"คุณพูดอะไร""ตกใจทำไมคะ แต่ก่อนทำมากกว่าพูดอีก""คุณแพรวพราว คุณไม่กลัวว่าลูกสาวจะได้ยินเหรอ""ลูกสาวฉันน่ะเหรอ แค่พูดคำเดียว..""แม่คะ แม่เห็นโน๊ตบุ๊คไหมคะ" เสียงนี้ดังลงมาจากชั้นบนคนที่กำลังคุยกันอยู่ก็เลยหยุด "โมนาวางไว้บนโต๊ะแต่หาไม่เจอค่ะ" เธอคิดว่าหาดีแล้ว ก็เลยถามแม่ดูเผื่อว่าท่านเก็บไว้ที่อื่น"แม่บริจาคไปแล้วล่ะ""อะไรนะคะ?""จะตกใจอะไรนักหนา""ไม่ได้นะคะแม่ ข้อมูลของโมนาอยู่ในนั้นหมด""ข้อมูลบันดาลหนุ่มๆ ของแกน่ะเหรอ จะไปสนใจทำไม" ประโยคนี้ออกจากปากแม่สายตาเธอมองไปหาอีกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย"แม่""ทำไม? โกรธที่ฉันพูดตรงเกินไปเหรอ""มันอยู่ไหนคะ""ฉันทิ้งไปแล้ว ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอให้แกเลิกติดต่อกับพวกนั้น""มันไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อยแม่" มโนราห์พ่นลมหายใจออกมาแบบโมโหก่อนที่จะวิ่งกลับขึ้นไปด้านบน"ดูมันนะ ทำตัวเหลวไหลตั้งแต่อยู่ต่างประเทศแล้ว อุตส่าห์พากลับมาขัดเกลา อุ๊ยแพรวพูดมากไปหรือเปล่าคะเนี่ย" มือเรียวงามยกขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ เหมือนกับเพิ่งนึกได้ว่าไม่สมควรที่จะพูด"งื้อออ" มโนราห์กลับขึ้นมาบนห้องด้วยความอัดแน่นในอก จนระบายออกมาด้วยน้ำตา แบบนี้ไงใครเขาถึงมองเธอไม
ถ้ามโนราห์จะปฏิเสธก็กลัวพ่อไม่สบายใจ เธอก็เลยเตรียมตัวเดินทางพร้อมท่านตั้งแต่กลับมาที่ค่ายต่างจังหวัดไม่มีวันไหนเลยไม่คิดถึงเขา อุตส่าห์พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้ถลำลึกลงไปมากกว่านี้ เพราะถึงยังไงอนาคตของเธอก็คงไม่มีเขาเคียงข้างอยู่แล้ววันต่อมา..ทั้งสองขึ้นเครื่องมาลงที่สนามบิน และเรียกรถของสนามบินให้มาส่งโรงพยาบาล นี่แหละด้วยความที่เจ้าชู้มีหลายบ้าน พอแก่ตัวไปก็ไม่มีหลักแหล่ง จะโทรเรียกลูกมารับพวกเขาก็คงไม่เต็มใจมา ถ้าจะใช้รถของทางราชการตัวเองก็มาด้วยเรื่องส่วนตัวทุกคนที่นั่งรออยู่หน้าห้องคลอด เห็นท่านพลเอกเรวทัตเดินมาพร้อมกับลูกสาวคนเล็กต่างก็มอง"สวัสดีค่ะ" เมขลาและเอวายกมือไหว้ท่านก่อน ตามด้วยทศกัณฐ์ ส่วนรามสูรตอนนี้อยู่ในห้องคลอดกับภรรยาทางด้านเพลิงติดงานราชการแทนลูกพี่ก็เลยมายังไม่ได้"เป็นยังไงบ้าง" ขณะที่ถามลูกๆ สายตาของเรวทัตอดมองไปดูภรรยาเก่ากับสามีใหม่ของนางไม่ได้ ทั้งสองนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งซึ่งถูกจัดขึ้นให้สมเกียรติ"เข้าไปนานแล้วค่ะ" เมขลาตอบพ่อแต่สายตาแอบมองไปดูมโนราห์ ท่านคงรักมโนราห์มากเห็นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด"คุณพ่อนั่งก่อนสิครับ" ทศกัณฐ์ขยับให้ท่านนั่งลงใกล้ๆ"พ่
