“ผู้หญิงคนนั้นทิ้งฉันไปหาผู้ชายอีกคน” เงียบไปนานคุณคานส์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง ได้ฟังเสียงของเขามันทำให้ฉันรู้สึกเศร้าไปด้วยยังไงก็ไม่รู้ “เธอกำลังคิดว่าฉันยังลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ใช่ไหม ?” “ปะ เปล่าค่ะ อลิชไม่ได้คิดแบบนั้น” “ไหนขอดูหน้าหน่อย” พูดจบคุณคานส์ก็จับหน้าฉันหันมาหาตัวเอง แล้วใช้สายตาคมกริบจ้องมองอย่างพิจารณา “แววตาของเธอมันฟ้องว่าเธอคิดมากอยู่” “กะ ก็บอกว่าเปล่าไงคะ” ทำไมกัน ทำไมเวลาที่ฉันรู้สึกอะไรคุณคานส์ถึงดูออกอย่างง่ายดาย แต่พอเป็นเขามันกลับยากที่จะคาดเดา “ที่ฉันพูดไปมันก็เป็นแค่เรื่องในอดีต ส่วนปัจจุบันฉันมีแค่เธอกับลูก” “ให้จริงเถอะค่ะ” ฉันมองค้อนคุณคานส์ “เชื่อใจฉันได้แล้ว” “ที่ผ่านมาอลิชก็เชื่อใจตลอด แต่คุณคานส์นั่นแหละชอบหาเรื่อง” คุณจ้องหน้าคุณคานส์ตาเขม็งแล้วถามต่อ “แล้วนี่คุณคานส์เอารถคืนจากผู้หญิงคนนั้นหรือยังคะ” พอฉันถามแบบนั้นคุณคานส์ก็เงียบ เขาหลบสายตาของฉันด้วย แบบนี้แปลว่ายังไม่เอาคืนสินะ! “นี่หรอคะที่บอกให้อลิชเชื่อใจ” ฉันกำลังจะลุกขึ้นแต่ถูกฝ่ามือใหญ่ของคุณคานส์รั้งเอาไว้ “ฉันไม่ได้ตั้งใจไม่เอาคืน ก็แค่ลืมเพราะมัวแต่ง้อเธอ” “แล้วเมื่อไหร่ล่
ตรวจคำผิดย้อนหลังนะคะ——— ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ทักคุณคานส์คือใคร ด้วยความสวยของเธอมันทำให้ฉันรู้สึกหวงเขาเอามากๆ “อืม” คุณคานส์ตอบผู้หญิงคนนั้น ทำให้เธอฉีกยิ้มกว้าง แล้วพูดต่อ “แป้งเพิ่งกลับมาไทย ไม่คิดว่าจะได้เจอคานส์ สบายดีหรือเปล่า” “ก็ดี” ฉันรู้สึกว่าคุณคานส์ไม่ค่อยอยากจะตอบคำถามของผู้หญิงคนนี้สักเท่าไหร่“ยังโกรธแป้งอยู่อีกหรอคานส์” คุณคานส์ไม่ได้ตอบคำถามของเธอ เขาหันกลับมาบอกพนักงาน “เดี๋ยวผมจะให้ลูกน้องมาจัดการเรื่องเพชรพวกนี้” พูดจบก็มองหน้าฉันจากนั้นก็จับมือฉันพาเดินออกไปจากร้านทันที ซึ่งฉันก็ยังงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน คำพูดของเธอไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น เหมือนเธอเคยสนิทกับคุณคานส์มาก่อน “ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหรอคะ” “เพื่อนเก่า” “เพื่อนหรอคะ” ฉันถามย้ำให้แน่ใจ “แค่เพื่อนหรือเปล่าคะ” “เธอจะหาเรื่องทะเลาะกับฉันอีกแล้วใช่ไหม” พอได้ยินคำถามคุณคานส์ก็มองค้อนฉันทันที “อลิชเปล่าหาเรื่องทะเลาะนะ ก็แค่ถามเองนี่คะ”คุณคานส์ถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาโอบเอวฉัสแล้วพูด “แค่เพื่อนเก่า แต่เพราะไม่ได้เจอกันนานมากฉันก็เลยไม่รู้จะคุยอะไร อีกอย่างถ้าให้ยืนคุยกั
“ขอโทษนะคะที่เข้ามาโดยไม่เคาะประตูก่อน” เธอรีบเอ่ยขอโทษก่อนจะขมวดคิ้วเป็นปมมองคุณคานส์ แล้วถามด้วยความสงสัย “อ้าวคานส์ นี่บริษัทของคานส์หรอ” “อืม แล้วเธอมาที่นี่ทำไม ?” คุณคานส์ถาม “แป้งเป็นตัวแทนของบริษัทในต่างประเทศที่ส่วตัวมาคุยเรื่องธุรกิจ ไม่คิดว่าบริษัทที่จะลงทุนด้วยคือบริษัทของคานส์”คุณคานส์ลุกขึ้นจากเก้าอี้เขาจับมือฉันพาเดินมานั่งที่โซฟา แล้วบอกกับผู้หญิงคนนั้น “นั่งสิ” เธอรีบพยักหน้าแล้วนั่งลงตามที่คุณคานส์สั่ง ฉันรู้ว่าเธอคือเพื่อนเก่าของคุณคานส์ แต่นี่มันคือเวลางานไม่ชอบเลยที่เธอเรียกคุณคานส์อย่างสนิทสนมกันแบบนั้น “จะให้อลิสออกไปรอด้านนอกไหมคะ คุณคานส์จะได้คุยเรื่องธุรกิจ” ฉันถามคุณคานส์ ถึงจะอยากนั่งอยู่แต่ถ้ามันเป็นเรื่องงานฉันเองก็ไม่อยากรบกวน “ไม่ต้องไปไหน” คุณคานส์ตอบก่อนที่เขาจะเอามือมาโอบเอวของฉันเอาไว้ ผู้หญิงคนนั้นเธอนิ่งไปเลย สายตาของเธอมองมายังมือของคุณคานส์ที่กำลังโอบเอวของฉันเอาไว้อยู่ “มาเริ่มคุยเรื่องธุรกิจกันเลยไหม ?” คุณคานส์ที่เห็นเธอเอาแต่เงียบเหมือนเหม่อลอยก็เลยท้วงขึ้น เธอเหมือนได้สติสะดุ้งเล็กน้อยจากนั้นก็รีบพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ ฉันฟัง
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีได้ ฉันทำอาหารเพลินจนลืมนึกถึงแป้งที่ไปเข้าห้องน้ำ พอคิดขึ้นมาได้ก็รู้สึกแปลกใจที่เธอไปเข้าห้องน้ำนานขนาดนี้ “หรือว่าจะหาห้องน้ำไม่เจอนะ” ฉันพึมพำคนเดียวเบาๆ แต่ฝห้หลังจากคำพูดของฉันไม่นานแป้งเธอก็เดินกลับมาที่ครัว “ไปซะนานเลย หาห้องน้ำไม่เจอหรอคะ” “ค่ะ โชคดีที่เจอคานส์ เขาเลยบอกทางให้ไม่อย่างนั้นฉันคงหลงเดินอ้อมบ้านแน่ๆ” ในขณะที่พูดอยู่เธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองฉัยเลย “อ๋อค่ะ” ฉันตอบไปแค่นั้นแล้วก็ทำอาหารต่อ ส่วนแป้งเธอก็เป็นลูกมือ หลังจากกลับมาจากห้องน้ำฉันรู้สึกได้ว่าแป้งเธอเงียบไปไม่ชวนคุยเก่งเหมือนก่อนหน้านี้ แปลกจังฉันกำลังจะเดินเอาผักมาล้างแต่ทว่าพื้นมันลื่นจนทรงตัวไม่อยู่ ฉันกรี๊ดออกมาเสียงดังเพราะคิดว่าตัวเองต้องลื่นล้มก้นกระแทกพื้นแน่ๆ “กรี๊ด~” ยังดีที่โชคเข้าข้าง ฉันคว้ามือมาจับกับอ่างล้างจานได้ทัน ไม่รู้ว่าเสียงของฉันมันดังขนาดไหนเพราะคุณคานส์รีบวิ่งมาหาฉันด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่กับแป้งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เธอกลับนิ่งไม่ได้มาช่วยประคอง เธอคงกำลังตกใจอยู่เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ฉันเองก็ตกใจเหมือนกัน “เป็นอะไร” คุณคานส์ประคอ
