มโนราห์นอนเอาแรงตั้งแต่ช่วงเย็น ไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน ตื่นมาอีกทีในห้องมืดมาก"คุณพ่อยังไม่กลับอีกเหรอ?" หญิงสาวรีบลุกขึ้นเพราะกลัวว่ามันจะผ่านวันเกิดตัวเองไปก่อน ยังไงก็ขอสักปีที่ได้ยินคำอวยพร "อุ๊ย ใคร??" ขณะที่เธอกำลังจะลงจากเตียงเพื่อไปเปิดไฟ แต่ก็ต้องสะดุดกับอะไรบางอย่างที่อยู่บนเตียงจนล้มลงไปทับมโนราห์รีบดันตัวลุกขึ้น เพราะแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เธอคลำอยู่คือคน"ปล่อย!!" จังหวะดันตัวลุกออกแต่ถูกคนที่เธอทับอยู่กอดรัดร่างไว้แน่น "กรี๊ด อืมม?!!" มโนราห์ตกใจมากกำลังจะส่งเสียงให้พ่อได้ยิน แต่ก็ถูกจับพลิกลงด้านล่างแล้วปิดปากด้วยปากของอีกฝ่ายไม่ใช่เขาใช่ไหม? ไหนบอกจะไปเป็นอาทิตย์เลยไง แต่ถึงแม้จะเป็นเขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเธออีกแล้ว เพราะคุยกันไว้แล้วว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้กับเธองับ! "โอ๊ย" ชายหนุ่มกำลังจะส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปาก ต้องรีบชักออกมาเพราะฟันแหลมๆ ที่กัดลงมาที่ลิ้น"คุณทำอะไร" มโนราห์ลุกขึ้นได้ก็ผลักร่างหนาให้ออกห่าง "ไหนเราคุยกันแล้วไงว่าคุณจะไม่ทำแบบนี้กับฉันอีก""ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยแค่จูบ""แค่จูบ?!!""ใช่ ไอ้ที่คุยกันวันนั้นไม่ได้มีข้อตกลงอันนี้ด้วย"หญิงสาวโมโหม
เรวทัตมีความหนักใจอยู่มาก เพราะคิดว่าถ้าเจอทั้งสองอีกคงทำหน้าไม่ถูก เคยเป็นสามีที่แย่ ขอเป็นพ่อที่ดีบ้างแล้วกัน มองดูลูกสาวที่เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้าไปในห้อง มันทำให้ผู้เป็นพ่อละทิ้งสิ่งที่กำลังกังวลอยู่ไปให้หมดมโนราห์เข้ามาในห้อง ก็หยิบสร้อยเพชรออกมาดู ถ้าเป็นแต่ก่อนเธอคงเห็นใบหน้าของพ่อ แต่ตอนนี้มีใบหน้าอีกคนเจือจางอยู่กับสร้อยเพชรเส้นนี้ เขาทำไปเพื่ออะไร เธอเฝ้าแต่ถามตัวเองแต่ก็ไม่รู้คำตอบ เพราะทุกครั้งเห็นหน้าเธอทีไรดูเขาจะรังเกียจไม่นะมโนราห์..เขาอาจทำไปเพราะสำนึกผิด หวังว่าเขาคงสำนึกผิดอยู่บ้าง ที่ทำกับเธอแบบนั้นสองวันต่อมา.. ที่นอนแข็งๆ นอนนานไปก็ทำให้ปวดเมื่อยร่างกาย แต่พอคิดได้ว่าพรุ่งนี้เป็นวันงานเลี้ยงแล้ว มันทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมา ถ้าจะไปร่วมงานก็ต้องเดินทางตั้งแต่วันนี้"เตรียมตัวหรือยังล่ะลูก" ออกมาข้างนอกก็เห็นพ่อนั่งอยู่ที่โต๊ะรับแขก"จะเดินทางเลยหรือคะ""ต้องรีบเดินทาง เพราะกว่าจะไปถึงที่นั่นก็คงค่ำ""ค่ะ" เธอไม่รู้หรอกว่าพ่อต้องทำใจหนักแน่นแค่ไหนที่ต้องไปร่วมงานเลี้ยงนี้ใช้เวลาเตรียมตัวอยู่ไม่นานมโนราห์ก็ออกมา เพราะถ้าจะไปงานเลี้ยงจริงเธอต้องไปเตรียมชุดใหม่ ก็เ
