คุยกับพ่อตารู้เรื่อง กองทัพก็เลยเอากระเป๋าเข้ามาในห้องนอน ชายหนุ่มมองไปรอบๆ มีแค่ตู้ที่เป็นลิ้นชัก และตู้กระจกเก่าๆ เตียงนอนที่มีฟูกแข็งๆ
"ฉันช่วยค่ะ" หญิงสาวเอื้อมมือมารับกระเป๋าจากเขาเพื่อเอาไปพับเก็บไว้ในลิ้นชัก
ชายหนุ่มปล่อยให้เธอเป็นคนจัดการ แล้วก็เดินมานั่งลงที่เตียง พอสะโพกแตะกับพื้นที่นอนดวงตาคมถึงกับมองต่ำลงไปดู
แล้วสายตานั้นก็มองไปรอบๆ ห้อง คนร่างสูงรีบลุกเดินมาเปิดประตูมองออกไปด้านนอกโดยไม่ถาม ที่เขามองก็คือดูว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน เพราะในห้องนี้ไม่มี
ที่กรมกองทัพก็มีบ้านพักประจำตำแหน่ง ช่วงไหนไม่อยากกลับบ้านก็พักบ้านพักที่ถูกจัดไว้ให้ แต่สภาพมันไม่ได้ทรุดโทรมแบบนี้
"ถ้าจัดอะไรกันเสร็จแล้วก็มาทานข้าว" เห็นลูกเขยยืนอยู่หน้าประตู ท่านพลเอกก็เลยเรียกออกมา
"ทานข้าวหรือครับ?" กองทัพมองไปที่โต๊ะเห็นว่าท่านกำลังจัดเตรียมกับข้าว มันเกิดอะไรขึ้นกับท่าน ไม่คิดว่าจะเห็นภาพนี้
"ทำไมคุณพ่อไม่ให้โมนาทำล่ะคะ" หญิงสาวได้ยินเสียงที่พ่อเรียกมาทานข้าว เธอก็รีบวางผ้าที่พับอยู่ก่อน
"แค่นี้พ่อทำเองได้" มันเป็นการผูกปิ่นโตกับแม่ค้าในค่ายทหาร แต่ท่านจะผูกแค่ตอนเย็น เพราะเช้ากับเที่ยงท่านไปทานที่กองบัญชาการ
"โมนาทำเองค่ะ" เดินออกมาท่านก็กำลังจะตักข้าวให้
"พ่อทำจนชินแล้วเรานั่งเถอะ"
กองทัพไม่คิดเลยว่าท่านจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้มากถึงเพียงนี้ ถ้าไม่มาเห็นกับตา ใครพูดให้ฟังเขาคงไม่เชื่อ
"ขอบคุณค่ะ" มโนราห์กล่าวขอบคุณพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้พ่อ ตอนที่ท่านตักอาหารวางใส่จานให้
และเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ทำให้กองทัพสนใจอีกครั้ง ท่านคงจะรักและเอ็นดูลูกสาวคนนี้มาก ทำไมเขาถึงจะไม่รู้เรื่องเมขลาที่ถูกทอดทิ้ง แต่กลับลูกสาวคนนี้ ท่านส่งเสียเลี้ยงดู แถมยังรักใคร่ มันไม่แฟร์กับอีกคนหนึ่งเลย
"ทานสิผู้พันไม่อร่อยเหรอ"
"อร่อยครับใครทำให้ครับเนี่ย"
"แม่ค้าในค่ายนี่แหละ"
มโนราห์เห็นสายตาเขาตอนที่พ่อเทคแคร์เธอ มันดูแปลกๆ หวังว่าคงไม่คิดอกุศลอีกนะ
ทานข้าวเสร็จคนเป็นพ่อก็เลยปล่อยให้ลูกสาวเก็บโต๊ะล้างทำความสะอาด แล้วท่านก็มานั่งคุยกับลูกเขยอยู่โต๊ะรับแขกใกล้ๆ กัน
เพล้ง! เสียงนี้ดังขึ้นในครัว ตอนที่เธอได้ยินพ่อถามเขาเรื่องเมื่อไรจะได้อุ้มหลาน
คนเป็นพ่อรีบลุกเดินมาดูลูกสาว โดยที่สามีเธอยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
"ขอโทษค่ะโมนาซุ่มซ่ามเอง"
"ทีหลังก็ระวัง ออกมาเดี๋ยวพ่อเก็บกวาดเอง"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"ผมทำดีกว่าครับ" จะไม่มาดูมันก็คงดูไม่ดี เข้ามาถึงเขาก็เลยก้มลงไปเก็บเศษถ้วยที่แตก มโนราห์ก็ก้มลงไปพร้อมกัน เรวทัตก็เลยปล่อยให้เด็กๆ จัดการกันเอง
