถามแกเลยว่าเป็นยังไงบ้าง ) ฉันพูดกรอกเสียงผ่านปลายสายไปด้วยความรู้สึกผิดที่พักหลังมานี้ไม่ได้โทรไปถามไถ่อาการของเพื่อนเลย ( ฉันดีขึ้นแล้วแหละมันก็เจ็บอยู่บ้างนิดหน่อย ที่โทรหาก็จะถามแกว่ากับคุณคานส์เขาดีกับแกดูแลแกดีใช่ไหม )( อื้อดีมาก ครั้งนี้ฉันคงไม่ตัดสินใจพลาดแล้วแหละ ) ( เห็นว่าแกมีความสุขฉันก็ดีใจด้วย อยากเห็นหน้าหลานเร็วๆ จัง )( อีกไม่กี่เดือนก็คลอดแล้ว ฉันเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ) ฉับบอกพลางลูบที่ท้องของตัวเองไปด้วย ตัวเล็กในท้องเริ่มมีปฏิกิริยาดิ้นสู้แล้วเดี๋ยวนี้บ่อยขึ้นกว่าเมื่อก่อน ( แล้วที่ฉันให้แกไปดูอลันที่ห้องได้ไปหรือเปล่า ทำไมน้องชายตัวดีของฉันถึงเงียบไม่ติดต่อมาเลย โทรไปก็ไม่รับสาย) ฉันบ่นยาวเหยียด พอคิดถึงอลันมันก็รู้สึกเป็นห่วง ที่เป็นห่วงก็เพราะว่าเขาโลกส่วนตัวสูงเกินไป ฉันแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับน้องชายตัวเองเลยด้วยซ้ำ ( อะ อื้อฉันไปบอกแล้ว น้องแกไม่ติดต่อไปบ้างหรอ ) ( เงียบไปเลย เดี๋ยวฉัน
ฉันทำหน้ามุ้ยใส่พ่อ ก่อนจะพาคุณคานส์เอาของเข้ามาเก็บในห้อง “ดูไม่ออกหรอคะว่าพ่อกำลังแกล้งคุณคานส์อยู่” เมื่อประตูห้องนอนปิดสนิทฉันก็รีบถามคุณคานส์ทันที “ดูออกสิ” “แล้วจะตกลงทำไมล่ะคะ กระท่อมท้ายสวนไม่มีไฟนะ แถมยุงก็เยอะ” “แล้วมีคนเคยไปนอนที่นั่นหรือเปล่า ?”“มีค่ะ เขาจะใช้เครื่องปั่นไฟเอาแต่ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูเก็บผลไม้เลยไม่มีใครไปนอนเฝ้า เครื่องปั่นไฟก็เอามาเก็บไว้ที่ไหนก็ไม่รู้” “คนอื่นอยู่ได้ทำไมฉันจะอยู่ไม่ได้” คุณคานส์ยกมือขึ้นมาลูบศีรษะฉันเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ “ถ้าคุณคานส์ไปนอนที่แบบนั้นอลิชจะนอนหลับได้ยังไง” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อนจากนั้นก็สวมกอดเขา “ไปอาบน้ำด้วยกันไหม ?” คุณคานส์ก้มหน้าลงมาถามทำให้คนฟังอย่างฉันถึงกับใบหน้าร้อนผ่าว “แค่อาบน้ำหรือเปล่าคะ” ที่ถามย้ำก็เพราะว่ากลัวว่าถ้าตอบตกลงไปแล้วมันจะไม่ใช่แค่การอาบน้ำเฉยๆ นะสิคุณคานส์เอาฝ่ามือใหญ่มาวางทาบบนหน้าท้องของฉันแล้วพูดเสียงหวาน “แค่อาบน้ำครับ” “งั้นคุณคานส์เข้าไปรออลิชในห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวอลิชตามเข้าไป ^_^” ริมฝีปากหนากดจูบลงมาบนหน้าผากของฉันอย่างแผ่วเบา “รีบๆ ตามเข้ามานะ” ฉันผละกอดออกปล่อยให้คุณคานส์เ
สองเดือนผ่านไปตอนนี้เรียกว่าคุณคานส์คือลูกเขยคนโปรดก็ไม่ผิด เพราะพ่อกับคุณคานส์มักจะโทรคุยกันหรือไม่พ่อก็จะมาที่กรุงเทพเป็นประจำ มาคุยเรื่องที่ดินกับคุณคานส์ บางครั้งมีคนมาเสนอขายที่ให้พ่อก็จะปรึกษาคุณคานส์ว่าราคานี้สมควรจะจ่ายหรือเปล่า พ่อบอกว่าคุณคานส์สายตาเฉียบ เขาดูที่เก่ง วิเคราะห์เก่งว่าที่ตรงนั้นในวันข้างหน้ามีโอกาสจะเจริญกว่านี้หรือเปล่า พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือตอนนี้พ่อโทรหาคุณคานส์บ่อยมากกว่าโทรหาฉันซะอีก