"ขอบคุณมากนะคะ" เมขลาพูดพร้อมกับก้าวเท้าลงจากรถคันหรู ด้วยแรงเกาะแขนของผู้พันกองทัพ"เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะพ่อ" มโนราห์รีบหันกลับมาชวนพ่อเข้าไปก่อนที่พวกเขาจะเข้ามา"ลูกไม่รอ.." สายตาคนเป็นพ่อละจากรถคันนั้นหันกลับมาหาลูกสาวคนเล็ก"ไม่ค่ะ" มโนราห์ส่งยิ้มหวานให้กับพ่อ เพื่อให้ท่านเห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร เพราะผู้หญิงคนนั้นก็ลูกสาวของท่านเหมือนกันทั้งสองก็เลยควงกันเข้างาน คนที่ต้อนรับอยู่เมื่อสักครู่รีบเข้าไปเตรียมที่นั่งให้กับพลเอกเรวทัต เพราะไม่รู้ว่าท่านจะมาด้วย แต่ที่จริงท่านก็ปฏิเสธตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่มาร่วมงานนี้มโนราห์เลือกที่จะนั่งหันหลังให้กับทางเข้า เพื่อไม่เห็นภาพนั้น และพยายามชวนพ่อคุย คิดว่าพวกเขาคงกำลังเดินเข้ามากัน"ผมเตรียมที่นั่งไว้ให้ด้านในแล้ว" เสียงเกษมราษฎร์พูดกับภรรยากองทัพก็เลยพาเมขลาเดินตามพ่อและแม่เลี้ยงเข้าไปเพื่อส่งเธอให้ถึงที่นั่งก่อน"ขอบคุณมากค่ะ" เมขลานั่งลงชุดของเธอเกะกะเพราะยาวเฟื้อย กองทัพก็เลยโน้มตัวลงไปขยับชุดเข้าด้านในให้ เพราะกลัวคนเดินผ่านไปมาจะสะดุดเอาและภาพนั้นมันก็อยู่ในสายตาของคนเป็นภรรยา เพราะพวกเขาพากันมานั่งโต๊ะที่อยู่ด้านหน้าเธอนี่เอง"นั่ง
"ปล่อย" มโนราห์แกะมือนั้นออกจากเอว เธอยังไม่พร้อมที่จะคุย เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ความรู้สึกตัวเองเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆ คือไม่อยากคุยกับเขา"มาถึงตั้งแต่เมื่อไร""อยากรู้ทำไม""เดี๋ยวก็ว่าไม่ถามอีก""ไม่ว่าหรอกค่ะ คุณกลับเข้าไปในงานเถอะ" เธอพยายามที่จะทำตัวให้ปกติที่สุดแล้ว"ออกมานั่งแบบนี้คนเดียวไม่กลัวหรือไง""ไม่กลัว" ชีวิตเธอต้องกลัวอะไรอีกล่ะ เติบโตมาคนเดียวจากต่างบ้านต่างเมืองเธอยังผ่านมาได้เลย"ท่านผู้พันอยู่ตรงนี้เอง ผู้ใหญ่ถามหาครับ" ทหารที่ดูแลความเรียบร้อยด้านในรีบออกมาตาม"เดี๋ยวฉันตามไป" ขณะที่หันไปคุยกับลูกน้องมือหนานั้นไม่ได้ปล่อยออกจากเอวเล็ก จนลูกน้องแอบมอง"ครับ""เข้าไปข้างในกันก่อน""คนเยอะอึดอัด" มโนราห์พยายามให้เหตุผล ที่ฟังดูดีที่สุดแล้ว"รู้ว่าคนเยอะแล้วจะมาทำไม""ขอโทษค่ะที่ฉันมาร่วมงานด้วย" เขาไม่รู้หรอกว่าประโยคที่พูดออกมาทำให้เธอน้อยใจแค่ไหน เพราะนั่นหมายถึงว่าเขาไม่อยากให้เธอมาร่วมงานนี้เลยด้วยซ้ำ"ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น""คุณเข้าไปเถอะค่ะ" ยิ่งเขาพูดมันก็ยิ่งด้อยค่าในตัวเธอมากจังหวะที่กองทัพลุกขึ้นได้คว้าแขนเรียวให้เดินตาม ถึงแม้เธอจะไม่อยากเข้าไปแต่เขาก็
