ริมฝีปากหนาบดขยี้จูบลงมาจนอีกฝ่ายตั้งรับไม่ทัน หลายปีแล้วที่ไม่ได้รับสัมผัสแบบนี้จากชายคนที่เธอโหยหา ญาณินขัดขืนอยู่ครู่หนึ่งก็นิ่งไป เพราะอีกใจต้องการสิ่งนี้จากเขามากพอเห็นว่าเธอไม่ขัดขืนแล้ว ศิลาก็ยกใบหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูเธอให้ชัด"เธอกลับมาอีกทำไม อยากเห็นฉันตายต่อหน้าเลยใช่ไหม" ศิลาคิดว่าถ้าเธอมาเพราะเรื่องลูกมันยังคงมีอีกหลายวิธี แต่นี่เหมือนเธอกลับมายั่วอารมณ์ให้เขาคลั่งอีกครั้งจากที่หลับตาอยู่ดวงตางามก็ค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆญาณินไม่ได้ตอบเพียงแค่หลบสายตาเขา มือเรียวจับคอเสื้อของตัวเองขยับเข้าเพื่อปิดหน้าอกไว้"ฉันจะลงไปนอนข้างล่างค่ะ" หญิงสาวกำลังจะลุกขึ้น แต่คนที่คร่อมร่างเธออยู่ไม่ได้ขยับออกให้ก็เลยลุกไม่ได้"เธอยังไม่ตอบฉันเลย""ถ้าฉันพูดคุณจะเชื่อเหรอคะ""ก็ลองพูดมาก่อนสิ""ฉันกลับมาเพราะพ่อคุณให้ข้อเสนอที่ดี อึบ" หญิงสาวตกใจอยู่ดีๆ คนที่คร่อมร่างเธออยู่ก็ดีดตัวขึ้นอย่างแรงแบบโมโหแต่ขณะที่เธอกำลังจะลุกตามขึ้นไป ก็ถูกเขาจับให้นอนลงที่เดิมอีกครั้ง"เธอก็เลยยอมเลิกกับผู้ชายคนที่เธอบอกว่ารักนักรักหนาอย่างนั้นเหรอ""เรื่องนั้นมันผ่านมานานแล้ว""อย่าบอกนะว่าเธอเลิกกับผู้ชายค
จะลงรถไปดูก็ไม่กล้า แต่ถ้านั่งอยู่บนรถมันจะดูดีไหม ญาณินมองผ่านกระจกหน้ารถไป เห็นเขากำลังหมุนล้ออะไหล่ออกเพื่อนำมาเปลี่ยนล้อที่แบนให้กับคนที่เธอสงสัยว่าน่าจะเป็นแฟนเขา คิดแบบนั้นก็จะอยู่อีกทำไมล่ะ เดี๋ยวเป็นเรื่องให้เขาทะเลาะกันเปล่าๆกึก.. หญิงสาวเปิดรถเบาๆ ถึงแม้เปิดแรงเขาก็คงไม่หันมามองหรอกมั้ง โชคดีที่รถขับมายังไม่ไกล..แต่ก็เป็นกิโลได้"ขอโทษนะคะที่ทำให้ผู้พันเสียเวลา" ผู้กองฝ้ายที่ยืนเป็นกำลังใจให้พูดขึ้นในขณะที่ผู้พันศิลากำลังดึงล้อที่เพิ่งหมุนน็อตนำออกมาเพื่อจะเอาล้ออะไหล่สวมเข้าไปใส่แทน"ไม่เป็นไรหรอกครับเหตุสุดวิสัย..แล้วนี่ผู้กองจะไปไหนครับ""ว่าจะออกไปตลาดค่ะ""ผมก็ว่าจะ.." ชายหนุ่มหันมาที่รถเล็กน้อย แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในนั้นแล้ว"ฉันทำให้พวกคุณมีปัญหากันหรือเปล่าคะ" ที่จริงตอนที่เขากำลังวุ่นกับการหมุนน็อตอยู่ ฝ้ายก็เห็นว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่บนรถเดินกลับไปทางเดิมแต่ฝ้ายไม่พูดอะไร"ไม่มีอะไรหรอกครับ" ศิลาหันกลับมาหมุนน็อตเข้าให้ต่ออีกฝั่งหนึ่ง..พอญาณินเดินมาได้สักระยะก็มีรถวิ่งมาจอดขวางหน้า"พวกนายเป็นใคร" หญิงสาวจำได้ว่าเป็นรถคันเดียวกับที่มองเธอตอนออกมาจากบ้าน"ท่านให้ม
