ทานข้าวเสร็จมโนราห์ก็เข้ามาทำความสะอาดห้องนอน ห้องนี้รอบข้างเป็นไม้ล้วน เตียงนอนก็เป็นไม้ ซึ่งมีที่นอนบางๆ วางรองอยู่
ส่วนห้องน้ำอยู่ด้านนอก เพราะเป็นบ้านข้าราชการเก่า ห้องของท่านพลเอกเรวทัตพ่อของเธอ ถูกต่อเติมใหม่หมดรวมทั้งทำห้องน้ำใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในห้องนอนด้วย
เมื่อคืนนี้ไม่ได้นอนทั้งคืน พอทำความสะอาดเสร็จมโนราห์ก็เลยนอนเอาแรง ถึงที่นอนจะแข็งหน่อยแต่ก็ดีเท่าไรแล้วที่ยังมีที่ให้นอน
จนถึงตอนเที่ยง.. พ่อก็กลับมาตามที่บอกไว้ แต่เห็นว่าลูกสาวยังนอนหลับอยู่ ท่านก็เลยเอาอาหารที่ซื้อติดมาด้วยวางไว้ให้และเขียนโน้ต
บ่ายคล้อยหญิงสาวก็ตื่นขึ้นมา เห็นแบบนี้อดน้ำตาไหลไม่ได้ เธอไม่ค่อยได้สัมผัสความรักจากพ่อมากนัก เพราะจะโทรคุยกันแต่ละที ก็ต้องหาเวลาที่พ่อว่างที่สุด พอมาเห็นมุมที่อบอุ่นของพ่อ ก็ทำให้อดมีน้ำตาไม่ได้
มโนราห์ทานข้าวและทำความสะอาดบ้านทั้งหลังเสร็จก็เย็นมากแล้ว เธอก็เลยคิดว่าออกมาเดินดูบรรยากาศรอบค่ายทหารหน่อยเพื่อรอพ่อกลับ
ค่ายทหารที่นี่กว้างขวางใหญ่โต บรรยากาศรอบข้างมีแต่ภูเขา และสิ่งปลูกสร้างที่ทหารจำเป็นต้องใช้งาน แถมยังมีเฮลิคอปเตอร์เก่าๆ ตรงทางเข้าที่ปลดประจำการแล้ว ตั้งโชว์ไว้เพื่อให้เป็นที่ถ่ายรูปของหลายๆ คน
"เขาให้ขึ้นได้หรือเปล่าเนี่ย?" มโนราห์เห็นมีบันได ก็เลยอยากจะลองขึ้นดู หญิงสาวมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะปีนขึ้นไป
"กรี๊ดดดดด" ขึ้นไปถึงก็เห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
ตุ๊กแก! ตุ๊กแก!! แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ตกใจเสียงกรี๊ดเช่นกัน
"ออกไปนะ! กรี๊ดดด" หญิงสาวถอยหลังออกมาแบบไม่ได้ดูด้านหลัง ขาเรียวก้าวผิดร่างของเธอลอยลงมาจากเฮลิคอปเตอร์
หมั่บ! "คุณนั่นเอง" ก้องหล้าได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ดตั้งแต่ทีแรกก็เลยรีบวิ่งมาดู โชคดีที่มาทันตอนเธอตก "คุณเป็นอะไรไหม"
"ฉันกลัว" หญิงสาวหันกลับมาแล้วกอดผู้ชายที่อุ้มเธอไว้แน่น
บี๊กก!!! ทั้งสองยังไม่ได้พูดอะไรกันเลยด้วยซ้ำ ก็ได้ยินเสียงแตรรถดังขึ้น
ก้องหล้ารีบปล่อยมโนราห์ให้ยืน แล้วหันกลับไปมองว่าเป็นรถของใคร
"??" แค่มองรถเธอก็รู้แล้วว่ามันเป็นรถของใคร จากที่เกาะก้องหล้าอยู่มโนราห์รีบปล่อยมือนั้นออก "ขอบคุณมากนะคะ" มโนราห์หันมาขอบคุณก้องหล้าด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจ ไม่รู้เธอจะตกใจอันไหนก่อนดี ระหว่างเจอตุ๊กแก จนตกจากเฮลิคอปเตอร์เก่า หรือคนที่กำลังลงจากรถตอนนี้