"ตามมา" มือหนาของคนเป็นสามีจูงเธอให้เดินตามมาที่ลิฟต์มโนราห์ก็ยอมตาม เพราะไม่รู้ว่าจะไปไหนแล้ว ที่บอกว่าจะไปหาแม่นั่นเพราะข้ออ้างเพื่อออกมาจากห้องนั้นกองทัพพาเธอขับรถออกมาจากโรงพยาบาลแล้วตรงกลับบ้าน"ลงรถ""คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม""นี่มันบ้านของผมจะมาทำไมล่ะ""ฉันจะไปคอนโดพ่อ"เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ลงจากรถ ชายหนุ่มเปิดประตูแล้วเดินอ้อมไปฝั่งที่เธอนั่งอยู่"คุณจะทำอะไร" มโนราห์ตกใจพอเขาเปิดประตูรถปลดเซฟตี้เบลท์ให้มือหนาก็สอดมาใต้สะโพก "ปล่อยฉันลงนะคุณกองทัพ" บอกให้เขาปล่อยแต่มือเรียวยื่นไปโอบต้นคอของเขาไว้เพราะกลัวตก"อุ๊ย คุณผู้ชาย""เปิดประตู" กองทัพสั่งแม่บ้านที่ตกใจเมื่อเห็นว่าเขาอุ้มภรรยาเข้ามา แม่บ้านก็รีบทำตาม"ฉันจะลง""ถ้ากลัวตกก็กอดดีๆ" ว่าแล้วคนร่างสูงก็อุ้มเธอเดินขึ้นบันไดไป ทิ้งให้แม่บ้านยืนมองตาม ไม่คิดว่าคุณผู้ชายจะมีโมเม้นแบบนี้มาก่อน"เปิดประตู""ไม่" ถ้าเธอไม่เปิดประตูให้ เขาก็คงต้องปล่อยเธอลงตรงนี้ เพราะไม่มีมือไหนจะเปิดประตูเองแล้ว แม่บ้านก็ไม่ตามขึ้นมาตุ๊บ! "กรี๊ด คุณทำอะไร" หญิงสาวตกใจอยู่ดีๆ เขาก็ถีบประตูแต่มันก็ยังไม่เปิด"จะเปิดไหม"ตุ๊บ!! "กรี๊ดด เปิดแล้ว!" มโนร
เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ? ทำไมประโยคเมื่อสักครู่ทำให้เธอขนลุกได้ เขาว่าเราดื้ออย่างนั้นเหรอ?ไม่นะมโนราห์แค่คำพูดคำเดียว เธอจะใจง่ายไปแล้วนะ"ฉันไม่ไปกับคุณ""แสดงว่าอยากเจอเหมือนเมื่อคืนนั้น" มือหนาเลื่อนขึ้นมาคลายเนคไทออก ตามด้วยปลดกระดุมที่แขนเสื้อเชิ้ต"คุณจะทำบ้าอะไร" หญิงสาวมองซ้ายมองขวา เพื่อหาของทุ่นแรง และเธอก็เจอ.."อย่าบอกนะว่าคุณจะทำร้ายร่างกายผม""คุณก็ลองเข้ามาดูสิ" มือเรียวจับแจกันใบนั้นตั้งท่า ถ้าเขาเข้ามาได้เจอดีแน่ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่กลัวคงคิดว่าเธอไม่กล้าตุ๊บ! เพล้ง!!"กรี๊ดด" มโนราห์รีบทิ้งแจกันที่อยู่ในมือลงจนมันแตกกระจาย ที่เธอกรี๊ดเพราะตกใจทำไมเขาถึงไม่หลบ "คุณเป็นอะไรไหม"หญิงสาวรีบเข้าไปดูแผลที่ศีรษะ "เลือด?"มือหนาเอื้อมมาปิดตรงที่โดนแจกันเมื่อสักครู่"ทำไมคุณถึงไม่หลบล่ะ" ใครจะรู้เขาเป็นถึงทหารแค่นี้ยังหลบไม่ได้หรือไง "ไปหาหมอกันค่ะ" มโนราห์หาผ้าที่สะอาดหน่อยมาปิดตรงเลือดไหลไว้ให้ แล้วรีบพาลงมาที่รถมาถึงรถหญิงสาวก็เปิดประตูฝั่งคนนั่งข้างให้เขาขึ้น ส่วนเธอเดินอ้อมมา..แต่นึกได้ว่าตัวเองขับรถไม่เป็น"คุณ ฉันขับรถไม่เป็น" ว่าแล้วเธอก็ดึงคนร่างสูงให้ออกมาก่อนเ