“ถ้าเธออยากทำอาหารก็ทำไป” คุณคานส์ทำเหมือนจะดึงตัวฉันออกมาจากครัวฉันจึงรีบค้านไว้ “แป้งเธอเป็นแขกนะคะ จะให้มาทำอาหารได้ยังไง” “งั้นไม่เป็นไรค่ะ คานส์คงอยากอยู่กับแฟนสองต่อสอง แป้งออกไปรอด้านนอกก็ได้ค่ะ”“อืม” คุณคานส์รีบตอบกลับ ส่วนแป้งเธอก็หน้าเสียเล็กน้อยแล้วรีบเดินออกไปจากครัว “คุณคานส์คะ เห็นไหมว่าแป้งเธอหน้าเสียแล้ว” “แล้วทำไม ?” คุณคานส์ถามอย่างไม่สนใจอะไรเลย “ทำไมต้องทำมาดนิ่งด้วยคะ แป้งเธอก็เป็นเพื่อนคุณคานส์หนิ” “ไปนั่งรอเดี๋ยวฉันจะทำเอง” คุณคานส์ออกคำสั่ง แค่นั้นไม่พอเขายังเอาเก้าอี้มาวางไว้ให้ฉันนั่งรออีกต่างหาก “อลิชอยากช่วย….” “เดี๋ยวก็ซุ่มซ่ามอีก” ฉันทำหน้าบึ้งใส่เมื่อคุณคานส์ไม่ยอมให้ช่วยหยิบจับอะไรเลย เขาทำเองทั้งหมด คุณคานส์หันมามองฉันที่ทำหน้าบึ้งอยู่แล้วก็ยิ้มเหมือนชอบใจ เขาเดินมาทำเหมือนจะหยิบผักแต่ทว่ากลับก้มลงมาจูบลงลนหน้าผากของฉัน“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิครับคุณเมีย” “อลิชอยากช่วยคุณคานส์ทำอาหารนะคะ นั่งเฉยๆ แบบนี้มันน่าเบื่อ” “งั้นมานั่งบนตักฉันดีไหม ?” ฉันถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วพูดค้อน “ทำอาหารไปเลยค่ะ คนโรคจิต” คุณคานส์ยิ้มชอบใจที่ถูกบ่นเขาหยิบผั
ฉันนิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำถามของแป้ง ใจหนึ่งฉันก็อยากรู้ อีกใจก็ไม่รู้ว่าพอรู้ไปแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร เพราะสุดท้ายแล้วผู้หญิงคนนั้นก็เป็นอดีตและเป็นอดีตที่ไม่ควรพูดถึงอีก “อลิชขอไม่รู้ดีกว่าค่ะ” “ทำไมละคะ ไม่อยากรู้หรอว่าคานส์เขาเคยรักแฟนเก่ามากขนาดไหน” ทำไมฉันรู้สึกว่าแป้งเธออยากให้ฉันรู้เรื่องแฟนเก่าคุณคานส์จังนะ หรือฉันคิดไปเอง “มันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว อลิชไม่อยากรู้ว่าคุณคานส์รักผู้หญิงคนนั้นมากขนาดไหน ไม่อยากรู้ว่าเธอเป็นใคร เพราะตอนนี้คุณคานส์คือสามีของอลิชค่ะ เรื่องแฟนเก่าเขามันก็เป็นแค่อดีต ทุกคนก็ต้องมีอดีตอยู่แล้ว” ฉันอธิบายเหตุผลของตัวเองออกไปให้แป้งฟัง บางครั้งการไม่ต้องรับรู้อะไรมันคงจะดีกว่าถ้ารู้แล้วฉันคงจะทำตัวงี่เง่าใส่คุณคานส์ เดี๋ยวเราก็จะทะเลาะกันอีก ที่ผ่านมาเราเสียเวลากับเรื่องพวกนั้นมาเยอะแล้ว ต่อไปนี้ฉันอยากให้มีแค่ความสุข“ดีจังเลยนะคะ มองโลกในแง่ดีจัง”“ค่ะ ^_^” “ถ้าวันหนึ่งแฟนเก่าคานส์กลับมาล่ะคะ” “……” จากที่ฉันไม่คิดอะไรพอเจอกับคำถามนี้มันทำให้ฉันที่หนักแน่นต้องหยุดคิด ก่อนจะตอบ “ยังไงก็แค่อดีตค่ะ อลิชไม่ซีเรียสอยู่แล้ว” “แล้วถ้าแฟนเก่าขอ
คุณคานส์ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนที่เขาจะกดริมฝีปากจูบลงมาบนหน้าผากของฉัน “ฉันจะทิ้งเธอทำไมในเมื่อตอนนี้ฉันเลือกเธอแล้ว อย่าคิดมากสิอลิช” “อลิชก็ไม่อยากคิดมากหรอกค่ะ แต่แป้งเธอพูดมาแบบนั้นมันอดคิดมากไม่ได้จริงๆ” “กลัวว่าแฟนเก่าของฉันจะกลับมา ?” “กลัวสิคะ อลิชรักคุณคานส์แล้วก็รักมากด้วย” ฉันสวมกอดคุณคานส์แน่น มันมีความรู้สึกกลัวจะเสียเขาไปมากจริงๆ คุณคานส์เอามือลูบศรีษะฉันเบาๆ แล้วพูด “ฉันก็รักเธอ” “สัญญานะคะว่าจะไม่ทิ้งอลิชกับลูก” “เรื่องนั้นไม่เคยมีในหัวของฉัน” ได้ฟังคุณคานส์ตอบหนักแน่นแบบนี้ฉันก็ค่อยคลายความกังวลใจได้บ้าง