แชร์

ฟางเส้นสุดท้าย

ผู้เขียน: โมอาน่า.ชาริณ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-27 16:24:01

“เธอท้องหรือเปล่า”

คำถามนั้นเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจของปานตะวัน เธอเบิกตากว้างมองเขาอย่างตกใจ ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาอีกครั้ง

“คุณพูดอะไร...” เธอพยายามตั้งสติ “ปานไม่...”

“อย่ามาโกหก ฉันได้ยินคนใช้คุยกัน เธอดูไม่ปกติมาหลายวันแล้ว”

โลกันต์ขัดขึ้นทันที น้ำเสียงของเขาเย็นชาแต่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ปานตะวันเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่ได้ตอบอะไรในทันที เพราะในใจของเธอเองก็เต็มไปด้วยความสับสน เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน และไม่เคยสังเกตตัวเองเลยว่าความผิดปกติเหล่านั้นอาจมีความหมายอะไรซ่อนอยู่

“ปานไม่รู้...” เธอพูดเบาๆ พลางหลบสายตา

“ปานไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้น”

คำตอบของเธอทำให้โลกันต์ชะงักไปเล็กน้อย แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่เธอราวกับจะค้นหาความจริงจากสีหน้าและท่าทางของเธอ

“ไม่รู้? หรือเธอพยายามปิดบัง?” เขาถามอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเริ่มแฝงไปด้วยความหงุดหงิด

“ปานไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งนั้น!” ปานตะวันเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาที่เริ่มมีน้ำตาคลอ

“ปานไม่รู้จริงๆ และปานก็ไม่เคยคิดที่จะให้เรื่องแบบนั้นมันเกิดขึ้น”

ความเงียบปกคลุมระหว่างพวกเขาสองคน โลกันต์จ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาว เขายกมือข
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ความว่างเปล่า

    @ช่วงสายของวันบนโต๊ะอาหาร เสียงช้อนกระทบจานดังเป็นจังหวะ โลกันต์นั่งอยู่ในชุดลำลอง สายตาจับจ้องไปที่โทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงหน้า เขารอคอยให้ปานตะวันเดินลงมาจากห้องเหมือนทุกเช้า แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีเงาของเธอปรากฏ“ปานไปไหน?” โลกันต์ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจเมื่อเหลือบมองไปทางคุณย่า“ย่าก็ไม่เห็นนะ แต่สงสัยคงยังไม่ตื่น”เขาขมวดคิ้ว “สายขนาดนี้แล้ว ปานตะวันยังไม่ตื่นอีกเหรอ"โลกันต์ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม แต่ยังรู้สึกกังวลบางอย่างในใจ“คุณกันต์จะให้คนไปดูไหมคะ?” คนใช้เอ่ยถามอย่างเกรงๆ“อืม..เอาข้าวต้มไปให้ด้วย เมื่อวานเหมือนเธอจะไม่ค่อยสบาย อาจจะลุกไม่ไหว”"ค่ะไม่กี่นาทีต่อมา คนใช้กลับลงมาพร้อมสีหน้าตื่นตระหนก“คุณกันต์คะ...”“อะไร?” โลกันต์หันไปมองทันที“คุณปานไม่อยู่ค่ะ ห้องเธอก็ว่างเปล่า ข้าวของส่วนตัว...หายไปหมด” โลกันต์แทบลุกขึ้นทันที“อะไรนะ?! เธอพูดว่าอะไร!"“น้อยเข้าไปดูแล้วค่ะ ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย นอกจาก...” คนใช้ลังเล ก่อนจะยื่นกระดาษโน้ตใบเล็กๆ ให้เขา โลกันต์รีบคว้าโน้ตแผ่นนั้นขึ้นมาอ่านข้อความ"ต่อจากนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ฉันเกลียดคุณ ผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นแค่ที่ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-27
  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   เป็นของเธอมาตั้งแต่แรก