"ทำไมฉันต้องค้างที่นี่ด้วย""อย่าลืมสิว่าเราเป็นอะไรกัน""แล้วเราเป็นอะไรกันหรือคะ""คุณใช้นามสกุลของใครอยู่""ที่คุณพูดแบบนี้อยากทวงนามสกุลคืนเหรอ""เราพูดเรื่องเดียวกันไหมเนี่ย""คุณจะหาว่าฉันงี่เง่าใช่ไหมคะ""ไปกันใหญ่แล้วมโนราห์""ดีใจนะคะที่คุณยังจำชื่อฉันได้" นึกว่าจำได้แต่เมขลา ประโยคนี้คงพูดออกไปไม่ได้ ถ้าพูดออกไปเธอก็คงจะเป็นคนผิดอีกนั่นแหละ"คืนนี้ค้างที่นี่ก่อน มันดึกแล้วกว่าท่านจะกลับ"มโนราห์ได้แต่มองตามคนที่ออกจากห้องไปหญิงสาวเดินไปดูกระจก เพื่อสำรวจรอยขาดนั้นว่ามันน่าเกลียดไหมหลังจากที่กองทัพไปเพียงไม่นาน มโนราห์ก็ออกมาจากบ้านหลังนั้น เธอไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ใช้สก๊อตเทปใสแปะตรงรอยขาดเพื่อให้มันเชื่อมต่อกัน"อ้าว..ไหนพี่บอกว่าเราจะค้างด้วยที่นี่ไง" พลเอกเรวทัตเพิ่งคุยกับลูกเขยไปเมื่อสักครู่ ลูกสาวก็กลับมานั่งที่เดิมแล้ว"ไม่เอาจะกลับกับพ่อ""เรามีสามีแล้วนะลูก""งานเขาเยอะค่ะ อยากอยู่กับพ่อด้วย" ถ้าพ่อรู้ว่าเขาคิดและดูถูกลูกสาวของท่านยังไง ท่านคงไม่พูดแบบนี้"ตามใจ แล้วบอกพี่หรือยังล่ะ""คุณพ่อใกล้จะกลับแล้วใช่ไหมคะ" มโนราห์ชวนพ่อพูดไปเรื่องอื่น"ว่าจะอยู่อีกสักพัก
"ไปบอกในงานว่ากูไม่กลับไปแล้ว""ทำไมคุณจะไม่กลับไปล่ะ""ผู้พันครับไว้ชีวิตผมเถอะ เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงกว่าเอง" เสียงผู้กองฉลามยังคงตะโกนเข้ามา ถึงจะถูกทำโทษยังไงวันนี้ต้องลากตัวท่านผู้พันกลับไปให้ได้"คุณกลับไปเถอะค่ะ ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวได้""อยู่ได้แน่นะ"เขากลัวเราไปสร้างปัญหาอีกหรือกลัวเราอยู่คนเดียวไม่ได้ แต่ก็ดูเหมือนเขาเป็นห่วง ..เพราะเห็นสายตาของเธอนั่นแหละกองทัพก็เลยไม่อยากปล่อยไว้คนเดียว[เรือนจัดเลี้ยง]ที่จริงก็มีนักดนตรีร้องเพลงรออยู่ แต่คนสำคัญของงานจริงๆ ก็คือผู้พันกองทัพเสียงปรบมือเริ่มดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงผู้พันเป็นคนร้องเพลงท่อนต่อไปต่อจากนักดนตรีคนเป็นพ่อแอบสังเกตเห็นความเปลี่ยนไปของลูกชาย ไม่ใช่แค่เกษมราษฎร์หรอก พุดตาลก็เห็นความเปลี่ยนแปลง เพราะดูเหมือนกองทัพจะเป็นห่วงมโนราห์มาก เกือบทำงานล่มแล้วด้วยในเวลาต่อมาที่ลานจอดรถ.."กระเป๋าของคุณหนูยังอยู่ในรถครับท่าน" คนขับรถได้ยินว่าคุณหนูจะไม่กลับด้วยก็เลยหยิบกระเป๋าออกมาให้ท่านพลเอกเห็น"ไม่เป็นไรหรอก เรากลับกันก่อน" ทีแรกก็ว่าจะฝากกระเป๋ากับลูกเขยไปให้ลูกสาว แต่พอมองไปเห็นภรรยาเก่าเดินออกมากับสามีใหม่ ท่านก็เลยส