ญาณินไม่ได้โทษชีวิตเลย ชาติหนึ่งได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ดีเท่าไรแล้ว สิ่งที่ถูกปรุงแต่งตามมามันคือบุญวาสนาของแต่ละคน..ซึ่งของเธอคงมีอยู่แค่นี้หญิงสาวตัดสินใจกวักมือเรียกแท็กซี่ เพราะนานๆ ทีจะเห็นว่าแท็กซี่เปิดไฟว่างมา"จะไปไหนครับ""เข้าไปส่งในกรมค่ะ""กรมทหารราบเหรอครับ""ใช่ค่ะ""เอาไงดีผมใกล้จะส่งรถแล้วด้วย ไม่เป็นไรขึ้นรถเลยครับเดี๋ยวไปส่งก่อน"หญิงสาวรีบขึ้นรถทันที..แต่ขณะที่นั่งรถมาเธอกระวนกระวายใจมากเพราะไม่มีเงินติดตัวมา คิดว่าคนขับแท็กซี่คงไม่ใจดำหรอกมั้งที่เธอกล้าเรียกแท็กซี่เพราะคิดว่าจะไปขอยืมเงินสาริศาเพื่อจ่ายค่ารถ[หน้ากรมทหารราบ]"มีธุระอะไรจะเข้าไปข้างในครับ" แน่นอนว่าถ้าเป็นรถภายนอกต้องการเข้าไปด้านในมันไม่ได้ง่ายเลย"ฉันพักอยู่ข้างในค่ะ""พักอยู่หลังไหนครับ ขอดูบัตรด้วย""ฉันไม่ได้เอาบัตรติดตัวออกมาค่ะ""ถ้างั้นก็โทรติดต่อคนข้างในให้ออกมารับได้ไหมครับ""ฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย""ผมให้ยืมก็ได้ครับ" คนขับแท็กซี่ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา เพราะถ้าช้ากว่านี้มีหวังส่งรถไม่ทันแน่"ฉันไม่รู้จักเบอร์โทรใครเลยค่ะ""อะไรครับคุณผู้หญิง คุณก็รู้ว่าผมรีบไปส่งรถ ถ้างั้นคุณคงต้องได้ลง
"ไปอาบน้ำก่อนดีไหม""ไม่!" หญิงสาวไม่ได้ตอบแค่ไม่คำเดียว พอตอบไปเท้าเรียวก็ถีบเข้าตรงบ่าไหล่ของคนที่อยู่เบื้องล่างให้ออกไปจากตรงนั้นอึบ! "อื้อ! ปล่อยนะคุณศิลา" แต่แรงของเธอก็ทำอะไรเขามากไม่ได้ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยแถมยังดึงกางเกงชั้นในของเธอออกแบบไม่ให้ตั้งตัวได้"กางเกงไม่แห้งแล้วมาใส่ทำไม" ใช่แล้วเขาสัมผัสถึงกลิ่นอับของมัน ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะแห้งแล้วแต่กลิ่นอับยังคงอยู่"ถ้าไม่ใส่ตัวนี้แล้วคุณจะให้ฉันใส่อะไร""ก็ไม่ต้องใส่""คุณจะบ้าเหรอ ใครจะไม่ใส่ชุดชั้นในทั้งวันได้"ชายหนุ่มไม่สนใจอีกแล้วว่าเธอจะพูดอะไร พอจัดการกับสิ่งกีดขวางข้างล่างออกจนหมดแล้ว มือหนาก็ดึงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบท่อนล่างตัวเองอยู่ออก"คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ อย่าลืมสิว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน โอ๊ย คุณศิลาเอาออกไปนะ!"นอกจากเขาจะไม่ฟังแล้วยังขยับมันดันเข้ามาให้ได้ลึกที่สุด "ซี๊ดด อย่าเสียงดังสิเดี๋ยวลูกก็ตื่น""เอาออกไปนะ" เธอจะไม่เผลอไผลเพราะอารมณ์ชั่ววูบอีกแล้ว เพราะแบบนี้ไงเขาถึงไม่เห็นค่าในตัวเธอเลย เสียงสะอื้นในลำคอดังออกมาเบาๆเขาก็เห็นอยู่ว่าเธอกำลังร้องไห้ แต่ความต้องการในร่างกายเธอมันมากมายนักจนไม่สามารถหย
"อุ๊ย?" หญิงสาวที่เดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อตกใจ อยู่ดีๆ มีมือของใครไม่รู้มารั้งตัวเธอ "คุณ?""จะไปไหน" ศิลามองทางที่เธอจะไปมันไม่ใช่ทางกลับบ้านพัก"จะ..เออ..""จะไปไหน" เขาถามซ้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอตอบไม่ได้"จะออกไปตลาด""เดินไปเนี่ยนะ"ญาณินไม่ตอบ..ที่จริงเธอคิดว่าคงมีคนใจดีให้ติดรถออกไปบ้าง"ตามมา" ชายหนุ่มจูงแขนของเธอให้เดินตามกลับมา เพราะเขาจอดรถไว้ที่สำนักงาน"ฉันเดินเองได้" หญิงสาวที่ก้าวเดินตามแรงฉุดแกะมือเขาออก เพราะเห็นสายตาทหารหลายคนที่มองมาแต่ศิลาไม่ยอมปล่อย..เขายังจูงเธอให้เดินตามมาที่รถ แบบไม่ได้สนใจคนรอบข้างเลยอึก? ทหารสองนายที่คุยกันอยู่เมื่อสักครู่ ถึงกับสะดุ้ง เมื่อเห็นว่าผู้พันเดินไปจูงแขนเธอคนนั้น "เราจะคอขาดไหมวะ" แค่นี้ก็ดูออกแล้วว่าใครเป็นคนทำให้เธอได้มาซื้อยาคุมฉุกเฉิน"กูว่าไม่ถึงคอขาดหรอก..แค่ทำความสะอาดรอบกรมเท่านั้นแหละ""ฆ่ากูให้ตายดีกว่า"ที่จอดรถ.."คุณจะทำอะไร""จะออกไปซื้อของไม่ใช่เหรอ""แต่มันยังเป็นเวลางานของคุณอยู่นะ""ก็รีบซื้อรีบกลับ""ฉันไม่รบกวนคุณหรอก" หญิงสาวที่ถูกเขาจับนั่งเบาะข้างคนขับกำลังจะลุกออกมา แต่ถูกอีกฝ่ายจับให้นั่งลงพร้อมกับดึง
"คนบ้า" พอเขาเข้าห้องน้ำไปแล้วเธอถึงได้กล้าพูด คุณเภสัชกรนี่ก็กระไร หวังดีกับเราเหลือเกิน เห็นไหมทำให้เรามองหน้าเขาไม่ติดเลยถ้าคืนนี้เธอปูผ้านอนข้างล่าง เขาคงมาอุ้มขึ้นไปนอนข้างบนอีกแน่ ญาณินก็เลยคิดวิธีใหม่ โดยขยับลูกไปนอนตรงกลาง แล้วเธอก็นอนด้านใน เพราะถ้าเขาอาบน้ำเสร็จจะได้นอนอีกฝั่งหนึ่งของลูกได้เลย"หึ.." ชายหนุ่มที่ยืนเช็ดผมให้แห้งอยู่ก็นึกขำ เมื่อเห็นเธอจัดที่นอนให้ลูกตรงกลาง พอเช็ดผมแห้งแล้วเขาก็เดินไปยืนมองอยู่ข้างเตียงหญิงสาวที่แกล้งหลับอยู่ค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมอง ว่าทำไมเขาถึงเงียบไปพอเห็นว่าเขากำลังยืนมองมาที่เธอดวงตาที่หรี่อยู่ก็รีบหลับลง"จะรีบนอนไปไหน แล้วแบบนี้ไอ้ที่ซื้อมาจะได้ใช้งานเหรอ"ตอนที่ทั้งสองคนรักกันอยู่ เธอก็ไม่เคยใช้ของพวกนี้หรอก และไม่เคยคุมกำเนิดด้วย ทีแรกยังคิดว่าไม่เธอก็เขาต้องเป็นหมันแน่ แต่ใครจะคิดว่าตอนเลิกกันเธอจะมีลูกของเขาติดท้องมาด้วย"อืม คุณ!?" หญิงสาวที่แกล้งหลับอยู่เปิดตากว้างขึ้น..เมื่อถูกอีกฝ่ายคร่อมร่าง "คุณศิลาถอยออกไปนะ" เธอหันมองดูลูกเล็กน้อยตอนนี้ลูกยังคงอยู่ที่เดิม แต่พ่อนี่สิอุตส่าห์จัดที่ให้แล้ว"จำ 2 / 5 ได้ไหม""ไม่!" ญาณินเบือนหน้
เช้าวันต่อมา..ศิลาตื่นขึ้นก็ไม่เห็นเธอกับลูกนอนอยู่ข้างๆ ชายหนุ่มรีบหยิบผ้าเช็ดตัวที่กองอยู่ปลายเตียงเมื่อคืนนี้ขึ้นมาพันรอบร่างกายก่อนจะออกมาจากห้องพอเปิดประตูออกมาก็ไม่มีใครอยู่ด้านนอกเลยสักคน เขาก็เลยเดินไปเปิดดูห้องข้างๆ ว่าเพื่อนยังอยู่ในห้องนั้นไหม เพราะวันนี้เป็นวันหยุด"ไปไหนกันหมด" ชายหนุ่มรีบกลับเข้ามาดูเสื้อผ้าข้าวของของเธอว่ายังอยู่ไหม ..