ห้างหรูใจกลางเมือง - ร้านอาหารไทย
ร้านอาหารไทยที่มีรสชาติอร่อยถูกปากทุกเพศทุกวัย มีเมนูให้ลูกค้าได้เลือกหลากหลายสไตล์ ทั้งอาหารคาวหวาน ร่างสูงโปร่งเดินนำเลขาสาวของตัวเองเข้ามานั่งในร้าน โดยมีสายตาของผู้คนในร้าน หลายคู่มองจับจ้องอยู่ตลอดเวลา สำหรับนาธานแล้วชายหนุ่มคุ้นชิน กับการตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นอยู่แล้ว เขาเลยไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่สำหรับม่านฟ้าที่ถูกลากมาด้วยนั้น พอต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ หญิงสาวก็ทำตัวแทบไม่ถูก และความรู้สึกประหม่าที่มีอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ร่างบางเดินก้มหน้าตามหลังคนตัวโตไปติด ๆ ม่านฟ้าไม่ชอบการตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนแบบนี้เลยจริง ๆ
“เอ้านี้…กินเยอะ ๆ ถ้าคุณอยากกินอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมตักอาหารใส่จานให้หญิงสาว ที่นั่งเกร็งอยู่ตรงหน้าอย่างเอาใจ บอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกของเขาเลย ที่มานั่งตักอาหารให้คนอื่นกินแบบนี้
นาธานรู้ดีว่าม่านฟ้าคงจะประหม่ามากแน่ ๆ ที่ต้องมานั่งกินอาหารสองคนกับตัวเองแบบนี้ แต่ชายหนุ่มอยากลองออกมากินอาหารกับเธอสักครั้งหนึ่งนี่นา สายตาจ้องมองดูคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้าอย่างนึกตลก นี่เขามันน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือไง เธอถึงเอาแต่นั่งก้มหน้าไม่พูดไม่จาด้วยแบบนี้
“ขอบคุณค่ะ…แล้วไม่รอลูกค้าก่อนเหรอคะ” ม่านฟ้าพยักหน้ารับ อย่างเก้ ๆ กัง ๆ
หญิงสาวไม่คุ้นชินกับเรื่องแบบนี้เลยจริง ๆ แถมคนที่ตักอาหารให้ยังเป็นถึงประธานหนุ่ม ที่สาว ๆ หลายคนใฝ่ฝันหาอีกด้วย ถ้าเรื่องในวันนี้รู้ถึงหูเพื่อน ๆ ในแผนกเก่าเธอละก็ คงกรี๊ดกร๊าดจนแผนกแตกกันแน่ ๆ
ม่านฟ้าถามกลับไปด้วยความสงสัย ไหนชายหนุ่มบอกว่าจะมาพบลูกค้าอย่างไงละ แล้วนี่เขาคิดจะกินก่อนลูกค้ามาเลยอย่างงั้นเหรอ เธอไม่เข้าใจการกระทำของเจ้านายคนนี้เลยจริง ๆ
“ลูกค้าอะไร?” นาธานเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว ถามหญิงสาวกลับหน้าตายราวกับว่าตัวเองไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้มาก่อน
“ก็ที่คุณพูดตอนอยู่ที่บริษัทไงคะ” ม่านฟ้าแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ แล้วพูดทวนความจำของชายหนุ่มกลับไปอีกครั้ง ก็เขาเป็นคนบอกเธอเองนี่นา ว่าจะออกมาพบลูกค้า แล้วตอนนี้กลับมาถามเธอกลับซะอย่างงั้น
“อ๋อ เรื่องนั้นผมโกหกน่ะ” นาธานพูดตอบเลขาสาวกลับอย่างหน้าตาเฉย ก็ตอนนั้นเขาแค่หาข้ออ้างลากม่านฟ้าให้ออกมาด้วยก็เท่านั้น เพราะถ้าไม่ใช้วิธีนี้หญิงสาวก็คงจะไม่ยอมออกมาด้วยอย่างแน่นอน แล้วอาจจะได้อีกคนออกมาแทนด้วยก็ได้
“โกหก!” ม่านฟ้าพูดทวนขึ้นเสียงดังอย่างลืมตัว ใบหน้าสวยชักสีหน้าไม่พอใจออกมาเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกชายหนุ่มตรงหน้า หลอกลวงให้ออกมาด้วยอีกแล้ว
เขาโกหกเธออีกแล้วอย่างงั้นเหรอ นี่มันรอบที่สามแล้วนะ ม่านฟ้าไม่เข้าใจเจ้านายตัวเองจริง ๆ ว่าเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่ เพราะครั้งก่อน ๆ ก็หลอกว่าออกมาพบลูกค้า พอมาถึงเขาก็พาเธอเดินเที่ยวเล่นไปทั่วห้าง ซื้อของนู่นนี่ให้เธอถือเต็มมือไปหมด
“ผมหิวเลยอยากออกมาหาอะไรกินก็เท่านั้น”
นาธานพูดขึ้นเสียงเรียบไม่สนใจเสียงตกใจของหญิงสาวตรงหน้า ก็ถ้าเขาไม่ยกเอาเรื่องงานมาบังหน้ามีเหรอ ที่แม่เลขาคนนี้จะยอมมาด้วยไหม อีกอย่างถ้าไม่ชิงตัดหน้าออกมาก่อนแบบนี้ ก็คงจะต้องถูกแม่โรสคนดีของคุณแม่ ชวนออกมาหาอะไรกินข้างนอกอีกแน่