    @ ณ ห้องชมรม มหาวิทยาลัยโลกันต์นั่งนิ่งอยู่ที่มุมหนึ่งของโต๊ะ กลางห้องชมรมที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของเพื่อนๆ แต่สำหรับเขา ทุกอย่างดูเหมือนจะเงียบลงอย่างน่าประหลาด ความคิดวุ่นวายของเขาไม่ได้หยุดเลยตั้งแต่เช้า สายตาของเขาจ้องไปยังโต๊ะตรงหน้า แต่กลับไม่มีสมาธิพอจะทำอะไร กรุงโรมหันไปมองเพื่อนสนิท ก่อนจะกระทุ้งศอกใส่โลกันต์เบาๆ“ไอ้กันต์ มึงเป็นอะไรวะ ดูซึมๆ” กรุงโรมถามพลางขมวดคิ้ว ยูโรที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย “เออใช่ เมื่อเช้าอาจารย์สุ่มถามคำถาม มึงก็ดันเหม่อ มึงไม่เคยเป็นแบบนี้นี่หว่า เกิดอะไรขึ้น?”โลกันต์ถอนหายใจยาวก่อนจะเงียบไปอีกครั้ง ไม่ตอบคำถามเพื่อนสักคำ กรุงโรมมองหน้ากับยูโรด้วยความงุนงง ก่อนที่เสียงเปิดประตูห้องชมรมดังขึ้น ใบม่อนเดินเข้ามาพร้อมสีหน้าบึ้งตึง“กันต์!” เธอเรียกเสียงดังจนทุกคนในห้องชมรมหันไปมอง โลกันต์เงยหน้าขึ้นช้าๆ“มีอะไร?”“เรา... มีเรื่องต้องคุยกัน!” ใบม่อนเท้าเอว พลางเดินตรงเข้ามาหาเขาโลกันต์พิงเก้าอี้ ถอนหายใจอีกครั้งก่อนตอบเสียงเรียบ“มึงมาก็ดี จะได้เคลียร์ให้มันจบๆ ไป”“หมายความว่าไง! มึงจะถอนหมั้นอย่างที่คุณแม่บอกจริงๆใช่ไหม?” ใบม่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-27
  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ในวันที่เธอหายไป

    @ห้องของปานตะวันเวลาในยามดึกเงียบสงัด โลกันต์ยืนอยู่กลางห้องของปานตะวัน ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง นอกจากคนที่เคยอยู่ตรงนี้กลับหายไป ความเงียบทำให้ความคิดและความรู้สึกตีรวนในหัวใจของเขาเขาค่อยๆ เดินไปที่เตียง ผ้าห่มผืนเดิมที่เธอเคยใช้ยังวางอยู่อย่างเรียบร้อย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอยังคงหลงเหลือ แต่เธอไม่อยู่แล้ว...โลกันต์หย่อนตัวลงนั่งบนเตียง น้ำเสียงแผ่วเบาดังก้องในความเงียบ"ปาน... เธออยู่ที่ไหน? ฉันคิดถึงเธอ"เขาเอื้อมมือไปหยิบหมอนใบเล็กที่เธอเคยหนุนขึ้นมา ใบหน้าของเขาแนบลงบนหมอน หวังจะสัมผัสถึงกลิ่นและความทรงจำเก่าๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่"... ทำไมไม่อยู่ให้ฉันได้พูดอะไรสักคำ...ใจร้ายเกินไปแล้ว" โลกันต์พูดกับตัวเอง เสียงของเขาสั่นเครือ เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มพูดกับสิ่งของรอบตัวที่เคยเป็นของเธอ"เธอจำได้ไหมปาน... ตุ๊กตาหมีตัวนี้ ที่เธออยากได้ .. ตอนนั้นเธอน้องไห้เพราะกลัวคนอื่นะซื้อมันไปก่อน.."เขาหยิบตุ๊กตาหมีขึ้นมากอดแน่น ภาพความหลังในวัยเด็กผุดขึ้นมาให้นึกถึง น้ำตาเริ่มคลอเบ้า แต่เขากลับพยายามกลั้นมีนเอาไว้"ฉันมันคนโง่... คนโง่ที่ปากแข็งไม่ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-27
  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ทำอะไรสักอย่าง

    ในห้องมืดมิด มีเพียงแสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา โลกันต์นั่งอยู่ปลายเตียงในห้องที่เคยเป็นของป่านตะวัน เขานั่งอยู่ตรงนั้นมาหลายชั่วโมง มือข้างหนึ่งกำขวดเหล้าแน่น อีกข้างหนึ่งวางพาดบนหน้าผาก ใบหน้าเต็มไปด้วยร่องรอยความทุกข์ เขามองไปรอบห้องที่ยังคงมีกลิ่นและสิ่งของของเธออยู่ เสียงเปิดประตูดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับเสียงฝีเท้าของใครบางคน โลกันต์เงยหน้าขึ้นช้าๆ เห็นคุณย่าของเขายืนอยู่ตรงนั้นในชุดนอน ท่าทางสงบนิ่ง"เจ้ากันต์ ดึกขนาดนี้แล้วมาทำอะไรที่ห้องของแม่ป่าน?" คุณย่าถามด้วยน้ำเสียงเข้มโลกันต์เงียบไปสักพักก่อนจะตอบ "คุณย่า...""ที่นี่มันไม่ใช่ที่ของแก กลับห้องของแกไปซะ คนอื่นมาเห็นจะคิดเป็นอย่างอื่น !" คุณย่าออกคำสั่ง แต่โลกันต์ไม่ขยับ เขายังคงนั่งนิ่งราวกับไม่ได้ยินคำสั่งนั้น"คุณย่า... ผมมีเรื่องจะสารภาพ" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์ หัวใจที่หนักอื้อ ทนแบกรับความเจ็บปวดต่อไปไม่ไหวแล้ว"สารภาพเรื่องอะไร? ท่าทางของแกดูจริงจังไม่น้อย อย่าบอกนะว่าแกไปทำผู้หญิงท้อง" คุณย่าเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ ก่อนจะเดินมานั่งบนเก้าอี้ใกล้เตียงโลกันต์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขาไม่กล้ามองหน้าคุณย่าโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-27
  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ตามหาเมีย

    รุ่งเช้าวันใหม่โลกันต์ยืนมองหน้าคุณย่าของเขาด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะตามหาป่านตะวันให้เจอ แม้จะไม่มีเบาะแสชัดเจนก็ตาม เพราะป่านตะวันไม่มีญาติพี่น้องอื่นๆ เธอถูกคุณย่าของโลกันต์รับมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก เขาจึงรู้ดีว่าเธอไม่ได้มีที่พึ่งพิงอื่นๆ ที่ชัดเจน"ย่าครับ... ย่าเคยได้ยินป่านพูดถึงที่ที่เธออยากไปไหมครับ?" โลกันต์ถามคุณย่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง คุณย่ามองหลานชายด้วยสายตาที่ทั้งเห็นใจและตำหนิ"แม่ป่านเคยพูดเสมอว่าอยากไปอยู่ในที่ที่สงบ อากาศดีๆ ท่ามกลางธรรมชาติ เธอชอบภูเขา ชอบดอกไม้ ชอบสายลมเย็นๆ แต่เจ้ากันต์ แกจะตามหาเธอทั้งประเทศแบบนี้ มันไม่ง่ายหรอกนะ""ผมรู้ครับย่า แต่ถ้าผมไม่เริ่ม ไม่ทำแบบนี้ ผมก็ไม่มีทางได้เจอปาน ขนาดจ้างนักสืบที่เก่งที่สุด ยังไม่มีแม้แต่ข่าวคราว ผมเลยต้องลองด้วยตัวเอง ยังไงต้องตามหาปานให้เจอ"คุณย่าถอนหายใจเบาๆ "ถ้าแกคิดว่ามันคุ้มค่า งั้นก็ไปเถอะ... แต่ย่าขอเตือนแกเอาไว้ก่อน ถ้าแกเจอแม่ปาน แกต้องค่อยเป็นค่อยไแ คนท้องอารมณ์แปรปรวน อย่าทำให้เธอเครียด และแกก็ต้องทำให้เธอเชื่อว่า..แกเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่ไปขอโทษแล้วจบ""ครับย่า... ผมสัญญา.

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-27
  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ไม่เห็นปลายทาง

    หลายเดือนผ่านไป แต่โลกันต์ยังคงไม่พบ ปานตะวัน ไม่ว่าจะตามหาในสถานที่ธรรมชาติที่เธอชอบหรือในพื้นที่เล็กๆ แถบเขาใหญ่ ความหวังที่เคยมีเริ่มเลือนรางลงทุกที แต่สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่คือสองเพื่อนสนิท กรุงโรมและยูโร ที่ยังคงเดินเคียงข้างเขาในทุกเส้นทาง@กลางคืนที่หนาวเหน็บในโซนเขาใหญ่คืนหนึ่ง ทั้งสามคนพักอยู่ในกระท่อมไม้เล็กๆ ที่ตั้งอยู่กลางทุ่งหญ้าบริเวณเชิงเขา พวกเขาเช่ากระท่อมนี้จากชาวบ้านเพื่อพักผ่อนหลังจากใช้เวลาทั้งวันตามหาปานตะวันในหมู่บ้านและอุทยานแห่งชาติโดยรอบ โลกันต์นั่งเงียบอยู่หน้ากองไฟ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความทุกข์ กรุงโรมกับยูโรนั่งอยู่ไม่ไกลนัก ทั้งสองมองเพื่อนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง"พวกมึงกลับไปเรียนกันได้แล้ว ลามานานเป็นเดือนแบบนี้ ไม่ใช่อาจารย์เขารีไทร์มึงออกไปแล้วเหรอ" โลกันต์พูดเสียงแผ่ว พลางก้มมองไฟที่ลุกโชติช่วงกรุงโรมที่กำลังคาบไม้เสียบเนื้อย่างอยู่เงยหน้าขึ้นตอบทันที "ถึงไม่เรียน บ้านกูก็มีกินมีใช้ อยู่ได้แบบสบายๆ มึงไม่ต้องห่วงหรอก พวกกูรอเรียนซ้ำพร้อมมึงก็ได้"ยูโรพยักหน้าเห็นด้วย "เออ ใช่ เรียนตอนไหนก็ได้ ช้าไปปีหนึ่งจะเป็นไรไป พวกกูมีไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-27
  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   อดกลั้นต่อไปไม่ไหว : โลกันต์

    หนึ่งเดือนต่อมาการเดินทางของโลกันต์ กรุงโรม และยูโรพาพวกเขาย้ายจากพื้นที่เขาใหญ่ลงมาสู่โซนภาคใต้ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของชายฝั่งทะเล ทั้งสามคนใช้เวลาในแต่ละวันสำรวจหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเล วัดที่สงบเงียบ และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ปานตะวันอาจจะเลือกซ่อนตัวอยู่แต่ถึงแม้จะผ่านไปนานหลายเดือน พวกเขาก็ยังไม่พบเบาะแสที่ชัดเจนเกี่ยวกับตัวปานตะวัน ความเหนื่อยล้าและความสิ้นหวังเริ่มกัดกร่อนหัวใจของโลกันต์ วันแล้ววันเล่าเขาตื่นขึ้นมาเพื่อตามหา แต่ทุกวันก็จบลงด้วยความว่างเปล่า@ตกกลางคืนในค่ำคืนหนึ่งที่ท้องฟ้ามืดมิด ปราศจากดวงดาวและพระจันทร์ ทั้งสามคนพักกันอยู่ในกระท่อมเล็กๆ ที่เช่าไว้จากชาวประมงในหมู่บ้านชายทะเล เสียงคลื่นซัดกระทบฝั่งดังอยู่ไกลๆ แต่ในหัวใจของโลกันต์กลับเงียบงัน"มึงจะลงไพ่อะไรนักหนาวะ คิดนานไปไหม? หรือกลัวแพ้?" กรุงโรม"กลัว? กูกลัวมึงเนี่ยแหละ เล่นมั่วจนไม่รู้จะแก้เกมยังไง" ยูโร"มั่วแล้วไง ถ้าแม่นก็ชนะป่ะ ดูไว้ มึงแพ้อีกตาแน่!" "กรุงโรม"ฝันไปเหอะ ตานี้กูพลิกแน่ เตรียมเสียตังค์มาเลี้ยงกูได้เลย""เสีย? มันสะกดยังไงวะ ฝัยไปเถอะเพื่อนรัก กูไม่เสียให้มึงแน่!"กร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-27
  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   แค่พบกันอีกสักครั้ง

    การเดินทางมุ่งสู่ชายหาดเล็กๆ ที่ชาวบ้านบอกเล่าเป็นความหวังที่โลกันต์ยึดมั่นในใจ แม้ใจลึกๆ เขายังกลัวว่ามันจะเป็นอีกครั้งที่ผิดหวัง เขาเดินอย่างรวดเร็ว ทิ้งกรุงโรมและยูโรไว้ข้างหลัง พวกเขาเองก็ดูเงียบไปผิดปกติ เพราะต่างรู้ว่าเพื่อนของพวกเขาอาจจะแบกรับความเจ็บปวดครั้งใหญ่อีกครั้ง@ที่บ้านไม้หลังเล็กเมื่อมาถึง โลกันต์หยุดอยู่หน้าบ้านไม้หลังเล็กที่ตั้งอยู่ริมทะเล มันดูเรียบง่าย สงบเงียบ แต่มีร่องรอยของการอยู่อาศัย เขาแทบกลั้นใจเมื่อก้าวขึ้นไปเคาะประตู"ขอโทษนะครับ... มีคนอยู่ไหมครับ?" เสียงของโลกันต์ดังขึ้นเบาๆ แต่แฝงความตื่นเต้นประตูถูกเปิดออกโดยหญิงวัยกลางคนที่เขาไม่รู้จัก ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย"พวกคุณคือใครหรือคะ? มีธุระอะไรหรือเปล่า"โลกันต์กลืนน้ำลาย ความหวังในใจพังทลายลงในทันที เขาพยายามถามออกไปเสียงเบา"เอ่อ...ที่นี่มีผู้หญิงที่ชื่อปานตะวันอยู่ไหมครับ?"หญิงคนนั้นส่ายหัวช้าๆ "ไม่มีค่ะ ที่นี่มีแต่ฉันกับสามีที่อยู่กันสองคน"คำตอบนั้นเหมือนเสียงฟ้าผ่ากลางใจโลกันต์ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวขอโทษเบาๆ แล้วเดินถอยออกมา@ชายหาดโลกันต์เดินไปที่ชายหาดอย่างช้าๆ ทุกย่างก้าวเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-27

บทล่าสุด

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ตอนพิเศษ 4

    @สามปีต่อมาหลังจากหยุดพักการเรียนเพื่อจัดการกับชีวิตและหัวใจของตัวเอง โลกันต์กลับมาเรียนต่อและคว้าปริญญาวิศวกรรมไฟฟ้าสำเร็จด้วยความมุ่งมั่น ไม่เพียงแค่นั้น เขายังเริ่มต้นธุรกิจด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ที่ครอบคลุมการออกแบบและติดตั้งระบบพลังงานให้กับอาคารขนาดใหญ่และโรงงานอุตสาหกรรม“ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนอย่างมึงจะมีวันนี้” กรุงโรมพูดขณะนั่งดื่มกาแฟด้วยกันที่บ้านพักริมทะเลของโลกันต์“เออ กูก็ไม่คิดเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มีปานตะวันและลูก กูคงไม่ได้มายืนตรงนี้” โลกันต์ตอบพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน เขามองไปที่ปานตะวันซึ่งกำลังเล่นกับลูกชายวัยสองขวบและลูกสาววัยขวบเศษในสวนหน้าบ้าน“กูต้องขอบคุณพวกมึงด้วยนะ ทั้งกรุงโรม ทั้งยูโร ถ้าไม่มีพวกมึง กูคงไม่กล้ากลับมาแก้ไขชีวิตตัวเอง” โลกันต์พูดพลางตบไหล่เพื่อนรักทั้งสอง"ว่าแต่มึงเถอะช่วงนี้เป็นไง ราบรื่นดีไหม เห็นว่าตามจีบผู้หญิงอยู่นานแต่ก็ยังไม่ติดสักที ทำไมวะ" โลกันต์ถามกรุงโรมที่เป็นเพื่อนสนิท คนที่พร้อมลุยและยืนข้างโลกันต์เสมอมา ตอนนี้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจด้านวิศวกรรมโยธาที่ประสบความสำเร็จ เขาดูแลโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั่วประเทศ แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือควา

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ตอนพิเศษ 3

    หลายเดือนหลังจากที่ชีวิตของโลกันต์และปานตะวันกลับเข้าสู่ความสงบ ปานตะวันได้เป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ และโลกันต์ก็กลายเป็นสามีที่แสนอบอุ่น แม้จะมีความขัดแย้งเล็กน้อยในบางครั้ง แต่พวกเขาก็เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน ครั้งนี้พวกเขาตัดสินใจพาลูกทั้งสองคนกลับไปกราบคุณย่าที่บ้านกฤษณะโยธิน เพื่อขอโทษและขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ โลกันต์นำรถมาจอดที่หน้าบ้าน และปานตะวันอุ้มลูกสาวและลูกชายออกจากรถ เด็กน้อยทั้งสองยังคงดูน่ารักและไร้เดียงสา“เข้าไปกราบคุณย่ากันเถอะ” โลกันต์พูดเสียงเบา เขาจับมือปานตะวันไว้แน่น พร้อมกับยิ้มให้ลูกทั้งสองปานตะวันยิ้มตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่เงียบสงบ รู้สึกเหมือนเวลากลับไปข้างหลัง กลิ่นหอมของต้นไม้และดอกไม้รอบบ้านทำให้เธอคิดถึงอดีตที่เคยหลบหนีไปในวันนั้นคุณย่าของโลกันต์ยืนรออยู่ที่ประตูบ้าน เธอสวมเสื้อผ้าไหมอย่างดี ดูสง่างาม แต่สายตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่น แม้เวลาจะผ่านไปนานนัยปี แต่ท่าทางที่ยืนอยู่ยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน“คุณย่า” โลกันต์เรียกเสียงเบา ก่อนจะก้มลงกราบที่เท้าของคุณย่าอย่างเคารพ“หลานกลับมาแล้ว” คุณ

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ตอนพิเศษ 2

    บรรยากาศในบ้านอย่างเงียบสงบ แต่ภายในห้องนั่งเล่นกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวาย โลกันต์กำลังวุ่นอยู่กับการจัดเก้าอี้ โซฟา และหมอนหลายใบตามคำสั่งของปานตะวัน ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาโดยมีท้องที่เริ่มโตจนใกล้คลอด“คุณกันต์ หมอนตรงนั้นวางไม่ถูกค่ะ ขยับไปอีกนิด!”“ตรงไหนครับ?” โลกันต์หันไปถามพร้อมกับเหงื่อตก“ซ้ายค่ะ! ไม่สิ...ขวาอีกนิด!” ปานตะวันบอกอย่างละเอียด จนโลกันต์ต้องถอนหายใจ“คุณก็พูดให้ชัดหน่อยสิครับ ผมหมุนไปหมุนมาเหมือนหมากลิ้งหลายรอบแล้วนะ”“อ๋อ ถ้าหมา ยังไม่เหมือนค่ะ เพราะหมาน่าจะคล่องกว่านี้!”คำพูดนั้นทำเอาโลกันต์กลอกตา แต่ก็ไม่ได้เถียงอะไรต่อ เขาจัดหมอนตามที่เธอบอกจนกระทั่งเธอพยักหน้าพอใจ“ดีค่ะ คราวนี้ช่วยหยิบผลไม้มาให้ปานด้วยนะคะ อยากได้แอปเปิลกับองุ่น”“ครับ คุณผู้หญิง นั่งรออสักครู่นะครับ” โลกันต์ตอบเสียงเหนื่อย แต่ในแววตากลับมีความอ่อนโยน เขายิ้มออกมาอย่างคนที่มีความสุข เอ็นดูเมียรักที่กำลังแกล้งเขาในขณะที่โลกันต์กำลังเดินเข้าครัว เสียงเห่าของเจ้าด่างกับเจ้าดำ สุนัขที่เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน ก็ดังขึ้น ปานตะวันหันไปมองทันที เจ้าดื้อสองตัวกำลังวิ่งเล่นไล่กัดกันรอบโซฟา“ด่าง,ดำ หยุดวิ่งเดี

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ตอนพิเศษ 1

    @ บรรยากาศวันหยุดโลกันต์เดินลงมาจากห้องนอนด้วยอาการงัวเงียหลังจากนอนดึกเมื่อคืน เขายืดเส้นยืดสายเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่ห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาตามลม ทำให้เขารู้ทันทีว่าปานตะวันกำลังทำอะไรสักอย่าง“วันนี้อารมณ์ดีจัง” โลกันต์พึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเดินตรงไปหาเธอ ปานตะวันเมียสุดที่รักของเขาปานตะวันยืนหันหลังอยู่ เธอสวมผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้ที่เขาเพิ่งซื้อให้เมื่อเดือนก่อน“เช้านี้มีอะไรให้ผมกินบ้างครับคุณแม่บ้าน?” โลกันต์ถามเสียงหยอกปานตะวันหันมายิ้มให้เล็กน้อย แต่ไม่ตอบคำถาม เธอเพียงแค่ชี้ไปที่โต๊ะอาหารซึ่งมีจานอาหารเช้าจัดเรียงไว้อย่างสวยงาม“วันนี้ของคุณพิเศษหน่อยนะคะ ปานตั้งใจทำให้คุณเองกับมือเลย” ปานตะวันพูดน้ำเสียงร่าเริงผิดปกติ โลกันต์เลิกคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก“ขอบคุณครับที่รัก”เขานั่งลงแล้วหยิบส้อมขึ้นมาเตรียมกิน ทันทีที่เขาตักไข่คนเข้าปาก โลกันต์ต้องหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ความเผ็ดร้อนพุ่งขึ้นมาจากลิ้นจนทำให้เขาตาเบิกกว้าง“แค่กๆ!” โลกันต์สำลักน้ำตาแทบไหล “นี่มันอะไรกัน! มันเผ็ดมากเลยนะปาน”ปานตะวันหัวเราะคิกคักก่อนจะยื่นแก้วน้ำให้เขา “ปานแค่ใ

