ไม่รู้ว่าคุณคานส์ได้ซื้อเครื่ิงเล่นที่คีบตุ๊กตาจริงๆ หรือเปล่าเพราะตอนนี้ฉันเดินมาถึงที่รถแล้ว ถ้าไม่คิดว่าเดี๋ยวจะทะเลาะกันใหญ่โตมากกว่านี้ฉันคงจะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้านแล้วแหละ ผ่านไปประมาณห้านาทีได้คุณคานส์ก็เดินกลับมา เขาถือตุ๊กตาตัวที่ฉันอยากได้ติดมือมาด้วย พอเดินมาถึงตัวฉันคุณคานส์ก็ยื่นตุ๊กตามาให้ “เขาไม่ให้ซื้อตู้รีบ ฉันก็เลยซื้อตุ๊กตาในตู้มาให้เธอแทน” พอเห็นว่าฉันไม่ยอมรับตุ๊กตามาคุณคานส์ก็จับยัดใส่มือฉัน “ขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่” จริงๆ มันก็ยังโกรธอยู่หรอกแต่พอเห็นสีหน้าของคุณคานส์แล้วฉันก็ใจอ่อน “ทีหลังห้ามขึ้นเสียงใส่อลิชอีกนะคะ” “สัญญาครับ ^_^” “ขอบคุณนะคะสำหรับตุ๊กตาตัวนี้ ^_^” ฉันให้รางวัลคุณคานส์โดยการหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ เหมือนว่าคุณคานส์จะเขินๆ เขารีบเดินไปขึ้นรถโดยที่ไม่มองหน้าฉันเลย แต่สังเกตเห็นว่าหูของเขากำลังแดงเถือกเหมือนลูกตำลึง #บ้าน มาถึงที่บ้านฉันกับคุณคานส์ก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าแป้งมารออยู่ที่ห้องรับแขก เหมือนว่าเธอมีเรื่องด่วนอะไร “ขอโทษที่มารบกวนนะคานส์ พอดีแป้งมีเรื่องด่วนจะคุยเรื่องธุรกิจที่จะร่วมลงทุนด้วยกัน” แป้งเธอบอกด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ม
สรุปแล้ววันถ่ายพรีเวดดิ้งแป้งเธอก็ได้ไปด้วย แล้ว เดี๋ยวฉันจะโทรไปชวนอลันกับแพรด้วย ถึงคุณคานส์จะยอมให้คนอื่นไปด้วยแต่ตอนนี้เขากลับทำหน้างอใส่ฉันเฉยเลย “งอนอลิชหรอคะ” “ฉันแค่จินตนาการเอาไว้ว่าวันไปทะเลจะจัดกับเธอทั้งวันทั้งคืน” คุณคานส์พูดพร้อมกับสีหน้าหื่นกาม “อุตส่าห์ฉันจะอดใจรอไปต่อแขนต่อขาลูกวันไปทะเลแท้ๆ”“ก็ทำได้นี่คะ ยังไงก็แยกห้องนอนกับคนอื่นๆ อยู่แล้ว ^_^” “เธอยินยอมให้ฉันทำ ?” มันเหมือนเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ สำหรับคุณคานส์ คงเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ฉันเอาแต่ปฏิเสธเขา แต่เราก็ปรึกษาหมอกันแล้วไงฉันถึงวางใจได้ “อลิชจะปฏิเสธความต้องการของสามีทำไมละคะ ^_^” “คิดว่าฉันจะอดใจรอให้ถึงวันนั้นได้หรือเปล่า” คุณคานส์ถามเสียงกระเส่า เขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนฉันต้องเอนตัวหนี “ถ้าคุณคานส์อดใจรอได้ อลิชมีเซอร์ไพรส์ให้ด้วยนะคะ” “อะไร ?” “ถ้าบอกจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์ได้ไงล่ะคะ ต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อนสิ” “เธอกำลังหลอกฉันให้ลงแดง” คุณคานส์เอามือมาโอบเอวของฉันเอาไว้ แล้วใช้อีกมือลูบไล้ที่แก้มก้นของฉันเบาๆ มันเป็นสัมผัสที่ชวนให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว “ดะ เดี๋ยวอลิชโทรไปชวนอลันกับแพรก่อนดีกว่านะคะ