พอคล้อยสายตาพ่อของเธอแล้ว ชายหนุ่มก็ปล่อยให้เธอเป็นคนทำ โดยที่เขายืนมองแบบพิจารณา ที่พิจารณาไม่ใช่อะไรหรอก เพราะเจอเธอทีไรผู้ชายไม่ซ้ำหน้าสักคน แม้แต่กับลูกน้องของเขาเอง
เก็บกวาดทุกอย่างเสร็จมโนราห์ก็กลับมาที่ห้องนอน เข้ามาถึงก็เห็นว่าเขากำลังเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ หญิงสาวก็เลยพับผ้าต่อให้เสร็จ
ชายหนุ่มอาบน้ำกลับมา เธอถึงได้เตรียมตัวออกไปอาบน้ำบ้าง
"กรี๊ดดด" เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก็เห็นแขกไม่ได้รับเชิญ ตัวเกือบจะเท่ากับที่อยู่เฮลิคอปเตอร์
ทั้งพ่อและกองทัพรีบออกมาดูว่าเธอเป็นอะไร
มโนราห์หันไปกอดคนที่มาถึงก่อนแบบหวาดกลัว
"ช่วยเอามันออกไปที" หญิงสาวแนบใบหน้ากับแผ่นอกของผู้ชายที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เพราะเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
"ออกมาดีกว่าเดี๋ยวพ่อจัดการให้" คนเป็นพ่อที่ยืนอยู่ด้านหลังบอกให้ลูกเขยพาลูกสาวออกมาก่อน "ไปอาบน้ำในห้องพ่อก่อนไป"
"คุณพ่อไม่กลัวเหรอคะ" มโนราห์ยังคงกลัวจนไม่กล้าปล่อยคนที่เธอกอดอยู่
"จะกลัวทำไมตัวแค่นี้เอง"
"ตัวแค่นี้อะไรตัวใหญ่เบ้อเริ่มเลย"
"พาน้องไปห้องพ่อก่อนไป"
"ครับ" จังหวะที่กองทัพกำลังจะพาเธอเดินไป มโนราห์รั้งตัวเขาไว้ไม่กล้าขยับออกห่าง ชายหนุ่มถึงได้มองต่ำลงมาดูว่าทำไมเธอไม่เดิน พอรู้ว่าทำไมเขาก็เลยจับผ้าเช็ดตัวที่กำลังจะหลุดของเธอไว้ให้
"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวรีบเหน็บผ้าเช็ดตัวให้เรียบร้อยใหม่อีกครั้ง
กองทัพพาเธอมาจนถึงหน้าห้องของพ่อ
"ฉันเข้าไปเองได้ค่ะ"
"ไม่ได้ยินคำสั่งหรือไง" ว่าแล้วมือหนาก็เอื้อมไปเปิดประตูให้
อาบน้ำเสร็จทั้งสองก็เลยออกมาจากห้องนั้น
"อุ๊ย" หญิงสาวรีบหันหลังให้เมื่ออีกฝ่ายถอดผ้าเช็ดตัวออก เพื่อจะใส่กางเกงชั้นใน ..บ้าไปแล้วหรือไงคิดจะถอดก็ถอด
พอใส่กางเกงชั้นในเสร็จ เขาก็เดินไปเอนตัวลงนอนที่เตียง
"คุณไม่ใส่เสื้อผ้าเหรอ"
"ร้อนจะตาย" ห้องนี้มีแค่พัดลมตัวเดียว แถมไม่มีมุ้ง
หญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบมิดชิด เพราะถึงเธอจะใส่ชุดชั้นในก็ไม่ได้ถอดผ้าเช็ดตัวออกแบบเขา พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จมโนราห์ก็ปิดไฟในห้องเตรียมจะเข้านอน
ถึงแม้รู้อยู่ว่าเขาคงไม่แตะเนื้อต้องตัวเธอ แต่ก็อดใจเต้นแรงไม่ได้ เมื่อรู้ว่าต้องได้นอนข้างผู้ชายแถมยังเป็นสามีอีก
ผ่านไปสักพัก..
แป๊ะ! แป๊ะ!
หวี่~ แป๊ะ!! "โอ๊ย"
"ขอโทษค่ะ" หญิงสาวเล็งใส่เสียงยุงที่บินอยู่ข้างหู แต่ลงแรงมากเกินไปจนคว้าถูกลำตัวคนที่กำลังจะหลับ
ชายหนุ่มขยับออกห่างอีกนิดหนึ่ง ให้พ้นรัศมีฝ่ามือของเธอ
ทำไมยุงไม่สนใจเขาบ้างล่ะ มาหอมอะไรกับเราเนี่ย ..เพียงไม่นานยุงตัวเดิมก็บินกลับมา
แป๊ะ!!
