1เดือนผ่านไป….
วันนี้เป็นวันแต่งงานไอ้แวมไพร์กับน้องน่ารัก ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวกับไอ้วายุสองคน ผมแสดงความยินดีทั้งสองคนที่ได้ครองรักกันอย่างสมบูรณ์เเบบ แต่ผมเองกลับง้อเพทายไม่สำเร็จสักที…ผมต้องทำยังไงดีครับ ผมอยากง้อเก่งๆเหมือนกับคนอื่นๆ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น ผมได้ไปเสร์ชหาวิธีคำง้อต่างๆ เป็นแฟนกันต้องทำยังไงบ้าง สิ่งเหล่านี้ผมได้ไปศึกษาอ่านมาหมดทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรู้จักใส่ใจ เอาใจ รู้จักง้อแฟน ผมอยากขอแก้ตัวกับเพทายอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เธออยู่ในชุดราตรีสีชมพูสวยมาก แต่ชุดเธอสั้นไปหน่อยจึงเริ่มหงุดหงิดใจ ทุกการกระทำของเธอ อยู่ในสายตาผมทุกนาที ผมแทบไม่อยากมองคนอื่นเลยนอกจากกเพทายเมียของผม… “แขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ ถึงเวลาอันเป็นมงคลแล้วนะครับทุกท่าน” เสียงพิธีกรกล่าวออกมาอย่างเป็นทางการอยู่บนเวที ผมละสายตาจากร่างเพทายมองไปยังบนเวที แขกในงานล้วนมีแต่คนมาฐานะรวย รวมถึงหัวหน้ามาเฟียผู้มีอิทธิพล ร่วมมาแสดงความยินดีกับไอ้แวมไพร์ด้วย ลืมบอกไปว่าพวกเราเป็นหัวหน้ามาเฟียดั้งเดิมที่สืบทอดมาจนถึงรุ่นลูก “ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีนี้ด้วยครับ” ผมมองไอ้พี่แวมไพร์จับมือน้องน่ารักขึ้นสู่บนเวที พลางยกยิ้มมุมปากที่เห็นใบหน้าไอ้แวมไพร์ล้วนมีแต่ความสุข “ลำดับต่อไปขอให้ทุกคนมาร่วมเป็นสักขีพยาน ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวคำกล่าวคำปฏิญาณรักทั้งสองฝ่ายครับ” เเปะๆๆๆๆ สิ้นเสียงพิธีกร ผมก็ตบมือให้แก่คู่บ่าวสาว ทุกคนในงานก็ร่วมตบมือด้วยเช่นกัน “กูเห็นไอ้แวมไพร์ยิ้มมากที่สุด ก็วันนี้ล่ะวะ” ไอ้วายุที่ยืนอยู่ข้างผมก็พูดขึ้น มันก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเหมือนกัน “อืม…เห็นเพื่อนมีความสุข กูก็มีความสุขเหมือนกัน” ผมพูดพร้อมยกยิ้มมุมปาก ดีใจกับมันจริงๆที่ได้เจอผู้หญิงที่มันรัก ผมละสายตา เลือบมองไปยังเพทายที่ยืนจากผมไม่ไกลมากนัก ผมรู้สึกว่าเธอกำลังแอบมองผมอยู่….ใช่จริงด้วย ขณะที่ผมซัดสายตาไปหา เธอก็มีท่าทีเลิ่กลั่กพลางหลบสายตาอย่างรวดเร็ว แล้วมองไปยังน้องน่ารักกับไอ้แวมไพร์ที่ยืนอยู่บนเวที ผมยกยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดูเธอ "ผมไม่นึกว่าชีวิตนี้ผมจะได้เจอเธออีกครั้ง เธอเป็นรักเเรกพบของผม ผมไม่เคยรู้สึกใจสั่นตอนพบหน้าผู้หญิงเลยสักคน ผมคิดว่าใจผมคงด้านชากับเรื่องเหล่านี้...