แชร์

บทที่ 65

ผู้เขียน: เทียนธีรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-06 14:11:59

บทที่ 65

ร่างบางผละออกห่างเงียบๆ เดินไปหยิบเอาผ้าขนหนูผืนเล็ก เปิดตู้เย็นหยิบน้ำแข็งมาใส่ในผ้าขนหนูผืนนั้น จากนั้นก็ขยับมายืนตรงหน้าร่างสูงอีกครั้ง แตะผ้าห่อน้ำแข็งบนปากเขาเบาๆ โดยที่สายตาคมจับจ้องมองตลอดเวลา แต่เธอก็ไม่สนใจยังคงค่อยๆ ประคบน้ำแข็งให้ที่รอยแผลบนใบหน้านั้น ก่อนจะละมือลงจับมือใหญ่ขึ้น แล้วทำเช่นเดียวกับแผลที่ใบหน้าของเขาเมื่อครู่นี้

“เธอจะใส่ใจกับคนเลวๆ อย่างฉันทำไม”

“เล็กเป็นคนทำให้คุณเจ็บนี่คะ”

ธรินดาพูดออกมาเป็นประโยคแรก หลังจากใช้เพียงการเคลื่อนไหวของร่างกายแทนคำพูดทั้งหมดอยู่นาน

“ก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ”

“เล็กไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร”

“แต่ฉันเต็มใจให้เธอทำร้าย” ปรัชญ์พูดพลางวางมือลงบนมือเล็กที่กำลังประคบน้ำแข็งบนมือของเขา ขณะที่ธรินดาเอาแต่ก้มหน้านิ่ง

“เล็ก...”

เขาเรียกชื่อเล่นเธอเป็นครั้งแรกอย่างอ่อนโยน จนธรินดาต้องเงยหน้าขึ้นสบตาสีสนิมเหล็กของเขาอย่างไม่รู้ตัว

ปรัชญ์จ้องลึกลงไปในดวงตาเรียวหวานแน่วนิ่ง ส่วนคนถูกจ้องเต็มไปด้วยอาการหวั่นไหวหวาดหวั่นอยากจะหลบสายตานั้น แต่ก็เหมือนถูกตอกตรึงเอาไว้จนลืมขยับเขยื้อนไปชั่วขณะ กระทั่งใบหน้าคมคร้ามค่อยๆ เคลื่อนต่ำลงมาหาพร้อมกับลมหา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมียคืนแรม   บทที่ 66

    บทที่ 66สายมากแล้ว…หากเป็นวันอื่นธรินดาคงจะตื่นมาอาบน้ำ แต่งตัว ลงไปกินข้าว หรือไม่ก็เดินทางไปมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว หากทว่าวันนี้ร่างเล็กยังคงนอนหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงขนาดห้าฟุตที่เคยนอนสบายๆ แต่ตอนนี้มันดูแคบลงถนัดตาเมื่อมีร่างใหญ่ของใครอีกคนมานอนอยู่แนบข้างร่างบางสะดุ้งเบาๆ และตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเตือนที่ดังรัวๆ จากโทรศัพท์มือถือซึ่งวางอยู่หัวเตียง คิ้วเรียวได้รูปขมวดเข้าหากันเล็กน้อย จำได้ว่าตัวเองไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า เพราะเมื่อคืนนี้หลังจากมาถึง เธอก็มีเรื่องทะเลาะกับปรัชญ์ หลังจากนั้นเธอก็ทำประคบแผลให้เขาจนกลายเป็นเลยเถิดตาคู่สวยมองไปข้างๆ ก็เห็นว่าตอนนี้ปรัชญ์ยังคงหลับสนิท ลำแขนแข็งแรงพาดอยู่บนเอวของเธออย่างประกาศความเป็นเจ้าของ มือเล็กยื่นไปจับแขนข้างนั้นออกจากเอวตัวเองเบาๆ อย่างพยายามระวังไม่ได้เขาตื่น เพราะตอนนี้เธอยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาธรินดาขยับลุกขึ้นนั่งพิงพนักเตียง ก่อนจะเอื้อมไปหยิบเอาโทรศัพท์ที่ตอนนี้ก็ยังดังเตือนอยู่รัวๆ เธอปลดล็อกหน้าจอด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ แล้วก็ต้องมุ่นคิ้วราวกับผูกโบอีกครา เมื่อเห็นว่าตัวเลขแจ้งเตือนในแอพเฟซบุ๊กและไลน์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 67