ต่อไปนี้ฉันคงต้องย้ำเตือนกับตัวเองบ่อยๆ ว่าไม่ควรจะไปคิดมาก คุณคานส์ดันกอดออก เขาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้นจากนั้นก็กดริมฝีปากลงมาจูบ ซึ่งฉันเองก็ยอมตอบรับจูบของคุณคานส์อย่างไม่ลังเล เราทั้งคู่จูบกันอยู่ครู่ใหญ่ ก็เป็นฉันที่ดันคุณคานส์ออกเพราะกลัวว่าเขาจะห้ามใจไม่ได้ “รีบดันออกทำไม กำลังได้ที่” คุณคานส์ยิ้มเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงมาหอมแก้มฉันฟอดใหญ่“ได้ที่อะไรล่ะคะ ไม่ต้องมาฉวยโอกาสเลย” “ไปนอนกันเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปปรึกษาหมอ” พอได้ยินคำพูดและสี
ไม่รู้ว่าคุณคานส์ได้ซื้อเครื่ิงเล่นที่คีบตุ๊กตาจริงๆ หรือเปล่าเพราะตอนนี้ฉันเดินมาถึงที่รถแล้ว ถ้าไม่คิดว่าเดี๋ยวจะทะเลาะกันใหญ่โตมากกว่านี้ฉันคงจะเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้านแล้วแหละ ผ่านไปประมาณห้านาทีได้คุณคานส์ก็เดินกลับมา เขาถือตุ๊กตาตัวที่ฉันอยากได้ติดมือมาด้วย พอเดินมาถึงตัวฉันคุณคานส์ก็ยื่นตุ๊กตามาให้ “เขาไม่ให้ซื้อตู้รีบ ฉันก็เลยซื้อตุ๊กตาในตู้มาให้เธอแทน” พอเห็นว่าฉันไม่ยอมรับตุ๊กตามาคุณคานส์ก็จับยัดใส่มือฉัน “ขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่” จริงๆ มันก็ยังโกรธอยู่หรอกแต่พอเห็นสีหน้าของคุณคานส์แล้วฉันก็ใจอ่อน “ทีหลังห้ามขึ้นเสียงใส่อลิชอีกนะคะ” “สัญญาครับ ^_^” “ขอบคุณนะคะสำหรับตุ๊กตาตัวนี้ ^_^” ฉันให้รางวัลคุณคานส์โดยการหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ เหมือนว่าคุณคานส์จะเขินๆ เขารีบเดินไปขึ้นรถโดยที่ไม่มองหน้าฉันเลย แต่สังเกตเห็นว่าหูของเขากำลังแดงเถือกเหมือนลูกตำลึง #บ้าน มาถึงที่บ้านฉันกับคุณคานส์ก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าแป้งมารออยู่ที่ห้องรับแขก เหมือนว่าเธอมีเรื่องด่วนอะไร “ขอโทษที่มารบกวนนะคานส์ พอดีแป้งมีเรื่องด่วนจะคุยเรื่องธุรกิจที่จะร่วมลงทุนด้วยกัน” แป้งเธอบอกด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ม
แน่นอนว่าสายตาของคุณคานส์ในตอนนี้ไม่ได้เชื่อฉัน เขากำลังมองด้วยความสงสัยแววตาจับจ้องมาที่กระเป๋าในมือของฉันอย่างไม่ละสายตา“ส่งกระเป๋ามา” “อะ เอาไปทำไมคะ อลิชลอกว่าไม่มีอะไรไง” “ไม่มีอะไรก็เอามา” ฉันกำชับกระเป๋าแน่นเมื่อคุณคานส์เดินมาใกล้ๆ หมับ!! ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชายจึงดึงกระเป๋าออกไปจากมือของฉันได้อย่างง่ายดาย หัวใจดวงน้อยมันกระตุกวูบเมื่อเห็นคุณคานส์กำลังสำรวจกระเป๋า ฉันได้แต่ยืนแน่นิ่งเพราะรู้ตัวว่าไม่มีทางรอดแล้ว จบกันความลับสามปีที่ฉันปกปิดมา ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะถูกเปิดเผย “นี่อะไร ?” คุณคานส์หยิบแผงยาคุมชูขึ้นมาตรงหน้าของฉัน เขาเอ่ยถามเสียงเย็น “……” ฉันเม้มปากแน่นเพราะหลักฐานมัดตัว จะอธิบายเหตุผลแต่ดูท่าตอนนี้คุณคานส์คงไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น “คงไม่ตอบว่าวิตามินนะ” พอเห็นว่าฉันเงียบเขาก็พูดขึ้นมาดักคอไว้ ใครกันจะไปตอบว่าวิตามิน บ้าหรือเปล่า “อะ อลิชอธิบายได้นะคะ”“กินมานานเท่าไหร่แล้ว ?” ตอนนี้สามีที่แสนดีของฉันกำลังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและสายตาที่อำมหิต “สะ สามปี….”“เธอหลอกให้ฉันมีความหวังมาตลอดสามปี หึ!!” คุณคานส์กำแผงยาคุมในมือแน่น จากนั้นเขาก็เหวี่ยงมันทิ้งลงพื้นด
3 ปีผ่านไป ตอนนี้ฉันกับคุณคานส์แต่งงานกันแล้วเราคือสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนลูคัสก็วันกำลังซน ตอนนี้เข้าเรียนอนุบาลหนึ่งแล้ว แถมยังมาเล่าฉันอีกว่ากำลังแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ห้องเรียนเดียวกัน ลูกฉันนี่คงจะแพรวพราวตั้งแต่เด็กแน่ๆ ตั้งแต่ลูคัสเด็กๆ คุณคานส์ก็ช่วยฉันเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่ เขาไม่เข้าบริษัทเป็นเวลาสองปีเพื่อเลี้ยงลูกช่วยฉัน พอลูคัสเกือบจะสามขวบเขาเข้าไปที่บริษัทเหมือนเดิม ไม่ได้เอางานมาทำที่บ้านแล้วลูคัสยิ่งโตหน้าก็ยิ่งเหมือนคุณคานส์ ทั้งคนที่เจอและครูที่โรงเรียนก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกชายของฉันหล่อตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กที่มีใบหน้าหล่อเหมือนเทพบุตร ช่วงนี้งานที่บริษัทของคุณคานส์ค่อนข้างจะยุ่งๆ พรุ่งนี้ครบรอบแต่งงานครบสองปีของเราไม่รู้ว่าจะจำได้หรือเปล่า พรุ่งนี้พ่อของฉันจะมารับลูคัสไปอยู่ด้วยไม่รู้จะมารับเองหรือให้อลันมารับเพราะพรุ่งนี้อลันก็จะกลับไปที่บ้านเหมือนกัน เพราะเป็นวันหยุดยาวของลูคัสฉันเองก็ไม่ขัดอะไรเพราะอยากให้ลูกคุ้นชินกับตาของเขา วันนี้ฉันพาลูคัสมาฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล ส่วนคุณคานส์เขาอยู่ที่บริษัทงานยุ่งไม่ว่างมาด้วย “ไม่ร้องนะครับ” ฉันอุ้
ฉันรีบเดินหลับเข้ามาในครัวเหตุผลก็เพราะว่าไม่อยากให้มีปัญหา เพราะรู้ว่าคุณคานส์เป็นคนขี้หึงและเขาก็ไม่ค่อยจะมีเหตุผล ถึงแม้ฉันกับไวน์จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยก็ตาม ฉันนั่งกินข้าวเงียบๆ ในห้องครัว รอเวลาให้เพื่อนของคุณคานส์กลับไปก่อนจึงจะออกไปด้านนอก “ขอน้ำกินหน่อยครับ ^_^” เป็นไวน์ที่เดินเข้ามาในครัว เขาเอ่ยขอน้ำกับฉันพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม การได้เจอไวน์ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนมันก็ไม่ได้ทำให้ฉันหวั่นไหวได้หรอก ทุกๆ ครั้งจะมีแต่ความกลัว กลัวว่าคุณคานส์จะมาเจอเข้า แล้วนี่เป็นที่บ้านด้วย “ในตู้เย็นน่ะ เดี๋ยวหยิบให้นะ” “ขนาดคลอดลูกแล้วพี่อลิชก็ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะครับ” ไวน์ก็ยังคงชอบพูดทะเล้นเหมือนเดิม “หยุดพูดหยอดได้แล้ว เดี๋ยวก็เจอดีหรอก” ฉันดุเขาเบาๆ ไม่รู้ว่าคุณคานส์ได้สังเกตหรือเปล่าที่ไวท์มาในครัวแบบนี้ “ผมอ่ะไม่คิดอะไรแล้วนะ แต่เฮียนี่สิคงจะฝังใจ” ไวท์พูดพร้อมกับรับน้ำไปจากฉัน เป็นจังหวะเดียวกันที่คุณคานส์เดินมาในครัวพอดี ทำเอาฉันตกใจจนทำตัวไม่ถูก รีบถอยห่างจากไวท์ทันที “ลูกร้องหิวนม” คุณคานส์บอกสั้นๆ แล้วจ้องฉันเขม็ง “โธ่เฮีย! ผมมีเมียแล้วนะ ไม่ต้องหึงขนาดนั้น
คุณคานส์โน้มตัวลงมาใช้ลิ้นตวัดเบียบนหน้าท้องที่แบนราบของฉัน “แก้มัดให้อลิชได้แล้วค่ะ อ๊า~” ฉันครางออกมาพร้อมกับค่อยๆ กัดริมฝีปากแน่นเมื่อคุณคานส์กระแทกเอวสอบอีกครั้ง “ขออีกน้ำนะครับที่รัก” เขาพูดเสียงหวานจากนั้นก็หยัดตัวขึ้น ไม่ยอมแก้มัดให้ฉัน ปัก ปัก ปัก~ เสียงของเนื้อที่มันกระทบกันเริ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง “ค..คุณคานส์ อ๊ะ~ อลิชอยากกอด กะ แก้มัดให้หน่อยได้ไหมคะ อ๊าง~” ฉันพูดอย่างเอาอกเอาใจในขณะที่ร่างกำลังกระเพื่อมสั่นไหวอยู่ ครั้งนี้คุณคานส์ยอมเห็นใจ เขาแก้มัดให้ฉันแต่โดยดี อีกทั้งเอวสอบกระเร่งอัดกระแทกไม่หยุด ปัก ปัก ปัก ~ เมื่อแก้มัดเสร็จแล้วคุณคานส์ก็จับสะโพกของฉันแน่น เขาเร่งจังหวะให้ป่าเถื่อนขึ้น “อึก~ อ๊า อ๊าง~” ฉันครางเสียงดังไปพร้อมกับกับเสียงบองกระดิ่งที่คอ จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งแล้วโผล่กอดคุณคานส์แน่น “พะ พอก่อนได้ไหมคะ อ๊า~ อลิชอยากไปล้างก่อน” ฉันบอกอย่างเขินอาย ตอนนี้น้ำกามของคุณคานส์มันเปื้อนเหนอะหนะไปหมดเลย “ไว้ค่อยไปล้างทีเดียวก็ได้ ซี๊ด~” คุณคานส์โอบกอดฉันไว้แน่น จากนั้นเขาก็กระแทกรุนแรงจนก้นฉันมันลอยขึ้นจากโต๊ะทำงาน “อ๊า~ บะ เบาๆ ได้ไหม อื้อซี๊ด~” ฉันไม่ปฏิเสธ
ใบหน้าคมคายก้มลงมาตวัดลิ้นหยอกล้อเล่นกับยอดปทุมถัน ทำเอาฉันสะดุ้งโหย่งด้วยความเสียวซ่านรีบคว้ามือกอดต้นคอแกร่งของคุณคานส์เอาไว้แน่น ความเย็นเฉียบของปรายลิ้นมันทำให้ขนทั้งตัวลุกซู่ “อ๊า~” ฉันกัดริมฝีปากแน่นมองการกระทำของคุณคานส์ด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว “ดะ ดูดเบาๆ หน่อยสิคะ”ถึงกับต้องร้องท้วงเมื่อถูกอุ้งปากร้อนๆ ตะโบมดูดดุนยอดปทุมถันอย่างหิวโหย การดูดเม้มมันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บเอามากๆ “เธอน่าจะชอบนะ ครางไม่หยุดเลย” คุณคานส์เงยหน้าขึ้นมาพูด ทำเอาฉันต้องรีบเบือนหน้าหนีเพราะความเขินอาย ฝ่ามือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกทั้งสองเต้าของฉันจนเกิดรอยแดงเถือก คุณคานส์ยังไม่พอใจเขาก้มลงมาดูดเลียเม็ดไตบนเนินหน้าอกอีกครั้ง “อ๊า อลิช บะ บอกให้ อ๊ะ บะ เบาๆ ไงคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะฟังไม่รู้เรื่อง หมับ! พรึบ! ฝ่ามือใหญ่ช้อนตัวฉันขึ้นมาวางบนโต๊ะทำงาน ไม่รู้ว่าคุณคานส์ปัดของบนโต๊ะลงไปกองที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้โต๊ะทำงานของเขาไม่มีเอกสารอยู่เลย ชุดคลุมของฉันถูกดึงออกไปในพ้นตัว คุณคานส์กรีดกรายนิ้วของตัวเองไต่มาตามเรียวขาอ่อนของฉันด้วยสายตาที่หวานเยิ้ม “เดี๋ยวลูกตื่นก่อนนะคะ ถ้าไม่รีบทำ” ฉันพูดเตือ
กว่าฉันจะเกลี่ยกล่อมคุณคานส์ให้ใจเย็นๆ ได้ใช้เวลานานนับชั่วโมงเลย เขามุ่งมั่นคิดแต่เรื่องพันนั้นอย่างเดียว มันน่าตีจริงๆ ตอนนี้ฉันอุ้มลูกลงมาเลี้ยงที่ชั้นล่าง คุณคานส์จัดเตรียมที่ไว้สำหรับลูคัสแล้วเรียบร้อย ลูกน้องของคุณคานส์ก็น่ารักนะคอยมาหยอกเล่นกับลูคัสไม่ขาดสายเลย พี่เจกับพี่โจ้สองคนนี้เอ็นดูลูคัสสุดๆ แถมยังเรียกลูคัสว่านายน้อย น่าเอ็นดูเชียวล่ะ “อุแง ~” ลูคัสร้องออกมาเสียงดังลั่น ฉันที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่จึงรีบวิ่งมาดูลูกทั้งที่เพิ่งกินข้าวไปได้แค่สามคำ “โอ้ๆ แม่อยู่นี่ครับแม่อยู่นี่ หิวนมหรอครับ” ฉันเอาลูกเข้าเต้าแต่ทว่าลูคัสส่ายหน้าไปมาไม่ยอมกินนม “ลูกเป็นอะไร” คุณคานส์ได้ยินเสียงร้องของลูคัสจึงเดินมาดู เขานั่งทำงานที่ห้องอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่ “ไม่รู้เหมือนกันค่ะเอาแต่ร้อง ให้กินนมก็ไม่ยอมกิน” ฉันมองลูกชายตัวน้อยในอ้อมแขนอย่างเป็นห่วง เอาแต่ร้องไห้แบบนี้ใจแม่ไม่ดีเลยนะลูคัส “มาเดี๋ยวฉันลองอุ้ม” “คุณคานส์ทำงานอยู่ไม่ใช่หรอคะ”“ลูกสำคัญกว่างานนะ” “อลิชล่ะคะสำคัญกว่าหรือเปล่า”“เธอยังเห็นว่าฉันเป็นผัวอยู่หรือเปล่าล่ะ” คุณคานส์ยังคงนอยที่ฉันไม่ยอมให้เขาทำเรื่องอย่าง
“พะ พาเธอมาทำไมคะ” ฉันกำมือแน่นพร้อมกับเอ่ยถามคุณคานส์เสียงสั่น เพราะความรู้สึกตอนนี้มันเริ่มกลัวไปหมดทุกอย่าง “คานส์ออกไปข้างนอกก่อนก็ได้ค่ะ แป้งขอคุยกับเธอสองคน” แป้งเธอบอกคุณคานส์ฉันจึงรีบค้านขึ้น “คุยอะไร….”คุณคานส์เดินมาหาฉันแล้วก้มลงมาจูบลงบนหน้าผากของฉันอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็ลูบศรีษะของฉันไปมาแล้วพูด “แป้งแค่อยากเคลียร์เรื่องตอนนั้น ก่อนที่เธอจะกลับต่างประเทศ”“คุณคานส์บอกอลิชว่าเธอกลับไปแล้วนี่คะ” “…..” พอฉันท้วงไปแบบนั้นคุณคานส์ก็หน้าซีด แปลว่าเขาโกหกกันอย่างนั้นหรอ “ฉันมาดี” แป้งเธอพูดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่คุณคานส์จะเดินออกไปจากห้อง ฉันไม่รู้ว่าเธอมาดีจริงหรือเปล่าเพราะมารยาของเธอนั้นเยอะเหลือเกิน และถึงจะมาดีแต่ฉันก็ไม่ได้อยากจะเป็นมิตรด้วย ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเกลียดใคร แต่ถ้าฉันได้เกลียดก็ยากที่จะเปลี่ยนความรู้สึกนั้นได้ “มีอะไรก็พูดมาสิ” เป็นฉันที่เปิดเรื่องพูดขึ้นมาก่อนเพราะอยากให้เธอรีบพูดแล้วก็รีบกลับไป“ฉันขอพูดตรงๆ ว่ายังรู้สึกดีๆ กับคานส์อยู่” ฉันคิดไว้แล้วว่าเธอไม่ได้มาดีตั้งแต่แรก พอคุณคานส์ออกไปธาตุแท้ก็ออกมา “จะมาขอเขาคืนอีกหรอคะ ก็เห็นแล้วนี่ว่าฉันปล่
