แกร๊ก!
มือเรียวจัดการประกอบปืนยาวตั้งแต่ปลายลำกล้องจรดพานท้าย เพื่อความแม่นยำเธอเลือกปืนสังหารที่มีซองกระสุนขนาดบรรจุห้านัด น้ำหนักรวมเมื่อติดกล้องเล็งระยะไกลประมาณหกจุดสองกิโลกรัม ระยะยิงหวังผลไกลกว่าแปดร้อยถึงหนึ่งพันเมตรเป็นอย่างต่ำ สายตาของเพชฌฆาตจ้องมองเหยื่อผ่านกล้องส่อง มือเรียวสวยหันเล็งปากกระบอกปืนไปยังศีรษะของเป้าหมาย นิ้วชี้เรียวบรรจงสอดเข้าโกร่งไกอย่างใจเย็น ความเร็วในขณะที่กระสุนพ้นปากลำกล้องคือสองพันสี่ร้อยฟุตต่อวินาที กระสุนจะเจาะเข้าตรงกลางกะโหลกของเหยื่อและจะเสียชีวิตทันที ปังง!! เสียงปืนดังสนั่นซ้อนกันทันทีที่นิ้วเรียวกดลั่นไก รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าสวยหวานขัดกับบุคลิกของสไนเปอร์สาวอย่างสิ้นเชิง เรติกาจัดเก็บอาวุธปืนเข้ากับกระเป๋าสีดำขนาดกลาง มือเรียวดึงแว่นดำกันแดดที่เกยคาดศีรษะมาสวมใส่ ก่อนเดินจากไปท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงกรีดร้องของผู้คนที่ดังอยู่ไกล ๆ จากจุดที่เธอสังหารเหยื่อ “เมื่อเวลา 11:30 น. วันนี้ มือปืนจ่อยิง นายปฐพี เอกอัครกุล ส.ส. พรรครวมใจเพื่อชาติ ด้วยอาวุธปืนขนาด 57 มม. เข้าที่บริเวณโหนกแก้มขวาทะลุโพรงจมูก อาการสาหัส ด้าน พล.ต.อ. เผยว่าขณะนี้ยังอยู่ในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนผู้อยู่เบื้องหลัง ยังมีความเชื่อมั่นว่าทีมตำรวจภาคสองสามารถจับได้แน่ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการเมือง ย้อนไปก่อนหน้านี้ มีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เชื่อมโยงกับการเมืองหลายเหตุการณ์...” “ฝีมือแก?” คาริสาเอียงคอถามคนที่นั่งดูทีวีอย่างสบายใจ มือเรียววางแท็บเล็ตลงบนตัก หลังจากได้อ่านข่าวที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จึงอดที่จะสงสัยเพื่อนรักของเธอไม่ได้ เพราะวันนี้เรติกาหายไปตั้งแต่เวลาช่วงเช้าสายและกลับมายังแชร์เฮาส์ในตอนบ่ายโมง “...” คนโดนถามเหลือบหางตามองมาเพียงนิด เอียงคอยักไหล่ให้ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นไปหยิบเบียร์กระป๋องในตู้เย็นมากระดกลงคอ “ทำท่าแบบนั้นหมายความว่าไงเรย์ อธิบายให้มันเคลียร์” คาริสาเอี้ยวหลังมองตามเพื่อนพลางซักถามไม่หยุด “แล้วทำไมแกจะต้องมาหงุดหงิดใส่ฉันด้วยเนี่ย” เรติกาตอบโต้กลับไปเชิงย้อนถาม หลังจากที่กลืนน้ำสีอำพันลงคอ คงจะรู้สึกสดชื่นกว่านี้ถ้าไม่มีใครมาคอยจับผิด “ก็เหยื่อทุกรายที่แกลงมือ แกจะให้ฉันตรวจสอบข้อมูลของเหยื่อก่อนตัดสินใจรับงานไม่ใช่เหรอ แล้วนี่อะไร?” “คำสั่งบิ๊กบอส” เรติกาตอบเพื่อนรักกลับไปแค่นั้น คาริสาเข้าใจได้ทันทีว่าไม่ควรซักถามอะไรต่อ หากเป็นคำสั่งของบอสใหญ่ ไม่มีสิทธิ์หลีกเลี่ยงได้ และทุกอย่างจะเป็นความลับ “ไปเที่ยวกับฉันไหมเคส” “เที่ยวเหรอ?” คนหน้ามุ่ยเมื่อครู่ตาโตขึ้นมาอย่างดี๊ด๊า เมื่อได้ยินคำชวนจากเพื่อนสาว “โดนไอ้เตสั่งพักงาน ไม่ได้เข้าองค์กรตั้งหลายวัน แกคงเบื่อแย่ ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตากับฉันหน่อยไหม ถ้าไอ้เตมันกล้าโวยวายเดี๋ยวฉันจัดการมันเอง” คาริสาฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี เพื่อนรักรู้ใจเธอที่สุด ณ สกายผับ “พี่เรย์ขา วันนี้ไม่ให้พวกหนูมานั่งเป็นเพื่อนเหรอคะ” “หา?” คาริสาตาเบิกโพลงก่อนจะส่งเสียงอุทานแล้วหันมองหน้าเพื่อน คนข้าง ๆ ก็ได้แต่ยิ้มกริ่มกลับมา “ให้เด็กมันได้มีค่าเทอมไรเงี่ย” เรติกาวางแขนพาดกับพนักเก้าอี้พร้อมเอียงคอไปกระซิบกระซาบที่ข้างหูของเพื่อน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาพูดตอบโต้กับเด็กสาวทั้งสอง “พี่มีคนนั่งด้วยแล้วจ้ะ ไว้วันหลังนะ” “พี่คนนี้เป็นแฟนพี่เรย์เหรอคะ” “หือ?” คาริสาอุทานอีกครั้งพร้อมใช้สายตามองเด็กรุ่นน้องจากมหาลัยเดียวกับที่เธอเรียน ก่อนจะคลี่ยิ้มเจื่อน ๆ ออกมา “คนนี้เพื่อนพี่เองจ้ะ ชื่อพี่เคส” เด็กรุ่นน้องสองคนก้มหน้าทักทายคาริสา แล้วหันมากล่าวลาเรติกาก่อนจะพากันเดินจากไป “อะไรยังไง?” คาริสาเอียงคอถามเพื่อนสาวสุดห้าวหาญ “บางวันนั่งคนเดียวมันก็เหงา เลยให้ทางร้านจัดหาเด็กมานั่งเป็นเพื่อนเฉย ๆ” เรติกาพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบน้ำสีอำพันมากระดกลงคอกลบเกลื่อน ขณะที่อีกฝ่ายมองเธออย่างจับผิด “อะไร ๆ ทำบ้าอะไรของแกหา!” คาริสาโวยวายเมื่อเพื่อนรักถือวิสาสะสัมผัสท่อนขาอ่อน จากท่านั่งไขว่ห้างเชิ่ด ๆ ถูกดันให้อยู่ในท่านั่งที่สุภาพขึ้น “ไอ้พวกหื่นมันมองขาอ่อนแก ไม่ชอบ!” คาริสาถอนหายใจพรืดใหญ่ ที่เธอใส่เกาะอกรัดรูปสีแดงแน่นเปรี๊ยะมาขนาดนี้ ก็กะจะมาอวดเรือนร่างสักหน่อย คนมันมีของดี ใครจะอยากเหมือนเรติกาที่วัน ๆ ใส่แต่เสื้อยืดกับเสื้อแจ็คเก็ต แล้วก็กางเกงขาเดฟรัดรูปนั่นอีก โหย ใครมองมานะ เป็นต้องคิดว่าพวกเธอคือคู่เลสเบียนแหง่ ๆ “ไปเต้นกัน” เสียงเพลงภายในผับดังขึ้นต่อเนื่องอย่างครึกครื้นจนกลบทุกเสียงร้องโห่และเสียงพูดคุย คาริสาจึงต้องตะโกนชวนเพื่อนรักให้ออกไปวาดลวดลายท่าเต้น “ไม่ไป!” นอกจากจะปฏิเสธไม่ไปเต้นแล้ว เรติกายังถอดเสื้อแจ็คเก็ตสีดำของเธอโยนให้เพื่อนรัก พรึ่บ! “เอาไปพันไว้รอบเอว แล้วอย่าอยู่ห่างจากสายตาของฉัน” “เป็นเพื่อนหรือผัวฮะ ไม่ทำตามเว้ย” พรึ่บ! คาริสาโยนเสื้อแจ็คเก็ตคืนกลับไป กระทบเข้ากลางใบหน้าของเรติกาอย่างเหมาะเจาะ ก่อนจะสะบัดก้นกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเพลง ท่ามกลางผู้คนนับร้อยที่ต่างก็ออกแบบลวดลายท่าเต้นแข่งกันอย่างครึกครื้น ครืด! ครืด! โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่นเครือได้ไม่นาน เรติกาก็ขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นตัวเลขที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ “เบอร์ใครวะ” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนกดรับสาย แต่เสียงเพลงในผับดังมากจนไม่สามารถได้ยินเสียงจากปลายสาย เรติกาละสายตาจากเพื่อนรักที่กำลังโยกสะโพกส่ายไปมาเข้ากับจังหวะเพลง ก่อนจะตัดสินใจเดินไปยังห้องน้ำ “ใครมันมาโทรกวนเนี่ย” เรติกาบ่นหลังกดวางสายจากเบอร์แปลก เพียงไม่นานสายนั้นก็โทรมาอีกครั้ง ครืด! ครืด! ‘ฮึฮึ’ เธอยังไม่ได้พูดอะไรก็ได้ยินเสียงเค้นหัวเราะอย่างเย้ยหยันดังออกมาจากปลายสาย “เหี้ยอะไรวะ มึงเป็นใคร?” เรติกาสบถถ้อยคำหยาบคายออกมาอย่างลืมตัว ก่อนจะหัวเสียหนักกว่าเดิมเมื่อโดนปลายสายตัดทิ้งไป เธอพยายามติดต่อกลับไปหวังจะด่ามันให้สาแก่ใจ แต่กลับไม่มีใครกดรับสายเลย “ไอ้เวรเอ๊ย!”ขาเรียวยาวก้าวลงจากรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ นอกจากแชร์เฮาส์ที่อยู่ร่วมกับเพื่อนอีกสองคนแล้ว เรติกายังมีคอนโดส่วนตัว เผื่อวันไหนอยากชวนสาว ๆ ขึ้นห้อง จะได้ไม่ต้องมีกางขวางคอ ทว่าวันนี้เรติกาเพียงแค่อยากปลีกวิเวกอยู่คนเดียวตามลำพัง เนื่องจากมีหลายอย่างให้เธอต้องใช้ความคิด ถึงแม้ว่าอยู่กับเพื่อนอาจได้คำปรึกษาและคำแนะนําที่ดีกว่า แต่ครั้งนี้เธออยากคิดทบทวนกับตัวเองเงียบ ๆเรติกาครุ่นคิดบางอย่างในหัวขณะที่ค่อย ๆ ชะลอฝีเท้าให้ช้าลง เธอชำเลืองหางตามองเพียงนิด ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในลิฟต์โดยมีชายฉกรรจ์สองคนเดินเข้ามาด้วย มือเรียวกดปุ่มไปยังชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียม ผัวะ! ฮัก! พลั่ก!! ตุบ! ฮัก! ผัวะ!!