นาธานอยากลองศึกษานิสัยใจคอของม่านฟ้าให้มากขึ้นกว่านี้ ชายหนุ่มอยากรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีนิสัยอย่างไง ช่วงนี้เขาเลยชอบหาข้ออ้างพาเธอออกมาข้างนอกด้วยประจำ และยิ่งเขาได้ใช้เวลาอยู่กับเธอมากขึ้น นาธานก็รู้สึกถูกใจหญิงสาวมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นนิสัยหรือท่าทีที่แสดงออกมา ชายหนุ่มก็รู้สึกชอบไปหมด แบบนี้สิถึงคุ้มค่ากับสิ่งที่ทำลงไปหน่อย
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ” ปากเล็กพูดบ่นงึมงำออกมาเบา ๆ อย่างไม่พอใจ โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดพวกนั้น เข้าไปในหูของท่านประธานทุกคำ
“พูดว่าอะไรนะ” นาธานที่ยินเสียงบ่นของคุณเลขาสาว ปากหนาก็กระตุกยิ้มออกมาจาง ๆ แล้วแกล้งเอ่ยถามหญิงสาวกลับไปเสียงเรียบ ให้คนขี้บ่นตกใจเล่น
“เปล่า ค่ะ” ใบหน้าสวยรีบส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วยิ้มแห้ง ๆ ส่งให้ชายหนุ่มกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ เกือบไปแล้วนะยัยม่านฟ้า
“งั้นก็กินเยอะ ๆ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”
“ค่ะ”
นาธานพูดจบก็ก้มหน้ากินอาหารต่อ โดยไม่สนใจม่านฟ้าที่นั่งอยู่ตรงข้ามตัวเองอีก เพราะถ้ายังชวนคุยไปมากกว่านี้ หญิงสาวอาจตื่นเต้นจนไม่กล้ากินอะไรอีกแน่ ๆ ม่านฟ้าที่ปฏิเสธอะไรไม่ได้ก็เลยต้องจำใจ นั่งกินอาหารกับประธานหนุ่มอย่างเงียบ ๆ โดยมีสายตาของคนทั้งร้านหันมามองเป็นพัก ๆ
บริษัททำเครื่องประดับ
เจมส์ยืนมองดูเลขาสาวที่กำลังนั่งเล่น โทรศัพท์มือถืออยู่ที่โต๊ะอย่างสบายอารมณ์ ใบหน้าหล่อส่ายไปมาด้วยความเหนื่อยหน่าย ผู้หญิงคนนี้เหรอที่คุณหญิงโสมนภาอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ บอกเลยให้ฟรีเจ้านายของเขาก็คงไม่เอาอย่างแน่นอน วัน ๆ เอาแต่นั่งเล่นโทรศัพท์ สอนงานอะไรไปก็ไม่สนใจ แล้วยังคิดอยากจะมาเป็นเลขาของท่านประธานอีก โชคดีนะที่เจ้านายของเขาไม่ใช่คนโง่ เตรียมวิธีรับมือกับผู้หญิงคนนี้เอาไว้แล้ว ไม่งั้นถ้าเธอได้มาเป็นเลขาจริง ๆ มีหวังเขาได้ปวดหัวกว่าเดิมแน่ ๆ
“คุณโรสทำงานใกล้เสร็จหรือยังครับ งานจะต้องส่งพรุ่งนี้แล้วนะครับ” เจมส์เดินมาหยุดที่โต๊ะของโรส แล้วเอ่ยถามเรื่องงานที่จะต้องส่งออกไป
“โอ๊ย ถ้ารีบมากก็เอาไปทำเองเลยสิ” โรสชักสีหน้าไม่พอใจใส่เจมส์อย่างสุดจะทน อะไร อะไร ก็งาน! งาน! งาน! เธอเบื่อที่จะฟังคำนี้แล้ว
“นี่คุณจะไปไหน ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลยนะครับ” เจมส์คว้าแขนของโรสข้างหนึ่งเอาไว้ เมื่ออยู่ ๆ หญิงสาวก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเก็บข้าวของใส่กระเป๋า เตรียมตัวจะเดินไปที่ลิฟต์
“ปล่อยมือ! ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน ไม่ต้องมายุ่ง” โรสหันมาตะคอกใส่เจมส์ พร้อมสะบัดแขนที่ถูกจับอยู่ออกอย่างสุดแรง
ในเมื่อนาธานไม่อยู่ที่บริษัทแล้ว เธอจะอยู่ทำไมไปหาเดินช็อปปิ้งเล่นที่ห้างดีกว่า ส่วนเรื่องงานใครรีบก็ทำกันเองไปเลย โรสเดินเข้าลิฟต์ไปอย่างไม่สนใจ เพราะรู้ดีถึงเธอจะทำตัวแย่แค่ไหน แต่พอครบหนึ่งเดือนอย่างไงนาธานก็ต้องเลือกเธอ ที่เป็นลูกสาวเพื่อนคุณแม่ตัวเองให้ทำงานต่ออยู่แล้ว
“เฮ้อ เมื่อไหร่จะครบหนึ่งเดือนสักทีนะ” เจมส์ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นชายหนุ่มก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความให้กับเจ้านายตัวเอง ‘เป็นไปตามแผนครับ’
