เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"แม่คะ" "หรือแกอยากเห็นแม่ตายตรงนี้""แต่ผู้หญิงที่เขาจะแนะนำในคืนนั้นไม่ใช่โมนาสักหน่อย""แกก็ทำให้มันใช่ซะสิ""แล้วฝ่ายนั้นเขาจะคิดยังไงล่ะคะ""ไหนๆ ก็เปิดตัวไปแล้ว จะคิดยังไงก็ช่างปะไร สังคมรู้กันหมดแล้วว่าลูกชายของท่านพลเอกเกษมราษฎร์ กำลังจะแต่งงานกับลูกสาวคนสวยของแม่""ชื่อเขาโมนาก็ยังไม่รู้ ชื่อของโมนาเขาก็ยังไม่รู้" "พี่เขาชื่อกองทัพหรือผู้พันกองทัพ อนาคตคงยืนอยู่ตำแหน่งเดียวกับพ่อ แกจับไว้ให้แน่นอย่าปล่อยมือเด็ดขาด" แพรวพราวคนเป็นแม่หมายถึงอนาคตของผู้พันกองทัพคงได้เป็นถึงพลเอกย้อนกลับไปในวันที่เปิดตัว..วันนั้นกองทัพคิดจะแนะนำเมขลาในฐานะผู้หญิงคนที่เขาเลือกจะแต่งงานด้วย ซึ่งมีบิดาคนเดียวกับมโนราห์หรือโมนา แต่แพรวพราวต้องการให้ลูกสาวได้ผู้ชายคนนี้เป็นสามี ก็เลยจับลูกสาวสวมรอยรีบชิงแนะนำไปก่อน จนทุกคนในงานเข้าใจว่าคนรักของกองทัพก็คือมโนราห์ฝ่ายชายไม่อยากให้ท่านพลเอกเรวทัตคนที่เป็นพ่อของมโนราห์เสียหน้า ก็เลยเงียบเพราะคิดว่าถ้าจบงานเลี้ยงในคืนนั้นแล้วทุกอย่างคงจบแต่มันกลับไม่ใช่แบบนั้น พอแพรวพราวหย่าขาดจากพลเอกเรวทัต ก็เลยให้ลูกสาวจับผู้พันกองทัพแทน "ถ้าแกไม่ทำตามที่แม่ต้องก
"ที่รักขาาทางนี้ค่ะ" มือเรียวชูขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้คนที่กำลังงงอยู่ว่าเธอเรียกใคร ได้เห็นว่าเรียกเขานั่นแหละ "คุณผู้พันกองทัพครับ" พอนักข่าวช่วยเรียกอีกแรง กองทัพก็เลยต้องได้เดินมา เพราะถ้าไม่มาคงดูเสียมารยาทมากเกินไป"??" เข้ามาใกล้ถึงจำได้ว่าผู้หญิงที่เรียกเขาว่าที่รักคือใคร ทีแรกที่จำไม่ได้เพราะเธอไม่ได้แต่งตัวเหมือนวันนั้น วันนั้นมโนราห์ลงจากเครื่องบินก็ตรงมาที่งานเลี้ยงเลย แต่วันนี้มโนราห์ตั้งใจแต่งตัวให้สวยเด่นที่สุด"......" สายตาคมมองต่ำลงไปดูมือหญิงสาวที่เอื้อมมาคล้องแขนของเขา"พวกผมขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหมครับท่านผู้พัน""สัมภาษณ์อะไร" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม"งานแต่งของท่านพลเอกกำลังจะผ่านไป เมื่อไรจะมีข่าวดีของบุตรชายท่านพลเอกบ้างครับ" "ข่าวดี?" ชายหนุ่มยังไม่ทันได้ตอบเลยด้วยซ้ำอีกคนก็รีบชิงตอบให้ก่อน"ข่าวดีหรือคะ เร็วๆ นี้แหละค่ะ พวกพี่ๆ ได้เซอร์ไพรส์กันแน่" คนที่ชิงตอบก็คือมโนราห์"ช่วยกระซิบพวกพี่หน่อยได้ไหมครับ อยากรู้จังเลยครับว่าเร็วๆ นี้คือวันที่เท่าไร""เอาวันที่เลยเหรอคะ"ที่กองทัพไม่พูด เพราะอยากจะรู้ว่าเธอคนนี้กำลังจะทำอะไร "ถ้าไม่สะดวกบอกก็ไม่เป็นไรนะครับ" นักข่า
"หนูเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวได้เลยลูก เดี๋ยวแม่จะให้ช่างฝีมือมาดูแลผิวพรรณของลูกให้ผุดผ่อง""ไม่ต้องหรอกแม่""จะไม่ต้องได้ยังไง!" พอคิดได้ว่าตัวเองใส่อารมณ์มากเกินไป ก็เลยต้องได้ปรับอารมณ์ใหม่ "จะไม่ต้องได้ยังไงเชื่อฟังแม่เถอะแล้วทุกอย่างจะดีเอง"ถ้าแม่ไม่ถูกพ่อขอหย่าเสียก่อน มโนราห์คงไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เพราะเธอจะทำทุกทาง เพื่อไม่ให้งานแต่งเกิดขึ้น แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นแบบที่คิดเมื่อแม่ถูกขอหย่า ถ้าเธอขัดใจกลัวว่าแม่จะไม่ทำแค่ขู่เย็นวันนั้นที่บ้านผู้พันกองทัพ.."พ่อก็แก้ข่าวไปสิครับ""จะแก้ยังไง ลูกอยู่ในเหตุการณ์ด้วยทำไมลูกถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ" ดูจากสิ่งที่สื่อนำมาเสนอ เหมือนว่าฝ่ายชายก็เต็มใจที่จะแต่งงานด้วย เพราะเขามัวแต่จ้องมองหน้าคนที่กำลังคุยกับนักข่าว"ถ้าให้แต่งกับคนนี้ผมไม่แต่งนะ" กองทัพไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้ เพราะในห้องโถงไม่ได้มีแค่เขากับพ่อเพียงสองคน ยังมีพุดตาลแม่เลี้ยงนั่งอยู่ในนั้นด้วย"แกก็รู้ว่าเด็กคนนี้ลูกใคร อย่าทำให้มีปัญหาเลยนะ""พ่อก็ดูผู้หญิงคนนั้นสิ ลูกแม่ชัดๆ" เขาหมายถึงมโนราห์เหมือนแพรวพราวมาก"ดูมันนะ จะให้แก้ข่าวว่ายังไง" ที่เกษมราษฎร์ไม่อยากจะยุ่งเรื่องน
วันต่อมา.. มโนราห์ครุ่นคิดว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ อย่างที่รู้กันอยู่เธอโตมาจากต่างประเทศ ไม่มีเพื่อนที่ประเทศนี้เลยสักคน ก็เลยไม่รู้จะปรึกษาใครดี คิดถึงหน้าเมขลาขึ้นมาก็อดอิจฉาไม่ได้ อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ดูเมขลาจะมีแต่คนให้ความสนใจ เพราะตอนนี้มโนราห์รู้แล้วว่าผู้ชายที่เข้าหาเมขลาไม่ใช่แบบที่คิด พวกเขาเป็นพี่ชาย และก็เป็นพี่ชายของเธอด้วย แต่พวกเขาคงไม่ยินดีต้อนรับน้องสาวแบบเธอ"ทำไมทำหน้าแบบนั้น""แบบไหนคะ""ทำหน้าซังกะตายอยู่ได้ ถ้าว่างก็ไปร้านเสริมสวย""ไปทำไมคะแม่""ถึงแม้จะสวยอยู่แล้ว แต่เราต้องสวยกว่านี้""ค่ะ" ถ้าขัดใจกลัวว่าแม่จะอารมณ์ไม่ดีอีก ถือว่าออกไปเปิดหูเปิดตาแล้วกันเวลาผ่านเลยมาจนถึงงานวันเกิดของท่านพลเอกเกษมราษฎร์ ทุกปีท่านพลเอกเรวทัตเพื่อนรักเป็นคนแรกที่อวยพรวันเกิด แต่ปีนี้และปีต่อๆ ไปคงไม่มีอีกแล้ว นี่แหละที่เขาเรียกว่าได้อย่างเสียอย่างวันเกิดของท่านถึงแม้จะบอกว่าไม่จัดใหญ่โต แต่ก็คงเล็กไม่ได้ เพราะตำแหน่งสูงสุดในกรมตอนนี้คือท่านเกษมราษฎร์ก็เลยถือโอกาสเชิญทุกคน และถือว่าเป็นงานเลี้ยงฉลองหลังแต่งงาน"มากันแล้วเหรอลูก""สวัสดีค่ะคุณแม่" สโรชาซึ่งตอนนี้ท้องขอ