#ช่วงเย็น หมอเอาลูกมาให้และสอนวิธีเอาลูกเข้าเต้านมและสอนวิธีอาบน้ำให้ฉันกับคุณคานส์ดูแล้ว ลูคัสกินนมจนอิ่มแต่ก็ยังไม่ยอมนอน คงจะเป็นเพราะคุณปู่กับคุณตาคอยกวนแน่เลย อย่างที่คุณคานส์บอกว่าลูกเหมือนเขาเปะๆ ฉันได้เห็นหน้าลูกชัดๆ แล้วก็นึกน้อยใจเพราะไม่มีส่วนไหนของใบหน้าที่ลูกเหมือนฉันเลย “หน้าตาเหมือนตาคานส์ตอนเกิดไม่มีผิด” พ่อของคุณคานส์มองเจ้าตัวเล็กในรถเข็นแล้วก็หันมาพูดกับฉัน “ไม่ยุติธรรมเลยค่ะ” ฉันบอกอย่างน้อยอกน้อยใจ “ครั้งต่อไปต้องทำให้เหมือนตัวเองนะจะได้ไม่น้อยหน้า” พ่อของฉันบอก พูดมาแบบนี้แปลว่าอยากจะให้ฉันมีหลานให้อีกคนแน่ๆ “นั่นสิ คนต่อไปพ่อขอผู้หญิงนะอยากอุ้มหลานผู้หญิงบ้าง ไอริสก็มีหลานชายให้ นี่ท้องอีกคนก็เป็นผู้ชาย” พ่อของคุณคานส์แทนตัวเองกับฉันว่าพ่อแล้ว แต่ที่น่าตกใจกว่าคือได้ยินว่าไอริสน้องสาวของคุณคานส์กำลังท้องลูกคนที่สอง “ไอริสเพิ่งคลอดไปเองไม่ใช่หรอคะ ทะ ทำไมถึงท้องเร็วจัง” “เธอก็ควรจะเป็นอย่างนั้นนะ คลอดปุบท้องปับ” คุณคานส์พูดขึ้น ฉันรู้ทันหรอกว่าเขาคิดเรื่องอะไรอยู่ “ไม่เอาค่ะ เว้นไปก่อนสักสองสามปีก็ได้” ฉันยังเข็ดกับการคลอดอยู่เลย ตอนนี้ไม่มีความรู้สึ
ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดผ่านพ้นไปด้วยดีตอนนี้ฉันกำลังพักฟื้นหลังคลอดอยู่ที่ห้องพิเศษของโรงพยาบาล ฉันรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดกว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้มันไม่ง่ายเลย แต่มันคือความเจ็บปวดที่งดงามความเจ็บปวดที่ฉันเฝ้ารอมาตลอดเก้าเดือน ตอนนี้ลูกชายของฉันได้คลอดออกมาแล้ว ช่วงเวลาที่ฉันเจ็บที่สุดในชีวิตคุณคานส์คอยอยู่ใกล้ๆ จับมือให้กำลังใจฉันไม่ห่าง ครั้งแรกที่เราเห็นหน้าลูกทั้งฉันและคุณคานส์เราก็ต่างร้องไห้ออกมา “เป็นไงบ้างเจ็บอยู่ไหม” คุณคานส์ไปจัดการเรื่องเอกสาร พอกลับมาที่ห้องพักฟื้นก็รีบถามฉันด้วยความเป็นห่วง “เจ็บสิคะ เจ็บมากด้วย” ตอนนี้แผลที่เย็บมันยังเจ็บมากๆ ขยับตัวแทบไม่ได้เลย “เดี๋ยวหมอเอาลูกมาให้ตอนเช้า เธอมีน้ำนมแล้วใช่ไหม” คุณคานส์ดูตื่นเต้นมากกว่าตอนที่ฉันคลอดอีกนะตอนนี้ เขามีท่าทางรนๆ อยู่ไม่นิ่ง “มีแล้วค่ะ ไหลออกมาเยอะเลย” โชคดีที่น้ำนมของฉันมีพร้อมให้ลูกดื่มทันที ได้ยินคุณหมอบอกว่าบางคนต้องรอหลายวันกว่าน้ำนมจะมา “ลูกหน้าเหมือนฉันเปะๆ เลย” คุณคานส์บอกอย่างภูมิใจ ตอนคลอดฉันเห็นหน้าลูกไม่ถนัดเท่าไหร่เพราะมัวแต่ร้องไห้ด้วย คุณคานส์ก็คงจะไปดูลูกมาแล้วถึงมาพูดแบบนี้ “ไม่เห