เเต่เปล่าเลย หัวใจผมเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะเมื่อผมเห็นหน้าน่ารักเป็นครั้งเเรก เธอเป็นคนที่ทำให้ผมรู้จักความรักในครั้งนี้ ตอนที่เราทะเลาะกัน มันทำให้ผมรู้ใจตัวเองว่าผมอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าไม่มีเธอ...น่ารัก…ต่อจากนี้ไปทั้งชีวิตเธอเป็นของฉันเเค่คนเดียวไม่ว่ายามทุกข์หรือยามสุข ฉันอยากให้เธอจับมือฉันไว้เเน่นๆห้ามปล่อยฉันเป็นอันขาด เเละฉันจะสัญญาด้วยชีวิตของฉันว่าจะดูเเลเธอไปตลอดชีวิตจนกว่าจะตายจากกัน ฉันรักเธอ~" ผมยืนฟังสิ่งที่ไอ้แวมไพร์พูด มันทำให้ผมรู้สึกผิดกับเพทาย...ที่ผ่านมาผมไม่เคยได้พูดคุยเเละไม่ได้ใส่ใจอะไรเธอเลย… "หนูไม่คิดว่า...ลูกที่ไม่มีพ่อมีเเม่เหมือนกับคนอื่นๆ...จะโชคดีได้สามีที่ดีและรักหนูมากขนาดนี้ ที่ผ่านมาหนูไม่รู้ว่าหนูตกหลุมรักพี่เเวมไพร์ไปได้ยังไง พี่เเวมไพร์ชอบด่าทั้งดุเเละทำหนูเสียใจบ่อยมาก จนวันเวลาผ่านไปพี่เเวมไพร์กลับเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน พี่เเวมไพร์ปรับตัวเข้าหากับหนูได้ดีมาก จากคนใจร้อนก็กลายเป็นคนใจเย็น จากคนพูดจาหยาบคายกลายเป็นคนพูดเพราะซึ้งกินใจ...หนูตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่เลือกพี่มาเป็นเจ้าบ่าวของหนู…พี่แวมไพร์ค่ะ...ทั้งชีวิตนี้หนูขอสัญญาว่าจะเป็นภรรยาที่ดี ร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรหนูสัญญาว่าจะไม่ปล่อยมือพี่เเวมไพร์เด็ดขาด ขอบคุณที่รักคนอย่างหนูนะคะ หนูรักพี่เเวมไพร์เท่าชีวิตของหนูเหมือนกันค่ะ " น้องน่ารักพูดจบ ไอ้เเวมไพร์ก็คว้าร่างของน้องน่ารักไปจูบท่ามกลางผู้คนที่ยืนมองอยู่ ผมมองดูก็อิจฉามันนะครับที่ได้แต่งงานสมหวังคนแรกในกลุ่ม เเปะๆๆๆๆๆๆๆ หู้ยๆๆอร๊ายยยย ผมตบมือขึ้นพร้อมกับทุกคนในงานและเสียงโห้เเซวกันดังลั่น "คนไหนที่ยังโสดหรือคนไหนที่ยังไม่เเต่งงาน รีบมารับดอกไม้กันนะคะ" หลักจากที่ไอ้แวมไพร์ถอนจูบออก น้องน่ารักก็รีบพูดประกาศทางไมค์ ผมมองไปยังน้องเอวาที่ฉุดกระชากลากดึงเพทายให้ออกไปรับดอกไม้ เธอขืนตัวแต่ก็ต้องยอมแพ้ให้น้องเอวาที่ลากดึงจนอยู่หน้าเวทีอย่างสำเร็จ ผมยิ้มออกมาให้กับความน่ารักของเธอ ขอให้เพทายรับช่อดอกไม้ให้ได้ทีเถอะ… “นี่เมียกูไม่อยากแต่งงานเลยเนอะ หึๆๆ” ไอ้วายุที่มองไปยังน้องเอวา ที่แหกปากร้องลั่นว่าเธอต้องได้ช่อดอกไม้ ทำให้ทุกคนในงานหัวเราะกันดังลั่น “หึ” ผมแค้นหัวเราะออกมาเท่านั้น แล้วยืนมองเพทายอย่างไม่ละสายตา ต่อให้เธอไม่ได้ช่อดอกไม้นั้น