น้ำผึ้ง Talk
หลังจากวันนั้นไอ้เด็กบ้ามันก็มักจะมาหาฉันตลอดทุกครั้งหลังที่เลิกงานกลับมา ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่าเขาทำงานอะไร แต่ก็คิดว่าคงจะทำงานบริษัททั่วๆ ไปเพราะการแต่งกายมันบ่งบอกแบบนั้น
แต่ก็อย่าหวังไปว่าฉันจะเปิดใจให้ง่ายๆ ไอ้หน้าหล่อๆ แต่งตัวดูดีทำงานบริษัทนี่แหละที่ทำให้ฉันเข็ดขยาดจนฉันไม่อยากจะมีใคร
กริ๊ง~
"พี่น้ำผึ้งครับ"
ฉันรีบเดินออกไปที่หน้ารั้ว เพราะไม่อย่างนั้นไอ้เด็กบ้าที่ชื่อออสตินนี่มีหวังได้กดกริ่งบ้านของฉันจนพังแน่ๆ
"จะมีบ้านสักวันไหมที่นายจะไม่มาที่นี่"
"ผมซื้อกับข้าวมาให้ครับพี่กินอะไรหรือยัง"
"ยังหรอกเข้ามาก่อนสิ"
ถามว่าทำไมฉันถึงยอมให้ผู้ชายเข้ามาในบ้านได้ง่ายๆ แบบนี้ อันที่จริงฉันก็ไม่ได้ไว้ใจอะไรหรอก แต่เท่าที่ดูคร่าวๆ เด็กนี่ก็ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลยดูเงียบๆ หงิมๆ มากกว่า แต่ไอ้เรื่องตามตื๊อนี่สิหนักข้อเลย
"ไปซื้อมาจากไหนเนี่ย"
"ซื้อมาจากร้านอาหารครับ"
"คราวหน้าไม่ต้องซื้อมานะ"
"ทำไมล่ะครับ ไม่ถูกปากหรอ?"
"เปล่า แต่ฉันไม่ค่อยชอบกินอะไรแพงๆ หรอก อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่พวกเลือกกินขนาดนั้น"
"เดี๋ยวผมจัดใส่จานให้นะครับ"
"อืม..."
หมอนี่ก็มากินมาฝากท้องอยู่นี่แหละ ส่วนมากจะซื้ออาหารมาจากข้างนอกแล้วมากินกับฉันที่นี่ พอมืดก็กลับไป วนเวียนอยู่แบบนี้จนฉันชินไปแล้วล่ะ
มีหมอนี่เข้ามาก็ดูไม่เหงาเหมือนกันนะ แต่พอนึกถึงเรื่องคืนนั้นที่มีอะไรกันฉันนี่แทบอยากจะเอาหน้ามุดดิน
"พี่อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้ไม่กลัวหรอครับ?"
"ถามทุกวัน ฉันก็บอกทุกวันจะถามทำไมนักหนา"
"ผมย้ายมาอยู่กับพี่ได้ไหม"
พรวด!
"แค่ก แค่ก แค่ก"
"ผะ ผมขอโทษครับ เขาพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า"
"ตกลงนายไม่มีบ้านอยู่หรือเป็นอะไรของนายกันแน่เนี่ย จู่ๆ จะมาขออยู่บ้านคนอื่นเขา"
"ผมไม่อยากอยู่คนเดียว ได้อยู่กับพี่มันไม่เหงาดีครับ เดี๋ยวค่าใช้จ่ายผมจะออกให้เองทั้งหมดเลย ถ้าพี่อยากได้อะไรผมก็จะซื้อให้ ขอแค่..."
"เดี๋ยวๆ บอกไว้ก่อนเลยนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงเห็นแก่เงินขนาดนั้นนะ อย่าคิดที่จะเอาเงินหรือเอาเรื่องที่จะซื้อของให้มาพูดกับฉัน"
"เปล่าครับ แต่พี่เคยบอกผมนี่ว่าโน๊ตบุ๊คใกล้จะพังแล้ว ของหลายๆ อย่างในบ้านก็เก่าโทรมจนต้องเปลี่ยนแล้วนะ"
"เฮ้อ...ช่างมันเถอะน่า มันเคยอยู่ยังไงก็ปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้นแหละจะไปยุ่งกับมันทำไม"
ให้ตายสิเด็กนี่คิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย ของในบ้านของฉันมันเก่าก็จริงเพราะมันเก่าตามกาลเวลา มันก็หลายสิบปีมาแล้วนะ แต่บ้านฉันก็ไม่เคยปล่อยให้มันโทรมหรือรกจนอยู่ไม่ได้ เห็นแบบนี้ฉันก็เก่งงานบ้านงานเรือนอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ
ส่วนเรื่องโน๊ตบุ๊คที่ใกล้จะพังมันก็จริงๆ แหละ เพราะมันก็นานแล้วด้วยแต่ที่ยังใช้อยู่เพราะขี้เกียจซื้อใหม่ รอให้มันไปเฝ้าดาวอังคารแล้วจริงๆ ค่อยเปลี่ยน ตอนนี้มันยังใช้การได้อยู่ถึงจะเก่าไปหน่อยก็เหอะ
"พี่ครับ"
"หืม..."