ใช่แล้วสิ่งที่เขากลัวคือกลัวว่าเธอจะพาลูกไปแบบไม่ลา ถึงแม้ข้าวของของเธอจะยังคงอยู่แต่เขาก็ไม่นิ่งนอนใจ ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ววิ่งออกมาที่รถขณะที่กำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ รถของซันเดย์ก็วิ่งเข้ามา"ไปไหนกันมา" มองเข้าไปในรถก็เห็นว่าเธอกับลูกนั่งอยู่ในนั้น ส่วนข้างหน้าก็มีน้องสาวนั่งอยู่"มึงนั่นแหละจะไปไหน" ซันเดย์ลงจากรถก็เดินอ้อมไปเปิดประตูให้กับภรรยาสุดที่รักก่อน ส่วนศิลาเดินมาเปิดประตูฝั่งที่ลูกชายนั่งอยู่ เพราะตอนนี้เคาะกระจกใหญ่เลยเมื่อเห็นพ่อ"ไปไหนมาครับ" ชายหนุ่มอุ้มลูกลงมาก็เลยแกล้งถามแบบหยอกๆ แต่ในใจรู้สึกโล่งมากที่เธอไม่ได้พาลูกไปไหนไกล"แม่ไม่ซื้อปืนให้อีกแล้วครับพ่อ" มาถึงเทวินก็ฟ้องพ่อใหญ่เลย ดูจากหน้าตาแล้วคงผ่านกา
หญิงสาวกลับเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางแปลกๆ จะพูดกับใครก็ไม่ได้ เพราะสิ่งที่พ่อของเขาเอามาต่อรอง มันมีค่าที่สุดในชีวิตของเธอ"ฉันคิดว่าพี่ออกไปซื้อของ" สาริศามองดูไม่เห็นญาณินหิ้วอะไรกลับมาด้วย"พี่ออกไปเดินเล่นมาค่ะ คุณริศามีธุระอะไรหรือเปล่าคะ""เปล่าหรอกค่ะ ตอนเย็นริศาจะไปตลาด พี่อยากได้อะไรไหมคะ""พี่มีครบทุกอย่างแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ""ถ้าอยากได้อะไรก็บอกนะคะ หรือถ้าพี่อยากออกไปด้วย..""ไม่หรอกค่ะ" ญาณินรีบตอบไป..ดีเหมือนกันทางจะได้สะดวก แต่ก็ยังไม่สะดวกซะเลยทีเดียวเพราะยังมีเขาอยู่หญิงสาวค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปดูในห้องนอน น้ำตาที่กลั้นอยู่เมื่อครู่ถึงกับไหลออกมา เมื่อเห็นพ่อกับลูกนอนกอดกันอยู่บนเตียง ชีวิตที่แสนอบอุ่นใครจะไม่ต้องการเย็นวันเดียวกัน.. ตอนนี้สาริศาก็ไปตลาดแล้ว เหลือแต่ศิลาที่กำลังเล่นของเล่นเป็นเพื่อนลูกอยู่ครื่นนน ครื่นนน ขณะที่ญาณินกำลังเก็บห้อง เสียงโทรศัพท์นี้ก็ได้ดังขึ้นอยู่ใกล้ๆหญิงสาวอดมองไม่ได้ว่าใครที่โทรมา แต่เพียงแค่ครู่เดียวเจ้าของโทรศัพท์ก็เปิดประตูเข้ามา..พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นว่าเป็นเบอร์ใคร ศิลาก็อดมองเธอไม่ได้ เพราะคนที่โทรมาก็คือผู้กองฝ้ายซึ่งมีช
เหมือนถูกลากมาตบกลางสี่แยกยังไงยังงั้นเลย ที่ได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงสามีตัวเอง"ได้ยินผู้พันบอกว่า วันนี้จะร้องเพลงช่วงเปิดงาน""อ้าว ไม่ร้องตอนปิดงานอีกแล้วเหรอ" เพราะกองทัพเลือกร้องเพลงตอนปิดงานมาหลายปีแล้ว ที่เขาร้องช่วงปิดงานจะได้มีคนอยู่ร่วมงานจนถึงช่วงสุดท้าย"เห็นบอกแบบนั้น""แหมนอกจากให้ติดรถมาแล้ว ยังบอกเรื่องจัดงานอีกนะ" ไม่มีใครไม่รู้ว่ากองทัพแต่งงานและภรรยาก็คลอดลูกเดือนที่แล้ว แต่อย่างที่รู้กันอยู่ว่าคนที่ทำอาชีพนี้ส่วนมากจะเจ้าชู้ มีหลายคนเลยแหละที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย ยิ่งระดับลูกชายของคนใหญ่คนโตแล้วด้วย ผู้หญิงพวกนั้นก็เลยอยากไต่เต้าสบายทางลัด ยิ่งถ้าคว้าใจผู้ชายมาได้ถึงกับยอมเลิกกับบ้านใหญ่ก็เคยมีความรู้สึกของมโนราห์ตอนนี้เริ่มไม่ไหวแล้ว จนเกิดอาการคัดเต้า โชคดีที่ใส่ที่ซับน้ำนมมาด้วย แต่ถ้ามันไหลเยอะก็คงเอาไม่อยู่เพียงไม่นานเสียงดนตรีก็ดังขึ้น หลายคนที่ร่วมงานต่างก็หันไปที่เวที และหลายคนก็พูดกันว่า ทำไมผู้พันกองทัพถึงได้ร้องเพลงช่วงเปิดเวที เพราะทุกครั้งผู้พันจะร้องตอนปิด ..นั่นแสดงว่าคนในงานยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเขามากจริงแหละ ถึงได้รู้ว่าเขาจ
"ฉันขอชุดที่รัดกุมหน่อยนะคะ..แต่..เออ..""แต่อะไรคะ" ช่างที่กำลังเลือกแบบชุดให้ถามลูกค้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนไม่กล้าพูด"ขอแบบที่สามารถปั๊มนมให้ลูกได้ด้วย" ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะไปหรอก แต่อะไรมันก็ไม่แน่นอน เธอก็เลยขอชุดแบบนั้นไว้ เพราะถ้าน้ำนมมาต้องรีบปั๊มออก ไม่งั้นคัดเต้าทำให้ปวดมากบางครั้งเกิดการอักเสบเลย"ชุดแบบนั้นทางร้านเราไม่ได้ทำไว้ค่ะ แต่เราคิดว่า ผ้าคลุมไหล่สามารถปกปิดได้"ขณะที่คุยกันไม่มีคนในบ้านอยู่ใกล้เธอก็เลยกล้าพูดพอรู้แล้วว่าลูกค้าต้องการแบบไหนทางร้านก็รีบจัดการให้ ส่วนมโนราห์ก็เริ่มทำการเสริมสวยต่อขณะที่ทำผมอยู่ได้ยินเสียงลูกชายงอแง เธอก็ให้ช่างหยุดก่อน เพื่อไปดูว่าลูกเป็นอะไร แต่พอเห็นว่าลูกอยากเข้าเต้ามโนราห์ก็เลยจัดให้ก่อนจนแกนอนหลับเธอถึงได้กลับมาทำสวยต่อ ชีวิตแม่ลูกอ่อนถ้าใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกบ่ายคล้อยวันเดียวกัน.."พ่อโทรมาบอกว่าให้แม่เข้างานเร็วหน่อย""คุณแม่ก็ไปสิคะ""แม่ว่าจะรอรับเราไปด้วยกัน""ไม่ต้องรอหรอกค่ะ โมนายังไม่รู้เลยว่าจะไปไหม""ถ้างั้นแม่รอเราที่งานนะ" พอแต่งตัวเสร็จพุดตาลก็ให้คนรถพาไป เพราะไม่อยากให้ท่านนายพลต้องกลับมารับอีกเวลาเดียวก
ลืมเลยอีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงวันงาน พอคิดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นเขากับเธอยังไม่ได้รักกัน"หึ.." พอคิดถึงตอนที่กระโปรงเธอขาดก็นึกขำขึ้นมา และตอนที่เธอคิดว่าเขาร้องเพลงให้ผู้หญิงคนอื่น แต่ไม่ใช่เลย ตอนที่ร้องเพลงนั้น เขากลับคิดถึงหน้าเธอต่างหาก"ยิ้มอะไรครับผู้พัน""ยังจะเดินตามมาอีก ไม่ทำงานหรือไง""ทำสิครับ แต่ผู้พันลืมแล้วเหรอว่าที่ทำงานเราไปทางเดียวกัน" ตอนที่เป็นผู้กองอยู่เขาสังกัดหน่วยงานเดียวกับกองทัพ แต่พอเลื่อนขั้นเป็นผู้พัน ฉลามต้องเข้ารับงานใหม่ "แล้วตกลงที่ยิ้ม..ให้สาวที่นั่งรถมาด้วย..