ผมก็พร้อมที่จะขอเธอแต่งงานอยู่ดี "จะโยนเเล้วนะคะ 1!2!....3!!!" สิ้นเสียงน้องน่ารักก็โยนช่อดอกไม้ออกไป ผมหันไปมองช่อดอกไม้ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศเเละตรงมาที่ผมยืนอยู่กับไอ้วายุ ผมที่เห็นเเบบนั้นก็รีบจับช่อดอกไม้ทันที ทำให้สายตาทุกคนมาหยุดอยู่ที่ผมเพียงผู้เดียว ผมเห็นว่าช่อดอกไม้อยู่ในมือของผมแล้วเลยใช้โอกาศนี้ เดินเเหวกผู้คนไปยังเพทายที่ยืนอยู่ ทุกคนในงานนี้ก็มองดูอย่างลุ้นๆไปตามกัน พอถึงหน้าเพทายผมก็คุกเข่าลงตรงหน้าของเธอ พร้อมยื่นช่อดอกไม้ที่รับได้จากเมื่อครู่นี้ส่งไปให้เธอ "เเต่งงานกับพี่นะเทพาย" เสี่ยงทุ่มนุ่มๆที่ไม่เคยได้พูดออกมาก่อน แต่ผมพูดตามความรู้สึกล้วนๆที่มี "เเต่งเลยๆๆๆ" น้องเอวาที่ยืนอยู่ข้างๆเพทายก็ส่งเสียงร้องเชียร์ออกมาเป็นคนแรก "เเต่งเลยๆๆๆๆ" ส่วนน้องน่ารักก็พูดออกทางเสียงไมค์เหมือนกัน ทำให้ทุกคนในงานก็เริ่มส่งเสียงร้องเชียร์ตามๆขึ้น เเต่งเลยๆๆๆๆๆ "ค่ะหนูเเต่ง" เพทายพูดพร้อมรับช่อดอกไม้จากในมือของผมไป ผมลุกขึ้นก็รีบดึงเธอเข้าไปกอดอย่างดีใจ หัวใจของผมเต้นอย่างรั่วๆ ผมลุ้นคำตอบเธอจนเหงื่อแตกตามกรอบหน้า วุ้ๆๆๆกรี๊ดดดๆๆๆ ทุกคนที่ลุ้นอยู่ก็ร้องอย่างดีใจไม่ต่างจากผม 3ชั่วโมงผ่านไป ในที่สุดงานเเต่งงานในค่ำคืนนี้ก็ได้เป็นอันจบลงอย่างสมบูรณ์ เเขกทุกคนก็เเยกย้ายกันกลับหมดเหลือเเค่พวกเราที่นั่งคุยเรื่องต่างๆและดื่มเหล้ากันอย่างสนุกสนานจนเกือบตี1 "พี่นิโครค่ะ ที่หนูตอบตกลงเเต่งงานไป หนูเเค่ไม่อยากให้พี่นิโครต้องผิดหวังต่อหน้าคนอื่นนะคะ ความเป็นจริงเเล้ว…หนูไม่คิดจะเเต่งงานกับพี่นิโครเลยค่ะ" ผมที่นั่งพูดคุยกับไอ้แวมไพร์เเละไอ้วายุอย่างขำๆ ในใจมีความสุขล้นที่เพทายตอบตกลงแต่งงานกับผม เป็นอันต้องจบลงเพียงเพราะเพทายเอ่ยคำพูดออกมา สิ้นเสียงเพทายพูดจบเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ ทุกคนบนโต๊ะเงียบหมดทุกคน "หึ...เธอเป็นเมียพี่ พี่ไม่ยอมปล่อยเธอไปเด็ดขาด" ผมแสยะยิ้มออกมา พร้อมพูดน้ำเสียงเรียบนิ่งจ้องมองไปยังใบหน้าของเพทายที่มั่วเอาเเต่หลบสายตาผม ผมไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด ไม่ปล่อยเธอไปไหนอีกแล้วเธอต้องแต่งงานและอยู่กับผมตลอดไป "พี่ไม่สิทธิ์ในตัวหนู ตั้งเเต่หนูถอนหมั้นพี่นิโครเเล้วค่ะ" "ได้...พี่จะทำให้มีสิทธิ์ในตัวเธอเองเพทาย" "พี่จะทำอะไรอ่ะ ปล่อยหนูนะ หนูบอกให้ปล่อยหนูไง" สติผมขาดกระเจิง ผมลุกขึ้นและก้าวเดินไปยังเพทายที่นั่งตรงข้ามกับผม พร้อมฉุดร่างของเธอให้ลุกขึ้นมาผมมา โดยไม่สนสายตาเพื่อนๆที่มองมาสักนิด ผมฉุดให้เธอเดินตามผมมา จนถึงรถหรูที่จอดอยู่หน้าโรงแรม "ปล่อยหนูนะ หนูบอกให้ปล่อยหนูไง ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ!!" "ให้พี่ปล่อยตรงไหนดีล่ะ ปล่อยนอก ปล่อยใน หรือปล่อยในปากของเธอ..." เธอพยามแกะมือผมออกเป็นอันต้องหยุดนิ่งพร้อมอ้าปากค้างเบิกตาโต ที่ได้ยินประโยคที่ผมพูดออกไปเมื่อครู่นี้ ผมจึงรีบดันร่างเธอเข้าไปในรถ ข้างเบาะคนขับทันที “ถ้าเธอประตูลงมา ฉันจะจับกระเเทกเธอในรถและตรงนี้ด้วย ลองดูสิ..” ผมชี้นิ้วอย่างออกคำสั่ง เพราะเห็นว่าเธอจะลงออกจากรถ เธอที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น ก็เม้มแน่นและนั้งอย่างเงียบๆไม่กล้าพูดออกมา ผมรีบปิดประตูรถฝั่งเธอ แล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งพลางสอดตัวเข้ามายังในรถ และขับรถออกมาจากโรงเเรมอย่างเร็ว “พี่นิโครจะพาหนูไปไหนค่ะ” เพทายรีบถามขึ้นเพราะเส้นทางที่ผมขับนั้นไม่ได้คุ้นตาเธอเท่าไรนัก ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป ต่อให้เธอพยามถามผมเท่าไรผมก็เงียบใส่เธอตลอด จนเธอผล็อยหลับไปในที่สุด ผมชะลอรถหักพวงมาลัยเทียบฟุตบาท และถอดเสื้อสูทตัวนอกออกมา เอาไปคลุ่มร่างของเธอที่นอนหลับอย่างสนิท จากนั้นผมก็เคลื่อนรถออกไปในทันที…นิโครกับเพทายได้ถูกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจับหมั้นกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้นิโครและเพทายได้เรียนจบแล้ว นิโครอายุ25ปี เพทายอายุ22ปี เธอพึ่งเรียนจบ การหมั้นในครั้งถูกจัดขึ้นเพราะพ่อแม่ของเทพายได้ไปกู้เงินจากพ่อแม่ของนิโครจำนวน2ล้านบาท เพื่อไปหมุนเงินต่อธุรกิจทางบ้าน พอครบรอบวันชำระที่พ่อแม่ของเธอต้องจ่าย ปรากฏว่าพ่อแม่ของเพทายไม่มีเงินจ่ายให้พ่อแม่ของนิโครเพราะธุรกิจที่ทำอยู่นั้นกำลังจะล้มลาย เพราะขาดทุนเป็นอย่างมาก พ่อแม่ของนิโครสนิทกับพ่อแม่ของเพทายอยู่พอสมควร จึงอยากได้เทพายเป็นลูกสะใภ้เพราะอยากอุ้มหลานเร็วๆ จึงให้ทั้งสองหมั้นกันเพื่อยกหนี้ทั้งหมดให้... พ่อแม่ของเพทายก็ตอบตกลงไปในทันที ไม่ใช่ว่าพวกเขาขายลูกสาวกินนะ แต่ทั้งสองครอบครัวสนิทและไว้ใจกัน อีกอย่างก็อยากเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่แล้ว แม่นิโครให้ลูกน้องของตนเองไปแอบถ่ายรูปว่าที่ลูกสะใภ้ซึ่งก็ถูกอกถูกใจแม่นิโครเป็นอย่างมาก เรื่องราวทั้งหมดจึงเกิดขึ้น…..#เเนะนำให้อ่านเรื่อง...ยัยเเก้มใสคว้าใจนายจอมโหดกันก่อนนะคะรี๊ดทุกคน ย้ำ!!!ไรท์เปลี่ยนชื่อนางเอกจากเทพายเป็นเพทายนะคะ#ย้อนกลับไป2ปีก่อน……ณ บ้านนิโค
