“ขอโทษนะคะที่เข้ามาโดยไม่เคาะประตูก่อน” เธอรีบเอ่ยขอโทษก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมมองคุณคานส์ แล้วถามด้วยความสงสัย “อ้าวคานส์ นี่บริษัทของคานส์หรอ” “อืม แล้วเธอมาที่นี่ทำไม ?” คุณคานส์ถาม “แป้งเป็นตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศที่ส่วตัวมาคุยเรื่องธุรกิจ ไม่คิดว่าบริษัทที่จะลงทุนด้วยคือบริษัทของคานส์”คุณคานส์ลุกขึ้นจากเก้าอี้เขาจับมือฉันพาเดินมานั่งที่โซฟา แล้วบอกกับผู้หญิงคนนั้น “นั่งสิ” เธอรีบพยักหน้าแล้วนั่งลงตามที่คุณคานส์สั่ง ฉันรู้ว่าเธอคือเพื่อนเก่าของคุณคานส์ แต่นี่มันคือเวลางานไม่ชอบเลยที่เธอเรียกคุณคานส์อย่างสนิทสนมกันแบบนั้น “จะให้อลิสออกไปรอด้านนอกไหมคะ คุณคานส์จะได้คุยเรื่องธุรกิจ” ฉันถามคุณคานส์ ถึงจะอยากนั่งอยู่แต่ถ้ามันเป็นเรื่องงานฉันเองก็ไม่อยากรบกวน “ไม่ต้องไปไหน” คุณคานส์ตอบก่อนที่เขาจะเอามือมาโอบเอวของฉันเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นเธอนิ่งไปเลย สายตาของเธอมองมายังมือของคุณคานส์ที่กำลังโอบเอวของฉันเอาไว้อยู่ “มาเริ่มคุยเรื่องธุรกิจกันเลยไหม ?” คุณคานส์ที่เห็นเธอเอาแต่เงียบเหมือนเหม่อลอยก็เลยท้วงขึ้น เธอเหมือนได้สติสะดุ้งเล็กน้อยจากนั้นก็รีบพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ ฉันฟัง
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีได้ ฉันทำอาหารเพลินจนลืมนึกถึงแป้งที่ไปเข้าห้องน้ำ พอคิดขึ้นมาได้ก็รู้สึกแปลกใจที่เธอไปเข้าห้องน้ำนานขนาดนี้ “หรือว่าจะหาห้องน้ำไม่เจอนะ” ฉันพึมพำคนเดียวเบาๆ แต่ฝห้หลังจากคำพูดของฉันไม่นานแป้งเธอก็เดินกลับมาที่ครัว “ไปซะนานเลย หาห้องน้ำไม่เจอหรอคะ” “ค่ะ โชคดีที่เจอคานส์ เขาเลยบอกทางให้ไม่อย่างนั้นฉันคงหลงเดินอ้อมบ้านแน่ๆ” ในขณะที่พูดอยู่เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองฉัยเลย “อ๋อค่ะ” ฉันตอบไปแค่นั้นแล้วก็ทำอาหารต่อ ส่วนแป้งเธอก็เป็นลูกมือ หลังจากกลับมาจากห้องน้ำฉันรู้สึกได้ว่าแป้งเธอเงียบไปไม่ชวนคุยเก่งเหมือนก่อนหน้านี้ แปลกจังฉันกำลังจะเดินเอาผักมาล้างแต่ทว่าพื้นมันลื่นจนทรงตัวไม่อยู่ ฉันกรี๊ดออกมาเสียงดังเพราะคิดว่าตัวเองต้องลื่นล้มก้นกระแทกพื้นแน่ๆ “กรี๊ด~” ยังดีที่โชคเข้าข้าง ฉันคว้ามือมาจับกับอ่างล้างจานได้ทัน ไม่รู้ว่าเสียงของฉันมันดังขนาดไหนเพราะคุณคานส์รีบวิ่งมาหาฉันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่กับแป้งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เธอกลับนิ่งไม่ได้มาช่วยประคอง เธอคงกำลังตกใจอยู่เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน “เป็นอะไร” คุณคานส์ประคอ