หรือคนที่อยู่บ้านครับ""ไอ้ฉลามมึงจะหางานให้กูไปถึงไหนวะ กูก็ต้องคิดถึงเมียกูสิ""ครับคิดถึงเมีย""ไอ้นี่พูดเหมือนไม่เชื่อ"สองวันต่อมา.. วันนี้เริ่มประชุมเรื่องที่จะจัดงานประจำปี ใครรับหน้าที่ส่วนไหนก็ต้องเริ่มจัดการส่วนที่ตัวเองได้รับในแต่ละหมู่เหล่าต้องร่วมแรงร่วมใจ เพราะงานประจำปีไม่ได้จัดขึ้นแค่เป็นงานเลี้ยง แต่เป็นงานที่ทำให้ในหน่วยงานรักและสามัคคีกันที่คฤหาสน์พลเอกเกษมราษฎร์"โมนาไม่รู้ว่าพ่อจะมา" เพราะพ่อเพิ่งมาตอนที่เธอคลอดลูกนี่เอง และวันนี้พ่อก็มาอีกครั้ง"สามีเราไม่บอกเหรอ ว่
"คุณอยากได้อะไรครับ ทำไมไม่เรียกผมเดี๋ยวผมหยิบให้" ฉลามรีบเดินกลับมาที่บ้าน"ฉันเรียกแล้วค่ะ แต่คุณมัวมองสาวๆ พวกนั้นอยู่""อุ๊ย.. เปล่ามองสักหน่อย""ตาฉันไม่ได้บอด""แก้วใจครับ อย่างอนนะ มันไม่ดีต่อ..""คุณไม่อยากให้ฉันงอนก็อย่าทำสิคะ""ผมแค่..""แค่อะไรคะ""แค่มองนิดเดียวเอง""แต่ที่ฉันเห็นไม่นิดแล้วนะ"กูจะถึงกับตายไหมวะ ..ฉลามรีบเดินตามแก้วใจเขาไปในบ้าน ในใจก็แอบหวั่นๆ"อย่าเดินเร็วสิครับเดี๋ยวสะดุดล้ม""ไม่ต้องตามมานะ""ผมสัญญาว่าจะไม่มองผู้หญิงคนอื่นแบบนี้อีกแล้ว"แก้วใจหยุดแล้วก็หันกลับมา แต่ฉลามที่ตามมาด้านหลังเกือบหยุดไม่ทัน"จะหยุดทำไมไม่บอกผมล่ะ""ไม่ต้องมาใกล้ฉันเลยนะ" หญิงสาวผลักสามีให้ออกห่าง "ใช่สิท้องฉันโตขนาดนี้ ก็เลยไม่น่ามองเหมือนผู้หญิงพวกนั้นใช่ไหม""ใครบอกคุณไม่น่ามอง แก้วใจของผมน่ารักที่สุดในโลก""คนปากไม่ตรงกับใจ ฉันจะกลับไปหายาย""ไม่ให้กลับ""ฉันจะกลับไปคลอดลูกกับยาย""ที่นั่นอยู่ห่างไกล เวลาคลอดก็ลำบาก เอาแบบนี้แล้วกันใกล้คลอดผมจะไปรับคุณยายมาอยู่ด้วย""จริงเหรอคะ" จากที่งอนอยู่เมื่อสักครู่ก็มีรอยยิ้มขึ้นมา ฉลามถึงกับหายใจโล่ง ดีนะที่ยังมียาย ไม่งั้นคืนนี้ต้
ญาณินกัดฟันไว้ไม่กล้าส่งเสียงคราง เพราะลูกชายเพิ่งจะนอนลงมือเรียวยื่นลงไปจับศีรษะของคนที่เมามันอยู่กับการใช้ลิ้น แทนที่จะยกศีรษะของเขาขึ้นแต่ดันกดมันลงแบบลืมตัวชายหนุ่มยิ่งได้ใจเพิ่มจังหวะความเร็วของลิ้นอีกระดับหนึ่ง จนสะโพกงามเกร็งกระตุกเขาถึงได้หยุด แล้วค่อยๆ ขยับขึ้นมา เพราะจะปล่อยให้เธอเสร็จก่อนไม่ได้สิ่งแรกที่ศิลาทำเมื่อโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มนั้นคือมองไปดูลูกชาย ว่าเขาหลับหรือยัง แต่พอเห็นลูกยังดิ้นอยู่ เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงอีกฝั่งหนึ่งของเธอแต่ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อย เขายังคงลูบคลำเนินอวบนูนของเธอเพื่อไม่ให้อารมณ์อีกฝ่ายหยุดลง"อือ..คุณ.."ศิลาไม่สนใจที่เธอห้าม แถมยังส่ายหน้าบอกเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้ว่าถึงยังไงเขาก็ไม่หยุด รอให้ลูกหลับสนิทก่อนเถอะ จะจัดการเธอให้สมกับความคิดถึง"อื้อ" พอนิ้วนั้นจมหายเข้าไปในร่อง หญิงสาวกลั้นเสียงไว้ไม่ได้อีก แต่เธอก็ไม่ได้ส่งเสียงออกมาแรง "อ่ะ อ่ะ" อารมณ์ของเธอเริ่มควบคุมไม่ได้เมื่อนิ้วนั้นขยับเร็วขึ้น"หือ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อถูกมือเรียวลูบคลำที่เป้ากางเกง ยิ่งเธอเป็นคนรูดซิปเองด้วยแล้วเขายิ่งพอใจมากแต่เธอทำแค่นั้นแล้วก็หยุด เพราะเริ่มรู้ส
วันต่อมา..หลังการประชุมใหญ่จบลงพอออกมาจากห้องประชุม ตำรวจก็มารอรับตัวคนที่ทำผิดกฎหมาย หัวหน้าขบวนการที่ทำผิดกฎหมายในครั้งนี้ก็คือเอกมัย สิ่งที่ทำผิดคือสอดไส้สิ่งผิดกฎหมาย ไปกับสินค้าที่ส่งออก ซึ่งถ้ามีเส้นสายทางด้านนี้การตรวจสอบก็จะไม่เข้มงวด หรือถ้าเจอก็แค่ใช้เงินยัด"คุณคิดเหรอว่า ทำแบบนี้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ" ก่อนที่จะถูกนำตัวไป เอกมัยยังหันมาพูดข่มขู่ศักดินามองตามหลังเอกมัยที่ถูกกุมตัวไปแล้ว มันไม่เหมือนสิ่งที่คิดไว้ พอถึงเวลาจริงๆ ทุกอย่างโล่งมาก ไม่หนักอึ้งเหมือนตอนที่แบกไว้กับตัวเลยศักดินาปล่อยให้หน่วยตรวจสอบของรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบบริษัท แล้วแต่การพินิจของเจ้าหน้าที่ ถ้าจะสั่งให้ปิดศักดินาก็ยอม เพราะเหนื่อยมากแล้ว"ผมจะช่วยพูดกับคุณพ่อให้อีกแรงครับ" กองทัพเห็นว่าท่านมีท่าทางที่คิดหนัก"อย่าลำบากท่านนายพลอีกเลย ปล่อยไปตามยถากรรมเถอะ""ขอบใจมึงมากนะเพื่อน" ศิลารู้ดีว่าพ่อรักบริษัทนี้มาก "ก็เราเป็นเพื่อนกัน เพื่อนมีไว้ทำไมถ้าไม่ช่วยเพื่อน""ท่านคะ" เสียงนี้ดังแว่วเข้ามาผ่านฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์ศิลาหันไปมองพ่อว่าท่านมีท่าทียังไงเมื่อเจอ ขวัญชนก ซึ่งตอนนี้ท่านได้เซ็นใบหย่า
>>{"เมียพี่ไม่สบายเหรอ""} {"จะว่าไม่สบายก็ไม่เชิงหรอกพี่ พี่สะใภ้กินอะไรไม่ค่อยลง แถมบอกว่าอาหารเหม็น"}>>{"กินอะไรไม่ค่อยลงอาหารเหม็น? เราเอาอาหารค้างคืนมาให้พี่เขากินเหรอ"} {"เปล่าสักหน่อย อาหารเพิ่งจะตักออกมาจากกระทะร้อนๆ"}"เมื่อกี้มึงว่าอะไร ใครเหม็นอาหาร" กองทัพที่นั่งฟังอยู่ว่าศิลากำลังคุยเรื่องอะไร อดที่จะถามไม่ได้"ก็เมียกูน่ะสิ สงสัยจะไม่สบาย" ศิลาก็เลยวางสายไปจากน้องสาวก่อน"อาการเป็นยังไงบอกมาซิ""น้องสาวกูบอกว่ากินข้าวไม่ค่อยลง ตั้งแต่วันก่อนแล้ว" เพราะพวกเขาออกมาจากบ้านก็สามวันเข้าไปแล้ว"อาการแบบนี้เหมือนเมียกูเลย""เมียมึงก็เป็นเหรอ""เป็นสิ เป็นตอนมีตาทัพไท""อะไรนะ?""เมียไอ้ศิลาท้องเหรอ?" ซันเดย์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยกันพูดขึ้นมาบ้าง"กูจะไปรู้กับเมียมันเหรอ กูแค่บอกอาการตอนที่เมียกูท้อง""กูกลับบ้านก่อนได้ไหม" ศิลานั่งไม่ติดที่เลยทีนี้ ถ้าหายตัวกลับตอนนี้ได้เขาคงทำไปแล้ว"มึงจะบ้าเหรอ พรุ่งนี้ประชุมสำคัญ""พวกมึงก็จัดการกันไปเองสิวะ""อ้าวไอ้นี่! นี่บริษัทพ่อมึงนะ"ศิลาหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปอีกมุมหนึ่ง เพื่อโทรหาเธอ>>{"พ่อครับ"} โทรเข้าเครื่องของแม่ ลูกก็รับอีกอ