    บทที่ 67“งั้นก็หันมาสบตากับฉันสิ แล้วคุยกันดีๆ” น้ำเสียงเขาอ่อนโยนและนุ่มหูลงในตอนท้าย พร้อมกับปล่อยมือเธอข้างหนึ่งแล้วขยับมาจับปลายคางมน บังคับให้หันมาสบตากันเช่นเดิม“เมื่อคืนนี้คุณเข้าไปอยู่ในห้องตรงข้ามกับห้องเล็กได้ยังไงคะ” ธรินดาคร้านจะเอาความกับเขา เพราะรู้ว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์ ปรัชญ์ไม่มีทางจะรู้สึกผิดอะไรอยู่แล้ว“คนอื่นเขาอยู่ห้องในหอพักนี้ได้ยังไงล่ะ” เขาตอบแบบเล่นลิ้น ไม่ยอมบอกตรงๆ ว่าตัวเองลงทุนมาเช่าห้องพักไว้ที่นี่ ก็เพื่อจะได้คีย์การ์ดเข้ามาในหอพักแห่งนี้ได้ตลอดเวลา และที่สำคัญห้องที่เขาเช่านั้นมันอยู่ตรงข้ามกับห้องของธรินดา ส่วนเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นย้ายออกมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เขาเสนองานในบริษัทยักษ์ใหญ่ของกวินภพให้ แถมยังออกค่าเช่าหอพักที่ใหม่ให้อีกสามเดือนต่างหากธรินดานึกถึงวันที่เธอคุยกับวิชญานีซึ่งเป็นคนดูแลหอพักในเช้าวันนั้นที่เธอเห็นว่าคนตรงข้ามห้องย้ายออก วิชญานีบอกว่ามีคนมาเช่าต่อแล้ว แต่เธอไม่คิดว่าคนคนนั้นจะเป็นปรัชญ์“คุณลงทุนทำขนาดนี้เพื่ออะไร”“เพื่อเธอ…”เป็นคำตอบที่แสนจะสั้น ทว่ากลับเป็นคำคำเดียวที่ทำให้ธรินดาหยุดชะงักและลืมคำถามอื่นๆ ไปหมดสิ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 68

    บทที่ 68ห้องที่เคยอยู่คนเดียวมานานหลายปีบัดนี้ดูอ้างว้างไปหมด เมื่อใครบางคนกลับไปแล้วตามที่เธอขอร้อง ร่างบางนั่งซึมอยู่บนเตียง ชันเข่าขึ้นแล้วซุกหน้าลงกับเข่าตัวเอง ก่อนจะสะอื้นไห้ออกมาจนตัวโยน เพื่อระบายความเจ็บปวดที่อัดแน่นอยู่ข้างใน ผ่านไปเกือบชั่วโมงแต่น้ำตาก็ยังไหลริน พวงแก้มที่เคยใสสะอาดบัดนี้แดงก่ำและเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาของความเจ็บปวด ดวงตาแสนอ่อนบางก็บวมช้ำขึ้น มันเป็นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถพูดหรือบอกกับใครได้ นอกจากร้องไห้กับตัวเองเงียบๆ เช่นเดียวกับที่เธอร้องไห้คิดถึงพ่อแม่ยามค่ำคืนในบ้านเด็กกำพร้าเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียก เสียงที่แว่วมาให้ได้ยินนั้นทำให้ธรินดารู้ว่าคนที่เคาะอยู่ข้างนอกนั้นคือชนิศา หญิงสาวรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเอง ก่อนจะร้องตอบกลับไปว่าให้ชนิศารอสักครู่ แล้วรีบเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำเพื่อไม่ให้ชนิศาได้เห็นว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ หากทว่าหน้าตาอันแดงก่ำกับดวงตาที่บวมช้ำนั้นก็ไม่อาจจะบิดบังสายตาของชนิศาได้ “เรามารบกวนหรือเปล่า” ชนิศาถามอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 69

    บทที่ 69“จิระ” ธรินดาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมารอพบตนทำไมจึงได้แต่เรียกชื่อเขาสั้นๆ“กำลังจะไปไหนเหรอ เราไปส่งมั้ย”“เราจะไปสนามบินน่ะ วันนี้ต้องกลับบ้านแล้ว” เสียงหวานตอบไปอย่างเป็นปกติและไม่มีแววว่ายังถือโทษโกรธเคืองเขาในเรื่องคืนนั้นเลย เพราะจิระเองก็เจ็บหนักเอาการเหมือนกัน“เราคงไม่ได้เจอเล็กอีกแล้วใช่มั้ย” สายตาของจิระมีแววอาลัยอาวรณ์อย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดประโยคนั้น ธรินดาเรียนจบแล้วและคงได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งอย่างไม่มีปัญหา ขณะที่เขาเองยังต้องเรียนอีกหนึ่งเทอมเพราะมัวแต่เกเรและไม่ค่อยใส่ใจกับการเรียนเท่าใดนัก จึงจบช้ากว่าเกณฑ์ไปหนึ่งเทอม“อื้อ...ก็เราเรียนจบแล้วไง คงไม่ค่อยได้มีโอกาสเจอกันแล้วละ”“ขนาดตอนยังเรียนอยู่เล็กยังหลบหน้าเราตลอดเลย แต่ก็อย่างว่าเราไม่มีอะไรสู้แฟนเล็กได้เลยนี่นะ จะให้เล็กสนใจเราได้ยังไง” จิระอดที่จะตัดพ้ออย่างผู้แพ้ไม่ได้“ถ้าจิระจะมาพูดกับเราเรื่องนี้ เราไม่พูดด้วยนะ เราจะกลับบ้าน” ธรินดาตัดบทเพราะไม่อยากเจ็บปวดกับสถานะระหว่างเธอกับปรัชญ์ที่หลุดมาจากปากของจิระ“เดี๋ยวก่อนสิเล็ก ฟังเราก่อน เขาแค่จะมาขอโทษเล็กเรื่องวันนั้น เราเพิ่งรู้ว่าแฟนเล็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 70