"ขอโทษค่ะ" ถึงแม้เขาจะขยับออกไปแล้วแต่ก็ถูกฝ่ามือเธออยู่ดี
"ต้องการอะไรหรือเปล่า" เดินทางมาก็เหนื่อย แถมยังถูกก่อกวนตอนใกล้จะหลับอีก
"ฉันตบยุง"
"แต่เท่าที่ดูคุณไม่ได้ตบยุง"
"ก็ยุงมันบินมาแต่ฝั่งนี้นี่คะ" เสียงหวานเปล่งออกมาเพียงแค่เบาๆแบบสำนึกผิด
"ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะชอบผู้หญิงแบบคุณ"
"ผู้หญิงแบบฉันเป็นยังไงหรือคะ" เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นยังไง
"คุณคงจะได้เลือดนักแสดงจากแม่มาเยอะเลยสิท่า"
"ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูด" เธอไม่รู้หรอกว่าคำไหนพูดจริงคำไหนประชด หรือบางทีมันอาจจะเป็นคำด่าแม่ก็ได้ แต่หญิงสาวยังไม่อยากคิดเองเออเอง
"ตกลงมารยาคุณคงเยอะกว่าผู้หญิงทั่วไปล่ะสินะ"
"มารยาเหรอคะ?" มโนราห์อายุแค่นี้ แถมเธอเติบโตมาจากต่างประเทศ ถ้าไม่เพราะพ่อแม่เป็นคนไทย เธอคงจะพูดและฟังภาษาไทยไม่ออก หญิงสาวก็เลยอยากให้คนที่คุยด้วย พูดออกมาตรงๆ ถ้าอ้อมค้อมเธอตีความหมายไม่ถูก มันก็เลยทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเธอมารยา
แต่ยิ่งเธอทำแบบนั้นมันก็ยิ่งทำให้คนที่มองเธอไม่ดีอยู่แล้วโมโห จากที่คิดว่าจะนอนเอาแรง..
"คุณ?" หญิงสาวตกใจอยู่ดีๆ เขาก็พลิกตัวมาคร่อมร่างเธอทั้งตัว เพราะคิดว่าเธอกำลังเรียกร้องความสนใจ อยากให้เขาทำหน้าที่สามี
จมูกคมฝังลงที่ซอกคอระหงเพื่อสัมผัสกลิ่นกายอีกฝ่ายโดยที่เจ้าตัวนอนนิ่ง เขาแค่อยากทดลองว่าตัวเองจะมีความต้องการในตัวผู้หญิงคนนี้ไหม พอได้สัมผัสก็ไม่แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นตรงไหนแต่ถ้าเขาสังเกตอีกสักนิดจะรู้ว่าร่างกายของเธอสั่นกลัว ถึงแม้จะเติบโตอยู่ต่างประเทศ เธอก็ไม่เคยปล่อยตัวกับผู้ชายที่ไหน หลายคนอาจจะพูดว่าคนเป็นแม่อย่าทำให้เป็นเยี่ยงอย่างให้ลูกเห็น เดี๋ยวลูกจะเจริญตามรอย แต่พอเธอเห็นแม่คลอเคลียกับผู้ชายมากหน้าหลายตา บางทีก็ทำต่อหน้าเธอ แม่อาจจะคิดว่าเธอเด็กมากไม่รู้ประสีประสาและเหตุการณ์แบบนั้นแหละมันทำให้มโนราห์สาบานกับตัวเอง ว่าจะไม่ทำตัวเหมือนแม่ มันก็เลยเป็นการปิดกั้นตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ผู้ชายคนไหน แม้แต่เขาคนที่เป็นสามี ถ้าไม่เพราะแม่..คิดหรือว่าเธอจะสนใจผู้ชายคนนี้"อือ" ขณะที่หญิงสาวกำลังคิดเรื่องแม่และหวาดกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ริมฝีปากหนาขยับต่ำลงมาจนถึงเนินหน้าอก มโนราห์ห่อตัวเข้าเล็กน้อยขณะที่มือของเขาขยับชุดชั้นในลง เผยให้เห็นเม็ดเนื้อเล็กๆ ที่โผล่พ้นออกมา "อื้อ" หญิงสาวสะดุ้งเมื่อริมฝีปากของคนที่อยู่ด้านบนขบกัดเล็กน้อยลิ้นสากตวัดเลียวนรอบยอดเม็ดที่กำลังแข็งตัว
ดวงตากลมปิดลงเมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังส่งตัวตนของเขาเข้ามา อิจฉานะ อิจฉาคนที่เขามีอะไรกันเพราะความรัก แต่สำหรับเธอกำลังจะเสียไปเพราะแค่อีกฝ่ายอยากพิสูจน์ มันดูไร้ค่ามาก แต่ชีวิตเธอก็ไร้ค่าตั้งแต่เกิดแล้ว เพิ่มอีกสักอย่างจะเป็นไรไปเสียงกัดฟันดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางเล็กน้อย เพื่อระบายความเจ็บที่เขากำลังมอบมันมาให้ปลายยอดความแข็งแกร่งสอดใส่เข้าไปได้เพียงเล็กน้อย เขาก็ต้องได้จับมันออกมา แล้วเสียดสีกับยอดเม็ดเสียวเพื่อตั้งลำใหม่ ชายหนุ่มจับถูไถอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง แล้วก็ส่งมันเข้าไปอีกครั้ง"อื๊อ" เสียงนี้เล็ดลอดออกมาจากลำคอระหงเพียงเบาๆ เพราะเธอกลั้นความเจ็บไม่อยู่อีกแล้ว "??" ในเมื่อมันเข้ามาได้ประมาณหนึ่งแล้วทำไมเขาต้องเอาออกด้วย หรือเขาคิดว่าเธอไม่บริสุทธิ์แบบที่พูดไว้? หญิงสาวที่หลับตาอยู่ถึงกับเปิดกว้างขึ้น ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาคงจะดูถูกเธอมากกว่าเดิมที่กองทัพต้องดึงออกมาก่อน เพราะคิดว่าที่มันเข้าลำบากเพราะเธอยังไม่มีอารมณ์ร่วม เขาก็เลยต้องได้กระตุ้นเธอก่อนโดยการ.."อือ" มโนราห์ตกใจอยู่ดีๆ ใบหน้าคมก็ฝังลงไปที่เนินน้องสาว "ขะ..คุณทำอะไร" ในเวลานี้เธออ่านใจเขาไม่ออกเลยจร
เที่ยงวันนั้น.."กลับไปทานข้าวที่บ้านกันไหม" ค่ายทหารที่นี่ห่างจากชุมชน เพราะสร้างอยู่ในพื้นที่ราชการอันกว้างขวาง ถ้าจะออกไปทานด้านนอกก็ขับรถไกลหน่อย หรือไม่ก็เข้าไปทานในตัวเมืองขับรถเป็น 10 กิโลเมตร อีกทางเลือกหนึ่งก็คือทานร้านอาหารของแม่ค้าที่ประมูลขายของที่นี่ได้ แต่ถ้าทานร้านอาหารในค่าย ต้องเผื่อใจไว้เพราะทหารทุกชนชั้นไปที่นั่นกันหมดคนเยอะพลเอกเรวทัตก็เลยชวนลูกเขยกลับไปทานที่บ้าน เพราะสั่งแก้วใจให้ทำอาหารไว้เผื่อแล้ว"ครับ" เขาก็ยังไม่รู้ว่าต้องไปทานข้าวที่ไหน ก็เลยตามท่านกลับไปทานที่บ้านดีกว่าทั้งสองนั่งรถมาด้วยกัน โดยมีผู้พันกองทัพเป็นคนขับ"เตรียมอาหารเสร็จพอดีเลยค่ะ" แก้วใจรีบยกอาหารมาตั้งโต๊ะให้ เมื่อเห็นว่าทั้งสองท่านกลับมา"แล้วนี่ คุณหนูล่ะ" คนเป็นพ่อถามหาลูกสาวเมื่อไม่เห็น"คุณหนูให้แก้วเตรียมยามาให้เมื่อตอนกลางวัน และยังไม่เห็นออกมาจากห้องเลยค่ะ สงสัยว่าจะไม่สบาย""ไม่สบายเหรอ" ประโยคนี้กองทัพเป็นคนพูด แต่พอเห็นพ่อเธอหันมามองเขาก็เลยเงียบไป"ได้นอนพักหน่อยก็คงจะดีขึ้น เราทานข้าวกันเถอะ""ครับ" สายตาแอบมองไปที่ห้องเล็กน้อย เพราะห้องนอนก็อยู่ใกล้กันนี่เอง"พรุ่งนี้จะมีผู
"ดูผู้กองจะขยันจังเลยนะ" เรวทัตกลับมาถึงก็เห็นว่าผู้กองฉลามกำลังจัดการกับต้นไม้ใบหญ้ารอบบ้านพัก"ท่านกลับมาแล้วหรือครับ" ผู้กองฉลามวางอุปกรณ์ที่กำลังทำงานอยู่แล้วลุกขึ้นทำความเคารพ"ถูกทำโทษอะไรล่ะเรา" ทหารด้วยกันมองออก"ไม่ทราบเหมือนกันครับ""หึ..