"พ่อขอโทษที่ส่งคนตามลูกกับเมียลูก แต่พ่อไม่ได้หวังร้ายเลย""ถึงพ่อไม่ได้หวังร้าย แต่คนที่ถูกตามรู้ไหมว่าเขาหวาดกลัว ผู้หญิงและเด็กแถมยังมีคนแก่ที่พิการ""พ่อคิดถึงหลาน" ศักดินาไม่ปล่อยให้ลูกต่อว่าไปเยอะกว่านี้แล้ว"อะไรนะครับ?""พ่อคิดถึงเทวิน""ผมไม่เชื่อ""ลูกก็รู้ว่าพ่อแสดงความรักออกมาไม่เก่ง""แล้วทำไมหลานถึงบอกว่ากลัวคุณปู่ล่ะ""คงเห็นพ่อขู่แม่แกมั้ง แต่ที่พ่อทำไปเพราะอยากกดดันให้เธอพาแกกลับมาที่บ้าน""พอเถอะศิลา" กองทัพคิดว่าศิลาคงเข้าใจพ่อผิดแล้ว คงเหมือนที่ท่านพูดว่าท่านแสดงความรักออกมาไม่ค่อยเป็น "เรามาหาทางคิดแผนต่อไปกันดีกว่า" นี่แหละที่ทุกคนไม่เข้าไปคุยเรื่องนี้ที่บ้าน เพราะหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง"พ่อต้องขอบใจเราอีกครั้งนะกองทัพ รวมถึงนายด้วย" ศักดินาหันไปหาลูกเขย"ผมหรือครับ" ซันเดย์คิดว่าตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย"ขอบใจที่ดูแลริศา" นี่แหละอีกเหตุผลหนึ่งที่ท่านอยากให้สาริศาแต่งงานกับเสี่ยเคน เพราะเสี่ยเคนพอมีอำนาจที่จะมาช่วยเรื่องนี้ได้ ตอนนั้นท่านมองไม่เห็นใครแล้วจริงๆ"ผมปรึกษากับพ่อแล้วครับ ท่านบอกว่าจะช่วยเรื่องนี้""ท่านบอกอย่างนั้นเหรอ" คนที่ถามก็คือศิลา เพราะเขาเริ
ใช้เวลาขับรถอยู่ร่วมสามชั่วโมง ก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทาง เพราะถนนช่วงนี้โล่งมาก"พ่อมึงมีญาณทิพย์เหรอวะ" ยังไม่ลงจากรถเลยด้วยซ้ำ ศักดินาก็เดินออกมาต้อนรับลูกและเพื่อนๆ ของลูก"ดูอบอุ่นดีนี่" ศักดินาเอ่ยทักทายคนที่เพิ่งลงมาจากรถ เพราะลูกชายไม่ได้มาแค่คนเดียว"สวัสดีครับ" เพื่อนทั้งสองยกมือไหว้ ถึงยังไงท่านก็เป็นพ่อของเพื่อนรัก แถมยังเป็นพ่อตาของซันเดย์ด้วย"ยินดีต้อนรับ ชวนเพื่อนเข้ามาข้างในสิลูก" ศักดินาเอ่ยพูดด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกดูไม่มีพิษไม่มีภัยทั้งสามก็เลยเดินตามเข้าไปในบ้าน"น้ำค่ะ" ก้นยังไม่ถึงโซฟาเลยด้วยซ้ำ ขวัญชนกก็ยกน้ำมาบริการแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจน้ำเลย ขวัญชนกก็เลยนั่งลงข้างๆ คนที่เป็นสามี แต่สายตานั้นมองดูหนุ่มๆ ด้วยแววตาหวานหยดย้อย"ผมจะคุยธุระ คุณมีอะไรทำก็ไปทำ" ศักดินาพูดพร้อมกับมองดูคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เล็กน้อย"ท่านคะ""บอกว่าจะคุยธุระไง"ก่อนที่ขวัญชนกจะออกจากห้องนั้น สายตาได้มองไปที่ลูกน้องของท่านแบบรู้กันแค่สองคน"เราตัดสินใจแล้วใช่ไหมว่าจะมารับช่วงต่อจากพ่อ""ผมไม่ชอบงานบริษัท""ถึงไม่ชอบแกก็ต้องได้มารับช่วงต่อ เพราะแกคือลูกชายคนเดียวของฉัน""พ่อก็ยังแข็งแรง