ตอนนี้คุณหมอนัดวันคลอดแล้วนะ อีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้าฉันก็จะได้เจอลูกชายตัวน้อยแล้ว แต่คุณหมอก็บอกว่ากำหนดคลอดไม่ได้แน่นอนเสมอไป บางครั้งฉันอาจจะคลอดก่อนวันนัด เรื่องเซ็กส์ฉันสั่งห้ามคุณคานส์ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ครั้งนี้เขาเข้าใจดีไม่งอแง แต่ก็มีทะลึ่งแอบจับนมจับก้นฉันอยู่บ่อยๆ “ยังจัดห้องไม่เสร็จอีกหรอคะ” ฉันถามคุณคานส์ที่กำลังจัดห้องนอนรอต้อนรับสมาชิกใหม่ เขาซื้อเตียงสำหรับเด็กทารกมาวางไว้ข้างๆ เตียงของเรา “เกือบจะเสร็จแล้ว เป็นไงฝีมือ” คุณคานส์ถามอย่างภูมิใจในตัวเอง เพราะทุกอย่างเขาเป็นคนจัดเตรียมด้วยตัวเองทั้งหมด “เก่งค่ะเก่ง ^_^” คุณคานส์เดินมาหาฉันแล้วประคองพาม
ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดผ่านพ้นไปด้วยดีตอนนี้ฉันกำลังพักฟื้นหลังคลอดอยู่ที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาล ฉันรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดกว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้มันไม่ง่ายเลย แต่มันคือความเจ็บปวดที่งดงามความเจ็บปวดที่ฉันเฝ้ารอมาตลอดเก้าเดือน ตอนนี้ลูกชายของฉันได้คลอดออกมาแล้ว ช่วงเวลาที่ฉันเจ็บที่สุดในชีวิตคุณคานส์คอยอยู่ใกล้ๆ จับมือให้กำลังใจฉันไม่ห่าง ครั้งแรกที่เราเห็นหน้าลูกทั้งฉันและคุณคานส์เราก็ต่างร้องไห้ออกมา “เป็นไงบ้างเจ็บอยู่ไหม” คุณคานส์ไปจัดการเรื่องเอกสาร พอกลับมาที่ห้องพักฟื้นก็รีบถามฉันด้วยความเป็นห่วง “เจ็บสิคะ เจ็บมากด้วย” ตอนนี้แผลที่เย็บมันยังเจ็บมากๆ ขยับตัวแทบไม่ได้เลย “เดี๋ยวหมอเอาลูกมาให้ตอนเช้า เธอมีน้ำนมแล้วใช่ไหม” คุณคานส์ดูตื่นเต้นมากกว่าตอนที่ฉันคลอดอีกนะตอนนี้ เขามีท่าทางรนๆ อยู่ไม่นิ่ง “มีแล้วค่ะ ไหลออกมาเยอะเลย” โชคดีที่น้ำนมของฉันมีพร้อมให้ลูกดื่มทันที ได้ยินคุณหมอบอกว่าบางคนต้องรอหลายวันกว่าน้ำนมจะมา “ลูกหน้าเหมือนฉันเปะๆ เลย” คุณคานส์บอกอย่างภูมิใจ ตอนคลอดฉันเห็นหน้าลูกไม่ถนัดเท่าไหร่เพราะมัวแต่ร้องไห้ด้วย คุณคานส์ก็คงจะไปดูลูกมาแล้วถึงมาพูดแบบนี้ “ไม่เห
#ช่วงเย็น หมอเอาลูกมาให้และสอนวิธีเอาลูกเข้าเต้านมและสอนวิธีอาบน้ำให้ฉันกับคุณคานส์ดูแล้ว ลูคัสกินนมจนอิ่มแต่ก็ยังไม่ยอมนอน คงจะเป็นเพราะคุณปู่กับคุณตาคอยกวนแน่เลย อย่างที่คุณคานส์บอกว่าลูกเหมือนเขาเปะๆ ฉันได้เห็นหน้าลูกชัดๆ แล้วก็นึกน้อยใจเพราะไม่มีส่วนไหนของใบหน้าที่ลูกเหมือนฉันเลย “หน้าตาเหมือนตาคานส์ตอนเกิดไม่มีผิด” พ่อของคุณคานส์มองเจ้าตัวเล็กในรถเข็นแล้วก็หันมาพูดกับฉัน “ไม่ยุติธรรมเลยค่ะ” ฉันบอกอย่างน้อยอกน้อยใจ “ครั้งต่อไปต้องทำให้เหมือนตัวเองนะจะได้ไม่น้อยหน้า” พ่อของฉันบอก พูดมาแบบนี้แปลว่าอยากจะให้ฉันมีหลานให้อีกคนแน่ๆ “นั่นสิ คนต่อไปพ่อขอผู้หญิงนะอยากอุ้มหลานผู้หญิงบ้าง ไอริสก็มีหลานชายให้ นี่ท้องอีกคนก็เป็นผู้ชาย” พ่อของคุณคานส์แทนตัวเองกับฉันว่าพ่อแล้ว แต่ที่น่าตกใจกว่าคือได้ยินว่าไอริสน้องสาวของคุณคานส์กำลังท้องลูกคนที่สอง “ไอริสเพิ่งคลอดไปเองไม่ใช่หรอคะ ทะ ทำไมถึงท้องเร็วจัง” “เธอก็ควรจะเป็นอย่างนั้นนะ คลอดปุบท้องปับ” คุณคานส์พูดขึ้น ฉันรู้ทันหรอกว่าเขาคิดเรื่องอะไรอยู่ “ไม่เอาค่ะ เว้นไปก่อนสักสองสามปีก็ได้” ฉันยังเข็ดกับการคลอดอยู่เลย ตอนนี้ไม่มีความรู้สึ