คุณคานส์รีบหันหน้ามามองฉันทันที แล้วพูด “เปล่า เธออยากใส่แบบนั้นบ้างไหม ?”“เปล่าอะไรคะ แล้วก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องคุยเลยนะ” “อลิชมาเบ่นน้ำด้วยกันไหม ฉันมีบิกินี่มาหลายชุด เธอจะยืมก็ได้นะ ^_^” “ไม่เอาค่ะ” ฉันปฏิเสธแล้วก็กำลังจะเดินหนี แต่แป้งเธอพูดขึ้นมาอีก “ลืมไปว่าคานส์ไม่ชอบให้ใส่บิกินี่ เขาเป็นผู้ชายที่ขี้หวงมากๆ เลยแหละ ^_^”“แป้ง!” พอแป้งเธอพูดมาแบบนั้นก็ถูกคุณคานส์ตวาดเสียงดุทันที “เธอรู้ได้ยังไง ?” ฉันถามแป้ง ไม่รู้สิตอนนี้ฉันคิดว่าแป้งเธอเปลี่ยนไป ไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉันเคยชื่นชมว่าเก่งแบบก่อนหน้านี้ “ฉันกับคานส์เรารู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล เรื่องแค่นี้ทำไมฉันจะไม่รู้ ^_^” ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณคานส์กับแป้งรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่เคยเล่าให้ฉันฟังเลย ฉันก็เลยคิดว่าทั้งคู่มารู้จักกันในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย“ไปเดินดูพระอาทิตย์ตกกันเถอะ เธอบอกว่าอยากดูไม่ใช่หรือไง” คุณคานส์จับมือฉันพาเดินมาที่ริมหาด โดยที่ฉันก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี ทั้งที่ในใจมันก็ยังนอยเขาอยู่ แป้งเธอบอกว่าคุณคานส์จะหวงแฟนเวลาใส่บิกินี่ แต่เขาเพิ่งจะถามฉันว่าอยากใส่หรือเปล่า แบบนี้จะให้ฉันคิดยังไงล่ะ “ดูนั่นสิ”
ฉันแพรกับอลันรีบตามคุณคานส์ที่อุ้มแป้งเข้ามาในบ้าน พอคุณคานส์วางแป้งลงเขาก็รีบไปหากล่องปฐมพยาบาลอย่างร้อนรน ส่วนแป้งเธอก็ร้องโอดโอยราวกับเจ็บมาก พอได้กล่องปฐมพยาบาลมาแล้วคุณคานส์ก็กำลังจะเดินกลับไปหาแป้ง แต่ฉันเดินมาขวางทางเอาไว้ก่อน “มีอะไร ?” คุณคานส์เลิกคิ้วถาม “เดี๋ยวอลิชทำแผลให้เธอเองค่ะ” พูดจบฉันก็ดึงกล่องทำแผลมาจากมือของคุณคานส์แล้วเดินไปหาแป้ง สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยเจ็บแบบตอนแรกเมื่อรู้ว่าฉันจะทำแผลให้ เป็นแบบนี้มันยิ่งทำให้ฉันคิด“เกรงใจจังเลยค่ะ” แป้งเธอพูดขึ้นในขณะที่ฉันกำลังจะทำแผลให้ตัวเอง “ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ อลิชเต็มใจทำให้”ฉันนั่งทำแผลให้แป้ง จริงๆ มันก็ไม่ใช่หน้าที่และฉันก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้ แต่มันก็คงจะดีกว่าถ้าให้คุณคานส์มาทำเอง “ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ” พอทำแผลเสร็จแป้งเธอก็รีบเอ่ยขอบคุณฉัน ฉันไม่ได้ตอบอะไรก้มหน้าเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่องแล้วเอาไปเก็บไว้ที่เดิม โดยมีแพรเดินตามมาติดๆ “แกกำลังคิดมากอยู่ ฉันดูสีหน้าของแกออก” “ปะ เปล่า” ฉันหลบสายตาแพรแล้วรีบเอากล่องปฐมพยาบาลเก็บไว้ที่เดิม แล้วรีบเดินกลับออกไปที่เดิม แต่ภาพที่เห็นคือคุณคานส์กำลังประคองแป้งอยู่ “เ