เมียสวมรอย บทที่ 5"ฉันเจ็บนะ!" มือเรียวพยายามดึงมือของอีกฝ่ายที่กำแขนเธออยู่ให้ออก"ทีแรกฉันคิดว่าเธอเหมือนแม่..แต่ที่ไหนได้ร้ายกว่าแม่เยอะ""ขอบคุณค่ะที่ชม..ปล่อยได้หรือยัง" มโนราห์ถูกเขาลากตัวออกมาคุยด้านนอกห้องโถงของโรงแรม ที่นักข่าวไม่กล้าเดินตาม เพราะท่านพลเอกเกษมราษฎร์ขอไว้ให้ทั้งสองคุยกันเอง"ตกลงเธอจะเอายังไงกันแน่" ในเมื่อเธออยากจับเขานัก ทำไมถึงต้องให้ปล่อยด้วย"แขนฉันจะหักอยู่แล้ว""ฉันบอกเธอไว้ก่อนเลยนะ เรื่องแต่งงานยังไงมันก็ไม่มีทางเกิดขึ้น" มือแกร่งสะบัดอีกคนออกเหมือนตัวเองจับของเน่าเสีย พอปล่อยมือเธอแล้วกองทัพก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมือมันก็สมควรแล้วที่เขาจะขยะแขยง ถ้าเป็นเธอก็คงทำไม่ต่างจากเขาหรอก แต่ไม่เป็นไร แล้วแต่เขาจะทำขอให้แม่สบายใจก็พอ"คุณจะไปไหนคะ" ยังไม่ได้พูดอะไรกันเลยเขาก็จะเดินหนีแล้วชายหนุ่มที่กำลังจะเดินออกไป หันกลับมาเมื่ออีกฝ่ายเรียกถาม "ตกลงเราพูดภาษาเดียวกันหรือเปล่า""วันนี้งานวันเกิดพ่อคุณไม่ใช่หรือคะ ทำไมคุณถึงไม่เข้าไป""ถ้าในงานนี้มีเธออยู่ ถึงจะเป็นวันเกิดพ่อ..ฉันก็ไม่ไป""ฉันไม่เข้าไปหรอกค่ะ คุณเข้าไปในงานเถอะ" ดวงตาหญิงสาวเศร้าลงจนเห็นไ
พุดตาลมองตามเด็กที่เพิ่งเดินจากไป ทำไมเด็กคนนี้ถึงใจกล้านัก เป็นใครก็คิดว่าเลือดแม่คงแรง นี่ขนาดมาแค่ลูก..ถ้าคนเป็นแม่มาด้วย.."คุณกำลังคิดอะไรอยู่""เปล่าหรอกค่ะ คุณคิดว่าเรื่องที่เด็กคนนั้นพูดเป็นเรื่องจริงไหมคะ" ที่นางถามสามีแบบนี้ เพราะไม่มีคำไหนเลยที่กองทัพบอกว่าจะแต่งงานกับเธอคนนี้"ผมก็ไม่รู้หรอก ต้องถามเจ้าตัวเขา" เกษมราษฎร์หมายถึงต้องถามลูกชายดูก่อน "เราเข้าไปในงานกันเถอะ"ทั้งสองท่านก็เลยพากันมานั่งรวมตัวกับลูกๆ"ข้างนอกมีอะไรหรือครับแม่" คนที่ถามก็คือรามสูรลูกชายคนโต และเขาก็มีศักดิ์เป็นพี่ชายคนโตมโนราห์ด้วย"ก็เรื่องเดิมนั่นแหละลูก ฝ่ายหญิงขอให้จัดงานที่โรงแรมนี้""แล้วผู้พันว่ายังไงล่ะครับ" รามสูรหมายถึงผู้พันกองทัพ เพราะทีแรกก็เห็นว่ามาติดพันเมขลา แต่เอาไปเอามาทำไมจะไปแต่งงานกับมโนราห์ ถ้าวันนั้นผู้พันปฏิเสธ มันอาจจะทำให้ฝ่ายหญิงเสียหน้าบ้าง แต่เรื่องแต่งงานจะไม่เกิดขึ้นเลย"แม่ว่าเราอย่าพูดเรื่องนี้กันดีกว่า" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าพุดตาลเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นางยอมรับว่าเรื่องนี้มองไม่ออกจริงๆ ดูฝ่ายหญิงจะเข้าหาฝ่ายชายตลอด คงไม่แปลกหรอก ถ้าไม่งั้นแม่ของมโนราห์จะแย่งสามีนาง
"มันจะดีหรือคะ" ยอมตามเขามาจนถึงบาร์ แต่ไม่กล้าเข้าไปด้วย"หรือคุณคิดว่าชุดที่ใส่ไม่เหมาะใช่ไหมครับ งั้นผมให้ยืมเสื้อ" ฉลามถอดเสื้อสูทที่สวมใส่อยู่แล้วยื่นให้เธอไว้คลุมไหล่ เพราะชุดที่เธอใส่มาคือชุดเดรสแต่ก็ไม่ได้ยาวเทอะทะ"ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ""ถ้าคุณกลัวผม ไม่ต้องกลัวหรอกครับ" ถึงแม้ฉลามจะเป็นคนเจ้าชู้ แต่ถ้าฝ่ายหญิงไม่ยินยอมเขาก็ไม่ทำอะไร"ก็ยังไม่ใช่แบบนั้นอีกล่ะค่ะ กลัวว่าเจ้านายของคุณจะไม่ปลื้มเอาน่ะสิ""ท่านผู้พันน่ะหรือจะไม่ปลื้ม สาวสวยมาด้วยขนาดนี้ขี้คร้านท่านจะตบรางวัลผม" ฉลามพูดทีเล่นทีจริง"ก็ได้ค่ะ แต่ฉันอยู่ไม่นานนะ""ตามนั้นครับเชิญเลยครับคุณผู้หญิง..เออว่าแต่ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย""ฉันชื่อโมนาค่ะ""ชื่อโมนา?""ทำไมคะ""ก็ผมแยกไม่ออกน่ะสิครับ ระหว่างชื่อหรือคนอันไหนจะน่ารักกว่ากัน""คุณผู้กองก็พูดไป" ทั้งสองคุยและหัวเราะขณะที่เดินเข้ามาด้านใน"เชิญนั่งเลยครับคุณโมนาคนสวย" ฉลามพาเธอมาถึงโต๊ะที่เจ้านายนั่งอยู่ แล้วก็ถือวิสาสระเลื่อนเก้าอี้ให้กับโมนาได้นั่งอึก!? กองทัพกำลังยกเหล้าขึ้นดื่ม โดยมีกระต่ายนั่งเคียงข้าง พอเห็นว่าผู้กองฉลามพาใครเข้ามาด้วยเกือบทำให้สำลัก"??" ไม่ใช่
เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก
ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่
"คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้
ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส
วันต่อมา..หลังการประชุมใหญ่จบลงพอออกมาจากห้องประชุม ตำรวจก็มารอรับตัวคนที่ทำผิดกฎหมาย หัวหน้าขบวนการที่ทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ก็คือเอกมัย สิ่งที่ทำผิดคือสอดไส้สิ่งผิดกฎหมาย ไปกับสินค้าที่ส่งออก ซึ่งถ้ามีเส้นสายทางด้านนี้การตรวจสอบก็จะไม่เข้มงวด หรือถ้าเจอก็แค่ใช้เงินยัด"คุณคิดเหรอว่า ทำแบบนี้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ" ก่อนที่จะถูกนำตัวไป