ตลอดระยะเวลา2ปีที่ผ่านมา....ผมกับเพทายหมั้นกัน มันทำให้เหมือนว่าผมเห็นแก่ตัวกับเธอมาก วันที่ผมกับเธอมีอะไรกันหลังจากวันนั้น ผมก็ไม่เตะเนื้อต้องตัวเธอเลยผมรู้สึกว่าเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่ใกล้ๆเธอคิดว่าเธอคงจะอึดอัดที่อยู่กับผมก็ได้ ผมเป็นคนนิ่งๆ ปากหนักไม่ค่อยพูด ผมกลัวว่าเธออยู่กับผมแล้วจะไม่มีความสุข เเละที่สำคัญเลยคือ…ผมไม่เคยสัมผัสความรักเหมือนคนอื่น ผมคงด้านชาเรื่องความรักก็ได้ครับ ผมผ่านผู้หญิงก็มาเยอะนะแต่ผมป้องกันทุกครั้งและไม่เคยใช้ลิ้นสัมผัสกับผู้หญิงที่ผ่านมาไม่เคยจูบผู้หญิงคนไหน คนที่ได้จูบแรก…คนที่ผมใช้ลิ้นสัมผัสเรื่อนร่างครั้งเเรกในชีวิตก็คือเพทาย... เธอไม่เหมือนผู้หญิงพวกนั้น ผมคือคนแรกของเธอ และผมเองก็ไม่เคยเจอผู้หญิงบริสุทธิ์มาก่อน จนมาพบเพทายแต่เราสองคนไม่ได้จีบกันรักกันมาก่อน เราทั้งสองได้มาอยู่ด้วยกันเพราะทางฝั่งพ่อแม่ของเธอเป็นหนี้ครอบครัวผมเธอต้องยอมหมั้นกับผมเพื่อล้างหนี้ทั้งหมด เราทั้งสองคนไม่ได้รักกัน ผมอยากให้เธอมีความสุข ผมไม่อยากปิดกั้นเธอเพียงเพราะหนี้ที่พ่อแม่ของเธอก่อขึ้น….ต่อให้
ณ ปัจจุบัน….ณ ผับ 0ne night stand.วันนี้เป็นวันเลี้ยงฉลองที่เพทายกับน้องน่ารักและน้องเอวาเรียนจบอย่างเป็นทางการ ผมและไอ้แวมไพร์ไอ้วายุก็มาร่วมยินดีที่พวกเธอได้เรียนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รู้อะไหมตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นความสัมพันธ์ผมและเพทายไม่ได้ดีขึ้นเลย ผมต้องเข้าบริษัทเกือบทุกวันเลยไม่มีเวลาไปหาเพทายที่บ้าน ทำให้เราทั้งสองคนห่างกัน…คืนนี้ผมจะขอเธอแต่งงาน แต่ก็กลัวไอ้พวกนี้แซวผมไง พวกมันยิ่งปากหมาอยู่ด้วย ผมจะหาเวลาบอกกับเธอแค่สองคนก็แล้วกันซึ่งตอนนี้ผมไม่อยากทำงานที่บริษัทเลยวะ มันเหนื่อยจนแทบไม่มีเวลาพักแม้แต่จะมาหาเพททายผมยังมาหาไม่ได้เลย เป็นเจ้าของบริษัทใช่ว่าจะสบายเสมอไป ครอบครัวของผมผลิตไวน์องุ่นส่งออกทั่วโลก ผลตอบรับได้ดีเลยทีเดียวมีออร์เดอร์ไม่ขาดสาย ผมมีไร่องุ่น1000กว่าไร่ องุ่นผมจะเอาไปแปลรูปเป็นไวน์ขาว ไวน์แดงแค่สองอย่างนี้ก็เอาแทบไม่ทัน คนงานในไร่ที่จ้างเกือบ1000คนโดยมีหัวหน้ายืนคุมคนงานไว้ในแต่ละไร่ ผมเคยไปไร่องุ่นครั้งล่าสุดอายุ19ปีน่าจะได้ และมีไร่องุ่นขนาดเล็กมีพื้นที่100ไร่ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ผมจะไปดูบ่อยมากเพราะไม่วุ่นวายดี ส่วนไร่ใหญ่คุณพ่อกับค
