คอนโดออสติน “มะ มองอะไรครับพี่” ออสตินทำตัวไม่ถูกเมื่อกลับมาถึงคอนโดแล้วถูกน้ำผึ้งมองอย่างไม่ละสายตาเลย เพราะสายตาที่เธอจับจ้องมองเขามันดูเหมือนมีคำถามมากมายที่อยากจะถามเขา “ผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ?”“มานั่งตรงนี้”“ครับ” น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง ทำให้ออสตินเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างเรียบร้อย ก่อนที่น้ำผึ้งจะเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามกัน แต่ก็ยังไม่วายจ้องมองจนออสตินรู้สึกประหม่าเพราะไม่รู้ว่าไปทำผิดมาหรือเปล่า “อะไรกันเนี่ยครับ พี่เอาแต่จ้องมองผมแบบนี้ ผมเริ่มกลัวแล้วนะครับ ไม่รู้ว่าไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า” “นาย…นายโกหกฉันอะ”“โกหกอะไรครับ?”“โกหกเรื่องงานของนายไง”“ผมโกหกตรงไหนครับ”“ก็นายไม่ได้บอกฉันอะว่านายเป็นใคร นายทำให้ฉันเข้าใจผิดว่านายทำงานเป็นแค่พนักงานทั่วๆ ไป”“ก็พี่ไม่ได้ถามผมนี่ครับ ผมก็นึกว่าพี่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้ก็เลยไม่ได้บอก”“จริงๆ ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจหรอก แต่วันนี้ที่ฉันไปหานายฉันเอะใจแล้วว่าทำไมคนถึงมองฉันแปลกๆ ตอนที่ฉันเอาข้าวกลางวันไปฝากให้นายอะ” เพราะเธอเรียกเขาว่าแฟนเต็มปาก จึงทำให้พนักงานมองงงๆ จนเธอเองก็แปลกใจเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดอ
"อึกอ๊า อะ ออสติน เบาก่อนอึก..." ครั้งเดียวสำหรับเขามันไม่มีจริงๆ ทั้งที่เขาเป็นคนบอกเองว่าจะขอทำเรื่องอย่างว่ากับฉันแค่รอบเดียวแต่ตอนนี้มันไม่ได้จบแค่รอบเดียวเนี่ยสิ ไม่รู้ว่าไปหิวโหยไม่รู้ว่าไปอดอยากเรื่องแบบนี้มาจากไหน หรือเป็นเพราะว่าเขาเก็บกดจากการที่ไม่มีอะไรกับใครเลยมาลงที่ฉัน "อืมพี่ครับ...อือ..." "อึกอ๊ะ..." "ผมจะเสร็จแล้ว...อ่าาอ๊าา!" ร่างกายของเขากระตุกพอๆ กับฉันที่กระตุกบีบรัดท่อนลำที่กำลังขยับอยู่ในช่องทางของฉัน ฉันเสร็จไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วในขณะที่เขาเพิ่งจะเสร็จครั้งนี้เป็นครั้งที่สามเอง "อืม..." "สกปรกหมดเลยเนี่ย" ฉันบ่นใส่ ที่นอนเปียกแฉะอีกแล้ว แบบนี้คงนอนไม่ได้แน่นอกจากจะต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอน "พี่ครับ...""หือ..อ๊ะ อะ ออสติน นายจะทำอะไร!?" ฉันถามด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ออสตินก็ขยับไปอยู่ตรงหว่างขาของฉัน สายตาของเขาจ้องมองไปยังส่วนล่างที่ถูกเขากระแทกจนแดงไปหมด "ร่องตรงนี้ของพี่น่ากินจังเลยครับ" "มะ ไม่นะออสติน อ๊าา!" ไม่ทันที่ฉันจะได้ห้ามอะไร ออสตินก็โน้มตัวลงไปใช้ลิ้นเลียตรงนั้นของฉัน ลิ้นร้อนๆ ลากขึ้นลงรัวๆ ก่อนที่เขาจะพยายามแหย่เข้าไปข้างใน นี่ไม่ใช่