ดูจากสีหน้าของคุณคานส์แล้วคำขอข้อนี้ของฉันมันคงจะทำให้เขาลำบากใจพอสมควร ฉันขอมากไปอย่างนั้นหรอ “เธอต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ ฉันตกลงจะทำธุรกิจไปแล้วถ้ากลับคำพูดมันจะทำให้บริษัทไม่น่าเชื่อถือ” “ให้อลิสมีเหตุผลอย่างนั้นหรอคะ แล้วทีมีผู้ชายเข้าใกล้อลิชล่ะคุณคานส์รู้สึกยังไง คุณคานส์ก็งี่เง่าไม่มีเหตุผลเหมือนกันที่อลิชเป็นอยู่ตอนนี้”“อลิช ใจเย็นๆ หน่อยได้ไหม มันไม่ได้มีอะไรเลย ฉันบริสุทธิ์ใจถึงได้ตัดสินใจบอกเธอ” “วันนี้ไม่มีอะไรแล้ววันหน้าละคะ ถ้าอลิชรู้ก็คงไม่ยอมให้คุณคานส์ทำธุรกิจกับเธอตั้งแต่แรก”“ไว้ให้ใจเย็นกว่านี้แล้วเราค่อยมาคุยกันอีกครั้งดีกว่านะ” คุณคานส์ถอนหายใจออกมาเหมือนเบื่อหน่ายที่ฉันไม่ยอมฟังเหตุผลของเขา “ห้ามเดินนี้อลิชนะ ยังไงวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!!” ฉันตวาดบอกคุณคานส์เสียงดัง ทำให้คุณคานส์ที่กำลังจะเดินเข้าบ้านหยุดเดินแล้วหันมามองฉัน “ฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอไปมากกว่านี้” “แล้วคิดว่าอลิชอยากทะเลาะหรือเปล่าคะ อลิชก็ไม่อยากงี่เง่า แต่มารู้แบบนี้จะให้อลิชรู้สึกยังไง แค่รู่ว่าเธอเป็นแฟนเก่าของคุณคานส์มันก็ช้ำใจมากพอแล้ว นี่คุณคานส์ยังจะทำธุรกิจกับเธอต่ออีก”“ฉันขอ
ฉันหยุดนิ่งมองหน้าคุณคานส์ครู่หนึ่งแล้วนึกถึงคำที่แป้งบอกว่าชุดในมือของฉันคทอชุดที่เธอเคยบอกกับคุณคานส์ว่าอยากใส่มัน “ก็เห็นอยู่ว่าอลิชกำลังทำอะไร ยังจะถามอีกหรอคะ” “โกรธฉันแล้วทำไมต้องมาลงที่ชุดแบบนี้!!” “ชุดนี้ใครเป็นคนสั่งตัดคะ อลิชไม่ได้เลือก” ฉันถามคุณคานส์เสียงแข็ง “ฉันเป็นคนเลือกให้เธอเอง ทำไมอะไรที่ฉันเลือกให้ตอนนี้เธอไม่ต้องการแล้วใช่ไหม จะโกรธจนไม่คิดถึงใจคนอื่นแบบนี้หรือไงอลิช” “ทำไมเลือกจะต่อว่าอลิช ทำไมไม่ถามก่อนล่ะคะว่าเกิดอะไรขึ้น” “ก็เห็นอยู่ว่าเธอกำลังเอาแต่ใจโดยการทำรายข้าวของแบบนี้” ยิ่งฟังคุณคานส์พูดมันก็ยิ่งทำให้ฉันเสียความรู้สึก ฉันหันมองแป้งตอนนี้เธอกำลังยิ้มเยาะเย้ยฉันอยู่ “สาแก่ใจเธอแล้วใช่ไหม” ฉันพูดกับแป้งก่อนจะทิ้งชุดในมือลงพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบมันก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านโดยมีคุณคานส์ตามมาติดๆ พอเห็นว่าคุณคานส์เดินตามมาฉันก็รีบเดินเร็วขึ้นเพื่อจะเข้าห้องได้ทันก่อนที่เข้าจะตามเข้ามาในห้องด้วย แต่ทว่าพอกำลังจะปิดประตูคุณคานส์ก็ดันเอาไว้ และด้วยความที่ฉันเป็นผู้หญิงทำให้สู้แรงเขาไม่ได้ “ออกไปนะ!!” ฉันตวาดบอกคุณคานส์ “จะให้ออกไปไหนฉันก็นอนห้อ