ห้องทำงานท่านประธานในที่สุดการฝึกงานเป็นเลขาของทั้งสองคนก็จบลง วันนี้นาธานจะต้องเลือกเลขาไว้ช่วยงานตัวเองเพียงคนเดียว ม่านฟ้ากับโรสยืนรอฟังประธานหนุ่มพูดเลือกอยู่เงียบ ๆ โดยที่ทั้งสองแทบจะไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลยสักนิด เพราะพวกเธอรู้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มจะเลือกใครให้อยู่ต่อ“ในเมื่อมากันครบแล้ว งั้นผมขอประกาศเลยก็แล้วกัน ว่าใครจะได้ทำงานเป็นเลขาของผมต่อ” นาธานเห็นว่าทุกคนมาพร้อมกันแล้ว ก็เตรียมตัวพูดบอก เรื่องที่ตัวเองตัดสินใจออกไป“…” ทุกคนยืนเงียบรอฟังสิ่งที่ประธานหนุ่มจะพูดอย่างใจจดใจจ่อม่านฟ้าเธออยากจะกลับไปทำงานที่แผนกเดิมใจจะขาดอยู่แล้ว เพราะหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ หญิงสาวต้องทำงานที่นี่ด้วยความระแวงอยู่ตลอดเวลา ถึงตอนนี้ชายหนุ่มเหมือนจะยังจำ เรื่องที่เธอเคยตบหน้าเขาที่ผับไม่ได้ แต่ใครจะรู้ว่าวันใดวันหนึ่งเขาเกิดจำเธอได้ขึ้นมาจะทำอย่างไง เพราะฉะนั้นกลับไปทำงานอยู่ที่แผนกเดิมดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยเธอกับเขาก็จะได้ไม่ต้องเจอหน้ากัน เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตก็จะได้ไม่ถูกเปิดเผยขึ้นมาอีกครั้ง“คุณม่านฟ้า ยินดีด้วยนะครับ”นาธานหันหน้าไปทางม่านฟ้าแล้วพูดขึ้น ต่อไปนี้เขาก็จะได้เธอมาเป็นเลข
บ้านใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่นาธานสองหนุ่มนาธานกับเจมส์ก้าวเท้าเดินเข้ามาในห้องรับแขก พอเข้ามาถึงก็เห็นโสมนภากำลังนั่งปลอบโรสที่เหมือนพึ่งหยุดร้องไห้อยู่ข้าง ๆ ตัวเอง ส่วนปิรดาก็นั่งปลอบลูกสาวตัวเองอยู่อีกข้างหนึ่ง พอทั้งสามเห็นสองหนุ่มเดินเข้ามาก็หันไปดูพร้อม ๆ กัน“พ่อธานอธิบายให้ป้าฟังหน่อยได้ไหม ว่าลูกสาวป้าทำไมถึงแพ้แม่พนักงานธรรมดา ๆ คนนั้นได้”ปิรดาที่รู้สึกไม่พอใจกับเรื่องนี้มาก ๆ เอ่ยพูดขึ้นทันทีที่เห็นนาธานเดินเข้ามา ปิรดาไม่เข้าจริง ๆ ว่าลูกสาวของเธอ ที่เรียนจบมาตั้งอังกฤษ แต่ทำไมกับสู้พนักงานธรรมดา ๆ ที่จบ ป.ตรี ธรรมดาไม่ได้“เจมส์ เอาให้คุณแม่กับคุณป้าดูสิ” นาธานหันหน้าไปสั่งเจมส์ที่ยืนอยู่ ให้เอาของในมือส่งให้โสมนภากับปิรดาดู“อันนี้คืออะไร อย่างงั้นเหรอ” โสมนภากับปิรดามองดูกระดาษที่เลขาเจมส์ส่งให้อย่างงง ๆในกระดาษพวกนั้นมีทั้งใบที่เป็นตัวเลขกับวันเวลาตลอดทั้งเดือนไว้ และยังมีรูปถ่ายของเลขาสาวทั้งสองตอนนั่งอยู่ที่โต๊ะอีกสามสี่รูป แล้วของพวกนี้มันเกี่ยวอะไรกับการที่โรสไม่ถูกเลือกเป็นเลขาด้วยล่ะ โสมนภากับปิรดาหันมองหน้ากันอย่างงุนงง“ใบนี้เป็นเวลาเข้าทำงานกับเลิกงาน ของคุณโรสใ
หลังจากจบเรื่องที่บ้านของนาธาน ตอนนี้ม่านฟ้าก็ได้เข้ามาทำงานเป็นเลขา ของท่านประธานสุดหล่อ ของบริษัทแบบเต็มตัวได้สองอาทิตย์กว่าแล้ว และดูเหมือนเรื่องที่หญิงสาว รู้สึกวิตกกังวลมาตลอดนั้น ตอนนี้ก็เริ่มจางหายไปเกือบหมดแล้วเพราะดูเหมือนว่านาธานจะจำเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ผับในคืนนั้นไม่เลยสักนิด ม่านฟ้าที่ระแวงอยู่ตลอดก็รู้สึกเบาใจ และมีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น ตอนแรก ๆ ที่เธอเข้ามาทำงานที่นี่ เรียกได้ว่าจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยสักนิด วัน ๆ มัวแต่กลัวว่าชายหนุ่มจะจำเรื่องในคืนนั้นได้อยู่ตลอดเวลาห้องทำงานท่านประธานก๊อก ๆ ก๊อก ๆ“เข้ามา”ประธานหนุ่มกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาจาง ๆ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น หึหึ วันนี้ละเขาจะจับแม่สาวมือไวมาลงโทษให้สาสมกับที่รอคอยมานานหลายเดือนเลย“เอกสารที่คุณต้องการค่ะ”เลขาสาวก้าวเดินเข้ามาในห้อง เพื่อนำเอกสารมาให้ตามที่ประธานหนุ่มสั่ง ม่านฟ้าวางแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะเหมือนทุกครั้ง โดยที่ไม่ได้สงสัยอะไร“…”นาธานหยิบแฟ้มเอกสารมาเปิดดูทีละหน้า แล้วมาหยุดค้างอยู่ที่หน้าหนึ่งของแฟ้ม คิ้วหนาของชายหนุ่มขมวดเป็นปม เหมือนกับว่าเจออะไรที่ไม่ถูกต้องอยู่ในเ
