หน้าหลัก / มาเฟีย / เมียปีศาจ / บทที่ 7 เกรี้ยวกราด!

แชร์

บทที่ 7 เกรี้ยวกราด!

ผู้เขียน: สกายควีน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-22 03:12:08

สองสัปดาห์ต่อมา

‘สงสัยลอบยิง นายปฐพี เอกอัครกุล ส.ส. พรรครวมใจเพื่อชาติ’

‘มือปืนจ่อยิงหัว ส.ส. ปฐพี เอกอัครกุล หัวคะแนน พรรครวมใจเพื่อชาติ หวิดดับ’

ข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดกับเหล่านักการเมืองขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์รายวัน และปรากฏบนสื่อออนไลน์ของโลกโซเชียลอยู่ตลอด มันรู้สึกบั่นทอนจิตใจทุกครั้งที่เห็น เมื่อสายตาไม่อาจมองข้ามข้อความใหญ่ ๆ บนพาดหัวข่าว หลังจากที่พ่อของเขาตัดสินใจลงเล่นการเมือง ไม่มีวันไหนที่ชีวิตของพ่อจะไม่เสี่ยง ปีแสงลูบหน้าตัวเองเบา ๆ อย่างรู้สึกผิด แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขากับพ่อจะไม่ค่อยลงรอยกันนัก เขาไม่เคยเห็นด้วยเลยที่พ่อจะมาเอาดีด้านนี้

เรติกา! มันน่าตลกสิ้นดีที่เป็นเธอ~

เธอโหดเหี้ยมและเลือดเย็น ในขณะที่ใครคนหนึ่งนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้คนมากมาย แต่ใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ปีแสงหยิบรูปภาพของหญิงสาวขึ้นมามองดู ก่อนจะเก็บมันลงกล่องไม้แล้วปิดฝากล่องอย่างแรง ดวงตาของเขาร้อนระอุ สีหน้าเต็มไปด้วยความแค้นอย่างปิดไม่มิด

ไม่ผิดคนแน่! เขาเห็นมากับตาว่าเธอคือคนลงมือทำ และตอนนี้เธอก็กำลังชดใช้กรรมให้กับพ่อของเขาอยู่

“หึ”

ยังหรอก พ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมียปีศาจ   บทที่ 8 กำเนิดลูกปีศาจ

    “อื้อ~” เรติการู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงใกล้จะเที่ยงของอีกวัน เธอส่งเสียงครางกระเส่าในลำคอเบา ๆ ทักทายแสงสว่างจ้า​ที่ตกกระทบม่านตาหลังจากที่เปลือกตาค่อย ๆ เปิดออกเหมือนเดิม! ความคิดเธอผุดขึ้นมา​เมื่อดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ปรับโฟกัสให้เห็นเพดานสีขาวที่อยู่เหนือศีรษะ ซึ่งตอนนี้เธอเริ่มคุ้นเคยกับการตื่นขึ้นมาแล้วเห็นมันเป็นสิ่งแรก ห้องคับแคบที่ไม่ต่างจากห้องขังของนักโทษกลายเป็นสถานที่คุ้นตา กุญแจข้อมือกับโซ่ตรวนขนาดใหญ่ที่พันธนาการข้อมือและข้อเท้าของเธอ ในตอนนี้ก็ใกล้จะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเธอไปทุกทีหญิงสาวหลับตาลงท่ามกลางความเงียบและไอความเย็นของเครื่องปรับอากาศ พลางกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่แล่นพล่านไปทั่วเรือนร่างเพียงแค่เผลอขยับตัวเล็กน้อย นานเป็นเวลาเดือนกว่าแล้วที่เธอต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดทรมานอันไม่คุ้นชิน ร่องรอยการถูกทารุณยังมีให้เห็นอยู่เป็นประจำหลังผ่านพ้นคืนแห่งนรกทุก ๆ คืน และเธอก็ต้องตื่นมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่แสนตลกร้ายในช่วงใกล้จะเที่ยงของทุกวันคนที่คอยมาดูแลเรื่องอาหารการกินกับเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ในแต่ละวันต่างก็กลัวเธอกันจนหัวหด​ ไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวหรืออยากจะเสวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • เมียปีศาจ   บทที่ 9 พันธะปีศาจ