ทั้งหมัดทั้งศอกถูกประเคนใส่ชายฉกรรจ์ทั้งสองไม่ยั้งทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดสนิท แม้จะร่างกายเธอจะตัวเล็กกว่า แต่ด้วยเธอฝึกฝนทักษะการต่อสู้ตั้งแต่เด็กมาอย่างชำนาญ ทำให้มีแรงมือแรงเท้าหนักพอที่จะทำชายฉกรรจ์ทั้งสองร่วงลงไปกองกับพื้น ผนวกกับความคล่องแคล่วว่องไวและตัดสินใจรวดเร็วจึงทำให้เธอได้เปรียบแตร๊น!!!ชายฉกรรจ์คนหนึ่งสั่นกระตุกอย่างแรงเมื่อถูกเล่นงานด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้าที่เธอพกติดมากับกระเป๋าสะ
เฮือก!เสียงหายใจดังเฮือกราวกับก่อนหน้านั้นเธอขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะ อุณหภูมิเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศปลุกให้เรติกาตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา ถึงอย่างนั้นเธอก็พบพานแต่ความมืดมิด เมื่อดวงตาถูกปิดสนิดด้วยผ้าสีดำอึดอัด! เหมือนมีปลอกคอเย็นเฉียบแนบอยู่รอบลำคอ และโซ่ตรวนพาดอยู่บนเนินอกเปลือยเปล่าของเธอ แผ่นหลังเปิดเปลือยแนบสัมผัสกับเบาะหนังเทียม ข้อมือทั้งสองถูกล็อกเข้ากับเตียงโครงเหล็กเงียบ! จนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง เสียงของเหล็กกระทบกันดังก้องแม้เธอจะขยับตัวเพียงเล็กน้อย หน้าอกใหญ่เกินขนาดกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ ความมืดมิดทำให้คนที่ไม่เคยกลัวอะไรอย่างเธอเริ่มหวาดหวั่น“หึ” ปีแสงแค่นเสียงหัวเราะออกมา เมื่อเห็นว่าเรติการู้สึกตัวแล้ว หลังจากที่หลับใหลด้วยฤทธิ์ยามานานถึงสามวัน นับตั้งแต่ที่เขาได้ตัวเธอมาอยู่ในเงื้อมมือ รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏอยู่บนใบหน้าคมคาย รู้สึกพึงพอใจกับสภาพที่น่าเวทนาของคนตรงหน้า เธอไม่รู้หรอกว่าเขาทำอะไรกับเธอไว้แล้วบ้าง และเธอกำลังจะได้รู้หลังจากนี้เอี๊ยด!ปีแสงลากชั้นสเตนเลสที่บรรจุเครื่องมือแพทย์มากชิ้นมาไว้ข้าง ๆ ร่างเปลือย“ทะ...ทำอะไร! จะทำอะไรฉัน” เสียงแห
“ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต อย่าคิดว่าฉันจะยอมให้เธอตายง่าย ๆ โดยที่ยังไม่ได้ชดใช้ในสิ่งที่ฉันสูญเสีย อยู่รับกรรมของเธอก่อนนะ ฉันสัญญาว่าจะทำให้เธอเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส” ปีแสงจับยกเรียวขาของนักฆ่าสาวออกจากเหล็กวางขาทั้งสองข้าง ก่อนจะจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ส่วนล่างของตนเอง มือหนางัดท่อนเอ็นลำใหญ่หยาบออกมาชักรูดเบา ๆ สองสามครั้ง“อ๊ะส์ ปะ...ปล่อยฉันนะ” เรติกาอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อมือหนาจับแยกเรียวขาออกจากกัน แล้วบดเบียดแทรกกายตัวเองเข้าไปแทนที่ ยิ่งออกแรงดิ้นก็ยิ่งเจ็บจี๊ดขึ้นสมอง เธอต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดหลากหลายรูปแบบที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกันปึก!! “อื้อ!” ความเจ็บปวดแล่นพล่านทั่วร่าง เมื่อคนด้านบนอัดกระแทกแก่นกายลำใหญ่เข้ามาในช่องทางรักฝืดเคืองที่ไม่มีน้ำหล่อลื่นช่วยเบิกทาง ความคับแน่นของร่องสวาททำให้ท่อนเอ็นใหญ่โตสอดใส่เข้ามาได้แค่เพียงหัวของมันปึก!!!“อร้ายยยยย!” เรติกาเปล่งเสียงกรีดร้องดังลั่นในนาทีต่อมาอย่างเจ็บปวดทรมาน เมื่อโดนอัดกระแทกแก่นกายใหญ่ส่วนที่เหลือเข้ามาในร่องสวาทอย่างป่าเถื่อน ส่งผลให้ช่องทางรักฉีกขาดเป็นทางยาว หยดเลือดไหลเปรอะเปื้อนเบาะที่ห่อหุ้มด้วยหนังเทียม เยื่
