“เข้าใจผิดคิดว่าคุณทัตมีลูกมีภรรยาแล้วไงคะ” คุณแก้วพูดขึ้นทันทีทำเอาคุณทัตหันต้องมองใบหน้าสวยของจันทร์เจ้าเพราะคุณแก้วติวเตอร์สาวที่จ้างมาดูท่าจะแล้วจะมีเป้าหมายเข้าหาเขาพอสมควร “ลูกยังไม่มี ภรรยาก็ยังไม่มีแต่ที่จะมีก็คงมีแค่หนูนี่แหละค่ะ” จันทร์เจ้าพูดขึ้นเพราะตอนนี้สิ่งเดียวที่คุณป๋าของเธอมีก็คือมีเธอเป็นเมียเด็ก “ทำไมต้องมีแค่น้องจันทร์เจ้าด้วยล่ะคะ” คุณแก้วนั่งงงเป็นไก่ตาแตกถามขึ้นอีกครั้งเพราะเธอไม่เข้าใจกับคำพูดของลูกศิษย์“นั่นสิ ป๋าตอบพี่แก้วหน่อยสิทำไมป๋าต้องมีแค่หนู”จันทร์เจ้ายิ้มร่าขึ้นอีกครั้งก่อนจะหันหน้าไปทางคุณป๋าของเธอ ส่วนคุณทัตตอนนี้ก็ได้แต่คิดในใจเพราะเมียเด็กของเขาร้ายกว่าที่คิด ร้ายตาใสเหมือนที่เคยบอกและเจ้าแผนการมากๆ เรื่องความหึงหวงเป็นที่สุดแต่ถึงกระนั้นเขาก็ชอบอยู่ดีเพราะเขารู้สึกดีชะมัดเวลาเมียเด็กเป็นแบบนี้ “จันทร์เจ้าเป็นเมียครับ” แน่นอนว่าคำตอบของคุณทัตก็ทำจันทร์เจ้าหน้าเหวอเพราะเธอก็ไม่คิดหรอกว่าเขาจะตอบแบบนี้แต่คนที่จะหน้าเหวอกว่าเธอก็คงเป็นคุณแก้วติวเตอร์สาว “คะ” คุณแก้วเอ่ยออกมาอย่างไม่เต็มเสียง มองหน้าคุณทัตกับจันทร์เจ้าลูกศิษย์ของตัวเองสลับไปมา
หลายวันผ่านไป “วันนี้จะประกาศผลแล้ว เด็กดีของฉันอยากไปเที่ยววันไหน” คุณทัตถามขึ้นทันทีเพราะเมียเด็กของเขาไม่ยอมไปเที่ยวกับเขาและยืนกร่านว่าขอให้ประกาศผลก่อน เธอจะได้ไปเที่ยวแบบไม่พะวงอะไร “ต้องถามว่าไปเที่ยวที่ไหนดีกว่า” ตอนนี้จันทร์เจ้ายังไม่รู้เลยว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนเพราะทุกวันที่ผ่านมาเธอเอาแต่กังวลกับการประกาศผลสอบที่กำลังจะออกในวันนี้ “ฉันให้เธอคิดเลยเด็กดี” เพราะคุณทัตเองก็ตามใจเมียเด็กของเขาอยู่แล้ว “ค่อยคิดนะคะ ตอนนี้ขอไปเปิดประตูให้น้ำมนต์ก่อน” เมียเด็กพูดขึ้นอีกครั้งและเดินออกไปทันทีเพราะน้ำมนต์เพื่อนสนิทของเธอจะมาลุ้นการประกาศผลสอบด้วยกัน “สวัสดีค่ะคุณทัต” น้ำมนต์ยกมือไหว้คนที่อายุมากกว่าที่พ่วงด้วยตำแหน่งคนรักของเพื่อนสนิททันที “สวัสดีน้ำมนต์ ฉันว่าน้ำมนต์ไม่ได้ดูกังวลแบบเธอนะจันทร์เจ้า” คุณทัตเอ่ยปากแซวขึ้นเพราะดูแล้วเพื่อนสนิทของเมียเด็กอย่างน้ำมนต์ดูชิวๆ “ใจจริงหนูกังวลมากค่ะ ตอนนี้อยากให้ประกาศผลจะแย่อยู่แล้ว” เสียงหัวเราะดังขึ้นทันทีกับคำพูดของน้ำมนต์เพราะไม่มีใครไม่กังวลหรอก เธอเองก็กังวลแต่เก็บอาการ “โอเค งั้นตามสบายนะใกล้ถึงเวลาก็เข้ามาเรียกฉันนะจันทร์เจ้