ถือว่ายืดเส้นยืดสาย""ครับผม""คุณพ่อกลับมาแล้วเหรอคะ" มโนราห์ยังไม่เข้าไปในห้อง เพราะเขาอยู่ในนั้น พอได้ยินเสียงพ่อก็รีบเดินออกมา"กลับมาแล้ว""คุณพ่อคะ""มีอะไร""คุณพ่อช่วยสั่งผู้กองฉลามหยุดหน่อยได้ไหมคะ" มโนราห์ออกมาบอกให้ฉลามหยุดครั้งหนึ่งแล้ว เพราะเธอคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ฉลามถูกทำโทษ แต่ไม่ได้ไปขอร้องคนที่สั่ง"พ่อสั่งหยุดไม่ได้หรอก ต้องให้คนที่สั่งลงโทษ""คุณพ่อใหญ่กว่านี่คะ""ใหญ่กว่าก็สั่งไม่ได้"ในเมื่อช่วยผู้กองฉลามไม่ได้ หญิงสาวก็เลยไปทำความสะอาดช่วย"คุณกำลังจะทำอะไร" ฉลามตกใจอยู่ดีๆ เธอก็เดินมาหอบหญ้าที่เขากองไว้"ช่วยคุณทำจะได้เสร็จเร็วๆ""ไม่ต้องหรอกครับผมทำเองได้""ฉันจะช่วย" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปถือกรรไกรตัดกิ่งไม้ แล้วก็ช่วยผู้กองฉลามทำงาน"อุ๊ย?" ฉลามมองมโนราห์อยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปกำลังจะจับจอบเพื่อจัดการกับหญ้า
เช้าวันต่อมา.. หญิงสาวตื่นขึ้นมาก็รีบมองดูว่าเมื่อคืนนี้เขากลับมาไหม แต่ก็ไม่เห็นใครนอนอยู่ข้างๆเมื่อคืนเขาไม่ได้กลับมาเหรอ? คนตัวเล็กรีบดันกายลุกขึ้นจากเตียงนอน แต่ขณะที่จะลุกขึ้นมือข้างเจ็บไปโดนเข้ากับที่นอน"หือ??" ใครมาทำแผลให้เรา? แผลพุพองเมื่อวาน ตอนนี้มีผ้าพันแผลปิดอยู่ แถมข้างๆ ก็มียาล้างแผลและยาแก้อักเสบ "คุณพ่อหรือเปล่า?" ในหัวของเธอไม่คิดถึงเขาเลย มโนราห์คิดว่าแก้วใจคงเอายามาให้พ่อ แล้วพ่อเห็นว่าเธอนอนหลับอยู่ก็เลยทำให้ ส่วนเขาน่ะหรือ ออกไปเที่ยวป่านนี้ยังไม่กลับมาเลยมั้งได้ทำแผลและได้ทานยาก่อนนอน ตื่นมาก็รู้สึกดีขึ้นมากคนตัวเล็กลุกเดินไปเปิดดูหน้าต่าง มองออกไปด้านนอก ชีวิตเธอมีครบทุกอย่าง แต่ทำไมดูเหมือนไม่มีใครเลย มีทั้งพ่อ แม่ พี่ แถมยังมีสามีแล้วด้วย แต่ความรู้สึกของเธอทำไมดูว้าเหว่เหมือนไม่มีใครคิดถึงครอบครัวก็พลอยทำให้คิดถึงวันเกิด มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แม่อวยพรวันเกิดให้ ทีแรกคิดว่าท่านอวยพรด้วยใจที่รักลูก แต่ที่ไหนได้หวังผลจากวันเกิดของลูกสาวชัดๆ เพราะวันนั้นแม่ให้มโนราห์โทรไปหาพ่อบอกว่าเป็นวันเกิด อยากให้พ่อมาหาสายๆ ของวันเดียวกัน..ทานข้าวเสร็จหญิงสาวก็ออกมาเดิน
มโนราห์นอนเอาแรงตั้งแต่ช่วงเย็น ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน ตื่นมาอีกทีในห้องมืดมาก"คุณพ่อยังไม่กลับอีกเหรอ?" หญิงสาวรีบลุกขึ้นเพราะกลัวว่ามันจะผ่านวันเกิดตัวเองไปก่อน ยังไงก็ขอสักปีที่ได้ยินคำอวยพร "อุ๊ย ใคร??" ขณะที่เธอกำลังจะลงจากเตียงเพื่อไปเปิดไฟ แต่ก็ต้องสะดุดกับอะไรบางอย่างที่อยู่บนเตียงจนล้มลงไปทับมโนราห์รีบดันตัวลุกขึ้น เพราะแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เธอคลำอยู่คือคน"ปล่อย!!" จังหวะดันตัวลุกออกแต่ถูกคนที่เธอทับอยู่กอดรัดร่างไว้แน่น "กรี๊ด อืมม?!!" มโนราห์ตกใจมากกำลังจะส่งเสียงให้พ่อได้ยิน แต่ก็ถูกจับพลิกลงด้านล่างแล้วปิดปากด้วยปากของอีกฝ่ายไม่ใช่เขาใช่ไหม? ไหนบอกจะไปเป็นอาทิตย์เลยไง แต่ถึงแม้จะเป็นเขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเธออีกแล้ว เพราะคุยกันไว้แล้วว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้กับเธองับ! "โอ๊ย" ชายหนุ่มกำลังจะส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปาก ต้องรีบชักออกมาเพราะฟันแหลมๆ ที่กัดลงมาที่ลิ้น"คุณทำอะไร" มโนราห์ลุกขึ้นได้ก็ผลักร่างหนาให้ออกห่าง "ไหนเราคุยกันแล้วไงว่าคุณจะไม่ทำแบบนี้กับฉันอีก""ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยแค่จูบ""แค่จูบ?!!""ใช่ ไอ้ที่คุยกันวันนั้นไม่ได้มีข้อตกลงอันนี้ด้วย"หญิงสาวโมโหม