อึบ! จังหวะที่มโนราห์หยุดแล้วหันกลับมา คนร่างสูงที่เดินตามเข้ามาหยุดไม่ทันก็เลยชน"โอ๊ยย""นึกจะหยุดก็หยุด" ชายหนุ่มโน้มตัวลงไปประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้น เพราะเขารับร่างเธอไว้ไม่ทัน"ชนเข้ามาได้ยังไงตัวยังกับยักษ์" มือเรียวลูบคลำสะโพกเบาๆ ตกชิงช้าเมื่อคืนนี้ยังเจ็บไม่หาย ตอนเช้าถูกชนเข้าที่เดิมอีก สงสัยต้องได้ทำบุญสะเดาะเคราะห์แล้วล่ะ"เดี๋ยวผมดูให้""คุณจะบ้าเหรอ" ขาเรียวรีบก้าวถอยไป จะมาเปิดดูสะโพกเธอบ้าแล้วหรือไง"แล้วเมื่อกี้จะถามอะไร"ลืมไปเลยว่าจะถามเรื่องกระเป๋า "คุณพ่อได้ฝากกระเป๋าไว้ไหม'"ไม่ได้ฝาก""แล้วฉันจะโทรหาพ่อได้ยังไง""โทรหาท่านทำไม""บอกให้ท่านมารับ""มารับไปไหน""รับกลับที่ค่ายต่างจังหวัด" เพราะจบงานเลี้ยงพ่อก็คงต้องกลับไปที่ทำงาน"รอกลับพร้อมกัน""กลับพร้อมใคร""พร้อมผมไง""คุณต้องอยู่นี่อีกเป็นอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ""ก็ใช่"บ้าไปแล้วอยู่กับเขาเป็นอาทิตย์มีหวัง...เรื่องเมื่อคืนนี้ผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง ถ้าอยู่กับเขาเป็นอาทิตย์..ไม่อยากจะคิดเลย "ฉันบอกพ่อแล้วว่าจะกลับพร้อมท่าน""ท่านกลับไปแล้ว""จะกลับได้ยังไง""ท่านโทรมาบอกผมเอง""แล้วทำไมคุณไม่บอกว่าฉันจะกลับด้วย" ตั้งแ
"คุณพูดอะไร""ตกใจทำไมคะ แต่ก่อนทำมากกว่าพูดอีก""คุณแพรวพราว คุณไม่กลัวว่าลูกสาวจะได้ยินเหรอ""ลูกสาวฉันน่ะเหรอ แค่พูดคำเดียว..""แม่คะ แม่เห็นโน๊ตบุ๊คไหมคะ" เสียงนี้ดังลงมาจากชั้นบนคนที่กำลังคุยกันอยู่ก็เลยหยุด "โมนาวางไว้บนโต๊ะแต่หาไม่เจอค่ะ" เธอคิดว่าหาดีแล้ว ก็เลยถามแม่ดูเผื่อว่าท่านเก็บไว้ที่อื่น"แม่บริจาคไปแล้วล่ะ""อะไรนะคะ?""จะตกใจอะไรนักหนา""ไม่ได้นะคะแม่ ข้อมูลของโมนาอยู่ในนั้นหมด""ข้อมูลบันดาลหนุ่มๆ ของแกน่ะเหรอ จะไปสนใจทำไม" ประโยคนี้ออกจากปากแม่สายตาเธอมองไปหาอีกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย"แม่""ทำไม? โกรธที่ฉันพูดตรงเกินไปเหรอ""มันอยู่ไหนคะ""ฉันทิ้งไปแล้ว ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอให้แกเลิกติดต่อกับพวกนั้น""มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อยแม่" มโนราห์พ่นลมหายใจออกมาแบบโมโหก่อนที่จะวิ่งกลับขึ้นไปด้านบน"ดูมันนะ ทำตัวเหลวไหลตั้งแต่อยู่ต่างประเทศแล้ว อุตส่าห์พากลับมาขัดเกลา อุ๊ยแพรวพูดมากไปหรือเปล่าคะเนี่ย" มือเรียวงามยกขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ เหมือนกับเพิ่งนึกได้ว่าไม่สมควรที่จะพูด"งื้อออ" มโนราห์กลับขึ้นมาบนห้องด้วยความอัดแน่นในอก จนระบายออกมาด้วยน้ำตา แบบนี้ไงใครเขาถึงมองเธอไม
เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก
ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่
"คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้
ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส
วันต่อมา..หลังการประชุมใหญ่จบลงพอออกมาจากห้องประชุม ตำรวจก็มารอรับตัวคนที่ทำผิดกฎหมาย หัวหน้าขบวนการที่ทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ก็คือเอกมัย สิ่งที่ทำผิดคือสอดไส้สิ่งผิดกฎหมาย ไปกับสินค้าที่ส่งออก ซึ่งถ้ามีเส้นสายทางด้านนี้การตรวจสอบก็จะไม่เข้มงวด หรือถ้าเจอก็แค่ใช้เงินยัด"คุณคิดเหรอว่า ทำแบบนี้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ" ก่อนที่จะถูกนำตัวไป เอกมัยยังหันมาพูดข่มขู่ศักดินามองตามหลังเอกมัยที่ถูกกุมตัวไปแล้ว มันไม่เหมือนสิ่งที่คิดไว้ พอถึงเวลาจริงๆ ทุกอย่างโล่งมาก ไม่หนักอึ้งเหมือนตอนที่แบกไว้กับตัวเลยศักดินาปล่อยให้หน่วยตรวจสอบของรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบบริษัท แล้วแต่การพินิจของเจ้าหน้าที่ ถ้าจะสั่งให้ปิดศักดินาก็ยอม เพราะเหนื่อยมากแล้ว"ผมจะช่วยพูดกับคุณพ่อให้อีกแรงครับ" กองทัพเห็นว่าท่านมีท่าทางที่คิดหนัก"อย่าลำบากท่านนายพลอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรมเถอะ""ขอบใจมึงมากนะเพื่อน" ศิลารู้ดีว่าพ่อรักบริษัทนี้มาก "ก็เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนมีไว้ทำไมถ้าไม่ช่วยเพื่อน""ท่านคะ" เสียงนี้ดังแว่วเข้ามาผ่านฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์ศิลาหันไปมองพ่อว่าท่านมีท่าทียังไงเมื่อเจอ ขวัญชนก ซึ่งตอนนี้ท่านได้เซ็นใบหย่า
>>{"เมียพี่ไม่สบายเหรอ""} {"จะว่าไม่สบายก็ไม่เชิงหรอกพี่ พี่สะใภ้กินอะไรไม่ค่อยลง แถมบอกว่าอาหารเหม็น"}>>{"กินอะไรไม่ค่อยลงอาหารเหม็น? เราเอาอาหารค้างคืนมาให้พี่เขากินเหรอ"} {"เปล่าสักหน่อย อาหารเพิ่งจะตักออกมาจากกระทะร้อนๆ"}"เมื่อกี้มึงว่าอะไร ใครเหม็นอาหาร" กองทัพที่นั่งฟังอยู่ว่าศิลากำลังคุยเรื่องอะไร อดที่จะถามไม่ได้"ก็เมียกูน่ะสิ สงสัยจะไม่สบาย" ศิลาก็เลยวางสายไปจากน้องสาวก่อน"อาการเป็นยังไงบอกมาซิ""น้องสาวกูบอกว่ากินข้าวไม่ค่อยลง ตั้งแต่วันก่อนแล้ว" เพราะพวกเขาออกมาจากบ้านก็สามวันเข้าไปแล้ว"อาการแบบนี้เหมือนเมียกูเลย""เมียมึงก็เป็นเหรอ""เป็นสิ เป็นตอนมีตาทัพไท""อะไรนะ?""เมียไอ้ศิลาท้องเหรอ?" ซันเดย์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันพูดขึ้นมาบ้าง"กูจะไปรู้กับเมียมันเหรอ กูแค่บอกอาการตอนที่เมียกูท้อง""กูกลับบ้านก่อนได้ไหม" ศิลานั่งไม่ติดที่เลยทีนี้ ถ้าหายตัวกลับตอนนี้ได้เขาคงทำไปแล้ว"มึงจะบ้าเหรอ พรุ่งนี้ประชุมสำคัญ""พวกมึงก็จัดการกันไปเองสิวะ""อ้าวไอ้นี่! นี่บริษัทพ่อมึงนะ"ศิลาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปอีกมุมหนึ่ง เพื่อโทรหาเธอ>>{"พ่อครับ"} โทรเข้าเครื่องของแม่ ลูกก็รับอีกอ