“ฉันตั้งงบไว้ให้เธอแล้วนะจันทร์เจ้า ถ้าเธอใช้ไม่หมดฉันไม่พาเธอกลับนะบอกไว้ก่อน” คุณทัตพูดขึ้นทันทีเพราะในเมื่อเธอเสนอว่าอยากจะไปตลาดนัดเขาก็จะพาเธอไปโดยไม่ขัดอะไร “งบเท่าไหร่คะ” แน่นอนว่าสำหรับจันทร์เจ้าการไปซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดนัดมันก็เพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องเป็นของแบรนด์เนมหรืออะไรแพงๆ“สามหมื่นสำหรับตลาดนัดนี่น้อยไปไหม ฉันว่าน่าจะน้อยนะเพิ่มเป็นห้าดีกว่าเพราะราคาเท่านี้ซื้อในห้างได้ไม่กี่อย่างเอง” เมื่อได้ยินคำพูดของคุณทัต จันทร์เจ้าก็ได้แต่อ้าปากค้าง “ป๋าเคยไปเดินตลาดนัดไหมคะ” ดูท่าแล้วคุณป๋าของเธอคงไม่เคยไปถึงได้ตั้งงบให้เธอมากมายขนาดนี้ “ไม่เคย ทำไมห้าหมื่นน้อยไปหรอ” คุณทัตถามขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้เขาเริ่มคิดแล้วล่ะว่ามันคงจะน้อยจริงๆ เมียเด็กของเขาถึงมีหน้าตาเป็นแบบนี้ “มากไปแล้วค่ะ เสื้อผ้าตลาดนัดตัวละร้อยสองร้อยเองค่ะ” จันทร์เจ้าตอบกลับไปทันที “ที่เธอทำหน้าแบบนั้นเพราะฉันให้งบมากไปสินะ” เพราะตอนนี้คุณทัตเองก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่ามันมากไปจริงๆและเมียเด็กของเขาคงไม่ซื้อทั้งหมดที่เขาให้ “มากไปแบบมากๆค่ะ” “งั้นตามใจเธอแล้วกันว่าอยากได้เท่าไหร่ อยากซื้ออะไรบ้าง” จันทร์เจ้ายก
“เด็กดีรู้หรือเปล่าว่ามีคนกำลังมองเราสองคนเยอะเลย” คุณทัตพูดขึ้นทันทีเพราะไอ้คนที่มองมาไม่ได้พึ่งจะมามองตอนเขามาหรอกแต่มองตั้งแต่แรกตั้งแต่ตอนที่เมียเด็กของเขาอยู่กับเพื่อนสนิท “มองแล้วทำไมหรอ ป๋าอายหรอที่หนูนั่งแบบนี้” จันทร์เจ้าที่คร่อมอยู่บนตักมุ่ยหน้าทันที อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยที่ทำให้เธองอแงขนาดนี้“ไม่อายหรอกเพราะฉันอยากให้เธอทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ” เพราะการที่จันทร์เจ้าทำมากกว่านี้มันก็เหมือนเป็นการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอคือของเขา “ไม่ได้หรอกคนมองเยอะ” ถึงปากจะบอกไม่ได้แต่ตอนนี้ใบหน้าสวยก้มลงคลอเคลียกับลำคอของเขาไปแล้ว แน่นอนว่าคุณทัตเองก็เอียงคอให้จันทร์เจ้าทำได้ง่ายมากขึ้นเพราะไม่งั้นเมียเด็กที่กำลังเมาอาจจะงอแงมากกว่าเดิม “ถ้าป๋ามีรอยคงจะดีไม่น้อยเลย จริงไหม” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับมือเล็กที่ลูบไปตามลำคอของคุณป๋า “อยากทำอะไรก็ทำเลย” จันทร์เจ้ายกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของคุณทัตก่อนที่เธอจะดูดและขบเม้มเบาๆที่ลำคอของคุณป๋าจนเป็นสีดอกกุหลาบจางๆ “ถ้ามีผู้หญิงเข้าใกล้ ป๋าโชว์รอยเลยนะ” “แค่เธอนั่งบนตักฉันแบบนี้ก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งแล้วล่ะจันทร์เจ้า” ทุกคนก็ได