เอกมัยยังหันมาพูดข่มขู่ศักดินามองตามหลังเอกมัยที่ถูกกุมตัวไปแล้ว มันไม่เหมือนสิ่งที่คิดไว้ พอถึงเวลาจริงๆ ทุกอย่างโล่งมาก ไม่หนักอึ้งเหมือนตอนที่แบกไว้กับตัวเลยศักดินาปล่อยให้หน่วยตรวจสอบของรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบบริษัท แล้วแต่การพินิจของเจ้าหน้าที่ ถ้าจะสั่งให้ปิดศักดินาก็ยอม เพราะเหนื่อยมากแล้ว"ผมจะช่วยพูดกับคุณพ่อให้อีกแรงครับ" กองทัพเห็นว่าท่านมีท่าทางที่คิดหนัก"อย่าลำบากท่านนายพลอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรมเถอะ""ขอบใจมึงมากนะเพื่อน" ศิลารู้ดีว่าพ่อรักบริษัทนี้มาก "ก็เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนมีไว้ทำไมถ้าไม่ช่วยเพื่อน""ท่านคะ" เสียงนี้ดังแว่วเข้ามาผ่านฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์ศิลาหันไปมองพ่อว่าท่านมีท่าทียังไงเมื่อเจอ ขวัญชนก ซึ่งตอนนี้ท่านได้เซ็นใบหย่า
>>{"เมียพี่ไม่สบายเหรอ""} {"จะว่าไม่สบายก็ไม่เชิงหรอกพี่ พี่สะใภ้กินอะไรไม่ค่อยลง แถมบอกว่าอาหารเหม็น"}>>{"กินอะไรไม่ค่อยลงอาหารเหม็น? เราเอาอาหารค้างคืนมาให้พี่เขากินเหรอ"} {"เปล่าสักหน่อย อาหารเพิ่งจะตักออกมาจากกระทะร้อนๆ"}"เมื่อกี้มึงว่าอะไร ใครเหม็นอาหาร" กองทัพที่นั่งฟังอยู่ว่าศิลากำลังคุยเรื่องอะไร อดที่จะถามไม่ได้"ก็เมียกูน่ะสิ สงสัยจะไม่สบาย" ศิลาก็เลยวางสายไปจากน้องสาวก่อน"อาการเป็นยังไงบอกมาซิ""น้องสาวกูบอกว่ากินข้าวไม่ค่อยลง ตั้งแต่วันก่อนแล้ว" เพราะพวกเขาออกมาจากบ้านก็สามวันเข้าไปแล้ว"อาการแบบนี้เหมือนเมียกูเลย""เมียมึงก็เป็นเหรอ""เป็นสิ เป็นตอนมีตาทัพไท""อะไรนะ?""เมียไอ้ศิลาท้องเหรอ?" ซันเดย์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันพูดขึ้นมาบ้าง"กูจะไปรู้กับเมียมันเหรอ กูแค่บอกอาการตอนที่เมียกูท้อง""กูกลับบ้านก่อนได้ไหม" ศิลานั่งไม่ติดที่เลยทีนี้ ถ้าหายตัวกลับตอนนี้ได้เขาคงทำไปแล้ว"มึงจะบ้าเหรอ พรุ่งนี้ประชุมสำคัญ""พวกมึงก็จัดการกันไปเองสิวะ""อ้าวไอ้นี่! นี่บริษัทพ่อมึงนะ"ศิลาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปอีกมุมหนึ่ง เพื่อโทรหาเธอ>>{"พ่อครับ"} โทรเข้าเครื่องของแม่ ลูกก็รับอีกอ