ขาเรียวขยับก้าวเดินเข้ามาใกล้กว่าเดิม ในใจก็กลัวว่าเขาจะส่งเธอให้กับตำรวจ ถ้าเป็นแบบนั้นคงถูกแม่ตี อยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ได้ เดี๋ยวเขาหาว่าเอาน้ำตามาต่อรอง"คุณจะให้ฉันทำอะไร""คุณรู้ว่าผมต้องการอะไร" สายตาคมของคนที่นอนอยู่บนเตียง มองเรือนร่างหญิงสาวตั้งแต่หน้าอกต่ำลงมาจนถึง.."ถ้างั้นคุณก็ส่งฉันให้ตำรวจเถอะ" แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร"โอ๊ยเจ็บ""เจ็บตรงไหนคะ" ตกใจเมื่อได้ยินเขาร้องโอดโอย"เจ็บตรงที่ถูกคุณตีน่ะสิ""เดี๋ยวฉันตามคุณหมอมาให้" หญิงสาวกำลังจะหันหลัง แต่ไม่ทันมือหนาคว้าแขนของเธอได้ก็ดึงลงมา "อุ๊ยคุณ!" คนตัวเล็กผลักอีกฝ่ายออกไม่ให้เข้ามาใกล้มากกว่านี้"แค่นิดเดียวเองก็ไม่ได้เหรอ""ไม่ได้ค่ะ""ขอนิดเดียว""คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร" หญิงสาวปล่อยให้เขากอดโดยที่ไม่ดิ้นเพราะกลัวจะไปโดนแผลของเขา"ถามแบบนี้จะให้ผมตอบยังไง""ฉันถามใหม่ก็ได้ค่ะ คุณรู้ไหมว่าตอนนี้คุณกำลังเล่นกับความรู้สึกของฉันอยู่""หือ?" คิ้วหนายกขึ้นสูงจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ใกล้แค่ลมหายใจเข้าออก"ในเมื่อคุณไม่ได้ชอบฉัน คุณรู้ไหมว่าที่ทำแบบนี้มันทำให้..""แล้วไงต่อ" เห็นว่าเธอหยุดพูดก็เลยอยากรู้ว่าเธอคิด
ริมฝีปากหนาแนบจูบลงแบบจงใจ หัวใจดวงน้อยๆ เต้นแรงขึ้นเมื่อรับรู้สัมผัสที่อ่อนโยนของอีกฝ่าย หญิงสาวเผลอไผลไปกับรอยจูบนั้นโดยที่ไม่คิดจะหยุดเขาเห็นแล้วว่าเธอไม่ปฏิเสธ มือหนาก็เลยขยับต่ำลงไปใต้ชายเสื้อ แล้วสอดมันขึ้นมาสัมผัสเนินหน้าอกในขณะที่ยังจูบอยู่ลิ้นสากแทรกเข้าไปในโพรงปากเพื่อดูดดื่มความหวาน มโนราห์คิดว่าที่นี่มันเป็นโรงพยาบาล เขาคงไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้แล้ว หญิงสาวก็เลยไม่ได้ห้ามปล่อยให้เขาจูบ แต่สิ่งที่เธอคิดมันกลับไม่ใช่"อืม!" เสียงครางดังออกมาจากลำคอของคนที่ยังคงถูกปิดปากอยู่ "อื้มม!" เสียงครางดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาไม่หยุดอยู่แค่ด้านบน เพราะมือของเขาขยับต่ำลงไปอีกมือแข็งแกร่งวางแนบลงต้นขาเรียว แล้วค่อยๆ ลูบขึ้นมาคลำเนินอวบนูน ถึงแม้มันจะยังมีสิ่งกีดขวางอยู่แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้พันกองทัพเลย"อื้อ!" มโนราห์ขยับขาเข้าชิดกันเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายสัมผัสมันได้ง่ายๆ"อือ" เสียงนี้ถูกเปล่งออกมาจากลำคอของคนตัวโตกว่าเพื่อสั่งให้เธอแยกขาออกแต่เขาเหรอจะสั่งเธอได้ มโนราห์พยายามผลักหน้าอกแกร่งเพื่อหยุดทุกอย่างไว้ก่อนที่มันจะหยุดไม่ได้"ผมไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้หรอก" เสียงทุ้มกระซิบพูดเขาแ
มโนราห์ลงจากรถโดยไม่สนใจกระเป๋าเงินที่เขาโยนมาให้ ไม่มีเงินแต่มีเท้า หญิงสาวเดินกลับทางที่เขาพาขับรถเข้ามา ค่ายทหารว่าใหญ่แล้วกรมทหารยิ่งใหญ่กว่าหลายเท่าปี๊ดดด!! เดินมาเกือบสิบนาทีได้ ก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นจากทางด้านหลัง มโนราห์ตกใจรีบขยับเข้าไปไหล่ทางจนเกือบตกคลอง"มาขึ้นรถ!!"พอหายตกใจแล้วเธอก็เดินต่อโดยไม่สนใจเสียงคนที่เรียก"แน่ใจนะว่าจะดื้อ" ชายหนุ่มขับรถพุ่งไปด้านหน้าแล้วจอดขวางเธอไว้ก่อนที่เขาจะลงมา"คุณจะทำอะไร" คนตัวเล็กก้าวถอยหลัง เพราะอารมณ์ของเขาดูไม่ดีเลย "โอ๊ย! ปล่อยนะคนบ้า" ทีแรกยังคิดว่าเขาจะอุ้มแต่ไม่ใช่ นี่เขาจับเธอพาดไหล่แล้วกองทัพก็จับร่างของเธอยัดเข้าไปหน้ารถพร้อมล็อกเซฟตี้เบลท์ไว้จังหวะที่กำลังจะปิดประตู มโนราห์ก็ปลดล็อกมันออก"อยากลองดีใช่ไหม" มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อแล้วก็ถอดเข็มขัดที่ใส่อยู่เอวออก"คุณจะทำอะไร" หญิงสาวถึงกับหยุดการกระทำไว้ เพราะคนบ้าๆ แบบเขาคงไม่ขู่แน่"ถ้ายังดื้อจะลงได้เจอไอ้นี่แน่" พอพูดจบเท่านั้นแหละ เขาก็ล้วงมันออกมาจากที่ซ่อน"กรี๊ดดด" มือเรียวถูกยกขึ้นมาปิดใบหน้าไว้ เพราะมันจ่อเข้ามาใกล้มาก"หรือจะเอาตรงนี้เลย""คนบ้า! เอาออกไปนะ!!" พูด
"แม่มาที่นี่ทำไมคะ" มโนราห์จำที่นี่ได้แม่น และพอจะเดาออกแล้วว่าแม่มาที่นี่ทำไม"ลงมา""แม่ก็ดูชุดที่โมนาใส่สิคะ""ฉันพาแกมาตามผัว ไม่รู้หรือไง""จะตามเขาไปทำไมคะ""อย่าทำอินโนเซ้นนักเลย ผัวทั้งคน" ดูเหมือนลูกสาวจะไม่เชื่อฟัง แพรวพราวก็เลยเดินอ้อมไปเปิดประตูแล้วลากแขนมโนราห์ลงมา"แม่คะ" หญิงสาวจัดเสื้อใหม่ให้ห่อตัวมากขึ้นกว่านี้ คนจะได้ดูไม่ออกว่าเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน"ตามมาเถอะน่า!" เข้ามาถึงแพรวพราวก็ใช้สายตามองไปทั่ว อยากรู้ว่าตอนนี้กองทัพนั่งอยู่โต๊ะไหน "นั่นไงฉันว่าแล้วเห็นไหม""ช่างเขาเถอะแม่" โต๊ะเดิมและผู้หญิงคนเดิมที่นั่งอยู่ข้างๆ มันทำให้คนเป็นภรรยาจุกในอกมาก เพราะเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นนั่งเบียดกับสามีอยู่ "โอ๊ยโมนาเจ็บนะแม่" มือเรียวยกขึ้นมาลูบตรงที่ถูกแม่หยิก"เข้าไปสิ" คนเป็นแม่กัดปากกัดฟันพูด พร้อมกับผลักลูกสาวที่อยู่ในชุดนอนให้เข้าไปใกล้กับโต๊ะนั้นให้มากที่สุด"??" ศิลาจำได้ในทันทีว่าผู้หญิงที่ใส่ชุดนอนยืนอยู่ด้านหลังของเพื่อนเป็นใคร จนกองทัพต้องหันกลับไปมองตามสายตา"???" และเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ในกลุ่มนั้นต่างก็หันไปมองพร้อมกัน"ตายห่าแล้วเมียมึงมาตาม" ซันเดย์พูดออกมาเบาๆ พ
เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก
ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่
"คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้
ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส
วันต่อมา..หลังการประชุมใหญ่จบลงพอออกมาจากห้องประชุม ตำรวจก็มารอรับตัวคนที่ทำผิดกฎหมาย หัวหน้าขบวนการที่ทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ก็คือเอกมัย สิ่งที่ทำผิดคือสอดไส้สิ่งผิดกฎหมาย ไปกับสินค้าที่ส่งออก ซึ่งถ้ามีเส้นสายทางด้านนี้การตรวจสอบก็จะไม่เข้มงวด หรือถ้าเจอก็แค่ใช้เงินยัด"คุณคิดเหรอว่า ทำแบบนี้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ" ก่อนที่จะถูกนำตัวไป เอกมัยยังหันมาพูดข่มขู่ศักดินามองตามหลังเอกมัยที่ถูกกุมตัวไปแล้ว มันไม่เหมือนสิ่งที่คิดไว้ พอถึงเวลาจริงๆ ทุกอย่างโล่งมาก ไม่หนักอึ้งเหมือนตอนที่แบกไว้กับตัวเลยศักดินาปล่อยให้หน่วยตรวจสอบของรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบบริษัท แล้วแต่การพินิจของเจ้าหน้าที่ ถ้าจะสั่งให้ปิดศักดินาก็ยอม เพราะเหนื่อยมากแล้ว"ผมจะช่วยพูดกับคุณพ่อให้อีกแรงครับ" กองทัพเห็นว่าท่านมีท่าทางที่คิดหนัก"อย่าลำบากท่านนายพลอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรมเถอะ""ขอบใจมึงมากนะเพื่อน" ศิลารู้ดีว่าพ่อรักบริษัทนี้มาก "ก็เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนมีไว้ทำไมถ้าไม่ช่วยเพื่อน""ท่านคะ" เสียงนี้ดังแว่วเข้ามาผ่านฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์ศิลาหันไปมองพ่อว่าท่านมีท่าทียังไงเมื่อเจอ ขวัญชนก ซึ่งตอนนี้ท่านได้เซ็นใบหย่า
>>{"เมียพี่ไม่สบายเหรอ""} {"จะว่าไม่สบายก็ไม่เชิงหรอกพี่ พี่สะใภ้กินอะไรไม่ค่อยลง แถมบอกว่าอาหารเหม็น"}>>{"กินอะไรไม่ค่อยลงอาหารเหม็น? เราเอาอาหารค้างคืนมาให้พี่เขากินเหรอ"} {"เปล่าสักหน่อย อาหารเพิ่งจะตักออกมาจากกระทะร้อนๆ"}"เมื่อกี้มึงว่าอะไร ใครเหม็นอาหาร" กองทัพที่นั่งฟังอยู่ว่าศิลากำลังคุยเรื่องอะไร อดที่จะถามไม่ได้"ก็เมียกูน่ะสิ สงสัยจะไม่สบาย" ศิลาก็เลยวางสายไปจากน้องสาวก่อน"อาการเป็นยังไงบอกมาซิ""น้องสาวกูบอกว่ากินข้าวไม่ค่อยลง ตั้งแต่วันก่อนแล้ว" เพราะพวกเขาออกมาจากบ้านก็สามวันเข้าไปแล้ว"อาการแบบนี้เหมือนเมียกูเลย""เมียมึงก็เป็นเหรอ""เป็นสิ เป็นตอนมีตาทัพไท""อะไรนะ?""เมียไอ้ศิลาท้องเหรอ?" ซันเดย์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันพูดขึ้นมาบ้าง"กูจะไปรู้กับเมียมันเหรอ กูแค่บอกอาการตอนที่เมียกูท้อง""กูกลับบ้านก่อนได้ไหม" ศิลานั่งไม่ติดที่เลยทีนี้ ถ้าหายตัวกลับตอนนี้ได้เขาคงทำไปแล้ว"มึงจะบ้าเหรอ พรุ่งนี้ประชุมสำคัญ""พวกมึงก็จัดการกันไปเองสิวะ""อ้าวไอ้นี่! นี่บริษัทพ่อมึงนะ"ศิลาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปอีกมุมหนึ่ง เพื่อโทรหาเธอ>>{"พ่อครับ"} โทรเข้าเครื่องของแม่ ลูกก็รับอีกอ
