แกร๊ง!~"พี่น้ำผึ้ง!""อะไร เสียงดังเชียว" "พี่ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?" "เป็นอะไรตรงไหนนายพูดอะไรของนายเนี่ย" มาถึงได้ออสตินก็สาดคำถามใส่ฉันรัวๆ จนฉันไม่รู้ว่าจะตอบคำถามไหนก่อนดี "ตะกี้ที่ผมเลี้ยวรถเข้ามาผมเจอคนที่มาหาพี่ที่ทะเลวันนั้นด้วย เขามาหาพี่ใช่ไหมแล้วเขาไม่ได้ทำอะไรพี่ใช่ไหม?""ไม่ ฉันไม่ได้ให้เขาเข้าบ้าน ยืนคุยกันอยู่ตรงหน้ารั้วแล้วเขาก็กลับไป" "เฮ้อ โล่งใจไป""นี่นายกลัวอะไรของนายเนี่ย?""ผมกลัวว่าเขาจะมาทำอะไรพี่น่ะ" "ผู้ชายคนนั้นฉันรู้จักดี เขาขี้ขลาดจะตาย ไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก" "แต่คนแบบนี้พี่ก็อย่าไปประมาทนะครับ""เออน่า มันไม่มีอะไรหรอกนายไม่ต้องกังวล" "ผมเป็นห่วงพี่จังเลย ตอนกลางวันพี่ก็อยู่บ้านคนเดียวอีก" ออสตินบ่นพึมพำขณะที่เขากำลังจัดอาหารใส่จานมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว เด็กนี่ดูใสซื่อจะตายไปไม่เห็นจะเป็นคนเห็นแก่เงินหรือเข้ามาเพื่อหลอกเอาเงินฉันตรงไหนเลย ฉันรู้ว่าอดีตสามีของฉันเขาพยายามพูดเพื่อให้ฉันมองออสตินในแบบที่ไม่ดี แต่ฉันก็พอจะรู้จักหมอนี่พอสมควรมันถึงทำให้ฉันรู้ว่าสิ่งที่อดีตสามีพูดมันก็แค่คำพูดที่หวังจะให้ฉันหวาดระแวงในตัวของออสตินก็เท่านั้น ถึงเขาจะเ
คอนโดออสติน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กนี่จะมีเงินมากมายขนาดนี้ ทั้งรถที่เขาขับ คอนโดหรูหลักล้าน รวมไปถึงการแต่งกายที่บ่งบอกถึงฐานะทางการเงิน ตกลงนี่เป็นแค่พนักงานบริษัทจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย นึกว่าเป็นพวกลูกมหาเศรษฐีแน่ะ "มองอะไรล่ะครับเข้ามาสิ" "ถามจริงนะออสติน นายดูรวยมากเลยอ่ะไม่อยากจะเชื่อ แบบนี้จะไม่มีผู้หญิงมาสนใจนายได้ยังไงกัน" "ผมก็ไม่ได้บอกนี่ครับว่าไม่มีผู้หญิงมาสนใจผม เพียงแต่ผมไม่ได้สนใจใครเลยต่างหาก" "....." "เข้ามาเถอะครับ" พอเข้าไปในตัวคอนโดทั้งกว้างทั้งใหญ่กว่าบ้านที่ฉันอยู่หลายเท่าเลย มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง ขนาดห้องนั่งเล่นยังติดเครื่องปรับอากาศ ในห้องนอนก็หรูหราหมาเห่าเตียงกว้างมีโคมไฟข้างๆ อย่างกับในละครทีวี ในห้องน้ำก็มีอ่างน้ำใหญ่ๆ สำหรับนอนแช่ ห้องอาบน้ำก็เป็นห้องกระจกด้วย "มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรอครับ" "ก็คนมันไม่เคยเห็นนี่นา" "ห้องน้ำอยู่ทางโน้นนะครับ ส่วนตู้เก็บเสื้อผ้าอยู่ฝั่งนี้ พี่เอาเสื้อผ้าไปเก็บในตู้เสื้อผ้าได้เลย ของทุกชิ้นในคอนโดพี่สามารถใช้ได้ แต่ถ้าอันไหนใช้ไม่เป็นก็มาถามผมได้นะครับ""แล้วถ้าฉันทำพัง นายจะเรียกเก็บฉันขนาดไหนเนี่ย"