“พะ พาเธอมาทำไมคะ” ฉันกำมือแน่นพร้อมกับเอ่ยถามคุณคานส์เสียงสั่น เพราะความรู้สึกตอนนี้มันเริ่มกลัวไปหมดทุกอย่าง “คานส์ออกไปข้างนอกก่อนก็ได้ค่ะ แป้งขอคุยกับเธอสองคน” แป้งเธอบอกคุณคานส์ฉันจึงรีบค้านขึ้น “คุยอะไร….”คุณคานส์เดินมาหาฉันแล้วก้มลงมาจูบลงบนหน้าผากของฉันอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็ลูบศรีษะของฉันไปมาแล้วพูด “แป้งแค่อยากเคลียร์เรื่องตอนนั้น ก่อนที่เธอจะกลับต่างประเทศ”“คุณคานส์บอกอลิชว่าเธอกลับไปแล้วนี่คะ” “…..” พอฉันท้วงไปแบบนั้นคุณคานส์ก็หน้าซีด แปลว่าเขาโกหกกันอย่างนั้นหรอ “ฉันมาดี” แป้งเธอพูดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่คุณคานส์จะเดินออกไปจากห้อง ฉันไม่รู้ว่าเธอมาดีจริงหรือเปล่าเพราะมารยาของเธอนั้นเยอะเหลือเกิน และถึงจะมาดีแต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะเป็นมิตรด้วย ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเกลียดใคร แต่ถ้าฉันได้เกลียดก็ยากที่จะเปลี่ยนความรู้สึกนั้นได้ “มีอะไรก็พูดมาสิ” เป็นฉันที่เปิดเรื่องพูดขึ้นมาก่อนเพราะอยากให้เธอรีบพูดแล้วก็รีบกลับไป“ฉันขอพูดตรงๆ ว่ายังรู้สึกดีๆ กับคานส์อยู่” ฉันคิดไว้แล้วว่าเธอไม่ได้มาดีตั้งแต่แรก พอคุณคานส์ออกไปธาตุแท้ก็ออกมา “จะมาขอเขาคืนอีกหรอคะ ก็เห็นแล้วนี่ว่าฉันปล่
กว่าฉันจะเกลี่ยกล่อมคุณคานส์ให้ใจเย็นๆ ได้ใช้เวลานานนับชั่วโมงเลย เขามุ่งมั่นคิดแต่เรื่องพันนั้นอย่างเดียว มันน่าตีจริงๆ ตอนนี้ฉันอุ้มลูกลงมาเลี้ยงที่ชั้นล่าง คุณคานส์จัดเตรียมที่ไว้สำหรับลูคัสแล้วเรียบร้อย ลูกน้องของคุณคานส์ก็น่ารักนะคอยมาหยอกเล่นกับลูคัสไม่ขาดสายเลย พี่เจกับพี่โจ้สองคนนี้เอ็นดูลูคัสสุดๆ แถมยังเรียกลูคัสว่านายน้อย น่าเอ็นดูเชียวล่ะ “อุแง ~” ลูคัสร้องออกมาเสียงดังลั่น ฉันที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่จึงรีบวิ่งมาดูลูกทั้งที่เพิ่งกินข้าวไปได้แค่สามคำ “โอ้ๆ แม่อยู่นี่ครับแม่อยู่นี่ หิวนมหรอครับ” ฉันเอาลูกเข้าเต้าแต่ทว่าลูคัสส่ายหน้าไปมาไม่ยอมกินนม “ลูกเป็นอะไร” คุณคานส์ได้ยินเสียงร้องของลูคัสจึงเดินมาดู เขานั่งทำงานที่ห้องอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ “ไม่รู้เหมือนกันค่ะเอาแต่ร้อง ให้กินนมก็ไม่ยอมกิน” ฉันมองลูกชายตัวน้อยในอ้อมแขนอย่างเป็นห่วง เอาแต่ร้องไห้แบบนี้ใจแม่ไม่ดีเลยนะลูคัส “มาเดี๋ยวฉันลองอุ้ม” “คุณคานส์ทำงานอยู่ไม่ใช่หรอคะ”“ลูกสำคัญกว่างานนะ” “อลิชล่ะคะสำคัญกว่าหรือเปล่า”“เธอยังเห็นว่าฉันเป็นผัวอยู่หรือเปล่าล่ะ” คุณคานส์ยังคงนอยที่ฉันไม่ยอมให้เขาทำเรื่องอย่าง