    “ฉันจะต่อแขนต่อขาให้ลูกของฉัน” ปีแสงพูดหลังจากที่ปลดเข็มขัดหนังราคาแพงมาตรึงข้อมืออีกข้างของเธอเข้ากับหัวเตียงอีกฟาก สีหน้าของเรติกามองการกระทำของชายหนุ่มอย่างเคียดแค้น เธอไม่เคยเอาชนะเขาได้เลยสักครั้ง“อ๊ะ!” เรติการ้องอุทานอย่างตื่นตกใจ เมื่อถูกมือหนาจับแยกเรียวขาออกจากกัน ความวาบหวามทำให้ร่างบางสั่นสะท้าน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ส่งเสียงกรีดร้องลั่นให้เขาหยุดการกระทำ“อร้ายยยยย ไอ้ปีศาจ ปะ...ปล่อยนะ ไอ้ชั่ว ไอ้...อึก!”“หุบปาก!” เรียวขาพยายามดีดดิ้นอย่างสุดกำลัง ก่อนที่มันจะชะงักเมื่อถูกเขาตะคอกใส่ ใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้ช่วยทำให้เธอลดอาการหวาดกลัวลงได้ หนำซ้ำสีหน้าที่แสดงออกมาอย่างเย็นชาของเขา ยิ่งทำให้เธอหวาดระแวงตลอดเวลามือหนาจับเอวของเธอไว้มั่นแล้วค่อย ๆ เลื่อนลงไปหาจุดที่ไวต่อการสัมผัสของร่างกายสาว สัมผัสของเขาหยอกล้อและสร้างอารมณ์เสียวกระสันให้กับเธอจนหายใจอย่างติดขัด“อ๊ะส์ อ๊าส์” ความเสียวซ่านทำให้เรติกาเผลอส่งเสียงครวญครางออกมาอย่างลืมอาย เธอเม้มปากตัวเองแน่นแล้วเบือนหน้าหนีคนบนร่าง พวงแก้มที่เคยขาวผ่องกลับกลายเป็นแดงระเรื่อ“หึ” ปีแสงเค้นเสียงหัวเราะลอดไรฟัน แม้ว่าเขาจะทำให้เธอส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • เมียปีศาจ   บทที่ 10 แพ้ท้อง

    ป้าทิพย์ถูกปีแสงกำชับให้ดูแลเรื่องอาหารการกินของเรติกา เน้นอาหารที่มีธาตุเหล็ก แคลเซียม โปรตีน วิตามิน แถมยังจดเมนูที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างละเอียดยิบ ห้าม! ทำให้เธอกินเด็ดขาด อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือหาแต่ของมีประโยชน์ให้เธอกินนั่นแหละ ปีแสงย้ำหนักย้ำหนาว่าต้องเฝ้าดูตอนเธอกินอาหารทุกเช้า เที่ยง เย็น อย่างใกล้ชิด ซึ่งป้าทิพย์ก็ไม่กล้าอยู่กับเรติกาตามลำพังจึงชวนให้นวลมายืนอยู่เป็นเพื่อน ทั้งคู่คุยซุบซิบกันตามประสา“มองยังไงเธอก็ไม่ใช่คนบ้านะป้า แรก ๆ ก็อาจจะเหมือนอยู่ แต่หลัง ๆ ฉันว่าไม่ใช่อะ” นวลเอ่ยพูดกับป้าทิพย์หลังจากที่สังเกตลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของเรติกามาสักพัก ทั้งคู่เฝ้าดูเธอรับประทานอาหารอยู่หน้าประตูห้องซึ่งไกลจากเตียงนอนอยู่พอสมควร ทำให้เรติกาแทบไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา“อืม”“อืมอะไรอะป้า”“ฉันก็คิดเหมือนแก”เรติกานั่งทานข้าวอย่างสงบเสงี่ยม แม้จะมีเครื่องพันธนาการที่ข้อมือข้อเท้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดอีกแล้ว เพราะเธอเริ่มปรับตัวและคุ้นชินกับมัน รวมทั้งหลายสิ่งหลายอย่างที่อยู่รอบตัวด้วย“อันนี้แกงอะไรอะ” เรติกาเอ่ยถาม พร้อมกับเอียงถ้วยโฟมที่มีแกงบรรจุอยู่ในนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-25
  • เมียปีศาจ   บทที่ 11 หนูทดลอง

    “อี๋! เหม็น!” อาหารมากมายบนโต๊ะเลื่อนหน้าตาน่ากินทั้งนั้น แต่กลับมีแต่กลิ่นเหม็นเน่าลอยคละคลุ้ง“กินซะ”“มะ...ไม่กินได้ไหม”“ต้องกิน”“ก็ฉันเหม็นนี่ ฉันทนกินเข้าไปไม่ไหวหรอก โอ๊ย!” ปลายคางมนถูกมือหนาดึงกระชากไปบีบอย่างแรงเมื่อเธอต่อรองขัดขืน“เธอจะรู้สึกยังไงก็ช่าง แต่ลูกของฉันต้องได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์” ไม่พูดเปล่าแต่ปีแสงตักข้าวที่คลุกกับอาหารมาป้อนให้เธอ แม้หญิงสาวจะพยายามขัดขืนแต่เขาก็พยายามยัดอาหารเหล่านั้น​เข้าไปในปาก บังคับให้เธอเคี้ยวและกลืนลงไปให้หมดอ๊ะ...อั๊วะ...อ้วกกกกกก!!จนแล้วจนเล่าที่เธออดทนกับความกระอักกระอ่วนไม่ไหว เรติกาอาเจียน​ออกมาใส่คนตรงหน้าแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะพยายามบังคับให้ตัวเองหยุดแต่ก็ดันอาเจียน​ออกมาอีก จนเนื้อตัวของปีแสงเต็มไปด้วยอ้วกของเธอที่ไหลเปรอะไปทั่วร่าง“ฉะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ ก็บอกแล้วไงว่าเหม็น มะ...ไม่อยากกิน”“เช็ด! เช็ดมันด้วยปากของเธอ” เขาตวาดใส่เธอเสียงดังลั่นทำเอาร่างบางตัวสั่นระริก สีหน้าของปีแสงในตอนนี้ราวกับจะฆ่าเธอให้ตายคามือ“ไม่นะ”“เช็ดมันออกให้หมด กินและกลืนเข้าไป” เขาบังคับให้เธอกินอ้วกของตัวเองที่ติดเลอะเปื้อนเสื้อของเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • เมียปีศาจ   บทที่ 12 อัลตราซาวด์