สนามบิน “เราจะไปประเทศอะไร ป๋ายังไม่ได้บอกหนูเลยนะ” เสียงหวานของจันทร์เจ้าถามคุณทัตขึ้นทันทีเพราะขนาดตอนนี้ที่กำลังจะบินแล้ว เธอยังไม่รู้เลยว่าคุณป๋าจะพาไปที่ไหน “อยากรู้หรอ” คุณทัตถามขึ้นเพราะที่เขาไม่บอกเพราะเขาต้องการจะเซอร์ไพรส์เมียเด็กทีเดียวแต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้วเพราะเมียเด็กของเขาเอาแต่ถามเพราะความอยากรู้ “อยากรู้สิคะ อีกอย่างบินครั้งแรกของหนูด้วย หนูต้องอยากรู้อยู่แล้ว” จันทร์เจ้าพูดขึ้นอีกครั้งเพราะเธอตื่นเต้นและอยากรู้มากๆ “ไปตุรกี” แน่นอนว่าตอนนี้จันทร์เจ้าตกใจไม่น้อยกับคำตอบของคุณทัต “ไหนป๋าบอกว่าไปประเทศใกล้ๆ แต่นี่ไปถึงตุรกีเลยหรอ” จันทร์เจ้าถามขึ้นอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหู เธอก็ไม่คิดหรอกว่าคุณป๋าจะพาเธอไปไกลถึงขนาดนี้ “ฉันอยากพาเธอไปเที่ยวในที่สวยๆบรรยากาศดีๆ ครั้งนี้เลยเลือกไปตุรกี” คุณทัตบอกเหตุผลไปตามตรงเพราะที่เขาเลือกสถานที่นี้ก็เพราะบรรยากาศและความสวยงาม “เราจะขึ้นเครื่องตอนไหน รู้ไหมว่าหนูตื่นเต้นมาก” คุณทัตเอื้อมมือไปจับมือเล็กของเมียเด็ก เขาได้แต่ยกยิ้มออกมาเพราะมือเล็กของเมียเด็กเย็นไปหมด “ตื่นเต้นจนมือเย็นเลยหรอ” “ขะ…ขึ้นเครื่องครั้งแรก ไปต่างประเทศครั
“สัญญาเลยนะว่าฉันจะพาเธอเที่ยวที่สวยๆแบบนี้บ่อยๆ” สำหรับเมียเด็กของเขาแล้ว เธอควรได้รับอะไรดีๆพวกนี้และแน่นอนเขาจะเป็นคนมอบมันให้กับเธอ “ไปที่ไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่มีป๋าหนูก็พร้อมจะไปกับป๋าทุกที่” คุณทัตยกยิ้มขึ้นทันทีกับคำพูดของจันทร์เจ้าเพราะไม่ว่่าเวลาจะผ่านมากี่เดือน เธอก็ยังน่ารักกับเขาอยู่เสมอ “เด็กดีของฉัน” แน่นอนว่าจันทร์เจ้าเองก็เขินจนตัวบิดกับคำพูดของคุณทัตก่อนที่ทั้งสองจะเปลี่ยนท่ายืนเป็นจันทร์เจ้าที่กำลังหันหน้าออกไปมองบอลลูนต่างๆที่อยู่บนท้องฟ้าและแสงจากพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า คุณทัตที่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพด้านหลังของเมียเด็กและบรรยากาศรอบๆ ก่อนจะสะกิดเมียเด็กให้หันมาถ่ายรูปด้วยกัน “ขออีกรูปนะจันทร์เจ้า” คุณทัตพูดขึ้นทันทีพร้อมกับกดชัตเตอร์รัวๆเพราะไม่ว่าถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด สวยทั้งบรรยากาศ ทั้งเมียเด็กของเขา นานนับชั่วโมงที่บอลลูนลอยอยู่บนท้องฟ้าให้ผู้คนข้างบนได้ชมบรรยากาศ แน่นอนว่าทั้งคุณทัตกับจันทร์เจ้าไม่ปฏิเสธเลยว่ามันไม่สวยเพราะมันสวยมาก สวยจนไม่อยากละสายตาและไม่อยากให้เวลาหมดไปเพราะอยากจะอยู่บนบอลลูนนานๆ “ง่วงหรือเปล่า” คุณทัตถา
หลายปีผ่านไป “เป็นยังไงบ้างคุณหมอตัวน้อยของฉัน” คุณทัตกางแขนออกกว้างเพื่อรอคุณหมอตัวน้อยหรือเมียเด็กของเขาเข้ามากอดเพราะตอนนี้เมียเด็กของเขาเรียนจบแล้วอีกทั้งยังเป็นแพทย์หญิงสุดสวยประจำโรงพยาบาลอีกด้วย “เหนื่อยมากเลยค่ะ วันนี้คนไข้เยอะมาก” ด้านจันทร์เจ้าเองก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปหาคุณป๋าของตัวเองเพราะทุกวันที่เธอกลับมาจากโรงพยาบาล เธอก็จะมีอ้อมกอดอุ่นๆของคุณป๋ารออยู่เสมอ “เหนื่อยก็ลาออกมาอยู่เฉยๆ ฉันเลี้ยงเธอได้สบายเลยนะ” นี่ก็เป็นประโยคที่คุณทัตพูดขึ้นทุกวันเมื่อเมียเด็กบ่นว่าเหนื่อย “ทำงานยังไม่คุ้มกับที่เรียนมาเลย หนูไม่ลาออกหรอกนะ” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีเพราะเธอรักการเป็นหมอและรักในการได้รักษาคนอื่น “ตามใจเธอ แต่รู้ใช่ไหมเรียนจบแล้วยังมีอีกหนึ่งอย่างที่เธอต้องทำ” คุณทัตพูดขึ้นเพราะสิ่งเดียวที่เขารอมานานมันมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น “อะไรหรอคะ” ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกแต่จันทร์เจ้าก็เลือกที่จะถามออกไป “มีลูกกับฉันไงจันทร์เจ้า รู้ไหมว่าฉันเลี้ยงลูกของเพื่อนมานานถึงหกปีแล้วนะ” ฟังไม่ผิดหรอกเพราะทุกวันนี้คุณทัตอยากมีลูกเต็มแก่แล้วเพราะอายุของเขาก็ปาไปถึงวัยสามสิบหกแต่ยังไม่มีลูกสั
“ถ้าลูกเรียกฉันว่าป๊ะป๋า รู้ไหมว่าลูกต้องเรียกเธอว่าอะไร” คุณทัตพูดขึ้นทันทีทำจันทร์เจ้ายกยิ้มขึ้นอีกครั้งเพราะเธอคิดคำที่จะให้เจ้าแฝดเรียกไว้แล้วล่ะ“ลูกก็เรียกหนูว่าหม่าม้า” จันทร์เจ้าตอบกลับไปเพราะคำว่าหม่าม้าเข้ากับป๊ะป๋าสุดๆไปเลย“ส่วนฉันก็จะเรียกเธอว่าหม่าม้าด้วยดีไหมจันทร์เจ้า” แน่นอนว่าคำพูดนี้ของคุณทัตทำเอาเมียเด็กอย่างจันทร์เจ้าหน้าแดงขึ้นสีเพราะความเขินอาย “หม่าม้าจันทร์เจ้า แบบนี้โอเคไหม” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเมียเด็กเกิดอาการเขินเพราะท่าทางของเธอมันน่ารักจนอดใจที่จะแกล้งไม่ได้ “ไม่โอเคเพราะหนูเขิน” จันทร์เจ้าตอบกลับไปเพราะตอนนี้เธอเขินจนตัวแทบแตกแล้ว“งั้นฉันจะเรียกเธอว่าหม่าม้านี่แหละ เธอจะได้หายเขินดีไหม” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่าจันทร์เจ้าส่ายหัวอย่างไวเพราะเธอไม่มีทางหายเขินหรอก ขนาดคำว่าเมียเธอยังเขินไปสิบวัน ขืนคุณทัตเรียกเธอว่าหม่าม้าเธอได้เขินไปเป็นเดือนแน่ “ให้ลูกเรียกได้อย่างเดียว” จันทร์เจ้ายื่นคำขาดออกมาทำเอาหัวใจคุณป๋าห่อเหี่ยวเพราะแกล้งเมียเด็กไม่ได้แล้ว “ยอมก็ได้ เห็นว่าเป็นลูกหรอกนะ” พูดจบคุณทัตก็ก้มหน้าลงไปแนบกับหน้าท้องที่นูนออกมาเล
“เห็นไหม หม่าม้าบอกแล้วเดี๋ยวฟันจะหลุด” หม่าม้าคนสวยพูดขึ้นทันทีพร้อมกับหยิบแอปเปิลออกจากมือลูกชายทั้งสองดูไปดูมาก็อดจะขำไม่ได้ เด็กอะไรไม่รู้ฟันหลุดออกมากับแอปเปิลที่กัด น่าขำเสียจริง “สมุทรอดเป็นคนหล่อเลย” เหนือสมุทรพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ฟันน้ำนมของตัวเองหลอไปสองซี่ยิ่งกว่าเหนือนทีกับเหนือนภาเสียอีก “เวหาว่าเรายังหล่อเหมือนเดิม” เหนือเวหาที่กำลังปลอบใจตัวเองก็หันไปปลอบใจพี่ชายคนโตอย่างเหนือสมุทรเพราะทั้งสองคนฟันหลุดออกมาสองซี่หน้าบ้านเหมือนกัน“ฮ่าๆ ดีนะเลือดไม่ออก” ป๊ะป๋าที่สำรวจดูปากของลูกชายตัวแสบพูดขึ้นทันที