ปีแสงปลดปล่อยน้ำคาวสีขาวขุ่นที่ปะปนด้วยเลือดบริสุทธิ์เข้าใส่ร่องสวาทสาวทุกหยาดหยด มือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นมาเสยผมที่ชุ่มด้วยเหงื่อลวก ๆ“หึ” ชายหนุ่มเค้นเสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจที่ได้เห็นหยดเลือดไหลเปรอะอยู่ตรงกลางหว่างขาของเรติกา หลังจากที่ท่อนเอ็นใหญ่หลุดออกมาจากช่องทางรักของเธอเขาใช้ปลายนิ้วตวัดเช็ดคราบเลือดที่ติดท่อนเอ็นของตัวเอง ยื่นมือเข้าไปใกล้ปากอวบอิ่มของคนใต้ร่าง หวังจะดันนิ้วที่เปื้อนเลือดเข้าไปในโพรงปากเล็ก“อื้อ” เรติกาตอบสนองด้วยการเบือนหน้าหนี เมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาสัมผัสโดนริมฝีปากของเธอ กลิ่นคาวเลือดที่โชยมาติดจมูกทำเอาเธอคลื่นไส้จนแทบจะอาเจียนออกมา“รังเกียจเหรอ”“ไอ้ชั่ว! มึงมันไม่ใช่คน โอ๊ยยย!” เรติกาส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมาอย่างลืมตัว เมื่อโดนเขาดึงกระชากโซ่ตรวนที่พันธนาการร่างเปลือยเปล่าของเธอเอาไว้ มันทำให้ตัวหญิงสาวดีดเด้งขึ้นตามแรงกระชากอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้อยคำหยาบคายของเธอทำให้คนที่ใจเย็นอย่างปีแสงหงุดหงิดอารมณ์ร้อนได้อย่างง่ายดาย เขาแสดงท่าทางเกรี้ยวกราดออกมาอย่างโทสะ“ถ้าไม่อยากเป็นใบ้ก่อนตายก็ช่วยพูดจาให้น่าฟังกว่านี้หน่อย เธอเองก็ไม่ได้ต่างจากคำว่าช
สองสัปดาห์ต่อมา‘สงสัยลอบยิง นายปฐพี เอกอัครกุล ส.ส. พรรครวมใจเพื่อชาติ’ ‘มือปืนจ่อยิงหัว ส.ส. ปฐพี เอกอัครกุล หัวคะแนน พรรครวมใจเพื่อชาติ หวิดดับ’ ข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดกับเหล่านักการเมืองขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวัน และปรากฏบนสื่อออนไลน์ของโลกโซเชียลอยู่ตลอด มันรู้สึกบั่นทอนจิตใจทุกครั้งที่เห็น เมื่อสายตาไม่อาจมองข้ามข้อความใหญ่ ๆ บนพาดหัวข่าว หลังจากที่พ่อของเขาตัดสินใจลงเล่นการเมือง ไม่มีวันไหนที่ชีวิตของพ่อจะไม่เสี่ยง ปีแสงลูบหน้าตัวเองเบา ๆ อย่างรู้สึกผิด แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขากับพ่อจะไม่ค่อยลงรอยกันนัก เขาไม่เคยเห็นด้วยเลยที่พ่อจะมาเอาดีด้านนี้เรติกา! มันน่าตลกสิ้นดีที่เป็นเธอ~เธอโหดเหี้ยมและเลือดเย็น ในขณะที่ใครคนหนึ่งนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้คนมากมาย แต่ใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มปีแสงหยิบรูปภาพของหญิงสาวขึ้นมามองดู ก่อนจะเก็บมันลงกล่องไม้แล้วปิดฝากล่องอย่างแรง ดวงตาของเขาร้อนระอุ สีหน้าเต็มไปด้วยความแค้นอย่างปิดไม่มิดไม่ผิดคนแน่! เขาเห็นมากับตาว่าเธอคือคนลงมือทำ และตอนนี้เธอก็กำลังชดใช้กรรมให้กับพ่อของเขาอยู่“หึ”ยังหรอก พ