"ที่ทำงานอะไร"
"ก็พวกงานทั่วๆ ไปแหละ ขายของตามอินเตอร์เน็ตบ้าง ทำอะไรจิปาถะไปบ้าง ฉันขี้เกียจทำงานตามบริษัทตามโรงงานมันน่าเบื่อ"
"อ๋อ...แล้วพี่ชอบผมไหม"
"ไม่อะ" ฉันตอบหน้าตาเฉย เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่เอง จะให้ฉันรู้สึกยังไงได้ยังไง ฉันไม่ใช่พวกที่จะชอบใครง่ายๆ แค่คนนั้นเข้ามาทำดีด้วยหรอก
ฉันเข็ดกับเรื่องในอดีตมามากแล้วล่ะ
"ถ้าผมจะชวนพี่ไปที่บ้าน พี่จะไปด้วยไหม"
"นายจะบ้าหรอ ฉันยังไม่ได้เป็นอะไรกับนายเลยนะ นี่ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายเลยนะเรื่องที่นายดันไปบอกกับแม่ของนายว่าฉันเป็นแฟนน่ะ"
"ผมขอโทษครับที่พูดออกไปแบบนั้น แต่ที่ต้องพูดก็เพราะไม่อยากให้แม่จับคู่ให้อีก ผมขอโทษพี่จริงๆ นะครับ"
"ว่าแต่นายอายุเท่าไหร่เนี่ย?"
"ยี่สิบห้าครับ"
"โห..."
เด็กจริงๆ ด้วยแฮะ เอาจริงๆ ฉันไม่ค่อยชอบเด็กสักเท่าไหร่หรอกนะ เพราะในความคิดของฉันเด็กมักจะมีความคิดเด็กๆ แต่มันก็ไม่ใช่กับทุกคนหรอก ฉันก็แค่คิดในแง่มุมของฉันก็เท่านั้น
.........
"พรุ่งนี้ไม่ต้องแวะมานะ" ฉันพูดขณะที่กำลังเดินออกไปส่ง
"ทำไมล่ะครับพี่ไม่พอใจอะไรผมหรือเปล่า?"
"เปล่า ฉันก็แค่จะออกไปเที่ยว"
"เที่ยวที่ไหนหรอครับ?"
"ฉันจะไปไหนยังไงต้องรายงานนายทุกอย่างเลยหรือไงเนี่ย"
"ไม่หรอกครับผมแค่อยากรู้ว่าพี่จะไปที่ไหน"
"ทำไม? ถ้าฉันบอกไปแล้วนายจะตามไปหรือไง"
"ก็ถ้าพี่อนุญาตผมก็จะไปครับ"
"ไอ้บ้า แล้วไปแบบนั้นไม่คิดจะทำงานทำการหรือไง"
"ผมลาได้ครับ"
"จิ๊! ทำอย่างกับเป็นลูกเจ้าของบริษัทอย่างนั้นแหละ นี่ถ้านายลางานมาแล้วไปเที่ยวกับฉันแล้วโดนเจ้านายด่าฉันโดนพ่วงไปด้วยจะทำยังไง?"
"ไม่มีใครกล้ามาว่าพี่หรอกครับ"
"....."
"ตกลงพี่จะไปที่ไหนหรอครับ?"
"....."
"พี่น้ำผึ้ง..."
"มันไม่ใช่เรื่องของนายนะ ฉันเคยอยู่คนเดียวไปไหนมาไหนคนเดียว การที่ฉันให้สิทธิ์นายมาอยู่ที่บ้านของฉันได้แบบนี้ มันไม่ได้แปลว่าฉันจะให้สิทธิ์นายก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของฉันนะ"
"ขอโทษครับ"
"เออๆ ช่างมันเถอะ ฉันจะไปภูเก็ตจบนะ"
"ครับ"
ให้ตายสิพอได้เห็นสีหน้าเศร้าๆ ที่หมอนั่นแสดงออกมาฉันนี่ทำตัวไม่ถูกเลย สุดท้ายก็ต้องยอมบอกไปจนได้ ทำไมฉันต้องมาหวั่นไหวกับสายตาเศร้าละห้อยเพียงแค่โดนฉันดุแค่นี้ด้วยนะ
"ผมไปก่อนนะครับพี่"
"ขับรถดีๆ ล่ะ ว่าแต่เอารถจอดไว้ที่หน้าปากซอยเหมือนเดิมหรอ?"
"ครับ"
"คราวหน้าถ้าจะมาก็เอารถมาจอดที่หน้าบ้านก็ได้ เดินกลับไปมืดๆ แบบนี้มันอันตราย"
"ครับพี่ ถ้าถึงห้องแล้วผมขอโทรหาพี่นะ"
"อืม..."