    บทที่ 70“มาแล้วเหรอลูกสาวคนสวยของแม่” แม่เลี้ยงลักษิกาอ้าแขนรอกอดลูกสาวด้วยความดีใจทันทีที่เห็นธรินดาเดินเข้ามายังอาคารผู้โดยสาร หญิงสาวปล่อยให้แม่ใหญ่กอดหอมจนพอใจ จากนั้นก็ค่อยยกมือขึ้นไหว้อินแปงเหมือนเช่นทุกครั้ง “คิดถึงแม่ใหญ่จังค่ะ”“แม่คิดถึงหนูเล็กมากกว่าซะอีก มารอบนี้ไม่ต้องกลับไปอีกแล้วใช่มั้ย จะอยู่กับแม่ตลอดไปแล้วใช่มั้ยลูก” แม่เลี้ยงลักษิกาถามอย่างมีความสุขตามประสาคนเป็นแม่ที่อยากให้ลูกอยู่ใกล้ๆ แม้ธรินดาจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่นางก็รักปานแก้วตาดวงใจไม่ต่างอะไรกับลูกชายทั้งสอง“ไม่กลับไปแล้วค่ะแม่ใหญ่ เล็กเรียนจบแล้ว ต่อไปเล็กจะอยู่กับแม่ใหญ่ที่บ้านของเรา” ธรินดาตอบไปทั้งๆ ที่ไม่มั่นใจแม้แต่นิดเลยว่าจะทำได้ เธอจะเข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริงมากแค่ไหนก็ยังไม่รู้ ก็ได้แต่หวังและภาวนากับตัวเองว่าขอให้ความรักของแม่ใหญ่ที่มีต่อเธอชนะความรู้สึกเจ็บปวดทุกอย่างที่กำลังรุมเล่นงานหัวใจดวงน้อยอยู่ในตอนนี้ร่างบางนั่งตอนหลังคู่กับแม่บุญธรรมเช่นเดิม ปกติยามที่รถแล่นใกล้จะถึงคุ้มลักษิกาความสุขจะหลั่งไหลท่วมท้นเข้ามาในหัวใจของธรินดา แม้จะไม่ได้เกิดที่นี่ แต่ที่ตรงนี้ก็เป็นที่ที่เธอเติ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 71

    บทที่ 71เย็นวันนั้นหลังมื้อค่ำผ่านไป แม่เลี้ยงลักษิกาก็ชวนลูกทั้งสองไปคุยกันต่อในห้องนั่งเล่น โดยมีหมีพูคอยวิ่งตามธรินดาไปไม่ห่าง พอเธอนั่งมันก็กระดิกหางอ้อนจนหญิงสาวต้องก้มลงมาอุ้มขึ้นไปนั่งบนตัก ปราณต์มองภาพนั้นยิ้มๆ เพราะขนาดเขาหมีพูยังไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้ แต่กับธรินดามันคุ้นเคยด้วยอย่างรวดเร็ว คงจะเป็นอย่างที่แม่ของเขาบอกว่าหมามันมีสัญชาตญาณว่าใครใจดีกับมันกระมังแม่เลี้ยงคุยสัพเพเหระ ถามถึงเรื่องคลินิกของปราณต์เสร็จก็รำพึงอย่างดีใจที่ต่อจากนี้ธรินดาไม่ต้องกลับไปเรียนและอยู่ห่างจากบ้านอีกแล้ว ขณะที่ทั้งสามกำลังนั่งคุยกันอย่างมีความสุขอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของแม่เลี้ยงลักษิกาก็ดังขึ้น แม่เลี้ยงหยิบขึ้นมาดูพร้อมทั้งอุทานออกมาอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าคนที่.โทร.มาหาตนเป็นใคร “ตายแล้วตาปรัชญ์โทร.มา นี่แม่ไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมตาปราณต์หนูเล็ก สงสัยวันนี้ฝนจะตกห่าใหญ่แน่ๆ” “ไม่ได้ตาฝาดหรอกครับแม่ รีบรับเถอะครับ เดี๋ยวปรัชญ์เปลี่ยนใจวางสายไปซะก่อนนะ” ปราณต์เตือนผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้ายิ้มๆ เมื่อเห็นชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์ของท่าน ที่ยิ้มไม่ใช่อะไร ยิ้มเพราะทั้งแม่และน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 72