"เธอนี่ทำให้ฉันแปลกใจได้ทุกครั้งที่เจอหน้าเลยนะ" เจ้าของรถคันนั้นเดินเข้ามาทักด้วยคำพูดที่ไม่รื่นหูเท่าไร
ส่วนก้องหล้าตอนนี้ยืนตัวตรงทำความเคารพแบบรู้งาน เพราะคนที่ลงจากรถมายังอยู่ในเครื่องแบบของท่านผู้พัน
"ทหารเกณฑ์งั้นเหรอ?" ผู้พันกองทัพมองดูชุดที่อีกฝ่ายใส่ก็รู้แล้ว
"ครับผม" ก้องหล้ายังคงอยู่ในท่าเดิม มือแนบลำตัวขาทั้งสองข้างชิดกัน
"คุณมาที่นี่ได้ยังไง"
"แน่ใจนะว่าที่ถามไม่รู้จริงๆ"
มโนราห์หันไปมองดูก้องหล้าที่ยังยืนตัวตรงอยู่ เธอก็เลยรีบเดินหนีจากตรงนี้เพราะไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนด้วย ที่ไม่อยากให้เดือดร้อนเพราะคิดว่าเขาคงเข้าใจผิด แต่เธอก็ไม่คิดจะอธิบายอะไร ในเมื่อตัวเธอก็ไม่ได้ดีเลิศในสายตาของเขาอยู่แล้ว
"ดูนายจะชอบเฮลิคอปเตอร์เก่าลำนี้นะ" พอมโนราห์ไปแล้วผู้พันกองทัพก็หันมาพูดกับพลทหาร
แต่ก็ไม่มีคำตอบใดจากปากของพลทหารก้องหล้า นอกจากยังคงยืนตัวตรงทำความเคารพ
"ถ้านายชอบมากก็ทำความสะอาดให้เอี่ยม ถ้าทำความสะอาดไม่เสร็จไม่ต้องไปจากตรงนี้"
"ทำความสะอาดเฮลิคอปเตอร์ครับผม" พลทหารก้องหล้าต้องได้ตอบรับคำสั่งนั้น
กองทัพขับรถตามหลังเธอมาจนถึงบ้านหลังที่ท่านพลเอกพักอาศัยอยู่
ตอนนี้มโนราห์คิดว่าพอจะรู้แล้วทำไมเขาถึงมาที่นี่ได้ คงเพราะฝีมือของพ่อ ก็ท่านเป็นพ่อต้องห่วงลูกเป็นธรรมดา
"โอ๊ย" หญิงสาวที่กำลังจะเดินเข้าห้องถูกกระชากตัวให้หยุดไว้ก่อน และที่เธอร้องโอ๊ยเพราะเจ็บมือตอนตกลงมา และเขาก็ดึงถูกตรงที่เธอเจ็บ
"ฉันจะเอายังไงกับผู้หญิงแบบเธอดี"
"ผู้หญิงแบบฉันเป็นยังไงหรือคะ"
"อย่าบอกนะไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นยังไง"
"ถ้าคุณรู้ว่าฉันเป็นยังไงก็พูดมาสิ"
"พูด? ขนาดไม่พูดฉันยังถูกเล่นงาน"
"ใครเล่นงานคุณ"
กองทัพหยิบเอกสารด่วนออกมาวางใส่มือให้กับเธอได้ดู เพราะมันเป็นการสั่งย้ายให้มาช่วยงานที่นี่ นั่นหมายถึงต้องเป็นคนที่ใหญ่มากถึงสามารถสั่งย้ายเขาชั่วคราวได้
มโนราห์เปิดดูเอกสารแล้วรีบพับเก็บไว้ส่งคืนให้กับเขา แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคงเป็นฝีมือของพ่ออีกนั่นแหละ
"เดี๋ยวฉันจะคุยกับพ่อให้"
"คุยว่าอะไร"
"ก็ย้ายคุณกลับไปที่เดิมไง"
"จะให้เรื่องมันวุ่นวายไปกว่าเดิมน่ะสิไม่ว่า"
"ฉันผิดอีกแล้วใช่ไหม" ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แทบเอาตัวไม่รอดเลยด้วยซ้ำ แล้วเธอจะมีแรงที่ไหนไปทำอะไรคนอื่นได้
"เธอร้องไห้เหรอ" ประโยคนี้ถ้าออกจากปากของคนที่รักกัน มันคงเป็นการห่วงใย แต่พอออกจากปากของคนที่มองเธอในแง่ร้าย มันก็เลยเป็นการถามแบบประชดประชัน
แกร็ก..แอดดด...
มโนราห์ยังไม่ได้ตอบเขากลับประตูบ้านก็ถูกเปิดเข้ามาก่อน มือเรียวรีบเช็ดน้ำตาออก เพราะคนที่เปิดเข้ามาก็คือพ่อ
"มาแล้วเหรอ"
"มาแล้วครับ"
"พักสักวันค่อยเข้าไปรายงานตัว"
"ครับผม"
"แล้วนี่เราเป็นอะไร" สายตาของพ่อมองไปดูลูกสาวที่ก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองสบตาพ่อด้วยซ้ำ
"ทำไมคุณพ่อถึง.." มโนราห์อยากจะถามว่าทำไมพ่อถึงย้ายเขามา แต่ถึงเธอไม่ถามท่านก็รู้ว่าลูกสาวอยากรู้เรื่องอะไร
"หนูไม่ชอบเหรอ"
"ชอบสิคะ เซอร์ไพรส์จนน้ำตาไหลเลย" หญิงสาวรีบปาดน้ำตาที่เหลืออยู่ออก แล้วซบใบหน้างามลงกับลำแขนของคนเป็นสามี
กองทัพปลายสายตามองดูผู้หญิงข้างๆ เล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้พูดหรือทำอะไรเพราะยังอยู่ต่อหน้าผู้บังคับบัญชา
"พอจะนอนได้ไหมล่ะห้องนั้น เดี๋ยวพ่อให้คนมาตกแต่งภายในให้"
"นอนได้ค่ะ" หญิงสาวรีบตอบไป อยากจะรู้เหมือนกันเขาจะทนความลำบากได้ไหม ที่นอนก็แข็งกระด้าง ห้องก็ไม่มีแอร์ แถมห้องน้ำยังอยู่ด้านนอก
คุยกับพ่อตารู้เรื่อง กองทัพก็เลยเอากระเป๋าเข้ามาในห้องนอน ชายหนุ่มมองไปรอบๆ มีแค่ตู้ที่เป็นลิ้นชัก และตู้กระจกเก่าๆ เตียงนอนที่มีฟูกแข็งๆ"ฉันช่วยค่ะ" หญิงสาวเอื้อมมือมารับกระเป๋าจากเขาเพื่อเอาไปพับเก็บไว้ในลิ้นชักชายหนุ่มปล่อยให้เธอเป็นคนจัดการ แล้วก็เดินมานั่งลงที่เตียง พอสะโพกแตะกับพื้นที่นอนดวงตาคมถึงกับมองต่ำลงไปดูแล้วสายตานั้นก็มองไปรอบๆ ห้อง คนร่างสูงรีบลุกเดินมาเปิดประตูมองออกไปด้านนอกโดยไม่ถาม ที่เขามองก็คือดูว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน เพราะในห้องนี้ไม่มีที่กรมกองทัพก็มีบ้านพักประจำตำแหน่ง ช่วงไหนไม่อยากกลับบ้านก็พักบ้านพักที่ถูกจัดไว้ให้ แต่สภาพมันไม่ได้ทรุดโทรมแบบนี้"ถ้าจัดอะไรกันเสร็จแล้วก็มาทานข้าว" เห็นลูกเขยยืนอยู่หน้าประตู ท่านพลเอกก็เลยเรียกออกมา"ทานข้าวหรือครับ?" กองทัพมองไปที่โต๊ะเห็นว่าท่านกำลังจัดเตรียมกับข้าว มันเกิดอะไรขึ้นกับท่าน ไม่คิดว่าจะเห็นภาพนี้"ทำไมคุณพ่อไม่ให้โมนาทำล่ะคะ" หญิงสาวได้ยินเสียงที่พ่อเรียกมาทานข้าว เธอก็รีบวางผ้าที่พับอยู่ก่อน"แค่นี้พ่อทำเองได้" มันเป็นการผูกปิ่นโตกับแม่ค้าในค่ายทหาร แต่ท่านจะผูกแค่ตอนเย็น เพราะเช้ากับเที่ยงท่านไปทานที่กองบ
จมูกคมฝังลงที่ซอกคอระหงเพื่อสัมผัสกลิ่นกายอีกฝ่ายโดยที่เจ้าตัวนอนนิ่ง เขาแค่อยากทดลองว่าตัวเองจะมีความต้องการในตัวผู้หญิงคนนี้ไหม พอได้สัมผัสก็ไม่แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นตรงไหนแต่ถ้าเขาสังเกตอีกสักนิดจะรู้ว่าร่างกายของเธอสั่นกลัว ถึงแม้จะเติบโตอยู่ต่างประเทศ เธอก็ไม่เคยปล่อยตัวกับผู้ชายที่ไหน หลายคนอาจจะพูดว่าคนเป็นแม่อย่าทำให้เป็นเยี่ยงอย่างให้ลูกเห็น เดี๋ยวลูกจะเจริญตามรอย แต่พอเธอเห็นแม่คลอเคลียกับผู้ชายมากหน้าหลายตา บางทีก็ทำต่อหน้าเธอ แม่อาจจะคิดว่าเธอเด็กมากไม่รู้ประสีประสาและเหตุการณ์แบบนั้นแหละมันทำให้มโนราห์สาบานกับตัวเอง ว่าจะไม่ทำตัวเหมือนแม่ มันก็เลยเป็นการปิดกั้นตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ผู้ชายคนไหน แม้แต่เขาคนที่เป็นสามี ถ้าไม่เพราะแม่..คิดหรือว่าเธอจะสนใจผู้ชายคนนี้"อือ" ขณะที่หญิงสาวกำลังคิดเรื่องแม่และหวาดกลัวสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ริมฝีปากหนาขยับต่ำลงมาจนถึงเนินหน้าอก มโนราห์ห่อตัวเข้าเล็กน้อยขณะที่มือของเขาขยับชุดชั้นในลง เผยให้เห็นเม็ดเนื้อเล็กๆ ที่โผล่พ้นออกมา "อื้อ" หญิงสาวสะดุ้งเมื่อริมฝีปากของคนที่อยู่ด้านบนขบกัดเล็กน้อยลิ้นสากตวัดเลียวนรอบยอดเม็ดที่กำลังแข็งตัว
ดวงตากลมปิดลงเมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังส่งตัวตนของเขาเข้ามา อิจฉานะ อิจฉาคนที่เขามีอะไรกันเพราะความรัก แต่สำหรับเธอกำลังจะเสียไปเพราะแค่อีกฝ่ายอยากพิสูจน์ มันดูไร้ค่ามาก แต่ชีวิตเธอก็ไร้ค่าตั้งแต่เกิดแล้ว เพิ่มอีกสักอย่างจะเป็นไรไปเสียงกัดฟันดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางเล็กน้อย เพื่อระบายความเจ็บที่เขากำลังมอบมันมาให้ปลายยอดความแข็งแกร่งสอดใส่เข้าไปได้เพียงเล็กน้อย เขาก็ต้องได้จับมันออกมา แล้วเสียดสีกับยอดเม็ดเสียวเพื่อตั้งลำใหม่ ชายหนุ่มจับถูไถอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง แล้วก็ส่งมันเข้าไปอีกครั้ง"อื๊อ" เสียงนี้เล็ดลอดออกมาจากลำคอระหงเพียงเบาๆ เพราะเธอกลั้นความเจ็บไม่อยู่อีกแล้ว "??" ในเมื่อมันเข้ามาได้ประมาณหนึ่งแล้วทำไมเขาต้องเอาออกด้วย หรือเขาคิดว่าเธอไม่บริสุทธิ์แบบที่พูดไว้? หญิงสาวที่หลับตาอยู่ถึงกับเปิดกว้างขึ้น ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาคงจะดูถูกเธอมากกว่าเดิมที่กองทัพต้องดึงออกมาก่อน เพราะคิดว่าที่มันเข้าลำบากเพราะเธอยังไม่มีอารมณ์ร่วม เขาก็เลยต้องได้กระตุ้นเธอก่อนโดยการ.."อือ" มโนราห์ตกใจอยู่ดีๆ ใบหน้าคมก็ฝังลงไปที่เนินน้องสาว "ขะ..คุณทำอะไร" ในเวลานี้เธออ่านใจเขาไม่ออกเลยจร
เที่ยงวันนั้น.."กลับไปทานข้าวที่บ้านกันไหม" ค่ายทหารที่นี่ห่างจากชุมชน เพราะสร้างอยู่ในพื้นที่ราชการอันกว้างขวาง ถ้าจะออกไปทานด้านนอกก็ขับรถไกลหน่อย หรือไม่ก็เข้าไปทานในตัวเมืองขับรถเป็น 10 กิโลเมตร อีกทางเลือกหนึ่งก็คือทานร้านอาหารของแม่ค้าที่ประมูลขายของที่นี่ได้ แต่ถ้าทานร้านอาหารในค่าย ต้องเผื่อใจไว้เพราะทหารทุกชนชั้นไปที่นั่นกันหมดคนเยอะพลเอกเรวทัตก็เลยชวนลูกเขยกลับไปทานที่บ้าน เพราะสั่งแก้วใจให้ทำอาหารไว้เผื่อแล้ว"ครับ" เขาก็ยังไม่รู้ว่าต้องไปทานข้าวที่ไหน ก็เลยตามท่านกลับไปทานที่บ้านดีกว่าทั้งสองนั่งรถมาด้วยกัน โดยมีผู้พันกองทัพเป็นคนขับ"เตรียมอาหารเสร็จพอดีเลยค่ะ" แก้วใจรีบยกอาหารมาตั้งโต๊ะให้ เมื่อเห็นว่าทั้งสองท่านกลับมา"แล้วนี่ คุณหนูล่ะ" คนเป็นพ่อถามหาลูกสาวเมื่อไม่เห็น"คุณหนูให้แก้วเตรียมยามาให้เมื่อตอนกลางวัน และยังไม่เห็นออกมาจากห้องเลยค่ะ สงสัยว่าจะไม่สบาย""ไม่สบายเหรอ" ประโยคนี้กองทัพเป็นคนพูด แต่พอเห็นพ่อเธอหันมามองเขาก็เลยเงียบไป"ได้นอนพักหน่อยก็คงจะดีขึ้น เราทานข้าวกันเถอะ""ครับ" สายตาแอบมองไปที่ห้องเล็กน้อย เพราะห้องนอนก็อยู่ใกล้กันนี่เอง"พรุ่งนี้จะมีผู