บ้านของฉันมันเป็นซอยเล็กๆ ซึ่งแน่นอนว่ารถจะจอดริมทางไม่ได้เพราะรถที่สวนไปสวนมาจะไม่สามารถผ่านได้ หมอนี่ก็เลยต้องใช้วิธีการจอดรถไว้ที่หน้าปากซอยซึ่งอยู่ไม่ไกลแล้วเดินมาแทน
ฉันยืนมองแผ่นหลังกว้างของเด็กนั่นเดินหายลับไปในความมืด เขาตัวใหญ่และสูงราวๆ 190 เลยได้มั้ง เทียบกับฉันที่สูงแค่ 165 เวลาคุยกันเหมือนแหงนคุยกับเสาไฟฟ้า
ฉันชอบนะ เพราะบุคลิกของหมอนี่คือสเปคของฉันเลย และที่ได้แถมมาด้วยคือเป็นลูกครึ่ง จะผิดไปอยู่อย่างเดียวก็คืออายุที่เด็กกว่านั่นแหละ แต่ก็นะถ้ามันจะได้จริงๆ เรื่องอายุฉันก็ไม่ติด
เวลาต่อมาณ บ้านพักที่ภูเก็ตหญิงสาวเดินเล่นอยู่รอบๆ บ้านพักของตัวเอง หลังจากที่ขนสัมภาระมาไว้ในห้องเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เธอชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายสบายๆ เพราะไม่มีอะไรที่ต้องคอยรับผิดชอบเธอจึงไม่ซีเรียสเรื่องการใช้เงิน ถึงจะอายุขนาดนี้แล้วก็ตาม"สบายใจแฮะ ชอบจังชีวิตการเป็นโสดเนี่ย อยากทำอะไรก็ได้ทำ อยากไปไหนก็ได้ไป ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมองไม่ดีเลย" หญิงสาวบ่นพึมพำขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่"ขอประทานโทษค่ะลูกค้า""คะ? มีอะไรหรือเปล่าคะ""ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะไปรับประทานอาหารที่ด้านในเองหรือจะให้พนักงานเอามาเสิร์ฟให้ที่นี่ดีคะ""มีบริการแบบนี้ด้วยหรอคะ""มีค่ะ""ไม่เป็นอะไรค่ะเดี๋ยวฉันไปเองดีกว่าสะดวกกว่า""ได้ค่ะ"ห้องพักที่เธอจองเป็นห้องพักแบบพิเศษ และก็แน่นอนว่าราคามันก็ต้องสูง แต่เพราะเธอต้องการความเป็นส่วนตัวจึงเลือกที่จะจองห้องส่วนตัวแบบนี้ถึงจะมีอีกหลังนึงข้างๆ กันแต่เท่าที่ดูก็ไม่มีคนอยู่ครืด ครืด ครืดสายเรียกเข้า >>> เด็กบ้า"โทรมาทำไมอีกเนี่ยไอ้เด็กบ้า!" เธอบ่นใส่หน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะหยิบขึ้นมาและกดรับสาย เพราะถ้าเธอทำเป็นเมินปลายสายคงได้โทรเข้ามาไม่ยอมหยุดอีกเหมือนเดิม"ว่าไง"
เช้าวันต่อมา ก๊อกๆๆ "อือ..." ฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตูด้านนอก ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วคว้าโทรศัพท์มือถือเพื่อดูเวลา เวลานี้เกือบจะเก้าโมงเช้าแล้ว นี่ฉันนอนอะไรขนาดนี้ ไม่เคยตื่นสายขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่รู้ว่าเสียงคลื่นทะเลมันกล่อมด้วยหรือเปล่าแต่เมื่อคืนนอนหลับสบายมาก "ออสติน""อรุณสวัสดิ์ครับ""มาปลุกฉันทำไมล่ะ" "ไปกินข้าวกันครับผมเตรียมให้แล้ว""หืม.." "ผมเห็นพี่ยังไม่ออกมาจากห้องก็เลยให้พนักงานเอาอาหารเช้ามาให้ครับ" "อืม...ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลยขอฉันอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน" "ครับ งั้นผมรออยู่ด้านนอกนะ""อือๆ" ผ่านไปสักพัก.."กินเยอะๆ นะครับ""ขอบใจ" "เมื่อคืนนอนหลับสบายไหม""ก็สบายนะ ว่าแต่นายเถอะจะมาเที่ยวกี่วันล่ะ""ก็พี่กลับตอนไหนผมก็กลับพร้อมพี่แหละ เราจะได้กลับพร้อมกัน กลับกับผมไม่เสียตังค์นะครับ" "....." ฉันนั่งกินข้าวพร้อมกับนั่งฟังออสตินพูดไปด้วย เด็กนี่ดูเป็นคนเฟรนลี่ดีนะคุยง่ายคุยเก่งรู้จักหว่านล้อมด้วย นี่ถ้าฉันเจอหมอนี่สมัยสาวๆ คงจะหลงคารมไปแล้วล่ะ "ทำไมพี่ถึงยังไม่ยอมคบกับผมอีกล่ะครับ" "ถามทำไม?""ก็ผมอยากรู้นี่ อีกอย่างพี่ก็ไม่ยอมบอกผมเลยว่าผมต้องทำยังไงปรับ
“อึกอืม…” ฉันร้องครางเมื่อถูกเขาสอดลิ้นเข้ามาในปาก พัวพันจนน้ำลายเหนอะหนะไปหมด แถมมือของเขาก็ซุกซนลูบไล้ไปทั่วร่างกายจนขนลุกซู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้เขาอุ้มฉันเข้ามาในห้องนอนแล้ว ทั้งที่ฉันก็ดูตัวใหญ่แต่เขาสามารถอุ้มฉันได้อย่างกับฉันเป็นสำลี แข็งแรงจริงๆ เด็กคนนี้ “พี่น้ำผึ้ง ถอดเสื้อให้ผมหน่อยสิครับ” “….” ฉันเลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขา ในขณะที่ตาของเรายังจ้องประสานกันอยู่ ทันทีที่กระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดเขาก็พุ่งเข้ามาจูบฉันอีกรอบทันที พร้อมกับถกเสื้อของตัวเองออกไปจนส่วนบนของเขาเปลือยเปล่า แน่นอนว่าไอ้คนที่ชอบความงามของกล้ามเนื้อแบบฉันก็ลูบไล้เล่นอย่างเมามันเลยล่ะ ผิวเนื้อของเขาเรียบเนียน สีผิวเข้มนิดๆ แต่พอมีเหงื่อออกมาแล้วมันทำให้เขาดูดีมากๆ เลยล่ะ “ผมชอบหน้าอกพี่จัง ขอกินนมหน่อยสิครับ” “อืม…” ฉันครางออกมาเป็นเสียงเชิงอนุญาต ก่อนที่ออสตินจะโน้มตัวลงมาดูดดึงที่หน้าอกของฉัน มันเจ็บแปล๊บๆ ปนกับรู้สึกดี ลิ้นร้อนๆ สลับกับการดูดดึงที่ทำร่วมกัน อีกข้างที่ไม่ได้สัมผัสก็บีบเค้นไปด้วย เด็กนี่เก่งชะมัดเลย ดูช่ำชองเรื่องบนเตียงจนฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเซ็กซ์ครั้งแรกฉันเป็นคนพรากไป “อื
หลังจากที่ฉันกับออสตินร่วมรักกันแทบทั้งคืนวันนี้ฉันก็ตื่นสายอีกตามเคยและตื่นขึ้นมาพร้อมกับอยู่ในอ้อมกอดของเขา "อยู่นิ่งๆ สิครับ" "นะ นายตื่นนานแล้วหรอ?" ฉันตกใจเมื่อจู่ๆ เจ้าเด็กบ้ามันก็พูดขึ้นมา "ตื่นได้สักพักแล้วล่ะครับแต่เห็นว่าพี่ยังไม่ตื่นก็เลยไม่อยากปลุก" "ปล่อยฉันได้แล้ว" "สายป่านนี้แล้วพนักงานคงเก็บอาหารเช้ากันหมดแล้วเราสองคนคงต้องไปซื้อกันเอาเอง" "อืม..." "นอนต่ออีกหน่อยไหมครับดูพี่ยังเหนื่อยๆ นะ" ออสตินลุกขึ้นมาแล้วกอดฉันจากด้านหลัง ขณะที่ฉันกำลังจัดแจงผ้าขนหนูเพื่อที่จะออกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของตัวเอง "ฉันไม่ใช่พวกขี้เซา ตื่นแล้วก็คือตื่นเลยไม่มีนอนต่อ""อ่าครับผม""นายเองก็อาบน้ำแต่งตัวซะจะได้ออกไป จะมาหวังให้ฉันรอ ฉันไม่รอให้เสียเวลาหรอกนะ" "ครับ" หลังจากนั้นฉันก็แยกย้ายกลับเข้าบ้านพักของตัวเอง ไม่นานก็ออกไปหาของกินที่ร้านอาหารข้างนอกด้วยกัน "วันนี้ไม่ใช่วันหยุดทำไมคนเยอะจัง" ออสตินบ่นพึมพำขณะที่เราสองคนกำลังเดินกลับเข้าไปในตัวของห้องต้อนรับ ที่ฉันเข้ามาเช็คอินก่อนจะเข้าพัก ซึ่งมันมีอะไรหลายๆ อย่างรวมกันอยู่ตรงนี้ จะว่าไปคนก็เยอะจนดูพลุกพล่านอย่าง
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง "มาแล้วๆ จะกดกริ่งทำไมล่ะเนี่ยปกติก็เปิดเข้ามาเลยไม่ใช่หรือไง" ฉันเดินออกมาพร้อมกับบ่นไปด้วยเพราะคิดว่าเป็นออสติน รายนี้กดกริ่งในช่วงแรกๆ ที่มาหาฉันที่บ้านแต่พอนานเข้าฉันก็ให้เขาเปิดประตูเข้ามาเลย เพราะขี้เกียจออกไปเปิดประตูให้แค่โทรมาบอกก่อนก็เท่านั้น "ฉันนึกว่าไม่ใช่เธอก็เลยกดกริ่งเรียกก่อน" "คุณ..." น่าตกใจที่ตรงหน้าของฉันไม่ใช่ออสตินแต่เป็นอดีตสามีของฉัน "มาทำไม?""ไม่คิดว่าเธอจะยังอยู่บ้านหลังนี้นะ""มันเรื่องของฉัน ว่าแต่คุณเถอะมีธุระอะไรทำไมถึงมาถึงที่นี่""จะไม่เชิญแขกเข้าบ้านหน่อยหรอ?""ไม่จำเป็นอ่ะ มีอะไรก็รีบๆ พูดมา จะได้กลับไป""แต่ตรงนี้แดดมันร้อนนะ""งั้นคุณก็รีบๆ พูดอย่ามามัวเสียเวลาถ้าไม่อยากร้อนไปมากกว่าเดิม" ด้านนอกอากาศร้อนแต่ฝั่งของฉันมันมีต้นไม้ปกคลุมอยู่เลยไม่ได้ร้อนกับเขาไปด้วย และฉันก็ไม่ได้ซีเรียสหรือต้องรู้สึกอะไรที่เขาจะต้องยืนตากแดดแบบนั้น ทนได้ก็ทนแค่นั้นแหละ "เธออยู่คนเดียวหรอ?""....." ฉันไม่ได้ตอบอะไร แต่ก่อนอยู่กับพ่อแม่ก็จริงแต่ตอนนี้พวกท่านก็เสียไปหมดแล้วฉันก็เลยอยู่คนเดียว อันที่จริงบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านของฉันกับเขานั่นแหละ แ
แกร๊ง!~"พี่น้ำผึ้ง!""อะไร เสียงดังเชียว" "พี่ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?" "เป็นอะไรตรงไหนนายพูดอะไรของนายเนี่ย" มาถึงได้ออสตินก็สาดคำถามใส่ฉันรัวๆ จนฉันไม่รู้ว่าจะตอบคำถามไหนก่อนดี "ตะกี้ที่ผมเลี้ยวรถเข้ามาผมเจอคนที่มาหาพี่ที่ทะเลวันนั้นด้วย เขามาหาพี่ใช่ไหมแล้วเขาไม่ได้ทำอะไรพี่ใช่ไหม?""ไม่ ฉันไม่ได้ให้เขาเข้าบ้าน ยืนคุยกันอยู่ตรงหน้ารั้วแล้วเขาก็กลับไป" "เฮ้อ โล่งใจไป""นี่นายกลัวอะไรของนายเนี่ย?""ผมกลัวว่าเขาจะมาทำอะไรพี่น่ะ" "ผู้ชายคนนั้นฉันรู้จักดี เขาขี้ขลาดจะตาย ไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก" "แต่คนแบบนี้พี่ก็อย่าไปประมาทนะครับ""เออน่า มันไม่มีอะไรหรอกนายไม่ต้องกังวล" "ผมเป็นห่วงพี่จังเลย ตอนกลางวันพี่ก็อยู่บ้านคนเดียวอีก" ออสตินบ่นพึมพำขณะที่เขากำลังจัดอาหารใส่จานมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว เด็กนี่ดูใสซื่อจะตายไปไม่เห็นจะเป็นคนเห็นแก่เงินหรือเข้ามาเพื่อหลอกเอาเงินฉันตรงไหนเลย ฉันรู้ว่าอดีตสามีของฉันเขาพยายามพูดเพื่อให้ฉันมองออสตินในแบบที่ไม่ดี แต่ฉันก็พอจะรู้จักหมอนี่พอสมควรมันถึงทำให้ฉันรู้ว่าสิ่งที่อดีตสามีพูดมันก็แค่คำพูดที่หวังจะให้ฉันหวาดระแวงในตัวของออสตินก็เท่านั้น ถึงเขาจะเ
คอนโดออสติน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กนี่จะมีเงินมากมายขนาดนี้ ทั้งรถที่เขาขับ คอนโดหรูหลักล้าน รวมไปถึงการแต่งกายที่บ่งบอกถึงฐานะทางการเงิน ตกลงนี่เป็นแค่พนักงานบริษัทจริงๆ หรือเปล่าเนี่ย นึกว่าเป็นพวกลูกมหาเศรษฐีแน่ะ "มองอะไรล่ะครับเข้ามาสิ" "ถามจริงนะออสติน นายดูรวยมากเลยอ่ะไม่อยากจะเชื่อ แบบนี้จะไม่มีผู้หญิงมาสนใจนายได้ยังไงกัน" "ผมก็ไม่ได้บอกนี่ครับว่าไม่มีผู้หญิงมาสนใจผม เพียงแต่ผมไม่ได้สนใจใครเลยต่างหาก" "....." "เข้ามาเถอะครับ" พอเข้าไปในตัวคอนโดทั้งกว้างทั้งใหญ่กว่าบ้านที่ฉันอยู่หลายเท่าเลย มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง ขนาดห้องนั่งเล่นยังติดเครื่องปรับอากาศ ในห้องนอนก็หรูหราหมาเห่าเตียงกว้างมีโคมไฟข้างๆ อย่างกับในละครทีวี ในห้องน้ำก็มีอ่างน้ำใหญ่ๆ สำหรับนอนแช่ ห้องอาบน้ำก็เป็นห้องกระจกด้วย "มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรอครับ" "ก็คนมันไม่เคยเห็นนี่นา" "ห้องน้ำอยู่ทางโน้นนะครับ ส่วนตู้เก็บเสื้อผ้าอยู่ฝั่งนี้ พี่เอาเสื้อผ้าไปเก็บในตู้เสื้อผ้าได้เลย ของทุกชิ้นในคอนโดพี่สามารถใช้ได้ แต่ถ้าอันไหนใช้ไม่เป็นก็มาถามผมได้นะครับ""แล้วถ้าฉันทำพัง นายจะเรียกเก็บฉันขนาดไหนเนี่ย"
"อ๊ะ อะ ออสติน เดี๋ยวก่อน""อืม พี่บอกเองว่าตกกลางคืนค่อยทำกัน ตอนนี้ไม่ใช่กลางคืนตรงไหนครับ" "ก็นายเล่นทำแบบไม่ให้ฉันได้ตั้งตัวนี่""ขอโทษครับ ผมจะทำให้เบาลงนะ" "อืม..." ออสตินเอื้อมมือไปหยิบถุงยางมากล่องนึง ก่อนจะแกะออกจากกล่องแล้วหยิบมาคาบไว้ในปาก แล้วลุกไปถอดเสื้อตัวเอง "ฉันใส่ให้ไหม?" "...." เขาพยักหน้าตอบ ก่อนที่ถุงยางจะถูกน้ำผึ้งหยิบไปจากปาก เธอฉีกแล้วสวมมันเข้ากับแก่นกายตรงหน้า "มือพี่นุ่มจังเลย""รีบใส่เข้ามาสิ""ได้ครับ" ขาเรียวถูกจับแยกออกจากกัน ก่อนที่คนตัวโตจะแทรกเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างขาของเธอ จากนั้นก็สอดแก่นกายลำยาวเข้าไปในช่องทางรักคับแคบของเธอทีละนิดจนสามารถใส่เข้าไปได้จนสุดลำ "อึกอืม...นะ แน่นอ่า..""ดะ เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งขยับ" มือเล็กจับต้นแขนแกร่งเอาไว้แน่น ภายในมีการกระตุกคล้ายเนื้อที่กำลังเต้นตุบๆ จนทำให้ออสตินสัมผัสได้ "อืมพี่ครับ...""จูบฉันหน่อยสิ" "ครับ..." ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหวาน ก่อนที่จะตวัดเลียภายในอย่างเมามันและในขณะเดียวกันช่องทางที่เชื่อมต่อกันอยู่ก็เริ่มขยับเข้าออกอย่างเนิบนาบ จนมีเสียงครางดังออกมาจากหญิงสาว “แฮ่ก ออสติน…”“อืม
สามปีต่อมาในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาฉันกับออสตินคอยช่วยกันเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี มันก็มีบ้างที่คนเราจะต้องเหนื่อย และมันก็มีบ้างที่เราจะมีปากเสียงกันแต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะปรับความเข้าใจกันเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะอยู่ด้วยกันแล้วจะมีความคิดเห็นบางอย่างไม่ตรงกันและมีปากเสียงกันบ้าง แต่พอเราลองถอยกันคนละก้าวและพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมามันก็ทำให้เราสองคนเข้าใจกันปรับความเข้าใจกันมันเลยไม่มีการทะเลาะกันใหญ่โต ตอนนี้ฉันกำลังท้องลูกคนที่สองได้ห้าเดือนแล้วเป็นผู้หญิง ตอนแรกออสตินก็ไม่กล้าที่จะให้ฉันท้องอีกเพราะกลัวว่าฉันจะต้องเจ็บ รายนั้นกลัวฉันเจ็บมากๆ ถึงขั้นมีความคิดที่จะไปทำหมันตัวเองเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีลูกอีกฉันจะได้ไม่ต้องเจ็บอีกทั้งที่ตัวเองคิดเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะมีลูกอีกหลายๆ คนลูกจะได้ไม่เหงา สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องปลอบใจและอธิบายให้เขาเข้าใจจนเขาล้มเลิกความคิดที่จะไปทำหมัน และตอนนี้ออสก้ากำลังเข้าเรียนในชั้นเตรียมอนุบาล ออสตินจะขับรถไปส่งทุกๆวันพอเลิกงานก็จะแวะรับลูกชายกลับมาด้วยเพราะงั้นฉันเลยไม่ได้ต้องวุ่นวายตรงนี้ ตอนเช้าตื่นมาออสตินก็จะเป็นคนจัดแจงอาบน้ำแต่งตัว
เวลาต่อมา ตอนนี้ฉันคลอดลูกแล้วและก็กลับมาอยูที่บ้านแล้วด้วย ลูกตัวใหญ่แต่ก็คลอดออกมาเองได้เพราะร่างกายของฉันแข็งแรงพอที่จะคลอดเองได้ ก่อนหน้านั้นออสตินเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเลย เพราะก่อนจะคลอดฉันมีอาการปวดที่เรียกว่าปวดสุดๆ ปวดจนหน้าซีดไปหมด ปวดจนตัวบิดงอ มันเหมือนร่างกายมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่เขาว่ากันว่าการคลอดลูกของผู้หญิงมันเจ็บปวดที่สุดแล้วเพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้นี่แหละ “เฮ้อ…”“เจ็บแผลหรือเปล่าครับพี่”“ไม่หรอก ไม่เจ็บแล้ว” ฉันตอบ พอคลอดเสร็จแล้วพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลสองวันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ เพราะร่างกายมันฟื้นตัวได้เร็วกกว่า ลูกของฉันเองก็แข็งแรงสมบูรณ์ดีเลยกลับบ้านได้พร้อมกับฉันเลย ตอนนี้ก็ได้แม่บ้านกับออสตินคอยดูแลอยู่ฉันเลยได้มีเวลาพักฟื้นตัวเอง เขาไม่ยอมให้ฉันได้หยิบจับอะไรเลยนอกจากนอนดูพวกเขาช่วยกันเลี้ยงลูกนิ่งๆ “คุณหนูน้อยเลี้ยงง่ายจังเลยค่ะ ไม่ร้องงอแงเลย” “ดีแล้วค่ะที่เลี้ยงง่าย ถ้าแกเลี้ยงยากทุกคนคงต้องเหนื่อยเพิ่มกันแน่ๆ เลยค่ะ” “พี่ครับ..ผมพาขึ้นไปพักไหมครับ”“ไม่เป็นอะไรหรอก ให้ฉันได้นั่งรับลมอยู่ข้างล่างนี่แหละ ตอนเย็นๆ ว่าจะไปเดินเล่นสักหน่อย เหมือนจ
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
ออสติน Talk "จะเข้ามากอดอะไรขนาดนั้น""....." พอพี่น้ำผึ้งพูดผมก็รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที ตอนนี้ผมกำลังเอาหูแนบฟังลูกที่กำลังดิ้นอยู่ในท้อง ถึงแม้ตอนที่ผมเข้ามาสัมผัสแกจะไม่ดิ้นเลยก็เถอะ แต่ผมก็จะรออยู่แบบนี้จนกว่าจะได้เห็นว่าลูกดิ้นเป็นแบบไหน พี่น้ำผึ้งบอกเสมอว่าลูกชอบดิ้นตอนกลางคืนจนทำให้พี่แกนอนไม่ค่อยหลับบวกกับท้องที่ใหญ่ขึ้นด้วย ผมมักจะรอดูว่าลูกจะดิ้นตอนไหนแต่ทุกครั้งก็ต้องเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยจากการทำงานมาแล้ว "พี่หนักท้องไหม?""ก็มีบ้าง ท้องฉันมันโตขึ้นตั้งเยอะ จะบอกไม่หนักเลยก็แปลกสิ" "อืม..." ท้องใหญ่ๆ ของพี่น้ำผึ้งเริ่มมีรอยแตกลาย คุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องบางคนที่พอหน้าท้องขยายแล้วก็จะมีรอยแตกแบบนี้ ผมไม่ได้มองว่ามันน่าเกลียดเลย กลับกันผมรู้สึกสงสารพี่น้ำผึ้งด้วยซ้ำที่ต้องยอมเสียสละร่างกายยอมตัวแตกลายเพื่ออุ้มท้อง ที่เขาว่ากันว่าผู้หญิงมักจะเสียเปรียบผู้ชายมันคงจะจริงสินะเพราะผู้ชายไม่สามารถท้องได้ ไม่สามารถเป็นประจำเดือนได้ "ทำไมนายชอบจูบท้องฉันนักล่ะ""จูบเพราะแสดงความรักกับลูกแล้วก็จูบเพราะผมอยากจูบ" ".....""พี่ครับ...ถ้าคลอดลูกคนนี้แล้ว พี่ไม่อยากม
เวลาต่อมา ออสตินคอยดูแลฉันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะลุกจะเดินหรือจะทำอะไรเขาจะเป็นคนจัดการให้ทุกครั้ง ออสตินดูแลฉันอยู่เป็นอาทิตย์หลังจากนั้นเขาก็กลับไปทำงานต่อเพราะเขามั่นใจแล้วว่าอาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไรและที่บ้านก็ยังมีแม่บ้านคอยอยู่เป็นเพื่อนฉันด้วย แต่ออสตินก็ยังจะกลับบ้านเร็วกว่าปกติ บางครั้งก็จะกลับมาในช่วงเที่ยงๆ ไม่ได้กลับไปทำงานต่อ ออสตินทั้งทำงานไปด้วยดูแลฉันไปด้วย จนบางครั้งฉันก็แอบห่วงสุขภาพของเขาเหมือนกัน อาการแพ้ท้องของฉันมันไม่ได้หนักหนาอะไร ฉันไม่ได้อาเจียนจนกินอะไรไม่ได้ จะมีก็แค่รู้สึกเวียนหัวบ้างเป็นบางครั้ง ออสตินสั่งห้ามฉันทำงานทุกอย่างไม่ว่าจะงานเล็กงานน้อย และเขาก็สั่งกำชับกับแม่บ้านเอาไว้อย่างดีเลยด้วย ฉันแอบไม่ได้หรอกเพราะเรื่องนี้แม่บ้านก็เห็นด้วยกับออสตินไม่มีใครเห็นด้วยกับฉันเลย "ผมกลับมาแล้วครับ" "วันนี้กลับเร็วอีกแล้วนะ" "ก็กลับมาดูแลพี่ไงครับ" "นายเองก็พักบ้างสิดูแลแต่ฉัน แต่ตัวนายไม่ได้พักเลยแบบนี้ฉันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะ" "พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดเลยครับ ภรรยาของผมกำลังท้องลูกของผมอยู่สามีอย่างผมก็ต้องดูแลภรรยาอย่างเต็มที่สิครับ""แต่นายก็
ออสติน Talk ตอนเย็นหลังเลิกงาน ผมขับรถกลับมาที่บ้านตามปกติเหมือนอย่างเคย บางวันผมก็ขับรถเอง วันไหนเหนื่อยขี้เกียจขับรถก็จะมีคนขับรถค่อยขับรถไปส่งที่บริษัท แต่วันนี้ผมขับรถกลับมาเอง "พี่ค้าบ..." พอกลับมาถึงสิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยคือการได้อ้อนพี่น้ำผึ้ง ผมชอบเข้าไปกอดเธอหอมแก้มเธอ การได้ทำแบบนี้มันทำให้ผมหายเหนื่อยจากที่ทำงานมาเป็นปลิดทิ้งเลย "วันนี้เหนื่อยไหม""เหนื่อยครับ แต่พอเห็นหน้าพี่แล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยครับ""อ้อนเก่งนักนะนายเนี่ย" "ผมขอชาร์จแบตหน่อย" "หิวหรือยัง กินข้าวก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำก็ได้จะได้พักทีเดียวเลย""ครับ" ทุกๆ อย่างมันไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย ผมกลับมาจากที่ทำงานกินข้าวพร้อมกับพี่น้ำผึ้งแล้วก็ขึ้นไปนอนด้วยกัน เราสองคนไม่ได้เที่ยวที่ไหน กลับกันเราใช้ชีวิตดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไปมากกว่า พี่น้ำผึ้งเธอจะคอยทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ทำอาหารไว้รอผมในทุกๆ วัน มันอาจจะไม่ได้พิเศษอะไรในสายตาของคนอื่นแต่ในสายตาของผมการได้เห็นหน้าพี่น้ำผึ้งในทุกๆ วันได้พูดคุยกับเธอได้บอกรักเธอมันเป็นวันที่แสนพิเศษสำหรับผมมากที่สุดเลย เพราะงั้นผมถึงได้คิดว่าทุกๆ วันที่ผมตื่นมาแล้ว
ตอนเช้าวันถัดมา “ผมไปก่อนนะครับพี่ เลิกงานแล้วจะรีบกลับมานะครับ”“อื้ม อย่าหักโหมล่ะ พักเที่ยงก็กินข้าวด้วยห้ามอดนะ เข้าใจไหม”“เข้าใจแล้วค้าบ” “ไปเถอะ” ฉันยืนมองออสตินเดินออกไปขึ้นรถ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านใน รีบขึ้นไปด้านบนทันทีเพราะฉันมีสิ่งที่ต้องทำ นั่นก็คือตรวจครรภ์ว่าตัวเองกำลังท้องจริงๆ หรือเปล่า ฉันรีบหยิบซองยาที่แอบให้แม่บ้านไปซื้อมาให้เมื่อเช้าเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะรีบจัดการตรวจตามที่ตัวเองพอจะรู้ และก็นั่งรอผลตรวจอยู่ห้านาที ในที่สุด…ผลตรวจก็ออกมา ปรากฏว่าฉันกำลังท้องจริงๆ แม้ที่ตรวจครรภ์จะขึ้นสองขีดจางๆ แต่ฉันก็มั่นใจ เพราะอาการที่ฉันกำลังเป็นอยู่มันก็คล้ายกับคนท้องมากจริงๆ ฉันคงต้องรีบไปฝากท้องสินะ เพื่อที่จะได้เอาสมุดตรวจครรภ์มายืนยันความจริงว่าฉันกำลังท้องจริงๆ ไม่ใช่แค่ลมปาก “คุณน้ำผึ้งจะออกไปไหนคะ?”“จะไปโรงพยาบาลน่ะ บ่ายๆ ถึงจะกลับมานะ ห้ามใครบอกออสตินล่ะว่าฉันไปไหน”“ผลตรวจเป็นยังไงคะ ใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า”“…..” แม่บ้านทุกคนต่างยืนมองฉันด้วยสีหน้าที่รอลุ้นคำตอบจากฉัน พวกเขาดูตื่นเต้นกันมากเลยนะเนี่ย “ค่ะ มันขึ้นสองขีด แต่ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกทีน่ะค่ะเพ
ผ่านมาได้เดือนกว่าๆ “อืม…” ฉันนั่งกุมขมับตัวเองเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ มันรู้สึกมึนๆ จะเวียนหัวก็ไม่เชิง อาการพวกนี้ฉันเป็นมาได้สองสามวันแล้ว แต่ก็คิดว่าเพราะนอนไม่ค่อยหลับด้วยหรือเปล่าเลยเป็นแบบนี้ แต่มันก็เป็นค่อนข้างหนักเพราะมันทำให้ฉันทำงานบ้านอะไรไม่ได้เลยจึงต้องทิ้งงานบ้านทุกอย่างให้แม่บ้านทำทั้งหมด "คุณน้ำผึ้งคะ รับน้ำหวานเย็นๆ สักแก้วไหมคะเผื่อจะดีขึ้น" "อ่า ก็ดีเหมือนกันค่ะ" "ถ้างั้นรอสักครู่นะคะ" ฉันนั่งรออยู่ได้ไม่นานแม่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำหวาน "ถ้าอาการไม่ดีขึ้นคุณน้ำผึ้งไปหาหมอดีกว่าไหมคะ เดี๋ยวดิฉันโทรหาคุณออสตินให้" "ไม่ต้องๆ ห้ามบอกเรื่องนี้กับออสตินเด็ดขาด" "....." "ฉันไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วง แค่งานที่บริษัทของเขาที่ต้องทำมันก็เยอะมากแล้ว ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะคงเพราะนอนดึกตื่นเช้าด้วยก็เลยเพลียๆ""งั้นก็ขึ้นไปนอนพักเถอะค่ะไม่ต้องห่วงงานบ้านหรอก เดี๋ยวดิฉันกับพวกแม่บ้านจะช่วยกันทำให้เสร็จเองค่ะ""ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง" ฉันกลับขึ้นไปนอนบนห้องตามที่แม่บ้านบอกจริงๆ แต่สุดท้ายก็ยังนอนไม่หลับเหมือนเดิม ฉันพยายามข่มตาให้นอนหลับแล้ว แต่ดูเ
พั่ก! พั่ก! พั่ก!แก่นกายใหญ่กระแทกเข้าออกช่องทางรักอย่างหนักหน่วง ร่างกายของหญิงสาวสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทก พร้อมกับเปล่งเสียงร้องครางออกมาไม่ยอมหยุด สายตาของเธอพร่ามัวแทบมองสิ่งตรงหน้าไม่ชัดแล้ว ยิ่งถูกกระแทกแรงขึ้นก็ยิ่งทำให้เธอร้องครางออกมาเสียงดังมากขึ้น ทว่าเธอต้องรีบเอามือปิดปากตัวเองเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในห้อง แต่อยู่นอกระเบียงด้านนอกซึ่งเสียงครางที่ดังออกมามันอาจจะทำให้คนได้ยินได้ “อึก..อ๊ะอ๊ะ อึ๊อื้ม…” มือเรียวปิดปากของตัวเองไว้แน่น เพราะหากมือหลุดไปเสียงอาจจะเล็ดลอดออกมาได้ “อืม…มันดีมากเลยนะครับพี่ อึก..ผมจะคลั่งให้ได้อยู่แล้วครับ” ออสตินพูดกระซิบเสียงแผ่วข้างหู ลมหายใจอุ่นๆ ที่ถูกพ่นออกมาพร้อมกับคำพูดเสียงกระเส่ามันทำเอาเธอขนลุกซู่จนเบิกตาโพลง “ละ ลึกไป ออสติน…เฮือก!!” หญิงสาวตาเบิกโพลงเมื่อช่องทางรักมันคับแน่นจนรู้สึกได้ตรงท้องน้อย เขากดท่อนเอ็นเข้ามาลึกมากและปลดปล่อยน้ำกามเข้ามาในท้องของเธอจนรู้สึกอุ่นวาบในทันที ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนทับร่างของภรรยาสาวพร้อมกับลมหายใจที่หอบถี่ ในขณะที่เธอเองก็เหนื่อยและหมดแรงไม่ต่างกัน แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาคงไม่ยอมหยุดเพียงเท่านี้อย่างแน่