    บทที่ 72ตอนสายของวันต่อมา คุ้มลักษิกาก็ได้ต้อนรับว่าที่สะใภ้และทีมงานช่างภาพที่บินตรงจากกรุงเทพฯ เพื่อมาเก็บภาพพรีเวดดิ้งตามที่แม่ของเจ้าบ่าวต้องการ แต่กว่าจะได้เริ่มถ่ายจริงๆ เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่ช่วงบ่ายแล้ว เพราะมาถึงแม่เลี้ยงลักษิกาก็จัดอาหารเลี้ยงต้อนรับอย่างดี จากนั้นช่างแต่งหน้าทำผมก็จับว่าที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวไปแต่งตัวโดยใช้เวลานานพอสมควรปรัชญ์และนัสรินต่างหล่อสวยสง่าในชุดล้านนาแบบชาวเหนือซึ่งชุดนี้แต่งให้เข้ากับบรรยากาศของคุ้ม ทั้งคู่โพสท่าคู่กันอย่างสวยงามตามที่ช่างภาพบอก ท่ามกลางสายตาของแม่เลี้ยงลักษิกาที่มองอย่างชื่นชมและปลื้มปริ่มในใจ และมีอยู่ช่วงหนึ่งขณะที่ทั้งคู่เปลี่ยนท่าใหม่จากยืนเป็นนั่ง จู่ๆ หมีพูซึ่งวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้นก็วิ่งเข้าไปป่วนโดยการขึ้นไปนั่งตักปรัชญ์และเห่าบ๊อกๆ ใส่ช่างภาพที่พยายามจะเข้ามาจับมันออกไป“หนูเล็กดูสิ ดูท่าเจ้าตัวป่วนจะหวงพ่อ เห่าพวกช่างภาพใหญ่เลย” แม่เลี้ยงลักษิกาหันไปคุยกับธรินดาซึ่งยืนอยู่ข้างๆ“เดี๋ยวเล็กไปอุ้มมันออกมาเองค่ะแม่ใหญ่”ว่าแล้วร่างบางก็ตรงไปหาหมีพูซึ่งตอนนี้ยังนั่งอยู่บนตักของปรัชญ์อย่างไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน ธรินดาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 73

    บทที่ 73ธรินดาลุกขึ้นพร้อมกับหยิบตะกร้าและยกมือข้างหนึ่งขึ้นเช็ดคราบน้ำตาออกจากสองแก้ม จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อจะพาตัวเองกลับไปเผชิญหน้ากับความจริงเสียที แต่แล้วร่างบางก็ต้องแข็งทื่อเมื่อมีอ้อมกอดของคนที่เธออยากจะวิ่งหนีมากที่สุดร้อยรัดพันธนาการเข้าที่เอวเล็ก ตามมาด้วยเสียงทุ้มคุ้นหูที่กระซิบกระซาบด้วยน้ำเสียงซึ่งช่างกรีดหัวใจอันอ่อนแอให้บาดเจ็บไปมากกว่าเดิม “อยู่นี่นี่เอง ตามหาตั้งนาน” “ปล่อยเล็กค่ะ...” ธรินดาพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วอยากหันหน้ากลับไปหาและกอดตอบเขาตามที่หัวใจโหยหาเสียเหลือเกิน แต่สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือแค่อ้อนวอนให้เขาปล่อยเท่านั้น “เธอร้องไห้ทำไม” ปรัชญ์ไม่สนอาการเฉยชานั้น สนแต่น้ำเสียงอู้อี้ขึ้นจมูกราวกับคนเป็นหวัด ซึ่งเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่ “เล็กเปล่า” “เพราะฉันใช่ไหม?” “ไม่เกี่ยวกับคุณปรัชญ์หรอกค่ะ ปล่อยเล็กเถอะค่ะ เล็กไม่อยากให้ใครมาเห็น” ร่างบางเริ่มดิ้นขลุกขลักและสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนของเขาด้วยแรงกายแรงใจที่เหลือเพียงน้อยนิดเท่านั้น“ลืม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06