ใจจริงก็อยากสงสารอยู่หรอกแต่ตอนนี้มันสงสารไม่ได้จริงๆ “ยินดีต้อนรับสู่แก๊งฟันหลอ” เหนือนภาพูดขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้พี่ชายทั้งสามคนฟันหลอเหมือนกับเธอหมดแล้ว“ไม่ได้อยากเข้าหรอก” เหนือเวหาพูดขึ้นเพราะตัวเองไม่ได้อยากฟันหลอสักนิดและมันก็เป็นเพราะเจ้าแอปเปิลลูกนั้น“ต่อจากนี้สมุทรจะไม่กัดแอปเปิลแบบนั้นอีกแล้ว” เหนือสมุทรพูดขึ้นอีกครั้งเพราะฟังใจไปแล้วว่าการกัดแอปเปิลทำเอาฟันหลุดถึงสองซี่ “เวหาด้วย” เหนือเวหาที่เห็นดีเห็นงามกับพี่ชายคนโตก็พูดขึ้นทันที ก่อนที่เหตุการณ์ในห้
หลายปีผ่านไป “หม่าม้า สมุทรอยากกินช็อกโกแลต” เสียงพี่ชายคนโตอย่างเหนือสมุทรพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้หม่าม้าคนสวยกำลังยืนจัดขนมอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว“หม่าม้าจะให้กินต่อเมื่อสมุทรไปตามป๊ะป๋ากับน้องๆขึ้นจากสระน้ำ” เพราะตอนนี้แฝดอีกสามคนรวมถึงป๊ะป๋าอย่างคุณทัตไม่ยอมขึ้นจากน้ำสักที มีแต่เหนือสมุทรพี่คนโตของบ้านนี่แหละที่ขึ้นมาหวังจะอ้อนหม่าม้าเพื่อเอาช็อกโกแลต “หม่าม้าให้สมุทรก่อนหนึ่งชิ้น เดี๋ยวสมุทรไปตามให้” นั่นแหละนิสัยหนึ่งอย่างของพี่ชายคนโตอย่างเหนือสมุทร เจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกิน “ให้สองชิ้นเลยครับแล้วไปตามป๊ะป๋ากับน้องๆนะ” หม่าม้าคนสวยอย่างจันทร์เจ้าส่งช็อกโกแลตให้ลูกชายคนโตก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งแจ้นออกไปที่สระว่ายน้ำข้างบ้าน “ป๊ะป๋า ขึ้นได้แล้วหม่าม้าให้มาตามแล้วนะ” เหนือสมุทรเดินตรงไปหาป๊ะป๋าที่กำลังยืนพิงขอบสระ“โอเคครับ สมุทรรอป๋าก่อนนะ ป๋าไปพาน้องๆขึ้นก่อน” ป๊ะป๋าแฝดสี่พูดขึ้นทันทีก่อนจะตรงไปอุ้มแฝดสามที่อยู่ในน้ำขึ้นข้างบนทีเดียวพร้อมกันสามคน “หนูยังไม่อยากขึ้นเลยป๊ะป๋า” น้องเล็กอย่างเหนือนภาที่มีนิสัยขี้อ้อนกอดขาป๊ะป๋าพร้อมกับพูดขึ้น “รีบไปอาบน้ำกันดีกว่าเพราะช้ากว่านี้หม่าม้
“เป็นยังไงบ้างจันทร์เจ้า โอเคไหม” น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของคุณทัตเอ่ยถามภรรยาตัวน้อยขึ้นทันทีเพราะตอนนี้จันทร์เจ้าออกจากห้องคลอดได้สักพักแล้ว “หนูโอเค แล้วลูกล่ะคะป๋า” แน่นอนว่าหม่าม้ามือใหม่ที่ตื่นขึ้นมาก็ได้แต่ถามหาเจ้าเด็กแฝดสี่เพราะตอนนี้ไม่เห็นลูกน้อยของเธอสักคน “เดี๋ยวพยาบาลพามาครับ รู้ไหมลูกของเราไม่ต้องอยู่ในตู้อบนะ แข็งแรงทุกคนเลย”“ดีแล้วค่ะ หนูอยากอุ้มลูกแล้ว ป๋าไปตามให้หน่อยได้ไหม” เพราะหม่าม้ามือใหม่คนนี้เห็นหน้าลูกแค่ตอนที่คุณหมอรุ่นพี่เอาออกมาเท่านั้นและตอนนี้เธอก็อยากอุ้มเจ้าเด็กแฝดสี่แล้ว “ฮ่าๆ ใจเย็นๆนะครับหม่าม้า เดี๋ยวเขาพามานะ” คุณทัตลูบหัวเมียเด็กของตัวเองทันทีเพราะดูเหมือนตอนนี้จันทร์เจ้าจะไม่เอาอะไรแล้วนอกจากเจ้าเด็กแฝดสี่อย่างเดียว “เอาน้องมาส่งค่ะ” เสียงของคุณหมอรุ่นพี่ที่ทำคลอดให้กับจันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับพยาบาลอีกสามคนที่ช่วยกันเข็นเตียงสำหรับเด็กแรกเกิดเข้ามาในห้อง จันทร์เจ้าที่พึ่งได้เป็นหม่าม้าเต็มตัวในวันแรกก็ได้แต่น้ำตาไหลออกมาเมื่อมองภาพเจ้าเด็กแฝดกำลังนอนเรียงกันอยู่ “น่ารักจนใจเจ็บเลยลูกหม่าม้า” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับลงจากเตียงเ
หลายอาทิตย์ผ่านไป “ตื่นเต้นไหมคะจะได้รู้เพศลูกแล้ว” จันทร์เจ้าถามคุณป๋าขึ้นทันทีเพราะตอนนี้คุณป๋าของเธอมาหาเธอที่โรงพยาบาลเตรียมจะไปตรวจเพศลูก“ตื่นเต้นสิ ไม่รู้ว่าเจ้าแฝดในท้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” คุณทัตพูดขึ้น แต่ในใจก็กลับภาวนาขอให้เป็นลูกชายเพราะถ้าเป็นลูกสาวเขาคงต้องหวงมากแน่ๆ “ป๋าอยากได้ลูกสาวหรือลูกชายคะ” จันทร์เจ้าถามขึ้นทันทีพร้อมลูบท้องโตๆของตัวเองไปด้วย “อยากได้ลูกชายทั้งสามคน” คุณทัตตอบกลับไปตามตรง ไม่ใช่ไม่อยากได้ลูกสาวแต่แค่คิดถึงอนาคตตอนมีคนมาจีบลูกสาวก็แทบจะบ้าแล้ว “เพราะอะไรคะ” จันทร์เจ้าถามกลับอีกครั้ง เธออยากรู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมคุณป๋าของเธอถึงอยากได้ลูกชายอย่างเดียว“เพราะถ้าเป็นลูกสาวหากมีคนมาจีบ ฉันคงหวงมากแน่ๆ” ประโยคนี้ของคุณทัตทำเอาจันทร์เจ้าหลุดหัวเราะออกมาเพราะเธอก็ไม่คิดหรอกว่าป๊ะป๋าของเจ้าแฝดจะคิดไปไกลขนาดนี้ “เดี๋ยวจะออกมาเป็นลูกสาวทั้งสาวคน” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีทำเอาคุณทัตหน้าบึ้งในทันตาเพราะถ้าเป็นลูกสาวสามคนมีหวังป๊ะป๋าของเจ้าแฝดคงไว้หนวดไว้เคราทำตัวเซอร์ๆแล้วล่ะ “มาเถอะ ลูกสาวหรือลูกชายก็ลูกฉันทั้งนั้น” สุดท้ายก็ได้แต่จำยอมเพราะยังไงเข
“ถ้าลูกเรียกฉันว่าป๊ะป๋า รู้ไหมว่าลูกต้องเรียกเธอว่าอะไร” คุณทัตพูดขึ้นทันทีทำจันทร์เจ้ายกยิ้มขึ้นอีกครั้งเพราะเธอคิดคำที่จะให้เจ้าแฝดเรียกไว้แล้วล่ะ“ลูกก็เรียกหนูว่าหม่าม้า” จันทร์เจ้าตอบกลับไปเพราะคำว่าหม่าม้าเข้ากับป๊ะป๋าสุดๆไปเลย“ส่วนฉันก็จะเรียกเธอว่าหม่าม้าด้วยดีไหมจันทร์เจ้า” แน่นอนว่าคำพูดนี้ของคุณทัตทำเอาเมียเด็กอย่างจันทร์เจ้าหน้าแดงขึ้นสีเพราะความเขินอาย “หม่าม้าจันทร์เจ้า แบบนี้โอเคไหม” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเมียเด็กเกิดอาการเขินเพราะท่าทางของเธอมันน่ารักจนอดใจที่จะแกล้งไม่ได้ “ไม่โอเคเพราะหนูเขิน” จันทร์เจ้าตอบกลับไปเพราะตอนนี้เธอเขินจนตัวแทบแตกแล้ว“งั้นฉันจะเรียกเธอว่าหม่าม้านี่แหละ เธอจะได้หายเขินดีไหม” คุณทัตพูดขึ้นอีกครั้ง แน่นอนว่าจันทร์เจ้าส่ายหัวอย่างไวเพราะเธอไม่มีทางหายเขินหรอก ขนาดคำว่าเมียเธอยังเขินไปสิบวัน ขืนคุณทัตเรียกเธอว่าหม่าม้าเธอได้เขินไปเป็นเดือนแน่ “ให้ลูกเรียกได้อย่างเดียว” จันทร์เจ้ายื่นคำขาดออกมาทำเอาหัวใจคุณป๋าห่อเหี่ยวเพราะแกล้งเมียเด็กไม่ได้แล้ว “ยอมก็ได้ เห็นว่าเป็นลูกหรอกนะ” พูดจบคุณทัตก็ก้มหน้าลงไปแนบกับหน้าท้องที่นูนออกมาเล