แป้งเธอเอาแต่หวีดร้องแล้วก็เรียกให้คุณคานส์ช่วย แพรกับอลันรีบมาที่ห้องของฉันพร้อมๆ กันด้วยสีหน้าที่แตกตื่น“อลิช” แพรยกมือขึ้นปิดปากแล้วเบิกตากว้างเมื่อเห็นฉันกระชากผมแป้งอยู่ “เป็นบ้าไปหรือไง ปล่อยนะฉันเจ็บ” แป้งไม่ได้โต้ตอบ ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า ถ้าคุณคานส์ไม่ได้อยู่ตรงนี้เธออาจจะสวนกลับฉันแล้วก็ได้ “เวลาอยู่กับฉันสองคนเธอพูดยังไง พูดมาสิพูดต่อหน้าทุกคน ให้คนอื่นได้รู้ว่าเธอมันตอแหลแค่ไหน” “ฉันพูดอะไร อย่าใส่ร้ายกันแบบนี้สิอลิช” “ฉันใส่ร้ายเธองั้นหรอ ได้!! ฉันจะทำให้เธอพูดเอง” ฉันกระชากศรีษะแป้งให้เงยขึ้น จากนั้นก็ง้างมือเตรียมจะตบเธอ แต่!! คุณคานส์กลับคว้ามือมาจับแขนฉันเอาไว้ นี่เขาเป็นห่วงแป้งงั้นหรอ..พอคุณคานส์ห้ามฉันก็จ้องเขาตาเขม็ง แล้วพูด “อลิชบอกแล้วนะคะว่าอย่าห้าม” “ทำแบบนี้มันไม่เกินไปหรือไง เธอรุนแรงเกินไปแล้วอลิช” คุณคานส์ถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วแกะมือที่ฉันจิกผมแป้งออก ซึ่งฉันก็ยอมปล่อยแต่โดยดีเพราะคำพูดของคุณคานส์ที่มันทำให้ฉันเสียความรู้สึก “อลิชแค่เอาคืนที่เธอพูดไม่ดี แปลว่าอลิชรุนแรงงั้นหรอคะ” “ฉันไม่อยากให้เธอใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาแบบนี้” “แต่ผู้หญิงแ
“ฉันไม่ได้พูดอะไรบ้าๆ แบบนั้น ฉันไม่เคยคิดอยากจะหย่ากับเธอ” ผมจะยื่นมือไปจับแขนอลิชก็รีบปัดมือผมออก แววตาของเธอที่มองผมตอนนี้มันเปลี่ยนไปจากเดิม “จะให้อลิชเชื่อได้ยังไงในเมื่อเห็นคุณคานส์จูบกับเธอเต็มสองตาแบบนั้น” “คานส์ปล่อยเธอไปได้แล้วค่ะ” แป้งเดินมากอดแขนผม สิ่งที่ผมทำคือสะบัดแขนออกแรงๆ แล้วหันมาจ้องเธอตาเขม็ง “ทำแบบนี้เพื่ออะไรวะ!! พูดแบบนั้นทำไม” “…แป้งรักคานส์นะ ยังรักเหมือนเดิม” “แต่ฉันกำลังจะแต่งงาน และฉันก็ไม่มีวันกลับไปหาผู้หญิงอย่างเธอ” ผมขอคืนคำพูดที่แป้งทำให้ผมหวั่นไหวอีกครั้ง ตอนนี้หัวใจของผมมันไม่มีความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว ทุกอย่างมันชัดเจนขึ้นเมื่อผมรู้ว่าแป้งตั้งใจจะทำให้ผมกับอลิชทะเลาะกัน ผมนี่มันโง่จริงๆ!!“ไสหัวกลับไปซะ!! ถ้าฉันเห็นหน้าเธออีกเธอได้ถูกจับโยนออกไปนอกบ้านแน่” “คานส์ทำไมถึงใจร้ายกับแป้งแบบนี้ละคะ” “เธอทำให้ฉันต้องร้ายเอง!! รีบกลับไปซะ” พูดจบผมก็หันกลับมาเพื่อจะอธิบายให้อลิชฟัง แต่ทว่าเธอไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว ผมจึงรีบวิ่งตามขึ้นไปชั้นบน Talk อลิชฉันขึ้นมาบนห้องเพื่อเก็บเสื้อผ้า ไม่ได้อยู่รอฟังว่าคุณคานส์พูดกับแป้งว่ายังไง ถ้าฉันไม่ลงไปที่ชั