"อ๊ะ อะ ออสติน เดี๋ยวก่อน""อืม พี่บอกเองว่าตกกลางคืนค่อยทำกัน ตอนนี้ไม่ใช่กลางคืนตรงไหนครับ" "ก็นายเล่นทำแบบไม่ให้ฉันได้ตั้งตัวนี่""ขอโทษครับ ผมจะทำให้เบาลงนะ" "อืม..." ออสตินเอื้อมมือไปหยิบถุงยางมากล่องนึง ก่อนจะแกะออกจากกล่องแล้วหยิบมาคาบไว้ในปาก แล้วลุกไปถอดเสื้อตัวเอง "ฉันใส่ให้ไหม?" "...." เขาพยักหน้าตอบ ก่อนที่ถุงยางจะถูกน้ำผึ้งหยิบไปจากปาก เธอฉีกแล้วสวมมันเข้ากับแก่นกายตรงหน้า "มือพี่นุ่มจังเลย""รีบใส่เข้ามาสิ""ได้ครับ" ขาเรียวถูกจับแยกออกจากกัน ก่อนที่คนตัวโตจะแทรกเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างขาของเธอ จากนั้นก็สอดแก่นกายลำยาวเข้าไปในช่องทางรักคับแคบของเธอทีละนิดจนสามารถใส่เข้าไปได้จนสุดลำ "อึกอืม...นะ แน่นอ่า..""ดะ เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งขยับ" มือเล็กจับต้นแขนแกร่งเอาไว้แน่น ภายในมีการกระตุกคล้ายเนื้อที่กำลังเต้นตุบๆ จนทำให้ออสตินสัมผัสได้ "อืมพี่ครับ...""จูบฉันหน่อยสิ" "ครับ..." ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหวาน ก่อนที่จะตวัดเลียภายในอย่างเมามันและในขณะเดียวกันช่องทางที่เชื่อมต่อกันอยู่ก็เริ่มขยับเข้าออกอย่างเนิบนาบ จนมีเสียงครางดังออกมาจากหญิงสาว “แฮ่ก ออสติน…”“อืม
เช้าวันต่อมา ออสตินตื่นมาในตอนเช้า ทว่าเขากลับไม่พบหญิงสาวที่ซึ่งควรจะนอนอยู่บนแขนของเขาดั่งเช่นเมื่อคืน ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงรีบลุกออกจากเตียงเพื่อตามหาเธอ จนกระทั่งได้เจอกับน้ำผึ้งกำลังยืนทำอาหารเช้าอยู่ในครัว หมับ! เขาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง พร้อมกับสูดดมกลิ่นกายหอมๆ จากเธออย่างหลงใหล “อืออย่าสิ ฉันกำลังทำอาหารเช้าให้อยู่นะ” “ตื่นมาก่อน ทำไมไม่ปลุกผมล่ะครับ” ออสตินพูดข้างหูเสียงแผ่ว มือก็เริ่มซุกซนไปทั่งร่างกายของเธอ เพราะน้ำผึ้งใส่เพียงชุดนอนตัวน้อยๆ บางๆ เท่านั้น “แล้วนายจะตื่นมาทำไมแต่เช้า มีเวลานอนก็นอนไปสิ เดี๋ยวก็ต้องไปทำงานอีก” “ก็ผมตกใจนี่ ตื่นมาแล้วไม่เจอพี่”“ฉันไม่ไปไหนหรอก แค่ตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้เท่านั้นเอง”“อืม…”“อย่าสิออสติน”“ผมมีอารมณ์แล้วน่ะ ขอทำได้ไหมครับ” “…..” เธอไม่ได้ตอบกลับ แต่ก็สัมผัสได้ว่าตรงนั้นของเขามันแข็งขึ้นมาแล้วจริงๆ และตอนนี้เขาก็กำลังขยับเอวเบาๆ เพื่อให้ท่อนเอ็นของตัวเองถูไถไปกับก้นของเธอ “นะ นายจะไปทำงานสายเอานะ”“ไม่สายหรอกครับ ที่ทำงานใกล้แค่นี้เอง”“อืม….”“ใส่แล้วนะครับ”“ถุงยาง..อึก”“เดี๋ยวผมไปหยิบก่อน”ว่าแล้วชายหนุ่มก็รีบไปห
หลายวันผ่านไป หลังจากที่ฉันขังตัวเองอยู่แต่ภายในคอนโดโดยที่ไม่ได้ออกไปไหนเลยจนเริ่มคุ้นชินกับสถานที่ วันนี้ฉันคิดว่าฉันจะทำข้าวกล่องไปฝากให้กับออสตินที่บริษัท และขากลับฉันก็จะแวะซื้อของเพื่อไปทำอาหารในตอนเย็น ตอนนี้ฉันกำลังเร่งทำอาหารอยู่ เพราะกลัวว่าจะเอาไปส่งไม่ทันในตอนเที่ยง ได้มาอยู่ที่นี่สุขสบายขึ้นเยอะเลยจริงๆ เพราะอะไรต่อมิอะไรที่นี่มันถูกจัดขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนที่อาศัยอยู่ที่นี่โดยเฉพาะเลย มันแทบจะไม่ต้องซื้ออะไรเข้ามาเพิ่มในคอนโดเลย ส่วนเรื่องบ้านของฉันก็ยังไม่ได้มีการคืบหน้าอะไร ถึงแม้แถวนั้นจะมีนายทุนมาควานซื้อที่ดินแถวนั้นไปเพื่อเตรียมทำโรงงานแล้วก็ตาม ฉันยังไม่ได้ตกลงทำอะไรถึงแม้ออสตินจะให้ฉันตกลงขายให้กับพวกนายทุนแล้วก็ตาม ..........