บทล่าสุด

  • เมียคืนแรม   บทที่ 98

    บทที่ 98“ฉันไม่อยากดื่มนมอย่างอื่น ฉันเก็บปากของฉันไว้ดื่มนมอร่อยๆ จากเต้าของเธอก็พอแล้ว ว่าแล้วก็หิว เล็กจ๋า...ให้ฉันกินนะ” แววตาของคนที่ประท้วงอยู่เมื่อครู่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นวิบวับและเปล่งประกายความปรารถนาที่มีต่อเธอออกมาอย่างเปิดเผย “ไม่เอาค่ะคุณปรัชญ์” ธรินดาปฏิเสธเสียงเบา เพราะกลัวลูกสาวจะตื่นมาเห็น “แต่ฉันจะ ‘เอา’ นะเล็กจ๋า ตามใจผัวนะครับหนูเล็กคนดี” “โธ่...คุณปรัชญ์” “ไม่โธ่จ้ะที่รัก...ฉันหิว อยากดื่มนม” ปรัชญ์กระซิบบอกความต้องการของตัวเอง พร้อมกับที่ธรินดารับรู้ถึงความตื่นตัวของเขาที่ตอนนี้บดเบียดเธออยู่ไม่ห่าง “ถ้าอย่างนั้นเล็กไปดับไฟก่อนนะคะ” ธรินดาบอกอย่างอายๆ แต่คำตอบนั้นบ่งบอกชัดว่าเธอยอมตามใจเขาแล้ว ปรัชญ์จึงยอมปล่อยให้ร่างเล็กลุกจากตักไปปิดไฟ ส่วนตัวเองขยับขึ้นไปนอนรออยู่บนเตียง ห้องทั้งห้องมืดสนิทเมื่อธรินดายื่นมือไปกดสวิตช์ไฟให้ดับลง เธออาศัยความเคยชินเดินกลับมายังเตียง และค่อยๆ เอนกายลงนอนเคียงข้างสามี ปรัชญ์รีบขยับเข้ามาแนบชิดพร้อมกับกระซิบเรียกเสียงพร่า ท

  • เมียคืนแรม   บทที่ 97

    บทที่ 97“ป๋าก็คิดถึงนิล คิดถึงแม่เล็กของนิลใจแทบขาด” ปรัชญ์ตอบลูกสาวและถือโอกาสอ้อนไปถึงแม่ของลูกด้วย เพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้โทรศัพท์น่าจะเปิดลำโพงอยู่ “งั้นก็รีบกลับบ้านสิคะป๋า หมีพูกับแม่เล็กก็รอป๋าเหมือนกันค่ะ” ปรัชญ์ยิ้มออกมาอีกคราเมื่อลูกบอกว่าธรินดาเองก็รอเขาอยู่ ใบหน้าอันหวานซึ้งนั้นลอยเข้ามาในห้วงความคิด ทำให้เขาจำต้องพับหน้าจอแล็ปท็อปลงพร้อมกับปิดแฟ้มเอกสารที่กางอยู่หลายอันบนโต๊ะ“โอเคครับคนดีของป๋า ป๋าจะกลับเดี๋ยวนี้ละ” “งั้นนิลจะรอจนกว่าป๋าจะมานะคะ นิลถึงจะนอน” “ครับ อีกยี่สิบนาทีเจอกันนะครับ” “ค่ะป๋า เย้ๆ” หลังจากวางสายจากลูกสาว ปรัชญ์ก็ไม่รอช้า รีบขับรถตรงดิ่งกลับบ้านอย่างปราศจากความลังเลใดๆ ทันที งานเอาไว้ก่อนตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือลูก เมีย แม่ และหมีพู ซึ่งกำลังรอเขาอยู่ที่บ้านทันทีที่ร่างสูงเดินเข้าบ้าน หมีพูกับเด็กหญิงตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูก็วิ่งมาหาพร้อมกับเรียกผู้เป็นพ่อด้วยความดีใจ โดยมีหมีพูวิ่งตามมาไม่ห่างพร้อมกับกระดิกหางไปมาอย่างดีใจเช่นกัน

  • เมียคืนแรม   บทที่ 96

    บทที่ 96นัสรินเดินเข้าบ้านด้วยอาการของคนที่มีเรื่องครุ่นคิดอยู่ในใจ ทำให้ไม่เห็นว่าพ่อกับแม่นั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องโถงชั้นล่าง พลตรีชยุตกับคุณนิภาหันไปมองหน้ากันครู่หนึ่ง จากนั้นคุณนิภาก็เป็นฝ่ายส่งเสียงทักลูกสาว“ไงยัยนัส ไปบ้านพี่ปรัชญ์มาโอเคหรือเปล่าลูก”“อ้าว...คุณพ่อคุณแม่ อยู่นี่เองเหรอคะ” นัสรินเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าบิดามารดาของตนนั่งอยู่ตรงนั้น เธอมัวแต่คิดเรื่องที่ปรัชญ์เพิ่งคุยด้วย ทำให้ประสาทการรับรู้ต่างๆ รวนไปเสียหมด“เป็นอะไรไปลูก ทำไมดูหน้าเครียดๆ แบบนั้น ทะเลาะกับตาปรัชญ์มาเหรอ”“เปล่าค่ะคุณแม่ นัสแค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะค่ะ” นัสรินตอบมารดาเสียงนุ่ม ก่อนจะขยับไปนั่งลงข้างๆ“มีอะไรเล่าให้พ่อกับแม่ฟังได้หรือเปล่า” พลตรีชยุตพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงลูกสาวคนเดียว เพราะปกตินัสรินไม่ค่อยมีท่าทีเหม่อลอยให้เห็นบ่อยนักนัสรินมองหน้าบุพการีทั้งสองอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจขอคำปรึกษาเพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับเธอคนเดียว มันเกี่ยวข้องกับบิดามารดาของเธอด้วย“เมื่อกี้นี้พี่ปรัชญ์เพิ่งจะบอกว่าพี่ปรัชญ์มีคนรักอยู่แล้ว และอยากให้นัสแต่งงานกับคุณปราณต์แทนค่ะ”“ว่าไงนะลูก!” คุณนิภาอุทา

  • เมียคืนแรม   บทที่ 95

    บทที่ 95“แต่คุณปราณต์ไม่ได้ชอบนัสนะคะ อีกอย่างคุณปราณต์อาจจะมีคนรักอยู่แล้วเหมือนที่พี่ปรัชญ์มี” น่าแปลกที่คราวนี้เธอกลับแคร์ความรู้สึกของปราณต์ขึ้นมาเสียมากมาย เดือดเนื้อร้อนใจไปหมดกับความจริงที่ว่าเขาอาจมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ทั้งๆ ที่ตอนถูกพ่อแม่บังคับให้หมั้นกับปรัชญ์เธอกลับไม่ตระหนักเลยว่าปรัชญ์อาจจะมีคนรักอยู่แล้ว คิดแต่ว่าหากปรัชญ์ยอมหมั้นเธอก็ยอมหมั้นตามที่ผู้ใหญ่ต้องการเท่านั้นก็พอ“พี่ปราณต์ยังไม่มีใครหรอก ถ้านัสอยากแต่งกับพี่ปราณต์พี่จัดการให้ได้” “แต่ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับมัดมือชกคุณปราณต์เลยนะคะพี่ปรัชญ์” “ก็เหมือนกับที่แม่บังคับพี่ให้แต่งงานกับนัสนั่นละ แม่ก็คิดแค่ว่าพี่ยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน ที่พี่พูดอย่างนี้นัสอย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่าหรือถูกโยนให้คนนั้นทีคนนี้ทีนะ แต่พี่ไม่อยากทรยศหัวใจตัวเองและไม่อยากให้ธรินดาต้องเจ็บปวดกับเรื่องนี้” “นัสเข้าใจค่ะและขอบคุณที่พี่ปรัชญ์บอกนัสตรงๆ แต่นัสขอถามอะไรตรงๆ บ้างได้มั้ยคะ” นัสรินยังหนักอึ้งในเรื่องที่ปรัชญ์เสนอมา แต่เธอก็ยังอยากจะรู้ความจริงจากใจเขาให้หมดเปลือกเสียก่อน“ได้ส

  • เมียคืนแรม   บทที่ 94

    บทที่ 94 สี่เดือนก่อน... รถซีดานแบรนด์ยุโรปราคาสองล้านกว่าๆ แล่นออกจากอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่ หลังจากที่ปรัชญ์บอกว่าจะพาคู่หมั้นสาวไปส่ง นัสรินหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนขับที่เมื่อครู่นี้ยังพูดจากวนประสาทแม่ของเขาอย่างมีสีสันอยู่เลย ทว่าบัดนี้เขาอยู่ในอิริยาบถที่เงียบขรึมราวกับเป็นคนละคน แม้จะไม่ถึงกับทำให้อึดอัด แต่คนคุยไม่เก่งแบบเธอก็ไม่กล้าชวนคุย นี่เป็นครั้งที่สองที่เขากับเธอได้พบกัน หลังจากหมั้นเสร็จปรัชญ์ก็ไม่เคยติดต่อหรือมาเยี่ยมเยือนในฐานะคู่หมั้นเลยสักครั้ง นัสรินรู้ดีว่าปรัชญ์เองก็คงจะถูกบังคับให้หมั้นเช่นเดียวกับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจหากเขาจะไม่ใส่ใจหรือทำตัวไม่เหมือนกับคู่หมั้นคู่อื่นๆ “นัสรีบกลับบ้านหรือเปล่า” ปรัชญ์หันมาถามเป็นประโยคแรกหลังจากที่รถแล่นออกมาพ้นอาณาเขตบ้านได้พักใหญ่ “เปล่าค่ะ นัสว่างทั้งวันค่ะพี่ปรัชญ์” “งั้นแวะดื่มกาแฟกับพี่ก่อนนะ ข้างหน้ามีร้านบรรยากาศดี กาแฟก็อร่อย” ปรัชญ์ชวนด้วยท่าทีเป็นกันเองทำให้นัสรินรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น “ได้ค่ะ” หญิงสาวรับคำและยิ้มบางๆ

  • เมียคืนแรม   บทที่ 93

    บทที่ 93“เปิดดูสิ เปิดตอนนี้เลยนะเล็ก” ปรัชญ์เชียร์ทั้งปาก ทั้งสายตา ทั้งสีหน้าที่เหมือนอยากจะให้เธอได้เห็นเหลือเกินว่าของที่อยู่ในกล่องคืออะไร ซึ่งตอนแรกธรินดากะว่าจะเก็บไว้เปิดพรุ่งนี้เช้า แต่เมื่อสามีคะยั้นคะยอเช่นนั้น เธอจึงต้องค่อยๆ แกะโบที่ผูกอย่างสวยงามนั้นออก ก่อนจะเปิดฝากล่องเป็นลำดับสุดท้าย และแล้วสิ่งที่อยู่ในกล่องนั้นก็ทำให้แก้มนวลแดงซ่าน เธอหยิบมันขึ้นมาดูสลับกับมองคนให้อย่างเขินอายสุดกำลัง“นี่มันอะไรกันคะคุณปรัชญ์”“ก็ชุดนอนไง มีหลายชุดด้วย ผ้าดีๆ ทั้งนั้นเลยนะ” ปรัชญ์ตอบอย่างรื่นรมย์“แล้วทำไมมันโป๊แบบนี้ล่ะคะ” ธรินดาถามเพราะถึงแม้ว่าชุดนอนแต่ละชุดที่อยู่ในกล่องนั้นมันสวยและผ้านิ่มมากก็จริง แต่มันกลับเซ็กซี่สุดๆ ทุกตัวล้วนแต่คอเว้าลึกอย่างไม่ต้องสงสัยว่าเวลาใส่จะต้องโชว์เนินอกแน่ๆ แถมยังสั้นเต่อจนเกือบถึงโคนขา บางชุดก็เป็นแบบสองชิ้น ชิ้นบนเป็นเสื้อสายเดี่ยวในลักษณะอวดโชว์เนินเนื้อ ชิ้นล่างเป็นแค่กางเกงชิ้นน้อย เหมือนกับออกแบบมาเพื่อขยี้ใจชายโดยเฉพาะ แล้วเธอจะกล้าใส่ได้อย่างไร“โป๊ที่ไหน เขาเรียกว่าเซ็กซี่ต่างหาก ฉันอยากเห็นเมียเซ็กซี่บ้างไม่ได้เหรอ”“ถ้าชอบผู้หญิงเซ็ก

  • เมียคืนแรม   บทที่ 92

    บทที่ 92แม่เลี้ยงลักษิกายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับธรินดาหญิงสาวที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กและรักเหมือนลูก ซึ่งบัดนี้ได้กลายมาเป็นลูกสะใภ้ของตนอย่างที่หวังไว้จริงๆ แล้ว แม้จะไม่ใช่กับลูกชายคนที่ตัวเองตั้งใจจะให้คู่ด้วยแต่แรกก็ตามที แต่ธรินดาก็ได้แต่งงานกับคนที่เธอรักซึ่งก็เป็นลูกชายของตนเหมือนกัน“แม่ให้เป็นของขวัญแต่งงานนะหนูเล็ก” ธรินดายกมือขึ้นไหว้และรับมาโดยที่ไม่รู้ว่ากระดาษแผ่นนั้นคืออะไร“แล้วของผมล่ะครับ” ปรัชญ์ทวงอย่างไม่จริงจัง เขาไม่ได้ต้องการอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาได้ของขวัญที่ดีและมีค่ามากที่สุดในชีวิตซึ่งก็คือผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนนี้นั่นเอง เขาจึงไม่ต้องการอะไรอีก อีกทั้งนับจากนี้ของสิ่งใดที่เป็นของเขาก็จะเป็นของธรินดาด้วยอยู่แล้ว “ไม่มีย่ะ ฉันยกให้ลูกสะใภ้ฉันหมดแล้ว”“เอ...ชักอยากรู้แล้วสิว่าแม่ยกอะไรให้เมียผม”“ก็มรดกทุกอย่างที่เป็นส่วนของแกน่ะสิ”“โหแม่...นี่รักลูกสะใภ้มากกว่าลูกชายตัวเองอีกนะ” ปรัชญ์แกล้งโวยวายเล่นพอเป็นสีสัน“ย่ะ ฉันรักมากกว่ามาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว”“แล้วอย่างนี้ผมจะมีสมบัติอะไรเหลือไว้ให้เมียน้อยบ้างล่ะ” ปรัชญ์ยังมิวายกวนประสาทคนเป็นแม่แม้แต่ในช่วง