"พ่อขอโทษที่ส่งคนตามลูกกับเมียลูก แต่พ่อไม่ได้หวังร้ายเลย""ถึงพ่อไม่ได้หวังร้าย แต่คนที่ถูกตามรู้ไหมว่าเขาหวาดกลัว ผู้หญิงและเด็กแถมยังมีคนแก่ที่พิการ""พ่อคิดถึงหลาน" ศักดินาไม่ปล่อยให้ลูกต่อว่าไปเยอะกว่านี้แล้ว"อะไรนะครับ?""พ่อคิดถึงเทวิน""ผมไม่เชื่อ""ลูกก็รู้ว่าพ่อแสดงความรักออกมาไม่เก่ง""แล้วทำไมหลานถึงบอกว่ากลัวคุณปู่ล่ะ""คงเห็นพ่อขู่แม่แกมั้ง แต่ที่พ่อทำไปเพราะอยากกดดันให้เธอพาแกกลับมาที่บ้าน""พอเถอะศิลา" กองทัพคิดว่าศิลาคงเข้าใจพ่อผิดแล้ว คงเหมือนที่ท่านพูดว่าท่านแสดงความรักออกมาไม่ค่อยเป็น "เรามาหาทางคิดแผนต่อไปกันดีกว่า" นี่แหละที่ทุกคนไม่เข้าไปคุยเรื่องนี้ที่บ้าน เพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง"พ่อต้องขอบใจเราอีกครั้งนะกองทัพ รวมถึงนายด้วย" ศักดินาหันไปหาลูกเขย"ผมหรือครับ" ซันเดย์คิดว่าตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ขอบใจที่ดูแลริศา" นี่แหละอีกเหตุผลหนึ่งที่ท่านอยากให้สาริศาแต่งงานกับเสี่ยเคน เพราะเสี่ยเคนพอมีอำนาจที่จะมาช่วยเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นท่านมองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ"ผมปรึกษากับพ่อแล้วครับ ท่านบอกว่าจะช่วยเรื่องนี้""ท่านบอกอย่างนั้นเหรอ" คนที่ถามก็คือศิลา เพราะเขาเริ
ใช้เวลาขับรถอยู่ร่วมสามชั่วโมง ก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทาง เพราะถนนช่วงนี้โล่งมาก"พ่อมึงมีญาณทิพย์เหรอวะ" ยังไม่ลงจากรถเลยด้วยซ้ำ ศักดินาก็เดินออกมาต้อนรับลูกและเพื่อนๆ ของลูก"ดูอบอุ่นดีนี่" ศักดินาเอ่ยทักทายคนที่เพิ่งลงมาจากรถ เพราะลูกชายไม่ได้มาแค่คนเดียว"สวัสดีครับ" เพื่อนทั้งสองยกมือไหว้ ถึงยังไงท่านก็เป็นพ่อของเพื่อนรัก แถมยังเป็นพ่อตาของซันเดย์ด้วย"ยินดีต้อนรับ ชวนเพื่อนเข้ามาข้างในสิลูก" ศักดินาเอ่ยพูดด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกดูไม่มีพิษไม่มีภัยทั้งสามก็เลยเดินตามเข้าไปในบ้าน"น้ำค่ะ" ก้นยังไม่ถึงโซฟาเลยด้วยซ้ำ ขวัญชนกก็ยกน้ำมาบริการแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจน้ำเลย ขวัญชนกก็เลยนั่งลงข้างๆ คนที่เป็นสามี แต่สายตานั้นมองดูหนุ่มๆ ด้วยแววตาหวานหยดย้อย"ผมจะคุยธุระ คุณมีอะไรทำก็ไปทำ" ศักดินาพูดพร้อมกับมองดูคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เล็กน้อย"ท่านคะ""บอกว่าจะคุยธุระไง"ก่อนที่ขวัญชนกจะออกจากห้องนั้น สายตาได้มองไปที่ลูกน้องของท่านแบบรู้กันแค่สองคน"เราตัดสินใจแล้วใช่ไหมว่าจะมารับช่วงต่อจากพ่อ""ผมไม่ชอบงานบริษัท""ถึงไม่ชอบแกก็ต้องได้มารับช่วงต่อ เพราะแกคือลูกชายคนเดียวของฉัน""พ่อก็ยังแข็งแรง