สามวันผ่านไปนาธานก็ทำตัวกับม่านฟ้าตามปกติ โดยที่ไม่ได้ทำตัวรุ่มร่ามอะไรกับหญิงสาวอีก แต่สำหรับม่านฟ้าสามวันมานี้แทบจะไม่มองหน้านาธานเลยด้วยซ้ำ วัน ๆ เอาแต่ก้มหน้าก้มตาถามคำตอบคำ จนทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเป็นพัก ๆ ส่วนเจมส์ที่ถูกนาธานสั่งให้ไปหาข้อมูลของม่านฟ้ามาเพิ่ม พอเขาสังเกตทั้งสองคนแล้วก็ยิ่งทำให้รู้สึกแปลกใจเข้าไปใหญ่ สองคนนี้จะต้องมาเรื่องอะไรกันแน่ ๆห้องทำงานท่านประธานเสียงเพลงถูกเปิดขึ้นเบา ๆ เพื่อทำลายความเงียบภายในห้องหรู ประธานหนุ่มนั่งเหม่อมองดูออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ นาธานยังคงคิดไม่ตกเรื่องของคนที่นั่งทำงานอยู่ข้างนอกไม่หาย แต่พอจะเดินออกไปหา หรือเรียกให้เข้ามาหาเหมือนถูกที ชายหนุ่มก็รู้สึกแปลก ๆ ยังไงก็บอกไม่ถูก เพราะจนกว่าที่เขาจะได้รู้ความจริงเรื่องของเธอทั้งหมด นาธานไม่อยากทำอะไรที่มันดูเกินเลยออกไป ถึงใจในตอนนี้จะอยากจับเธอมากัดกินให้หนำใจมาก ๆ ก็ตามก๊อก ๆ ก๊อก ๆ ก๊อก ๆเสียงเคาะประตูดังปลุกคนนั่งเหม่อให้ตื่นฟื้นสติกลับมา ไม่นานประตูห้องก็เปิดออก พร้อมร่างสูงของเลขาหนุ่ม ที่เดินถือเอกสารอะไรบางอย่างเข้ามาด้วย นาธานจ้องมองอย่างมีความหวัง ขอให้ในมือนั้นคือสิ่
รีสอร์ตหรูติดทะเลห้องพักที่ตกแต่งไปด้วยโทนน้ำตาลขาวอย่างเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ดูหรูหราและสวยงามน่าอยู่มาก เป็นสถานที่เหมาะกับคู่รัก มาสานสัมพันธ์ความทรงจำแสนหวานกันที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก ด้านหลังของที่พักยังจัดเก้าอี้เอาไว้ ให้คู่รักได้นั่งดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ ความสวยงามของทะเลได้อย่างใกล้ชิดม่านฟ้านั่งทอดสายตามองเกลียวคลื่น ซัดสาดเข้าฝั่งในยามเย็นด้วยความหลงใหล สายลมพัดผ่านมาปะทะใบหน้าสวย ยิ่งทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่านคลาย จนแทบทำให้เธอหลงลืมความเหนื่อยล้า ที่ต้องเจอมาเกือบทั้งวันได้เลยทีเดียวม่านฟ้าหลังจากได้รับโทรศัพท์จากเจ้านายจอมเอาแต่ใจ ที่บอกว่ามีงานด่วนให้รีบเก็บเสื้อผ้า แล้วมาหาเขาที่สนามบินตั้งแต่เช้ามืด เลยทำให้หญิงสาวต้องวุ่นวายโทรหาเพื่อนสนิทให้มาช่วยดูเด็ก ๆ ให้ ส่วนตัวเองก็ต้องรีบออกมาตามที่นัดหมายกับชายหนุ่มเอาไว้ แต่พอมาถึงรีสอร์ตกับถูกนาธาน ลากพาไปนู่นไปนี่เดินเที่ยวเล่นจนเย็นแทน เขาทำราวกับว่ามาเที่ยวพักผ่อนไม่ได้มาทำงานซะอย่างงั้น จนตอนนี้ม่านฟ้าชักเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ที่เขาบอกว่ามีงานด่วนอะไรนั้นมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เพราะพอเธอลองพูดถามเรื่องงานเมื่อ
ม่านฟ้ารู้ได้ทันทีว่านาธานคงคิด จะมานั่งดื่มเหล้าที่ห้องของเธอตั้งแต่แรกแล้วแน่ ๆ โอ๊ย! อย่างจะบ้าตายกับผู้ชายคนนี้ซะจริง ๆ ม่านฟ้านั่งร้องโอดครวญอยู่ในใจ โดยที่ทำอะไรชายหนุ่มข้าง ๆ ไม่ได้สักนิด บอกเลยถ้าไม่ติดว่าเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้เธอนะ ม่านฟ้าคงจะไล่ออกจากห้องไปนานแล้ว คนอะไรเอาแต่ใจตัวเองที่สุดในโลกเลย“แล้วนี่พวกเราต้องไปพบลูกค้ากันตอนไหนคะ”ม่านฟ้าขี้เกียจพูดต่อปากต่อคำกับนาธานอีก เลยเปลี่ยนมาเอ่ยถามเรื่องงานที่ต้องทำขึ้นมาแทน เพราะอยู่ ๆ เธอก็ถูกชายหนุ่มโทรเรียกตัวให้มาที่นี่ โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย และรู้สึกว่าในตารางงานก็ไม่มีเลยด้วย“ลูกค้าเหรอ” เสียงทุ้มพูดทวนกลับอย่างไม่สนใจ มือก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบไปด้วยความจริงแล้วที่บอกว่ามาทำงานด่วนอะไรนั้น มันเป็นแค่เรื่องที่นาธานสร้างขึ้นมาโกหกก็เท่านั้น ชายหนุ่มแค่อยากหาโอกาสอยู่กับหญิงสาวสองคนบ้าง เลยคิดแผนนี้ขึ้นมา เพื่อจะได้อยู่กับเธอ และเขายังติดใจเรื่องลูกของเธออยู่ เลยอยากมาไขความข้องใจในเรื่องนี้ด้วย ว่าความจริงแล้วเด็กทั้งสองคนนั้นเป็นลูกของเธอจริงไหม และอีกข้อที่สำคัญสุด คือเขาอยากรู้ว่าเธอยังโสดจริง เหมือนที่เขียนในใบสม