หลายปีผ่านไป “เป็นยังไงบ้างคุณหมอตัวน้อยของฉัน” คุณทัตกางแขนออกกว้างเพื่อรอคุณหมอตัวน้อยหรือเมียเด็กของเขาเข้ามากอดเพราะตอนนี้เมียเด็กของเขาเรียนจบแล้วอีกทั้งยังเป็นแพทย์หญิงสุดสวยประจำโรงพยาบาลอีกด้วย “เหนื่อยมากเลยค่ะ วันนี้คนไข้เยอะมาก” ด้านจันทร์เจ้าเองก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปหาคุณป๋าของตัวเองเพราะทุกวันที่เธอกลับมาจากโรงพยาบาล เธอก็จะมีอ้อมกอดอุ่นๆของคุณป๋ารออยู่เสมอ “เหนื่อยก็ลาออกมาอยู่เฉยๆ ฉันเลี้ยงเธอได้สบายเลยนะ” นี่ก็เป็นประโยคที่คุณทัตพูดขึ้นทุกวันเมื่อเมียเด็กบ่นว่าเหนื่อย “ทำงานยังไม่คุ้มกับที่เรียนมาเลย หนูไม่ลาออกหรอกนะ” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีเพราะเธอรักการเป็นหมอและรักในการได้รักษาคนอื่น “ตามใจเธอ แต่รู้ใช่ไหมเรียนจบแล้วยังมีอีกหนึ่งอย่างที่เธอต้องทำ” คุณทัตพูดขึ้นเพราะสิ่งเดียวที่เขารอมานานมันมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น “อะไรหรอคะ” ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกแต่จันทร์เจ้าก็เลือกที่จะถามออกไป “มีลูกกับฉันไงจันทร์เจ้า รู้ไหมว่าฉันเลี้ยงลูกของเพื่อนมานานถึงหกปีแล้วนะ” ฟังไม่ผิดหรอกเพราะทุกวันนี้คุณทัตอยากมีลูกเต็มแก่แล้วเพราะอายุของเขาก็ปาไปถึงวัยสามสิบหกแต่ยังไม่มีลูกสั
“สัญญาเลยนะว่าฉันจะพาเธอเที่ยวที่สวยๆแบบนี้บ่อยๆ” สำหรับเมียเด็กของเขาแล้ว เธอควรได้รับอะไรดีๆพวกนี้และแน่นอนเขาจะเป็นคนมอบมันให้กับเธอ “ไปที่ไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่มีป๋าหนูก็พร้อมจะไปกับป๋าทุกที่” คุณทัตยกยิ้มขึ้นทันทีกับคำพูดของจันทร์เจ้าเพราะไม่ว่่าเวลาจะผ่านมากี่เดือน เธอก็ยังน่ารักกับเขาอยู่เสมอ “เด็กดีของฉัน” แน่นอนว่าจันทร์เจ้าเองก็เขินจนตัวบิดกับคำพูดของคุณทัตก่อนที่ทั้งสองจะเปลี่ยนท่ายืนเป็นจันทร์เจ้าที่กำลังหันหน้าออกไปมองบอลลูนต่างๆที่อยู่บนท้องฟ้าและแสงจากพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นสู่ท้องฟ้า คุณทัตที่เห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพด้านหลังของเมียเด็กและบรรยากาศรอบๆ ก่อนจะสะกิดเมียเด็กให้หันมาถ่ายรูปด้วยกัน “ขออีกรูปนะจันทร์เจ้า” คุณทัตพูดขึ้นทันทีพร้อมกับกดชัตเตอร์รัวๆเพราะไม่ว่าถ่ายมุมไหนก็สวยไปหมด สวยทั้งบรรยากาศ ทั้งเมียเด็กของเขา นานนับชั่วโมงที่บอลลูนลอยอยู่บนท้องฟ้าให้ผู้คนข้างบนได้ชมบรรยากาศ แน่นอนว่าทั้งคุณทัตกับจันทร์เจ้าไม่ปฏิเสธเลยว่ามันไม่สวยเพราะมันสวยมาก สวยจนไม่อยากละสายตาและไม่อยากให้เวลาหมดไปเพราะอยากจะอยู่บนบอลลูนนานๆ “ง่วงหรือเปล่า” คุณทัตถา