“อื้อ~” เรติการู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงใกล้จะเที่ยงของอีกวัน เธอส่งเสียงครางกระเส่าในลำคอเบา ๆ ทักทายแสงสว่างจ้าที่ตกกระทบม่านตาหลังจากที่เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกเหมือนเดิม! ความคิดเธอผุดขึ้นมาเมื่อดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ปรับโฟกัสให้เห็นเพดานสีขาวที่อยู่เหนือศีรษะ ซึ่งตอนนี้เธอเริ่มคุ้นเคยกับการตื่นขึ้นมาแล้วเห็นมันเป็นสิ่งแรก ห้องคับแคบที่ไม่ต่างจากห้องขังของนักโทษกลายเป็นสถานที่คุ้นตา กุญแจข้อมือกับโซ่ตรวนขนาดใหญ่ที่พันธนาการข้อมือและข้อเท้าของเธอ ในตอนนี้ก็ใกล้จะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเธอไปทุกทีหญิงสาวหลับตาลงท่ามกลางความเงียบและไอความเย็นของเครื่องปรับอากาศ พลางกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทั่วเรือนร่างเพียงแค่เผลอขยับตัวเล็กน้อย นานเป็นเวลาเดือนกว่าแล้วที่เธอต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดทรมานอันไม่คุ้นชิน ร่องรอยการถูกทารุณยังมีให้เห็นอยู่เป็นประจำหลังผ่านพ้นคืนแห่งนรกทุก ๆ คืน และเธอก็ต้องตื่นมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่แสนตลกร้ายในช่วงใกล้จะเที่ยงของทุกวันคนที่คอยมาดูแลเรื่องอาหารการกินกับเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ในแต่ละวันต่างก็กลัวเธอกันจนหัวหด ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวหรืออยากจะเสวน
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!สองมือเรียวถูกมัดรวบตรึงเข้ากับหัวเตียง ดวงตาถูกปิดสนิทด้วยผ้าสีดำ ร่างกายทุกส่วนช่างว่องไวต่อการสัมผัส ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะใจกลางความสาว แม้จะพยายามดิ้นรนและต่อต้านให้หลุดพ้น แต่เรี่ยวแรงของเธอก็ยังสู้อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดีค่ำคืนนี้เป็นนรกอีกคืนสำหรับเธอ นานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เธอต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เธอทุกข์ทรมานราวกับตายทั้งเป็นไอ้ปีศาจนรก~เธอเรียกขานมันอย่างนั้น แม้จะไม่เคยเห็นหน้ามันเลยก็ตาม ถึงขนาดควบคุมเธอได้ มันก็ต้องโหดเหี้ยมและเลือดเย็นยิ่งกว่าเธอ“ฮึฮึ” เกลียด! เธอเกลียดเสียงหัวเราะเย้ยหยันนั่นที่สุด“ร่างกายทนทานต่อแรงกระแทกขนาดนี้ เหมาะสมที่จะมาเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้ลูกของฉัน ถึงมันจะโสโครกไปหน่อยก็เถอะ” ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!ทำไมเธอถึงได้ตกอยู่ในสภาพนี้น่ะเหรอ?เพราะหนึ่งในเหยื่อของเธอคือพ่อของเขาเขากล่าวหาเธออย่างนั้นตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับตัวมา จะให้ปฏิเสธอย่างไรเล่า เพราะเธอคือมือปืนที่ปลิดชีวิตผู้คนมาแล้วนับร้อย แม้จะมีเหตุผลว่าคนที่เธอสังหารทุกคนอยู่ไปก็รกโลก สุดท้ายมันก็ผิดอยู่ดีชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต
“อื้อ~” เรติการู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงใกล้จะเที่ยงของอีกวัน เธอส่งเสียงครางกระเส่าในลำคอเบา ๆ ทักทายแสงสว่างจ้าที่ตกกระทบม่านตาหลังจากที่เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกเหมือนเดิม! ความคิดเธอผุดขึ้นมาเมื่อดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ปรับโฟกัสให้เห็นเพดานสีขาวที่อยู่เหนือศีรษะ ซึ่งตอนนี้เธอเริ่มคุ้นเคยกับการตื่นขึ้นมาแล้วเห็นมันเป็นสิ่งแรก ห้องคับแคบที่ไม่ต่างจากห้องขังของนักโทษกลายเป็นสถานที่คุ้นตา กุญแจข้อมือกับโซ่ตรวนขนาดใหญ่ที่พันธนาการข้อมือและข้อเท้าของเธอ ในตอนนี้ก็ใกล้จะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเธอไปทุกทีหญิงสาวหลับตาลงท่ามกลางความเงียบและไอความเย็นของเครื่องปรับอากาศ พลางกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทั่วเรือนร่างเพียงแค่เผลอขยับตัวเล็กน้อย นานเป็นเวลาเดือนกว่าแล้วที่เธอต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดทรมานอันไม่คุ้นชิน ร่องรอยการถูกทารุณยังมีให้เห็นอยู่เป็นประจำหลังผ่านพ้นคืนแห่งนรกทุก ๆ คืน และเธอก็ต้องตื่นมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่แสนตลกร้ายในช่วงใกล้จะเที่ยงของทุกวันคนที่คอยมาดูแลเรื่องอาหารการกินกับเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ในแต่ละวันต่างก็กลัวเธอกันจนหัวหด ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวหรืออยากจะเสวน
สองสัปดาห์ต่อมา‘สงสัยลอบยิง นายปฐพี เอกอัครกุล ส.ส. พรรครวมใจเพื่อชาติ’ ‘มือปืนจ่อยิงหัว ส.ส. ปฐพี เอกอัครกุล หัวคะแนน พรรครวมใจเพื่อชาติ หวิดดับ’ ข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดกับเหล่านักการเมืองขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวัน และปรากฏบนสื่อออนไลน์ของโลกโซเชียลอยู่ตลอด มันรู้สึกบั่นทอนจิตใจทุกครั้งที่เห็น เมื่อสายตาไม่อาจมองข้ามข้อความใหญ่ ๆ บนพาดหัวข่าว หลังจากที่พ่อของเขาตัดสินใจลงเล่นการเมือง ไม่มีวันไหนที่ชีวิตของพ่อจะไม่เสี่ยง ปีแสงลูบหน้าตัวเองเบา ๆ อย่างรู้สึกผิด แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขากับพ่อจะไม่ค่อยลงรอยกันนัก เขาไม่เคยเห็นด้วยเลยที่พ่อจะมาเอาดีด้านนี้เรติกา! มันน่าตลกสิ้นดีที่เป็นเธอ~เธอโหดเหี้ยมและเลือดเย็น ในขณะที่ใครคนหนึ่งนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้คนมากมาย แต่ใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มปีแสงหยิบรูปภาพของหญิงสาวขึ้นมามองดู ก่อนจะเก็บมันลงกล่องไม้แล้วปิดฝากล่องอย่างแรง ดวงตาของเขาร้อนระอุ สีหน้าเต็มไปด้วยความแค้นอย่างปิดไม่มิดไม่ผิดคนแน่! เขาเห็นมากับตาว่าเธอคือคนลงมือทำ และตอนนี้เธอก็กำลังชดใช้กรรมให้กับพ่อของเขาอยู่“หึ”ยังหรอก พ
ปีแสงปลดปล่อยน้ำคาวสีขาวขุ่นที่ปะปนด้วยเลือดบริสุทธิ์เข้าใส่ร่องสวาทสาวทุกหยาดหยด มือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นมาเสยผมที่ชุ่มด้วยเหงื่อลวก ๆ“หึ” ชายหนุ่มเค้นเสียงหัวเราะอย่างพึงพอใจที่ได้เห็นหยดเลือดไหลเปรอะอยู่ตรงกลางหว่างขาของเรติกา หลังจากที่ท่อนเอ็นใหญ่หลุดออกมาจากช่องทางรักของเธอเขาใช้ปลายนิ้วตวัดเช็ดคราบเลือดที่ติดท่อนเอ็นของตัวเอง ยื่นมือเข้าไปใกล้ปากอวบอิ่มของคนใต้ร่าง หวังจะดันนิ้วที่เปื้อนเลือดเข้าไปในโพรงปากเล็ก“อื้อ” เรติกาตอบสนองด้วยการเบือนหน้าหนี เมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาสัมผัสโดนริมฝีปากของเธอ กลิ่นคาวเลือดที่โชยมาติดจมูกทำเอาเธอคลื่นไส้จนแทบจะอาเจียนออกมา“รังเกียจเหรอ”“ไอ้ชั่ว! มึงมันไม่ใช่คน โอ๊ยยย!” เรติกาส่งเสียงร้องเจ็บปวดออกมาอย่างลืมตัว เมื่อโดนเขาดึงกระชากโซ่ตรวนที่พันธนาการร่างเปลือยเปล่าของเธอเอาไว้ มันทำให้ตัวหญิงสาวดีดเด้งขึ้นตามแรงกระชากอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้อยคำหยาบคายของเธอทำให้คนที่ใจเย็นอย่างปีแสงหงุดหงิดอารมณ์ร้อนได้อย่างง่ายดาย เขาแสดงท่าทางเกรี้ยวกราดออกมาอย่างโทสะ“ถ้าไม่อยากเป็นใบ้ก่อนตายก็ช่วยพูดจาให้น่าฟังกว่านี้หน่อย เธอเองก็ไม่ได้ต่างจากคำว่าช
“ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต อย่าคิดว่าฉันจะยอมให้เธอตายง่าย ๆ โดยที่ยังไม่ได้ชดใช้ในสิ่งที่ฉันสูญเสีย อยู่รับกรรมของเธอก่อนนะ ฉันสัญญาว่าจะทำให้เธอเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส” ปีแสงจับยกเรียวขาของนักฆ่าสาวออกจากเหล็กวางขาทั้งสองข้าง ก่อนจะจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ส่วนล่างของตนเอง มือหนางัดท่อนเอ็นลำใหญ่หยาบออกมาชักรูดเบา ๆ สองสามครั้ง“อ๊ะส์ ปะ...ปล่อยฉันนะ” เรติกาอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อมือหนาจับแยกเรียวขาออกจากกัน แล้วบดเบียดแทรกกายตัวเองเข้าไปแทนที่ ยิ่งออกแรงดิ้นก็ยิ่งเจ็บจี๊ดขึ้นสมอง เธอต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดหลากหลายรูปแบบที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกันปึก!! “อื้อ!” ความเจ็บปวดแล่นพล่านทั่วร่าง เมื่อคนด้านบนอัดกระแทกแก่นกายลำใหญ่เข้ามาในช่องทางรักฝืดเคืองที่ไม่มีน้ำหล่อลื่นช่วยเบิกทาง ความคับแน่นของร่องสวาททำให้ท่อนเอ็นใหญ่โตสอดใส่เข้ามาได้แค่เพียงหัวของมันปึก!!!“อร้ายยยยย!” เรติกาเปล่งเสียงกรีดร้องดังลั่นในนาทีต่อมาอย่างเจ็บปวดทรมาน เมื่อโดนอัดกระแทกแก่นกายใหญ่ส่วนที่เหลือเข้ามาในร่องสวาทอย่างป่าเถื่อน ส่งผลให้ช่องทางรักฉีกขาดเป็นทางยาว หยดเลือดไหลเปรอะเปื้อนเบาะที่ห่อหุ้มด้วยหนังเทียม เยื่
เฮือก!เสียงหายใจดังเฮือกราวกับก่อนหน้านั้นเธอขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะ อุณหภูมิเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศปลุกให้เรติกาตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา ถึงอย่างนั้นเธอก็พบพานแต่ความมืดมิด เมื่อดวงตาถูกปิดสนิดด้วยผ้าสีดำอึดอัด! เหมือนมีปลอกคอเย็นเฉียบแนบอยู่รอบลำคอ และโซ่ตรวนพาดอยู่บนเนินอกเปลือยเปล่าของเธอ แผ่นหลังเปิดเปลือยแนบสัมผัสกับเบาะหนังเทียม ข้อมือทั้งสองถูกล็อกเข้ากับเตียงโครงเหล็กเงียบ! จนได้ยินเสียงหายใจของตัวเอง เสียงของเหล็กกระทบกันดังก้องแม้เธอจะขยับตัวเพียงเล็กน้อย หน้าอกใหญ่เกินขนาดกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ ความมืดมิดทำให้คนที่ไม่เคยกลัวอะไรอย่างเธอเริ่มหวาดหวั่น“หึ” ปีแสงแค่นเสียงหัวเราะออกมา เมื่อเห็นว่าเรติการู้สึกตัวแล้ว หลังจากที่หลับใหลด้วยฤทธิ์ยามานานถึงสามวัน นับตั้งแต่ที่เขาได้ตัวเธอมาอยู่ในเงื้อมมือ รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏอยู่บนใบหน้าคมคาย รู้สึกพึงพอใจกับสภาพที่น่าเวทนาของคนตรงหน้า เธอไม่รู้หรอกว่าเขาทำอะไรกับเธอไว้แล้วบ้าง และเธอกำลังจะได้รู้หลังจากนี้เอี๊ยด!ปีแสงลากชั้นสเตนเลสที่บรรจุเครื่องมือแพทย์มากชิ้นมาไว้ข้าง ๆ ร่างเปลือย“ทะ...ทำอะไร! จะทำอะไรฉัน” เสียงแห
ขาเรียวยาวก้าวลงจากรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ นอกจากแชร์เฮาส์ที่อยู่ร่วมกับเพื่อนอีกสองคนแล้ว เรติกายังมีคอนโดส่วนตัว เผื่อวันไหนอยากชวนสาว ๆ ขึ้นห้อง จะได้ไม่ต้องมีกางขวางคอ ทว่าวันนี้เรติกาเพียงแค่อยากปลีกวิเวกอยู่คนเดียวตามลำพัง เนื่องจากมีหลายอย่างให้เธอต้องใช้ความคิด ถึงแม้ว่าอยู่กับเพื่อนอาจได้คำปรึกษาและคำแนะนําที่ดีกว่า แต่ครั้งนี้เธออยากคิดทบทวนกับตัวเองเงียบ ๆเรติกาครุ่นคิดบางอย่างในหัวขณะที่ค่อย ๆ ชะลอฝีเท้าให้ช้าลง เธอชำเลืองหางตามองเพียงนิด ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในลิฟต์โดยมีชายฉกรรจ์สองคนเดินเข้ามาด้วย มือเรียวกดปุ่มไปยังชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียม ผัวะ! ฮัก! พลั่ก!! ตุบ! ฮัก! ผัวะ!!