“ถ้าเธออยากทำอาหารก็ทำไป” คุณคานส์ทำเหมือนจะดึงตัวฉันออกมาจากครัวฉันจึงรีบค้านไว้ “แป้งเธอเป็นแขกนะคะ จะให้มาทำอาหารได้ยังไง” “งั้นไม่เป็นไรค่ะ คานส์คงอยากอยู่กับแฟนสองต่อสอง แป้งออกไปรอด้านนอกก็ได้ค่ะ”“อืม” คุณคานส์รีบตอบกลับ ส่วนแป้งเธอก็หน้าเสียเล็กน้อยแล้วรีบเดินออกไปจากครัว “คุณคานส์คะ เห็นไหมว่าแป้งเธอหน้าเสียแล้ว” “แล้วทำไม ?” คุณคานส์ถามอย่างไม่สนใจอะไรเลย “ทำไมต้องทำมาดนิ่งด้วยคะ แป้งเธอก็เป็นเพื่อนคุณคานส์หนิ” “ไปนั่งรอเดี๋ยวฉันจะทำเอง” คุณคานส์ออกคำสั่ง แค่นั้นไม่พอเขายังเอาเก้าอี้มาวางไว้ให้ฉันนั่งรออีกต่างหาก “อลิชอยากช่วย….” “เดี๋ยวก็ซุ่มซ่ามอีก” ฉันทำหน้าบึ้งใส่เมื่อคุณคานส์ไม่ยอมให้ช่วยหยิบจับอะไรเลย เขาทำเองทั้งหมด คุณคานส์หันมามองฉันที่ทำหน้าบึ้งอยู่แล้วก็ยิ้มเหมือนชอบใจ เขาเดินมาทำเหมือนจะหยิบผักแต่ทว่ากลับก้มลงมาจูบลงลนหน้าผากของฉัน“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิครับคุณเมีย” “อลิชอยากช่วยคุณคานส์ทำอาหารนะคะ นั่งเฉยๆ แบบนี้มันน่าเบื่อ” “งั้นมานั่งบนตักฉันดีไหม ?” ฉันถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วพูดค้อน “ทำอาหารไปเลยค่ะ คนโรคจิต” คุณคานส์ยิ้มชอบใจที่ถูกบ่นเขาหยิบผั
ฉันนิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำถามของแป้ง ใจหนึ่งฉันก็อยากรู้ อีกใจก็ไม่รู้ว่าพอรู้ไปแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร เพราะสุดท้ายแล้วผู้หญิงคนนั้นก็เป็นอดีตและเป็นอดีตที่ไม่ควรพูดถึงอีก “อลิชขอไม่รู้ดีกว่าค่ะ” “ทำไมละคะ ไม่อยากรู้หรอว่าคานส์เขาเคยรักแฟนเก่ามากขนาดไหน” ทำไมฉันรู้สึกว่าแป้งเธออยากให้ฉันรู้เรื่องแฟนเก่าคุณคานส์จังนะ หรือฉันคิดไปเอง “มันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว อลิชไม่อยากรู้ว่าคุณคานส์รักผู้หญิงคนนั้นมากขนาดไหน ไม่อยากรู้ว่าเธอเป็นใคร เพราะตอนนี้คุณคานส์คือสามีของอลิชค่ะ เรื่องแฟนเก่าเขามันก็เป็นแค่อดีต ทุกคนก็ต้องมีอดีตอยู่แล้ว” ฉันอธิบายเหตุผลของตัวเองออกไปให้แป้งฟัง บางครั้งการไม่ต้องรับรู้อะไรมันคงจะดีกว่าถ้ารู้แล้วฉันคงจะทำตัวงี่เง่าใส่คุณคานส์ เดี๋ยวเราก็จะทะเลาะกันอีก ที่ผ่านมาเราเสียเวลากับเรื่องพวกนั้นมาเยอะแล้ว ต่อไปนี้ฉันอยากให้มีแค่ความสุข“ดีจังเลยนะคะ มองโลกในแง่ดีจัง”“ค่ะ ^_^” “ถ้าวันหนึ่งแฟนเก่าคานส์กลับมาล่ะคะ” “……” จากที่ฉันไม่คิดอะไรพอเจอกับคำถามนี้มันทำให้ฉันที่หนักแน่นต้องหยุดคิด ก่อนจะตอบ “ยังไงก็แค่อดีตค่ะ อลิชไม่ซีเรียสอยู่แล้ว” “แล้วถ้าแฟนเก่าขอ
คุณคานส์ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะกดริมฝีปากจูบลงมาบนหน้าผากของฉัน “ฉันจะทิ้งเธอทำไมในเมื่อตอนนี้ฉันเลือกเธอแล้ว อย่าคิดมากสิอลิช” “อลิชก็ไม่อยากคิดมากหรอกค่ะ แต่แป้งเธอพูดมาแบบนั้นมันอดคิดมากไม่ได้จริงๆ” “กลัวว่าแฟนเก่าของฉันจะกลับมา ?” “กลัวสิคะ อลิชรักคุณคานส์แล้วก็รักมากด้วย” ฉันสวมกอดคุณคานส์แน่น มันมีความรู้สึกกลัวจะเสียเขาไปมากจริงๆ คุณคานส์เอามือลูบศรีษะฉันเบาๆ แล้วพูด “ฉันก็รักเธอ” “สัญญานะคะว่าจะไม่ทิ้งอลิชกับลูก” “เรื่องนั้นไม่เคยมีในหัวของฉัน” ได้ฟังคุณคานส์ตอบหนักแน่นแบบนี้ฉันก็ค่อยคลายความกังวลใจได้บ้าง ต่อไปนี้ฉันคงต้องย้ำเตือนกับตัวเองบ่อยๆ ว่าไม่ควรจะไปคิดมาก คุณคานส์ดันกอดออก เขาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้นจากนั้นก็กดริมฝีปากลงมาจูบ ซึ่งฉันเองก็ยอมตอบรับจูบของคุณคานส์อย่างไม่ลังเล เราทั้งคู่จูบกันอยู่ครู่ใหญ่ ก็เป็นฉันที่ดันคุณคานส์ออกเพราะกลัวว่าเขาจะห้ามใจไม่ได้ “รีบดันออกทำไม กำลังได้ที่” คุณคานส์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงมาหอมแก้มฉันฟอดใหญ่“ได้ที่อะไรล่ะคะ ไม่ต้องมาฉวยโอกาสเลย” “ไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปปรึกษาหมอ” พอได้ยินคำพูดและสี
ไม่รู้ว่าคุณคานส์ได้ซื้อเครื่ิงเล่นที่คีบตุ๊กตาจริงๆ หรือเปล่าเพราะตอนนี้ฉันเดินมาถึงที่รถแล้ว ถ้าไม่คิดว่าเดี๋ยวจะทะเลาะกันใหญ่โตมากกว่านี้ฉันคงจะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้านแล้วแหละ ผ่านไปประมาณห้านาทีได้คุณคานส์ก็เดินกลับมา เขาถือตุ๊กตาตัวที่ฉันอยากได้ติดมือมาด้วย พอเดินมาถึงตัวฉันคุณคานส์ก็ยื่นตุ๊กตามาให้ “เขาไม่ให้ซื้อตู้รีบ ฉันก็เลยซื้อตุ๊กตาในตู้มาให้เธอแทน” พอเห็นว่าฉันไม่ยอมรับตุ๊กตามาคุณคานส์ก็จับยัดใส่มือฉัน “ขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่” จริงๆ มันก็ยังโกรธอยู่หรอกแต่พอเห็นสีหน้าของคุณคานส์แล้วฉันก็ใจอ่อน “ทีหลังห้ามขึ้นเสียงใส่อลิชอีกนะคะ” “สัญญาครับ ^_^” “ขอบคุณนะคะสำหรับตุ๊กตาตัวนี้ ^_^” ฉันให้รางวัลคุณคานส์โดยการหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ เหมือนว่าคุณคานส์จะเขินๆ เขารีบเดินไปขึ้นรถโดยที่ไม่มองหน้าฉันเลย แต่สังเกตเห็นว่าหูของเขากำลังแดงเถือกเหมือนลูกตำลึง #บ้าน มาถึงที่บ้านฉันกับคุณคานส์ก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าแป้งมารออยู่ที่ห้องรับแขก เหมือนว่าเธอมีเรื่องด่วนอะไร “ขอโทษที่มารบกวนนะคานส์ พอดีแป้งมีเรื่องด่วนจะคุยเรื่องธุรกิจที่จะร่วมลงทุนด้วยกัน” แป้งเธอบอกด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ม