“หึหึ ฝากลูก ๆ ให้เพื่อนดูแลอย่างงั้นเหรอ แล้วสามีของเธอไปไหนซะล่ะ”นาธานหัวเราะหึหึในลำคอ แล้วแกล้งเอ่ยถามเรื่องสามีของม่านฟ้าออกไป ดูสิคนที่บอกว่ามีสามีแล้วจะพูดตอบกลับมาว่าอะไร“ก็…ก็เขาไปทำงานไงคะ”ม่านฟ้าเอ่ยพูดขึ้นอย่างติด ๆ ขัด ๆ เพราะเธอลืมไปเลยว่าได้โกหกนาธานเรื่องมีสามีแล้วเอาไว้ โชคดีที่เธอไหวตัวทันรีบพูดกลบเกลื่อนกลับไปได้ทัน“อ๋อ…ขยันจังเลยนะเสาร์อาทิตย์ก็ยังทำงานอีก”นาธานเอ่ยพูดขึ้นอย่างประชดประชัน เรื่องสามีไร้ตัวตนของม่านฟ้าออกไปอย่างเหลืออด มาถึงขนาดนี้แล้วยังคิดโกหกเขาอีกนะ คอยดูเถอะถ้าผ่านคืนนี้ไปเมื่อไหร่ เขาจะทำให้คำโกหกของเธอเป็นจริงให้ดู“แน่นอนสิคะ ดูฉันสิวันหยุดแท้ ๆ ก็ยังถูกคุณลากมาไกลถึงนี่เลย” ม่านฟ้าพูดประชดกลับอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะตอนนี้เธอยังรู้สึกเคือง เรื่องที่นาธานลากตัวเธอมาทำงานตั้งแต่เช้ามืดอยู่ ทำมาเป็นพูดดีว่าคนอื่นไปทั่ว ไม่ดูตัวเองเลยว่าทำอะไรไว้กับเธอบ้างน่ะ“ก็บอกแล้วไง ว่าเดี๋ยวผมจะให้ค่าล่วงเวลาเพิ่มเป็นสองเท่าเลย” นาธานฉีกยิ้มเย็นส่งให้ม่านฟ้า เมื่อถูกเธอยกเอาเรื่องที่ตัวเองทำ ขึ้นมาเปรียบเทียบบ้าง แม่คนนี้นับวันจะต่อปากต่อคำเก่งขึ้นเรื่อย
ม่านฟ้านั่งฟังคำพูดสารภาพของนาธานเงียบ ๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรโต้ตอบกลับ เพราะเธอรู้สึกงุนงงและสับสน กับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ไปหมดแล้ว แถมยังรู้สึกถึงความผิดปกติแปลก ๆ ของร่างกายตัวเองมาก ๆ มันเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมดทั้งตัว ลำคอของเธอก็รู้สึกแห้งแทบจะเป็นผงมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว จะว่าเธอดื่มจนเมาก็ไม่น่าใช่ เพราะเธอพึ่งดื่มไปแก้วเดียวเองนี่นา“เออ ฉันว่าวันนี้มันเย็นมากแล้ว คุณนาธานกลับห้องก่อนดีกว่านะคะ” ม่านฟ้าลุกขึ้น แล้วเอ่ยพูดกับนาธานออกไป เพราะตอนนี้เธอรู้สึกว่า ร่างกายตัวเองมันเริ่มอาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว“ไม่กลับ”นาธานปฏิเสธกลับอย่างไม่สนใจ เพราะเขารู้ดีว่าทำไมม่านฟ้า ถึงได้พยายามไล่ให้ตัวเองกลับแบบนี้ นาธานกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาจาง ๆ หึหึ ดูถ้าสิ่งที่เขาหยดลงไปในแก้วเหล้า มันจะเริ่มออกฤทธิ์แล้วสินะ“คุณนาธาน ว้ายยย!…นี่คุณจะทำอะไรคะเนี่ย ปล่อยฉันนะคะ”ม่านฟ้าตกใจกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่น เมื่ออยู่ ๆ นาธานก็เอื้อมมือมาจับแขนของเธอ แล้วดึงเข้าหาตัวเอง โดยที่เธอไม่ได้ตั้งตัว จนม่านฟ้าเสียหลักล้มทับ ลงบนตักของนาธานที่นั่งอยู่พอดี“หึหึ ดูเหมือนว่ายามันจะเริ่มออกฤทธิ์แล้
หลังจากผ่านเรื่องราวแย่ ๆ มาได้ นาธานเห็นว่าร่างกายของม่านฟ้า กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว เขาก็จัดการประกาศสละโสด กับสื่อทุกที่ให้ได้รู้พร้อมกัน ทำให้ทุกคนโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ทราบเรื่อง ต่างแตกตื่นและงุนงงกันไปหมด เพราะไม่คิดว่าหนุ่มฮอตอันดับหนึ่ง ที่ครองตัวเป็นโสดมาตลอด จะประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบแบบนี้…งานแต่งงานของนาธานกับม่านฟ้าถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ มีนักธุรกิจและคนดังมาร่วมกันมากมาย ทุกคนแต่เอ่ยปากพูดชมเป็นเสียงเดียวกัน ว่าคู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้ดูสวยหล่อ ราวกับว่าเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายที่ออกมาจาก โลกแห่งเทพนิยายกันก็ไม่ปาน ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกอิจฉาทั้งสองคนที่ได้ยืนเคียงคู่กัน…ส่วนโรสหลังจากเกิดเรื่องขึ้นที่โรงพยาบาลในวันนั้น นาธานกับม่านฟ้าก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรของเธออีกเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับครอบครัวของเขามาก บ้านใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่นาธานนาธานที่พึ่งเลิกงานกลับมาก็เดินตรงเข้าไปห้องรับแขก ที่มีภรรยาแสนสวยของตัวเองนั่งรออยู่ทันที ตอนนี้นาธานได้ให้ม่านฟ้าออกจากงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะเธอท้องโตขึ้นทุกวัน เขาไม่อยากให้เมียตัวเองต้องเหนื่อยไปมากกว่านี้ เลยให้เจมส์รับสมัครหาเล