ทั้งหมัดทั้งศอกถูกประเคนใส่ชายฉกรรจ์ทั้งสองไม่ยั้งทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดสนิท แม้จะร่างกายเธอจะตัวเล็กกว่า แต่ด้วยเธอฝึกฝนทักษะการต่อสู้ตั้งแต่เด็กมาอย่างชำนาญ ทำให้มีแรงมือแรงเท้าหนักพอที่จะทำชายฉกรรจ์ทั้งสองร่วงลงไปกองกับพื้น ผนวกกับความคล่องแคล่วว่องไวและตัดสินใจรวดเร็วจึงทำให้เธอได้เปรียบแตร๊น!!!ชายฉกรรจ์คนหนึ่งสั่นกระตุกอย่างแรงเมื่อถูกเล่นงานด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้าที่เธอพกติดมากับกระเป๋าสะ
แกร๊ก!มือเรียวจัดการประกอบปืนยาวตั้งแต่ปลายลำกล้องจรดพานท้าย เพื่อความแม่นยำเธอเลือกปืนสังหารที่มีซองกระสุนขนาดบรรจุห้านัด น้ำหนักรวมเมื่อติดกล้องเล็งระยะไกลประมาณหกจุดสองกิโลกรัม ระยะยิงหวังผลไกลกว่าแปดร้อยถึงหนึ่งพันเมตรเป็นอย่างต่ำสายตาของเพชฌฆาตจ้องมองเหยื่อผ่านกล้องส่อง มือเรียวสวยหันเล็งปากกระบอกปืนไปยังศีรษะของเป้าหมาย นิ้วชี้เรียวบรรจงสอดเข้าโกร่งไกอย่างใจเย็น ความเร็วในขณะที่กระสุนพ้นปากลำกล้องคือสองพันสี่ร้อยฟุตต่อวินาที กระสุนจะเจาะเข้าตรงกลางกะโหลกของเหยื่อและจะเสียชีวิตทันทีปังง!!เสียงปืนดังสนั่นซ้อนกันทันทีที่นิ้วเรียวกดลั่นไก รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าสวยหวานขัดกับบุคลิกของสไนเปอร์สาวอย่างสิ้นเชิง เรติกาจัดเก็บอาวุธปืนเข้ากับกระเป๋าสีดำขนาดกลาง มือเรียวดึงแว่นดำกันแดดที่เกยคาดศีรษะมาสวมใส่ ก่อนเดินจากไปท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงกรีดร้องของผู้คนที่ดังอยู่ไกล ๆ จากจุดที่เธอสังหารเหยื่อ“เมื่อเวลา 11:30 น. วันนี้ มือปืนจ่อยิง นายปฐพี เอกอัครกุล ส.ส. พรรครวมใจเพื่อชาติ ด้วยอาวุธปืนขนาด 57 มม. เข้าที่บริเวณโหนกแก้มขวาทะลุโพรงจมูก อาการสาหัสด้าน พล.ต.อ. เผยว่าขณะนี้ยัง
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!สองมือเรียวถูกมัดรวบตรึงเข้ากับหัวเตียง ดวงตาถูกปิดสนิทด้วยผ้าสีดำ ร่างกายทุกส่วนช่างว่องไวต่อการสัมผัส ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะใจกลางความสาว แม้จะพยายามดิ้นรนและต่อต้านให้หลุดพ้น แต่เรี่ยวแรงของเธอก็ยังสู้อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดีค่ำคืนนี้เป็นนรกอีกคืนสำหรับเธอ นานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เธอต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เธอทุกข์ทรมานราวกับตายทั้งเป็นไอ้ปีศาจนรก~เธอเรียกขานมันอย่างนั้น แม้จะไม่เคยเห็นหน้ามันเลยก็ตาม ถึงขนาดควบคุมเธอได้ มันก็ต้องโหดเหี้ยมและเลือดเย็นยิ่งกว่าเธอ“ฮึฮึ” เกลียด! เธอเกลียดเสียงหัวเราะเย้ยหยันนั่นที่สุด“ร่างกายทนทานต่อแรงกระแทกขนาดนี้ เหมาะสมที่จะมาเป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้ลูกของฉัน ถึงมันจะโสโครกไปหน่อยก็เถอะ” ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!ทำไมเธอถึงได้ตกอยู่ในสภาพนี้น่ะเหรอ?เพราะหนึ่งในเหยื่อของเธอคือพ่อของเขาเขากล่าวหาเธออย่างนั้นตั้งแต่วันแรกที่ถูกจับตัวมา จะให้ปฏิเสธอย่างไรเล่า เพราะเธอคือมือปืนที่ปลิดชีวิตผู้คนมาแล้วนับร้อย แม้จะมีเหตุผลว่าคนที่เธอสังหารทุกคนอยู่ไปก็รกโลก สุดท้ายมันก็ผิดอยู่ดีชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต