ไม่รู้ว่าคุณคานส์ได้ซื้อเครื่ิงเล่นที่คีบตุ๊กตาจริงๆ หรือเปล่าเพราะตอนนี้ฉันเดินมาถึงที่รถแล้ว ถ้าไม่คิดว่าเดี๋ยวจะทะเลาะกันใหญ่โตมากกว่านี้ฉันคงจะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้านแล้วแหละ ผ่านไปประมาณห้านาทีได้คุณคานส์ก็เดินกลับมา เขาถือตุ๊กตาตัวที่ฉันอยากได้ติดมือมาด้วย พอเดินมาถึงตัวฉันคุณคานส์ก็ยื่นตุ๊กตามาให้ “เขาไม่ให้ซื้อตู้รีบ ฉันก็เลยซื้อตุ๊กตาในตู้มาให้เธอแทน” พอเห็นว่าฉันไม่ยอมรับตุ๊กตามาคุณคานส์ก็จับยัดใส่มือฉัน “ขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่” จริงๆ มันก็ยังโกรธอยู่หรอกแต่พอเห็นสีหน้าของคุณคานส์แล้วฉันก็ใจอ่อน “ทีหลังห้ามขึ้นเสียงใส่อลิชอีกนะคะ” “สัญญาครับ ^_^” “ขอบคุณนะคะสำหรับตุ๊กตาตัวนี้ ^_^” ฉันให้รางวัลคุณคานส์โดยการหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ เหมือนว่าคุณคานส์จะเขินๆ เขารีบเดินไปขึ้นรถโดยที่ไม่มองหน้าฉันเลย แต่สังเกตเห็นว่าหูของเขากำลังแดงเถือกเหมือนลูกตำลึง #บ้าน มาถึงที่บ้านฉันกับคุณคานส์ก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าแป้งมารออยู่ที่ห้องรับแขก เหมือนว่าเธอมีเรื่องด่วนอะไร “ขอโทษที่มารบกวนนะคานส์ พอดีแป้งมีเรื่องด่วนจะคุยเรื่องธุรกิจที่จะร่วมลงทุนด้วยกัน” แป้งเธอบอกด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ม
สรุปแล้ววันถ่ายพรีเวดดิ้งแป้งเธอก็ได้ไปด้วย แล้ว เดี๋ยวฉันจะโทรไปชวนอลันกับแพรด้วย ถึงคุณคานส์จะยอมให้คนอื่นไปด้วยแต่ตอนนี้เขากลับทำหน้างอใส่ฉันเฉยเลย “งอนอลิชหรอคะ” “ฉันแค่จินตนาการเอาไว้ว่าวันไปทะเลจะจัดกับเธอทั้งวันทั้งคืน” คุณคานส์พูดพร้อมกับสีหน้าหื่นกาม “อุตส่าห์ฉันจะอดใจรอไปต่อแขนต่อขาลูกวันไปทะเลแท้ๆ”“ก็ทำได้นี่คะ ยังไงก็แยกห้องนอนกับคนอื่นๆ อยู่แล้ว ^_^” “เธอยินยอมให้ฉันทำ ?” มันเหมือนเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ สำหรับคุณคานส์ คงเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ฉันเอาแต่ปฏิเสธเขา แต่เราก็ปรึกษาหมอกันแล้วไงฉันถึงวางใจได้ “อลิชจะปฏิเสธความต้องการของสามีทำไมละคะ ^_^” “คิดว่าฉันจะอดใจรอให้ถึงวันนั้นได้หรือเปล่า” คุณคานส์ถามเสียงกระเส่า เขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนฉันต้องเอนตัวหนี “ถ้าคุณคานส์อดใจรอได้ อลิชมีเซอร์ไพรส์ให้ด้วยนะคะ” “อะไร ?” “ถ้าบอกจะเรียกว่าเซอร์ไพรส์ได้ไงล่ะคะ ต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อนสิ” “เธอกำลังหลอกฉันให้ลงแดง” คุณคานส์เอามือมาโอบเอวของฉันเอาไว้ แล้วใช้อีกมือลูบไล้ที่แก้มก้นของฉันเบาๆ มันเป็นสัมผัสที่ชวนให้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว “ดะ เดี๋ยวอลิชโทรไปชวนอลันกับแพรก่อนดีกว่านะคะ
คุณคานส์รีบหันหน้ามามองฉันทันที แล้วพูด “เปล่า เธออยากใส่แบบนั้นบ้างไหม ?”“เปล่าอะไรคะ แล้วก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องคุยเลยนะ” “อลิชมาเบ่นน้ำด้วยกันไหม ฉันมีบิกินี่มาหลายชุด เธอจะยืมก็ได้นะ ^_^” “ไม่เอาค่ะ” ฉันปฏิเสธแล้วก็กำลังจะเดินหนี แต่แป้งเธอพูดขึ้นมาอีก “ลืมไปว่าคานส์ไม่ชอบให้ใส่บิกินี่ เขาเป็นผู้ชายที่ขี้หวงมากๆ เลยแหละ ^_^”“แป้ง!” พอแป้งเธอพูดมาแบบนั้นก็ถูกคุณคานส์ตวาดเสียงดุทันที “เธอรู้ได้ยังไง ?” ฉันถามแป้ง ไม่รู้สิตอนนี้ฉันคิดว่าแป้งเธอเปลี่ยนไป ไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉันเคยชื่นชมว่าเก่งแบบก่อนหน้านี้ “ฉันกับคานส์เรารู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล เรื่องแค่นี้ทำไมฉันจะไม่รู้ ^_^” ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณคานส์กับแป้งรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่เคยเล่าให้ฉันฟังเลย ฉันก็เลยคิดว่าทั้งคู่มารู้จักกันในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย“ไปเดินดูพระอาทิตย์ตกกันเถอะ เธอบอกว่าอยากดูไม่ใช่หรือไง” คุณคานส์จับมือฉันพาเดินมาที่ริมหาด โดยที่ฉันก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี ทั้งที่ในใจมันก็ยังนอยเขาอยู่ แป้งเธอบอกว่าคุณคานส์จะหวงแฟนเวลาใส่บิกินี่ แต่เขาเพิ่งจะถามฉันว่าอยากใส่หรือเปล่า แบบนี้จะให้ฉันคิดยังไงล่ะ “ดูนั่นสิ”
ฉันแพรกับอลันรีบตามคุณคานส์ที่อุ้มแป้งเข้ามาในบ้าน พอคุณคานส์วางแป้งลงเขาก็รีบไปหากล่องปฐมพยาบาลอย่างร้อนรน ส่วนแป้งเธอก็ร้องโอดโอยราวกับเจ็บมาก พอได้กล่องปฐมพยาบาลมาแล้วคุณคานส์ก็กำลังจะเดินกลับไปหาแป้ง แต่ฉันเดินมาขวางทางเอาไว้ก่อน “มีอะไร ?” คุณคานส์เลิกคิ้วถาม “เดี๋ยวอลิชทำแผลให้เธอเองค่ะ” พูดจบฉันก็ดึงกล่องทำแผลมาจากมือของคุณคานส์แล้วเดินไปหาแป้ง สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยเจ็บแบบตอนแรกเมื่อรู้ว่าฉันจะทำแผลให้ เป็นแบบนี้มันยิ่งทำให้ฉันคิด“เกรงใจจังเลยค่ะ” แป้งเธอพูดขึ้นในขณะที่ฉันกำลังจะทำแผลให้ตัวเอง “ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ อลิชเต็มใจทำให้”ฉันนั่งทำแผลให้แป้ง จริงๆ มันก็ไม่ใช่หน้าที่และฉันก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้ แต่มันก็คงจะดีกว่าถ้าให้คุณคานส์มาทำเอง “ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ” พอทำแผลเสร็จแป้งเธอก็รีบเอ่ยขอบคุณฉัน ฉันไม่ได้ตอบอะไรก้มหน้าเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่องแล้วเอาไปเก็บไว้ที่เดิม โดยมีแพรเดินตามมาติดๆ “แกกำลังคิดมากอยู่ ฉันดูสีหน้าของแกออก” “ปะ เปล่า” ฉันหลบสายตาแพรแล้วรีบเอากล่องปฐมพยาบาลเก็บไว้ที่เดิม แล้วรีบเดินกลับออกไปที่เดิม แต่ภาพที่เห็นคือคุณคานส์กำลังประคองแป้งอยู่ “เ
ดูจากสีหน้าของคุณคานส์แล้วคำขอข้อนี้ของฉันมันคงจะทำให้เขาลำบากใจพอสมควร ฉันขอมากไปอย่างนั้นหรอ “เธอต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ ฉันตกลงจะทำธุรกิจไปแล้วถ้ากลับคำพูดมันจะทำให้บริษัทไม่น่าเชื่อถือ” “ให้อลิสมีเหตุผลอย่างนั้นหรอคะ แล้วทีมีผู้ชายเข้าใกล้อลิชล่ะคุณคานส์รู้สึกยังไง คุณคานส์ก็งี่เง่าไม่มีเหตุผลเหมือนกันที่อลิชเป็นอยู่ตอนนี้”“อลิช ใจเย็นๆ หน่อยได้ไหม มันไม่ได้มีอะไรเลย ฉันบริสุทธิ์ใจถึงได้ตัดสินใจบอกเธอ” “วันนี้ไม่มีอะไรแล้ววันหน้าละคะ ถ้าอลิชรู้ก็คงไม่ยอมให้คุณคานส์ทำธุรกิจกับเธอตั้งแต่แรก”“ไว้ให้ใจเย็นกว่านี้แล้วเราค่อยมาคุยกันอีกครั้งดีกว่านะ” คุณคานส์ถอนหายใจออกมาเหมือนเบื่อหน่ายที่ฉันไม่ยอมฟังเหตุผลของเขา “ห้ามเดินนี้อลิชนะ ยังไงวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!!” ฉันตวาดบอกคุณคานส์เสียงดัง ทำให้คุณคานส์ที่กำลังจะเดินเข้าบ้านหยุดเดินแล้วหันมามองฉัน “ฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอไปมากกว่านี้” “แล้วคิดว่าอลิชอยากทะเลาะหรือเปล่าคะ อลิชก็ไม่อยากงี่เง่า แต่มารู้แบบนี้จะให้อลิชรู้สึกยังไง แค่รู่ว่าเธอเป็นแฟนเก่าของคุณคานส์มันก็ช้ำใจมากพอแล้ว นี่คุณคานส์ยังจะทำธุรกิจกับเธอต่ออีก”“ฉันขอ
ฉันหยุดนิ่งมองหน้าคุณคานส์ครู่หนึ่งแล้วนึกถึงคำที่แป้งบอกว่าชุดในมือของฉันคทอชุดที่เธอเคยบอกกับคุณคานส์ว่าอยากใส่มัน “ก็เห็นอยู่ว่าอลิชกำลังทำอะไร ยังจะถามอีกหรอคะ” “โกรธฉันแล้วทำไมต้องมาลงที่ชุดแบบนี้!!” “ชุดนี้ใครเป็นคนสั่งตัดคะ อลิชไม่ได้เลือก” ฉันถามคุณคานส์เสียงแข็ง “ฉันเป็นคนเลือกให้เธอเอง ทำไมอะไรที่ฉันเลือกให้ตอนนี้เธอไม่ต้องการแล้วใช่ไหม จะโกรธจนไม่คิดถึงใจคนอื่นแบบนี้หรือไงอลิช” “ทำไมเลือกจะต่อว่าอลิช ทำไมไม่ถามก่อนล่ะคะว่าเกิดอะไรขึ้น” “ก็เห็นอยู่ว่าเธอกำลังเอาแต่ใจโดยการทำรายข้าวของแบบนี้” ยิ่งฟังคุณคานส์พูดมันก็ยิ่งทำให้ฉันเสียความรู้สึก ฉันหันมองแป้งตอนนี้เธอกำลังยิ้มเยาะเย้ยฉันอยู่ “สาแก่ใจเธอแล้วใช่ไหม” ฉันพูดกับแป้งก่อนจะทิ้งชุดในมือลงพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบมันก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านโดยมีคุณคานส์ตามมาติดๆ พอเห็นว่าคุณคานส์เดินตามมาฉันก็รีบเดินเร็วขึ้นเพื่อจะเข้าห้องได้ทันก่อนที่เข้าจะตามเข้ามาในห้องด้วย แต่ทว่าพอกำลังจะปิดประตูคุณคานส์ก็ดันเอาไว้ และด้วยความที่ฉันเป็นผู้หญิงทำให้สู้แรงเขาไม่ได้ “ออกไปนะ!!” ฉันตวาดบอกคุณคานส์ “จะให้ออกไปไหนฉันก็นอนห้อ
แป้งเธอเอาแต่หวีดร้องแล้วก็เรียกให้คุณคานส์ช่วย แพรกับอลันรีบมาที่ห้องของฉันพร้อมๆ กันด้วยสีหน้าที่แตกตื่น“อลิช” แพรยกมือขึ้นปิดปากแล้วเบิกตากว้างเมื่อเห็นฉันกระชากผมแป้งอยู่ “เป็นบ้าไปหรือไง ปล่อยนะฉันเจ็บ” แป้งไม่ได้โต้ตอบ ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า ถ้าคุณคานส์ไม่ได้อยู่ตรงนี้เธออาจจะสวนกลับฉันแล้วก็ได้ “เวลาอยู่กับฉันสองคนเธอพูดยังไง พูดมาสิพูดต่อหน้าทุกคน ให้คนอื่นได้รู้ว่าเธอมันตอแหลแค่ไหน” “ฉันพูดอะไร อย่าใส่ร้ายกันแบบนี้สิอลิช” “ฉันใส่ร้ายเธองั้นหรอ ได้!! ฉันจะทำให้เธอพูดเอง” ฉันกระชากศรีษะแป้งให้เงยขึ้น จากนั้นก็ง้างมือเตรียมจะตบเธอ แต่!! คุณคานส์กลับคว้ามือมาจับแขนฉันเอาไว้ นี่เขาเป็นห่วงแป้งงั้นหรอ..พอคุณคานส์ห้ามฉันก็จ้องเขาตาเขม็ง แล้วพูด “อลิชบอกแล้วนะคะว่าอย่าห้าม” “ทำแบบนี้มันไม่เกินไปหรือไง เธอรุนแรงเกินไปแล้วอลิช” คุณคานส์ถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วแกะมือที่ฉันจิกผมแป้งออก ซึ่งฉันก็ยอมปล่อยแต่โดยดีเพราะคำพูดของคุณคานส์ที่มันทำให้ฉันเสียความรู้สึก “อลิชแค่เอาคืนที่เธอพูดไม่ดี แปลว่าอลิชรุนแรงงั้นหรอคะ” “ฉันไม่อยากให้เธอใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาแบบนี้” “แต่ผู้หญิงแ
“ฉันไม่ได้พูดอะไรบ้าๆ แบบนั้น ฉันไม่เคยคิดอยากจะหย่ากับเธอ” ผมจะยื่นมือไปจับแขนอลิชก็รีบปัดมือผมออก แววตาของเธอที่มองผมตอนนี้มันเปลี่ยนไปจากเดิม “จะให้อลิชเชื่อได้ยังไงในเมื่อเห็นคุณคานส์จูบกับเธอเต็มสองตาแบบนั้น” “คานส์ปล่อยเธอไปได้แล้วค่ะ” แป้งเดินมากอดแขนผม สิ่งที่ผมทำคือสะบัดแขนออกแรงๆ แล้วหันมาจ้องเธอตาเขม็ง “ทำแบบนี้เพื่ออะไรวะ!! พูดแบบนั้นทำไม” “…แป้งรักคานส์นะ ยังรักเหมือนเดิม” “แต่ฉันกำลังจะแต่งงาน และฉันก็ไม่มีวันกลับไปหาผู้หญิงอย่างเธอ” ผมขอคืนคำพูดที่แป้งทำให้ผมหวั่นไหวอีกครั้ง ตอนนี้หัวใจของผมมันไม่มีความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว ทุกอย่างมันชัดเจนขึ้นเมื่อผมรู้ว่าแป้งตั้งใจจะทำให้ผมกับอลิชทะเลาะกัน ผมนี่มันโง่จริงๆ!!“ไสหัวกลับไปซะ!! ถ้าฉันเห็นหน้าเธออีกเธอได้ถูกจับโยนออกไปนอกบ้านแน่” “คานส์ทำไมถึงใจร้ายกับแป้งแบบนี้ละคะ” “เธอทำให้ฉันต้องร้ายเอง!! รีบกลับไปซะ” พูดจบผมก็หันกลับมาเพื่อจะอธิบายให้อลิชฟัง แต่ทว่าเธอไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว ผมจึงรีบวิ่งตามขึ้นไปชั้นบน Talk อลิชฉันขึ้นมาบนห้องเพื่อเก็บเสื้อผ้า ไม่ได้อยู่รอฟังว่าคุณคานส์พูดกับแป้งว่ายังไง ถ้าฉันไม่ลงไปที่ชั
แน่นอนว่าสายตาของคุณคานส์ในตอนนี้ไม่ได้เชื่อฉัน เขากำลังมองด้วยความสงสัยแววตาจับจ้องมาที่กระเป๋าในมือของฉันอย่างไม่ละสายตา“ส่งกระเป๋ามา” “อะ เอาไปทำไมคะ อลิชลอกว่าไม่มีอะไรไง” “ไม่มีอะไรก็เอามา” ฉันกำชับกระเป๋าแน่นเมื่อคุณคานส์เดินมาใกล้ๆ หมับ!! ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชายจึงดึงกระเป๋าออกไปจากมือของฉันได้อย่างง่ายดาย หัวใจดวงน้อยมันกระตุกวูบเมื่อเห็นคุณคานส์กำลังสำรวจกระเป๋า ฉันได้แต่ยืนแน่นิ่งเพราะรู้ตัวว่าไม่มีทางรอดแล้ว จบกันความลับสามปีที่ฉันปกปิดมา ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะถูกเปิดเผย “นี่อะไร ?” คุณคานส์หยิบแผงยาคุมชูขึ้นมาตรงหน้าของฉัน เขาเอ่ยถามเสียงเย็น “……” ฉันเม้มปากแน่นเพราะหลักฐานมัดตัว จะอธิบายเหตุผลแต่ดูท่าตอนนี้คุณคานส์คงไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น “คงไม่ตอบว่าวิตามินนะ” พอเห็นว่าฉันเงียบเขาก็พูดขึ้นมาดักคอไว้ ใครกันจะไปตอบว่าวิตามิน บ้าหรือเปล่า “อะ อลิชอธิบายได้นะคะ”“กินมานานเท่าไหร่แล้ว ?” ตอนนี้สามีที่แสนดีของฉันกำลังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและสายตาที่อำมหิต “สะ สามปี….”“เธอหลอกให้ฉันมีความหวังมาตลอดสามปี หึ!!” คุณคานส์กำแผงยาคุมในมือแน่น จากนั้นเขาก็เหวี่ยงมันทิ้งลงพื้นด
3 ปีผ่านไป ตอนนี้ฉันกับคุณคานส์แต่งงานกันแล้วเราคือสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนลูคัสก็วันกำลังซน ตอนนี้เข้าเรียนอนุบาลหนึ่งแล้ว แถมยังมาเล่าฉันอีกว่ากำลังแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ห้องเรียนเดียวกัน ลูกฉันนี่คงจะแพรวพราวตั้งแต่เด็กแน่ๆ ตั้งแต่ลูคัสเด็กๆ คุณคานส์ก็ช่วยฉันเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่ เขาไม่เข้าบริษัทเป็นเวลาสองปีเพื่อเลี้ยงลูกช่วยฉัน พอลูคัสเกือบจะสามขวบเขาเข้าไปที่บริษัทเหมือนเดิม ไม่ได้เอางานมาทำที่บ้านแล้วลูคัสยิ่งโตหน้าก็ยิ่งเหมือนคุณคานส์ ทั้งคนที่เจอและครูที่โรงเรียนก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกชายของฉันหล่อตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กที่มีใบหน้าหล่อเหมือนเทพบุตร ช่วงนี้งานที่บริษัทของคุณคานส์ค่อนข้างจะยุ่งๆ พรุ่งนี้ครบรอบแต่งงานครบสองปีของเราไม่รู้ว่าจะจำได้หรือเปล่า พรุ่งนี้พ่อของฉันจะมารับลูคัสไปอยู่ด้วยไม่รู้จะมารับเองหรือให้อลันมารับเพราะพรุ่งนี้อลันก็จะกลับไปที่บ้านเหมือนกัน เพราะเป็นวันหยุดยาวของลูคัสฉันเองก็ไม่ขัดอะไรเพราะอยากให้ลูกคุ้นชินกับตาของเขา วันนี้ฉันพาลูคัสมาฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล ส่วนคุณคานส์เขาอยู่ที่บริษัทงานยุ่งไม่ว่างมาด้วย “ไม่ร้องนะครับ” ฉันอุ้
ฉันรีบเดินหลับเข้ามาในครัวเหตุผลก็เพราะว่าไม่อยากให้มีปัญหา เพราะรู้ว่าคุณคานส์เป็นคนขี้หึงและเขาก็ไม่ค่อยจะมีเหตุผล ถึงแม้ฉันกับไวน์จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยก็ตาม ฉันนั่งกินข้าวเงียบๆ ในห้องครัว รอเวลาให้เพื่อนของคุณคานส์กลับไปก่อนจึงจะออกไปด้านนอก “ขอน้ำกินหน่อยครับ ^_^” เป็นไวน์ที่เดินเข้ามาในครัว เขาเอ่ยขอน้ำกับฉันพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม การได้เจอไวน์ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนมันก็ไม่ได้ทำให้ฉันหวั่นไหวได้หรอก ทุกๆ ครั้งจะมีแต่ความกลัว กลัวว่าคุณคานส์จะมาเจอเข้า แล้วนี่เป็นที่บ้านด้วย “ในตู้เย็นน่ะ เดี๋ยวหยิบให้นะ” “ขนาดคลอดลูกแล้วพี่อลิชก็ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะครับ” ไวน์ก็ยังคงชอบพูดทะเล้นเหมือนเดิม “หยุดพูดหยอดได้แล้ว เดี๋ยวก็เจอดีหรอก” ฉันดุเขาเบาๆ ไม่รู้ว่าคุณคานส์ได้สังเกตหรือเปล่าที่ไวท์มาในครัวแบบนี้ “ผมอ่ะไม่คิดอะไรแล้วนะ แต่เฮียนี่สิคงจะฝังใจ” ไวท์พูดพร้อมกับรับน้ำไปจากฉัน เป็นจังหวะเดียวกันที่คุณคานส์เดินมาในครัวพอดี ทำเอาฉันตกใจจนทำตัวไม่ถูก รีบถอยห่างจากไวท์ทันที “ลูกร้องหิวนม” คุณคานส์บอกสั้นๆ แล้วจ้องฉันเขม็ง “โธ่เฮีย! ผมมีเมียแล้วนะ ไม่ต้องหึงขนาดนั้น
คุณคานส์โน้มตัวลงมาใช้ลิ้นตวัดเบียบนหน้าท้องที่แบนราบของฉัน “แก้มัดให้อลิชได้แล้วค่ะ อ๊า~” ฉันครางออกมาพร้อมกับค่อยๆ กัดริมฝีปากแน่นเมื่อคุณคานส์กระแทกเอวสอบอีกครั้ง “ขออีกน้ำนะครับที่รัก” เขาพูดเสียงหวานจากนั้นก็หยัดตัวขึ้น ไม่ยอมแก้มัดให้ฉัน ปัก ปัก ปัก~ เสียงของเนื้อที่มันกระทบกันเริ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง “ค..คุณคานส์ อ๊ะ~ อลิชอยากกอด กะ แก้มัดให้หน่อยได้ไหมคะ อ๊าง~” ฉันพูดอย่างเอาอกเอาใจในขณะที่ร่างกำลังกระเพื่อมสั่นไหวอยู่ ครั้งนี้คุณคานส์ยอมเห็นใจ เขาแก้มัดให้ฉันแต่โดยดี อีกทั้งเอวสอบกระเร่งอัดกระแทกไม่หยุด ปัก ปัก ปัก ~ เมื่อแก้มัดเสร็จแล้วคุณคานส์ก็จับสะโพกของฉันแน่น เขาเร่งจังหวะให้ป่าเถื่อนขึ้น “อึก~ อ๊า อ๊าง~” ฉันครางเสียงดังไปพร้อมกับกับเสียงบองกระดิ่งที่คอ จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งแล้วโผล่กอดคุณคานส์แน่น “พะ พอก่อนได้ไหมคะ อ๊า~ อลิชอยากไปล้างก่อน” ฉันบอกอย่างเขินอาย ตอนนี้น้ำกามของคุณคานส์มันเปื้อนเหนอะหนะไปหมดเลย “ไว้ค่อยไปล้างทีเดียวก็ได้ ซี๊ด~” คุณคานส์โอบกอดฉันไว้แน่น จากนั้นเขาก็กระแทกรุนแรงจนก้นฉันมันลอยขึ้นจากโต๊ะทำงาน “อ๊า~ บะ เบาๆ ได้ไหม อื้อซี๊ด~” ฉันไม่ปฏิเสธ
ใบหน้าคมคายก้มลงมาตวัดลิ้นหยอกล้อเล่นกับยอดปทุมถัน ทำเอาฉันสะดุ้งโหย่งด้วยความเสียวซ่านรีบคว้ามือกอดต้นคอแกร่งของคุณคานส์เอาไว้แน่น ความเย็นเฉียบของปรายลิ้นมันทำให้ขนทั้งตัวลุกซู่ “อ๊า~” ฉันกัดริมฝีปากแน่นมองการกระทำของคุณคานส์ด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว “ดะ ดูดเบาๆ หน่อยสิคะ”ถึงกับต้องร้องท้วงเมื่อถูกอุ้งปากร้อนๆ ตะโบมดูดดุนยอดปทุมถันอย่างหิวโหย การดูดเม้มมันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บเอามากๆ “เธอน่าจะชอบนะ ครางไม่หยุดเลย” คุณคานส์เงยหน้าขึ้นมาพูด ทำเอาฉันต้องรีบเบือนหน้าหนีเพราะความเขินอาย ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกทั้งสองเต้าของฉันจนเกิดรอยแดงเถือก คุณคานส์ยังไม่พอใจเขาก้มลงมาดูดเลียเม็ดไตบนเนินหน้าอกอีกครั้ง “อ๊า อลิช บะ บอกให้ อ๊ะ บะ เบาๆ ไงคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะฟังไม่รู้เรื่อง หมับ! พรึบ! ฝ่ามือใหญ่ช้อนตัวฉันขึ้นมาวางบนโต๊ะทำงาน ไม่รู้ว่าคุณคานส์ปัดของบนโต๊ะลงไปกองที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้โต๊ะทำงานของเขาไม่มีเอกสารอยู่เลย ชุดคลุมของฉันถูกดึงออกไปในพ้นตัว คุณคานส์กรีดกรายนิ้วของตัวเองไต่มาตามเรียวขาอ่อนของฉันด้วยสายตาที่หวานเยิ้ม “เดี๋ยวลูกตื่นก่อนนะคะ ถ้าไม่รีบทำ” ฉันพูดเตือ
กว่าฉันจะเกลี่ยกล่อมคุณคานส์ให้ใจเย็นๆ ได้ใช้เวลานานนับชั่วโมงเลย เขามุ่งมั่นคิดแต่เรื่องพันนั้นอย่างเดียว มันน่าตีจริงๆ ตอนนี้ฉันอุ้มลูกลงมาเลี้ยงที่ชั้นล่าง คุณคานส์จัดเตรียมที่ไว้สำหรับลูคัสแล้วเรียบร้อย ลูกน้องของคุณคานส์ก็น่ารักนะคอยมาหยอกเล่นกับลูคัสไม่ขาดสายเลย พี่เจกับพี่โจ้สองคนนี้เอ็นดูลูคัสสุดๆ แถมยังเรียกลูคัสว่านายน้อย น่าเอ็นดูเชียวล่ะ “อุแง ~” ลูคัสร้องออกมาเสียงดังลั่น ฉันที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่จึงรีบวิ่งมาดูลูกทั้งที่เพิ่งกินข้าวไปได้แค่สามคำ “โอ้ๆ แม่อยู่นี่ครับแม่อยู่นี่ หิวนมหรอครับ” ฉันเอาลูกเข้าเต้าแต่ทว่าลูคัสส่ายหน้าไปมาไม่ยอมกินนม “ลูกเป็นอะไร” คุณคานส์ได้ยินเสียงร้องของลูคัสจึงเดินมาดู เขานั่งทำงานที่ห้องอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ “ไม่รู้เหมือนกันค่ะเอาแต่ร้อง ให้กินนมก็ไม่ยอมกิน” ฉันมองลูกชายตัวน้อยในอ้อมแขนอย่างเป็นห่วง เอาแต่ร้องไห้แบบนี้ใจแม่ไม่ดีเลยนะลูคัส “มาเดี๋ยวฉันลองอุ้ม” “คุณคานส์ทำงานอยู่ไม่ใช่หรอคะ”“ลูกสำคัญกว่างานนะ” “อลิชล่ะคะสำคัญกว่าหรือเปล่า”“เธอยังเห็นว่าฉันเป็นผัวอยู่หรือเปล่าล่ะ” คุณคานส์ยังคงนอยที่ฉันไม่ยอมให้เขาทำเรื่องอย่าง
“พะ พาเธอมาทำไมคะ” ฉันกำมือแน่นพร้อมกับเอ่ยถามคุณคานส์เสียงสั่น เพราะความรู้สึกตอนนี้มันเริ่มกลัวไปหมดทุกอย่าง “คานส์ออกไปข้างนอกก่อนก็ได้ค่ะ แป้งขอคุยกับเธอสองคน” แป้งเธอบอกคุณคานส์ฉันจึงรีบค้านขึ้น “คุยอะไร….”คุณคานส์เดินมาหาฉันแล้วก้มลงมาจูบลงบนหน้าผากของฉันอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็ลูบศรีษะของฉันไปมาแล้วพูด “แป้งแค่อยากเคลียร์เรื่องตอนนั้น ก่อนที่เธอจะกลับต่างประเทศ”“คุณคานส์บอกอลิชว่าเธอกลับไปแล้วนี่คะ” “…..” พอฉันท้วงไปแบบนั้นคุณคานส์ก็หน้าซีด แปลว่าเขาโกหกกันอย่างนั้นหรอ “ฉันมาดี” แป้งเธอพูดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่คุณคานส์จะเดินออกไปจากห้อง ฉันไม่รู้ว่าเธอมาดีจริงหรือเปล่าเพราะมารยาของเธอนั้นเยอะเหลือเกิน และถึงจะมาดีแต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะเป็นมิตรด้วย ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเกลียดใคร แต่ถ้าฉันได้เกลียดก็ยากที่จะเปลี่ยนความรู้สึกนั้นได้ “มีอะไรก็พูดมาสิ” เป็นฉันที่เปิดเรื่องพูดขึ้นมาก่อนเพราะอยากให้เธอรีบพูดแล้วก็รีบกลับไป“ฉันขอพูดตรงๆ ว่ายังรู้สึกดีๆ กับคานส์อยู่” ฉันคิดไว้แล้วว่าเธอไม่ได้มาดีตั้งแต่แรก พอคุณคานส์ออกไปธาตุแท้ก็ออกมา “จะมาขอเขาคืนอีกหรอคะ ก็เห็นแล้วนี่ว่าฉันปล่