ตู๊ด~ ตู๊ด~ ตู๊ด~ ฉันโทรออกไปหาออสตินเพื่อที่จะบอกกับเขาว่าฉันจะทำข้าวกล่องไปส่งไว้ให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาทำงานอยู่หรือเปล่าถึงไม่ยอมรับสายเลย ฉันวางสายแล้วส่งข้อความทิ้งเอาไว้แทน เพราะมันน่าจะสะดวกกว่าการที่ต้องรับโทรศัพท์ น้ำผึ้ง : ฉันจะทำข้าวกล่องไปส่งไว้ให้นะอย่าลืมออกมาเอาด้วย หลังจากนั้นฉันก็เร่งทำอาหารต่อ
ขณะที่กำลังยืนรอแฟนหนุ่มออกมาเอาข้าวกล่องที่เธอทำมาให้ สายตาของเธอก็มองไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งไปสะดุดกับบอร์ดที่มีรูปพนักงานพร้อมกับบอกตำแหน่งหน้าที่ เธอรีบเดินไปดูตรงนั้นเพราะคิดว่าถ้าออสตินทำงานอยู่ที่นี่ก็คงจะต้องมีรูปติดอยู่ในบอร์ดตรงนี้เหมือนกัน "เยอะจัง..." หญิงสาวยืนบ่นขณะที่กำลังยืนไล่ดูตามชื่อและตามแผนก แต่ทว่าเธอกลับไม่พบชื่อของแฟนหนุ่มเลย "สรุปนายอยู่ตรงไหนเนี่ย" "หาอะไรอยู่ครับ?" เสียงนุ่มดังขึ้นจากด้านข้าง และเสียงนี้เธอก็จำได้เป็นอย่างดี "ออสติน!""ขอโทษนะครับพี่ที่มาช้า รอผมนานไหมพอดีผมเพิ่งออกจากห้องประชุมพอได้อ่านข้อความของพี่แล้วก็รีบลงมาเลย" "รอนานสิอันที่จริงฉันจะฝากข้าวกล่องไว้กับพนักงานแล้วแต่เขาบอกว่าไม่สามารถรับของฝากจากคนนอกได้ มันเป็นกฎของที่นี่น่ะ" "อ๋อ...ว่าแต่พี่หาอะไรอยู่ครับ""ฉันไม่รู้ว่านายทำงานอยู่แผนกไหนก็เลยบอกกับพนักงานคนอื่นไม่ได้น่ะก็เลยมายืนดูว่าชื่อนายอยู่ตรงไหน" "อยู่ตรงนี้ครับ" "....." น้ำผึ้งเงยหน้าขึ้นมองตามที่แฟนหนุ่มชี้ขึ้นไป ซึ่งมันอยู่ด้านบนของบอร์ดเลย แต่มันทำให้เธอตกใจมากๆ ตกใจจนตาค้างทำตัวไม่ถูก เพราะรูปของเขาที่ติดอยู่นั้นด้
คอนโดออสติน “มะ มองอะไรครับพี่” ออสตินทำตัวไม่ถูกเมื่อกลับมาถึงคอนโดแล้วถูกน้ำผึ้งมองอย่างไม่ละสายตาเลย เพราะสายตาที่เธอจับจ้องมองเขามันดูเหมือนมีคำถามมากมายที่อยากจะถามเขา “ผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ?”“มานั่งตรงนี้”“ครับ” น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง ทำให้ออสตินเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างเรียบร้อย ก่อนที่น้ำผึ้งจะเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามกัน แต่ก็ยังไม่วายจ้องมองจนออสตินรู้สึกประหม่าเพราะไม่รู้ว่าไปทำผิดมาหรือเปล่า “อะไรกันเนี่ยครับ พี่เอาแต่จ้องมองผมแบบนี้ ผมเริ่มกลัวแล้วนะครับ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า” “นาย…นายโกหกฉันอะ”“โกหกอะไรครับ?”“โกหกเรื่องงานของนายไง”“ผมโกหกตรงไหนครับ”“ก็นายไม่ได้บอกฉันอะว่านายเป็นใคร นายทำให้ฉันเข้าใจผิดว่านายทำงานเป็นแค่พนักงานทั่วๆ ไป”“ก็พี่ไม่ได้ถามผมนี่ครับ ผมก็นึกว่าพี่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้ก็เลยไม่ได้บอก”“จริงๆ ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจหรอก แต่วันนี้ที่ฉันไปหานายฉันเอะใจแล้วว่าทำไมคนถึงมองฉันแปลกๆ ตอนที่ฉันเอาข้าวกลางวันไปฝากให้นายอะ” เพราะเธอเรียกเขาว่าแฟนเต็มปาก จึงทำให้พนักงานมองงงๆ จนเธอเองก็แปลกใจเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอ
"อึกอ๊า อะ ออสติน เบาก่อนอึก..." ครั้งเดียวสำหรับเขามันไม่มีจริงๆ ทั้งที่เขาเป็นคนบอกเองว่าจะขอทำเรื่องอย่างว่ากับฉันแค่รอบเดียวแต่ตอนนี้มันไม่ได้จบแค่รอบเดียวเนี่ยสิ ไม่รู้ว่าไปหิวโหยไม่รู้ว่าไปอดอยากเรื่องแบบนี้มาจากไหน หรือเป็นเพราะว่าเขาเก็บกดจากการที่ไม่มีอะไรกับใครเลยมาลงที่ฉัน "อืมพี่ครับ...อือ..." "อึกอ๊ะ..." "ผมจะเสร็จแล้ว...อ่าาอ๊าา!" ร่างกายของเขากระตุกพอๆ กับฉันที่กระตุกบีบรัดท่อนลำที่กำลังขยับอยู่ในช่องทางของฉัน ฉันเสร็จไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วในขณะที่เขาเพิ่งจะเสร็จครั้งนี้เป็นครั้งที่สามเอง "อืม..." "สกปรกหมดเลยเนี่ย" ฉันบ่นใส่ ที่นอนเปียกแฉะอีกแล้ว แบบนี้คงนอนไม่ได้แน่นอกจากจะต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอน "พี่ครับ...""หือ..อ๊ะ อะ ออสติน นายจะทำอะไร!?" ฉันถามด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ออสตินก็ขยับไปอยู่ตรงหว่างขาของฉัน สายตาของเขาจ้องมองไปยังส่วนล่างที่ถูกเขากระแทกจนแดงไปหมด "ร่องตรงนี้ของพี่น่ากินจังเลยครับ" "มะ ไม่นะออสติน อ๊าา!" ไม่ทันที่ฉันจะได้ห้ามอะไร ออสตินก็โน้มตัวลงไปใช้ลิ้นเลียตรงนั้นของฉัน ลิ้นร้อนๆ ลากขึ้นลงรัวๆ ก่อนที่เขาจะพยายามแหย่เข้าไปข้างใน นี่ไม่ใช่
สามปีต่อมาในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาฉันกับออสตินคอยช่วยกันเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี มันก็มีบ้างที่คนเราจะต้องเหนื่อย และมันก็มีบ้างที่เราจะมีปากเสียงกันแต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะปรับความเข้าใจกันเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะอยู่ด้วยกันแล้วจะมีความคิดเห็นบางอย่างไม่ตรงกันและมีปากเสียงกันบ้าง แต่พอเราลองถอยกันคนละก้าวและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมามันก็ทำให้เราสองคนเข้าใจกันปรับความเข้าใจกันมันเลยไม่มีการทะเลาะกันใหญ่โต ตอนนี้ฉันกำลังท้องลูกคนที่สองได้ห้าเดือนแล้วเป็นผู้หญิง ตอนแรกออสตินก็ไม่กล้าที่จะให้ฉันท้องอีกเพราะกลัวว่าฉันจะต้องเจ็บ รายนั้นกลัวฉันเจ็บมากๆ ถึงขั้นมีความคิดที่จะไปทำหมันตัวเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีลูกอีกฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บอีกทั้งที่ตัวเองคิดเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะมีลูกอีกหลายๆ คนลูกจะได้ไม่เหงา สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องปลอบใจและอธิบายให้เขาเข้าใจจนเขาล้มเลิกความคิดที่จะไปทำหมัน และตอนนี้ออสก้ากำลังเข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาล ออสตินจะขับรถไปส่งทุกๆวันพอเลิกงานก็จะแวะรับลูกชายกลับมาด้วยเพราะงั้นฉันเลยไม่ได้ต้องวุ่นวายตรงนี้ ตอนเช้าตื่นมาออสตินก็จะเป็นคนจัดแจงอาบน้ำแต่งตัว