    หลังจากที่เรติการับประทานอาหารเช้าเสร็จได้เกือบสองชั่วโมง ปีแสงเดินเข้ามาภายในห้อง สีหน้าเย็นชาที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา และความเงียบของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก“จะทำอะไรฉันอีกแล้ว” เรติกาตั้งท่าจะโวยวายเมื่อโดนปีแสงปกปิดดวงตาด้วยผ้าสีดำ ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรกลับไป นอกจากปลดล็อกวัตถุพันธนาการออกจากข้อมือและข้อเท้าของเธอ“อ๊ะ!” เธอส่งเสียงอุทานอย่างหวาดระแวงเมื่อโดนชายหนุ่มช้อนร่างอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวแขนข้างหนึ่งของหญิงสาวตวัดโอบลำคอหนาอัตโนมัติ ใบหน้าสวยหวานซบลงบนบ่าแกร่ง มือเรียวบางคลำวัตถุเย็นเฉียบที่ยังคล้องอยู่กับข้อมืออีกข้าง รู้สึกเหมือนมีโซ่เชื่อมติดกับวัตถุนั้น เธอค่อย ๆ ไล่สัมผัสความยาวของมันอย่างใจเย็น การมองไม่เห็นไม่ใช่อุปสรรค ตลอดเกือบสามเดือนที่อยู่ที่นี่ เธอฝึกหลับตาต่อสู้กลางอากาศ แม้หลัง ๆ จะรู้สึกเหนื่อยง่ายแต่ก็ยังฝึกฝนให้ร่างกายพร้อมตลอดเวลา ขาไม่มีอะไรมาพันธนาการแล้ว ถ้าเอาชนะปีแสงได้ คิดว่าคนอื่น ๆ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับเธอ แต่หารู้ไม่ว่าความคิดและการกระทำของเธออยู่ในสายตาของเขามาตลอด “ถ้าคิดจะใช้โซ่ในมือรัดคอฉันก็ต้องรัดให้ฉันตายนะ เพราะถ้าฉันไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • เมียปีศาจ   บทที่ 13 ปีศาจน้อย

    ณ โรงพยาบาลเอกชน“ผู้หญิงคนนั้นคือมือปืนที่ยิงพ่อมึงเหรอ” เป็นหมอนนท์ที่พูดขึ้นหลังจากได้รู้ความจริงจากปีแสง ศัลยแพทย์หนุ่มทำหน้าครุ่นคิด เพราะตอนแรกคิดว่าเธอเป็นนักโทษหญิงใกล้ประหารที่ปีแสงเบิกตัวมาให้เขาทำการทดลองจากสิ่งประดิษฐ์ชนิดใหม่“มึงนี่มันเลวจริง ๆ ที่หลอกใช้กู ไอ้เพื่อนเวร!” เป็นหมอเวชที่พูดต่อ เพราะปีแสงขอให้หมอเวชช่วยปลอมใบรับรองแพทย์ว่าเรติกาคือคนไข้ที่มีอาการทางจิตชนิดรุนแรง ซึ่งจิตแพทย์หนุ่มก็เป็นเจ้าของเคสนี้แบบปลอม ๆไม่ใช่เรื่องง่ายที่สามหมอจะมารวมตัวกันได้ แม้จะทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน แต่อยู่กันคนละแผนก และต่างคนก็ต่างมีงานล้นมือ“งั้นที่ตำรวจบอกว่ามือปืนที่ยิงพ่อมึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ก็แปลว่าตอนนี้อยู่กับมึง” กว่าตำรวจจะตามสืบตามแกะรอยคนร้ายได้ก็สามเดือนเกือบจะเข้าเดือนที่สี่ ในขณะที่ปีแสงได้ตัวเธอมาอยู่ในกำมือหลังเกิดเรื่องได้เพียงสามวัน“รู้แล้วก็เลิกหาเรื่องจับผิดกูได้แล้ว” ปีแสงตอบหมอนนท์แบบขอไปที เขาไม่ได้เต็มใจอยากเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟังสักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่พูด สองเพื่อนรักก็จะตามหาความจริงด้วยตัวเองจนได้ เลยยอมบอกไปจะได้จบ ๆ เรื่อง“เดี๋ยวก่อน แต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • เมียปีศาจ   บทที่ 14 บ้าคลั่ง