“ม่านฟ้าอยากกินอะไรไหม เดี๋ยวผมจะลงไปข้างล่างสักหน่อย”“เอาเป็นนมร้อนก็ได้ค่ะ”“โอเคครับ”เสียงทุ้มของนาธานเอ่ยถามเมียรักอย่างเอาใจ วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ม่านฟ้าจะพักอยู่โรงพยาบาลแล้ว ตอนที่เธอได้ยินคุณหมอพูดบอก ม่านฟ้ารู้สึกดีใจมาก เพราะเธอเบื่อที่จะนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่แบบนี้แล้ว ถึงวันหยุดเพื่อน ๆ ที่ทำงานจะวนเวียนมาเยี่ยมเยียนเธอบ้าง แต่ก็อยู่กันได้ไม่นาน เพราะทุกคนรู้สึกเกร็งและประหม่ามาก ที่ต้องมานั่งอยู่ในห้องเดียวกับนาธาน ที่เป็นเจ้านายของตัวเองนาธานลงลิฟต์มาชั้นหนึ่งที่มีคาเฟ่ขายเครื่องดื่ม แต่พอประตูลิฟต์เปิดออก เขาที่กำลังอารมณ์ดีอยู่นั้น ก็ต้องแปลงเปลี่ยนเป็นอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาทันที เมื่อได้เห็นผู้หญิงสองคนที่ กำลังยืนรอขึ้นลิฟต์อยู่ตรงหน้าตัวเอง“พี่นาธาน”“พ่อธาน”ปิรดากับโรสพึมพำชื่อของคนในลิฟต์ออกมาด้วยความตกใจ เพราะพวกเธอไม่คิดว่าจะได้เจอกันนาธานที่นี่แบบนี้“คุณป้า โรส”นาธานพูดชื่อของทั้งสองคนออกมาเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์อะไร สายตาเย็นยะเยือกมองจ้องไปทาง ที่โรสยืนอยู่อย่างอดไม่ได้ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในวันนั้น นาธาน ก็ไม่ได้เจอทั้งสองนี้อีกเลย ถึงเขาจะได
“ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันแล้ว ไม่จริง!”“หนูโรสพอเถอะลูก”โสมนภาที่นั่งฟังโรสพูดอยู่นาน ก็เอ่ยขัดขึ้นอย่างเหนื่อยหน่ายใจ เธอรู้ดีว่าโรสก็ชอบลูกชายตัวเองมากเหมือนกัน แต่เรื่องพวกนี้มันจะต้องสมยอมและชอบกันทั้งสองฝ่าย เรื่องทั้งหมดมันถึงจะไปต่อได้ โสมนภารู้ดีว่า อย่างไงเรื่องของโรสกับนาธานมันก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ เพราะลูกชายของเธอแสดงออกชัดเจน ว่าไม่สนใจหนูโรสตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้ว“คุณน้า นี่คุณน้ายอมให้ผู้หญิงจน ๆ คนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านอย่างงั้นเหรอคะ”โรสรีบหันหน้าไปพูดถามโสมนภา เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้มันมีอะไรดีนักหนา ถึงทำให้พี่นาธานและคนในบ้านรักได้มากขนาดนี้“หนูม่านฟ้าเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านนี้ แล้วทำไมถึงจะเข้ามาที่อยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ล่ะ”โสมนภาพูดตอบโรสกลับตามที่ตัวเองคิด ไม่นานเดี๋ยวม่านฟ้าก็จะแต่งงานกับลูกชายของเธอแล้ว ถึงตอนนั้นก็ต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นจะย้ายเข้ามาอยู่ ไวหน่อยมันจะเป็นไรไปโสมนภาเริ่มหมดความอดทนกับโรสขึ้นมาเรื่อย ๆ ตอนแรกเธอก็รู้สึกชอบและเอ็นดูอยู่ลูกสาวเพื่อนคนนี้มาก เลยได้พยายามคอยช่วยให้ได้เข้าหาลูกชายตัวเอ
“อุ๊ย! ทำอะไรกันอยู่จ๊ะเนี่ย”“คุณน้าโสม ทุกคน สวัสดีค่ะ”ทุกคนหันมองไปตามเสียงก็เห็นแขกไม่ได้รับเชิญสองคน กำลังปั้นหน้ายิ้มหวานเดินเข้ามา ม่านฟ้าแอบชำเลืองมองไปทางนาธานอยู่แวบหนึ่ง เพื่อดูปฏิกิริยาของเขาว่าเป็นอย่างไง เพราะหลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น นาธานก็ดูจะไม่ชอบทั้งสองคนนี้มากขึ้นกว่าเดิม เธอกลัวว่าเขาจะอดอาละวาดใส่ทั้งสองคน เพราะเรื่องในวันนั้นไม่ได้จริง ๆปิรดากับโรสเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม วันนี้ทั้งสองตั้งใจว่าจะมาพูดคุย และถามเรื่องของนาธานกับโสมนภาสักหน่อย