เรวทัตมีความหนักใจอยู่มาก เพราะคิดว่าถ้าเจอทั้งสองอีกคงทำหน้าไม่ถูก เคยเป็นสามีที่แย่ ขอเป็นพ่อที่ดีบ้างแล้วกัน มองดูลูกสาวที่เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้าไปในห้อง มันทำให้ผู้เป็นพ่อละทิ้งสิ่งที่กำลังกังวลอยู่ไปให้หมดมโนราห์เข้ามาในห้อง ก็หยิบสร้อยเพชรออกมาดู ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอคงเห็นใบหน้าของพ่อ แต่ตอนนี้มีใบหน้าอีกคนเจือจางอยู่กับสร้อยเพชรเส้นนี้ เขาทำไปเพื่ออะไร เธอเฝ้าแต่ถามตัวเองแต่ก็ไม่รู้คำตอบ เพราะทุกครั้งเห็นหน้าเธอทีไรดูเขาจะรังเกียจไม่นะมโนราห์..เขาอาจทำไปเพราะสำนึกผิด หวังว่าเขาคงสำนึกผิดอยู่บ้าง ที่ทำกับเธอแบบนั้นสองวันต่อมา.. ที่นอนแข็งๆ นอนนานไปก็ทำให้ปวดเมื่อยร่างกาย แต่พอคิดได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันงานเลี้ยงแล้ว มันทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมา ถ้าจะไปร่วมงานก็ต้องเดินทางตั้งแต่วันนี้"เตรียมตัวหรือยังล่ะลูก" ออกมาข้างนอกก็เห็นพ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะรับแขก"จะเดินทางเลยหรือคะ""ต้องรีบเดินทาง เพราะกว่าจะไปถึงที่นั่นก็คงค่ำ""ค่ะ" เธอไม่รู้หรอกว่าพ่อต้องทำใจหนักแน่นแค่ไหนที่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงนี้ใช้เวลาเตรียมตัวอยู่ไม่นานมโนราห์ก็ออกมา เพราะถ้าจะไปงานเลี้ยงจริงเธอต้องไปเตรียมชุดใหม่ ก็เ
"ขอบคุณมากนะคะ" เมขลาพูดพร้อมกับก้าวเท้าลงจากรถคันหรู ด้วยแรงเกาะแขนของผู้พันกองทัพ"เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะพ่อ" มโนราห์รีบหันกลับมาชวนพ่อเข้าไปก่อนที่พวกเขาจะเข้ามา"ลูกไม่รอ.." สายตาคนเป็นพ่อละจากรถคันนั้นหันกลับมาหาลูกสาวคนเล็ก"ไม่ค่ะ" มโนราห์ส่งยิ้มหวานให้กับพ่อ เพื่อให้ท่านเห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร เพราะผู้หญิงคนนั้นก็ลูกสาวของท่านเหมือนกันทั้งสองก็เลยควงกันเข้างาน คนที่ต้อนรับอยู่เมื่อสักครู่รีบเข้าไปเตรียมที่นั่งให้กับพลเอกเรวทัต เพราะไม่รู้ว่าท่านจะมาด้วย แต่ที่จริงท่านก็ปฏิเสธตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่มาร่วมงานนี้มโนราห์เลือกที่จะนั่งหันหลังให้กับทางเข้า เพื่อไม่เห็นภาพนั้น และพยายามชวนพ่อคุย คิดว่าพวกเขาคงกำลังเดินเข้ามากัน"ผมเตรียมที่นั่งไว้ให้ด้านในแล้ว" เสียงเกษมราษฎร์พูดกับภรรยากองทัพก็เลยพาเมขลาเดินตามพ่อและแม่เลี้ยงเข้าไปเพื่อส่งเธอให้ถึงที่นั่งก่อน"ขอบคุณมากค่ะ" เมขลานั่งลงชุดของเธอเกะกะเพราะยาวเฟื้อย กองทัพก็เลยโน้มตัวลงไปขยับชุดเข้าด้านในให้ เพราะกลัวคนเดินผ่านไปมาจะสะดุดเอาและภาพนั้นมันก็อยู่ในสายตาของคนเป็นภรรยา เพราะพวกเขาพากันมานั่งโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าเธอนี่เอง"นั่ง
เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก
ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่
"คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้
ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส
วันต่อมา..หลังการประชุมใหญ่จบลงพอออกมาจากห้องประชุม ตำรวจก็มารอรับตัวคนที่ทำผิดกฎหมาย หัวหน้าขบวนการที่ทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ก็คือเอกมัย สิ่งที่ทำผิดคือสอดไส้สิ่งผิดกฎหมาย ไปกับสินค้าที่ส่งออก ซึ่งถ้ามีเส้นสายทางด้านนี้การตรวจสอบก็จะไม่เข้มงวด หรือถ้าเจอก็แค่ใช้เงินยัด"คุณคิดเหรอว่า ทำแบบนี้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ" ก่อนที่จะถูกนำตัวไป เอกมัยยังหันมาพูดข่มขู่ศักดินามองตามหลังเอกมัยที่ถูกกุมตัวไปแล้ว มันไม่เหมือนสิ่งที่คิดไว้ พอถึงเวลาจริงๆ ทุกอย่างโล่งมาก ไม่หนักอึ้งเหมือนตอนที่แบกไว้กับตัวเลยศักดินาปล่อยให้หน่วยตรวจสอบของรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบบริษัท แล้วแต่การพินิจของเจ้าหน้าที่ ถ้าจะสั่งให้ปิดศักดินาก็ยอม เพราะเหนื่อยมากแล้ว"ผมจะช่วยพูดกับคุณพ่อให้อีกแรงครับ" กองทัพเห็นว่าท่านมีท่าทางที่คิดหนัก"อย่าลำบากท่านนายพลอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรมเถอะ""ขอบใจมึงมากนะเพื่อน" ศิลารู้ดีว่าพ่อรักบริษัทนี้มาก "ก็เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนมีไว้ทำไมถ้าไม่ช่วยเพื่อน""ท่านคะ" เสียงนี้ดังแว่วเข้ามาผ่านฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์ศิลาหันไปมองพ่อว่าท่านมีท่าทียังไงเมื่อเจอ ขวัญชนก ซึ่งตอนนี้ท่านได้เซ็นใบหย่า
>>{"เมียพี่ไม่สบายเหรอ""} {"จะว่าไม่สบายก็ไม่เชิงหรอกพี่ พี่สะใภ้กินอะไรไม่ค่อยลง แถมบอกว่าอาหารเหม็น"}>>{"กินอะไรไม่ค่อยลงอาหารเหม็น? เราเอาอาหารค้างคืนมาให้พี่เขากินเหรอ"} {"เปล่าสักหน่อย อาหารเพิ่งจะตักออกมาจากกระทะร้อนๆ"}"เมื่อกี้มึงว่าอะไร ใครเหม็นอาหาร" กองทัพที่นั่งฟังอยู่ว่าศิลากำลังคุยเรื่องอะไร อดที่จะถามไม่ได้"ก็เมียกูน่ะสิ สงสัยจะไม่สบาย" ศิลาก็เลยวางสายไปจากน้องสาวก่อน"อาการเป็นยังไงบอกมาซิ""น้องสาวกูบอกว่ากินข้าวไม่ค่อยลง ตั้งแต่วันก่อนแล้ว" เพราะพวกเขาออกมาจากบ้านก็สามวันเข้าไปแล้ว"อาการแบบนี้เหมือนเมียกูเลย""เมียมึงก็เป็นเหรอ""เป็นสิ เป็นตอนมีตาทัพไท""อะไรนะ?""เมียไอ้ศิลาท้องเหรอ?" ซันเดย์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันพูดขึ้นมาบ้าง"กูจะไปรู้กับเมียมันเหรอ กูแค่บอกอาการตอนที่เมียกูท้อง""กูกลับบ้านก่อนได้ไหม" ศิลานั่งไม่ติดที่เลยทีนี้ ถ้าหายตัวกลับตอนนี้ได้เขาคงทำไปแล้ว"มึงจะบ้าเหรอ พรุ่งนี้ประชุมสำคัญ""พวกมึงก็จัดการกันไปเองสิวะ""อ้าวไอ้นี่! นี่บริษัทพ่อมึงนะ"ศิลาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปอีกมุมหนึ่ง เพื่อโทรหาเธอ>>{"พ่อครับ"} โทรเข้าเครื่องของแม่ ลูกก็รับอีกอ