เวลาต่อมา ตอนนี้ฉันคลอดลูกแล้วและก็กลับมาอยูที่บ้านแล้วด้วย ลูกตัวใหญ่แต่ก็คลอดออกมาเองได้เพราะร่างกายของฉันแข็งแรงพอที่จะคลอดเองได้ ก่อนหน้านั้นออสตินเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเลย เพราะก่อนจะคลอดฉันมีอาการปวดที่เรียกว่าปวดสุดๆ ปวดจนหน้าซีดไปหมด ปวดจนตัวบิดงอ มันเหมือนร่างกายมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่เขาว่ากันว่าการคลอดลูกของผู้หญิงมันเจ็บปวดที่สุดแล้วเพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้นี่แหละ “เฮ้อ…”“เจ็บแผลหรือเปล่าครับพี่”“ไม่หรอก ไม่เจ็บแล้ว” ฉันตอบ พอคลอดเสร็จแล้วพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ เพราะร่างกายมันฟื้นตัวได้เร็วกกว่า ลูกของฉันเองก็แข็งแรงสมบูรณ์ดีเลยกลับบ้านได้พร้อมกับฉันเลย ตอนนี้ก็ได้แม่บ้านกับออสตินคอยดูแลอยู่ฉันเลยได้มีเวลาพักฟื้นตัวเอง เขาไม่ยอมให้ฉันได้หยิบจับอะไรเลยนอกจากนอนดูพวกเขาช่วยกันเลี้ยงลูกนิ่งๆ “คุณหนูน้อยเลี้ยงง่ายจังเลยค่ะ ไม่ร้องงอแงเลย” “ดีแล้วค่ะที่เลี้ยงง่าย ถ้าแกเลี้ยงยากทุกคนคงต้องเหนื่อยเพิ่มกันแน่ๆ เลยค่ะ” “พี่ครับ..ผมพาขึ้นไปพักไหมครับ”“ไม่เป็นอะไรหรอก ให้ฉันได้นั่งรับลมอยู่ข้างล่างนี่แหละ ตอนเย็นๆ ว่าจะไปเดินเล่นสักหน่อย เหมือนจ
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
เวลาต่อมา ออสตินคอยดูแลฉันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะลุกจะเดินหรือจะทำอะไรเขาจะเป็นคนจัดการให้ทุกครั้ง ออสตินดูแลฉันอยู่เป็นอาทิตย์หลังจากนั้นเขาก็กลับไปทำงานต่อเพราะเขามั่นใจแล้วว่าอาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไรและที่บ้านก็ยังมีแม่บ้านคอยอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย แต่ออสตินก็ยังจะกลับบ้านเร็วกว่าปกติ บางครั้งก็จะกลับมาในช่วงเที่ยงๆ ไม่ได้กลับไปทำงานต่อ ออสตินทั้งทำงานไปด้วยดูแลฉันไปด้วย จนบางครั้งฉันก็แอบห่วงสุขภาพของเขาเหมือนกัน อาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไร ฉันไม่ได้อาเจียนจนกินอะไรไม่ได้ จะมีก็แค่รู้สึกเวียนหัวบ้างเป็นบางครั้ง ออสตินสั่งห้ามฉันทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะงานเล็กงานน้อย และเขาก็สั่งกำชับกับแม่บ้านเอาไว้อย่างดีเลยด้วย ฉันแอบไม่ได้หรอกเพราะเรื่องนี้แม่บ้านก็เห็นด้วยกับออสตินไม่มีใครเห็นด้วยกับฉันเลย "ผมกลับมาแล้วครับ" "วันนี้กลับเร็วอีกแล้วนะ" "ก็กลับมาดูแลพี่ไงครับ" "นายเองก็พักบ้างสิดูแลแต่ฉัน แต่ตัวนายไม่ได้พักเลยแบบนี้ฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะ" "พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดเลยครับ ภรรยาของผมกำลังท้องลูกของผมอยู่สามีอย่างผมก็ต้องดูแลภรรยาอย่างเต็มที่สิครับ""แต่นายก็
ออสติน Talk ตอนเย็นหลังเลิกงาน ผมขับรถกลับมาที่บ้านตามปกติเหมือนอย่างเคย บางวันผมก็ขับรถเอง วันไหนเหนื่อยขี้เกียจขับรถก็จะมีคนขับรถค่อยขับรถไปส่งที่บริษัท แต่วันนี้ผมขับรถกลับมาเอง "พี่ค้าบ..." พอกลับมาถึงสิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยคือการได้อ้อนพี่น้ำผึ้ง ผมชอบเข้าไปกอดเธอหอมแก้มเธอ การได้ทำแบบนี้มันทำให้ผมหายเหนื่อยจากที่ทำงานมาเป็นปลิดทิ้งเลย "วันนี้เหนื่อยไหม""เหนื่อยครับ แต่พอเห็นหน้าพี่แล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ""อ้อนเก่งนักนะนายเนี่ย" "ผมขอชาร์จแบตหน่อย" "หิวหรือยัง กินข้าวก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำก็ได้จะได้พักทีเดียวเลย""ครับ" ทุกๆ อย่างมันไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย ผมกลับมาจากที่ทำงานกินข้าวพร้อมกับพี่น้ำผึ้งแล้วก็ขึ้นไปนอนด้วยกัน เราสองคนไม่ได้เที่ยวที่ไหน กลับกันเราใช้ชีวิตดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไปมากกว่า พี่น้ำผึ้งเธอจะคอยทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ทำอาหารไว้รอผมในทุกๆ วัน มันอาจจะไม่ได้พิเศษอะไรในสายตาของคนอื่นแต่ในสายตาของผมการได้เห็นหน้าพี่น้ำผึ้งในทุกๆ วันได้พูดคุยกับเธอได้บอกรักเธอมันเป็นวันที่แสนพิเศษสำหรับผมมากที่สุดเลย เพราะงั้นผมถึงได้คิดว่าทุกๆ วันที่ผมตื่นมาแล้ว
ตอนเช้าวันถัดมา “ผมไปก่อนนะครับพี่ เลิกงานแล้วจะรีบกลับมานะครับ”“อื้ม อย่าหักโหมล่ะ พักเที่ยงก็กินข้าวด้วยห้ามอดนะ เข้าใจไหม”“เข้าใจแล้วค้าบ” “ไปเถอะ” ฉันยืนมองออสตินเดินออกไปขึ้นรถ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน รีบขึ้นไปด้านบนทันทีเพราะฉันมีสิ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือตรวจครรภ์ว่าตัวเองกำลังท้องจริงๆ หรือเปล่า ฉันรีบหยิบซองยาที่แอบให้แม่บ้านไปซื้อมาให้เมื่อเช้าเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะรีบจัดการตรวจตามที่ตัวเองพอจะรู้ และก็นั่งรอผลตรวจอยู่ห้านาที ในที่สุด…ผลตรวจก็ออกมา ปรากฏว่าฉันกำลังท้องจริงๆ แม้ที่ตรวจครรภ์จะขึ้นสองขีดจางๆ แต่ฉันก็มั่นใจ เพราะอาการที่ฉันกำลังเป็นอยู่มันก็คล้ายกับคนท้องมากจริงๆ ฉันคงต้องรีบไปฝากท้องสินะ เพื่อที่จะได้เอาสมุดตรวจครรภ์มายืนยันความจริงว่าฉันกำลังท้องจริงๆ ไม่ใช่แค่ลมปาก “คุณน้ำผึ้งจะออกไปไหนคะ?”“จะไปโรงพยาบาลน่ะ บ่ายๆ ถึงจะกลับมานะ ห้ามใครบอกออสตินล่ะว่าฉันไปไหน”“ผลตรวจเป็นยังไงคะ ใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า”“…..” แม่บ้านทุกคนต่างยืนมองฉันด้วยสีหน้าที่รอลุ้นคำตอบจากฉัน พวกเขาดูตื่นเต้นกันมากเลยนะเนี่ย “ค่ะ มันขึ้นสองขีด แต่ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีน่ะค่ะเพ
ผ่านมาได้เดือนกว่าๆ “อืม…” ฉันนั่งกุมขมับตัวเองเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ มันรู้สึกมึนๆ จะเวียนหัวก็ไม่เชิง อาการพวกนี้ฉันเป็นมาได้สองสามวันแล้ว แต่ก็คิดว่าเพราะนอนไม่ค่อยหลับด้วยหรือเปล่าเลยเป็นแบบนี้ แต่มันก็เป็นค่อนข้างหนักเพราะมันทำให้ฉันทำงานบ้านอะไรไม่ได้เลยจึงต้องทิ้งงานบ้านทุกอย่างให้แม่บ้านทำทั้งหมด "คุณน้ำผึ้งคะ รับน้ำหวานเย็นๆ สักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "อ่า ก็ดีเหมือนกันค่ะ" "ถ้างั้นรอสักครู่นะคะ" ฉันนั่งรออยู่ได้ไม่นานแม่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำหวาน "ถ้าอาการไม่ดีขึ้นคุณน้ำผึ้งไปหาหมอดีกว่าไหมคะ เดี๋ยวดิฉันโทรหาคุณออสตินให้" "ไม่ต้องๆ ห้ามบอกเรื่องนี้กับออสตินเด็ดขาด" "....." "ฉันไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วง แค่งานที่บริษัทของเขาที่ต้องทำมันก็เยอะมากแล้ว ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคงเพราะนอนดึกตื่นเช้าด้วยก็เลยเพลียๆ""งั้นก็ขึ้นไปนอนพักเถอะค่ะไม่ต้องห่วงงานบ้านหรอก เดี๋ยวดิฉันกับพวกแม่บ้านจะช่วยกันทำให้เสร็จเองค่ะ""ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง" ฉันกลับขึ้นไปนอนบนห้องตามที่แม่บ้านบอกจริงๆ แต่สุดท้ายก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม ฉันพยายามข่มตาให้นอนหลับแล้ว แต่ดูเ
พั่ก! พั่ก! พั่ก!แก่นกายใหญ่กระแทกเข้าออกช่องทางรักอย่างหนักหน่วง ร่างกายของหญิงสาวสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทก พร้อมกับเปล่งเสียงร้องครางออกมาไม่ยอมหยุด สายตาของเธอพร่ามัวแทบมองสิ่งตรงหน้าไม่ชัดแล้ว ยิ่งถูกกระแทกแรงขึ้นก็ยิ่งทำให้เธอร้องครางออกมาเสียงดังมากขึ้น ทว่าเธอต้องรีบเอามือปิดปากตัวเองเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในห้อง แต่อยู่นอกระเบียงด้านนอกซึ่งเสียงครางที่ดังออกมามันอาจจะทำให้คนได้ยินได้ “อึก..อ๊ะอ๊ะ อึ๊อื้ม…” มือเรียวปิดปากของตัวเองไว้แน่น เพราะหากมือหลุดไปเสียงอาจจะเล็ดลอดออกมาได้ “อืม…มันดีมากเลยนะครับพี่ อึก..ผมจะคลั่งให้ได้อยู่แล้วครับ” ออสตินพูดกระซิบเสียงแผ่วข้างหู ลมหายใจอุ่นๆ ที่ถูกพ่นออกมาพร้อมกับคำพูดเสียงกระเส่ามันทำเอาเธอขนลุกซู่จนเบิกตาโพลง “ละ ลึกไป ออสติน…เฮือก!!” หญิงสาวตาเบิกโพลงเมื่อช่องทางรักมันคับแน่นจนรู้สึกได้ตรงท้องน้อย เขากดท่อนเอ็นเข้ามาลึกมากและปลดปล่อยน้ำกามเข้ามาในท้องของเธอจนรู้สึกอุ่นวาบในทันที ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนทับร่างของภรรยาสาวพร้อมกับลมหายใจที่หอบถี่ ในขณะที่เธอเองก็เหนื่อยและหมดแรงไม่ต่างกัน แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้อย่างแน่