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   การให้อภัย

    @ยามเย็นที่หมู่บ้านชายฝั่งทะเลแสงอาทิตย์สีส้มอ่อนกำลังลาลับขอบฟ้า ลำแสงบางเบาสาดกระทบผืนทะเลที่กว้างไกลจนกลายเป็นสีทองระยิบระยับ เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดังเป็นจังหวะอ่อนโยน ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบของหมู่บ้านชายฝั่งเล็กๆ โลกันต์ กรุงโรม และยูโร เดินทางกลับมายังหมู่บ้านชายฝั่งทะเลพร้อมกับกรุงโรมและยูโร สองเพื่อนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดทาง ตลอดการเดินทางเสียงล้อเล่นของสองคนนั้นช่วยทำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงาๆระหว่างที่รถจอดตรงถนนลูกรังใกล้กับบ้านไม้เก่าของปานตะวัน โลกันต์นั่งนิ่งอยู่ที่เบาะคนขับ ดวงตาจ้องมองไปที่บ้านตรงหน้า สภาพบ้านที่ล้อมรอบด้วยต้นมะพร้าวและสวนเล็กๆ ดูเรียบง่ายและอบอุ่นในสายตาของเขา แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากร่าง“ในที่สุดมึงก็ได้กลับมาเจอเมียแล้วนะโลกันต์” กรุงโรมพูดพลางหัวเราะเบาๆ“จำได้ไหมว่าเมื่อก่อนมึงปากเก่งขนาดไหน? เก่งจนเขาหนีไป เก่งจนทำให้มึงนั่งหอนเป็นหมาไม่ทีบ้าน”ยูโรเสริมทันที “เออ ตอนนั้นนะ หัวสูงเป็นหมาไม่ติดดิน แถมยังทำตัวเป็นเจ้านายเขาตลอด หาเรื่องเขาสารพัด...แล้วดูตอนนี้ดิ หมาวัดยังดูดีกว่ามึงอีก”โลกัน

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   โอกาสสุดท้าย

    @หลายสัปดาห์ต่อมาโลกันต์ไม่เคยคิดว่าการให้ “เวลา” กับปานตะวันจะกลายเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิตของเขา เขาเรียนรู้ที่จะปล่อยวางและใช้ช่วงเวลานั้นเพื่อปรับปรุงตัวเอง แม้จะไม่ได้พบปานตะวันบ่อยนักในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่เขาก็ไม่เคยหยุดพยายามที่จะส่งผ่านความตั้งใจดีไปให้เธอปานตะวันใช้เวลานั้นทบทวนสิ่งต่างๆ อย่างหนัก เธอพยายามแยกแยะความรู้สึกของตัวเองว่าเป็นความรัก ความโกรธ หรือแค่ความกลัวที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งคืนหนึ่ง ปานตะวันนั่งอยู่ริมชายหาดลำพัง เธอทอดสายตามองดวงดาวที่สะท้อนบนผืนน้ำ ในใจมีคำถามมากมายที่ยังไม่ได้คำตอบ เสียงฝีเท้าดังแผ่วเบา เธอไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นใคร“เธออยากอยู่คนเดียวหรือเปล่า?” โลกันต์ถามอย่างสุภาพ เขายืนนิ่งไม่กล้าเข้าไปใกล้“นั่งสิ” เธอตอบเรียบๆ โดยไม่หันมามองโลกันต์นั่งลงข้างๆ เธอ แต่เว้นระยะห่างเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เธออึดอัด“วันนี้ทะเลดูสงบดีนะ” โลกันต์พูดเพื่อทำลายความเงียบ“ใช่...” ปานตะวันตอบสั้นๆทั้งคู่เงียบไปอีกพักใหญ่ โลกันต์หันไปมองใบหน้าของปานตะวันที่ดูนิ่งสงบ เขาอยากถามหลายอย่าง แต่ก็เลือกที่จะรอให้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน“ฉันไม่รู้ว่าฉันควรทำยังไง”

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ครั้งสุดท้ายที่จะขอ

    หลายเดือนผ่านไป ปานตะวันที่ดูเหมือนจะต่อต้านเขาน้อยลง นั่นเป็นสัญญาณที่ดี ที่แสดงให้เห็นว่าเธอเริ่มที่จะใจอ่อนลงแล้ว โลกันต์ตัดสินใจบางอย่างที่ทำให้เขานั่งไม่ติดตั้งแต่เช้ามืด เขาตื่นขึ้นมาพร้อมแผนการที่คิดไว้ตลอดทั้งคืน ก่อนจะเดินตรงไปยังบ้านของปานตะวันที่อยู่ปลายหมู่บ้าน“ฉันต้องทำสำเร็จ ครั้งนี้ต้องทำให้ได้...” โลกันต์พึมพำกับตัวเองขณะเดินเมื่อไปถึงหน้าบ้านของปานตะวัน เขาเคาะประตูเบาๆ เพื่อไม่ให้ดูรีบร้อนเกินไป แต่ไม่มีใครตอบ เขาเลยลองอีกครั้ง“ปาน...” โลกันต์เรียกชื่อเธอเสียงเบาไม่นานนัก ปานตะวันก็เปิดประตูออกมา เธอสวมเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นของคนท้อง สายตาของเธอดูไม่แปลกใจที่เห็นเขา“มีธุระอะไรคะ?” เธอถามเสียงเรียบ“ฉันแค่...” โลกันต์สูดลมหายใจลึก พยายามควบคุมอารมณ์ “ฉันอยากคุยกับเธอจริงๆ อยากบอกดับเธอเป็นครั้งสุดท้าย ขอเวลาหน่อยได้ไหมปาน”“ครั้งสุดท้าย?” ปานตะวันเลิกคิ้ว“ใช่...” โลกันต์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้าเธอฟังสิ่งที่ฉันพูดวันนี้ แล้วคิดว่าฉันไม่ควรอยู่ที่นี่อีก ฉันจะกลับกรุงเทพฯ และจะไม่รบกวนเธออีก จะไม่มาให้เห็นหน้าอีกต่อไป”ปานตะวันนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะกอดอกแ

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   ค่อยๆเข้าหา

    โลกันต์ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงแห่งนั้น เขาเรียนรู้วิถีชีวิตที่ไม่เคยคุ้นเคยมาก่อน ตั้งแต่การตื่นแต่เช้ามืดไปช่วยชาวประมงลากอวน การปีนขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อเก็บลูกสดๆ ไปจนถึงการแบกถังน้ำจากบ่อน้ำมาใช้ในบ้านพักที่เขาเช่าอยู่ ทุกวันผ่านไปอย่างลำบาก แต่โลกันต์ไม่ปริปากบ่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเขามีเป้าหมายเดียวในใจ คือการทำให้ปานตะวันเห็นว่าเขาจริงจังกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง@เช้าวันหนึ่งโลกันต์ยืนอยู่หน้าบ้านไม้ยกพื้นของปานตะวัน เขารวบรวมความกล้าก่อนจะตะโกนเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน“ปาน! ปานตะวัน! อยู่ไหม?”ปานตะวันกำลังจัดดอกไม้ในห้องครัว เสียงของโลกันต์ทำให้มือเธอชะงักไปครู่หนึ่ง เธอถอนหายใจหนักแล้วเดินออกไปที่หน้าต่างมองลงมาเห็นเขายืนอยู่พร้อมกับถุงของฝากใบใหญ่ในมือ“คุณมาทำอะไรที่นี่?” ปานตะวันถามเสียงเรียบ ดวงตาเย็นชาของเธอมองเขาราวกับคนแปลกหน้า“ฉันเอาของมาฝาก เป็นปลาทูที่ฉันช่วยชาวบ้านจับมาได้สดๆ กับมือ” โลกันต์ตอบพร้อมยื่นถุงของฝากขึ้น“ฉันไม่ได้ขอ” เธอตอบกลับทันที “แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเอาอะไรมาให้”“ฉันไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน ฉันแค่อยากให้เธอรู้ว่าฉัน...เปลี่ยนไปแ

  • เมียที่ไม่มีวันได้เป็น   เปลี่ยนแปลงตัวเอง

    โลกันต์ตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่เหมือนทุกวันในช่วงเดือนที่ผ่านมา เขาตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลทางภาคใต้ของประเทศไทย เขาได้เช่าบ้านไม้หลังเล็กๆ ใกล้ชายหาด และตั้งใจทำงานทุกอย่างที่ชาวบ้านทำ แม้ร่างกายจะอ่อนล้าเพียงใด แต่ความหวังเพียงเล็กน้อยที่ปานตะวันอาจยอมให้อภัย ก็เป็นพลังที่ผลักดันให้เขาก้าวเดินต่อไปในเช้าวันนี้โลกันต์ได้รับคำชวนจากลุงประจวบ ชาวประมงผู้มีประสบการณ์ยาวนานในหมู่บ้าน ให้ไปช่วยลากอวนจับปลาในทะเล ช่วงนี้เป็นฤดูที่ปลาชุม โลกันต์รู้ดีว่างานนี้ไม่ใช่งานง่าย เพราะเขาต้องออกเรือไปในทะเลลึกพร้อมทีมชาวประมง และต้องใช้แรงกายอย่างมหาศาลในการลากอวนที่หนักอึ้งกลับขึ้นมาบนเรือ แต่เขาไม่ลังเลที่จะตอบรับ"ลุงครับ ผมพร้อมแล้วครับ" โลกันต์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ขณะที่เขายืนรออยู่ที่ท่าเรือในยามฟ้าสาง ลุงประจวบมองชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยดูเหมือนคนเมืองที่ไม่ยอมลำบาก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่ทำงานหนักเหมือนชาวบ้าน"ถ้าพร้อมก็ขึ้นเรือเลยพ่อหนุ่ม งานนี้เหนื่อยแน่ แต่ถ้าได้ปลามาเยอะก็คุ้ม" ลุงประจวบตอบพร้อมหัวเราะเบาๆเมื่อเรือแล่นออกไปกลางทะเล โลกันต์ได้เรียนรู้วิธีการใช้ชี

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status