  • เมียคืนแรม   บทที่ 91

    บทที่ 91ปรัชญ์พาธรินดาลงมาจากเวที หญิงสาวขอตัวกับเจ้าบ่าวเมื่อเหลือบไปเห็นสาวน้อยรุ่นน้องผู้ทำหน้าที่เล่นเปียโนให้ปรัชญ์ร้องเพลงเป็นของขวัญวันแต่งงานให้เธอเมื่อครู่นี้ ตอนนั้นจันทริกายืนอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่คนเดียวที่มุมห้องคล้ายกับว่ากำลังรอใคร ธรินดาจึงตรงดิ่งเข้าไปหาทันที“จันทร์...”“พี่เล็ก...”“ทำไมมายืนอยู่คนเดียวตรงนี้ล่ะ”“จันทร์ไม่รู้จะคุยกับใครน่ะค่ะ จันทร์ไม่รู้จักใครเลย” สาวรุ่นน้องยิ้มแหยๆ แววตาดูอ้างว้างและตื่นๆ จนคนมองนึกสงสาร“อยากกลับบ้านเหรอ เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถไปส่งมั้ย” ธรินดาบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นใจดีแต่ก็ได้รับการปฏิเสธด้วยการส่ายหน้า“ไม่เป็นไรค่ะ จันทร์ยังกลับตอนนี้ไม่ได้ คุณตะวันสั่งไว้ว่าให้จันทร์รอ”“อ๋อ...จะกลับพร้อมพี่ตะวันใช่มั้ย”“ค่ะพี่เล็ก พี่เล็กไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ จันทร์อยู่ได้ค่ะ”“งั้นพี่ค่อยสบายใจหน่อย พี่ขอบใจจันทร์มากนะสำหรับทุกๆ อย่างในวันนี้”“จันทร์ยินดีค่ะ เสียดายนะคะพี่ขิมมาไม่ได้ ไม่งั้นจันทร์จะบอกให้พี่ขิมสีไวโอลินให้ด้วย เพลงของคุณปรัชญ์คงเพราะกว่านี้” จันทริกาเอ่ยถึงภัคธีมารุ่นพี่ที่เคยอยู่ชมรมดนตรีด้วยกันซึ่งเป็นคนที่มีทักษะทางด้

  • เมียคืนแรม   บทที่ 90

    บทที่ 90“ก็แล้วทำไมคุณปรัชญ์จะต้องล้อเล็กด้วยล่ะคะว่าเสียงครางเล็กเป็นยังไง” เสียงหวานเอ่ยต่อว่าเขาทั้งที่แก้มนวลแดงก่ำ แต่ก็แปลกใจตัวเองที่กล้าตอบโต้เขาแบบนั้น หรือว่าเธอจะซึมซับความเป็นเขาจนเคยชินเข้าแล้วจริงๆ“ล้อที่ไหน ฉันพูดความจริงต่างหาก นะเล็กจ๋านะ ฉันอยากได้ยินเสียงแบบนั้นอีก นี่กี่วันแล้วที่ฉันไม่ได้ยิน จะลงแดงตายอยู่แล้วนะที่รัก” ปรัชญ์ยังทำตัวเป็นผู้ใหญ่ขี้อ้อนที่เรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธรินดาแทบไปไม่เป็นเหมือนกัน จึงได้แต่ตอบเขาไปด้วยกลอนของวรรณคดีในเรื่องขุนช้างขุนแผน“อดข้าวดอกนะเจ้าชีวาวาย ไม่ตายดอกเพราะอดเสน่หา”“ฉันขอเถียงว่าไม่จริง”“อย่ามัวแต่เถียงกับเล็กอยู่เลยค่ะ มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำพักผ่อนได้แล้ว” หญิงสาวเอ่ยตัดบท เพราะยิ่งคุยกันนานก็ยิ่งดูเหมือนว่าเธอจะต้านทานลูกล่อลูกชนของเขาไม่ไหว“นี่ฉันกำลังถูกเมียสั่งอยู่ใช่มั้ย” ปรัชญ์เอ่ยสัพยอกอีกพลางลอบถอนหายใจเบาๆ“ไม่ได้สั่งค่ะ แค่เป็นห่วงอยากให้สบายตัว”“จริงเหรอ”“ค่ะ”“ถ้าอยากให้ฉันสบายตัวจริงๆ เธอก็ต้องไปด้วยกัน”ว่าแล้วปรัชญ์ก็ย่อตัวลงช้อนเอาร่างเล็กขึ้นอุ้มทันที“ปล่อยเล็กลงนะคะคุณปรัชญ์...ทำไมจ้องจะเอาเปรี

DMCA.com Protection Status