เช้าวันถัดมา “พี่ค้าบ…”“ไม่ต้องมาอ้อนเลย เรื่องเมื่อคืนฉันไม่ได้ลืมง่ายๆ หรอกนะ” เธอหันไปตอบ ขณะที่กำลังยืนทำอาหารเช้าให้กับออสตินอยู่ เพราะเมื่อคืนทำเรื่องอย่างว่ากันไปหลายรอบและกว่าจะได้นอนก็เลยทำให้น้ำผึ้งเกือบจะตื่นสาย “อย่าโกรธกันเลยนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว ผมจะเชื่อฟังพี่นะครับพี่น้ำผึ้ง น้าๆ”“พอเลยไม่ต้องมาอ้อนเลยนะออสติน นายน่ะมันดื้อ ต้องโดนดีๆ ซะบ้าง”“พี่ไม่สงสารผมเหรอครับ” เขาทำหน้าออดอ้อนใส่เธอ ท่าทางที่กำลังงอแงเหมือนกับเด็กทำให้น้ำผึ้งแทบใจอ่อนเพราะแพ้ทางลูกอ้อนของเด็กอย่างออสติน “สายแล้วนะออสติน เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก”“วันนี้ผมเข้าบ่ายครับ”“ทำไมล่ะ?”“เมื่อวานเพิ่งเคลียร์งานเสร็จไปครับ วันนี้มีแค่ไปเตรียมเอกสารเพื่อไปพบนักธุรกิจที่จะมาร่วมลงทุนด้วยก็เท่านั้นครับ” “นายไม่มีเลขาเหรอ? ทำไมดูทำอะไรเองหมดเลย”“มีครับ แต่เลขาก็งานเยอะแล้วน่ะครับ บางอย่างทำเองได้ผมก็อยากทำเองมากกว่าครับ”“อ๋อ…”“ตัวพี่หอมจังเลยครับ”“ไม่ต้องมาอ้อนฉันจะทำกับข้าว ออกไปรอข้างนอกเลย”“ผมขอเป็นลูกมือนะครับ ผมอยากช่วย”“ทำเป็นหรือไง?”“เป็นครับ” ว่าแล้วออสตินก็หยิบของที่น้ำผ
ออสตินได้ออกไปพบกับผู้ร่วมลงทุนพร้อมกับเลขา ซึ่งออสตินเองก็ไม่รู้เลยว่าผู้ร่วมลงทุนคนนี้เป็นใครและไว้ใจได้มากขนาดไหน "คุณเดชะมาถึงไหนแล้ว" "เห็นทางเลขาแจ้งมาว่าใกล้จะถึงแล้วค่ะ" "ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ กลับมาคุณเดชะก็น่าจะมาถึงพอดี" "ค่ะท่านประธาน" ออสตินเดินเลี่ยงไปที่ห้องน้ำ ก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาแฟนสาวที่อยู่ที่คอนโด ตู๊ด~( ว่ายังไงออสติน ) "ทำอะไรอยู่ครับ รับไวจังเลย"( นอนดูทีวีอยู่ โทรศัพท์มันวางอยู่ใกล้ตัวพอดีก็เลยรับเร็ว )"คิดถึงพี่จังเลยครับ" ( เพิ่งจะออกไปเองนะจะมาคิดถึงอะไรอีกเล่า แล้วไหนบอกว่าออกไปพบใครทำไมถึงมาคุยได้ล่ะ ) "พอดีว่าเจ้าของบริษัทอีกบริษัทนึงยังไม่มาน่ะครับผมก็เลยมาเข้าห้องน้ำก่อน" ( มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย )"ผมอยากได้กำลังใจจากพี่ เวลาได้คุยกับพี่แล้วผมรู้สึกดีบอกไม่ถูกเลย" ( นายก็เก่งอยู่แล้วนี่ แล้วฉันต้องให้กำลังใจนายว่ายังไงล่ะ สู้ๆ ตั้งใจทำงานนะแบบนี้หรอ ) "แหะๆ พี่เนี่ยตลกดีนะครับ" ( ก็ฉันไม่รู้นี่ว่าฉันต้องให้กำลังใจนายว่ายังไง ) "กำลังใจของผมคือพี่ครับ แค่ได้เห็นหน้าพี่ได้ยินเสียงของพี่ผมก็มีกำลังใจแล้ว
"ท่านประธาน..." เลขารีบเดินเข้ามาหาเพราะคุณเดชะได้เข้ามานั่งรอแล้ว และเขาเองก็รู้เช่นกันว่าตัวเองออกไปนานเกินไป"ผมรู้แล้ว" "....." "ต้องขอโทษคุณเดชะด้วยนะครับที่มาช้า""ไม่เป็นอะไรครับ" ออสตินนั่งลงเพื่อเตรียมที่จะพูดคุยเจรจากันเรื่องธุรกิจที่กำลังจะเซ็นสัญญาด้วยกัน เพราะบริษัทของออสตินเป็นบริษัทใหญ่จึงทำให้บริษัทเล็กๆ อยากจะเข้ามาร่วมเซ็นสัญญาด้วย เนื่องจากมันสามารถเติบโตได้เร็วแบบก้าวกระโดด "ต้องขอโทษด้วยครับท่านประธานพอดีผมมีปัญหานิดหน่อย" "....." น้ำเสียงที่คุ้นหูเหมือนออสตินเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน พอได้หันกลับไปมองก็พบว่าเป็นชาญชัยอดีตสามีของน้ำผึ้งนั่นเอง "นี่มันอะไรกันครับ คนนี้เป็นใครครับท่านประธาน""อ้าว นึกว่ารู้จักแล้วซะอีก""หมายความว่ายังไงครับ?""นี่ออสตินเพิ่งจบมาจากเมืองนอกหมาดๆ เลย ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวพิธา เพิ่งมารับตำแหน่งแทนพ่อได้ไม่นานเอง" "วะ ว่าไงนะครับ ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวพิธา" ชาญชัยดูตกใจเอามากๆ เพราะไม่คิดว่าเจ้าของบริษัทใหญ่ที่ยอมมาร่วมลงทุนด้วยคือออสติน "จะตกใจอะไรขนาดนั้นเล่า""คนนี้ใครหรอครับคุณเดชะ?" ออสตินถาม "คนนี้เป็นเลขาของผมเองครับ ชื่
ฉันตกใจมากเมื่อรู้ว่าคนที่พูดจาไม่ดีกับออสตินคือใคร นี่เขายังไม่เลิกยุ่งกับฉันกับออสตินอีกหรือไงเนี่ย ฉันไม่เข้าใจเลยเหมือนกันว่าเขามาทำแบบนี้กับฉันกับออสตินเพื่ออะไร หรือว่าต้องการไม่ให้ฉันได้มีคนรักเหมือนคนอื่นเขา อันที่จริงเราสองคนก็จากกันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เพราะฉันขู่เขาเรื่องที่เขาคบชู้กับคนในบริษัทว่าจะแจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุดถ้าเขายังไม่เลิกยุ่งกับฉัน เขาคงจะแค้นใจและไม่อยากให้ฉันได้มีคนรักดีๆ หรือเปล่านะ "เขาไม่ได้ทำอะไรนายใช่ไหม?""ไม่หรอกครับ แต่ก็มีปากเสียงกันอยู่นิดหน่อย" "เขาน่ะเป็นพวกที่ชอบหาเรื่องคนอื่น ชอบพูดอะไรตามใจตัวเองขอแค่ให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บใจหรือเสียใจ""ครับ เขาพยายามพูดให้ผมเจ็บใจ เรื่องของพี่..."".....""ผมไม่ได้จะว่าพี่หรือเลิกคบกับพี่เลยนะ ผมรู้ว่าคนเราทุกคนต่างก็มีอดีตด้วยกันทั้งนั้น" "ขะ เขาพูดถึงเรื่องอะไร?" ฉันถามออกไปเสียงตะกุกตะกัก อันที่จริงในอดีตฉันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้นแต่ก็ไม่เคยนอกใจสามีไปมีผู้ชายคนอื่น ฉันมันเป็นพวกนิสัยเสียก็จริงแต่ฉันก็รักเดียวมั่นคงมาตลอด "เขาบอกว่าพี่เคยมีลูกกับเขา...""อ๋อ..." "แล้วตอนนี้ลูกของพี่อยู่ไหนล่ะครับ"
บริษัทBBB ออสตินกลับไปทำงานตามปกติแต่ในวันนี้เลขาของเขาบอกว่าพ่อของเขามารอพบตั้งแต่เช้า และสีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ด้วย น่าจะเกิดจากที่ออสตินไปฉีกสัญญาระหว่างบริษัท ถึงแม้บริษัทใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรแต่การที่มีบริษัทที่เป็นศัตรูมากกว่ามิตรมันก็ไม่ใช่เรื่องดี "สวัสดีครับพ่อ" "แกทำอะไรลงไปแกรู้ตัวบ้างไหม!?""รู้ครับ" "แล้วแกทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร" "ผมแค่ไม่อยากร่วมทำงานกับบริษัทที่ปล่อยผ่านเรื่องพนักงานทำผิดกฎของบริษัทแถมยังปล่อยให้ลอยนวลทำงานมาจนถึงทุกวันนี้" "แล้วมันใช่เรื่องที่แกจะต้องไปสนใจงั้นเหรอ บริษัทของเขาก็ให้เขาเป็นคนจัดการคนของเขาเอง" "แต่ผู้ชายคนนั้นเขามายุ่งกับผมเองแถมยังมายุ่งกับผู้หญิงที่ผมรักอีก" "นี่แกเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงานงั้นหรอ" "พ่อคิดว่าผมจะสามารถร่วมงานกับคนที่พูดจาดูถูกผมได้งั้นหรอครับ" "เฮ้อ...ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกไม่พอใจอะไรใครตรงไหนแต่สิ่งที่แกทำมันไม่ถูกต้อง คุณเดชะเขาเป็นนักธุรกิจรุ่นใหญ่แถมยังมีฝีมือในการทำงานด้วย""มีฝีมือในการทำงานแต่ไม่มีฝีมือในการดูแลอบรมคนของตัวเอง แบบนี้พ่อจะยังอยากร่วมงานกับเขาอยู่อีกงั้นหรอครับ" "แล้วผ
ตกกลางดึกคืนนึง..."อือพี่ค้าบ..." "อะไรเป็นอะไร?" ฉันถามเพราะออสตินเอาแต่ขยับตัวขยุกขยิกไปมาไม่ยอมนอนหลับสักที มันก็เลยทำให้ฉันพลอยนอนไม่หลับไปด้วย "ผมนอนไม่หลับอ่ะพี่ช่วยปลอบใจผมหน่อยสิ" "....." ฉันเองก็พอจะรู้มาเหมือนกันว่าที่บริษัทของออสตินมีงานเยอะและเขาต้องรับผิดชอบหลายอย่าง เพราะแบบนี้ถึงทำให้เด็กน้อยของฉันหน้าบึ้งตึงกลับมาทุกวัน "แล้วนายจะให้ฉันปลอบใจยังไง""พี่ก็น่าจะรู้นี่ครับว่าผมชอบให้พี่ปลอบใจยังไง" พรึ่บ! ฉันลุกขึ้นแล้วไปคร่อมอยู่บนตัวของออสติน ก่อนที่มือจะลูบไล้ไปตามหน้าอกแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าส่วนด้านล่างเริ่มมีการขยายใหญ่ขึ้นมาตอบสนองการกระทำของฉัน "นายซื้อถุงยางมาใหม่แล้วใช่ไหม""ครับ เดี๋ยวผมหยิบให้" ว่าแล้วออสตินก็เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักตรงหัวเตียงซึ่งเขาอยู่ใกล้มันมากที่สุดก่อนจะหยิบถุงยางออกมากล่องนึง "อืม...""พี่จะถอดชุดไหม" "ถามทำไม?""ผมอยากลองเอาพี่แบบคาชุดแบบนี้บ้าง""....." ชุดนอนที่ฉันใส่มันก็แค่ชุดนอนธรรมดานั่นแหละแต่ฉันไม่ได้ใส่ชุดชั้นในเลย จึงทำให้หัวนมของฉันมันตั้งโด่ออกมาด้านนอก งับ!"อะ อ๊ะ ออสติน!?" ฉันตกใจที่จ
สามปีต่อมาในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาฉันกับออสตินคอยช่วยกันเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี มันก็มีบ้างที่คนเราจะต้องเหนื่อย และมันก็มีบ้างที่เราจะมีปากเสียงกันแต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะปรับความเข้าใจกันเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะอยู่ด้วยกันแล้วจะมีความคิดเห็นบางอย่างไม่ตรงกันและมีปากเสียงกันบ้าง แต่พอเราลองถอยกันคนละก้าวและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมามันก็ทำให้เราสองคนเข้าใจกันปรับความเข้าใจกันมันเลยไม่มีการทะเลาะกันใหญ่โต ตอนนี้ฉันกำลังท้องลูกคนที่สองได้ห้าเดือนแล้วเป็นผู้หญิง ตอนแรกออสตินก็ไม่กล้าที่จะให้ฉันท้องอีกเพราะกลัวว่าฉันจะต้องเจ็บ รายนั้นกลัวฉันเจ็บมากๆ ถึงขั้นมีความคิดที่จะไปทำหมันตัวเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีลูกอีกฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บอีกทั้งที่ตัวเองคิดเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะมีลูกอีกหลายๆ คนลูกจะได้ไม่เหงา สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องปลอบใจและอธิบายให้เขาเข้าใจจนเขาล้มเลิกความคิดที่จะไปทำหมัน และตอนนี้ออสก้ากำลังเข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาล ออสตินจะขับรถไปส่งทุกๆวันพอเลิกงานก็จะแวะรับลูกชายกลับมาด้วยเพราะงั้นฉันเลยไม่ได้ต้องวุ่นวายตรงนี้ ตอนเช้าตื่นมาออสตินก็จะเป็นคนจัดแจงอาบน้ำแต่งตัว