ว่าตอนนี้ไปถึงขั้นไหนกันแล้วบ้าง แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอนาธานกับม่านฟ้าอยู่ที่นี้ด้วย สองแม่ลูกฉีกยิ้มหวาน เดินเข้ามาหาทุกคนที่โซฟาเหมือนกับทุกครั้งปริดากับโรสที่ยังไม่รู้เรื่อง ที่ม่านฟ้าเคยหนีนาธานไปเพราะตัวเอง ทำให้ทั้งสองคนยังไม่รู้ถึงอารมณ์ขุ่นเคืองในตา ของนาธานที่นั่งจ้องมองอยู่ในตอนนี้ ทำเรื่องแบบนั้นเอาไว้ ยังกล้ามาบ้านของเขาอีกนะ“วันนี้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเลยนะจ๊ะ” ปิรดาเอ่ยทักทายออกไปอย่างเป็นกันเอง โดยที่ไม่รู้ถึงความผิดปกติอะไร“คุณน้าคะ โรสซื้อขนมเจ้าประจำที่คุณน้าชอบมาฝากค่ะ” โรสวางถุงข
“ฮือออ…ฮือออ”เสียงร่ำไห้เสียใจของผู้เป็นแม่ ยังคงดังก้องออกมาไม่ขาดสาย ถึงจะได้คำพูดปลอบใจจากม่านฟ้ามา แต่โสมนภาก็ยังอดโทษตัวเองไม่ได้ ว่าการตายของทั้งสองคนตัวเองก็มีส่วนด้วยครึ่งหนึ่งอยู่ดีโสมนภานั่งทรุดอยู่กับพื้น ร้องไห้ออกมาอย่างหนักไม่สนใจใครอีก จนมีคนเดินเข้ามายืนข้าง ๆ เธอ แล้วเอ่ยพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง…“คุณหญิงร้องไห้ทำไมคะ ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”น้องพลอยที่เห็นโสมนภานั่งร้องไห้อยู่ ก็เดินเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง เด็กหญิงพูดถามออกไป พร้อมก้มมองสำรวจดูตัวของโสมนภาไปด้วย ว่ามีบาดแผลตรงไหนหรือเปล่า ดูท่าท่านจะต้องรู้สึกเจ็บมากแน่ ๆ ถึงได้ร้องไห้ออกมาแบบนี้“ไม่ร้องนะครับ…เดี๋ยวให้คุณอาธานพาไปหาคุณหมอกัน” น้องเพชรเดินเข้าไปยืนใกล้ ๆ อีกคน พร้อมกับเอ่ยพูดปลอบออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อเด็กชายคิดว่าที่โสมนภาร้องไห้อยู่นั้น อาจจะเพราะรู้สึกไม่สบายมาก เหมือนตอนที่ตัวเองเคยเป็น พอคุณแม่พาไปหาคุณหมอเขาก็รู้สึกดีขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าโสมนภาได้ไปหาคุณหมอจะต้องดีขึ้นเหมือนกันแน่ ๆ“น้องเพชรน้องพลอย…!!”ม่านฟ้าที่เห็นเด็กทั้งสองยืนเข้าไปหาโสมนภาแบบนั้น ก็คิดจะเข้าไปพาตัวออกมา แต่ก็ถูกนา
ในยามเช้าเมื่อดวงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้า แสงสีทองอร่ามก็สาดส่องไปทั่วบริเวณวัด ผู้คนชายหญิงคนแก่หนุ่มสาวต่างทยอยเข้ามาทำบุญที่วัด รวมถึงม่านฟ้าเด็ก ๆ นาธานและครอบครัวของเขา ต่างพากันเดินทางมาที่วัดกันตั้งแต่เช้าตรู่หลังจากที่ม่านฟ้าได้เอารูปถ่ายของพี่เขยตัวเอง ให้นาธานและทุกคนได้ดู สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปกันทันที ตอนนั้นม่านฟ้ายังไม่ค่อยเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนได้ยินนาธานพึมพำเรียกชื่อของคนในรูปออกมา ‘พี่นาธิน’ เลยทำให้ม่านฟ้ารู้ว่าผู้ชายในรูปคือพี่ชายของนาธาน ที่ออกจากบ้านไปเมื่อหลายปีก่อนนั้นม่านฟ้าไม่คิดเลยจริง ๆ ว่า คนรักของพี่สาวเธอ ที่อยู่กินกันมาตั้งหลายปี จะเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของนาธาน เรื่องทุกอย่างมันดูบังเอิญมากจริง ๆม่านฟ้าพาทุกคนเดินลัดเลาะไปตามทาง จนมาถึงบริเวณหลังวัด ซึ่งเป็นสถานที่เก็บอัฐิของญาติที่เสียชีวิตของชาวบ้านแถวนี้ และรวมไปถึงเป็นที่เก็บอัฐิของพี่สาวพี่เขยของเธอด้วยสายลมอ่อน ๆ พัดเข้ามาปะทะใบหน้า ทำให้รู้สึกเย็นไปทั่วใบหน้า แต่ดวงตาคู่สวยมันกลับรู้สึกร้อนแสบขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ จนเก็บกั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่อยู่ ม่านฟ้าพานาธานกับครอบครัวของเขา มาหยุดอยู่ที่เก็บ