"ดูผู้กองจะขยันจังเลยนะ" เรวทัตกลับมาถึงก็เห็นว่าผู้กองฉลามกำลังจัดการกับต้นไม้ใบหญ้ารอบบ้านพัก"ท่านกลับมาแล้วหรือครับ" ผู้กองฉลามวางอุปกรณ์ที่กำลังทำงานอยู่แล้วลุกขึ้นทำความเคารพ"ถูกทำโทษอะไรล่ะเรา" ทหารด้วยกันมองออก"ไม่ทราบเหมือนกันครับ""หึ..ถือว่ายืดเส้นยืดสาย""ครับผม""คุณพ่อกลับมาแล้วเหรอคะ" มโนราห์ยังไม่เข้าไปในห้อง เพราะเขาอยู่ในนั้น พอได้ยินเสียงพ่อก็รีบเดินออกมา"กลับมาแล้ว""คุณพ่อคะ""มีอะไร""คุณพ่อช่วยสั่งผู้กองฉลามหยุดหน่อยได้ไหมคะ" มโนราห์ออกมาบอกให้ฉลามหยุดครั้งหนึ่งแล้ว เพราะเธอคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ฉลามถูกทำโทษ แต่ไม่ได้ไปขอร้องคนที่สั่ง"พ่อสั่งหยุดไม่ได้หรอก ต้องให้คนที่สั่งลงโทษ""คุณพ่อใหญ่กว่านี่คะ""ใหญ่กว่าก็สั่งไม่ได้"ในเมื่อช่วยผู้กองฉลามไม่ได้ หญิงสาวก็เลยไปทำความสะอาดช่วย"คุณกำลังจะทำอะไร" ฉลามตกใจอยู่ดีๆ เธอก็เดินมาหอบหญ้าที่เขากองไว้"ช่วยคุณทำจะได้เสร็จเร็วๆ""ไม่ต้องหรอกครับผมทำเองได้""ฉันจะช่วย" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปถือกรรไกรตัดกิ่งไม้ แล้วก็ช่วยผู้กองฉลามทำงาน"อุ๊ย?" ฉลามมองมโนราห์อยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปกำลังจะจับจอบเพื่อจัดการกับหญ้า
เช้าวันต่อมา.. หญิงสาวตื่นขึ้นมาก็รีบมองดูว่าเมื่อคืนนี้เขากลับมาไหม แต่ก็ไม่เห็นใครนอนอยู่ข้างๆเมื่อคืนเขาไม่ได้กลับมาเหรอ? คนตัวเล็กรีบดันกายลุกขึ้นจากเตียงนอน แต่ขณะที่จะลุกขึ้นมือข้างเจ็บไปโดนเข้ากับที่นอน"หือ??" ใครมาทำแผลให้เรา? แผลพุพองเมื่อวาน ตอนนี้มีผ้าพันแผลปิดอยู่ แถมข้างๆ ก็มียาล้างแผลและยาแก้อักเสบ "คุณพ่อหรือเปล่า?" ในหัวของเธอไม่คิดถึงเขาเลย มโนราห์คิดว่าแก้วใจคงเอายามาให้พ่อ แล้วพ่อเห็นว่าเธอนอนหลับอยู่ก็เลยทำให้ ส่วนเขาน่ะหรือ ออกไปเที่ยวป่านนี้ยังไม่กลับมาเลยมั้งได้ทำแผลและได้ทานยาก่อนนอน ตื่นมาก็รู้สึกดีขึ้นมากคนตัวเล็กลุกเดินไปเปิดดูหน้าต่าง มองออกไปด้านนอก ชีวิตเธอมีครบทุกอย่าง แต่ทำไมดูเหมือนไม่มีใครเลย มีทั้งพ่อ แม่ พี่ แถมยังมีสามีแล้วด้วย แต่ความรู้สึกของเธอทำไมดูว้าเหว่เหมือนไม่มีใครคิดถึงครอบครัวก็พลอยทำให้คิดถึงวันเกิด มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แม่อวยพรวันเกิดให้ ทีแรกคิดว่าท่านอวยพรด้วยใจที่รักลูก แต่ที่ไหนได้หวังผลจากวันเกิดของลูกสาวชัดๆ เพราะวันนั้นแม่ให้มโนราห์โทรไปหาพ่อบอกว่าเป็นวันเกิด อยากให้พ่อมาหาสายๆ ของวันเดียวกัน..ทานข้าวเสร็จหญิงสาวก็ออกมาเดิน
มโนราห์นอนเอาแรงตั้งแต่ช่วงเย็น ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน ตื่นมาอีกทีในห้องมืดมาก"คุณพ่อยังไม่กลับอีกเหรอ?" หญิงสาวรีบลุกขึ้นเพราะกลัวว่ามันจะผ่านวันเกิดตัวเองไปก่อน ยังไงก็ขอสักปีที่ได้ยินคำอวยพร "อุ๊ย ใคร??" ขณะที่เธอกำลังจะลงจากเตียงเพื่อไปเปิดไฟ แต่ก็ต้องสะดุดกับอะไรบางอย่างที่อยู่บนเตียงจนล้มลงไปทับมโนราห์รีบดันตัวลุกขึ้น เพราะแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เธอคลำอยู่คือคน"ปล่อย!!" จังหวะดันตัวลุกออกแต่ถูกคนที่เธอทับอยู่กอดรัดร่างไว้แน่น "กรี๊ด อืมม?!!" มโนราห์ตกใจมากกำลังจะส่งเสียงให้พ่อได้ยิน แต่ก็ถูกจับพลิกลงด้านล่างแล้วปิดปากด้วยปากของอีกฝ่ายไม่ใช่เขาใช่ไหม? ไหนบอกจะไปเป็นอาทิตย์เลยไง แต่ถึงแม้จะเป็นเขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเธออีกแล้ว เพราะคุยกันไว้แล้วว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้กับเธองับ! "โอ๊ย" ชายหนุ่มกำลังจะส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปาก ต้องรีบชักออกมาเพราะฟันแหลมๆ ที่กัดลงมาที่ลิ้น"คุณทำอะไร" มโนราห์ลุกขึ้นได้ก็ผลักร่างหนาให้ออกห่าง "ไหนเราคุยกันแล้วไงว่าคุณจะไม่ทำแบบนี้กับฉันอีก""ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยแค่จูบ""แค่จูบ?!!""ใช่ ไอ้ที่คุยกันวันนั้นไม่ได้มีข้อตกลงอันนี้ด้วย"หญิงสาวโมโหม
เรวทัตมีความหนักใจอยู่มาก เพราะคิดว่าถ้าเจอทั้งสองอีกคงทำหน้าไม่ถูก เคยเป็นสามีที่แย่ ขอเป็นพ่อที่ดีบ้างแล้วกัน มองดูลูกสาวที่เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้าไปในห้อง มันทำให้ผู้เป็นพ่อละทิ้งสิ่งที่กำลังกังวลอยู่ไปให้หมดมโนราห์เข้ามาในห้อง ก็หยิบสร้อยเพชรออกมาดู ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอคงเห็นใบหน้าของพ่อ แต่ตอนนี้มีใบหน้าอีกคนเจือจางอยู่กับสร้อยเพชรเส้นนี้ เขาทำไปเพื่ออะไร เธอเฝ้าแต่ถามตัวเองแต่ก็ไม่รู้คำตอบ เพราะทุกครั้งเห็นหน้าเธอทีไรดูเขาจะรังเกียจไม่นะมโนราห์..เขาอาจทำไปเพราะสำนึกผิด หวังว่าเขาคงสำนึกผิดอยู่บ้าง ที่ทำกับเธอแบบนั้นสองวันต่อมา.. ที่นอนแข็งๆ นอนนานไปก็ทำให้ปวดเมื่อยร่างกาย แต่พอคิดได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันงานเลี้ยงแล้ว มันทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมา ถ้าจะไปร่วมงานก็ต้องเดินทางตั้งแต่วันนี้"เตรียมตัวหรือยังล่ะลูก" ออกมาข้างนอกก็เห็นพ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะรับแขก"จะเดินทางเลยหรือคะ""ต้องรีบเดินทาง เพราะกว่าจะไปถึงที่นั่นก็คงค่ำ""ค่ะ" เธอไม่รู้หรอกว่าพ่อต้องทำใจหนักแน่นแค่ไหนที่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงนี้ใช้เวลาเตรียมตัวอยู่ไม่นานมโนราห์ก็ออกมา เพราะถ้าจะไปงานเลี้ยงจริงเธอต้องไปเตรียมชุดใหม่ ก็เ
"ถึงแม้คุณจะไม่อยากฟัง แต่ผมก็จะพูด เพราะผมรักคุณ" เขาไม่ได้รั้งตัวเธอไว้ แต่ยังคงเดินตามไป จนตอนนี้ทั้งสองออกมาจากงานแล้ว"ฉันไม่อยากเป็นตัวปัญหา คุณกลับไปทำงานของคุณให้เสร็จเถอะค่ะ" ถึงแม้เธอจะหยุดแต่ขณะที่พูดก็ไม่ได้หันกลับไปมองคนที่อยู่ด้านหลัง"ผมจะร้องเพลงต่อไปทำไม ในเมื่อคนที่ผมอยากให้ฟังไม่อยู่ในงานนั้น""คุณแน่ใจเหรอคะ ว่าคุณจะร้องเพลงนี้ให้ฉัน แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้ล่ะคะ..แต่คนที่รู้กลับเป็นผู้หญิงคนนั้น" เธอพยายามจะไม่ดึงผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบทสนทนาแล้ว แต่ก็ยังคาใจเรื่องนี้อยู่"คุณหมายความว่ายังไง""คุณจะขึ้นร้องเพลงฉันยังไม่รู้เลย แต่เธอกลับรู้ว่าคุณจะร้องตอนเปิดงาน""คุณหมายถึงผู้หญิงที่ผมรับมาจากหน้ากรมน่ะเหรอ แม้แต่ชื่อเธอผมยังไม่รู้เลย และเรื่องที่ผมร้องเพลงก่อนผมสาบานได้ว่าเธอคงไม่ได้ยินจากปากผมแน่ๆ""ไหนบอกมันเป็นความลับไงคะ ขนาดฉันยังไม่รู้เลย ทำไมเธอถึงรู้" ในเมื่อเขาไม่ได้พูดแล้วเธอคนนั้นจะรู้มาจากไหน"ใช่มันเป็นความลับ แต่เธออาจจะรู้มาจากนักดนตรี หรือคนจัดเตรียมงานก็ได้นี่ครับ" เพราะทุกคนต้องวางแผนงานแสดงก่อนที่จะเริ่มงาน"ขอบคุณนะคะ สำหรับคำอธิบาย""แล้วคุณยังโก
เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก
ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่
"คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้
ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส
วันต่อมา..หลังการประชุมใหญ่จบลงพอออกมาจากห้องประชุม ตำรวจก็มารอรับตัวคนที่ทำผิดกฎหมาย หัวหน้าขบวนการที่ทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ก็คือเอกมัย สิ่งที่ทำผิดคือสอดไส้สิ่งผิดกฎหมาย ไปกับสินค้าที่ส่งออก ซึ่งถ้ามีเส้นสายทางด้านนี้การตรวจสอบก็จะไม่เข้มงวด หรือถ้าเจอก็แค่ใช้เงินยัด"คุณคิดเหรอว่า ทำแบบนี้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ" ก่อนที่จะถูกนำตัวไป เอกมัยยังหันมาพูดข่มขู่ศักดินามองตามหลังเอกมัยที่ถูกกุมตัวไปแล้ว มันไม่เหมือนสิ่งที่คิดไว้ พอถึงเวลาจริงๆ ทุกอย่างโล่งมาก ไม่หนักอึ้งเหมือนตอนที่แบกไว้กับตัวเลยศักดินาปล่อยให้หน่วยตรวจสอบของรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบบริษัท แล้วแต่การพินิจของเจ้าหน้าที่ ถ้าจะสั่งให้ปิดศักดินาก็ยอม เพราะเหนื่อยมากแล้ว"ผมจะช่วยพูดกับคุณพ่อให้อีกแรงครับ" กองทัพเห็นว่าท่านมีท่าทางที่คิดหนัก"อย่าลำบากท่านนายพลอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรมเถอะ""ขอบใจมึงมากนะเพื่อน" ศิลารู้ดีว่าพ่อรักบริษัทนี้มาก "ก็เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนมีไว้ทำไมถ้าไม่ช่วยเพื่อน""ท่านคะ" เสียงนี้ดังแว่วเข้ามาผ่านฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์ศิลาหันไปมองพ่อว่าท่านมีท่าทียังไงเมื่อเจอ ขวัญชนก ซึ่งตอนนี้ท่านได้เซ็นใบหย่า
>>{"เมียพี่ไม่สบายเหรอ""} {"จะว่าไม่สบายก็ไม่เชิงหรอกพี่ พี่สะใภ้กินอะไรไม่ค่อยลง แถมบอกว่าอาหารเหม็น"}>>{"กินอะไรไม่ค่อยลงอาหารเหม็น? เราเอาอาหารค้างคืนมาให้พี่เขากินเหรอ"} {"เปล่าสักหน่อย อาหารเพิ่งจะตักออกมาจากกระทะร้อนๆ"}"เมื่อกี้มึงว่าอะไร ใครเหม็นอาหาร" กองทัพที่นั่งฟังอยู่ว่าศิลากำลังคุยเรื่องอะไร อดที่จะถามไม่ได้"ก็เมียกูน่ะสิ สงสัยจะไม่สบาย" ศิลาก็เลยวางสายไปจากน้องสาวก่อน"อาการเป็นยังไงบอกมาซิ""น้องสาวกูบอกว่ากินข้าวไม่ค่อยลง ตั้งแต่วันก่อนแล้ว" เพราะพวกเขาออกมาจากบ้านก็สามวันเข้าไปแล้ว"อาการแบบนี้เหมือนเมียกูเลย""เมียมึงก็เป็นเหรอ""เป็นสิ เป็นตอนมีตาทัพไท""อะไรนะ?""เมียไอ้ศิลาท้องเหรอ?" ซันเดย์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันพูดขึ้นมาบ้าง"กูจะไปรู้กับเมียมันเหรอ กูแค่บอกอาการตอนที่เมียกูท้อง""กูกลับบ้านก่อนได้ไหม" ศิลานั่งไม่ติดที่เลยทีนี้ ถ้าหายตัวกลับตอนนี้ได้เขาคงทำไปแล้ว"มึงจะบ้าเหรอ พรุ่งนี้ประชุมสำคัญ""พวกมึงก็จัดการกันไปเองสิวะ""อ้าวไอ้นี่! นี่บริษัทพ่อมึงนะ"ศิลาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปอีกมุมหนึ่ง เพื่อโทรหาเธอ>>{"พ่อครับ"} โทรเข้าเครื่องของแม่ ลูกก็รับอีกอ
"พ่อขอโทษที่ส่งคนตามลูกกับเมียลูก แต่พ่อไม่ได้หวังร้ายเลย""ถึงพ่อไม่ได้หวังร้าย แต่คนที่ถูกตามรู้ไหมว่าเขาหวาดกลัว ผู้หญิงและเด็กแถมยังมีคนแก่ที่พิการ""พ่อคิดถึงหลาน" ศักดินาไม่ปล่อยให้ลูกต่อว่าไปเยอะกว่านี้แล้ว"อะไรนะครับ?""พ่อคิดถึงเทวิน""ผมไม่เชื่อ""ลูกก็รู้ว่าพ่อแสดงความรักออกมาไม่เก่ง""แล้วทำไมหลานถึงบอกว่ากลัวคุณปู่ล่ะ""คงเห็นพ่อขู่แม่แกมั้ง แต่ที่พ่อทำไปเพราะอยากกดดันให้เธอพาแกกลับมาที่บ้าน""พอเถอะศิลา" กองทัพคิดว่าศิลาคงเข้าใจพ่อผิดแล้ว คงเหมือนที่ท่านพูดว่าท่านแสดงความรักออกมาไม่ค่อยเป็น "เรามาหาทางคิดแผนต่อไปกันดีกว่า" นี่แหละที่ทุกคนไม่เข้าไปคุยเรื่องนี้ที่บ้าน เพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง"พ่อต้องขอบใจเราอีกครั้งนะกองทัพ รวมถึงนายด้วย" ศักดินาหันไปหาลูกเขย"ผมหรือครับ" ซันเดย์คิดว่าตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ขอบใจที่ดูแลริศา" นี่แหละอีกเหตุผลหนึ่งที่ท่านอยากให้สาริศาแต่งงานกับเสี่ยเคน เพราะเสี่ยเคนพอมีอำนาจที่จะมาช่วยเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นท่านมองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ"ผมปรึกษากับพ่อแล้วครับ ท่านบอกว่าจะช่วยเรื่องนี้""ท่านบอกอย่างนั้นเหรอ" คนที่ถามก็คือศิลา เพราะเขาเริ