"พ่อขอโทษที่ส่งคนตามลูกกับเมียลูก แต่พ่อไม่ได้หวังร้ายเลย""ถึงพ่อไม่ได้หวังร้าย แต่คนที่ถูกตามรู้ไหมว่าเขาหวาดกลัว ผู้หญิงและเด็กแถมยังมีคนแก่ที่พิการ""พ่อคิดถึงหลาน" ศักดินาไม่ปล่อยให้ลูกต่อว่าไปเยอะกว่านี้แล้ว"อะไรนะครับ?""พ่อคิดถึงเทวิน""ผมไม่เชื่อ""ลูกก็รู้ว่าพ่อแสดงความรักออกมาไม่เก่ง""แล้วทำไมหลานถึงบอกว่ากลัวคุณปู่ล่ะ""คงเห็นพ่อขู่แม่แกมั้ง แต่ที่พ่อทำไปเพราะอยากกดดันให้เธอพาแกกลับมาที่บ้าน""พอเถอะศิลา" กองทัพคิดว่าศิลาคงเข้าใจพ่อผิดแล้ว คงเหมือนที่ท่านพูดว่าท่านแสดงความรักออกมาไม่ค่อยเป็น "เรามาหาทางคิดแผนต่อไปกันดีกว่า" นี่แหละที่ทุกคนไม่เข้าไปคุยเรื่องนี้ที่บ้าน เพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง"พ่อต้องขอบใจเราอีกครั้งนะกองทัพ รวมถึงนายด้วย" ศักดินาหันไปหาลูกเขย"ผมหรือครับ" ซันเดย์คิดว่าตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ขอบใจที่ดูแลริศา" นี่แหละอีกเหตุผลหนึ่งที่ท่านอยากให้สาริศาแต่งงานกับเสี่ยเคน เพราะเสี่ยเคนพอมีอำนาจที่จะมาช่วยเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นท่านมองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ"ผมปรึกษากับพ่อแล้วครับ ท่านบอกว่าจะช่วยเรื่องนี้""ท่านบอกอย่างนั้นเหรอ" คนที่ถามก็คือศิลา เพราะเขาเริ
ใช้เวลาขับรถอยู่ร่วมสามชั่วโมง ก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทาง เพราะถนนช่วงนี้โล่งมาก"พ่อมึงมีญาณทิพย์เหรอวะ" ยังไม่ลงจากรถเลยด้วยซ้ำ ศักดินาก็เดินออกมาต้อนรับลูกและเพื่อนๆ ของลูก"ดูอบอุ่นดีนี่" ศักดินาเอ่ยทักทายคนที่เพิ่งลงมาจากรถ เพราะลูกชายไม่ได้มาแค่คนเดียว"สวัสดีครับ" เพื่อนทั้งสองยกมือไหว้ ถึงยังไงท่านก็เป็นพ่อของเพื่อนรัก แถมยังเป็นพ่อตาของซันเดย์ด้วย"ยินดีต้อนรับ ชวนเพื่อนเข้ามาข้างในสิลูก" ศักดินาเอ่ยพูดด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกดูไม่มีพิษไม่มีภัยทั้งสามก็เลยเดินตามเข้าไปในบ้าน"น้ำค่ะ" ก้นยังไม่ถึงโซฟาเลยด้วยซ้ำ ขวัญชนกก็ยกน้ำมาบริการแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจน้ำเลย ขวัญชนกก็เลยนั่งลงข้างๆ คนที่เป็นสามี แต่สายตานั้นมองดูหนุ่มๆ ด้วยแววตาหวานหยดย้อย"ผมจะคุยธุระ คุณมีอะไรทำก็ไปทำ" ศักดินาพูดพร้อมกับมองดูคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เล็กน้อย"ท่านคะ""บอกว่าจะคุยธุระไง"ก่อนที่ขวัญชนกจะออกจากห้องนั้น สายตาได้มองไปที่ลูกน้องของท่านแบบรู้กันแค่สองคน"เราตัดสินใจแล้วใช่ไหมว่าจะมารับช่วงต่อจากพ่อ""ผมไม่ชอบงานบริษัท""ถึงไม่ชอบแกก็ต้องได้มารับช่วงต่อ เพราะแกคือลูกชายคนเดียวของฉัน""พ่อก็ยังแข็งแรง