เวลาต่อมา ตอนนี้ฉันคลอดลูกแล้วและก็กลับมาอยูที่บ้านแล้วด้วย ลูกตัวใหญ่แต่ก็คลอดออกมาเองได้เพราะร่างกายของฉันแข็งแรงพอที่จะคลอดเองได้ ก่อนหน้านั้นออสตินเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเลย เพราะก่อนจะคลอดฉันมีอาการปวดที่เรียกว่าปวดสุดๆ ปวดจนหน้าซีดไปหมด ปวดจนตัวบิดงอ มันเหมือนร่างกายมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่เขาว่ากันว่าการคลอดลูกของผู้หญิงมันเจ็บปวดที่สุดแล้วเพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้นี่แหละ “เฮ้อ…”“เจ็บแผลหรือเปล่าครับพี่”“ไม่หรอก ไม่เจ็บแล้ว” ฉันตอบ พอคลอดเสร็จแล้วพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ เพราะร่างกายมันฟื้นตัวได้เร็วกกว่า ลูกของฉันเองก็แข็งแรงสมบูรณ์ดีเลยกลับบ้านได้พร้อมกับฉันเลย ตอนนี้ก็ได้แม่บ้านกับออสตินคอยดูแลอยู่ฉันเลยได้มีเวลาพักฟื้นตัวเอง เขาไม่ยอมให้ฉันได้หยิบจับอะไรเลยนอกจากนอนดูพวกเขาช่วยกันเลี้ยงลูกนิ่งๆ “คุณหนูน้อยเลี้ยงง่ายจังเลยค่ะ ไม่ร้องงอแงเลย” “ดีแล้วค่ะที่เลี้ยงง่าย ถ้าแกเลี้ยงยากทุกคนคงต้องเหนื่อยเพิ่มกันแน่ๆ เลยค่ะ” “พี่ครับ..ผมพาขึ้นไปพักไหมครับ”“ไม่เป็นอะไรหรอก ให้ฉันได้นั่งรับลมอยู่ข้างล่างนี่แหละ ตอนเย็นๆ ว่าจะไปเดินเล่นสักหน่อย เหมือนจ
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
เวลาต่อมา ออสตินคอยดูแลฉันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะลุกจะเดินหรือจะทำอะไรเขาจะเป็นคนจัดการให้ทุกครั้ง ออสตินดูแลฉันอยู่เป็นอาทิตย์หลังจากนั้นเขาก็กลับไปทำงานต่อเพราะเขามั่นใจแล้วว่าอาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไรและที่บ้านก็ยังมีแม่บ้านคอยอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย แต่ออสตินก็ยังจะกลับบ้านเร็วกว่าปกติ บางครั้งก็จะกลับมาในช่วงเที่ยงๆ ไม่ได้กลับไปทำงานต่อ ออสตินทั้งทำงานไปด้วยดูแลฉันไปด้วย จนบางครั้งฉันก็แอบห่วงสุขภาพของเขาเหมือนกัน อาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไร ฉันไม่ได้อาเจียนจนกินอะไรไม่ได้ จะมีก็แค่รู้สึกเวียนหัวบ้างเป็นบางครั้ง ออสตินสั่งห้ามฉันทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะงานเล็กงานน้อย และเขาก็สั่งกำชับกับแม่บ้านเอาไว้อย่างดีเลยด้วย ฉันแอบไม่ได้หรอกเพราะเรื่องนี้แม่บ้านก็เห็นด้วยกับออสตินไม่มีใครเห็นด้วยกับฉันเลย "ผมกลับมาแล้วครับ" "วันนี้กลับเร็วอีกแล้วนะ" "ก็กลับมาดูแลพี่ไงครับ" "นายเองก็พักบ้างสิดูแลแต่ฉัน แต่ตัวนายไม่ได้พักเลยแบบนี้ฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะ" "พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดเลยครับ ภรรยาของผมกำลังท้องลูกของผมอยู่สามีอย่างผมก็ต้องดูแลภรรยาอย่างเต็มที่สิครับ""แต่นายก็
ออสติน Talk ตอนเย็นหลังเลิกงาน ผมขับรถกลับมาที่บ้านตามปกติเหมือนอย่างเคย บางวันผมก็ขับรถเอง วันไหนเหนื่อยขี้เกียจขับรถก็จะมีคนขับรถค่อยขับรถไปส่งที่บริษัท แต่วันนี้ผมขับรถกลับมาเอง "พี่ค้าบ..." พอกลับมาถึงสิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยคือการได้อ้อนพี่น้ำผึ้ง ผมชอบเข้าไปกอดเธอหอมแก้มเธอ การได้ทำแบบนี้มันทำให้ผมหายเหนื่อยจากที่ทำงานมาเป็นปลิดทิ้งเลย "วันนี้เหนื่อยไหม""เหนื่อยครับ แต่พอเห็นหน้าพี่แล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ""อ้อนเก่งนักนะนายเนี่ย" "ผมขอชาร์จแบตหน่อย" "หิวหรือยัง กินข้าวก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำก็ได้จะได้พักทีเดียวเลย""ครับ" ทุกๆ อย่างมันไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย ผมกลับมาจากที่ทำงานกินข้าวพร้อมกับพี่น้ำผึ้งแล้วก็ขึ้นไปนอนด้วยกัน เราสองคนไม่ได้เที่ยวที่ไหน กลับกันเราใช้ชีวิตดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไปมากกว่า พี่น้ำผึ้งเธอจะคอยทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ทำอาหารไว้รอผมในทุกๆ วัน มันอาจจะไม่ได้พิเศษอะไรในสายตาของคนอื่นแต่ในสายตาของผมการได้เห็นหน้าพี่น้ำผึ้งในทุกๆ วันได้พูดคุยกับเธอได้บอกรักเธอมันเป็นวันที่แสนพิเศษสำหรับผมมากที่สุดเลย เพราะงั้นผมถึงได้คิดว่าทุกๆ วันที่ผมตื่นมาแล้ว
ตอนเช้าวันถัดมา “ผมไปก่อนนะครับพี่ เลิกงานแล้วจะรีบกลับมานะครับ”“อื้ม อย่าหักโหมล่ะ พักเที่ยงก็กินข้าวด้วยห้ามอดนะ เข้าใจไหม”“เข้าใจแล้วค้าบ” “ไปเถอะ” ฉันยืนมองออสตินเดินออกไปขึ้นรถ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน รีบขึ้นไปด้านบนทันทีเพราะฉันมีสิ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือตรวจครรภ์ว่าตัวเองกำลังท้องจริงๆ หรือเปล่า ฉันรีบหยิบซองยาที่แอบให้แม่บ้านไปซื้อมาให้เมื่อเช้าเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะรีบจัดการตรวจตามที่ตัวเองพอจะรู้ และก็นั่งรอผลตรวจอยู่ห้านาที ในที่สุด…ผลตรวจก็ออกมา ปรากฏว่าฉันกำลังท้องจริงๆ แม้ที่ตรวจครรภ์จะขึ้นสองขีดจางๆ แต่ฉันก็มั่นใจ เพราะอาการที่ฉันกำลังเป็นอยู่มันก็คล้ายกับคนท้องมากจริงๆ ฉันคงต้องรีบไปฝากท้องสินะ เพื่อที่จะได้เอาสมุดตรวจครรภ์มายืนยันความจริงว่าฉันกำลังท้องจริงๆ ไม่ใช่แค่ลมปาก “คุณน้ำผึ้งจะออกไปไหนคะ?”“จะไปโรงพยาบาลน่ะ บ่ายๆ ถึงจะกลับมานะ ห้ามใครบอกออสตินล่ะว่าฉันไปไหน”“ผลตรวจเป็นยังไงคะ ใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า”“…..” แม่บ้านทุกคนต่างยืนมองฉันด้วยสีหน้าที่รอลุ้นคำตอบจากฉัน พวกเขาดูตื่นเต้นกันมากเลยนะเนี่ย “ค่ะ มันขึ้นสองขีด แต่ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีน่ะค่ะเพ
ผ่านมาได้เดือนกว่าๆ “อืม…” ฉันนั่งกุมขมับตัวเองเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ มันรู้สึกมึนๆ จะเวียนหัวก็ไม่เชิง อาการพวกนี้ฉันเป็นมาได้สองสามวันแล้ว แต่ก็คิดว่าเพราะนอนไม่ค่อยหลับด้วยหรือเปล่าเลยเป็นแบบนี้ แต่มันก็เป็นค่อนข้างหนักเพราะมันทำให้ฉันทำงานบ้านอะไรไม่ได้เลยจึงต้องทิ้งงานบ้านทุกอย่างให้แม่บ้านทำทั้งหมด "คุณน้ำผึ้งคะ รับน้ำหวานเย็นๆ สักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "อ่า ก็ดีเหมือนกันค่ะ" "ถ้างั้นรอสักครู่นะคะ" ฉันนั่งรออยู่ได้ไม่นานแม่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำหวาน "ถ้าอาการไม่ดีขึ้นคุณน้ำผึ้งไปหาหมอดีกว่าไหมคะ เดี๋ยวดิฉันโทรหาคุณออสตินให้" "ไม่ต้องๆ ห้ามบอกเรื่องนี้กับออสตินเด็ดขาด" "....." "ฉันไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วง แค่งานที่บริษัทของเขาที่ต้องทำมันก็เยอะมากแล้ว ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคงเพราะนอนดึกตื่นเช้าด้วยก็เลยเพลียๆ""งั้นก็ขึ้นไปนอนพักเถอะค่ะไม่ต้องห่วงงานบ้านหรอก เดี๋ยวดิฉันกับพวกแม่บ้านจะช่วยกันทำให้เสร็จเองค่ะ""ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง" ฉันกลับขึ้นไปนอนบนห้องตามที่แม่บ้านบอกจริงๆ แต่สุดท้ายก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม ฉันพยายามข่มตาให้นอนหลับแล้ว แต่ดูเ
พั่ก! พั่ก! พั่ก!แก่นกายใหญ่กระแทกเข้าออกช่องทางรักอย่างหนักหน่วง ร่างกายของหญิงสาวสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทก พร้อมกับเปล่งเสียงร้องครางออกมาไม่ยอมหยุด สายตาของเธอพร่ามัวแทบมองสิ่งตรงหน้าไม่ชัดแล้ว ยิ่งถูกกระแทกแรงขึ้นก็ยิ่งทำให้เธอร้องครางออกมาเสียงดังมากขึ้น ทว่าเธอต้องรีบเอามือปิดปากตัวเองเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในห้อง แต่อยู่นอกระเบียงด้านนอกซึ่งเสียงครางที่ดังออกมามันอาจจะทำให้คนได้ยินได้ “อึก..อ๊ะอ๊ะ อึ๊อื้ม…” มือเรียวปิดปากของตัวเองไว้แน่น เพราะหากมือหลุดไปเสียงอาจจะเล็ดลอดออกมาได้ “อืม…มันดีมากเลยนะครับพี่ อึก..ผมจะคลั่งให้ได้อยู่แล้วครับ” ออสตินพูดกระซิบเสียงแผ่วข้างหู ลมหายใจอุ่นๆ ที่ถูกพ่นออกมาพร้อมกับคำพูดเสียงกระเส่ามันทำเอาเธอขนลุกซู่จนเบิกตาโพลง “ละ ลึกไป ออสติน…เฮือก!!” หญิงสาวตาเบิกโพลงเมื่อช่องทางรักมันคับแน่นจนรู้สึกได้ตรงท้องน้อย เขากดท่อนเอ็นเข้ามาลึกมากและปลดปล่อยน้ำกามเข้ามาในท้องของเธอจนรู้สึกอุ่นวาบในทันที ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนทับร่างของภรรยาสาวพร้อมกับลมหายใจที่หอบถี่ ในขณะที่เธอเองก็เหนื่อยและหมดแรงไม่ต่างกัน แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้อย่างแน่