"พ่อขอโทษที่ส่งคนตามลูกกับเมียลูก แต่พ่อไม่ได้หวังร้ายเลย""ถึงพ่อไม่ได้หวังร้าย แต่คนที่ถูกตามรู้ไหมว่าเขาหวาดกลัว ผู้หญิงและเด็กแถมยังมีคนแก่ที่พิการ""พ่อคิดถึงหลาน" ศักดินาไม่ปล่อยให้ลูกต่อว่าไปเยอะกว่านี้แล้ว"อะไรนะครับ?""พ่อคิดถึงเทวิน""ผมไม่เชื่อ""ลูกก็รู้ว่าพ่อแสดงความรักออกมาไม่เก่ง""แล้วทำไมหลานถึงบอกว่ากลัวคุณปู่ล่ะ""คงเห็นพ่อขู่แม่แกมั้ง แต่ที่พ่อทำไปเพราะอยากกดดันให้เธอพาแกกลับมาที่บ้าน""พอเถอะศิลา" กองทัพคิดว่าศิลาคงเข้าใจพ่อผิดแล้ว คงเหมือนที่ท่านพูดว่าท่านแสดงความรักออกมาไม่ค่อยเป็น "เรามาหาทางคิดแผนต่อไปกันดีกว่า" นี่แหละที่ทุกคนไม่เข้าไปคุยเรื่องนี้ที่บ้าน เพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง"พ่อต้องขอบใจเราอีกครั้งนะกองทัพ รวมถึงนายด้วย" ศักดินาหันไปหาลูกเขย"ผมหรือครับ" ซันเดย์คิดว่าตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ขอบใจที่ดูแลริศา" นี่แหละอีกเหตุผลหนึ่งที่ท่านอยากให้สาริศาแต่งงานกับเสี่ยเคน เพราะเสี่ยเคนพอมีอำนาจที่จะมาช่วยเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นท่านมองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ"ผมปรึกษากับพ่อแล้วครับ ท่านบอกว่าจะช่วยเรื่องนี้""ท่านบอกอย่างนั้นเหรอ" คนที่ถามก็คือศิลา เพราะเขาเริ
ใช้เวลาขับรถอยู่ร่วมสามชั่วโมง ก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทาง เพราะถนนช่วงนี้โล่งมาก"พ่อมึงมีญาณทิพย์เหรอวะ" ยังไม่ลงจากรถเลยด้วยซ้ำ ศักดินาก็เดินออกมาต้อนรับลูกและเพื่อนๆ ของลูก"ดูอบอุ่นดีนี่" ศักดินาเอ่ยทักทายคนที่เพิ่งลงมาจากรถ เพราะลูกชายไม่ได้มาแค่คนเดียว"สวัสดีครับ" เพื่อนทั้งสองยกมือไหว้ ถึงยังไงท่านก็เป็นพ่อของเพื่อนรัก แถมยังเป็นพ่อตาของซันเดย์ด้วย"ยินดีต้อนรับ ชวนเพื่อนเข้ามาข้างในสิลูก" ศักดินาเอ่ยพูดด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกดูไม่มีพิษไม่มีภัยทั้งสามก็เลยเดินตามเข้าไปในบ้าน"น้ำค่ะ" ก้นยังไม่ถึงโซฟาเลยด้วยซ้ำ ขวัญชนกก็ยกน้ำมาบริการแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจน้ำเลย ขวัญชนกก็เลยนั่งลงข้างๆ คนที่เป็นสามี แต่สายตานั้นมองดูหนุ่มๆ ด้วยแววตาหวานหยดย้อย"ผมจะคุยธุระ คุณมีอะไรทำก็ไปทำ" ศักดินาพูดพร้อมกับมองดูคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เล็กน้อย"ท่านคะ""บอกว่าจะคุยธุระไง"ก่อนที่ขวัญชนกจะออกจากห้องนั้น สายตาได้มองไปที่ลูกน้องของท่านแบบรู้กันแค่สองคน"เราตัดสินใจแล้วใช่ไหมว่าจะมารับช่วงต่อจากพ่อ""ผมไม่ชอบงานบริษัท""ถึงไม่ชอบแกก็ต้องได้มารับช่วงต่อ เพราะแกคือลูกชายคนเดียวของฉัน""พ่อก็ยังแข็งแรง