"พ่อขอโทษที่ส่งคนตามลูกกับเมียลูก แต่พ่อไม่ได้หวังร้ายเลย""ถึงพ่อไม่ได้หวังร้าย แต่คนที่ถูกตามรู้ไหมว่าเขาหวาดกลัว ผู้หญิงและเด็กแถมยังมีคนแก่ที่พิการ""พ่อคิดถึงหลาน" ศักดินาไม่ปล่อยให้ลูกต่อว่าไปเยอะกว่านี้แล้ว"อะไรนะครับ?""พ่อคิดถึงเทวิน""ผมไม่เชื่อ""ลูกก็รู้ว่าพ่อแสดงความรักออกมาไม่เก่ง""แล้วทำไมหลานถึงบอกว่ากลัวคุณปู่ล่ะ""คงเห็นพ่อขู่แม่แกมั้ง แต่ที่พ่อทำไปเพราะอยากกดดันให้เธอพาแกกลับมาที่บ้าน""พอเถอะศิลา" กองทัพคิดว่าศิลาคงเข้าใจพ่อผิดแล้ว คงเหมือนที่ท่านพูดว่าท่านแสดงความรักออกมาไม่ค่อยเป็น "เรามาหาทางคิดแผนต่อไปกันดีกว่า" นี่แหละที่ทุกคนไม่เข้าไปคุยเรื่องนี้ที่บ้าน เพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง"พ่อต้องขอบใจเราอีกครั้งนะกองทัพ รวมถึงนายด้วย" ศักดินาหันไปหาลูกเขย"ผมหรือครับ" ซันเดย์คิดว่าตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ขอบใจที่ดูแลริศา" นี่แหละอีกเหตุผลหนึ่งที่ท่านอยากให้สาริศาแต่งงานกับเสี่ยเคน เพราะเสี่ยเคนพอมีอำนาจที่จะมาช่วยเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นท่านมองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ"ผมปรึกษากับพ่อแล้วครับ ท่านบอกว่าจะช่วยเรื่องนี้""ท่านบอกอย่างนั้นเหรอ" คนที่ถามก็คือศิลา เพราะเขาเริ
ใช้เวลาขับรถอยู่ร่วมสามชั่วโมง ก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทาง เพราะถนนช่วงนี้โล่งมาก"พ่อมึงมีญาณทิพย์เหรอวะ" ยังไม่ลงจากรถเลยด้วยซ้ำ ศักดินาก็เดินออกมาต้อนรับลูกและเพื่อนๆ ของลูก"ดูอบอุ่นดีนี่" ศักดินาเอ่ยทักทายคนที่เพิ่งลงมาจากรถ เพราะลูกชายไม่ได้มาแค่คนเดียว"สวัสดีครับ" เพื่อนทั้งสองยกมือไหว้ ถึงยังไงท่านก็เป็นพ่อของเพื่อนรัก แถมยังเป็นพ่อตาของซันเดย์ด้วย"ยินดีต้อนรับ ชวนเพื่อนเข้ามาข้างในสิลูก" ศักดินาเอ่ยพูดด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกดูไม่มีพิษไม่มีภัยทั้งสามก็เลยเดินตามเข้าไปในบ้าน"น้ำค่ะ" ก้นยังไม่ถึงโซฟาเลยด้วยซ้ำ ขวัญชนกก็ยกน้ำมาบริการแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจน้ำเลย ขวัญชนกก็เลยนั่งลงข้างๆ คนที่เป็นสามี แต่สายตานั้นมองดูหนุ่มๆ ด้วยแววตาหวานหยดย้อย"ผมจะคุยธุระ คุณมีอะไรทำก็ไปทำ" ศักดินาพูดพร้อมกับมองดูคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เล็กน้อย"ท่านคะ""บอกว่าจะคุยธุระไง"ก่อนที่ขวัญชนกจะออกจากห้องนั้น สายตาได้มองไปที่ลูกน้องของท่านแบบรู้กันแค่สองคน"เราตัดสินใจแล้วใช่ไหมว่าจะมารับช่วงต่อจากพ่อ""ผมไม่ชอบงานบริษัท""ถึงไม่ชอบแกก็ต้องได้มารับช่วงต่อ เพราะแกคือลูกชายคนเดียวของฉัน""พ่อก็ยังแข็งแรง