1เดือนผ่านไป….วันนี้เป็นวันแต่งงานไอ้แวมไพร์กับน้องน่ารัก ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวกับไอ้วายุสองคนผมแสดงความยินดีทั้งสองคนที่ได้ครองรักกันอย่างสมบูรณ์เเบบ แต่ผมเองกลับง้อเพทายไม่สำเร็จสักที…ผมต้องทำยังไงดีครับ ผมอยากง้อเก่งๆเหมือนกับคนอื่นๆ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น ผมได้ไปเสร์ชหาวิธีคำง้อต่างๆ เป็นแฟนกันต้องทำยังไงบ้าง สิ่งเหล่านี้ผมได้ไปศึกษาอ่านมาหมดทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรู้จักใส่ใจ เอาใจ รู้จักง้อแฟน ผมอยากขอแก้ตัวกับเพทายอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เธออยู่ในชุดราตรีสีชมพูสวยมาก แต่ชุดเธอสั้นไปหน่อยจึงเริ่มหงุดหงิดใจ ทุกการกระทำของเธอ อยู่ในสายตาผมทุกนาทีผมแทบไม่อยากมองคนอื่นเลยนอกจากกเพทายเมียของผม…“แขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ ถึงเวลาอันเป็นมงคลแล้วนะครับทุกท่าน”เสียงพิธีกรกล่าวออกมาอย่างเป็นทางการอยู่บนเวที ผมละสายตาจากร่างเพทายมองไปยังบนเวที แขกในงานล้วนมีแต่คนมาฐานะรวย รวมถึงหัวหน้ามาเฟียผู้มีอิทธิพล ร่วมมาแสดงความยินดีกับไอ้แวมไพร์ด้วย ลืมบอกไปว่าพวกเราเป็นหัวหน้ามาเฟียดั้งเดิมที่สืบทอดมาจนถึงรุ่นลูก“ขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีนี้ด้วยครับ”ผมมองไอ้พี่แวมไพร์จับมือน้องน่ารักขึ
ณ ปัจจุบัน….ณ ผับ 0ne night stand.วันนี้เป็นวันเลี้ยงฉลองที่เพทายกับน้องน่ารักและน้องเอวาเรียนจบอย่างเป็นทางการ ผมและไอ้แวมไพร์ไอ้วายุก็มาร่วมยินดีที่พวกเธอได้เรียนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รู้อะไหมตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นความสัมพันธ์ผมและเพทายไม่ได้ดีขึ้นเลย ผมต้องเข้าบริษัทเกือบทุกวันเลยไม่มีเวลาไปหาเพทายที่บ้าน ทำให้เราทั้งสองคนห่างกัน…คืนนี้ผมจะขอเธอแต่งงาน แต่ก็กลัวไอ้พวกนี้แซวผมไง พวกมันยิ่งปากหมาอยู่ด้วย ผมจะหาเวลาบอกกับเธอแค่สองคนก็แล้วกันซึ่งตอนนี้ผมไม่อยากทำงานที่บริษัทเลยวะ มันเหนื่อยจนแทบไม่มีเวลาพักแม้แต่จะมาหาเพททายผมยังมาหาไม่ได้เลย เป็นเจ้าของบริษัทใช่ว่าจะสบายเสมอไป ครอบครัวของผมผลิตไวน์องุ่นส่งออกทั่วโลก ผลตอบรับได้ดีเลยทีเดียวมีออร์เดอร์ไม่ขาดสาย ผมมีไร่องุ่น1000กว่าไร่ องุ่นผมจะเอาไปแปลรูปเป็นไวน์ขาว ไวน์แดงแค่สองอย่างนี้ก็เอาแทบไม่ทัน คนงานในไร่ที่จ้างเกือบ1000คนโดยมีหัวหน้ายืนคุมคนงานไว้ในแต่ละไร่ ผมเคยไปไร่องุ่นครั้งล่าสุดอายุ19ปีน่าจะได้ และมีไร่องุ่นขนาดเล็กมีพื้นที่100ไร่ที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ผมจะไปดูบ่อยมากเพราะไม่วุ่นวายดี ส่วนไร่ใหญ่คุณพ่อกับค