สรุปแล้ววันถ่ายพรีเวดดิ้งแป้งเธอก็ได้ไปด้วย แล้ว เดี๋ยวฉันจะโทรไปชวนอลันกับแพรด้วย ถึงคุณคานส์จะยอมให้คนอื่นไปด้วยแต่ตอนนี้เขากลับทำหน้างอใส่ฉันเฉยเลย “งอนอลิชหรอคะ” “ฉันแค่จินตนาการเอาไว้ว่าวันไปทะเลจะจัดกับเธอทั้งวันทั้งคืน” คุณคานส์พูดพร้อมกับสีหน้าหื่นกาม “อุตส่าห์ฉันจะอดใจรอไปต่อแขนต่อขาลูกวันไปทะเลแท้ๆ”“ก็ทำได้นี่คะ ยังไงก็แยกห้องนอนกับคนอื่นๆ อยู่แล้ว ^_^” “เธอยินยอมให้ฉันทำ ?” มันเหมือนเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ สำหรับคุณคานส์ คงเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ฉันเอาแต่ปฏิเสธเขา แต่เราก็ปรึกษาหมอกันแล้วไงฉันถึงวางใจได้ “อลิชจะปฏิเสธความต้องการของสามีทำไมละคะ ^_^” “คิดว่าฉันจะอดใจรอให้ถึงวันนั้นได้หรือเปล่า” คุณคานส์ถามเสียงกระเส่า เขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนฉันต้องเอนตัวหนี “ถ้าคุณคานส์อดใจรอได้ อลิชมีเซอร์ไพรส์ให้ด้วยนะคะ” “อะไร ?” “ถ้าบอกจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์ได้ไงล่ะคะ ต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อนสิ” “เธอกำลังหลอกฉันให้ลงแดง” คุณคานส์เอามือมาโอบเอวของฉันเอาไว้ แล้วใช้อีกมือลูบไล้ที่แก้มก้นของฉันเบาๆ มันเป็นสัมผัสที่ชวนให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว “ดะ เดี๋ยวอลิชโทรไปชวนอลันกับแพรก่อนดีกว่านะคะ
คุณคานส์รีบหันหน้ามามองฉันทันที แล้วพูด “เปล่า เธออยากใส่แบบนั้นบ้างไหม ?”“เปล่าอะไรคะ แล้วก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องคุยเลยนะ” “อลิชมาเบ่นน้ำด้วยกันไหม ฉันมีบิกินี่มาหลายชุด เธอจะยืมก็ได้นะ ^_^” “ไม่เอาค่ะ” ฉันปฏิเสธแล้วก็กำลังจะเดินหนี แต่แป้งเธอพูดขึ้นมาอีก “ลืมไปว่าคานส์ไม่ชอบให้ใส่บิกินี่ เขาเป็นผู้ชายที่ขี้หวงมากๆ เลยแหละ ^_^”“แป้ง!” พอแป้งเธอพูดมาแบบนั้นก็ถูกคุณคานส์ตวาดเสียงดุทันที “เธอรู้ได้ยังไง ?” ฉันถามแป้ง ไม่รู้สิตอนนี้ฉันคิดว่าแป้งเธอเปลี่ยนไป ไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉันเคยชื่นชมว่าเก่งแบบก่อนหน้านี้ “ฉันกับคานส์เรารู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล เรื่องแค่นี้ทำไมฉันจะไม่รู้ ^_^” ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณคานส์กับแป้งรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่เคยเล่าให้ฉันฟังเลย ฉันก็เลยคิดว่าทั้งคู่มารู้จักกันในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย“ไปเดินดูพระอาทิตย์ตกกันเถอะ เธอบอกว่าอยากดูไม่ใช่หรือไง” คุณคานส์จับมือฉันพาเดินมาที่ริมหาด โดยที่ฉันก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี ทั้งที่ในใจมันก็ยังนอยเขาอยู่ แป้งเธอบอกว่าคุณคานส์จะหวงแฟนเวลาใส่บิกินี่ แต่เขาเพิ่งจะถามฉันว่าอยากใส่หรือเปล่า แบบนี้จะให้ฉันคิดยังไงล่ะ “ดูนั่นสิ”