    ปีแสงเดินมาหาน้ำเย็น ๆ ดื่มในห้องครัว หลังจากที่ออกกำลังกายจนเหงื่อเปียกโชก เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด เขาจึงใช้เวลาในการออกกำลังกายนานเป็นเป็นพิเศษ“คุณปีแสงคะ คุณหมอเวชมาค่ะ บอกว่ามาดูสภาพจิตใจของคุณ” “ตอนนี้มันอยู่ไหน!” ปีแสงไม่เปิดโอกาสให้นวลพูดจบประโยค เขาเอ่ยแทรกเสียงแข็ง“อยู่ในห้องกับคุณเรติกาค่ะ” ปึง! เสียงวางแก้วน้ำลงบนเคาน์เตอร์อย่างจัง ทำเอาสาวใช้อย่างนวลถึงกับสะดุ้ง ในขณะที่ปีแสงเดินพรวดพราดออกไปจากครัวไอ้เพื่อนเวรนี่! เดือนที่แล้วไอ้นนท์ เดือนนี้ไอ้เวช พวกมันสองตัวจะอะไรกันนักกันหนาวะ“ฮ่าฮ่า เล่นเกมหัวร้อนจนมีเรื่อง” ด้วยทักษะและประสบการณ์ หมอเวชสามารถทำให้คนที่หงุดหงิดง่ายอย่างเรติกาอารมณ์ดีขึ้นมาได้ และสามารถทำให้เธอยอมเล่าเรื่องตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัว“จริง ๆ เพื่อนเรย์เป็นคนมีเรื่อง แต่พอโดนรุมแล้วมันดันเอาตัวไม่รอด เรย์ก็เลยเข้าไปช่วยแล้วหนีออกมาด้วยกัน เงินก็ไม่ได้จ่าย ถือว่าได้เล่นเน็ตฟรีไปเลยเกือบสองชั่วโมง” “ไหนบอกว่าฝั่งตัวเองเก่งกว่า แล้วทำไมวิ่งหนี” “ก็ที่นั่นมันถิ่นเขา ฝั่งเขามีห้า ฝั่งเรย์มีสอง อีกอย่างเรย์กับเพื่อนก็แอบไปเล่นด้วย ถ้าโดนคุณลุงจับได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-29
  • เมียปีศาจ   บทที่ 15 เกลียด

    “เวรกรรม!” คำพูดติดปากหลุดออกมาจากวาจาของจิตแพทย์หนุ่ม เพราะเขายังไม่ได้ไปไหนไกล จึงทันได้ยินเรติกาอาละวาดโวยวายอย่างบ้าคลั่ง กว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ก็นานเกือบครึ่งชั่วโมง“หัวรุนแรงใช่ย่อยเลย” หมอเวชพูด หลังจากที่เห็นปีแสงเดินออกมาจากห้องของเรติกา“ยังไม่เอาสังขารกลับไปอีกเหรอวะ” ปีแสงถามเพื่อนรักแกมกระแหนะกระแหน ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาว“กูมีเรื่องจะคุยกับมึงก่อน”“แต่กูไม่มี!” ชายหนุ่มแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมาอย่างชัดเจน“โมโหกลบเกลื่อนนะมึงอะ”“กลับไปได้แล้วไป”“หืม...ตัวจริงน้องมันน่ารักเนอะ เคยเห็นแต่ในรูป ไม่คิดว่าจะได้เจอตัวจริง”หมอเวชพูดพลางแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ เหตุผลที่สงสัยว่าทำไมหน้าเรติกาคุ้น ๆ เมื่อหลายปีก่อนตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาแพทย์ เขาและหมอนนท์ไปเจอรูปถ่ายของเธอจากกล้องตัวโปรดของปีแสง ทั้งคู่แซวปีแสงข้ามวันข้ามคืนไอ้เวรนี่! เป็นหมอหรือเป็นนักสืบวะ ขี้เสือกชะมัดเขาจิ๊ปากตัวเองอย่างเอือมระอา“มีเรื่องหนึ่งที่น้องมันเล่าให้กูฟังแล้วตรงกับที่มึงก็เคยเล่าให้พวกกูฟังเหมือนกัน เพราะน้องมันใช่ไหมที่ทำให้มึงหันมาฝึกยิงปืน เรียนต่อสู้”“เสือกนะมึงน่ะ!” เขาพูดออกมาเสียงเรี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-30

บทล่าสุด

  • เมียปีศาจ   บทที่ 20 แรกพบ

    ณ แชร์เฮาส์“ไอ้เพื่อนเวรเอ๊ย! มันไม่น่าเอาน้องมาให้กูทำการทดลองตั้งแต่แรก” เป็นหมอนนท์ที่บ่นหัวเสียอยู่กับหมอเวช หลังจากการผ่าตัดเมื่อคืนผ่านพ้นไปทั้งสองคนยืนมองปีแสงที่นอนเฝ้าเรติกาไม่ห่าง เพื่อให้แน่ใจว่าสมองของเธอไม่ได้รับอันตรายจากการทดลอง เรติกาจึงต้องพักฟื้นและยังไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะหมอนนท์ต้องตรวจร่างกายและดูแลอาการของเธออย่างใกล้ชิดอยู่ที่แชร์เฮาส์แห่งนี้ที่นี่มีอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ครบไม่ต่างจากโรงพยาบาล เพราะเป็นแหล่งสำหรับทำการทดลอง และเอาไว้พักผ่อนในยามฉุกเฉินของทั้งสามหมอ“เอาเถอะน่า นะ ถือว่าช่วยไอ้ปีย์มันสักครั้ง” หมอเวชตอบหมอนนท์แบบขอไปที หากว่าสายตาของเขามองไปยังเพื่อนรักอีกคน“กูเสียเวลามาตั้งครึ่งปี การทดลองของกูไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ พวกมึงแม่ง! มีใครสนใจความเสียหายที่กูได้รับไหม”พูดจบหมอนนท์ก็หัวเสียเดินจากไป เขาไม่ค่อยพอใจในพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจของเพื่อนรักอย่างปีแสงสักเท่าไหร่ หมอเวชส่ายหน้าไปมาอย่างชั่งใจหลังจากที่หมอนนนท์เดินหายไปต่อหน้าต่อตาปีแสงแนบแก้มสากเข้าบริเวณท้องของเรติกาอย่างเอาใจ สายตาของเขาจ้องมองไปที่หญิงสาวที่ยังนอนหลับตาแน่น

  • เมียปีศาจ   บทที่ 19 เจ็บปวด

    ปีแสงเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่หลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาล ด้วยความสงสัย เขารีบเดินตรงขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง เพราะวันนี้ตั้งแต่ที่เขาออกไปจากบ้าน เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรจากอุปกรณ์ดักฟังนอกจากเสียงหายใจที่ริบหรี่ ซึ่งมันเบามาก ๆ และรู้สึกผิดปกติจากทุก ๆ วัน“ไม่สบายค่ะ” หลังจากที่เลื่อนโต๊ะอาหารไปไว้ที่ข้างเตียงให้กับเรติกา​ ป้าทิพย์เดินเข้าไป​กระซิบเบา ๆ เมื่อเห็นปีแสงเดินเข้ามาภายในห้อง “...” ปีแสงไม่ได้พูดอะไร สายตาคมกริบมองไปยังเรติกาที่กำลังนอนหันหลังให้เมื่อเห็นปีแสงยังยืนแน่นิ่ง​ ใบหน้าที่แสนเย็นชาของชายหนุ่มทำให้ป้าทิพย์คาดเดาความคิดไม่ออกจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “ร้องไห้จนไข้ขึ้นค่ะ”“เช็ดตัวหรือยัง?”“เช็ดให้แล้วค่ะ เธอพูดซ้ำ ๆ ว่าปวดหัว” ปีแสงพยักหน้ารับรู้ ป้าทิพย์จึงเดินเลี่ยงออกไปอย่างรู้หน้าที่“ลุก!” เสียงดุดันของชายหนุ่มปลุกให้เธอตื่นขึ้น แต่หญิงสาวกลับไม่ยอมขยับเพราะรู้สึกหนักไปทั้งตัว ดวงตาคู่สวยปิดลงอีกครั้งราวกับต้องการพักผ่อนต่อ แต่ก็ถูกใครบางคนฉุดดึงให้ลุกขึ้น เพียงแค่กระตุกเบา ๆ ร่างกายของเธอก็หยัดตัวขึ้นแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้“อึก! ฉันไม่ไหว” เธอมองเห็นคนตรงหน้าและสิ่งร

  • เมียปีศาจ   บทที่ 18 อ่อนแอ

    ป้าทิพย์ประคองเรติกาให้เดินลงบันไดที่คดเคี้ยวของบ้าน แม้ว่าปีแสงจะยอมรับข้อเสนอของเธอ แต่ชายหนุ่มให้อิสระเธอจากเครื่องพันธนาการได้แค่เดือนละครั้ง ซึ่งจะต้องตรงกับวันหยุดของเขา และเธอก็ต้องตัวติดอยู่กับเขาตลอดทั้งวัน ถ้าตุกติกคิดหนีเธอจะไม่ได้อิสระจากเดือนที่เหลืออีกเลย“เฮ้อ...” ทั้งที่เธอควรจะดีใจเพราะกว่าอิสระจะวนกลับมาอีกรอบเป็นครั้งที่สอง แต่หญิงสาวกลับถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เพราะว่าทุกครั้งที่ก้มมองชุดคลุมท้องสีชมพูอ่อนที่เธอสวมใส่อยู่นี้มันช่างเป็นอะไรที่น่าขำถ้าเพื่อนรักสองคนมาเห็นเธอใส่ชุดแอ๊บแบ๊วแบบนี้เข้าแล้วก็... มีนอนขำกลิ้งกับพื้นแน่ ถึงจะไม่ค่อยชอบใจนักแต่หญิงสาวก็โวยวายไม่ได้หรอก เพราะเธอเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น แม้จะรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็แสร้งฉีกยิ้มให้ดูเป็นคนอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา“ค่อย ๆ นั่งค่ะ” เป็นป้าทิพย์ที่ประคับประคองให้เธอค่อย ๆ นั่งลงบนโซฟาตัวยาว ซึ่งเป็นตัวเดียวกันกับที่ปีแสงนั่งอยู่ กลิ่นอาหารตรงหน้าหอมฟุ้งโชยมาติดจมูก แต่เมื่อเห็นนมในแก้วแล้วเธอกลับทำหน้าหยี รู้สึกอยากกินกาแฟที่ปีแสงยกขึ้นมาจิบกินซะมากกว่า“ฉันจะต้องกินของพวกนี้อีกแล้วเหรอ” เรติกาแหงนหน้าขึ้

  • เมียปีศาจ   บทที่ 17 สงบศึกชั่วคราว

    “ฉันมีเรื่องจะตกลงกับนาย” ทันทีที่เห็นปีแสงเดินเข้ามาภายในห้อง เรติกาก็รีบเอ่ยปากพูดถึงข้อเสนอที่เธอคิดพินิจพิจารณามาเป็นอาทิตย์ และคิดว่ามันจะต้องเป็นทางออกที่ดีต่อทุกฝ่ายแน่นอน“ฉันมาหาลูกของฉัน ไม่ว่างคุยกับ...ที่อยู่อาศัย” ปีแสงตอบเสียงเรียบเฉย ดวงตาคมกริบไล่มองคนตรงหน้าด้วยสายตาไร้ความรู้สึก“ไม่ต้องคุย แค่ฟังก็พอ” ถึงจะไม่ค่อยชอบใจกับคำเปรียบเปรยที่เขามอบให้มาตลอด แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักที่เธอจะยกเอามาน้อยเนื้อต่ำใจ เรติกาตั้งท่าจะอธิบายถึงข้อเสนอ แต่ก็ถูกปีแสงเอ่ยขัดจังหวะ“เวลาส่วนตัวที่พ่อกับลูกเขาจะอยู่ด้วยกัน คนอื่นที่ไม่เกี่ยวก็อยู่เป็นธาตุอากาศไป” พูดจบปีแสงก็ก้มลงมาจูบและคลอเคลียที่ท้องของเรติกาอย่างเอาใจ“พ่อรักลูกนะ จุ๊บ~”“ฉันรู้ว่านายเกลียดฉัน” เรติกาเอ่ยปากพูด ถึงแม้ว่าปีแสงเอาแต่หยอกล้อเล่นกับลูกโดยไม่คิดจะสนใจเธอสักนิด “และฉันก็รู้ว่านายรักลูกของนายมาก”ฉันก็รักลูกเหมือนกัน“เรามาสงบศึกกันก่อนไหม” ประโยคเมื่อครู่ทำให้ปีแสงเริ่มตั้งใจฟังเธอขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังทำทีไม่สนใจ “ฉันเกลียดนม เกลียดเต้าหู้ เกลียดผัก...”“ใครอยากรู้?”“ฉันอุตส่าห์ทนกินสิ่งที่ฉันเกลียด เพียงเพร

  • เมียปีศาจ   บทที่ 16 หยอกล้อ

    หลายชั่วโมงผ่านไป“อื้อ” เรติกาส่งเสียงครางกระเส่าเมื่อรู้สึกตัวตื่น การที่ได้พักผ่อนเต็มอิ่มทำให้เธอรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น เปลือกตาคู่สวยค่อย ๆ เปิดออก พร้อมขยับตัวพลิกไปมาอย่างเนิบนาบ“...อุย!!” หญิงสาวอุทานเสียงหลงพร้อมกับสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเห็นดวงตาดุดันจ้องมองมาแบบไม่กะพริบ“ลุก!”“อืม ยังง่วงอยู่เลย อยากนอนต่อจัง” เรติกาไม่ได้สะทกสะท้านกับน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเขา เธอพลิกตัวนอนตะแคงข้างโดยหันหน้าเข้าหาชายหนุ่ม เปลือกตาคู่สวยปิดลงอีกครั้งอย่างสบายใจ“จะยอมลุกดี ๆ ไหม” ปีแสงจิ๊ปากตัวเองอย่างเอือมระอาก่อนเอ่ยถามออกไป แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ชายหนุ่มจึงแสดงสีหน้าครุ่นคิดก่อนยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสนุก มือหนาเลื่อนมาประคองพวงแก้มเนียนผ่องของเธอไว้หลวม ๆ คนที่นอนหลับตาอย่างสบายใจเมื่อครู่ค่อย ๆ ลืมตามองดูการกระทำของเขาอย่างนึกสงสัย“อื้อ”“ถ้าหายใจทางจมูกไม่ออก ก็หายใจทางปากแทน” เรติกาพ่นลมหายใจออกมาทางปากอย่างถี่รัว เมื่อปีแสงใช้มือบีบจมูกของเธอไว้เพื่อให้สามารถหายใจได้ทางเดียว“หืม...เหมือนหมาเลย” ปีแสงพูดแล้วกลั้นขำกับการแสดงออกของคนตัวเล็กที่นอนหายใจพะงาบ ๆ แล้วดิ้นศีรษะดุกดิกไปมาน

  • เมียปีศาจ   บทที่ 15 เกลียด

    “เวรกรรม!” คำพูดติดปากหลุดออกมาจากวาจาของจิตแพทย์หนุ่ม เพราะเขายังไม่ได้ไปไหนไกล จึงทันได้ยินเรติกาอาละวาดโวยวายอย่างบ้าคลั่ง กว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ก็นานเกือบครึ่งชั่วโมง“หัวรุนแรงใช่ย่อยเลย” หมอเวชพูด หลังจากที่เห็นปีแสงเดินออกมาจากห้องของเรติกา“ยังไม่เอาสังขารกลับไปอีกเหรอวะ” ปีแสงถามเพื่อนรักแกมกระแหนะกระแหน ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาว“กูมีเรื่องจะคุยกับมึงก่อน”“แต่กูไม่มี!” ชายหนุ่มแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมาอย่างชัดเจน“โมโหกลบเกลื่อนนะมึงอะ”“กลับไปได้แล้วไป”“หืม...ตัวจริงน้องมันน่ารักเนอะ เคยเห็นแต่ในรูป ไม่คิดว่าจะได้เจอตัวจริง”หมอเวชพูดพลางแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ เหตุผลที่สงสัยว่าทำไมหน้าเรติกาคุ้น ๆ เมื่อหลายปีก่อนตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาแพทย์ เขาและหมอนนท์ไปเจอรูปถ่ายของเธอจากกล้องตัวโปรดของปีแสง ทั้งคู่แซวปีแสงข้ามวันข้ามคืนไอ้เวรนี่! เป็นหมอหรือเป็นนักสืบวะ ขี้เสือกชะมัดเขาจิ๊ปากตัวเองอย่างเอือมระอา“มีเรื่องหนึ่งที่น้องมันเล่าให้กูฟังแล้วตรงกับที่มึงก็เคยเล่าให้พวกกูฟังเหมือนกัน เพราะน้องมันใช่ไหมที่ทำให้มึงหันมาฝึกยิงปืน เรียนต่อสู้”“เสือกนะมึงน่ะ!” เขาพูดออกมาเสียงเรี

  • เมียปีศาจ   บทที่ 14 บ้าคลั่ง

    ปีแสงเดินมาหาน้ำเย็น ๆ ดื่มในห้องครัว หลังจากที่ออกกำลังกายจนเหงื่อเปียกโชก เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด เขาจึงใช้เวลาในการออกกำลังกายนานเป็นเป็นพิเศษ“คุณปีแสงคะ คุณหมอเวชมาค่ะ บอกว่ามาดูสภาพจิตใจของคุณ” “ตอนนี้มันอยู่ไหน!” ปีแสงไม่เปิดโอกาสให้นวลพูดจบประโยค เขาเอ่ยแทรกเสียงแข็ง“อยู่ในห้องกับคุณเรติกาค่ะ” ปึง! เสียงวางแก้วน้ำลงบนเคาน์เตอร์อย่างจัง ทำเอาสาวใช้อย่างนวลถึงกับสะดุ้ง ในขณะที่ปีแสงเดินพรวดพราดออกไปจากครัวไอ้เพื่อนเวรนี่! เดือนที่แล้วไอ้นนท์ เดือนนี้ไอ้เวช พวกมันสองตัวจะอะไรกันนักกันหนาวะ“ฮ่าฮ่า เล่นเกมหัวร้อนจนมีเรื่อง” ด้วยทักษะและประสบการณ์ หมอเวชสามารถทำให้คนที่หงุดหงิดง่ายอย่างเรติกาอารมณ์ดีขึ้นมาได้ และสามารถทำให้เธอยอมเล่าเรื่องตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัว“จริง ๆ เพื่อนเรย์เป็นคนมีเรื่อง แต่พอโดนรุมแล้วมันดันเอาตัวไม่รอด เรย์ก็เลยเข้าไปช่วยแล้วหนีออกมาด้วยกัน เงินก็ไม่ได้จ่าย ถือว่าได้เล่นเน็ตฟรีไปเลยเกือบสองชั่วโมง” “ไหนบอกว่าฝั่งตัวเองเก่งกว่า แล้วทำไมวิ่งหนี” “ก็ที่นั่นมันถิ่นเขา ฝั่งเขามีห้า ฝั่งเรย์มีสอง อีกอย่างเรย์กับเพื่อนก็แอบไปเล่นด้วย ถ้าโดนคุณลุงจับได้

  • เมียปีศาจ   บทที่ 13 ปีศาจน้อย

    ณ โรงพยาบาลเอกชน“ผู้หญิงคนนั้นคือมือปืนที่ยิงพ่อมึงเหรอ” เป็นหมอนนท์ที่พูดขึ้นหลังจากได้รู้ความจริงจากปีแสง ศัลยแพทย์หนุ่มทำหน้าครุ่นคิด เพราะตอนแรกคิดว่าเธอเป็นนักโทษหญิงใกล้ประหารที่ปีแสงเบิกตัวมาให้เขาทำการทดลองจากสิ่งประดิษฐ์ชนิดใหม่“มึงนี่มันเลวจริง ๆ ที่หลอกใช้กู ไอ้เพื่อนเวร!” เป็นหมอเวชที่พูดต่อ เพราะปีแสงขอให้หมอเวชช่วยปลอมใบรับรองแพทย์ว่าเรติกาคือคนไข้ที่มีอาการทางจิตชนิดรุนแรง ซึ่งจิตแพทย์หนุ่มก็เป็นเจ้าของเคสนี้แบบปลอม ๆไม่ใช่เรื่องง่ายที่สามหมอจะมารวมตัวกันได้ แม้จะทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน แต่อยู่กันคนละแผนก และต่างคนก็ต่างมีงานล้นมือ“งั้นที่ตำรวจบอกว่ามือปืนที่ยิงพ่อมึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ก็แปลว่าตอนนี้อยู่กับมึง” กว่าตำรวจจะตามสืบตามแกะรอยคนร้ายได้ก็สามเดือนเกือบจะเข้าเดือนที่สี่ ในขณะที่ปีแสงได้ตัวเธอมาอยู่ในกำมือหลังเกิดเรื่องได้เพียงสามวัน“รู้แล้วก็เลิกหาเรื่องจับผิดกูได้แล้ว” ปีแสงตอบหมอนนท์แบบขอไปที เขาไม่ได้เต็มใจอยากเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟังสักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่พูด สองเพื่อนรักก็จะตามหาความจริงด้วยตัวเองจนได้ เลยยอมบอกไปจะได้จบ ๆ เรื่อง“เดี๋ยวก่อน แต่

  • เมียปีศาจ   บทที่ 12 อัลตราซาวด์

    หลังจากที่เรติการับประทานอาหารเช้าเสร็จได้เกือบสองชั่วโมง ปีแสงเดินเข้ามาภายในห้อง สีหน้าเย็นชาที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา และความเงียบของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก“จะทำอะไรฉันอีกแล้ว” เรติกาตั้งท่าจะโวยวายเมื่อโดนปีแสงปกปิดดวงตาด้วยผ้าสีดำ ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรกลับไป นอกจากปลดล็อกวัตถุพันธนาการออกจากข้อมือและข้อเท้าของเธอ“อ๊ะ!” เธอส่งเสียงอุทานอย่างหวาดระแวงเมื่อโดนชายหนุ่มช้อนร่างอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาวแขนข้างหนึ่งของหญิงสาวตวัดโอบลำคอหนาอัตโนมัติ ใบหน้าสวยหวานซบลงบนบ่าแกร่ง มือเรียวบางคลำวัตถุเย็นเฉียบที่ยังคล้องอยู่กับข้อมืออีกข้าง รู้สึกเหมือนมีโซ่เชื่อมติดกับวัตถุนั้น เธอค่อย ๆ ไล่สัมผัสความยาวของมันอย่างใจเย็น การมองไม่เห็นไม่ใช่อุปสรรค ตลอดเกือบสามเดือนที่อยู่ที่นี่ เธอฝึกหลับตาต่อสู้กลางอากาศ แม้หลัง ๆ จะรู้สึกเหนื่อยง่ายแต่ก็ยังฝึกฝนให้ร่างกายพร้อมตลอดเวลา ขาไม่มีอะไรมาพันธนาการแล้ว ถ้าเอาชนะปีแสงได้ คิดว่าคนอื่น ๆ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับเธอ แต่หารู้ไม่ว่าความคิดและการกระทำของเธออยู่ในสายตาของเขามาตลอด “ถ้าคิดจะใช้โซ่ในมือรัดคอฉันก็ต้องรัดให้ฉันตายนะ เพราะถ้าฉันไม่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status