ตลอดระยะเวลา2ปีที่ผ่านมา....ผมกับเพทายหมั้นกัน มันทำให้เหมือนว่าผมเห็นแก่ตัวกับเธอมาก วันที่ผมกับเธอมีอะไรกันหลังจากวันนั้น ผมก็ไม่เตะเนื้อต้องตัวเธอเลยผมรู้สึกว่าเริ่มไม่เป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่ใกล้ๆเธอคิดว่าเธอคงจะอึดอัดที่อยู่กับผมก็ได้ ผมเป็นคนนิ่งๆ ปากหนักไม่ค่อยพูด ผมกลัวว่าเธออยู่กับผมแล้วจะไม่มีความสุข เเละที่สำคัญเลยคือ…ผมไม่เคยสัมผัสความรักเหมือนคนอื่น ผมคงด้านชาเรื่องความรักก็ได้ครับ ผมผ่านผู้หญิงก็มาเยอะนะแต่ผมป้องกันทุกครั้งและไม่เคยใช้ลิ้นสัมผัสกับผู้หญิงที่ผ่านมาไม่เคยจูบผู้หญิงคนไหน คนที่ได้จูบแรก…คนที่ผมใช้ลิ้นสัมผัสเรื่อนร่างครั้งเเรกในชีวิตก็คือเพทาย... เธอไม่เหมือนผู้หญิงพวกนั้น ผมคือคนแรกของเธอ และผมเองก็ไม่เคยเจอผู้หญิงบริสุทธิ์มาก่อน จนมาพบเพทายแต่เราสองคนไม่ได้จีบกันรักกันมาก่อน เราทั้งสองได้มาอยู่ด้วยกันเพราะทางฝั่งพ่อแม่ของเธอเป็นหนี้ครอบครัวผมเธอต้องยอมหมั้นกับผมเพื่อล้างหนี้ทั้งหมด เราทั้งสองคนไม่ได้รักกัน ผมอยากให้เธอมีความสุข ผมไม่อยากปิดกั้นเธอเพียงเพราะหนี้ที่พ่อแม่ของเธอก่อขึ้น….ต่อให้
นิโครกับเพทายได้ถูกผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจับหมั้นกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้นิโครและเพทายได้เรียนจบแล้ว นิโครอายุ25ปี เพทายอายุ22ปี เธอพึ่งเรียนจบ การหมั้นในครั้งถูกจัดขึ้นเพราะพ่อแม่ของเทพายได้ไปกู้เงินจากพ่อแม่ของนิโครจำนวน2ล้านบาท เพื่อไปหมุนเงินต่อธุรกิจทางบ้าน พอครบรอบวันชำระที่พ่อแม่ของเธอต้องจ่าย ปรากฏว่าพ่อแม่ของเพทายไม่มีเงินจ่ายให้พ่อแม่ของนิโครเพราะธุรกิจที่ทำอยู่นั้นกำลังจะล้มลาย เพราะขาดทุนเป็นอย่างมาก พ่อแม่ของนิโครสนิทกับพ่อแม่ของเพทายอยู่พอสมควร จึงอยากได้เทพายเป็นลูกสะใภ้เพราะอยากอุ้มหลานเร็วๆ จึงให้ทั้งสองหมั้นกันเพื่อยกหนี้ทั้งหมดให้... พ่อแม่ของเพทายก็ตอบตกลงไปในทันที ไม่ใช่ว่าพวกเขาขายลูกสาวกินนะ แต่ทั้งสองครอบครัวสนิทและไว้ใจกัน อีกอย่างก็อยากเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่แล้ว แม่นิโครให้ลูกน้องของตนเองไปแอบถ่ายรูปว่าที่ลูกสะใภ้ซึ่งก็ถูกอกถูกใจแม่นิโครเป็นอย่างมาก เรื่องราวทั้งหมดจึงเกิดขึ้น…..#เเนะนำให้อ่านเรื่อง...ยัยเเก้มใสคว้าใจนายจอมโหดกันก่อนนะคะรี๊ดทุกคน ย้ำ!!!ไรท์เปลี่ยนชื่อนางเอกจากเทพายเป็นเพทายนะคะ#ย้อนกลับไป2ปีก่อน……ณ บ้านนิโค