สนามบิน “เราจะไปประเทศอะไร ป๋ายังไม่ได้บอกหนูเลยนะ” เสียงหวานของจันทร์เจ้าถามคุณทัตขึ้นทันทีเพราะขนาดตอนนี้ที่กำลังจะบินแล้ว เธอยังไม่รู้เลยว่าคุณป๋าจะพาไปที่ไหน “อยากรู้หรอ” คุณทัตถามขึ้นเพราะที่เขาไม่บอกเพราะเขาต้องการจะเซอร์ไพรส์เมียเด็กทีเดียวแต่ตอนนี้คงไม่ได้แล้วเพราะเมียเด็กของเขาเอาแต่ถามเพราะความอยากรู้ “อยากรู้สิคะ อีกอย่างบินครั้งแรกของหนูด้วย หนูต้องอยากรู้อยู่แล้ว” จันทร์เจ้าพูดขึ้นอีกครั้งเพราะเธอตื่นเต้นและอยากรู้มากๆ “ไปตุรกี” แน่นอนว่าตอนนี้จันทร์เจ้าตกใจไม่น้อยกับคำตอบของคุณทัต “ไหนป๋าบอกว่าไปประเทศใกล้ๆ แต่นี่ไปถึงตุรกีเลยหรอ” จันทร์เจ้าถามขึ้นอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหู เธอก็ไม่คิดหรอกว่าคุณป๋าจะพาเธอไปไกลถึงขนาดนี้ “ฉันอยากพาเธอไปเที่ยวในที่สวยๆบรรยากาศดีๆ ครั้งนี้เลยเลือกไปตุรกี” คุณทัตบอกเหตุผลไปตามตรงเพราะที่เขาเลือกสถานที่นี้ก็เพราะบรรยากาศและความสวยงาม “เราจะขึ้นเครื่องตอนไหน รู้ไหมว่าหนูตื่นเต้นมาก” คุณทัตเอื้อมมือไปจับมือเล็กของเมียเด็ก เขาได้แต่ยกยิ้มออกมาเพราะมือเล็กของเมียเด็กเย็นไปหมด “ตื่นเต้นจนมือเย็นเลยหรอ” “ขะ…ขึ้นเครื่องครั้งแรก ไปต่างประเทศครั
“เด็กดีรู้หรือเปล่าว่ามีคนกำลังมองเราสองคนเยอะเลย” คุณทัตพูดขึ้นทันทีเพราะไอ้คนที่มองมาไม่ได้พึ่งจะมามองตอนเขามาหรอกแต่มองตั้งแต่แรกตั้งแต่ตอนที่เมียเด็กของเขาอยู่กับเพื่อนสนิท “มองแล้วทำไมหรอ ป๋าอายหรอที่หนูนั่งแบบนี้” จันทร์เจ้าที่คร่อมอยู่บนตักมุ่ยหน้าทันที อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยที่ทำให้เธองอแงขนาดนี้“ไม่อายหรอกเพราะฉันอยากให้เธอทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ” เพราะการที่จันทร์เจ้าทำมากกว่านี้มันก็เหมือนเป็นการประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเธอคือของเขา “ไม่ได้หรอกคนมองเยอะ” ถึงปากจะบอกไม่ได้แต่ตอนนี้ใบหน้าสวยก้มลงคลอเคลียกับลำคอของเขาไปแล้ว แน่นอนว่าคุณทัตเองก็เอียงคอให้จันทร์เจ้าทำได้ง่ายมากขึ้นเพราะไม่งั้นเมียเด็กที่กำลังเมาอาจจะงอแงมากกว่าเดิม “ถ้าป๋ามีรอยคงจะดีไม่น้อยเลย จริงไหม” จันทร์เจ้าพูดขึ้นทันทีพร้อมกับมือเล็กที่ลูบไปตามลำคอของคุณป๋า “อยากทำอะไรก็ทำเลย” จันทร์เจ้ายกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของคุณทัตก่อนที่เธอจะดูดและขบเม้มเบาๆที่ลำคอของคุณป๋าจนเป็นสีดอกกุหลาบจางๆ “ถ้ามีผู้หญิงเข้าใกล้ ป๋าโชว์รอยเลยนะ” “แค่เธอนั่งบนตักฉันแบบนี้ก็ไม่มีใครเข้ามายุ่งแล้วล่ะจันทร์เจ้า” ทุกคนก็ได