คลื่นทะเลซัดสาดเข้าฝั่งเป็นจังหวะราวกับเสียงดนตรี ทำให้ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกสงบและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน โต๊ะอาหารริมทะเล ที่มีแสงแดดอ่อน ๆ ของยามเย็นสาดส่องลงมา ทำให้บรรยากาศของอาหารมื้อนี้ดูพิเศษมากขึ้น โสมนภารู้สึกผิดกับเรื่องที่ตัวเองทำลงไป เย็นวันนี้เธอเลยของจัดโต๊ะอาหารเลี้ยงม่านฟ้าหนึ่งมื้อ เพื่อเป็นการขอโทษที่เธอพูดไม่ดีออกไปในวันนั้นนาธานพาม่านฟ้ากับเด็ก ๆ มานั่งกินอาหารเย็นที่คุณแม่ตัวเอง ได้จัดเตรียม ตามที่ท่านขอเอาไว้ ถึงตอนนี้นาธานจะยังรู้สึกเคือง ๆ โสมนภาอยู่นิดหน่อยก็ตาม แต่ถึงยังไงท่านก็เป็นแม่ของตัวเอง และดูท่านจะรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดมากเหมือนกัน นาธานเลยขี้เกียจมีปัญหากับท่านอีก แล้วเขาก็อย่างให้ท่านกับม่านฟ้าได้พูดปรับความเข้าใจกันด้วย เพราะถึงเขาจะพูดบอกม่านฟ้าไปบ้างแล้ว แต่ด้วยนิสัยคิดมากของเธอ นาธานอยากให้ทั้งสองคุยกันเองมากกว่า“นี่จ้ะ ฉันต้องขอโทษหนูด้วยนะ ที่วันนั้นพูดแย่ ๆ ใส่หนูนะ ม่านฟ้า” โสมนภาตักอาหารใส่จานให้ม่านฟ้า แล้วพูดขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไปอีกครั้งโสมนภารู้สึกดีใจมากที่วันนี้นาธานหาตัวม่านฟ้าเจอ เพราะถ้าหาไม่เจอขึ้นมาจริง ๆ เธอคงจะรู้สึกผิดและโท
“แต่งงาน! นี่คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ ม่านฟ้า”นาธานที่นอนกอดม่านฟ้าอยู่ ก็ดีดตัวลุกขึ้นมานั่งด้วยความตกใจ แล้วหันไปมองหน้าม่านฟ้าด้วยความไม่เข้าใจ แต่งงานบ้าบออะไร เขาไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย“ก็คุณโรสบอกฉันว่าครอบครัวของพวกคุณ คุยตกลงเรื่องแต่งงานกันแล้วนี่ค่ะ”ม่านฟ้าพูดขึ้นพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นมาติดร่างเปลือยของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ขยับนั่งพิงที่หัวเตียง ก็คุณโรสพูดบอกเธอมาแบบนั้นจริง ๆ นี่นา “ไร้สาระ…ถามจริง ๆ นะม่านฟ้า นี่คุณเชื่อคำพูดที่ออกจากปากของผู้หญิงคนนั้นด้วยเหรอ”พอนาธานได้ยินชื่อของโรสออกจากปากของม่านฟ้า ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเมียของเขา จะต้องถูกผู้หญิงคนนั้น พูดเป่าหูมาอีกคนอย่างแน่นอน“อีกอย่างคุณพูดไว้เองไม่ใช่เหรอคะ ว่ากลับต่างประเทศมีเรื่องจะบอกฉันนะ แล้วมันไม่ใช่เรื่องนี้หรอกเหรอ”ม่านฟ้าเถียงกลับอย่างไม่ยอม ก็คืนนั้นเขาเป็นคนบอกเธอเอง ว่ากลับมาแล้วมีเรื่องจะพูดด้วย ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้แล้วมันจะเป็นเรื่องอะไรไปได้อีกล่ะจริงไหม“บ้าไปแล้ว…นี่คุณเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ยม่านฟ้า”นาธานอย่างจะบ้าตายกับความคิดของเมียตัวเอง นี่เธอเอาเรื่องที่คุณแม่กับโรสพูด มารวมกับเรื่องของเขาได้อย่างไ
ปัง!!เสียงประตูถูกปิดลงพร้อมกับความเงียบที่คืบคลานเข้ามา นาธานม่านฟ้ายืนนิ่งไม่มีใครเอ่ยพูดอะไร ทั้งห้องเงียบสนิทจนแทบได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน นาธานหันหน้ามามองม่านฟ้าด้วยสายตาขุ่นเคือง“เงียบทำไม ตอนนี้ทำเป็นไม่กล้าสู้หน้า…แล้วตอนคิดหนีทำไมไม่คิด”นาธานยืนจ้องมองคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองหน้าตัวเอง เสียงทุ้มเอ่ยพูดว่าคนตรงหน้าออกไปอย่างเหลืออด ตอนที่คิดหนีเขาไม่เห็นกลัว ทีอย่างนี้ทำมาเป็นยืนตัวสั่นกลัวเขานะนาธานเห็นม่านฟ้าเอาแต่เงียบไม่พูดไม่จาตอบโต้ตัวเอง เลยกระชากมือข้างที่จับแขนหญิงสาวเข้าหาตัว จนเธอเซมาซบที่อกหนาของตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ“คุณนาธาน…ฉันเจ็บนะคะ” ม่านฟ้าเงยหน้าพูดต่อว่าคนที่ดึงตัวเธอเข้ามากอดอย่างอดไม่ได้“ไม่ต้องมาทำเป็นบ่น…เจ็บแค่นี้มันเทียบอะไรไม่ได้ กับสิ่งที่คุณทำไว้กับผมเลยด้วยซ้ำ” นาธานพูดว่าคนที่ทำหน้าบูดบึ้งใส่ตัวเองกลับ ทำมาเป็นร้องโวยวายว่าเขา ทั้งที่เธอเป็นคนทำผิดก่อนแท้ ๆ“ว้ายยย!!…คุณนาธานนี่คุณจะทำบ้าอะไร ปล่อยฉันลงนะ คุณนาธาน!”นาธานขี้เกียจต่อปากต่อคำกับม่านฟ้าอีก เขาเลยจัดการอุ้มเธอขึ้นแนบอก แล้วก้าวเดินไปที่เตียง โดยทำเป็นไม่ได้ยินเสี