#ช่วงเย็น หมอเอาลูกมาให้และสอนวิธีเอาลูกเข้าเต้านมและสอนวิธีอาบน้ำให้ฉันกับคุณคานส์ดูแล้ว ลูคัสกินนมจนอิ่มแต่ก็ยังไม่ยอมนอน คงจะเป็นเพราะคุณปู่กับคุณตาคอยกวนแน่เลย อย่างที่คุณคานส์บอกว่าลูกเหมือนเขาเปะๆ ฉันได้เห็นหน้าลูกชัดๆ แล้วก็นึกน้อยใจเพราะไม่มีส่วนไหนของใบหน้าที่ลูกเหมือนฉันเลย “หน้าตาเหมือนตาคานส์ตอนเกิดไม่มีผิด” พ่อของคุณคานส์มองเจ้าตัวเล็กในรถเข็นแล้วก็หันมาพูดกับฉัน “ไม่ยุติธรรมเลยค่ะ” ฉันบอกอย่างน้อยอกน้อยใจ “ครั้งต่อไปต้องทำให้เหมือนตัวเองนะจะได้ไม่น้อยหน้า” พ่อของฉันบอก พูดมาแบบนี้แปลว่าอยากจะให้ฉันมีหลานให้อีกคนแน่ๆ “นั่นสิ คนต่อไปพ่อขอผู้หญิงนะอยากอุ้มหลานผู้หญิงบ้าง ไอริสก็มีหลานชายให้ นี่ท้องอีกคนก็เป็นผู้ชาย” พ่อของคุณคานส์แทนตัวเองกับฉันว่าพ่อแล้ว แต่ที่น่าตกใจกว่าคือได้ยินว่าไอริสน้องสาวของคุณคานส์กำลังท้องลูกคนที่สอง “ไอริสเพิ่งคลอดไปเองไม่ใช่หรอคะ ทะ ทำไมถึงท้องเร็วจัง” “เธอก็ควรจะเป็นอย่างนั้นนะ คลอดปุบท้องปับ” คุณคานส์พูดขึ้น ฉันรู้ทันหรอกว่าเขาคิดเรื่องอะไรอยู่ “ไม่เอาค่ะ เว้นไปก่อนสักสองสามปีก็ได้” ฉันยังเข็ดกับการคลอดอยู่เลย ตอนนี้ไม่มีความรู้สึ
ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดผ่านพ้นไปด้วยดีตอนนี้ฉันกำลังพักฟื้นหลังคลอดอยู่ที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาล ฉันรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดกว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้มันไม่ง่ายเลย แต่มันคือความเจ็บปวดที่งดงามความเจ็บปวดที่ฉันเฝ้ารอมาตลอดเก้าเดือน ตอนนี้ลูกชายของฉันได้คลอดออกมาแล้ว ช่วงเวลาที่ฉันเจ็บที่สุดในชีวิตคุณคานส์คอยอยู่ใกล้ๆ จับมือให้กำลังใจฉันไม่ห่าง ครั้งแรกที่เราเห็นหน้าลูกทั้งฉันและคุณคานส์เราก็ต่างร้องไห้ออกมา “เป็นไงบ้างเจ็บอยู่ไหม” คุณคานส์ไปจัดการเรื่องเอกสาร พอกลับมาที่ห้องพักฟื้นก็รีบถามฉันด้วยความเป็นห่วง “เจ็บสิคะ เจ็บมากด้วย” ตอนนี้แผลที่เย็บมันยังเจ็บมากๆ ขยับตัวแทบไม่ได้เลย “เดี๋ยวหมอเอาลูกมาให้ตอนเช้า เธอมีน้ำนมแล้วใช่ไหม” คุณคานส์ดูตื่นเต้นมากกว่าตอนที่ฉันคลอดอีกนะตอนนี้ เขามีท่าทางรนๆ อยู่ไม่นิ่ง “มีแล้วค่ะ ไหลออกมาเยอะเลย” โชคดีที่น้ำนมของฉันมีพร้อมให้ลูกดื่มทันที ได้ยินคุณหมอบอกว่าบางคนต้องรอหลายวันกว่าน้ำนมจะมา “ลูกหน้าเหมือนฉันเปะๆ เลย” คุณคานส์บอกอย่างภูมิใจ ตอนคลอดฉันเห็นหน้าลูกไม่ถนัดเท่าไหร่เพราะมัวแต่ร้องไห้ด้วย คุณคานส์ก็คงจะไปดูลูกมาแล้วถึงมาพูดแบบนี้ “ไม่เห